จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

klaichid · 4 ธันวาคม 2012

ขอน้อมรับเจ้าค่ะ. สาธุ สาธุ สาธุ

เป็นข้อความที่ได้ย้ำเตือน จิตที่กำลังพร่องให้ได้ตื่นขึ้นค่ะ

ขอบพระคุณมาก ขออนุโมทนาบุญด้วยเจ้าค่ะ

Wittayapon · 4 ธันวาคม 2012

นิ่ง ... นิ่งยังไง

เราควรจะนิ่งยังไง ถึงจะถูกต้อง
นิ่งในที่นี้ คือ จิตนิ่งนะ มิใช่ตัวนิ่ง

บางคนเข้าใจว่า นิ่ง คือ ไม่สนใจ ไม่เอา ไม่มอง

แต่ นิ่ง ในที่นี้ คือ จิตนิ่ง
จิตจะนิ่งได้ ต้องฝึกมาดี มิใช่อยู่ดีๆจะนิ่งได้

ที่ว่านิ่งๆกันได้นั้น ไม่ต่างอะไรกับเอาก้อนหินมากดทับหญ้าไว้ ให้ตาเรามองไม่เห็นพอ
สุดท้าย หญ้าไม่ตายหรอก แค่ยังไม่โผล่มาให้เห็นเท่านั้นเอง

ผู้ที่อยากก้าวหน้าทางจิต จะต้องนิ่งด้วยปัญญานะ
ปัญญาจะนำพาสิ่งที่เข้ามาไปพิจารณา และวางมันได้
เมื่อวางได้มันก้อนิ่งเอง

ผู้ที่หนี ไม่มองนั้น ไม่มีทางที่จะนิ่งได้ ... เป็นเพียงแค่การหลบเท่านั้นเอง

สำหรับจิตบุญที่ต้องการก้าวหน้าไปเรื่อยๆ ต้องนิ่ง
พอนิ่งแล้วจะเจอของจริง อันมิสามารถถ่ายทอดให้รับทราบได้ ต้องเข้าใจได้เองเฉพาะตนเท่านั้น ... อย่าอยากก้าวหน้า มันจะไม่นิ่ง
พอนิ่งแล้วทุกสิ่งจะเข้ามาเองโดยที่ไม่ต้องโหยหาเลย

เปรียบไปก้อเหมือนกับมหาเศรษฐี มีเงินในธนาคาร พันล้าน ... เค้าจะได้ดอกเบี้ยทุกวันเอง โดยที่มิต้องอยากได้ มันมาเอง มันก้อจะเข้าใจ มันจะนิ่งเอง

แต่ผู้ที่มีเงินน้อย แต่อยากได้มาก มันจะเป็นอย่างไร ก้อส่ายไม่หยุด อยากไม่หยุด ... แล้วมันจะนิ่งได้อย่างไร

ก่อนที่จะเป็นเศรษฐีก้อต้องทำงานหนักใช่ไหม ... แล้วท่านทำหรือยังละ

จิตนี้ที่พัฒนาได้ต้องทรงฌาณ ไม่ขาดสติ ถึงจะนิ่งได้
จิตที่ยังไม่ได้ ก้อไม่ต้องกังวล ทำไป ทรงฌาณไว้ สติอย่าให้ขาด แล้วไม่ต้องอยากอะไร แล้วจะเข้าใจที่เราพูดว่า

ยิ่งนิ่ง ยิ่งได้
ยิ่งส่าย ยิ่งอด

จบ.๑๑ เรือลำนี้จะไม่จม

watjojoj · 4 ธันวาคม 2012

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=GkiEGlZE0ZE]ทุกวินาที : James [Official MV] - YouTube[/ame]

NOKMAM · 4 ธันวาคม 2012

dutchanee · 4 ธันวาคม 2012

คุณฝ้ายคะ ครูดัชขออนุญาติเอาคำถามคำตอบมาลงเป็นธรรมทานซักข้อนะคะ
ครูดัชรู้สึกว่า มีคุณๆที่มีครอบครัวมีบ่วงเข้ามาอ่านหลายท่านค่ะ
แต่ไม่กล้าเข้ามาในจอ เพราะมัวติดตามขอบกระทู้อยู่ค่ะ
โมทนาสาธุกับคุณฝ้ายค่ะ
ระหว่างวันก็ยังเห็นท่านพ่อเป็นแสงจ้าอยู่ ก็พยายามแปะติด ก็เอาจิตไปเติมน้ำมันบ่อย ๆ ค่ะ มีหูวิ้ง ๆ เป็นบางครั้ง แต่ก็ไม่เห็นจะมีอารมณ์สงบเยือกเย็นแต่ประการใด เป็นอารมณ์ปกติ อืม... ฝ้ายไม่แน่ใจน่ะค่ะ หรือว่าตอนนี้อารมณ์นิ่งเป็นปกติไปแล้ว
หรือเปล่า 555 สงสัยเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้โมโหใคร ไม่ได้โกรธใคร หงุดหงิดก็มีมาเป็นพัก ๆ เวลาคุณลูกพูดไม่ฟัง แต่ก็ดับได้ คุณสามีเค้าก็พยายามกวนประสาทเราตลอด ยั่วให้โมโหน่ะค่ะ แต่ก็รู้ว่าเค้ายั่ว จึงไม่ได้โมโหอะไร
อาการแบบนี้ไม่ได้เรียกว่า อารมณ์นิ่งนะคะ แต่เรียกว่า จิตนิ่งจากการไปเกาะพระบ่อย
แต่ที่ยังมีหงุดหงิดบ้างนี่คือ สติตามไม่ทันค่ะ ฉะนั้นจิตกับสติอย่าทิ้งห่างกันมากค่ะ
จะอธิบายเรื่องอารมณ์นะคะ
หากเราเป็นรถ = จิต
คอยไปเติมน้ำมัน = ไปหาพระ ทรงฌาน
ถามว่า คุณฝ้ายไปเติมน้ำมันแบบไหน อิอิ ถ้าไม่มีคนขับ ฮ่าๆๆๆๆๆ
คนขับ= สติ
เป็นตัวควบคุมขับเคลื่อนจิต บอกจิตว่าทางนี้นะดี ทางนั้นนะร้าย
ไม่เอ๊า ไม่เอา นั่นทางกิเลสนะ แบบนี้ค่ะ
ที่นี้ จิตคือรถ คนขับคือสติ น้ำมันคือภาพพระ,ฌาน แล้วอารมณ์คืออิหยัง
อารมณ์คือ สิ่งที่อยู่ตามรายทาง มีของเค้าอยู่แล้วค่ะ
เช่น ร้านขายกาแฟสด ขี้หมา ขี้ควาย รถที่สวนมา(คุณสาฯ 5555) ฯลฯ
ฉะนั้น จงขับรถของคุณฝ้าย ให้ดีๆนะคะ อย่าไปเที่ยวเกาะสิ่งรายรอบ
รายทางนะคะ 555555 เข้าใจรึยังเอ่ย

watjojoj · 4 ธันวาคม 2012

dutchanee said: ↑

คุณฝ้ายคะ ครูดัชขออนุญาติเอาคำถามคำตอบมาลงเป็นธรรมทานซักข้อนะคะ
ครูดัชรู้สึกว่า มีคุณๆที่มีครอบครัวมีบ่วงเข้ามาอ่านหลายท่านค่ะ
แต่ไม่กล้าเข้ามาในจอ เพราะมัวติดตามขอบกระทู้อยู่ค่ะ
โมทนาสาธุกับคุณฝ้ายค่ะ
ระหว่างวันก็ยังเห็นท่านพ่อเป็นแสงจ้าอยู่ ก็พยายามแปะติด ก็เอาจิตไปเติมน้ำมันบ่อย ๆ ค่ะ มีหูวิ้ง ๆ เป็นบางครั้ง แต่ก็ไม่เห็นจะมีอารมณ์สงบเยือกเย็นแต่ประการใด เป็นอารมณ์ปกติ อืม... ฝ้ายไม่แน่ใจน่ะค่ะ หรือว่าตอนนี้อารมณ์นิ่งเป็นปกติไปแล้ว
หรือเปล่า 555 สงสัยเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้โมโหใคร ไม่ได้โกรธใคร หงุดหงิดก็มีมาเป็นพัก ๆ เวลาคุณลูกพูดไม่ฟัง แต่ก็ดับได้ คุณสามีเค้าก็พยายามกวนประสาทเราตลอด ยั่วให้โมโหน่ะค่ะ แต่ก็รู้ว่าเค้ายั่ว จึงไม่ได้โมโหอะไร
อาการแบบนี้ไม่ได้เรียกว่า อารมณ์นิ่งนะคะ แต่เรียกว่า จิตนิ่งจากการไปเกาะพระบ่อย
แต่ที่ยังมีหงุดหงิดบ้างนี่คือ สติตามไม่ทันค่ะ ฉะนั้นจิตกับสติอย่าทิ้งห่างกันมากค่ะ
จะอธิบายเรื่องอารมณ์นะคะ
หากเราเป็นรถ = จิต
คอยไปเติมน้ำมัน = ไปหาพระ ทรงฌาน
ถามว่า คุณฝ้ายไปเติมน้ำมันแบบไหน อิอิ ถ้าไม่มีคนขับ ฮ่าๆๆๆๆๆ
คนขับ= สติ
เป็นตัวควบคุมขับเคลื่อนจิต บอกจิตว่าทางนี้นะดี ทางนั้นนะร้าย
ไม่เอ๊า ไม่เอา นั่นทางกิเลสนะ แบบนี้ค่ะ
ที่นี้ จิตคือรถ คนขับคือสติ น้ำมันคือภาพพระ,ฌาน แล้วอารมณ์คืออิหยัง
อารมณ์คือ สิ่งที่อยู่ตามรายทาง มีของเค้าอยู่แล้วค่ะ
เช่น ร้านขายกาแฟสด ขี้หมา ขี้ควาย รถที่สวนมา(คุณสาฯ 5555) ฯลฯ
ฉะนั้น จงขับรถของคุณฝ้าย ให้ดีๆนะคะ อย่าไปเที่ยวเกาะสิ่งรายรอบ
รายทางนะคะ 555555 เข้าใจรึยังเอ่ย

Click to expand...

สมแล้วจริงๆครับ ที่ใครๆก็ว่าครูดัชอธิบายที่่แจ่มแจ้งแดงแจ๋ไปเลย

ลูกพลัง · 4 ธันวาคม 2012

เอาการบ้านคุณครูTPC ที่ตอบลูกศิษย์มาให้อ่านเป็นธรรมทานครับ..

------------------------------------------------
> 3. อารมณ์ในแต่ละวันที่ถูกกระทบเช่นรักโลภโกรธหลงหรือรูปรสกลิ่นเสียงสัมผัสธรรมารมณ์
> ก็ควบคุมอารมณ์ รัก โลภ โกรธ หลงได้ดีนะครับ คือยังกลางๆ
> จิตไม่ได้ยึดติกับมัน แต่บางทีก็
> รู้สึกว่ามันกระทบในจิตเราแล้วเหมือนกัน เพราะมันรู้ตัวได้เลยว่า
> จิตมันไม่เบา เหมือนมีบางอย่างมาเกาะในใจเรา ก็ต้องใช้วิธีตั้งสติใหม่
> หายใจลึก ๆ จนอารมณ์ค่อย ๆ หายไป

ตรงนี้ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายและต้องอาศัยการฝึกที่มากเลยครับถึงจะครองสติ ได้ตลอดบริบูรณ์ครับ
แต่นักปฏิบัติทั้งหลายจะอาศัย
1 การรู้ คือบางเรื่องที่รู้ทันรู้เร็ว กับสิ่งที่มากระทบ อันนี้จัดว่าดีแล้ว[พระอรหันต์ที่ท่านเก่งๆท่านยังสามารถรู้แบบล่วงหน้าได้ด้วยซ้ำครับ กิเลสทำอะไรท่านไม่ได้อีกแล้วครับ]
2 การรู้ทันสิ่งที่มากระทบ คือรู้แต่ช้าไปหน่อยหนึ่ง แต่จิตก็ยังพอมีสติและรู้ว่ามันกำลังจะปรุงแต่งจิตให้หลงไหลไปกับมันแต่มีสติตามมาทันตรงนี้จึงปล่อยวางตรงนี้ อันนี้ จัดว่าดีพอใช้ได้ คือยังไม่เสียการณ์ อันก่อให้เกิดบาปกรรม
3 ตามรู้ทันสิ่งกระทบแต่ช้ามาก และจิตได้รับอารมณ์และปรุงแต่งไปแล้ว เกิดการกระทำทางกายไปแล้ว แล้วจึงค่อยมีสตินึกได้หรือรู้ทัน
แต่ก็ทำไปแล้วปรุงแต่งไปแล้ว อย่างนี้ใช้ไม่ได้ ต้องฝึกตนเองใหม่
4 ตามไม่ทันและไม่รู้ทัน และไม่มีสติระลึกได้ ผ่านเลยไปไม่รู้สึกอะไร จิตรับและปรุงแต่ง เกิดการกระทำทางกาย วาจา ทุกอย่างเกิดต่อเนื่อง และจิตก็ไหลตามไปอย่างไม่มีสติรู้ทัน จนเกิดทุกข์เกิดขึ้นหรือวิบากกรรมให้ผลจึงคิดได้ อย่างนี้จัดว่าแย่มาก
5 ข้อนี้คือตามไม่ทันเหมือนข้อ4 แต่หนักกว่าตรงที่ขนาดวิบากกรรมให้ผลแล้วยังไม่รู้ ยังไม่มีสติ คือยังคิดไม่ได้ อย่างนี้หนักที่สุดแย่ที่สุดครับ

โมทนาสาธุกับทั้งคุณครูและศิษย์ด้วยครับ..

Golden Sky · 5 ธันวาคม 2012

supatorn said: ↑

ธรรมะหลวงพ่อพระราชพรหมยาน

พระนิพพาน
1) บรรดานักคิดนักแต่งทั้งหลาย ได้พากันโฆษณามาหลายร้อยปีแล้วว่า พระนิพพานเป็นสภาพสูญ แต่พอมาอ่านหนังสือของพระอรหันต์ท่านเขียน คือ หนังสือวิสุทธิมรรค ท่านกลับยืนยันว่าพระนิพพานไม่สูญ ดังท่านจะเห็นตามบาลีทั้ง 8 ที่ท่านยกมาเป็นองค์ภาวนานั้น คือ มัททนิมมัทโน พระนิพพานตัดความเมาในชีวิต วิปาสวินโย นิพพานบรรเทาความกระหายในกามคุณ 5 อาลยสมุคฆโต พระนิพพานถอนอาลัยในกามคุณ วัฏฏปัจเฉโท พระนิพพานตัดวนสามให้ขาด ตัณหักขโย พระ นิพพานมีตัณหาสิ้นแล้ว หรือสิ้นตัณหาแล้วเข้าสู่พระนิพพาน วิราโค มีความเบื่อหน่ายในตัณหา นิโรโธ ดับตัณหาได้สนิทแล้ว โดยตัณหาไม่กำเริบอีก นิพพานัง มีความดับสนิทแล้วจาก กิเลส ตัณหา อุปาทาน กรรม อันเป็นเหตุให้เกิดอีกในวัฏฏสงสาร
ความหมายตามบาลีที่ท่าน ว่าไว้นี้ ไม่ได้บอกว่าท่านที่ถึงนิพพานแล้วสูญ พระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นความเห็นผิด เมื่อบาลีท่านยันว่า นิพพานไม่สูญแล้ว ท่านบรรดานักเขียนนักแต่งทั้งหลาย ท่านเอามาจากไหนว่า นิพพานสูญ อันนี้น่าจะเกิดจากความเข้าใจผิดอะไรกันสักอย่าง เพราะมีพระบาลีบทหนึ่งว่า นิพพานัง ปรมัง สุญญัง แปลว่า นิพพานเป็นธรรมว่างอย่างยิ่ง ท่านอาจจะไปคว้าเอา ปรมัง สุญญัง โดยเข้าใจว่า สูญโญเข้าให้ เรื่องถึงได้ไปกันใหญ่
2) นิพพาน นิพพาน เขาแปลว่า ดับ คือดับความชั่ว ได้แก่ โลภะ ความโลภ โทสะ ความโกรธ โมหะ ความหลง เป็นอารมณ์จิตที่บริสุทธิ์ ไม่มีความชั่วเจือปน เขตของพระนิพพานไม่มีความตาย ไม่มีการป่วย ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ฉะนั้น ถ้าท่านพุทธบริษัทสงสัย ก็พยายามฝึกมโนมยิทธิ หรือ ทิพย์จักขุญาณได้พอสมควร ท่านจะรู้ได้รู้จักสภาวะของ พระนิพพาน ดีกว่าอ่านหนังสือแล้วก็เดาเอา
3) พระนิพพาน มีแดนไหม หรือว่าพระนิพพานสูญ สูญหรือไม่สูญมีแดนหรือไม่มีแดน ถ้าเราคือสาวกขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่ต้องคิด คิดว่าธรรมใดที่องค์สมเด็จพระธรรมสามิสร สอนเราในชาตินี้ ที่องค์สมเด็จพระชินสีห์ว่า นี่เป็นเชื้อของความทุกข์ มันก็ทุกข์จริง ๆ อันนี้เป็นปัจจัยให้เกิดความสุข มันก็สุขจริง ๆ อันนี้ของสกปรกโสมมมันไม่สะอาด มันก็สกปรกจริง ๆ ในเมื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเรา เราพิจารณาเห็นแล้วว่าเป็นความจริงทุกอย่าง ฉะนั้นแดนที่มีความสุขจริงอย่างยิ่ง ไม่มีทุกข์เจือปน ก็คือ แดนพระนิพพาน แดนพระนิพพานก็เป็นแดนจริง ๆ มีความสุข จริง ๆ และก็ต้องมีจริง
4) สำหรับท่านที่รักการปฏิบัติจริง เรื่องมรรคผลนิพพานเป็นเรื่องใหญ่ นิพพานที่เข้าใจกันว่าสูญนั้นเป็นการเข้าใจผิดชัด ๆ ความจริงนิพพานไม่สูญ เป็นแดนพิเศษที่เหนือเทวดาและพรหม มีความสวยสดงดงามมากกว่าเทวดาและพรหม มีความสุขละเอียดกว่า สุขุมกว่า ไปไหน มาไหนได้สบาย ไม่มีสภาพสิ้นซากหรือไร้ความรู้สึก
5) ถ้าอยากจะเห็นพระนิพพาน ต้องเจริญวิปัสสนาญาณ ให้ได้บรรลุพระโสดาบันเป็นอย่างต่ำ อาศัยญาณที่ได้ไว้ในสมัยโลกียฌาน และอาศัยผลที่เป็นพระอริยะ ท่านเรียกญาณที่ได้ว่า วิมุตติญาณทัสสนะ แปลว่า หลุดพ้นจากกิเลสพร้อมด้วยฌานเป็นเครื่องรู้ เท่านี้พระนิพพานก็ปรากฏชัดแก่ญาณจักษุ พระโสดาบันนี้ได้แต่เห็นพระนิพพาน ยังอาศัยนิพพานเป็นที่พักผ่อนไม่ได้ ถ้าสำเร็จอรหัตตผลแล้ว ท่านก็ไปนอนค้างบนนิพพาน อันเป็นสถานที่อยู่สำหรับตนได้เลย บนนิพพานก็คล้ายกับพรหม มีวิมาน แต่วิจิตรมาก ร่างของท่านที่เข้าพระนิพพานเป็นทิพย์ ละเอียด ใสสะอาด ใสคล้ายแก้วประกายพรึก มีรัศมีสว่าง มากกว่าพรหม อย่างเทียบกันไม่ได้เลย มีความสุขที่สุด อย่างไม่มีอะไรเปรียบ เพราะความรู้สึกอย่างอื่นไม่มี มีแต่จิตสงเคราะห์
6) ถ้าถามว่า ถ้าคนเขาอยากไปพระนิพพานเป็นตัณหาไหม ก็เห็นจะ 99 เปอร์เซ็นต์ที่ตอบว่า คำว่าอยาก แปลว่า ตัณหา ในเมื่ออยากไปพระนิพพาน ก็แสดงว่าเป็นตัณหาเหมือนกัน ก็เลยบอกว่านี่แกเทศน์แล้วแกก็เดินลงนรกเลยสบาย ไปเสียคนเดียวก่อน ดีกว่ามาชวนชาวบ้านเขาไปอีก ถ้าต้องการไปนิพพาน เขาเรียกว่า ธรรมะฉันทะ มีความพอใจในธรรม เป็นอาการซึ่งทรงความดี พวกเราฟังแล้วจำไว้ด้วยนะ ถ้าใครเขาถามจะได้ตอบถูก
7) การเข้าพระนิพพานไม่มีอะไรยาก เพียงแต่ชนะใจตัวเองเท่านั้นคือ
- ไม่ทำหรือคิดว่าจะทำความชั่วทุกอย่าง(ตามแบบศีล 5 )
- สร้างความดีที่ทำให้เกิดความสุขแก่ตนและคนอื่นทุกอย่าง
- ชำระใจให้เข้าใจในเหตุผล เคารพตามความเป็นจริง ไม่มีอารมณ์ฝืนกฎธรรมดา เห็นโลกเป็นทุกข์ตามความเป็นจริง รู้เหตุที่จะทำให้เกิดทุกข์ คือ ความอยากไม่รู้จบ ไม่สนใจกับความเคลื่อนไปของสิ่งมีชีวิต ไม่ต้องการความเกิดรู้ตัวเสมอว่าทรัพย์สินที่หามาได้นั้น เราไม่มีโอกาสปกครองได้ตลอดกาล เมื่อถึงเวลาต้องพลัดพรากจากมันเป็นปกติ เมื่อมันจากเรา หรือเราจากมัน ไม่มีอารมณ์เป็นห่วงหรือหนักใจ เห็นความตายเป็นกีฬาสำหรับเด็ก เท่านี้จะทำให้ใจสบาย เรื่องสวรรค์หรือพรหมถือว่าต่ำเกินไป ไปนิพพานเลยดีกว่า นิพพานมีแต่สุข หาทุกข์ไม่ได้
8) ขอบรรดาท่านพุทธบริษัทชายหญิง มีอารมณ์จับพระนิพพานเป็นอารมณ์ จิตมันก็ไม่ถอย เมื่อจิตมันไม่ถอยทำอย่างไร ก็มีอย่างเดียว การก้าวไปสู่พระนิพพาน
9) แต่ว่าขอเตือนสักนิด ถ้าจะทำจิตของเราให้ทรงอารมณ์เป็นพระนิพพานจริง ๆ ขอบรรดาท่านภิกษุ สามเณร และท่านพุทธบริษัทชายหญิง จงพยายามทรงทรงอารมณ์ บารมี 10 ประการ ไว้ให้ครบถ้วน อันนี้ทิ้งไม่ได้ เกาะบารมี 10 ประการ ว่าสิ่งไหนบ้างที่ยังไม่มีสำหรับเราเรายังบกพร่อง อย่าให้บกพร่อง และใช้กำลังสมาธิควบคุมให้ทรงตัวให้มีกำลัง จรณะ 15 ที่เป็นกำแพงกั้น ที่จะไม่ให้เราตกอยู่ในภาวะของความชั่วแห่งจิต และใช้ อิทธิบาท 4 เป็นเครื่องสนับสนุน ให้เราเข้าถึงความสุข ทรงกำลัง 3 ประการให้ทรงตัว แล้วใคร่ครวญหาความจริงว่า ร่างกายมันเป็นโทษ มันเป็นทุกข์ มันเป็นอนัตตา หาความดีไม่ได้ เกิดเป็นคน เกิดเป็นเทวดา เกิดเป็นพรหม ก็ไม่พ้นทุกข์ จิตยึดอารมณ์พระนิพพานเป็นอารมณ์
10) การเป็นพระอรหันต์ไม่เห็นยาก คือ ตัดความพอใจในโลกทั้งสาม มนุษย์โลก เทวโลก พรหมโลก ตัดราคะ ความเห็นว่ามนุษย์โลกสวย เทวโลกสวย พรหมโลกสวย โลกทั้งสามไม่มีความหมายสำหรับเรา เราไม่ต้องการสิ่งที่เราต้องการคือ พระนิพพาน มีความเยือกเย็นเป็นปกติ ไม่เห็นอะไรเป็นเราเป็นของเรา ทุกสิ่งทุกอย่างที่เรากระทบถือว่าเป็นเรื่องธรรมดา มีขนตกอยู่เป็นปกติ คือว่าไม่มีการสะดุ้งหวาดหวั่นอันใด
11) พระอรหันต์ย่อมไม่ปรากฏเห็นว่าอะไรในโลกนี้เป็นเราเป็นของเรา ไม่เห็นว่าอะไรในโลกนี้เป็นของดีและก้ไม่เห็นว่าอะไรในโลกนี้เป็นของเลว ทั้งนี้เพราะพระอรหันต์ยอมรับนับถือกฎแห่งความเป็นจริง ว่า ธรรมดาของโลกนี้เป็นอย่างนั้น ทุกสิ่งทุกอย่างในโลก เป็นกฎธรรมดาไปหมด ไม่มีอะไรเป็นเครื่องสะเทือนใจ พระอรหันต์ เขาด่าก็ไม่สะเทือนใจ เขาชมก็ไม่สะเทือนใจ อะไร ๆ เกิดขึ้นมาทั้งทีก็เป็นเรื่องธรรมดา
12) ถ้าจะถึงอรหันต์ ทีนี้อารมณ์ใจมันสบายทุกอย่าง คือว่าไม่หลงในฌาน ฌานทุกอย่าง ทั้ง รูปฌาน และ อรูปฌาน เราพอใจ แต่คิดแต่เพียงว่านี่เป็นบันไดก้าวขึ้นสู่อริยะเบื้องสูงเท่านั้น ไม่ใช่มานั่งหลงว่ากันทั้งวันทั้งคืน นั่งกรรมฐานตลอดวันตลอดคืน นั่นมันยังเป็นเด็กเล็ก ๆ อยู่ ทีนี้หลงในฌานไม่มี ตัวมานะ ถือว่าเราดีกว่าเขา เราเสมอเขา เราเลวกว่าเขาไม่มี และอาการณ์ฟุ้งซ่าน สอดส่ายไปสู่อารมณ์อกุศลไม่มี และตัวสุดท้ายก็เห็นว่าโลกทั้ง 3 โลก คือ มนุษย์โลก เทวโลก พรหมโลก ไม่มีความหมายสำหรับเรา เห็นสภาวะของโลกทุกอย่างนี้ทั้ง 3 โลก มันเป็นแดนของความทุกข์ สิ่งที่มีความสุขที่สุดคือ พระนิพพาน อันนี้ ถ้าเป็นสุขวิปัสสโก ท่านจะมีความสบายมาก สบายในอารมณ์ ยอมรับนับถือกฎของธรรมดา ยอมรับนับถือคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าว่า พระนิพพานมีจริง และพระนิพพานเป็นดินแดนของความสุข แม้ท่านจะไม่เห็น หากว่า พระวิชชาสาม ก็ดี อภิญญา 6 ก็ดี ปฏิสัมภิทาญาณก็ดี นี่เขาไปที่พระนิพพานได้เลย จะสามารถเห็นพระนิพพานได้เท่า ๆ กับเห็นของที่มองอยู่ตรงหน้า แล้วเขาก็จะรู้สภาวะว่า ถ้าเขาทิ้งอัตภาพนี้แล้ว เขาจะไปอยู่ตรงไหน เพราะพระนิพพานไม่ได้มีสภาพสูญ เขาก็เข้าสู่จุดของเขาเลยที่พระนิพพาน เข้าที่อยู่ได้ ไปไหวพระพุทธเจ้าได้.
==============================
Click to expand...

ขออนุโมทนา กับ ข้อความข้างบนนี้ อย่างไม่มีข้อสงสัย ท่านที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เพื่อความหลุดพ้นจริงๆ ขอให้ท่านจงเจริญๆในธรรมของท่านยิ่งขื้นเทอญ สาธุ สาธุ นิพพานัง ปารมัง สุขัง

Golden Sky · 4 ธันวาคม 2012

ธรรมทาน ของหลวงปู่จันทร์ (พระธรรมดิลก) วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร จ.เชียงใหม่
*ถ้าชนะด้วยอาวุธ จะสิ้นสุดด้วยความแค้น ใช้ธรรมะชนะแทน ความขุ่นแค้นจะหายไป*
*ถ้าเสรีไม่มีเขต จะเป็นเหตุให้วุ่นวาย ถ้าเสรีตามกฏหมาย ความวุ่นวายสงบลง*
*ถ้าผู้ใหญ่ตามใจว่า จะชักพาให้เดือดร้อน ถ้าผู้น้อยฝืนคําสอน จะเดือดร้อนทั่วเมือง*
*ถ้าทํางานมุ่งเพื่อตัว จะหมองมัวชั่วชีวิต ถ้าทํางานเพื่ออุทิศ สิ้นชีวิตชื่อยังอยู่*
*ถ้าเป็นพระไม่สังวร จะถ่ายถอนความศรัทธา เป็นชาวบ้านไม่เสาะหา จะนําพาให้ล่มจม*

Pugsley · 5 ธันวาคม 2012

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=p6u9bPXxFtk]ผู้ปิดทองหลังพระ - คาราบาว - YouTube[/ame]

ด้วยพระปรีชาญาณในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทำให้คนทั้งหลายได้ประจักษ์ว่า แนวทางพระราชดำริในพระองค์นั้นเรียบง่าย
และสามารถปฏิบัติได้ผลเป็นที่ยอมรับโดยทั่วกัน

•:*¨☆¨*:• •:*¨☆¨*:• •:*¨☆¨*:• •:*¨☆¨*:•

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ทรงมีพระชนมายุยิ่งยืนนาน
มีพระวรกายและพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรง ทรงพระเกษมสำราญ
เป็นมิ่งขวัญของปวงชนชาวไทยตลอดไปเทอญ

ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
ข้าพระพุทธเจ้า จิตบุญ 92

อุษาวดี · 4 ธันวาคม 2012

มาส่งกำลังใจให้ท่านที่คิดยังไม่ตกว่าจะไปขอขมา พ่อแม่หรือไม่
ทุกอย่างไม่ยากถ้าคิดบวก คิดในปัจจุบันว่าควรทำ ก็ไปทำ
อย่าไปกังวลถึงอนาคตว่าพ่อแม่จะมีปฏิกริยาอย่างไร ท่านต้องทำได้ค่ะ
พรุ่งนี้แล้วนะคะ
อย่ารอจนต้องไปขอบารมีพระประธานเปิด 3 โลก ตอนกายท่านไม่อยู่ให้ขอขมาแล้วเลยchearr

natthapatpun · 4 ธันวาคม 2012

ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ ๑๑๓ ณ วันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๕๕

ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
กับจิตบุญดวงที่ ๑๑๓
ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
สาธุ สาธุ สาธุ

Pugsley · 4 ธันวาคม 2012

natthapatpun said: ↑

ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
กับจิตบุญดวงที่ ๑๑๓
ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
สาธุ สาธุ สาธุ

Click to expand...

ขออนุโมทนาสาธุกับคุณพ่อบุญมี จิตบุญดวงที่ 113 และพี่แนท ลูกที่ประเสริฐที่สุดอีกหนึ่งท่านเจ้าค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

natthapatpun · 4 ธันวาคม 2012

คุณพ่อบุญมี คุณพ่อของครูแนท ศิษย์ครูวิทย์
จบกิจจิตเกาะพระยกจิตเป็นจิตบุญ 113 ณ วันที่ 4 ธันวาคม 2555
คุณพ่อบุญมีเริ่มฝึกจิตเกาะพระโดยการชักชวนของลูกสาวคือครูแนท
โดยท่านพาคุณพ่อไปร่วมงานจิตเกาะพระสัญจรที่โรงแรมเอเชีย กรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2555
รวมระยะเวลาการฝึกจิตเกาะพระ 17 วัน
ช่างเป็นเลขที่สวยจริง ๆ สาธุ

ขอเชิญครูแนทช่วยบอกเล่าที่มาที่ไปการทำจิตเกาะพระของคุณพ่อบุญมีเพื่อเป็นธรรมทานด้วยค่ะ

พี่เพ็ญขอโมทนาบุญกับคุณพ่อบุญมี ครูแนท ครูวิทย์และครูที่เกี่ยวข้องทุกท่านค่ะ สาธุ

พี่เพ็ญ จบ.3

ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลทั้งหมดถวายแด่ในหลวงเนื่องในวันพ่อค่ะ

ลุงไชย · 4 ธันวาคม 2012

โมทนาบุญกับจิตบุญดวงที่ ๑๑๓ และครูผู้สอนด้วยครับ สาธุ

Patcharawan · 4 ธันวาคม 2012

กราบอนุโมทนาบุญกับจิตบุญดวงที่๑๑๓ และครูผู้สอนทุกท่านด้วยค่ะ..สาธุ..

เดือนห้า · 4 ธันวาคม 2012

dutchanee said: ↑

คุณฝ้ายคะ ครูดัชขออนุญาติเอาคำถามคำตอบมาลงเป็นธรรมทานซักข้อนะคะ
ครูดัชรู้สึกว่า มีคุณๆที่มีครอบครัวมีบ่วงเข้ามาอ่านหลายท่านค่ะ
แต่ไม่กล้าเข้ามาในจอ เพราะมัวติดตามขอบกระทู้อยู่ค่ะ
โมทนาสาธุกับคุณฝ้ายค่ะ
ระหว่างวันก็ยังเห็นท่านพ่อเป็นแสงจ้าอยู่ ก็พยายามแปะติด ก็เอาจิตไปเติมน้ำมันบ่อย ๆ ค่ะ มีหูวิ้ง ๆ เป็นบางครั้ง แต่ก็ไม่เห็นจะมีอารมณ์สงบเยือกเย็นแต่ประการใด เป็นอารมณ์ปกติ อืม... ฝ้ายไม่แน่ใจน่ะค่ะ หรือว่าตอนนี้อารมณ์นิ่งเป็นปกติไปแล้ว
หรือเปล่า 555 สงสัยเหมือนกัน แต่ก็ไม่ได้โมโหใคร ไม่ได้โกรธใคร หงุดหงิดก็มีมาเป็นพัก ๆ เวลาคุณลูกพูดไม่ฟัง แต่ก็ดับได้ คุณสามีเค้าก็พยายามกวนประสาทเราตลอด ยั่วให้โมโหน่ะค่ะ แต่ก็รู้ว่าเค้ายั่ว จึงไม่ได้โมโหอะไร
อาการแบบนี้ไม่ได้เรียกว่า อารมณ์นิ่งนะคะ แต่เรียกว่า จิตนิ่งจากการไปเกาะพระบ่อย
แต่ที่ยังมีหงุดหงิดบ้างนี่คือ สติตามไม่ทันค่ะ ฉะนั้นจิตกับสติอย่าทิ้งห่างกันมากค่ะ
จะอธิบายเรื่องอารมณ์นะคะ
หากเราเป็นรถ = จิต
คอยไปเติมน้ำมัน = ไปหาพระ ทรงฌาน
ถามว่า คุณฝ้ายไปเติมน้ำมันแบบไหน อิอิ ถ้าไม่มีคนขับ ฮ่าๆๆๆๆๆ
คนขับ= สติ
เป็นตัวควบคุมขับเคลื่อนจิต บอกจิตว่าทางนี้นะดี ทางนั้นนะร้าย
ไม่เอ๊า ไม่เอา นั่นทางกิเลสนะ แบบนี้ค่ะ
ที่นี้ จิตคือรถ คนขับคือสติ น้ำมันคือภาพพระ,ฌาน แล้วอารมณ์คืออิหยัง
อารมณ์คือ สิ่งที่อยู่ตามรายทาง มีของเค้าอยู่แล้วค่ะ
เช่น ร้านขายกาแฟสด ขี้หมา ขี้ควาย รถที่สวนมา(คุณสาฯ 5555) ฯลฯ
ฉะนั้น จงขับรถของคุณฝ้าย ให้ดีๆนะคะ อย่าไปเที่ยวเกาะสิ่งรายรอบ
รายทางนะคะ 555555 เข้าใจรึยังเอ่ย

Click to expand...

ชอบคำอธิบายจังเลยค่ะ ^^

ขอร่วมอนุโมทนากับจิตบุญดวงใหม่ และครูผู้สอนด้วยนะคะ

urairatvi · 4 ธันวาคม 2012

การอบรมจิตเกาะพระ

สวัสดีคะครูวิทย์

ตอนนี้ปลื้มอยู่เขาใหญ่ การสื่อสารอาจไม่ดีพอ ขอรบกวนทางนี้นะคะ
ที่อยู่ที่สุขุมวิท 77ชื่อบ้านอ่อนนุชคอนโดมิเนียม ระหว่าง ซ. ๓๐_๓๒ เป็นคอนโดสองตึก หน้าปากทางเป็น อ่อนนุชกุ้งเผา บอกมาหาคุณปลื้มคะ จำนวนคนไม่มีปัญหา หาห้องรับรองได้คะ ไว้กลับกทม. จะติดต่อกลับ ขอบคุณที่ให้ความไว้วางใจคะ ตอนนี้ติดต่อคุณพัทร เลขาได้ตลอด เบอร์ ๐๘๑๗๐๑๔๖๑๕ ติดต่อได้เลยคะ วันที่๑๖ นะคะ รับพรส่งท้ายปีเลย มากี่ท่านรับได้หมดคะ ยินดีคะ มานะคะ มาเริ่มสิ่งที่ดีสำหรับชีวิตเราคะ ปลื้มรอพบทุกท่านนะคะ ให้สิ่งที่ดีสำหรับตนเองนะคะ รับรองไม่ผิดหวัง วันเวลาผ่านไปผ่านไปคุณทำอะไรอยู่ เวลาไม่เคยรอใครนะคะ ขึ้นอยู่ว่าเราจะตระหนักคุณค่าของเวลาเท่าไร ขอบคุณคะ ยินดีต้อนรับทุกท่านนะคะ

เมธญา · 4 ธันวาคม 2012

Patcharawan said: ↑

กราบอนุโมทนาบุญกับจิตบุญดวงที่๑๑๓ และครูผู้สอนทุกท่านด้วยค่ะ..สาธุ..
Click to expand...

natthapatpun said: ↑

ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา
กับจิตบุญดวงที่ ๑๑๓
ของกลุ่มจิตบุญเทอญ
สาธุ สาธุ สาธุ

Click to expand...

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@

อนุโมทนาบุญกับจิตบุญ 113 พร้อมครูผู้สอน ทุกท่าน ...สาธุ รับวันพ่อค่ะ

Golden Sky · 4 ธันวาคม 2012

ขอกล่าว คํา อนุโมทนาบุญ กับ "คุณพ่อบุญมี" จิตบุญ ดวงที่ 113 และครูแนท ที่ท่านได้ให้สิ่งอันประเสริญ อันลํ้าค่าหาประมาณมิได้ ได้มอบให้แก่พ่อของท่านซึ้งเป็นการตอบแทน คุณบิดา ของท่าน และเนื่องด้วยใกล้วันพ่อนี้ ข้าพเจ้าจิตบุญดวงที่ 100 ขอกล่าวคําสรรเสริญต่อบุตรผู้ให้แสงสว่างในทางธรรมแก่ผู้มีอุปการี ซึ้งเป็นการตอบแทนคุณของท่านอันสูงสุดในการให้ทั้งปวง.

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

klaichid เป็นที่รู้จักกันดี

Wittayapon เป็นที่รู้จักกันดี

watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

NOKMAM เป็นที่รู้จักกันดี

dutchanee เป็นที่รู้จักกันดี

watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

ลูกพลัง เป็นที่รู้จักกันดี

Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

ไฟล์ที่แนบมา:

174624.jpg

Pugsley เป็นที่รู้จักกันดี

natthapatpun เป็นที่รู้จักกันดี

ลุงไชย เป็นที่รู้จักกันดี

Patcharawan เป็นที่รู้จักกันดี

เดือนห้า เป็นที่รู้จักกันดี

urairatvi เป็นที่รู้จักกันดี

เมธญา เป็นที่รู้จักกันดี

Golden Sky เป็นที่รู้จักกันดี

แชร์หน้านี้

แชร์หน้านี้

เข้าสู่ระบบหรือลงทะเบียน

จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ไฟล์ที่แนบมา:

174624.jpg

แชร์หน้านี้

การค้นหาที่มีประโยชน์

ติดต่อเรา