จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ภูภู, 6 เมษายน 2012.

  1. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027

    ขออนุญาติ นำมาขยายให้อีกทีค่ะ สงสารท่าน สว.ทั้งหลายกัน อิๆๆ เพราะในกระทู้ของเรานี้รู้สึกจะมีอยู่กันหลายท่าน ทั้งขาประจำ และขาจร อิๆๆ:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 พฤศจิกายน 2012
  2. ธรรมมณี

    ธรรมมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,044
    ค่าพลัง:
    +14,027
    เอ้า..แถมให้อีกอันค่ะ อิๆๆ:cool::cool:
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,409
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035

    พระพุทธเจ้าองค์แรกท่านใช้เวลาบำเพ็ญนานเท่าไหร่หลังจากมีโลกกำเนิดขึ้น

    ตอบ พระพุทธะองค์ ทรง ใช้เวลา 5,000 ปีนั่ง ประทับตรัสรู้อยู่ใต้ต้นไม้ 25 ต้น ๆ ละ 200 ปี เพราะพระองค์ไม่เคยสร้างพระบารมี และ ไม่เคยได้รับพุทธพยากรณ์ในศาสนาพระพุทธเจ้าพระองค์ใดพระองค์มาก่อนเลย
    และมีคัมภีร์ปฐมมูลรับรองพระนาม คือ " พระติกขะคัมมะสัมมาสัมพุทธเจ้า"

    ค้นคว้าได้ที่หอสมุดแห่งชาติ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2012
  4. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    43,409
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,035
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2012
  5. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    หลงตอนมีลมหายใจ
    กับ
    หลงตอนหมดลมหายใจ​

    ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ
    ก็ยังมีเวลาทำผิดพลาด หรือ เดินหลงทาง

    แต่เมื่อไหร่ เราหมดลมหายใจไปแล้ว
    อันนี้จะเสียหาย หรือ ขาดทุนมากๆ
    เพราะว่า โลกหลังความตายนั้น มันยาวนานยิ่งนัก เช่น หลงภพ หลงชาติ
    แต่ถ้าเรายังมีลมหายใจอยู่ เราก็หลงแค่ไม่ถึงร้อยปี หรือ น้อยกว่านั้น หรือ ตามอายุขัย

    เพราะฉะนั้น..ถ้าใครยังรู้สึกตัวว่า ยังมีลมหายใจอยู่
    ให้รีบๆพากันออกจากความหลง ออกจากความทุกข์ ออกจากวัฎสงสารกันให้ไวๆ เลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 พฤศจิกายน 2012
  6. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    คำว่า "ละ ปล่อย วาง"
    ถามว่าใครเป็นผู้ละปล่อยวาง และ อะไรเป็นผู้ละปล่อยวาง
    (ตอบ) ตัวของเราเองนี่แหล่ะ! และ จิตของเราเองนี่แหล่ะ!

    ถามว่าทำไม? พระอรหันต์ถึงได้ละปล่อยวางได้ง่ายกว่าปุถุชน หรือ คนธรรมดา
    (ตอบ) เพราะว่าจิตของพระอรหันต์ท่านฝึกมาดี
    หรือ จิตอรหันต์อรหันต์นิ่งสงบมาก จิตอรหันต์ละเอียดมาก
    จิตอรหันต์เป็นที่ผู้รู้รู้ทุกธรรมจริง
    จิตท่านไม่ไปยึดติดกับสรรพสิ่ง ทั้งรูป-นามสมมุติใดๆ

    และมีวิธีเดียว ที่จิตปุถุชน หรือ คนธรรมดา จะละปล่อยวางได้โดยง่ายดายแบบพระอรหันต์
    ก็ต้องเจริญสติภาวนา(กรรมฐาน) หรือ ปฎิบัติธรรม
    หรือ ฝึกจิตให้มีสัมมาทิฎฐิกันให้ได้(ความเห็นถูกต้อง)
    หรือ นำจิตมาเจริญมรรค์มีองค์ ๘ (ศีล สมาธิ ปัญญา)

    สรุปแล้ว
    ส่วนผู้ใดจะสามารถละ ปล่อย วาง ได้มากหรือน้อยแค่ไหน อย่างไร
    (ตอบ) จิตของคนๆนั้น ละเอียดมาก หรือ หยาบมาก

    ปล.เวลาทำดี สะสมบุญ หรือ สร้างบารมีนั้น เหลือน้อยทุกที
    รถสวรรค์ รถพรหม รถนิพพาน ใกล้จะออกแล้ว(ออกตอนเราหมดลมหายใจ)
    แต่ยังคงเหลือรถนรก หรือ รถอบายภูมิ เท่านั้น ที่รอคนเดินหลงทาง

    ดวงจิตเท่านั้น ที่จะไปพระนิพพานได้ มิใช่ร่างกาย
     
  7. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ธรรมะอยู่ที่ไหน
    ธรรมะนั้นอยู่ทั่วสารทิศ หรือ รอบๆตัวเรา ตัวผู้อื่น

    และธรรมะสำคัญที่สุดนั้น ก็อยู่ที่ตนเอง เช่น สิ่งที่มากระทบจิต ในทุกขณะจิตนั้น
    เพราะธรรมะตัวนี้แหล่ะ! ที่จะส่งผลต่อจิตใจของตนเอง โดยตรง
    ตัวอย่าง..
    ถ้าสิ่งที่กำลังมากระทบจิตของตนเองนั้น เรารู้สึกว่าเฉยๆ+รู้=ดี ไม่เป็นทุกข์
    แต่ถ้ากระทบจิตไปแล้ว และวิ่งตาม อันนี้ไม่ดีแน่ คือ เรารู้สึกทุกข์

    แต่ก่อนจะหาทางออกจากทุกข์กันได้ พวกเราจะต้องหาวิธีเข้าให้ถึงจิตตนเองก่อน
    เพราะธรรมะ หรือ สัจธรรม หรือ ความจริงนั้น ก็อยู่ที่ภายในจิตของตนเองทั้งนั้น
    เพราะสิ่งที่มิใช่เรื่องจิต เห็นมีแต่ มายา หรือ สิ่งหลอกลวง
    หรือ สิ่งสมมุติทั้งนั้น หรือ ทุกข์ทั้งนั้น วุ่นวายทั้งนั้น
     
  8. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,907
    ค่าพลัง:
    +16,490
    สาธุ ๆ ๆ กับบททดสอบธรรมะทั้งหลาย ทั้งปวง..ขออโหสิกรรม..ในสิ่งที่ข้าพเจ้าได้ทำกับทุก ๆ ท่าน ทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 พฤศจิกายน 2012
  9. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    ร่างกาย คือ ของจอมปลอม
    จิต คือ ความจริง
    จิตเป็นอรหันต์ได้ จิตไปพระนิพพานได้ แต่กายเป็นไม่ได้ ไปไม่ได้
    เพราะร่างกายเป็นได้อย่างมาก ก็แค่ที่เป็นอยู่ชั่วคราวของจิต และสมบัติของโลก เท่านั้น

    เพราะฉะนั้นแล้ว จิตผู้ที่ตกอยู่บนโลกแห่งความหลง หรือ กิเลสโลกนั้น
    จึงพากันมาเกิด(มีร่างกาย) พากันมาทำกรรม(ดีหรือชั่ว) พากันมารับทุกข์

    และจิตผู้ที่ไม่มีความหลงนั้น จิตเป็นเสมือนหลอดไฟที่มีไฟฟ้า
    หรือ จิตที่สว่างแล้วในตัวเอง มีแสงในตัวเอง ไปที่ไหนย่อมมองเห็น
    จิตสว่างมาก ย่อมมองเห็นมากหรือชัดเจนกว่า จิตที่สว่างน้อย
    จิตสว่างน้อย ย่อมดีกว่า จิตไม่มีแสงสว่าง
    เพราะจิตที่ไม่สว่าง หรือ จิตไม่มีปัญญา หรือ จิตบอด(มืดมิด/ดับสนิท)
    จึงมองหาทางออกจากทุกข์กันไม่พบเจอ เมื่อหาไม่พบเจอ ก็จะรู้สึกอยู่แบบนั้น

    แต่จะออกจาก คำว่า ทุกข์นั้น จำเป็นต้องทำให้จิตนิ่งก่อน จิตเป็นสมาธิก่อน จิตมีปัญญาก่อน จิตจึงสว่าง จิตจึงแจ้ง จิตจึงรู้

    และสุดท้าย จิตที่แจ้งแล้ว จิตที่สว่างแล้ว จิตย่อมตื่น รู้ เบิกบาน เป็นธรรมดาหรือ จิตหลุดพ้น
     
  10. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    จิตของผู้เจริญ ย่อมจะต้องเดินไปข้างหน้าเถิด
    เดินแบบไม่เหลียวหน้า เหลียวหลัง ไม่ต้องดูใคร ดูแต่จิตตนเอง

    คนเราเกิดมาแล้ว ก็ย่อมทำผิดพลาดกันทั้งนั้นแหล่ะ!
    แต่จะมีสักกี่คนเล่า ที่พอจะรู้สึกตัวว่า ผิดพลาด และพร้อมนำมาแก้ไขให้ถูกต้อง
    เมื่อรู้ว่า ผิดพลาดไปแล้ว ลมหายใจยังอยู่ ก็ยังพอมีเวลาปรับปรุง แก้ไขกับสิ่งที่ผิดพลาดไปแล้ว

    ข้าพเจ้าเอง ก็เคยทำผิดพลาดมากกว่าคุณพี่พอใจเสียอีก
    เพราะฉะนั้น ได้โปรดสนใจแต่สิ่งธรรมในปัจจุบัน กรรมในปัจจุบัน

    เดี๋ยวนี้ข้าพเจ้าเอง ก็มิเคยคิดแล้วว่า ผู้ใดจะมาคิด-พูด-ทำกรรมแก่ข้าฯ
    แต่ถ้าข้าฯรู้ก็ให้อภัยทั้งหมด จะด้วยตั้งใจ หรือ ไม่ได้ตั้งใจ
    เพราะจิตข้าฯ ตั้งอยู่แต่ฌาน ตั้งอยู่แต่ฝ่ายบุญกุศล เท่านั้น
    จิตไม่ได้ไปสนใจใคร หรือ ไม่มองหาความผิดพลาดของผู้ใด
    มองแต่ความเลว ความผิดพลาดของตนเอง เท่านั้น
    อย่าหลงไปมองหาความดีของตน จงมองหาความเลวของตนเอง
    แต่ถ้าพบแล้ว ใครจะเลี้ยงต่อไป ก็ตามใจ เพราะไม่ใช่เรื่องของตนเอง

    ทีนี้มาดูกรรมเลว ความชั่วของข้าพเจ้ากันบ้าง..
    แต่ถ้าข้าฯไปล่วงเกิน คุณพี่พอใจ หรือ ผู้อื่น ผู้ใดก็ตามที ทั้งกาย วาจา ใจ ตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ ตั้งอดีตชาติจนถึงปัจจุบัน
    ขอได้โปรดอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ
     
  11. ภูภู

    ภูภู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    3,042
    ค่าพลัง:
    +56,089
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=l0vVYjMp4ic&feature=related]คืนที่ฟ้าไร้ดาว-เปเล่ สุทธิรักษ์ - YouTube[/ame]
    ไปแล้วนะ ลาไปเข้าถ้ำก่อน
    ไปตามหาดาวในถ้ำก่อน
    เพราะคืนนี้ ท้องฟ้าไม่มีดาว
    (*)
    น้ำตาเป็นของฉัน น้ำใจเป็นของเธอ
    (หาทางออกให้พบเจอนะ..คนดี ขออยู่เป็นกำลังใจห่างๆ)
     
  12. lomdadbaimai

    lomdadbaimai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    217
    ค่าพลัง:
    +1,379
    ขอบพระคุณค่ะ ขอคอยแวะเวียนมารับไออุ่นจากที่แห่งนี้นะคะ
     
  13. อัญญะมณี

    อัญญะมณี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 เมษายน 2012
    โพสต์:
    144
    ค่าพลัง:
    +2,169
    ทราบแล้วเปลี่ยน
    ทราบแ้ล้วต้องเปลี่ยน
    มัวแต่ดูจิตคนอื่น
    ดูเท่าไร เท่าไรจึงไม่เข้าใจสักที
    เข้าใจกันยัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2012
  14. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,907
    ค่าพลัง:
    +16,490
    ตอนนี้มองเห็นความเลวของตนเองเป็นอย่างยิ่งเลยค่ะ อ.ใหญ่ภู...
    ขอบพระคุณในคำแนะนำสั่งสอน ....จิตเรา..เรารู้ตัวเราเองดีที่สุดค่ะ


    ขอทุก ๆ ท่านเจริญในธรรม...สาธุ ๆ ๆ อนุโมทนา...
     
  15. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,907
    ค่าพลัง:
    +16,490
    เข้าใจแล้วจ้า ๆ ๆ ครูเพ็ญ ครูน้องหนู เจอบทเรียนแล้ว อนุโมทนาจ้า ๆ
     
  16. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    “ครูบาอาจารย์สอนให้เราปล่อยวางตามความเป็นจริง คำนี้มันฟังดี แต่ว่าทำยาก มันจึงมีความสงสัยว่า ถ้ายังปล่อยวางไม่เป็น จะทำอย่างไร..อดทน! อดทน! อดทน! อดทน!

    สมมุติว่าเรา อดทน อดทน อดทน แล้วต้องทำอย่างไรต่อ...อดทน! เมื่อไม่มีที่สิ้นสุดเลย.....อดทน!

    อดทน คือ ไม่รังเกียจสิ่งที่น่ารังเกียจ ไม่เห็นร้ายในสิ่งที่ชวนให้เห็นร้าย ไม่ฝืนสิ่งที่เราแก้ไม่ได้ ไม่น้อยใจกับการที่จะต้องอยู่กับสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบ


    อดทน!..ทำตัวเป็นเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง

    พระอาจารย์ชยสาโร ภิกขุ
     
  17. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    การปฏิบัติธรรม ต้องมีขันติ (อดทน ) เพราะเป็นการเดินทวนกระแสกิเลส
    ไปสู่กระแสแห่งธรรม ย่อม เหนื่อย หนัก ต้องการกำลังใจสูงที่จะเดินต่อไป
    พวกมากลากไปตามกิเลส ก็ไปเจอกันใน...
     
  18. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    กระทู้เริ่มพิมพ์ยากอีกแล้ว
     
  19. pporjai

    pporjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    8,907
    ค่าพลัง:
    +16,490
    ธรรมะอยู่ที่ไหน
    ธรรมะนั้นอยู่ทั่วสารทิศ หรือ รอบๆตัวเรา ตัวผู้อื่น

    และธรรมะสำคัญที่สุดนั้น ก็อยู่ที่ตนเอง เช่น สิ่งที่มากระทบจิต ในทุกขณะจิตนั้น
    เพราะธรรมะตัวนี้แหล่ะ! ที่จะส่งผลต่อจิตใจของตนเอง โดยตรง
    ตัวอย่าง..
    ถ้าสิ่งที่กำลังมากระทบจิตของตนเองนั้น เรารู้สึกว่าเฉยๆ+รู้=ดี ไม่เป็นทุกข์
    แต่ถ้ากระทบจิตไปแล้ว และวิ่งตาม อันนี้ไม่ดีแน่ คือ เรารู้สึกทุกข์


    ธรรมะ..คือ ธรรมะ สว่าง สะอาด และสงบ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 พฤศจิกายน 2012
  20. อุษาวดี

    อุษาวดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2012
    โพสต์:
    531
    ค่าพลัง:
    +12,151
    เราไม่ใช่เวทนา เวทนาไม่ใช่เรา
    สำหรับอาจารย์ ช่วงหนึ่งที่ปรารภความเพียรมากๆ ก็เคยปฏิบัติแบบนี้ เมื่อพิจารณาตามนี้ ก็ได้คำตอบว่า "ถ้าเรามีชีวิตอยู่อีกเพียงวันเดียว เราต้องปฏิบัติเอาจริงเอาจังจนเข้าถึงธรรมะ"

    เอาจริงเอาจังในที่นี้ก็คือปฏิบัติจนเข้าถึงสติปัฏฐาน 4 ให้สมบูรณ์ สำหรับประสบการณ์ของอาจารย์ ก็อาศัยวิธีที่เรียกว่า "นั่งจนตาย" คือนั่งขัดสมาธิอย่างไรก็นั่งอยู่อย่างนั้น ไม่เปลี่ยนอิริยาบถ เมื่อเกิดทุกขเวทนาก็ยกเอาทุกขเวทนาเป็นอารมณ์กรรมฐาน เป็นเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน เพ่งพิจารณาทุกขเวทนา เมื่อจิตตั้งมั่นเป็นสมาธิกับทุกขเวทนา คือไม่ยินดียินร้าย ไม่มีวิภวตัณหา ไม่มีอุปทานยึดมั่นถือมั่น ขณะที่วิภวตัณหาดับ ทุกขเวทนาก็จะดับในขณะนั้น เห็นด้วยปัญญาว่าเราผู้รู้ ผู้เห็นทุกขเวทนา กับความรู้สึกทุกขเวทนาอยู่คนล่ะฝ่ายกัน ใจสงบเย็นด้วยความปล่อยวาง เห็นทุกข์แต่ไม่มีทุกข์ มองเห็นด้วยใจว่า เวทนาเป็นสักแต่เวทนา เราไม่ใช่เวทนา เวทนาไม่ใช่เรา เราไม่ใช่อยู่ในเวทนา เวทนาไม่ใช่อยู่ในเรา เวทนาไม่ใช่สัตว์ บุคคล เรา เขา ตัวตน ทุกขเวทนาเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา


    --คัดจากหนังสือ "เราเกิดมาทำไม" โดย พระอาจารย์มิตซูโอะ คเวสโก--
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 พฤศจิกายน 2012

แชร์หน้านี้

Loading...