ปิดรับบริจาค เชิญร่วมอนุโมทนาแด่ทุกท่านที่ร่วมเป็นเจ้าภาพตั้งโรงทาน ณ สำนักสงฆ์ภูสูงเจริญธรรม

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ บุญทรงพระเครื่อง
ถ้าคุณมีเงินคุณอยาก เพื่อปลดปล่อยอารมย์ คุณยังไม่มีลูกเมีย เจ้าของโสเภณี เขามีข้อตกลงกัน ก็เรื่องของเขา เจ้านายเขาเป็นเจ้าของ เรารู้มาแค่นั้น ถ้าคุณมีลูกเมีย ผิดเต็มๆครับ ถ้าเมียอนุญาติ จะเอาเท่าไหร่ก็ได้ครับ ให้เงินเขา เราสบายอารมย์ ด้วยความชอบ ทั้ง ๒ ฝ่าย ขอพูดตรงๆเลยว่า ไม่ผิดแน่ แต่ถ้าเขา ถูกบังคับมา แต่เราไม่รู้ คุณอาจผิดเพราะไม่รู้ แต่โทษก็ยังน้อยครับ ในสมัย พระพุทธองค์ทรงพระชนชีพอยู่ พระนาง........ เป็นหญิงงามเมือง หรือ โสเภณีนั่นเองครับ เป็นน้องสาวของ หมอชีวกโกมารภัท คืนหนึ่ง นางนอนกับผู้ชาย คืนหนึ่ง หรือครั้งหนึ่ง ราคา ค่าตัว ๑,๐๐๐ กหาปนะ และนางก็เป็นพระอริยะเจ้า เป็นพระโสดาบัน เป็นหญิงขายตัว นี่เห็นไหม

พระพุทธองค์ยังไม่ ขัดคอคนเลย แล้วท่านใช้ใจ ตริตรองดูรึยัง ว่าผิดถูกแค่ไหน ถ้ารักษา ศิลข้อนี้ยังไม่ได้ ก็รักษา สัก ๔ ข้อเป็นไร เอาให้จริงจัง สักวันเราก็ชนะ พระโสดาบันยังมีลูกเมียอยู่ อย่าพูดให้คนอื่นเขาเฝือ มันจะเกิดโทษ โดยรู้ไม่จริง คนเรามันมาจากผิด จึงเกิดตัวถูกขึ้น ใครก็ไม่รู้ทุกอย่างหรอกครับ แต่ควร ให้เขาพลิกใจ ในการทำความดี และผมก็ใช้เหตุผลมาอ้างอิง โดยอนุมาน พอให้เจ้าของกระทู้ได้ทราบครับผม




เคยสูบบุหรี่อายุประมาณ 13 เคยคิดและเลิกหลายครั้ง
ด้วยสิ่งแวดล้อมและข้ออ้าง เพิ่งเลิกได้ประมาณ 3ปีที่ผ่านมา
อาจเป็นเพราะมีอาการเจ็บคอแบบเรื้อรัง เลยไปไปซื้อหมากฝรั่ง
ที่ผสมนิโคตินมากิน เคกินจากขนาด 5 มิลลิกรัม และลดลงมาเหลือ
2 มิลลิกรัม กินได้ประมาณ 2 ปีกว่า ท้ายสุดไปอยู่สถานที่หนึ่งซึ่งหาซื้อ
หมากฝรั่งชนิดนี้ไม่มี เลยซื้อหมากฝรั่งชนิดธรรมดามากินเเทนยังรู้สึกเคยชินอยู่

ขอบพระคุณมาก ที่ให้คำชี้แนะ พร้อมยกตัวอย่าง (ขออภัย) ไม่แน่ใจที่เคยได้ยินมา เมื่อพระนาง บรรลุโสดาบัน และพระนางก็เลิกอาชีพนี้ และถ้าจำไม่ผิด
น่าจะอยู่อีก7วัน พระนางก็สิ้นชีพ ถ้าข้อมูลนี้ผิดพลาดรบกวนท่านผู้รู้ช่วยแก้ไข

รู้สึกดีที่ยังมีทางเลือกและพิจารณา

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ EterNalStaR
กามเป็นเรื่องปกติธรรมดาบนโลกค่ะ ตราบใดที่เราๆท่านๆยังเวียนว่ายตายเกิดอยู่นี้ก็ย่อมมีกามเป็นของธรรมดา เพราะกามนั้นอยู่คู่กับการเกิด เพศชายต้องมีกามก็เพื่อขยายพันธุ์ไม่ได้ต่างจากสัตว์เลยแม้แต่น้อย ก็ลองเอามาคิดดูถ้าไม่มีกามทั้งโลกบรรดาสัตว์และมนุษย์จะสูญพันธุ์ไหม


คุณหลายๆคนที่อยู่ในเว็บนี้ชอบเอาแต่ตำหนิและดูถูกคนอื่นจนเป็นวิสัยไปแล้ว โดยเฉพาะในเรื่องกามทั้งๆที่มันเป็นเรื่องปกติบนโลกแท้ๆ


ระวัง...อย่าว่ากล่าวคนอื่นในขณะที่ตนก็ยังเป็นอยู่ เพราะสิ่งที่คุณว่ากล่าวไปนั้นมันจะย้อนกลับเข้ามาหาตัวคุณนั่นแหละ ทำให้เวลาที่พวกคุณปฏิบัติธรรมมันจะเล่นงานคุณแรงมากๆ จนคุณคิดที่จะเลิกปฏิบัติธรรมเลยเชียวล่ะ


ห้ามกามก็เหมือนกับห้ามการเกิด


โมทนาสาธุครับ ขอยืนยัน ที่ประสพมาเป็นอย่างนั้นจริงๆครับคุณ ถ้าคนยังไม่หมดกิเลสแน่นอนกรรมย่อม เข้าหาสู่ผู้กระทำ กรรมแรงมาแรงครับ กรรมเบามาเบา

ศิล ๕ ผิดบ้างถูกบ้าง แต่รักษารักษาใหม่ได้ ถ้าเป็นพระ ขาดแล้วขาดเลย ต่อไม่ได้ อาบัติร้ายแรงนะ เหมือนตาลยอดด้วน อาบัติเล็กน้อย ปรงแล้ว ยั้บยั้ง ดีครับสำหรับเจ้าของกระทู้ ทุกคนไม่ได้รู้ไปทุกอย่าง สิ่งใดรู้ก็รู้ยิ่งๆขึ้น สิ่งใดไม่รู้ ก็จะได้รู้ ครับ และเป็นประโยชน์ ต่อคนอื่นด้วยไม่มากก็น้อย และมีโทษบ้าง เป็น ธรรมดา แล้วแต่ใครจะเอาอะไรครับ ทางมีให้เดินเลือกเอาครับ ไม่มีใครห้าม ของใครของมันอยู่แล้ว ครั้งพุทธกาล พระอริยะขั้นต่ำ ยังมี ลูกผัวเมีย เยอะแยะครับ เขารู้จักแยกแยะว่าอะไร ดีหรือชั่ว เขามีปัญญา

เดี๋ยวนี้ก็ยังมีอยู่ ที่เคยประสพมาครับ คนกินเหล้าย่อมไปคบกับคนกินเหล้า เซียนพระย่อม ไปสู่สำนักเซียนพระ นักเลง ย่อมไปสู่วงค์ของนักเลง พวกรถซิ่งก็ไปซิ่งในหมู่คนซิ่ง ผมเคยไปเคยจีบสาวภาคเหนือ เขามวนยาสูบ ใบตอง คืนหนึ่งสาวๆ มวนให้ดูดเป็นสิบๆมวน ยาวเท่าบุหรี่ซิกก้า ยังไม่ติดเลย อยู่ที่ใจเราครับ ผมว่าเจ้าของกระทู้ มีเหตุผลบางอย่างแน่ จึงได้ตั้งกระทู้เช่นนี้มา ทุกอย่างมันอยู่ที่การตกลง กันครับ ตัวเราน่ะรู้ดีที่สุด ว่าควรทำอย่างไร ทุกอย่างอยู่ที่การ ตั้งใจ ไม่ว่า ถูกหรือผิด

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ บุญทรงพระเครื่อง
คนที่ได้อภิญญาในยุคนี้ยังมีอยู่ ที่เคยไปสำผัสมา ยังศึกหาลาเพศ ไปยุ่งกับกามเลยครับ มันไม่ได้ตัดขาดง่ายนักหรอกครับ ถ้าง่ายดังว่า คงมีพระอรหันต์เต็มเมืองแล้วครับ การตัดกิเลส ที่เคยฝึกฝนมา ทดลองแบบที่องค์ สมเด็จ ว่า ความโกรธ อาศัยความโกรธละได้ ความโลภ อาศัยความโลภ ละได้ ตันหาอาศัยตัณหา นั้นละไม่ได้ ต้องเอากายใจออก ห่างจากกาม จึงจะพอบรรเทาหรือ ออกชั่วคราว กว่าจะละได้ เคยทดสอบมา เป็นดังที่องค์สมเด็จท่านไว้จริงๆครับ ผมก็ละชั่วคราว เข้าป่าไปอยู่ถ้ำ บ้างบางคราว กับมามันเหมือนเดิมแต่ก็ยังดี

ได้รู้ได้สู้กับกิเลสมัน ถ้าไม่ชนะชาตินี้ ชาติหน้าหรือชาติต่อไป เรายังมีสิทธิ์จะชนะกิเลส ได้แน่นอน หรือ เกิดน้อยชาติลงครับ ถ้ายังมีกิเลสอยู่ ใครว่าแน่ เดี๋ยวโดนดีครับ ใครมาแรง เขาก็จะลองแรงเช่นกัน มาก็ไม่ซ้ำหน้าด้วยครับ พวกเราไม่ชอบใจกัน ยังเห็นหนังสือ ยังเห็นตัวคน แต่กิเลสมาร มันมาทำใจของเราใจจิตของเรา ยุ่งวุ่นวายไปหมดครับ ถ้าไม่ชอบ ในการออกความเห็นก็ขออภัยครับผม


ใช่ครับ ลุงๆครับ ผมชอบคำพูดลุงมากเลยครับ.....
__________________

กรรมของพระพุทธเจ้า
เมื่อคิดจะสอน

--------------------------------------------------------------------------------
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย bosslnwskr10 : เมื่อวานนี้ เมื่อ 11:40 AM

 

ลุงแยกคำว่าละ กับคำว่าตัดออกด้วยน้อยคนที่จะแยกได้นะครับ
..
ตั้งแต่เล่นมาน้อยคนจริงๆ ที่จะแยกออกว่าละคืออะไร ตัดคืออะไร หมดคืออะไร
คำพูดลุงเหมือนที่ผมคิดเลยครับ ผมก็ทำได้แบบที่ลุงทำน่ะครับ คือทำได้แค่ละ
คือหนี หรือลืมๆมันไป แต่ไม่ได้หมด...กิเลส



ลุงฝึกอะไร ที่ใหนยังไงเหรอครับ
__________________

กรรมของพระพุทธเจ้า
เมื่อคิดจะสอน

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ bosslnwskr10
ลุงแยกคำว่าละ กับคำว่าตัดออกด้วยน้อยคนที่จะแยกได้นะครับ
..
ตั้งแต่เล่นมาน้อยคนจริงๆ ที่จะแยกออกว่าละคืออะไร ตัดคืออะไร หมดคืออะไร
คำพูดลุงเหมือนที่ผมคิดเลยครับ ผมก็ทำได้แบบที่ลุงทำน่ะครับ คือทำได้แค่ละ
คือหนี หรือลืมๆมันไป แต่ไม่ได้หมด...กิเลส



ลุงฝึกอะไร ที่ใหนยังไงเหรอครับ




ผมก็ฝึกมาตามครูบาอาจารย์ท่านบอก ท่านสอน เพราะท่านเอาคำสอนของพระพุทธองค์มาสอน เราจึงทำได้แค่ว่านั่นแหละครับ แต่ยังเลวอยู่ ครูบาอาจารย์หลายองค์ หลวงปู่หลวงพ่อต่างๆนั่นแหละ ผมไม่อยากเอ่ยเลย ถ้าใครไปปรามาส กรรมมันจะตกอยู่กับเขา ท่านน่ะ สอนเราทุกอย่าง แต่เราเอง เอาดีไม่ได้ต่างหากครับ เพียงแต่ เราเอง ก็พยายามอยู่ สู้กับมันมาทุกรูปแบบครับ อยู่ในถ้ำ อยู่ในป่า ในเหว แม้แต่ ไปห้วยขาแข้ง ในดงดิบ ก็ผ่านมาแล้ว ในเมือง ในกรุง เคยอยู่มาก็ไม่น้อย แต่กิเลส ยังเต็มหัวผมอยู่เลยครับ


พูดน่ะมันง่ายใครๆก็ฝึกได้พูดได้ แต่การกระทำนี่สิ มันทำยาก ตัดยากครับคุณ ผมกล้ากล่าวได้ว่า ไปกราบพระอรหันต์ พระอริยเจ้ามา ก็ไม่น้อย แม้พระโพธิสัตว์ ทั้งผู้หญิงผู้ชาย แม้แต่สัตว์ ที่เกิดเป็นพระโพธิสัตว์ ก็เคยสำผัสมา และเลี้ยงมาด้วย บางครั้ง หรือหลายๆครั้ง เอาชีวิตเข้าแลก ก็ยังไม่ได้ อะไร บางครั้ง ทั้งท้อ ทั้งถอย ก็ต้องไปตั้งต้นใหม่ ถอยมาตั้งหลัก มีกำลัง ก็ไปสู้ กับมันใหม่ แต่ถ้าต้องการจะรู้ว่าไปฝึกที่ไหน ก้เรานั้นแหละต้องฝึกเอง ไปรับคำสอน คำแนะนำ มาจากครูบาอาจารย์ หรือดูตำหรับตำรา ของท่าน


เคยถามท่านครั้งเดียว ไม่ไปถามอีกเลย ท่านตอบมาว่า ตำรามี ธรรมะ เปิดฟัง วันละ ๔ หน ทุกอย่างพร้อมแล้ว ให้ไปค้นเอา ไม่สนใจเอง ในสมัยท่าน หนักกว่าเรา เป็นหมื่น เป็นแสนเท่า แค่ รับคำสอน มาตัวเดียว ต้องทำให้ได้ แล้วค่อยไปรับคำสอน ใหม่ แล้วเรา ฟังธรรมมาตั้งเยอะ ตำราเป็นกอง ทำไม่ได้ นี่แหละ ผมถึงได้พูดว่า ผมยังไม่ได้อะไร กิเลสยังเต็มหัวผมอยู่ เมื่อก่อนผมน้อยใจในครูบาอาจารย์ ทำไมไม่ค่อยสอนเรา แต่คนอื่น ไม่น่าสอนกับสอน มาคิดทีหลัง ท่านจะสอนคน ท่านดูที่คน ว่าสอนหรือไม่สอน สำหรับผม ท่านให้ใช้ ปัญญา หาเหตุและผล จึงไม่สอน ด้วยตัวท่านเอง ให้ไปค้นคว้าเอา ท่านทำไว้ให้พร้อมแล้ว ดังที่กล่าวมาครับ เดี๋ยวมีเวลา พรุ่งนี้จะเข้ามาใหม่ครับ ขอบคุณมาก ที่ชอบครับ

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ บุญทรงพระเครื่อง



ผมก็ฝึกมาตามครูบาอาจารย์ท่านบอก ท่านสอน เพราะท่านเอาคำสอนของพระพุทธองค์มาสอน เราจึงทำได้แค่ว่านั่นแหละครับ แต่ยังเลวอยู่ ครูบาอาจารย์หลายองค์ หลวงปู่หลวงพ่อต่างๆนั่นแหละ ผมไม่อยากเอ่ยเลย ถ้าใครไปปรามาส กรรมมันจะตกอยู่กับเขา ท่านน่ะ สอนเราทุกอย่าง แต่เราเอง เอาดีไม่ได้ต่างหากครับ เพียงแต่ เราเอง ก็พยายามอยู่ สู้กับมันมาทุกรูปแบบครับ อยู่ในถ้ำ อยู่ในป่า ในเหว แม้แต่ ไปห้วยขาแข้ง ในดงดิบ ก็ผ่านมาแล้ว ในเมือง ในกรุง เคยอยู่มาก็ไม่น้อย แต่กิเลส ยังเต็มหัวผมอยู่เลยครับ


พูดน่ะมันง่ายใครๆก็ฝึกได้พูดได้ แต่การกระทำนี่สิ มันทำยาก ตัดยากครับคุณ ผมกล้ากล่าวได้ว่า ไปกราบพระอรหันต์ พระอริยเจ้ามา ก็ไม่น้อย แม้พระโพธิสัตว์ ทั้งผู้หญิงผู้ชาย แม้แต่สัตว์ ที่เกิดเป็นพระโพธิสัตว์ ก็เคยสำผัสมา และเลี้ยงมาด้วย บางครั้ง หรือหลายๆครั้ง เอาชีวิตเข้าแลก ก็ยังไม่ได้ อะไร บางครั้ง ทั้งท้อ ทั้งถอย ก็ต้องไปตั้งต้นใหม่ ถอยมาตั้งหลัก มีกำลัง ก็ไปสู้ กับมันใหม่ แต่ถ้าต้องการจะรู้ว่าไปฝึกที่ไหน ก้เรานั้นแหละต้องฝึกเอง ไปรับคำสอน คำแนะนำ มาจากครูบาอาจารย์ หรือดูตำหรับตำรา ของท่าน


เคยถามท่านครั้งเดียว ไม่ไปถามอีกเลย ท่านตอบมาว่า ตำรามี ธรรมะ เปิดฟัง วันละ ๔ หน ทุกอย่างพร้อมแล้ว ให้ไปค้นเอา ไม่สนใจเอง ในสมัยท่าน หนักกว่าเรา เป็นหมื่น เป็นแสนเท่า แค่ รับคำสอน มาตัวเดียว ต้องทำให้ได้ แล้วค่อยไปรับคำสอน ใหม่ แล้วเรา ฟังธรรมมาตั้งเยอะ ตำราเป็นกอง ทำไม่ได้ นี่แหละ ผมถึงได้พูดว่า ผมยังไม่ได้อะไร กิเลสยังเต็มหัวผมอยู่ เมื่อก่อนผมน้อยใจในครูบาอาจารย์ ทำไมไม่ค่อยสอนเรา แต่คนอื่น ไม่น่าสอนกับสอน มาคิดทีหลัง ท่านจะสอนคน ท่านดูที่คน ว่าสอนหรือไม่สอน สำหรับผม ท่านให้ใช้ ปัญญา หาเหตุและผล จึงไม่สอน ด้วยตัวท่านเอง ให้ไปค้นคว้าเอา ท่านทำไว้ให้พร้อมแล้ว ดังที่กล่าวมาครับ เดี๋ยวมีเวลา พรุ่งนี้จะเข้ามาใหม่ครับ ขอบคุณมาก ที่ชอบครับ


ครับๆขอบคุณมากครับ...

แต่ถ้าถามความถือตน ของผมก็มีพอควรนะครับ.....
มันก็เริ่มมาจากโดนกระทำเยอะๆแล้ว ไม่มีทีระบาย ก็เลยจำๆมาตลอดว่าใครเป็นยังไง....
__________________

กรรมของพระพุทธเจ้า
เมื่อคิดจะสอน

 

bosslnwskr10
สมาชิก




วันที่สมัคร: Dec 2009
ข้อความ: 1,393
Groans: 3
Groaned at 15 Times in 11 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 245
ได้รับอนุโมทนา 766 ครั้ง ใน 297 โพส
พลังการให้คะแนน: 245

คำพูดลุงเหมือนลุงพยายามทำตัวเอง ให้ดูเป็นคนอ่อนโยนนะครับ
การพูดแต่คำหวานๆคำน่าฟัง

ก็มีอนิสงนะครับ ผมจะพยายามทำให้ได้แบบลุงนะครับ
คำพูดอาจจะไม่ดี แต่ผมปรารนาให้ได้มากกว่านี้ๆขึ้นไปอีกนะครับ
__________________

กรรมของพระพุทธเจ้า
เมื่อคิดจะสอน

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ bosslnwskr10
คำพูดลุงเหมือนลุงพยายามทำตัวเอง ให้ดูเป็นคนอ่อนโยนนะครับ
การพูดแต่คำหวานๆคำน่าฟัง

ก็มีอนิสงนะครับ ผมจะพยายามทำให้ได้แบบลุงนะครับ
คำพูดอาจจะไม่ดี แต่ผมปรารนาให้ได้มากกว่านี้ๆขึ้นไปอีกนะครับ


ใครมันก็ไม่ดีหมดทุกอย่างหรอกครับ ตาบใดยังเป็นผู้ศึกษาอยู่ บางคนการพูดหวานๆเขาไม่ชอบกันนะ บางคน ต้องพูดกระโชกโฮกฮาก เขาถึงชอบ คนนั้นมันมีหลายประเภท เท่าที่เจอมา แต่เราก็มิอาจจะตามทัน โลกนี้มันกว้างนัก แต่เนื้อแท้จริงๆผมเป็นคนพูดไม่หวาน ไม่ชอบให้ใครมาเอาใจ และไม่ชอบเอาใจคนอื่น ชอบแบบธรรมดามากกว่า พูด ด้วยความจริงใจ จะยังไงก็ได้ครับ สิ่งใดเราไม่ชอบ เราก็จะมอง ไปดูคนอื่น เราไม่ชอบเขาก็ไม่ชอบ พยยามหลีกเลี่ยง ผมเองก็ฝึกฝนมาทุกรูปแบบ คุยไป เดี๋ยวจะหาว่าอวด ไม่จำเป็นจะไม่เอาออกมาพูด จำเป็นจึงจะใช้มันให้เป็นประโยชนื

แต่ก็อดที่จะผิดพาดเสมอๆ แหละ ผมยังเป็นปุถุชนอยู่ จึงผิดเสมอๆ แต่ก็พยายามอยู่ วันนี้ไม่ชนะ สักวันคงเป็นของเราครับ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จย่อมมีกับเราครับ ในเรื่อง ๑๐๐ เปอร์เซ็น เราชนะแค่ สองสามเปอร์เซ็น ผมถือว่าดีแล้ว และจะทำให้ดี ยิ่งๆขึ้นไปครับ (มันดีกว่าไม่รู้จัก และไม่ทำเลยคุณว่าจริงไหมครับ) เอาเถอะ บางอย่างคุณอาจไม่เข้าใจ แต่ผมอธิบายมา แต่คุณเข้าใจ แค่เรามาแสดง ออกความคิดเห็น แล้วจะให้ถูกใจคนทั้งหมด เป็นไปได้หรือ พระพทุธองค์ ยังทำให้คนหมดทุกข?ได้ไม่หมดเลย และทำให้คนเป็นคนดี ไม่หมด พระเจ้าอยู่หัว ท่านก็ตรัส เราไม่สามารถ ทำให้คนเป็นคนดีได้หมด

แต่เราไม่ส่งเสริญ เขา ควรจะช่วยกันส่งเสริม ให้เขาเป็นคนดี และไม่เลือก คนไม่ดีไปครองเมือง แต่บางอย่างมันก็พูดยากทำยากครับ ควรไม่ไปเข้าข้างคนใจพาล ถ้าเขากับใจ ควรส่งเสริมเขา และสนับสนุน ให้ไปในทาง สัมมาทิฏฐิ ถ้าหลีกได้ควรหลีก หลีกไม่ได้ ก็ชน ไม่ควร ให้ใครมารังแก เกินเหตุ ไม่งั้นบางคน มันได้ใจ เอาใหญ๋ ไม่เลิก ไม่ว่าทางโลกและทางธรรม มันย่อมมีเป็นของคู่กันครับ การปฏิบัติ ก็เช่นกัน มันไม่มีเฉพาะ ในหมู่คนหรอกนะ แต่มารในใจ มันมากกว่านี้หลายพันหมื่นเท่านัก ยากแก่การตัด ของไม่เห็นตัว

ผมว่าถ้านักรบ ที่ชนะศึกคร่ำหวอด มากับการรบ ไม่หนักเท่ารบ กับกิเลสเลย แพ้มันตลอด หาเวลาหนึ่ง ที่จะชนะมัน ยากมากๆครับ ผมกลัวตรงนี้มากกว่าตรงใดๆเสียอีกครับ กำลังใจ ของพระอริยะขั้นต้น ผมว่ามันไม่ใช่คำนวน จากหลักร้อย พัน หมื่น แสน ล้าน ผมว่ามันคำนวนไม่ได้ ต่างหาก ที่จะเข้าถึง ตรงนั้น แล้วยิ่ง พระอรหันต์ ยิ่ง ไม่ต้องไปนึกเลย ถ้าทำถึงโน่นแหละ ถึงจะรู้ครับ แค่ฌาณโลกีย ครูบาอาจารย์ท่านบอก ของเด็กเล่น แล้วของเด็กเล่น ยังทำไม่ได้ แล้วจะไปพูดอะไรกับเรื่องของผู้ใหญ๋ ท่านจริงไหม ถ้าสนทนาเพื่อการศึกษา ก็โอเคครับ

--------------------------------------------------------------------------------
Last edited by บุญทรงพระเครื่อง; วันนี้ at 09:22 AM.

 

มีผู้รู้ท่านใดพอจะแนะนำเรื่องผลของการสักยันต์ได้มั้ยคะ


ดีครับ เจ้าของกระทู้เขาให้ ช่วยแนะนำ ในด้านสักยันต์ ทำความเข้าใจให้ถูก เป็นของดี ครับเรื่องแนะนำเรื่องดี ถูกต้องผมเห็นชอบด้วย แต่การสักยันต์ มันเป็นของ อยู่ในขั้นมนต์ดำ แต่ ครูบาอาจารย์บางองค์ท่าน นำมาใช้ควบคู่กับ ธรรมะของพระพุทธเจ้า มันจึงเกิดประโยชน์ มี ดีกับไม่ดี ดังที่ผมกล่าวมาแล้ว จึงไม่อยากกล่าวอีกครับ ถ้าเขาอ่านพอเข้าใจ ก็จะเกิดประโยชน์แก่เขา ให้เขาทำดีต่อไป ไม่เลิก พ่อเปิ่น ห่างจากบ้านเดิมผม ไม่ถึง ๑๐ โล แล้วผมไปกราบท่าน หลายวาระ ตั้งแต่ท่านยังไม่ดัง อย่างน้อย พ่อผมก็เคย เป้นหมอสักมาก่อน บางครั้ง ท่านยังรู้ ล่วงหน้าเลย คนที่ก่อนตาย พ่อผมเป็นฆราวาส ตายมาแล้ว ๒๙ ปี


อ้อแถมอีกนิด ผมน่ะเคยเห็น พวกลูกศิษย์ หลวงพ่อเปิ่น ฟันกันเองทะเลาะกันเอง ยังไม่เข้าเลย จนมีดบิน อีกคน ก็คนนครปฐมนั่นแหละ ไปเป็นโจร ตอนหลัง ติดยา และอีกหลายเรื่อง คนมันมายิงแก ไม่เข้า เพียงแต่ ลอยจ้ำๆ ตอนหลังแกมาทำร้ายแม่แก น้องชายทนไม่ไหว ตอนแกหลับ เลยใช้มีดมาแทง ตายแหงแก๋ นี่คือประสพการณ์ จริง ผมอยากให้เป็นอุทาหรณ์ มากกว่าครับ ผมบอกชัดเจน ใครเอาไปใช้ในทางไม่ดี ลูกศิษญ์ ท่านน่ะ เห็นตายโหงหลายคน

แต่ท่านผมเห็นจริยาของท่าน คล้ายพระโพธิสัตว์ที่มีพระบารมีมากองค์หนึ่ง ครับ

--------------------------------------------------------------------------------
Last edited by บุญทรงพระเครื่อง; วันนี้ at 09:47 AM

 

มีผู้รู้ท่านใดพอจะแนะนำเรื่องผลของการสักยันต์ได้มั้ยคะ
Porene
สมาชิก


อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Porene
คือไปสักยันต์มาค่ะ ก็ประมาณ 2 ปีได้แล้ว และตอนนี้ก็เริ่มปฏิบัติธรรม ทำกรรมฐานอยู่ มีครูบาอาจารย์ที่ท่านเป็นพระ ทักว่า ถ้าเรามีรอยสักยันต์ หรือไปทำ ณ หน้าทองมา พวกนี้ถ้าอาจารย์ที่เป็นคนสักให้ เป็นคนไม่ดี ประพฤติไม่ดีจริง ก็ถือว่าสิ่งที่เรารับมาเป็นของดำ เรื่องการเจริญกรรมฐาน จะหนักมาก บางรายถึงกับป่วยหนักไป ไม่ทราบว่าผู้รู้ท่านใดมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างคะ จะมีวิธีแก้ไขอย่างไรได้บ้างคะ เพราะตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้วค่ะ ว่าอาจารย์ที่สักให้เราเค้าดีจริงรึป่าว เพราะช่วงนี้เค้าก็มีข่าวอื้อฉาวในทางไม่ดีอยู่ด้วยค่ะ ตอนนี้กลุ้มใจมากค่ะ ขอคำแนะนำผู้รู้ช่วยตอบด้วยค่ะ


เอาว่าเราทำใจของเราให้สบายดีกว่า ถ้าเราไปกังวลมากก็ทุกข์เปล่าๆ ในเมื่อคุณทำมาแล้ว มันจะมีผลไหม ก็อยู่ที่ คนสักให้ ในเมื่อคุณหันมาเจริญสมาธิกรรมฐาน ทีแรกว่าจะเข้ามาดูเฉยๆ จะไม่ตอบ เห็นมีเหตุผลจึงตอบครับ ผมมีประสพการณ์ อยู่บ้าง ผลนั้นมีจริง ทุกอย่าง แต่ไปในแนวของ เดรัชฉาน คาถา มีทั้งคุณและโทษ อยู่ที่คนประพฤติ ประฏิบัติมากกว่าครับ ถ้าเล่าละเอียด ครึ่งวันไม่จบแน่ครับ เอาไปใช้ในดีก็ดีไป เอาไปใช้ในทางไม่ดี ก็เกิดโทษ ทั้งผู้ให้และผู้รับ แต่ส่วนใหญ่ ต้องดูเจตนา ผู้กระทำให้นะครับ ว่าเขามีดีขนาดไหน จริงใจจริงจัง

เพื่อปลดทุกข์ การสงเคราะ หรือเพื่อ บำรุงกิเลส มันมีหลายประเภทนะ ตัวอย่างหลวงพ่อเปิ่น จ.นครปฐม ท่านทำเพื่อการสงเคราะคน แต่ศิษย์ท่านบางคน เอาใช้ในการณ์ จี้ปล้น รักโขมยมี เอาไปใช้ ตีรันฟันแทงกัน ที่เล่ามา คือเจอของจริงมาจึงเล่าให้ฟัง แต่พวกนี้ ถ้าเอาไปทำไม่ดี จะตายโหงเสียส่วนใหญ่ ถ้าเอาไปประกอบในสิ่งดี มันก็อยู่เย็นเป็นสุข เจอแต่สิ่งดีๆ แต่ก็นั่นแหละ จะให้มันดีหมดคงไม่ได้ อยู่ที่เราด้วยครับ บางคนยกตัวเอง เป็นอาจารย์ก็มี สักทีเป็นพันเป็นหมื่น แต่ที่ท่านสงเคราะท่านเรียก เฉพาะ ค่าครูเท่านั้น

ในเมื่อมันมีของจริง ของปลอมมันก้ตามมาครับ ผมไม่รู้ว่าคุณ สักเพื่อเล่น หรือสักเพราะอะไร ในกรณีของคุณ มันมีหลายประเภทครับ จึงยาก การเดา มันอยู่ที่คุณ ไม่ได้พิจรณาทีแรก แต่ถ้าเขา ทำเพื่อ ผลประโยชน์อย่างอื่น มันไม่ยากหรอกครับ ถ้าญาณ กำลังเขาไม่มาก แค่ไปรอดลาว ต้นกล้วย ที่เขาคล้ำไว้ ลาวผ้า น้ำใต้ท้องเรือ หรือน้ำ ข้าว ที่หมากิน เลือกเอาครับ ใช้ได้ครับ ถ้าเราไม่ใช้คาถาปลุก ของมันจะเสื่อมครับ แต่หันมาเจริญสมาธิ คุณทำจิตของคุณไปให้สูง มันก็สู้คุณไม่ได้แล้วครับ ผมไม่คุยมากกว่านี้แล้วครับจะทำให้คุณเฝือไปเปล่าครับ บางคนเขาก็ไม่ธรรมดานะ

--------------------------------------------------------------------------------
Last edited by บุญทรงพระเครื่อง; วันนี้ at 06:35 AM.

 

พี่บุญทรง....พี่ช่างขยันพิมพ์มากเลยนะคะ
ติงยอมแพ้พี่แล้วค่ะ นี่ติงแค่เป็นคนอ่าน ยังรู้สึกว่าโอ้โฮ! พี่ใช้ความเพียรมากเลยนะคะ

 

อยากทราบว่าคนที่มีองค์เป็นอสูรกาย หรือปีศาจคุ้มครองสามารถแช่งคนให้ตายได้ไหมDuchessFidgette
ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต


--------------------------------------------------------------------------------


ทุกอย่างย่อมไม่เสมอไปหรอกครับ ทุกอย่างก็อยู่ที่การกระทำทั้งสิ้น ทั้งเป็นไปได้และไม่ได้ครับ อย่าลืมน่ะว่า คนที่ทำไสยศาสตร์ ไสยเวท ได้น่ะ เขาต้องได้ฌาณ ในขณะนั้นครับ ฌาณ ๑-๒-๓- ก็ได้แล้ว ไปตามกำลัง ของฌาณ ถ้าฌาณ ๔ นี่เขาทำได้เต็มที่ ขณะทำเขามีศิล และมีกำลังมากเหมือนกันครับ เขาเรียกมนต์ดำ แต่คนที่มีศิล มั่นคงในพระรัตนตรัย จะทำได้ยาก หรือได้นิดหน่อย หรือมีของติดตัว มีของครูบาอาจารย์ ถึงจะป้องกันได้ ถ้าทำกับพระอริยอาจได้นิดหน่อย หรือไม่ได้เลย

ผมมีตัวอย่าง ให้ท่านคิดครับ อดีดใกล้ปัจจุบัน หลวงปู่ปาน ขนาดท่าน ได้อภิญญา เป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ ยังโดน บังฟันเลย ท่านเกือบ เอาชีวิตไม่รอด หลวงปู่เนียม เป็นพระอรหันต์ ปฏิสัมภิทาญาณ ยังโดนผี แทงตูดเลย ตอนท่านไปถ่าย หนัก แม้พระอรหันต์ ยังมีเผอ แต่ในการพิจรณากาย ท่านไม่เผอ มีสติตลอดครับ พ่อผมเอาคนบ้าวิชามารักษา เอาโซ่ล่ามกับเสาร์เขายังเสดาะกุญแจหลุดเลยครับ เรื่องนี้มันพูดยากครับ

พวกอสูรกายเขามีฤทธิ์ คล้ายเทวดานะ แต่จำกัด ไม่เหมือนเทวดา เขาใช้กรรม เกือบหมดแล้วครับ เปรตพวก ๑๒ เขาอาจแกล้งได้นิดหน่อย นอกจากคนมีเคราะ พวกสัมภเวสี ก็เช่นกัน ตายก่อนอายุขัย จึงหาที่เกิดใหม่ หรือรอ วันไปสำนักพยายม อันนี้ไม่ได้บอกให้เชื่อแต่ให้ใช้ วิจรณะญาณ ดูเอา ผมถึงได้บอกว่า ทั้งเป็นไปได้ และไม่ได้ครับผม

 

ขอเชิญร่วมทำบุญบูรณะวัดถ้ำเขากะจี(สร้างพระ,ซื้อสี,ทำทาง และอื่นๆ)




ที่ ๕/๑๑/๕๕ วันนี้ได้นำภาพ ไปทำบุญงานกฐินเมื่อวาน ที่ วัด ก.ม.๘ (วัดใหม่ฉายหิรัญ) และวัดถ้ำตะเภาทอง อ.ด่านช้างจ.สุพรรณบุรี ๒ วัดครับ ภาพแรกเป็นหลวงปู่ปาน สร้าเมื่อปีที่แล้ว บัดนี้ เหลือแต่ ขัดและทาสีครับ หน้าตัก ๕ วา ๙ นิ้ว หรือ ๑๐ เมตร ๙ นิ้ว ใหญ่ทีสุดในโลก ในขณะนี้นะครับ ภาพ ๒ เป็นภาพผมกับหลวงพี่อารต์ วัดญายสังวราราม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นำกฐินมาทอด หลายปีแล้วครับ ภาพ ๓ เป็นภาพ สมเด็จองค์ปฐมในศาลาวัด ก.ม.๘ สมเด็จพระศรีอริยะเมตตรัย ทรงยืน และหลวงปู่หลวงพ่อต่างๆครับผม





ติดต่อโดยตรง กับท่าน พระอาจารย์ ณัฐวุฒิ อติชาคโร 080-668-6316
(ณ. สำนักสงฆ์ ถ้ำภังคณีธรรมานุสรณ์) (ถ้ำเขาขจี)
บ้านทุ่งสงบ หมู่ที่ 2 ต.ไผ่เขียว
อ.สว่างอารมย์ จ. อุทัยธานี รหัส 61150

ธ.กรุงไทย สาขาสว่างอารมย์ บัญชีออมทรัพย์
เลขบัญชี 639-0-05198-0
พระณัฐวุฒิ อติชาคโร

ผมเป็นผู้ช่วยดำเนินงาน ติดต่อ ประสานงานในหลายๆเรื่องครับ บุญทรง พระเครื่อง (บุญทรง ทอง) 086-169-7786 และ 081-8866-104 เบอร์ผมครับ


กฐินสามัคคี ของสำนักสงฆ์เขาขจี วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ตรงกับวันเสาร์ครับ ต่อวัดท่าซุงก็ วันอาทิตย์ ๑๑ พฤษจิกายน ๒๕๕๕ (เบอร์แม่ชีสุรินทร์ (089-8366910) (วัดก.ม.๘)วัดใหม่ฉายหิรัญ อ.ด่างช้าง จ.สุพรรณ วันที่ ๔ ตรงวันอาทิตย์ พ.ย.๒๕๕๕ วัดพันท้ายนรสิงห์ วันที่ ๒๕ พฤษจิกายน ๒๕๕๕ ตรงวันอาทิตย์

(หลวงพี่อารต์ อยู่วัดญาณสังวราราม หรือหลวงพี่ พระทัศพงษ์ สุทสโน) เบอร์ของหลวงพี่อารต์ (085-018-5827) จัดกฐิน ๙ วัด สร้างพระใหญ่ๆ ทั่วประเทศ ภาคตะวันออก ตะวันตก เหนือ ใต้ อิสาน ภาคกลาง


ผมได้ถ่ายรูป คู่กับคุณลุงบักเฮง อยู่ตลาด โพธิ์นางดำ อ.สัพยา จ.ชัยนาท ติดต่อ จ.สิงห์บุรี ตอนนี้คุณลุงกำลังจะปั้มพระหลวงพ่อ ฤาษี วัดท่าซุง ให้หลวงพ่อภาวนากิจวิมล วัดท่าซุง ๒ พิมๆพระรอด กับเนื้อดินพิมน้ำมนต์ ประมาณ แสนกว่าองค์ครับ ผมได้ นำแร่ นิล และแร่ต่างๆ ตำเป็นผงไปให้สร้างพระ



ที่ ๕/๑๑/๕๕ วันนี้ได้นำภาพ ไปทำบุญงานกฐินเมื่อวาน ที่ วัด ก.ม.๘ (วัดใหม่ฉายหิรัญ) และวัดถ้ำตะเภาทอง อ.ด่านช้างจ.สุพรรณบุรี ๒ วัดครับ ภาพแรกเป็นหลวงปู่ปาน สร้าเมื่อปีที่แล้ว บัดนี้ เหลือแต่ ขัดและทาสีครับ หน้าตัก ๕ วา ๙ นิ้ว หรือ ๑๐ เมตร ๙ นิ้ว ใหญ่ทีสุดในโลก ในขณะนี้นะครับ ภาพ ๒ เป็นภาพผมกับหลวงพี่อารต์ วัดญายสังวราราม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นำกฐินมาทอด หลายปีแล้วครับ ภาพ ๓ เป็นภาพ สมเด็จองค์ปฐมในศาลาวัด ก.ม.๘ สมเด็จพระศรีอริยะเมตตรัย ทรงยืน และหลวงปู่หลวงพ่อต่างๆครับผม
รูปขนาดเล็ก

 

ขอเชิญร่วมทำบุญบูรณะวัดถ้ำเขากะจี(สร้างพระ,ซื้อสี,ทำทาง และอื่นๆ)




ติดต่อโดยตรง กับท่าน พระอาจารย์ ณัฐวุฒิ อติชาคโร 080-668-6316
(ณ. สำนักสงฆ์ ถ้ำภังคณีธรรมานุสรณ์) (ถ้ำเขาขจี)
บ้านทุ่งสงบ หมู่ที่ 2 ต.ไผ่เขียว
อ.สว่างอารมย์ จ. อุทัยธานี รหัส 61150

ธ.กรุงไทย สาขาสว่างอารมย์ บัญชีออมทรัพย์
เลขบัญชี 639-0-05198-0
พระณัฐวุฒิ อติชาคโร

ผมเป็นผู้ช่วยดำเนินงาน ติดต่อ ประสานงานในหลายๆเรื่องครับ บุญทรง พระเครื่อง (บุญทรง ทอง) 086-169-7786 และ 081-8866-104 เบอร์ผมครับ


กฐินสามัคคี ของสำนักสงฆ์เขาขจี วันที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ ตรงกับวันเสาร์ครับ ต่อวัดท่าซุงก็ วันอาทิตย์ ๑๑ พฤษจิกายน ๒๕๕๕ (เบอร์แม่ชีสุรินทร์ (089-8366910) (วัดก.ม.๘)วัดใหม่ฉายหิรัญ อ.ด่างช้าง จ.สุพรรณ วันที่ ๔ ตรงวันอาทิตย์ พ.ย.๒๕๕๕ วัดพันท้ายนรสิงห์ วันที่ ๒๕ พฤษจิกายน ๒๕๕๕ ตรงวันอาทิตย์

(หลวงพี่อารต์ อยู่วัดญาณสังวราราม หรือหลวงพี่ พระทัศพงษ์ สุทสโน) เบอร์ของหลวงพี่อารต์ (085-018-5827) จัดกฐิน ๙ วัด สร้างพระใหญ่ๆ ทั่วประเทศ ภาคตะวันออก ตะวันตก เหนือ ใต้ อิสาน ภาคกลาง


๖/๑๑/๕๕ วันนี้นำภาพในงานกฐิน ๒ วัดมาให้ อ.ติง และท่านที่มาในกระทู้ชมครับผม ภาพแรกเป็น ภาพเจ้าอาวาส วัดถ้ำเขาตะเภาทอง กับ คณะหลวงพี่อารต์ วัดญาณสัวราราม ภาพที่ ๒ เป็นภาพหลวงปู่ปาน ใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนี้ครับ หน้าตัก ๕ วา ๙ นิ้ว หรือ ๑๐ เมตร ๙ นิ้ว กับหลวงพี่อารต์ วัดญาณสังวราราม และคณะ ที่มาด้วยกันครับ ภาพ ที่ ๓ เป็นภาพ พระใหญ่ ๓ องค์ หน้าตัก ๓ วาเศษ วัดถ้ำตะเภาทอง ครับ ทรงเครื่อง ๑ อนุโมทนาสาธุด้วยกันครับ

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Chumphon Chanjit
กะทู้นี้อ่านแล้วได้ความรู้เยอะเลย ดีจริงๆ


ดีครับได้ประโยชน์ไม่ค้านอยู่แล้ว ใครมีความเห็นอย่างไรก็ไม่แปลก ใครรู้มากรู้น้อยนั่นอีกเรื่องหนึ่งต่างหาก จงเคารพในธรรม สิทธิซึ่งกันและกัน ทุกอย่างย่อมมีผิดพาดได้ครับ ในโลกนี้ มันไม่แปลกสำหรับ พวกพุทธภูมิที่ลาแล้ว ครั้งพระพุทธเจ้ายังมีเลยครับ พระมหากัจจายนะท่านลาสมัยพระองค์ทรงพระชนย์อยู่ ถ้าผิดถูกขออภัย พระเจ้าโกศลเป็นหลวงปู่ปาน เป็นพ่อพระเจ้าปเสนทิโกศล ๆ คือหลวงพ่อฤาษี พระเจ้าแผ่นดิน ในสมัยโบราณ ชื่อซ้ำกันเยอะ จึงทำความเข้าใจใหถูก บางอย่างเอามาพูดในที่นี้ มันก็ไม่เหมาะครับ

หลวงพ่อฤาษี ท่านบอกว่า ลาพุทธภูมิมาช่วยประกาศพระศาสนาให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี ท่านก็ได้รับการพยาการณ์ จากพระพุทธเจ้า ถ้าไม่ลา นับจากพระศรีอารย์ไป เป็นองค์ที่ ๒๒ กัปต่อๆไปครับ ท่านับพระศรีอารย์ด้วย เป็นองค์ที่ ๒๓ ครับ (อ่านให้เข้าใจก่อนนะครับ) เดี๋ยวจะไขว้เขว ท่านกล่าวไว้ว่า ในหลวงของเรา ถ้าไม่ลาพุทธภูมิ (ขออภัยนะครับถ้าผิดก็ขอโทษไว้นะที่นี้ด้วยครับผม) พ่อหลวงถ้าไม่ลาพุทธภูมิ นับถ้าจำไม่ผิด จากพระศรีอารย์ไป เป็นองค์ที่ ๑๗ หรืออีก ๑๖ พระองค์ ที่พระพุทธเจ้าต้องมาตรัสรู้ ครับ

ไปทำความเข้าใจก่อนว่า ตำแหน่งกษัษย์ หรือตำแหน่งพระอินทร์ ตำแหน่งท้าวมหาราช ทั้ง ๔ ก็เหมือนกัน เป็นตำแหน่งกลาง เมื่อองค์นี้ หมดบุญไป องค์อื่นที่มีหน้าที่ มีบุญบารมีถึง จะไปทำหน้าที่แทนครับ คือตำแหน่งว่างนั่นเองครับ (ถ้าอ่านตรงนี้เข้าใจ เรื่องอื่นก็ไม่ต้องอธิบายแล้วครับคุณๆท่านๆ) เพราะมันคล้ายกันครับ พวกคุณลองไปอ่านประวัติ หลวงปู่มั่น หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่หลุย หลวงปู่แหวนสิครับ ท่านจะเข้าใจกว่านี้ ประวัติหลวงพ่อฤาษี บางอย่างเราอ่านมาแล้ว ยังจำไม่ได้เลย คำสอนของพระพุทธเจ้า ต้อง ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันข์จะไปจำอะไรได้หมด ตามแต่ใครจะเอาไปได้แค่ไหนครับ


พระสาวก เป็นพระอรหันต์ ยังเอาไปได้ไม่หมดเลย เราจะเก่งกว่าพระพุทธองค์หรือ เป็นไปไม่ได้ นอกจากคุณไม่ลาพุทธภูมิ แล้วไปให้ถึงนั่นแหละ คุณก็จะรู้อย่างพระองค์ครับ พวกท่านพูดมามันเหตุผล แต่ความรู้ มันรู้ไม่เท่ากันนะครับ รู้มากรู้น้อย เราต้องยอมรับแห่งความเป็นจริงครับ หลวงพ่อฤาษี ผมอธิษฐาน ไปจากบ้าน ท่านยังรู้หมดเลย วันๆเราทำอะไร ท่านก็รู้ เอาคนทั้งโลก ๆไหนก็ได้ท่านบอก ท่านรู้ได้หมด เรื่องอภินิหารของท่าน ผมเจอมามากมาย ครับ จนมีคนมาหาผมให้เขียนลูกศิษย์บรรทึก ผมบอกไม่เอาครับ เพราะเรายังมีกิเลสอยู่ ให้มันตายไปกับเรา

ตอนนี้ที่เขียนเข้ามาอ่าน ก็คนที่เขาบางคนแค่เรียนมา ยังมาเปิดกระทู้เยอะแยะ ผมตัดสินใจ เข้ามา อ่านและตอบท่านๆนี่แหละครับ ผิดถูกก็ขออภัย ในความไม่ชอบใจของ คนบางคนครับ

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ bosslnwskr10
ทำไมพวกนี้เยอะจัง อีกชาติได้เป็นแต่ถอนก่อน
เชื่อได้ยากนะครับ...


ตอบครับ ท่าใจเราไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ รับฟังไว้ก่อนครับ คุณไปทำความเข้าใจได้มันมันอยู่ไม่ลึก อยู่ต้นๆครับ คุณใช้ใจตามไปดู ตอนที่พระพุทธเจ้า เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก ไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ โปรดพุทธมารดาครับ ส่วนใหญ่ ๙๘ เปอร์เซ็น วัดเก่าๆจะมีรูปภาพ ให้ดูครับ ตอนที่ท่านเสด็จลงมาจากสวรรค์ ใครไม่เชื่อก็ไม่ได้ห้าม ตอนนั้น เทวดา พรหม ยม ยักษ์ มาร มนุษย์ คนทั้งหลาย สัตว์นรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัชฉาน มองเห็นกันหมด ท่านใช้ใจตรองดูว่า ไม่ว่าใคร มันเห็น ความอัศจรรย์ ของพระพุทธเจ้า

ใครๆก็ทำความปราถนา อยากจะเป็นพระพุทธเจ้าบ้าง ช่วงนั้นไฟนรกดับ ชั่วครู่ ท่านกล่าวว่า แม้แต่ สัตว์นรก เปรต อสูกาย สัตว์เดรัชฉาน มนุษย์ พรหมบางองค์ เทวดาบางองค์ ที่เป็นปุถุชน ทำความปราถนา เป็นพระพุทธเจ้า กันเป็นแถว แม้แต่มดแดงมดดำ ยังยังทำความปราถนาเลย แล้วพวกท่านคิดดู มดมันอยู่ในรู รังหนึ่ง มีเป็นหมื่นเป็นแสนตัว ผมอยากถามพวกท่านว่า ในโลกนี้มันมีอยู่เท่าไหร่ ใครๆก็ทำความปราถนา แล้วมันทำไปถึงทุกตัว ตนหรือเปล่า ในเมื่อ พระโพธิสัตว์เต็มบ้านเต็มเมือง อย่างนี้ ไปหาค้นเอาน่ะครับ พูดไป เท่าไหร่ มันก็มีคนจำพวก ๒ จำพวก เชื่อกับไม่เชื่อ ดีกับชั่ว คนขวางกับไม่ขวาง มิจฉาทิฏฐิ กับ สัมมาทิฏฐิ สวัสดี

ต่อตอบอีกหน่อยครับ คนเราต้องเปิดใจให้กว้าง สิ่งใดเรายังไม่รู้จริง อยู่ทำใจอยู่กลางๆก่อนครับ ผมขอถามท่าน ผู้ตะแบงหน่อย ในโลกของเรา ทำไม่ถึง มี ประถม ถึงป.๔ ม.๑ถึง ม.๖ มีป.ว.ส. มีป.ว.ช. ผมยังไม่ได้เรียนเลย แล้วยังมี ปริญญา ตรี โท เอก และดอกเตอร์ คนป.๔ มันจะเสือกไปรู้ ดอกเตอร์ หรือจบครับ

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ bosslnwskr10
อ่ะครับ จะลองทำตามนะครับ

แต่ยังไงก็ไม่เชื่อยู่ดีนะครับ.....
เพราะยังไงช่วงบารมีสุดท้าย ต่อให้ได้รับพยากรณ์แล้ว ก็ต้องใช้เวลาถึง4อสงไขย เป็นอย่างน้อย ถึงจะสำเร็จโพธิญาณได้
อย่างพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุปันนะครับ

ถ้าเกิดอีกหนึ่งชาติจะได้เป็นพระพุทธเจ้า ก็น่าจะได้รับพยากรณ์จากพระพุทธเจ้ามาแล้ว

หรือผมเข้าใจผิดตรงใหน ชี้แจงได้นะครับ


เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๘ ผมนั่งฟังหลวงพ่อ ฤาษี พระราชพรหมยานเถระ วัดท่าซุง อ.เมืองจ.อุทัยธานี ที่ศาลาพระพินิจ ท่านเทศเป็นวันพระ ผมจะเอา หัวใจ ที่จำได้ในวันนั้น มาพูด ณเวลานี้จนกลายเป็นเทปและหนัง ที่พระท่านอัดไว้ จะเชื่อหรือไม่เชื่อ ก็สิทธิ์ของท่านอยู่แล้ว ทุกอย่างผมก็อธิบายไปแล้ว บางอย่างไม่ต้องอธิบายอีก ความรู้ที่ได้มา ไม่ใช่ อานตำราอย่างเดียว แต่ไปประสพของจริงมาด้วยครับ หลวงพ่อท่านกล่าวไว้ว่า สายของท่าน อย่างน้อย ติดตามกันมา ๑๐ อสงไขย กำลัยแสนกัป แล้วท่านหยุดนิดหนึ่ง แล้วพูดว่า แต่ส่วนใหญ่ ติดตามกันมา ๑๖ อสงไขย กำลัยแสนกัป สายเรามาจาก วิริยาธิกะ


เมื่อหัวหน้าลา พุทธภูมิ ลูกหลานบริษัท บริวาร พักพวก เพื่อนพ้อง ย่อมลาตาม แต่ที่ไม่ลา กำลังใจเขายังสูงอยู่ แต่ก็อาจจะไปลาใกล้ๆตาย ก็มี ที่ไม่ลาก็เยอะนะ ก็มีเยอะ แต่ส่วนใหญ่จะลา เรื่องเหตุผล พอรู้แต่ไม่ขออธิบาย เพราะรู้ไม่หมด และพูดที่อื่นมาบ้างแล้วครับ จริงๆก็ไม่อยากจะ พูดอีก เพราะพูดมาหลายที่แล้วครับ ผมสัมผัสของจริงมาก็ไม่น้อย คนที่เป็นพระโพธิสัตว์ ผู้หญิงผู้ชาย พระฆราวาส แม้แต่ สัตว์เดรัชฉาน ที่ท่านเกิดมาเป็นพระโพธิสัตว์ และเลี้ยงมาแล้วครับ แม้คนบางคน ขอโทษ แล้ว ยังดันทุรังต่ออีก แสดงว่า มันขอไปทีครับ

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ joolong
หลังๆ รู้สึกจะมีพวก ชอบอ้าง ลพ.ฤาษี เยอะมากๆ ประเภทเอาคำพูดที่ตัวเองจินตนาการขึ้น มาโพสลงตามเว็บ แล้วบอกลพ. ฤาษีเป็นคนพูด รู้สึกจะมีครูบาอาจารย์หลายองค์ที่โดนอ้างมั่วๆแบบนี้ แต่ในเว็บพลังจิต ลพ.ฤาษี จะโดนเยอะสุด

อีกอย่าง อีตาคนเมืองบัวนี่ เก่งมาจากไหนครับ เก่งกว่าพระพุทธเจ้าเหรอ ถึงได้รู้ไปหมด ผมเคยเข้าไปอ่านเว็บแก ผมว่าแกเพี้ยนๆ ไม่เต็มบาทนะ หรือไม่ก็นั่งสมาธิ จนเกิดวิปัสนู ติดนิมิต จนหลังๆ หลุดโลกไปแล้ว


อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ bosslnwskr10
ทำไมพวกนี้เยอะจัง อีกชาติได้เป็นแต่ถอนก่อน
เชื่อได้ยากนะครับ...


ตอบครับ ท่าใจเราไม่เป็นมิจฉาทิฏฐิ รับฟังไว้ก่อนครับ คุณไปทำความเข้าใจได้มันมันอยู่ไม่ลึก อยู่ต้นๆครับ คุณใช้ใจตามไปดู ตอนที่พระพุทธเจ้า เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงสเทวโลก ไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ โปรดพุทธมารดาครับ ส่วนใหญ่ ๙๘ เปอร์เซ็น วัดเก่าๆจะมีรูปภาพ ให้ดูครับ ตอนที่ท่านเสด็จลงมาจากสวรรค์ ใครไม่เชื่อก็ไม่ได้ห้าม ตอนนั้น เทวดา พรหม ยม ยักษ์ มาร มนุษย์ คนทั้งหลาย สัตว์นรก เปรต อสูรกาย สัตว์เดรัชฉาน มองเห็นกันหมด ท่านใช้ใจตรองดูว่า ไม่ว่าใคร มันเห็น ความอัศจรรย์ ของพระพุทธเจ้า

ใครๆก็ทำความปราถนา อยากจะเป็นพระพุทธเจ้าบ้าง ช่วงนั้นไฟนรกดับ ชั่วครู่ ท่านกล่าวว่า แม้แต่ สัตว์นรก เปรต อสูกาย สัตว์เดรัชฉาน มนุษย์ พรหมบางองค์ เทวดาบางองค์ ที่เป็นปุถุชน ทำความปราถนา เป็นพระพุทธเจ้า กันเป็นแถว แม้แต่มดแดงมดดำ ยังยังทำความปราถนาเลย แล้วพวกท่านคิดดู มดมันอยู่ในรู รังหนึ่ง มีเป็นหมื่นเป็นแสนตัว ผมอยากถามพวกท่านว่า ในโลกนี้มันมีอยู่เท่าไหร่ ใครๆก็ทำความปราถนา แล้วมันทำไปถึงทุกตัว ตนหรือเปล่า ในเมื่อ พระโพธิสัตว์เต็มบ้านเต็มเมือง อย่างนี้ ไปหาค้นเอาน่ะครับ พูดไป เท่าไหร่ มันก็มีคนจำพวก ๒ จำพวก เชื่อกับไม่เชื่อ ดีกับชั่ว คนขวางกับไม่ขวาง มิจฉาทิฏฐิ กับ สัมมาทิฏฐิ สวัสดี

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ bosslnwskr10
ไม่ว่ายังไง ผมก็คิดว่ามันไม่น่าเชื่อถือ
และชอบเอาพระอ. มาอ้างว่า...
แต่การที่จะให้เชื่อโดยห้ามแย้ง ห้ามแสดงความเห็น
ยังไงก็ขัดกันวิธีของศาสนาพุทธ

สำหรับผมยังไง อีกหนึ่งชาติจะได้เป็นแล้วถอน ผมว่าเป็นไปไม่ได้
แต่ถ้าบอกว่าอีก1ชาติไดรับพยากรณ์แล้วถอนก่อน

อันนี้ผมว่าพอเป็นไปได้นะครับ


ผมว่ามันไม่แปลกหรอกครับ ถ้าจะลาพุทธภูมิ อย่างพระโพธิสัตว์ บำเพ็ญบารมีมา ในด้าน ปัญญาธิกะ พระพุทธเจ้าตรัสรู้ครั้งหนึ่งใครๆก็ทำความปราถนา จะเป็นพระพุทธเจ้า พุทธภูมิออกมากมาย ลองคิดแบบคนโง่ๆ ถ้ามีแต่พุทธภูมิ เต็มทั้งโลก แล้วใครมันจะ รอคิว ให้ได้เป็นกันหมดทุกคน ก็ในเมื่อ องค์ท่านตรัส จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ เมล็ดทรายในมหาสมุทร ก็ไม่เท่า สัตว์ที่เกิดมานับไม่ถ้วน ถ้าคนบารมีเต็ม รอตัรัสรู้ อย่างเดียว เอาแค่แสนองค์ มันไม่รอเกิน หลายอสงไขยหรือ

แล้ว ไหนจะพวก บำเพ็ญ ศรัทาธิกะ อีกล่ะ บำเพ็ญบารมีตั้ง ๘ อสงไขยกำไลแสนกัป แล้วไหนจะพวก ที่บำเพ็ญบารมี วิริยาธิกะอีก บำเพ็ญบารมีมาตั้ง ๑๖ อสงไขยกัป กำลัยอีกแสนมหากัป แล้วบางช่วง บางกัป มีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้อีก มีคนทำความปราถนาอีก จนนับไม่ถ้วนบ่อยๆ แล้วพระพุทธเจ้าจะไปสอนใครที่ไหน พระพุทธองค์ทรงตรัส ไว้ว่า การเกิด ของพระพุทธเจ้านั้น เกิดได้โดยยากมาก แค่คิดเล่นๆแค่นี้ก็ปวดหัวแล้ว บ้าแล้ว


ใครคิด ถึงความเป็นพระพุทธเจ้า ต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ คิดเอาเอง ท่านบอก พวกบ้า ใครคิด ว่า พระอริยะเจ้าต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ บ้า ใครคิดเรื่องพระอรหันต์ ถ้าทำไม่ถึง คิดไปเองบ้า ใครคิด เรื่องฌาณสมาบัติ ไม่เคยทำไม่เคยถึง ฌาณ ๑-๒-๓-๔ ท่านบอกบ้า ใครคิดถึงเรื่องโลก ต้องเกิดมาอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นโรคบ้า ไม่อธิบายละเอียด พุทธองค์ทรงตรัส ว่า แม้แต่พระญาณ ของพระองค์ ก็ยังมองไม่เห็น ถึงที่สุด

 

อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ bosslnwskr10
ไม่ว่ายังไง ผมก็คิดว่ามันไม่น่าเชื่อถือ
และชอบเอาพระอ. มาอ้างว่า...
แต่การที่จะให้เชื่อโดยห้ามแย้ง ห้ามแสดงความเห็น
ยังไงก็ขัดกันวิธีของศาสนาพุทธ

สำหรับผมยังไง อีกหนึ่งชาติจะได้เป็นแล้วถอน ผมว่าเป็นไปไม่ได้
แต่ถ้าบอกว่าอีก1ชาติไดรับพยากรณ์แล้วถอนก่อน

อันนี้ผมว่าพอเป็นไปได้นะครับ


ขอพูดหน่อยนะครับ ผมจะพูดตอนที่ผม รู้เท่านั้น ถ้าไม่รู้ หรือไม่ได้อ่านมาจะไม่พูด ปี ๓๐ ผมบวช ที่วัดท่าซุง หลวงพ่อ ฤาษีบวชให้ ปีนั้น บวช ๓๐ องคื ปีเดียวกับ พระ อ.เล็ก วัดท่าขนุนครับ ผมได้ฉายาว่า พระสุธรรมมะวิริโย ผมไม่ชอบ ฉายานี้เลย มีความเพียร นำหน้า ผมอยากมีปัญญามาก อารมย์ หงุดหงิด นิดหน่อย นึกในใจว่า ปีหน้า ถ้ากูได้ บวชอีก กูไม่เอา ฉายานี้ จะเอาฉายา พระสุธรรมมะปัญโญ เป็นฉายาของพระ อ.เล็ก วัดท่าขนุน หลวงพ่อท่านพูด สวนมาเลย ท่านพูดว่า บัญชา ถ้าใครบวช ปีหน้า ให้ใช้ฉายาใคร ฉายามัน ไม่ให้เปลี่ยน ผมสดุ้งโหยงเลยครับ

และขอต่ออีกนิดครับ หลวงพ่อท่านพูดว่า จริงๆไม่อยากพูดหรอก ถ้าใครไปปรามาส กรรมมันจะหนัก ในเมื่อเหตุ มันเกิด อย่างนี้ ไม่มีทางเลือก ครับ ท่านกล่าวว่า ท่านเกิดเป็นลูก พระพุทธเจ้าหลายพระองค์ และเจอพระพุทธเจ้า เกินกว่า ๑๐ พระองค์ และท่านเอง ได้เกิด เป็นลูก สมเด็จองค์ปฐม ไม่รู้เท่าไหร่ ตัวหลวงพ่อเอง ท่านก็พูด พระพุทธเจ้า พระยากรณ์ หลายพระองค์ ท่านก็จะได้เป็นพระพุทธเจ้า พระองค์ หนึ่ง ชื่อ จำไม่ได้ ถ้าไม่ลาพุทธภูมินะ แต่พระองค์ท่านได้ลาพุทธภูมิแล้วในชาตินี้ เพื่อมาช่วยพระศาสนา ให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี

ขอพูดอีก ไหนก็ไหนๆ แล้ว ใครรู้จัก สมเด็จองค์ปฐมบ้าง ถ้าท่านไม่กล่าวถึงไว้ เมื่อก่อน ไม่มีใครรู้จักเลย สมเด็จองค์ปฐม ชื่อซ้ำกันหลายพระองค์ ท่านเป็นองค์ ต้นของราชวงค์ พุทธภูมิ พระพุทธสิขีทศพลที่ ๑ บำเพ็ญบารมีมาถึง ๔๐ อสงไขย กัป กำไลยแสนกัป ไม่มีครูอาจารย์มาก่อน ไม่มีต้นแบบเดิน พระองค์ค้นพบพระนิพพาน เป็นองค์แรก เลยบัญญัติ ต้นแบบ และตำราไว้ให้เดิน ใครจะเป็นอะไร ต้องบำเพ็ญบารมี อย่างไร ท่านบอกไว้หมด ไม่สามารถ มาเขียน ไว้ในที่นี้หมด ได้ นี่แค่อีกตัวอย่างเท่านั้น และผมเอง แค่รู้ เรื่อง เศษๆ ยังรู้ ไม่ได้ หนึ่งในแสนในล้านที่ท่านสอนเลย

เอาแค่ สัมผัส ผีเทวดา และสิ่งต่างๆในโลกเรานี้ แทบจะไม่รู้เรื่อง แล้วจะไปรู้อะไร กับโลกอื่น โลกเรานี้ ยังมีอะไร ที่เราไม่รู้อีกมากมายนัก ยังไม่รู้เลย แค่นี้ดีกว่า พูดไป มาก ก็เสียเวลา ไปมากแล้วจบครับ