ไครรู้จักบ้านสวน พีระมิด มั่งครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ล้มเหลว, 19 กันยายน 2012.

  1. bongo1868

    bongo1868 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +7
    รูปข้างล่างนี่ อาจารย์อุบลกำลังทำอะไรอยู่ครับ???


    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2012
  2. ขวานฟ้า

    ขวานฟ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +100
    อ้อ ภาพนี้ผมเห็นอยู่ในเฟสบุ๊คปลอมที่พยายามเขียนด่าคนอื่น ด่าแม้กระทั่งหลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงพ่อจรัลนี่ครับ หากถามผมว่าดูภาพแล้ว คิดว่าอาจารย์อุบลกำลังทำอะไรอยู่นั้น ก็ขอตอบว่า ไม่รู้ครับ เพราะไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรกันอยู่ ทำอะไรกันอยู่ในขณะนั้น และทำไมคนที่สร้างภาพนี้ขึ้นมาต้องพยายามรอจังหวะแค็ปภาพให้ออกมาเป็นลักษณะอย่างนี้ ก็ไม่รู้ว่าหวังให้คนอื่นเข้าใจในทิศทางอย่างไรกันนะ

    ส่วนตัวผมคิดว่าการเห็นต่างเป็นเรื่องปกตินะครับ แต่หากว่าต้องทำเหมือนคนที่ไปสร้างเฟสบุ๊คปลอมเพื่อเขียนด่าคำหยาบคาย ลามก ใต้สะดือ เขียนลามปรามล้อเลียนถึงพระพุทธเจ้าองค์ปฐม พระอริยะสงฆ์ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่บาปหนัก ไม่ใช่วิสัยของชาวพุทธที่มีปัญญาเลย ยิ่งหากคนเข้าไปกดไลค์ด้วย เหมือนการอนุโมทนาบาปกับการกระทำของเขาไปด้วย อันนี้ก็มุมมองส่วนตัวของผมนะครับ
     
  3. ขนมเข่ง

    ขนมเข่ง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +23
    เราได้มีโอกาสไปทำบุญที่บ้านสวนพีระมิดมาด้วยแหล่ะ แล้วตอนที่เรากำลังใช้บุญด้วยแรงกายอยู่ เราก็ปวดหลังขึ้นมา แล้วเราก็อุทิศบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร ปรากฎว่าเราอาการดีขึ้นมาก นั่นแปลว่า เจ้ากรรมนายเวรเขามาแสดงเพื่อที่ต้องการบุญกับเราแน่ๆเลย เพราะหลังจากนั้นเราอาการดีขึ้นถึง 90% แล้วเราก็ทำงานต่อ จากนั้นก็หายปวดหลังไปตอนไหนก็ไม่รู้ เรารู้สึกว่าเรามีความสุขมากๆเวลาเราทำงานที่นั่น
     
  4. ขวานฟ้า

    ขวานฟ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +100
    อ้าวคุณขนมเข่งก็ไปมาเหรอครับ ไว้มีโอกาสติดต่อหลังไมค์เผื่อมีโอกาสไปด้วยกันนะครับ ผมก็ลองไปมาแล้วเหมือนกัน ต้องขอขมาด้วยที่เมื่อก่อนไม่รู้จริงๆไปเชื่อเฟสบุ๊คปลอมที่เขาให้ข้อมูลมาเลยคิดปรามาสว่าไปหลายอย่างเหมือนกัน 555 ตอนนี้ผมติดใจตรงที่ไม่มีเงินก็ให้ใช้แรงกายทำบุญนี่แหละครับ เขาสอนให้มีสติรู้การกระทำตลอดเวลา ใช้ปัญญาเวลาทำงานว่าเราควรทำอะไร อย่างไร ผมว่าถูกจริตผมดี ที่สำคัญคือตอนนี้ชีวิตผมมีความสุขขึ้นมากเพราะรักษาศีลห้าอย่างจริงจังตามที่เขาสอน เพราะผมเห็นตัวอย่างคนที่ได้รับทุกข์ต่างๆจากการละเมิดศีลแล้ว กลัวจริงๆครับ ไม่อยากเป็นเหมือนแบบนั้นครับ :)
     
  5. ขนมเข่ง

    ขนมเข่ง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +23
    ขอมาเล่าเรื่องบาปกรรมที่ตัวเองเคยทำไว้บ้าง เช่นตอนเด็กๆ ช่วย พ่อ แม่ ทำอาหารก็ต้องฆ่าสัตว์ เช่น สัตว์ตัวเล็กๆ ปลา และแมลงต่างๆ ซึ่งผลกรรมนี้ทำให้มีอาการของภูมิแพ้ และยังเคยเห็นดีเห็นงามกับผู้อื่นที่ไปทำแท้งมา เพราะในตอนนั้นเห็นว่าดีแล้วที่ทำ เพราะว่าจะได้ไม่เป็น ปัญหาของสังคมต่อมา แต่ไม่เคยรู้เลยว่าเป็นกรรมหนักมากๆ เปรียบได้กับการยินดีเมื่อคนอื่นฆ่าคน เพราะการทำแท้งก็คือการฆ่าคนนั่นเอง ด้วยเหตุนี้จึงทำให้จิตวิณญาณของเด็กๆต่างโกรธแค้น และอาฆาตไม่ยอมปล่อย ซึ่งหากลองนำมาคิดกลับกัน ถ้ามีใครมาฆ่าเราบ้าง เราก็คงจะแค้นเหมือนกัน อาจจะไม่ต้องถึงขนาดฆ่าเอง แต่ใครมาเห็นดีเห็นงามหรือส่งเสริมให้คนอื่นมาฆ่าเรา เรายังไม่ชอบ เรายังแค้นเลย วิณญาณของเด็กเขาก็แค้นเหมือนกับเรา และอีกอย่างคือกรรมที่ได้เคยทำไว้ในอดีตชาติ คือการ ทำหมันสัตว์ต่างๆ ซึ่งกรรมนี้ส่งผลมาถึงชาตินี้ ทำให้เกิดเป็นกระเทย หรือมีเพสไม่สมบูรณ์นั่นเอง เพราะว่าชาติก่อนเคยไปทำลายเพศของบุคคลอื่น ซึ่งรวมถึงคน และ สัตว์ด้วย ซึ่งถ้าใครอ่านแล้ว ไม่อยากเกิดเป็นกระเทย หรือมีเพศไม่สมบูรณ์ ก็ขอให้อย่าได้ทำให้เพศของคนอื่นเสียหาย ต้แองคิดว่า คนอื่นเขาก็รักชีวิตของเรา หากเราไปละเมิดเขาแล้ว เขาก็ทุกข์ เขาก็ไม่มีความสุข เหมือนกับเรา ถ้ามีใครมาละเมิดเราบ้าง เราก็ไม่ชอบ ไม่มีความสุขเหมือนกัน ดังนั้นเราจึงควรอยู่ร่วมกันด้วยความเมตตา ด้วยความรัก ต้องคิดซะว่า ที่เราทำกับคนอื่นนั้น สักวันมันจะย้อนกลับมาหาตัวของเราเอง แล้วถ้าเราทำไม่ดีกับคนอื่น สิ่งเหล่านั้นก็จะย้อนกลับมาหาตัวเอง เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว เราจึงควรที่จะทำดีกับผู้อื่น เพราะว่าสิ่งดีๆที่ทำไปจะได้ย้อนกลับมาหาตัวเราเอง ถ้าเรารักตัวเอง เราจะต้องไม่ทำลายผู้อื่น เพราะความจริงแล้ว การทำลายผู้อื่นนั้น ก็คือการทำลายตัวเราเอง เราทำร้ายตัวเอง ดังนั้น เมื่อเรารักชีวิตของตัวเอง เราต้องเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ดี ลด ละ เลิก ให้ได้ เพราะว่าเราเลือกชีวิตของตัวเองได้ ดังนั้นจึงอยากให้ทุกคนลองวางแผนชีวิตของตนเอง ว่าอยากจะมีความสุขหรือมีความทุกข์ ชีวิตของเรา เราเป็นคนกำหนดเองทั้งหมด โดยในตอนนี้เราหันมาตั้งใจรักษาศีลมากขึ้น ถึงอาจจะมีพลาดไปบ้าง แต่เราก็พยายามทำให้ดีที่สุด
     
  6. nakoruru

    nakoruru เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2005
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +1,120
    อ๋อ รูปนี้ที่มาจากเฟสบุค"ปลอม"ที่สร้างมาเพื่อ"โจมตีบ้านสวน"นี่เอง พอเข้าใจแล้วจุดประสงค์ของคนที่มาโพสแล้วครับ เพราะในเฟสปลอมนั้นก็มีแต่ คำหบาบคายจรืงๆ ครับ
    ได้เห็นคนที่ไปมา มาเล่าประสบการณ์จริของผมคงไม่มีอะไรน่าสนใจแต่ลองเอา ในเวปบ้านสวนให้ได้อ่านกันครับ

    ขออนุญาติเขียนแทนคุณทัศนีย์ อุปถัมภาสกุล
    กรรมจากการฆ่าสัตว์ในชาตินี้ ทำให้ต้องทนทุกข์ทรมาน
    จากอาการปวดหลัง (หมอนรองกระดูกหลังเสื่อม) มา 20 ปี
    ตั้งแต่ไปทำบุญด้วยการใช้แรงกายที่บ้านสวนพีระมิด ถวายแด่พระ
    บาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และอุทิศบุญกุศลทั้งหมดให้แก่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาบ้านสวนพีระมิด และอ.อุบล รวมถึงสรรพสัตว์ทั้งหลายที่ถูกข้าพเจ้าฆ่าอย่างโหด***มทารุณ ปัจจุบันอาการโดยรวมดีขึ้นมากหากเทียบกับอดีตที่ผ่านมา แค่ปัดกวาดถูบ้าน ล้างห้องน้ำ ก็จะมีอาการปวดตึงและเสียวหลังมาก ต้องทานยาแก้ปวดนอนพักหลายวันอาการถึงจะค่อยๆทุเลา แต่เวลานี้สามารถใช้ชีวิตและทำงานได้ตามปกติ นั่งได้นานขี้น ถึงแม้ว่าจะไม่ชัดเจนมาก แต่อาการก็ไม่ทรุดลงกว่าเดิม ทั้งๆที่ทำงานหนักและต้องก้มๆเงยๆทั้งวัน ( ขนอิฐ ก้อนปูน หิน กระเบื้อง กระถางต้นไม้ เหล็กเส้น เสาปูน ปูกระเบื้อง ดำนา ถางหญ้า ขุดหลุม ฯลฯ ) ส่วนอาการปวดศีรษะและปวดเคืองภายในกระบอกตาที่เป็นมา 2-3 เดือนทุกวันนี้หายสนิทแล้วค่ะ
    กราบ ขอบพระคุณอาจารย์อุบลที่เมตตาให้ลูกมีโอกาสไปทำบุญใช้แรงกายที่บ้านสวน พีระมิด กราบขอบพระคุณบารมีพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาบ้านสวนพีระมิดและอ.อุบล ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2012
  7. Pat2525

    Pat2525 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +56

    อนุโมทนาด้วยนะคะที่ได้สัมผัสบ้านสวน แล้วมีความสุขขึ้น

    ด้วยการรักษาศีลห้าอย่างจริงจัง ใช้ปัญญาทำให้พ้นทุกข์ได้


    เราเองก็ชอบมาก ตรงที่ ให้ใช้แรงกายสร้างบุญ เหมือนกัน

    เพราะไม่ว่าคนจน คนรวย ก็มีโอกาสสร้างบุญได้เท่าเทียมกัน

    และมันก็เป็นบุญที่บริสุทธิ์ มาจากความตั้งใจของเรา

    พูดง่าย ๆ คือ อาศัยกำลังใจของเรานั่นเอง

    งานที่ให้สร้างบุญก็มีหลายประเภท

    ทั้งสร้างวิหารทาน ทำความสะอาดเขตบุญ ทำอาหาร

    ตกแต่งสถานที่ ปลูกต้นไม้ สามารถเลือกได้ตามปัญหาที่เรามี

    เช่น ถ้าเรามีปัญหาผิวพรรณ สิวฝ้า สะเก็ดเงิน

    ก็ให้เน้น สร้างบุญในการทำความสะอาด เก็บกวาดใบไม้ ขยะ

    ล้างห้องน้ำในเขตบุญ ตรงไหนที่สกปรกมาก แล้วทำให้สะอาดได้

    ก็มีอานิสงค์มาก เพราะต้องใช้กำลังใจสูง

    (เราเคยเห็นคนที่ตั้งใจทำความสะอาดอยู่ ๆ สิวฝ้า ก็จางหาย ยุบไปกับตาเลยก็มี

    บางคน ขณะที่ออกไปคุยธรรมทานต่อหน้าผู้คนมาก ๆ เรื่องตั้งใจจะละความโกรธ

    ให้ได้อย่างจริงจัง ด่าวขาวที่หมอว่ารักษาไม่หาย ก็หายไปได้ทันทีกับตาเลยคะ)


    ถ้ามีปัญหาด้านการเงิน ให้เน้นสร้างบุญวิหารทาน

    เค้ากำลังสร้างโรงทาน ก็รีบไปช่วยหยิบจับทำอะไรได้

    ก็ทำตามกำลังของเราให้เต็มที่

    กลับไปก็จะได้รู้เองว่าการงานการเงินดีขึ้นจริงมั้ย



    ส่วนแรงกายที่สามารถปลดเปลื้องได้ทุกปัญหา คือ

    การเขียนธรรมทาน โดยเขียนเรื่องราวของเรา หรือที่เราได้พบเห็น

    แล้วทำให้ผู้อ่านเกิดปัญญา พบช่องทางพ้นทุกข์ได้

    การเขียนสารภาพบาปของเรา แล้วพูดถึงผลกรรมที่เราได้รับ

    ก็ถือว่า เป็นการหยุดยั้งการประกอบกรรมชั่วของผู้อื่นได้อีกด้วย

    เหมือนที่คุณขวานฟ้า เห็นแล้วกลัวจริง ๆ ไม่อยากเป็นแบบนั้นนั่นแหละคะ


    เราชอบวิธีการสร้างบุญในแบบบ้านสวน เพราะเห็นว่าง่าย

    ไม่ต้องลงทุนมาก แต่ได้อานิสงค์มากมายที่เดียว ปลดทุกข์ได้เร็วด้วยคะ

    เราเองตั้งแต่รู้จักบ้านสวนชีวิตดีขึ้นทุกด้านจริง ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 ตุลาคม 2012
  8. bongo1868

    bongo1868 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +7
    มันไม่เกี่ยวกับเอามาจากไหนหรอกครับ รูปนี้มันแพร่หลายไปมากแล้ว เหมือนคลิปมนุษย์ต่างดาวดตาจินินนั่นแหละที่เค้าเอามาล้อเลียนกัน

    สาระสำคัญคือรูปนี้มันเป็นรูปจริงหรือเปล่า ถ้ามันเป็นรูปจริง ทำไมถึงต้องทำท่าทางแบบนั้น

    คือผมเห็นเข้ามาอวยกันเหลือเกิน ที่บอกว่าไปที่นี่แล้วทำให้เป็นคนดีน่ะ ขออนุโมทนาด้วย แต่ดูๆแล้วน่าจะหวังอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์กันเป็นส่วนใหญ่


    แล้วพวกคุณจะขนอับดุลมาเล่าเรื่องต่างๆนาๆ ก็ขนมาเถอะ แต่ยิ่งอ่านก็ยิ่งตลกเข้าไปทุกที ใช้รหัส อ.ช่วยด้วยแล้วหายง่วงนอน อยากไปบ้านสวนเพราะจนอยากจะรวย คือปากก็พูดว่าจะเป็นคนดีๆๆ แต่ไปๆมาๆมาลงที่หวังปาฏิหารย์เหนือธรรมชาติเหมือนกันหมด แทนที่จะปฏิบัติเพื่อหาทางหลุดพ้น ลด ละกิเลส กลับอยากจะมีรหัสวิเศษ ให้ตัวเองสมหวัง เพิ่มกิเลสเข้าไปอีก ดูๆไปก็ไม่ต่างจากพวกขูดต้นไม้ขอหวย อยากรวย หรือพวกบูชากราบไหว้ต้นกล้วย จิ้งจก


    ยังไงคนที่ไปแล้วคิดว่าจะหายโรคก็อย่าละเลยการรักษาตามหลักการแพทย์แผนใหม่แล้วกัน ขนาดพระพุทธองค์ยังมีหมอชีวกเป็นหมอประจำตัวครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2012
  9. ขนมเข่ง

    ขนมเข่ง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +23
    ขอมาเล่าบาปกรรมในเรื่องศีล ข้อ2 ที่ส่งผลให้มีปัญหาทางการเงิน คือ ศีล ข้อนี้ ผิดมาก เพราะว่าเป็นคนที่ชอบของฟรี ใครให้อะไรฟรีนี่จะชอบมาก รักมาก คิดว่าได้ฟรี และคิดว่ามีค่ามาก เช่นใครเลี้ยงขนมหรืออะไรหน่อย จะรักมาก และคิดว่าเขาคนนั้นเป็นดีมีน้ำใจมาก แต่หลายทีที่โดนหลอกใช้โดยไม่รู้ตัว เช่นซื้อของให้เพื่อที่อยากจะให้ทำอย่าง โน้น อย่างนี้ให้ เรียกได้ว่าเข้าไปในกระแสเลือดเลยทีเดียว แค่ได้ยินคำว่าของฟรี จะหัน ขวับไปมองทันที เป็นมาตั้งนานโดยไม่รู้ผลของมันเลยว่า จะทำให้มีปัญหาทางด้านการเงิน การเงินขัดสน และรายรับ ไม่พอสำหรับการจ่าย แต่พอเลิกชอบของฟรี ก็ทำให้มีสภาพคล่องทางการเงินมากขึ้นด้วย ทั้งๆที่ได้เงินมาเท่าเดิม แต่มีสิ่งที่ต้องจ่ายน้อยลง ทำให้มีความสุข และไม่มีปัญหาด้านการเงิน และอีกอย่างคือการลักขโมย จะชอบขโมยของเล็กๆน้อยๆ เพราะเห็นว่าสนุก ตามเพื่อนไป เช่นการขโมยเมนูตามร้านอาหารไปไว้ในกระเป๋าของเพื่อน แล้วก็มาแกล้งกัน ประมานว่า ใครอยากกินอาหารร้านนี้ถึงขนาดต้องขโมยเมนูกลับบ้าน เป็นต้น ซึ่งทำไปด้วยความคึกคะนอง โดยไม่รู้ผลของมันเลยว่า จะทำให้มีปัญหาทางการเงิน และมีอุปสรรคต่างๆตามมาอีกมากมาย และนอกจากจะมี เมนูอาหารแล้ว ยังมี ช้อน ส้อม อาหาร ถ้วย ตะเกียบ และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ผิดทั้งนั้น เพราะความคึกคะนองทำให้เรามีปัญหาและอุปสรรคมากมาย ถึงจะไม่ได้ลงมือทำเอง แต่เมื่อเพื่อนทำ เราไม่ห้าม และยังหัวเราะไปกับเขาด้วย ซึ่งก็ถือว่าผิดเหมือนกัน เพราะศีลผิดได้ทั้ง ลงมือทำเอง ยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นทำผิดศีล และเห็นดีเห็นงามเมื่อผู้อื่นทำผิดศีล ซึ่งจะเห็นว่าศีลเป็นสิ่งที่ละเอียดอ่อนมาก ใครที่ไม่อยากมีปัญหาทางการเงิน ก็ขอให้อย่าได้ทำ หรือกำลังมีปัญหาอยู่ ก็ขอให้คิดออกว่า เกิดจากอะไร เพราะว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากเหตุ ดังนั้นเราต้องแก้ที่เหตุ ผลถึงจะดับได้ หากไม่แก้ที่เหตุ ผลก็จะมีอยู่เรื่อยๆไม่จบสิ้น
     
  10. chunhapong

    chunhapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +731
    อักขาตาโร ตถา คตา อัตตนา โจทยัตตานัง
    ตถาคตเป็นแต่เพียงผู้บอก จงเตือนตนด้วยตนเอง

    กายกรรม มโนกรรม วจีกรรม เป็นเครื่องชี้บอกถึงคนดี มีศีลธรรม
    ใครจะเชื่อ หรือไม่เชื่อก็แล้วแต่เขา เราได้บอกแล้ว พิสูจน์แล้ว

    แม้ใครจะชอบ หรือไม่ชอบ ก็จงระวังอารมณ์จิตของตนเองให้มากด้วย
    อย่าไปโกรธ อย่าไปโทษใคร ไม่มีใครทำร้ายตนเองได้เท่ากับจิตตนเอง
    คนที่เขียนธรรมทานต้องระวังอารมณ์กระทบด้วย ชอบ-ไม่ชอบ เกิดที่จิต

     
  11. Talnoi

    Talnoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +112
    ตัวเองเคยไปทำบุญที่บ้านสวนพีระมิด แต่ไม่บ่อยนัก และศึกษาคำสอนจากเวปไซต์บ้านสวนพีระมิด ตัวเองมีปัญหาเรื่องลูกดื้อ นำความทุกข์ใจมาให้ตลอด (เป็นแอสเพอร์เกอร์ซินโดรม) จากสิ่งที่บ้านสวนพีระมิด ได้บอกไว้ ถ้าใครมีปัญหา ลูกดื้อ ลูกน้องไม่เชื่อฟัง เพราะเราผิดศีลข้อสาม ซึ่งตัวเองก็ทำผิดมาจริง ๆ และตั้งใจรักษาศีลให้ดี ขอขมาเจ้ากรรมนายเวร (ด้วยความสำนึกอย่างจริงใจ) และอุทิศบุญให้เขาบ่อย ๆ ตอนนี้ลูกดีขึ้นมาก ๆ มีความรับผิดชอบ ไม่ไประรานคนอื่นเขา และไม่ต้องกินยาอีกแล้ว ถ้าเราไม่ได้มาทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าเป็นเพราะตัวเราผิดศีลข้อสาม เราเลยต้องได้รับผลเช่นนี้ ปานนี้เราก็ยังคงวิ่งพาลูกหาหมอ ที่ไหนว่าเก่ง ว่าดี เราไปมาหมด พอเราทราบเหตุ และเราตั้งใจดับที่เหตุ เราจึงได้รับผลเช่นนี้
     
  12. ขวานฟ้า

    ขวานฟ้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +100
    เห็นด้วยครับ การเห็นต่างก็เป็นเรื่องปกติครับ แต่เห็นต่างแล้วมุ่งทำลายกัน เป็นการสร้างบาปแก่ตนเอง ไม่ได้สร้างปัญญาแก่ตนเองหรือผู้อื่นแต่อย่างใด สังคมไทยที่มีปัญหาทุกวันนี้ก็เพราะต่างคนต่างมุ่งหาวิธีการทำให้เกิดความรู้สึกขุ่นเคือง ไม่พอใจ นำไปสู่การทำลายกัน

    ในความเป็นจริงแล้วหากเราคิดว่าสิ่งใดที่เราไม่ชอบ ไม่ยินดี ก็จงรู้เท่าทันและปล่อยวาง อย่าปล่อยให้ตนเองเป็นทุกข์ และสร้างกรรมแก่ตนเองเลย หรือกระทั่งคิดว่าผู้คนต่างๆที่มาแสดงความคิดเห็นเป็นอับดุล ซึ่งถือว่ามีจิตใจที่คับแคบเกินไป เพราะต่างคนต่างความคิด ต่างที่มา ต่างมีความทุกข์ เมื่อเขามีหนทางสว่างและมีความสุขเราก็ควรพลอยยินดี ไม่ใช่การคิดว่าเขาคืออับดุลและคอยตลกขบขันกับความพยายามในการทำความดีของคนอื่น หากเป็นเช่นนี้มากๆสังคมไทยก็คงมีปัญหากันมากขึ้น
     
  13. bongo1868

    bongo1868 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +7
    ขอต่อเรื่องการรักษาโรคต่อครับดังที่บอกไว้แล้วว่าพระพุทธองค์เองยังต้องมีหมอชีวกเป็นหมอประจำพระองค์แสดงว่าการรักษาตามแบบแผนของสมัยนั้นๆก็เป็นเรื่องที่ถูกต้อง
    ที่ผมเขียนต่อก็เพราะการรักษาแบบใช้ความเชื่อมันอันตรายและผู้รักษาเขามีวิธีพูดเพื่อปกป้องตัวเอง



    การที่คุณไปรักษาโดยใช้ความเชื่อแบบใดก็ตามตอนแรกๆคุณอาจจะอาการดีขึ้นเพราะคุณมีกำลังใจเพิ่มขึ้นตามหลัก "ใจเป็นนายกายเป็นบ่าว" ก็คนมันมีความหวังอะไรๆมันก็ดีขึ้นจริงมั้ยครับตอนนี้แหละทำให้คุณมีศรัทธามาก เค้าให้คุณทำอะไรก็ทำจะให้ซื้ออะไรก็ซื้อ
    ต่อไปร่างกายที่เจ็บป่วยบางทีมันใช้แต่กำลังใจไม่ได้อาการอาจทรุดลง ทีนี้ถ้าคุณไปถามเค้ามักจะบอกคุณแบบนี้ 1.คุณมีบาปตั้งแต่ชาติปางก่อน 2.เจ้ากรรมนายเวรแค้นหนัก 3.คุณมีบาปที่คุณมองข้ามไปให้ไปลองนึกๆดู 4.คนใกล้ตัวทำบาป 5.คุณยังมีความเชื่อความศรัทธาไม่พอในการรักษาส่วนใหญ่จะมาแนวๆนี้แหละครับ จะเห็นได้ว่าเค้าจะไม่บอกว่าเค้ารักษาไม่ได้ผลหรือเทพอะไรก็แล้วแต่มีอำนาจไม่พอ เค้าโยนมาให้คุณหมด ทีนี้คุณก็เริ่มจิตตกสิครับวันทั้งวันมัวแต่นั่งนึกโน่นนี่นั่นโดยลืมการรักษาที่ถูกที่ควร

    ถ้าคุณยังไม่หายอีกหลังจากทำหลายอย่างมาร้อยเเปด ทีนี้เค้าอาจจะใช้ไม้ตายแล้วล่ะครับ ตอนนี้แหละที่น่าเป็นห่วงและตายมานักต่อนักแล้ว เค้าจะบอกคุณว่าเพราะคุณรักษาตามแพทย์แผนใหม่กินยาที่แพทย์แผนใหม่ให้มา แสดงว่าคุณยังศรัทธาไม่พอและขอให้คุณหยุดทานยาและไปหาแพทย์แผนใหม่ ขั้นตอนนี้แหละตายมามากแล้วหรือไม่ก็อาการหนักเกินเยียวยา


    ทีนี้ถ้าคุณตาย เค้าจะบอกยังไง เค้าก็จะใช้คาถาห้าข้อข้างบนอีกนั่นแหละครับ 1.คุณมีบาปตั้งแต่ชาติปางก่อน 2.เจ้ากรรมนายเวรแค้นหนัก 3.คุณมีบาปที่คุณมองข้ามไปให้ไปลองนึกๆดู4.คนใกล้ตัวทำบาป 5.คุณยังมีความเชื่อความศรัทธาไม่พอในการรักษา
    หรืออาจจะทำให้ญาติพี่น้องคุณสบายใจ ด้วยการบอกว่าคุณมีบุญมากสร้างบุญมามากคุณเป็นเทพเทวานางฟ้าที่หนีมาเกิดและได้เวลากลับวิมาน




    ขอเตือนว่าจะคิดรกษาด้วยความเชื่อแต่ขอให้อย่าหยุดการรักษาตามหลักที่ถูกที่ควรถ้าการรักษานั้นๆเค้าบอกให้คุณหยุดหาหมอหยุดทานยาขอให้คุณพิจารณาให้ดีครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2012
  14. Talnoi

    Talnoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +112
    ครั้งแรกที่ไปบ้านสวนพีระมิด ด้วยปัญหา ปวด บวม ตามข้อมือ กำมือแล้วเจ็บ และนั่งรถ
    ประมาณตั้งแต่ 1 ชั่วโมงขึ้นไป เท้าจะบวม เป็นมาเกือบปี อ. อุบลก็ให้เรานึกว่า เราได้ใช้มือ ทำอะไรไม่ดีบ้าง โอ้ มันช่างเยอะจริง ๆ เช่น ขโมยเงิน ขโมยของ เขียนเอกสารเท็จ ปลอมลายเซ็นต์ ดีลูก ตีสัตว์ ฆ่าสัตว์ เอาของหลวงกลับบ้าน ใช้ของหลวงทำงานส่วนตัว ฯลฯ พอเราพูดจบ อ. อุบล ให้สังเกตุว่าอาการเป็นอย่างไร เรากำมือได้ไม่เจ็บ อาการบวมลดลงเกือบเป็นปกติ ต่อมา อ. อุบล ให้ขอขมาต่อสิ่งที่เราทำ
    และบอกจะไม่ทำอีก และอุทิศบุญ เช้าวันรุ่งขึ้น เราตื่นนอน เรารีบกำมือก่อน ไม่เจ็บเลย ไม่บวมด้วย เพราะปกติจะปวดมากตอนเช้า และตั้งแต่นั้นมา ถึงวันนี้ ประมาณสองปีแล้ว เราไม่มีอาการเหล่านั้นเลย เพราะเราได้ดับเหตุนั้นแล้ว และเราก็ไม่กระทำอีก
     
  15. ิฟ้าหลังฝน

    ิฟ้าหลังฝน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +34
    พูดถึงเรื่องความเจ็บป่วย กับกฏแห่งกรรม ช่างพอดิบพอดีกับเป๊ะเลย :d (สร้างเหตุไว้เช่นไร ย่อมได้ผลเช่นนั่น ) ลองสังเกตดูตัวเองบางนะคะว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่บางครั้งอาจโชคดีที่ยังไม่เห็นผลของการกระทำ แต่ในความโชคดีอาจเป็นความโชคร้ายก็ได้ ดันไปคิดเองว่าสิ่งที่ตัวเองกระทำอยู่เป็นสิ่งที่ดี กว่าจะมารู้ตัวอีกทีก็สายเกินแก้แล้ว ประเภทมะเร็ง(เป็นได้ทุกส่วนของร่างกาย คือทำกรรมหนัก หรือสร้างกรรมมามาก เช่น การเลี้ยงสัตว์ไว้ขาย (บ่อปลา บ่อกุ้ง ปู) ค้าขายชีวิตสัตว์ เป็นนักฆ่า ทุกชนิดฆ่าคน ฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อย โรคที่เป็นรองลงมาก็คือ โรคเบาหวาน หัวใจ(รวมทั้งนักรักหลายคน) ความดันโลหิตสูง โรคผิวหนัง โรคตับอักเสบ และโรคปวดทั้งหมด
    สิ่งที่ได้รับรู้มาจากบ้านสวนฯ คือ ทุกสิ่งเกิดแต่เหตุ หากดับที่เหตุได้ผลก็ดับ ฉันนั้นหากเราต้องการหายเจ็บหายป่วยเราก็ต้องเลิกเบียนเบียนชีวิตผู้อื่นทุกกรณี รักษาศีล 5 (ทำอยู่ที่บ้านก็ได้เหมือนกัน) ทำใจให้ผ่องใส(คิดดี ทำคี) เรียนรู้การทำบุญ อุทิศบุญ ให้ได้ผล
    ลองดูนะคะ การไม่เบียดเบียนชีวิตคนอื่นก็เป็นสุขยิ่งนัก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 ตุลาคม 2012
  16. Talnoi

    Talnoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +112
    เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งกับคุณฟ้าหลังฝน ว่า ความทุกข์ ทุกอย่างที่เราได้รับอยู่ในขณะนี้

    ทั้งปัญหา โรคภัย ปัญหาการงาน ปัญหาการเงิน ทั้งความทุกข์ใจ เป็นเพราะตัวเราเอง

    เป็นผู้สร้างเหตุไว้ทั้งสิ้น เราลองหันมา รักษาศีลห้าให้บริสุทธิ์ ศึกษาการทำบุญ

    และการอุทิศบุศที่ถูกวิธีดู แล้วสังเกตุดูว่า ชีวิตเราจะมีอะไรดีขึ้นไหม ตั้งใจทำเต็มที่

    อย่าหวังผล ลองดูนะคะ
     
  17. nakoruru

    nakoruru เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2005
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +1,120
    ผมสงสัยเหมือนกับครับว่า ที่บ้านสวนพีระมิด เค้าเคยเขียนว่า รักษาโรคด้วยหรือ
    เท่าที่ผมไปมาก็ มีแต่คนไปสร้างบุญ อุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวร ถ้าเขายอมรับบุญของเรา สารภาพบาป+สำนึก และจะไม่กลับไปทำอีก เป็นการแสดงกฎของกรรม
    ส่วนอาการหายนั้นก็เป็นเพียงผลพลอยได้ หากที่คิดที่จะไปเพื่อรักษาโรค หรือแบกความ[SIZE=4]อยากไป คงต้องผิดหวังแหงๆ เลยครั[SIZE=4]บ
    ตอน[SIZE=4]ที่ผมไปมีอาการโรคกร[SIZE=4]ดไหลย้อน [SIZE=4]ก็[SIZE=4]ดูก่อนว่าเกิดจากรรมอะไร ก็เกิดจาก การพูด[SIZE=4]ส่อ[SIZE=4]เสีย[SIZE=4]ด นินทา เพ้อเจ้อ + ความโกรธ พอรู้เหต[SIZE=4]ุ ก็หยุดสร้างเหตุนั้น แล้วก็ สร้างบุญอุท[SIZE=4]ิศให้[SIZE=4]คนที่เคย[SIZE=4] ไปก่อวจีกรรมไว้ สร[SIZE=4]้างบุญไป [SIZE=4]อยู่ดีๆ มันก็หายไปเอง [SIZE=4]แล้วก็ไ[SIZE=4]ม่กลับไปเป็นอีกเลยครับ เลยเข้าใจคำว่า "ทุก[SIZE=4]สิ่งเกิดแต่เหตุ เมื่อเห[SIZE=4]ตุ[SIZE=4]ดับ[SIZE=4] ผลก็[SIZE=4]ดับไ[SIZE=4]ด้" แถมไปแล้วยังได้ความรู็เรื่องธรรมมะ อีกเยอะ รวมทั้งคนที่มาสารภาพบาป ต[SIZE=4]รงนี้ ชอบมากๆ [SIZE=4]ครับเพราะ[SIZE=4]เหมือนเป็นการละอัตตา ตัว[SIZE=4]ตน [/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE][/SIZE]
     
  18. ดินน้ำลม

    ดินน้ำลม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2012
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +131
    ตอบคุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->bongo1868<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6862769", true); </SCRIPT> คุณเอาไปข้อความตรงไหนมาว่าบ้านสวนพีระมิดเป็นที่รักษาโรค ก่อนโพสศึกษาให้ดีก่อนนะครับ บ้านสวนพีระมิดเป็นที่แสดงกฏแห่งกรรม เช่นเจ็บป่วยเกิดจากเคยทำผิดข้อปานา ยากจนมีหนี้เกิดเคยทำผิดข้ออทินนา หรืออื่นๆ
     
  19. Jenny19

    Jenny19 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +97

    บ้านสวนพีระมิดสำหรับเราเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
    ขอเล่าสิ่งที่ตัวเองประสบพบเจอมานะคะ
    ตัวเรามีปัญหาการเงิน ชักหน้าไม่ถึงหลัง เรียกว่าเงินเดือนไม่พอใช้ว่างั้นเถอะ
    แล้วบ้านสวนฯ ก็จัดกิจกรรมเข้าค่ายมา
    ตอนนั้นรู้สึกจะเป็นค่ายหนีความจนนะ เราก็มีความหวังแระ
    เลยสมัครเข้าค่ายดู จากที่เราไม่เคยรู้เลยว่าทำไมเราถึงจน
    ถึงเงินเดือนไม่พอใช้นี่เพราะอะไร เรามารู้ก็ อ.อุบล บ้านสวนนี่แหล่ะที่สอนเรา
    ท่าน ยกคำสอนพระพุทธเจ้ามาเลยว่า


    คนผิดศีล ข้อ 2 ลักทรัพย์ อยากได้ของของคนอื่น โดยที่เขาไม่เต็มใจ
    รวมไปถึงพวกชอบของฟรีด้วย คอยจะเอาเปรียบคนอื่น
    คนที่ทำผิดศีลขอ้นี้ จะต้องพบเจอปัญหาชักหน้าไม่ถึงหลัง
    ได้เงินมาเยอะแค่ไหนก็หมด ไม่เคยพอใช้
    แทบจะเอาเท้าขึ้นมาก่ายหน้าผากเลยค่ะ 555


    มามองดูตัวเอง ถึงบางอ้อเลยค่ะ พระพุทธเจ้าท่านรู้แจ้งแทงตลอด
    เพราะที่ผ่านมา ตัวดิฉันเอง ขโมยเงินแม่เป็นสันดานเลยค่ะ
    ทำมานาน แล้วยังคดโกงด้วย ยักยอกเงินในเครื่องมาเป็นของตัวเอง
    เมื่อก่อนดิฉันเคยเป็นแคชเชียร์
    เงินเกินไม่มีคืนค่ะ เก็บเข้ากระเป๋าเราหมดเรื่อง ผลถึงต้องมาเป็นแบบนี้
    เรียกว่าทุกข์ทรมาน เหมือนตายทั้งเป็น หนี้บัตรเครดิต สินเชื่อ โกง
    หนีเขาหัวซุกหัวซุน ต้องเปลี่ยนเบอร์ หนีเขาทุกรูปแบบ

    จนมาเจอบ้านสวนนี่แหล่ะค่ะ ชีวิตที่เคยดิ่งลงเหวสุดๆ
    แล้วได้ลืมตาอ้าปากได้อย่างวันนี้ เดี๋ยวดิฉันจะมาเล่าให้ฟังนะคะ
    แต่ขอบอกว่า ถ้าชีวิตพวกคุณยังไม่ทำกรรมชั่วอย่างดิฉัน
    ให้ลองเข้ามาดู มาศึกษาเว็บบ้านสวนดู ถือว่าพวกคุณมีบุญ
    อย่าเอาชีวิตตัวเองมาเรียนรู้แบบผิดๆ อย่างดิฉัน
    เดี๋ยวขอไปเรียบเรียงก่อนนะคะ เรื่องมันยาว งานก็เยอะค่ะ
    ขอเวลาเคลียงานตัวเองก่อน แล้วจะมาเหลาให้ฟังค่ะ ไม่ได้โม้นะ
    เรื่องจริงล้วนๆ แต่รอหน่อยค่ะ
     
  20. Pat2525

    Pat2525 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2012
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +56
    ครั้งแรกที่ได้ดูรายการของอ.อุบล

    เราชอบมาก ที่ อาจารย์นำธรรมะมาพูด พูดให้ฟังดูง่าย ๆ

    คุยเรื่องบุญกฐิน คุยเรื่องกรรมผิวพรรณ ฟังแล้วทำให้เรามีความสุข

    ให้คิดว่า การปฏิบัติธรรม เป็นเรื่องง่าย และทุกคน ทำได้จริง

    และเป็นสิ่งที่ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ควรทำ และทำทุกวันในชีวิตด้วย


    ไม่ใช่เพียงไปรักษาศีลตามเทศกาล นั่งกรรมฐานที่วัด

    (ซึ่งสำหรับเรา มันดูยากไป และไม่มีเวลา ทำไม่ได้หรอก)


    แต่ที่บ้านสวนมันดูง่าย ไม่ต้องใส่ชุดขาว แต่ขอให้ใจขาวสะอาดก็พอ

    ทำงานสร้างบุญไป ก็ให้ใจจดจ่ออยู่กับงาน ใช้สติปัญญาสร้างงานให้มีคุณภาพ

    ที่สำคัญ เวลากลับไปบ้านต้องนำธรรมะเหล่านั้นกลับไปปฏิบัติด้วย จึงจะได้ผล

    สวดมนต์ ก็ทำได้ทุกที่ทุกเวลา สมาธิก็เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องนั่งขัดสมาธิเท่านั้น

    แต่ทุกเวลานาที เราทำได้ เวลาทำงาน ก็ให้จดจ่อในงาน

    นั่นคือ สมาธิ ซึ่งแปลว่า ความตั้งใจ

    เวลาขับรถ ก็ตั้งใจขับ จะสวดคาถาต่าง ๆ ก็ได้ ถือว่าได้ฝึกสมาธิ

    ทุกอย่าง เราฝึกที่จิต เพราะเวลาตายเราเอาแต่จิตไป ไม่ได้เอาร่างกายไป


    เรารู้สึกว่าธรรมะแบบนี่สิ ที่ใช่ มันเหมาะกับเรา และคนในยุคปัจจุบัน

    ที่ต้องทำงาน มีครอบครัว มีภาระมากมาย

    จะให้ทิ้งภาระ ทิ้งความรับผิดชอบ หนีไปปลีกวิเวก ก็คงไม่ดี

    เพราะสิ่งที่เราเคยเข้าใจมานั้นมันผิดถนัด

    ความจริงแล้วหากจะปฏิบัติธรรมจริง ๆ มันง่ายนิดเดียวเอง



    และเราเอง ก็ไม่ได้มีอาการเจ็บป่วย เป็นโรคอะไรเลย

    ไม่ได้มีหนี้สิน อะไรด้วย

    แต่มีความทุกข์ทางใจมากกว่า จะเป็นประมาณ เครียด ๆ และเศร้าหมองบ้าง

    (เพิ่งมาเข้าใจสาเหตุ ว่า เพราะเราเคยทำร้ายจิตใจคนอื่นมาก่อนนั่นเอง)


    เราใช้ชีวิตตามคนทั่ว ๆ ไป โดยที่ไม่รู้จุดหมายปลายทางของชีวิต

    เคยคิดเหมือนกัน ว่า คนเราเกิดมาทำไม

    เกิดมาเพื่อเรียน ๆๆ แล้วทำงาน ๆๆ แล้วมีครอบครัว แล้วไงต่ออ่ะ?

    อะไรเป็นเครื่องวัดว่าเราประสบความสำเร็จที่สุดในการเกิดมา?


    แล้วในที่สุด เราก็มาเจอคำตอบที่นี่ ที่อ.อุบล นี่เอง

    ท่านให้ปัญญาแก่เรามากเหลือเกิน...



    เมื่อก่อนคำว่า นิพพาน เราแทบไม่รู้จัก

    และคิดว่า คงจะมีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้นที่ไปได้

    แต่พอมาเรียนรู้ธรรมะที่ถูกตรง จากบ้านสวน

    ถึงได้รู้ว่า เราทุกคน หรือทุกชีวิตที่เกิดมา

    ล้วนมีจุดหมายเดียวกันหมด คือ นิพพาน


    แล้วได้รู้ความหมายของคำว่า นิพพาน

    นิพพาน คือ ความจริง

    (อยู่กับความจริง พูดแต่ความจริง ทำแต่ความจริง)

    นิพพาน คือ ความสุข

    (สุขจนไม่มีทุกข์ใด ๆ อีก สุขจนรู้สึกเฉย ๆ จนไม่ปลื้มกับความสุขนั้น)


    นั่นแหละ ถึงเข้าใจว่า ทำไมท่านถึงเน้นในเราสารภาพบาป

    เพราะต้องการให้เราพูดความจริง ความจริงที่เราเคยเก็บซ่อนเร้น

    ความจริงที่มันติดอยู่ในใจ พอเราได้พูดออกไป จิตใจมันจึงจะเบา โล่งได้จริง


    การสอนธรรมะให้เรามีปัญญา มองปัญหาในชีวิตเราให้ออก

    ว่ามีต้นสายปลายเหตุมาจากสิ่งใด ด้วยการทบทวนศีลห้า รักษาศีล

    แล้วก็บอกวิธีสร้างบุญ ให้เกิดอานิสงค์เร็ว เพื่อให้เราพ้นทุกข์ให้ได้

    เมื่อเราพ้นทุกข์ได้หมด ทั้งร่างกาย การเงิน ครอบครัว จนไม่ต้องการอะไรอีก

    ใจเราก็จะเป็นสุข สงบได้จริง คงปฏิเสธไม่ได้ว่า หากเรายังมีปัญหารอบตัว

    จะให้เรามานั่งสงบ ทำสมาธิ ก็คงเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ



    ความจริงที่น่าคิดอีกข้อ ที่เราได้จากบ้านสวนคือ

    จิตนิพพาน เราสามารถสังเกตได้ตั้งแต่ยังเป็นคน

    ถ้าใจเรามีแต่ความสุข ไม่มีทุกข์ใด ๆ เหลืออีกแล้ว ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว

    นั่นแหละ คือใจที่อยู่ในนิพพาน



    ส่วนนรก ก็ ดูที่ใจของเราตอนเป็นคนเหมือนกัน

    ถ้ามันมีแต่ความร้อนลุ่ม ไม่เป็นสุข มีความทุกข์ด้านต่าง ๆ ในชีวิต

    ก็แสดงว่าจิตเราทุกข์ ร้อน เหมือนอยู่ในนรกนั่นเอง


    ก็คงต้องทบทวนจิตของตัวเองดูในทุก ๆ วันคะ ว่าเรากำลังอยู่ตรงไหน
     

แชร์หน้านี้

Loading...