เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...

เชยมากครับ...ครูวิทย์
จะให้toplus99 เลือกเป็น.ลูกทุ่งลิเก หรือสไตล์เพื่อชีวิตแก่ๆ ..
ว๋ายๆๆ ปะเดี๋ยวเด็กๆแถวบ้านปิดเทอม...ล้อกันแย่ซิ

ถ้าจะขอเทรนด์แนว “ไซ” นักร้องหนุ่มชาวเกาหลีใต้
อย่างพลง "กัมนัง สไตล์"จะรังเกียจหรือเปล่า?
แบบนี้ค่อยดูเข้ากันหน่อย..

มิวสิคมา " โอ้ป.. โอ้ป..ปัง กัมนัง สไตล์ "
ติ่ว..ตะหลิ่ว.. ติ่ว.. ติ๊วติ่ว

มาเที่ยวแอบส่องเรา..
ว่าเราจะไปปลายทาง..โน่นนี่
ปะเดี๋ยว..บอกยักษ์ตีหัวเอาเด้อ! (หยอกเล่น..นะจ๊ะ)

เรานี่ไม่กล้าบอกใครเขาดอกว่าจะไปไหน...กลัวโดนเจาะเรือล่ม
ว่ายน้ำยังไม่แข็งจะจมน้ำตาย..ซะก่อน
ขอก้มหน้าก้มตาพายเรือไปเรื่อยๆดีกว่า จังวะดีเราก็ค่อย..ชะแว๊ป!

เพราะเราเองก็คงสร้างเวร สร้างกรรมชั่วมามาก..หลายภพชาติเช่นกัน

หากเขารู้ เขาได้ยินอยากมาทวงคืนบ้าง ก็ไม่รู้ชีวิตชาตินี้จะพอจ่ายค่าดอกเบี้ยกรรมเก่ารึเปล่า อะดี๊!

พระอาจารย์ท่านเล่าว่าดังนี้..เข้าใจกันเน๊อะ!

 

ท่านผู้รอชมรอฟังทั้งหลาย ชาชินเอ้ยย.. คุ้นชินกับรายการฉายหนังของท่านtoplus99ซะแล้วอ่ะ
เคี้ยวป๊อบคอร์น แทะอ้อยควั่น รอกันไปจนลิ้นชา ว่าจะหันไปคว้ากระดูกของไอ้ตัวแสบมาแทะมั่งเห็นมันทำตาขวางๆเลยต้องยอมวางคืนมันไป
ท่านอย่านั่งทับเรื่องนานเกินไปนะค๊า เดี๋ยวริสซี่ลูกพี่ลูกน้องกะริดสีดวงจะมาเยือนนะ ลุกๆขึ้นมาเล่าเรื่องที่มากมายให้กระจายมั่งเห้ออ อิอิ
(deejai)(deejai)(deejai)

 

นี่ไงหนึ่งในตัวอย่าง..มาแล้วๆ
อย่ามาขู่กันเด้อ! ไม่กลัวดอก

อยากเป็นอิหยังก็แล้วแต่เจ้าถนัด เรารึก็รออู้งาน..อยู่นี่ไง

บอกว่าจะรีบทำงานให้ ยังมาไล่อีก..ชิ ชิ

"โอย..ข่อยเครียด! !"

 

ยอม .... ผมยอมท่านพี่จิง อิอิอิ

คารมเช่นนี้หนอ วาจาเช่นนี้หนอ ถึงมีผู้ตีตั๋วรอชมกันมิใช่น้อย อิอิ

เอ้า ...... ก้มหน้า ก้มตา พายกันไปครับ
ไปแบบเรือลำน้อยๆๆๆ ค่อยๆไป มิต้องกังวลต่อสิ่งใดมีอะไรมา เราก้อพายเรือไปครับท่านพี่ ..... เงยหน้ามา จ๊ะกัน อย่ามาขำกันนะ 5555

กรรมนี้เป็นของเฉพาะตัว ..... ก้อต้องค่อยๆจัดการกันไปเน๊อะพี่เน๊อะ
ยังงัย ยังงัย ก้อต้องไป .....

สงสัย ข้าพเจ้า จักต้องไปพบท่านพี่ ณ ดิแดนแห่งที่ราบสูง แน่แล้ว ....
ว่าแต่ไปแล้ว ช่วยเคลียร์ เจ้าอะไรนะ ที่มันไล่ฟัดท่านพี่ให้ผ้มด้วยนะกั๊บบบ
ผ้ม ยังไม่อยาก ...... บรื้ออออออ แค่คิดก้อเสียวเลี้ยวววว อิอิอิ

เอ้าาาา ท่านพี่ มาคุยกับผ้ม ..... หันหลังไป คนรอชมเพียบเลย ผมจะโดนตีหัวไหมเนี่ย ....

กราบขออภัยผู้ชมทุกท่านครับ ....
ขอลุกกลับไปปูเสื่อ นั่งกินหมึกย่างรอหนังฉายก่อนครับผม .....

ฟิ้ววววววววววว....

ปล. ท่าน PSY แห่งเมืองย่าโม .... ตกลง กังนัมสไตล์ หรือ กำนันสไตล์ค้าบบบบ อิอิ

 

มาปูเสื่อรอด้วยคนค่ะ เพราะหนังเรื่องนี้เข้าใกล้ชีวิตจริง ไปอีกแบบค่ะ คุณ toplus ในช่วง 5 ปีมานี้ มีข่าวคนรอบตัวและญาติของเขาตัวเสียชีวิตด้วยมะเร็งไปไม่น้อย


ขอบพระคุณค่ะ

 

เรื่องแพทย์ทางเลือกน่าสนใจอย่างยิ่ง เดี๋ยวนี้คนก็หันสนใจกันเยอะ ใกล้ตัวเลยน้องชายทำงานการบินไทย เดี๋ยวนี้ยังหันมาสนใจน้ำหมักชีวภาพ แต่ก็ต้องใช้เวลาน่ะ

 

โอ๊ะ โอ... ลานเพลินแห่งธรรมวันนี้ ดูคึกคัก เต็มไปด้วยหมู่มวลมิตรเยอะแยะเลย ดีค่ะ ดี

 

ของ Toplus99 เอง ในระยะหลังๆนี้มีเพื่อนร่วมงานเป็นมะเร็งไปแล้ว 3 คน
เดินทางล่วงหน้าไปแล้วหนึ่ง เหลืออีก 2 ราย ที่ใช้ชีวิตด้วยใจหวิวๆ

ส่วนเพื่อนในสมัยเรียน แบ่งกันเป็นมะเร็งปอดไป 1 ราย(รายนี้สูบบุหรี่จัดมาตั้งแต่เรียนปวช.)

อีกหนึ่งรายก็เอา มะเร็งลำไส้ ไปสัมปทาน ครั้งแรกหลังจากปวดท้องมากไปหาหมอ ตรวจพบว่าเป็นมะเร็งระยะที่ 3 ซะงั้น อยู่พักฟื้นบ้านได้ 2 สัปดาห์ ก็ไปทำงานได้เข้าวันที่ 3 ก็มีปวดท้องอีกที ระหว่างส่งไปหาหมอ คราวนี้พวกก็แวะลงวัดเลย..ไม่ต้องกลับบ้านแล้ว..
ที่รู้มา..ต่างล่วงหน้าเป็นผีรุ่นพี่ไปแล้วทั้งคู่

และมีอยู่ครั้งหนึ่งเคยไปติดต่อขอให้เจ้าของสวนไม้ประดับ ออกแบบจัดสวนสำนักงาน
แกบอกว่า "ผมคงทำให้ไม่ได้แล้ว...เพราะผมมะเร็งปอด ระยะที่3 หมอให้ทำใจได้แล้ว"

นักออกแบบสวนท่านนี้ประวัติดีมากเลย...พูดจาไพเราะ นิ่มนวล มีมนุษยสัมพันธ์ดี เหล้าไม่กิน บุหรี่ก็ไม่สูบ บ้านก็อยู่ในสวนต้นไม้ใหญ่รายล้อม ทำงานอยู่กับต้นไม้ใบหญ้า ออกแบบงานศิลปะทั้งงานสวน และงานสถาปนิก ส่วนใหญ่ก็เป็นแนวออกแบบจินตนาการธรรมชาติต้นไม้เป็นส่วนใหญ่ ไม่มีอะไรที่พอจะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งปอดเลย

แต่ไหงดัน..จะมาตายด้วยโรคมะเร็งปอด ซะฉิบ
ทั้งที่ชีวิตนี้แทบไม่เคยแตะบุหรี่ด้วยซ้ำ ช่างน่าแปลกนัก! ป่านนี้ยังอยู่หรือไม่ ยังไม่ได้ตามผล

======

แถมให้อีกราย..คนในหมู่บ้านเดียวกัน อายุประมาณ 50 ปีกว่า

เพื่อนบ้าน มาขยั้นขะยอชักชวนให้ไปเป็นเพื่อนหน่อย จะไปโรงพยาบาลตรวจหาเชื้อมะเร็ง
กลัวว่าตัวเองจะเป็นโรคร้ายนี้ จะได้ป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ
ผลตรวจออกมาตัวเจ้าของเองปรกติดี ก็เลยเอ่ยปาก

"เอ๊า ไหนๆก็มาแล้วที่กรุงเทพนี้แล้วทั้งที เธอไม่ลองตรวจดูหน่อยเหรอ?"

ผลปรากฏว่าคนที่มาเป็นเพื่อน ใจอ่อนยอมตรวจด้วย

เป็นเรื่องล่ะที่นี้ ถูกหวยรางวัลที่ 1 จากยมบาล

"คุณเป็นมะเร็งระยะที่ 3 แล้ว"(จำชื่อไม่ได้ว่ามะเร็งอะไร)
จากนั้นกลับมาบ้าน ข้าวปลากินไม่ลง ทำใจไม่ได้ อยู่ต่อมาอีก 2 เดือนเศษ ก็ออกเดินทาง....ไปรับรางวัลจากยมบาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เอากะเขาเถอะ..มะเร็งนี่มันร้ายนะ

.... ต้องอยู่กับเขาดีๆอยู่แบบถ้อยที ถ้อยอาศัยกัน เมตตากัน
...อย่าไปขัดใจเขา
..อย่ากินอะไรที่เขาไม่ชอบ โดยเฉพาะประเภทเนื้อสัตว์เขามันประเภทมังสวิรัติ ปากบางไม่ชอบ รสจัดปรุงแต่ง
...ต้องหมั่นทำบุญสุนทาน เจริญสมาธิ พรหมวิหารสี่ อยู่เป็นนิจ
...อย่าเป็นคนขี้หงุดหงิด โกรธง่าย
...บริหารกายใจ ให้แข็งแรง หายาธรรมชาติรักษากันไป
...หมั่นพิจารณาว่า สังขารนี้มันไม่เที่ยง
"กายนี้..สักแต่ว่ากาย..มิใช่สัตว์บุคคล ตัวตนเรา เขา"
"จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว" ต้องฝึกจิตให้อยู่เหนือกาย

เพราะเขามา...เพื่อทวงสิทธิ์ ทวงบ้าน ทวงบางอย่างของเขาโดยชอบธรรม และถ้าเขารู้ว่าเรา..ไม่ค่อยหวงห่วงบ้านนี้แล้ว
เขาก็ไม่ค่อยอยากแกล้ง อยากมายุ่งกับเราเท่าไร

ถ้าเขารู้ว่าเราหวงบ้านเขา..ขัดใจเขา โกรธเกลียดเขา

แล้วเขาก็จะอาละวาดขึ้นมาบ้างล่ะทีนี่...
..เจ้าของร่างที่มันอยู่ด้วยนี่..ก็จะลำบากและทรมานจริงๆพับผ่าเถอะ!

 

# เรื่องการทำกัวซา และโรคมะเร็ง ตามแนวทัศนะคติของ topls99
(เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณ)

บอกก่อนว่าเรื่องนี้มันยาว...และหมิ่นเหม่ต่อความเชื่อของอีกหลายท่านแน่นอน แต่ลองมาดูกันก่อนว่าเหตุใดจึงพูดว่า
การทำกัวซา ส่งผลให้มีการติดเชื้อโรคร้ายบางอย่าง ที่อาศัยอยู่ในกระแสของเลือดพิษนี้ได้ถึงผู้อื่น หรือเคลื่อนที่ไปยังตำแหน่งร่างกายส่วนอื่นได้เช่นกัน บางทีเมื่อท่านทำกรรมวิธีนี้โดยยังไม่รู้ปัญหานี้ ที่อาจเป็นอีกศาสตร์ที่ท่านคาดไม่ถึง หากไม่เข้าใจ ก็จะมีผลให้ท่านเจ็บจริง ป่วยจริง ติดเชื้อนี้ได้จริง และพิสูจน์ได้จริงเหมือนกัน..และเมื่อท่านเข้าใจตามที่ Toplus99 วิเคราะห์แล้ว ท่านก็สามารถทำ “กัวซา”ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น จากภัยที่ท่านมองไม่เห็นได้ด้วยสายตา..อย่าประมาท!
เอาว่าไม่ธรรมดาแน่ล่ะ..ลองดูนะครับ.นับ..3,2,1 เริ่ม.....


การตายของมนุษย์หลักใหญ่ๆเท่าที่นึกได้ก็มีอยู่ไม่กี่อย่าง
1. ตายด้วยเหตุเพราะหมดอายุขัย
ให้ละจากโลกนี้ไปตามกำลัง แห่งบาป-กุศลผลบุญ ที่เคยสร้างสมมาจากอดีต ซึ่งอาจเสียชีวิตลงด้วยเหตุแห่งอายุมากแล้ว โรคภัยทั้งหลายย่อมเข้าโหมคุกคาม หรือจากความเสื่อมสภาพของอวัยวะร่างกายอื่นๆทั้งปวง รวมถึงการเสียชีวิตแบบจากด้วยอุบัติเหตุภัยร้ายทั้งปวง จากผลกรรม การที่เคยคร่าผลาญตัดทอนชีวิตผู้อื่น มาส่งผลไว้ให้เสียชีวิตด้วยกรรมผูกพันธุ์
<O</O
2. ตาย ด้วยเหตุแห่ง กุศลและอกุศลกรรมหนักหนา ให้ผลมาตัดรอนกำหนดก่อนอายุขัย
ส่งผลจนสังขารแห่งธาตุทั้งสี่ มิสามารถประชุมรองรับกายเนื้อนี้เอาไว้ไม่ได้ เช่น กุศลกรรมอันเลิศยิ่ง ดังมีฆราวาสที่เจริญวิปัสสนาญาณจนบรรลุถึงคุณธรรมขั้นสูงระดับอริยะบุคคล อรหันต์ผล แล้วภายในเจ็ดวัน ยังมิถือบวชรักษาพรหมจรรย์ในเพศบรรพชิต รักษาศีล 227 ข้อ ย่อมส่งผลให้ต้องจากโลกนี้ได้เช่นกัน หรือ สร้างกรรมชั่วร้ายหนักหนาบางอย่าง เช่น ทำร้ายพระพุทธเจ้าแม้เพียงนิ้วเท้าห้อพระโลหิต ด้วยบาปกรรมหนัก แม้พื้นธรณียังไม่สามารถประคองร่างไว้ได้ ทรุดจมลงผืนดินล่าง เช่น พระเทวทัต ที่ปรากฏเป็นร่องรอยหลุมหลักฐานปัจจุบันในประเทศอินเดีย,หรือการทำลายผลาญผู้มีคุณธรรมสูงทั้งปวง ย่อมส่งผลให้อายุขัยสั้นลงได้รวดเร็วแน่นอน
<O</O
3. ตายด้วยเหตุแห่งความประมาทของตน เช่น ดื่มสุราเมามาย ขาดสติขับรถแหกโค้งตกเขา หรือการกระทำการใดๆด้วยความประมาทคึกคะนอง ทั้งที่สามารถเลี่ยงผลอันตรายนั้นได้ เป็นต้น

4. ตายด้วยเหตุแห่งการทำลายชีวิตตนเอง เช่น การฆ่าตัวตาย เป็นต้น

ส่วนเหตุผลการตายด้วยสาเหตุข้ออื่นยังนึกไม่ออก! อ้อ..นึกได้แล้ว
5. ตายด้วยการพรากจิตวิญญาณ ของผู้มีอำนาจเหนือมิติโลกมนุษย์ แล้วไม่อาจกลับคืนร่างเดิมได้ทันเหตุการณ์
และอีกอย่างคือการถอดจิตวิญญาณออกไปยังภพภูมิอื่น แล้วหลงลืมเวลามนุษย์/โดนกักขังวิญญาณโดยผู้มีอำนาจสูงกว่า
หรือถูกบุคคลในโลกมนุย์ทำลายร่างกายเดิม ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ทำให้ร่างกายสูญเสียสภาพการดำรงอาศัยอยู่ของจิตวิญญาณเดิมได้อีก..
สาเหตุคงหมดแล้วมั๊งนะ?

<O</O
แล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับการทำกัวซา ที่ขึ้นหัวไตเติ้ลมา ก็เพียงอยากให้รับทราบว่า
สัตว์โลกทั้งหลายย่อมมีกฎแห่งความเสื่อม ความสิ้นไปของสังขารร่างกายเป็นธรรมดา
และร่างกายนี้เราหาได้มีการประชุมกันอยู่เพียงดวงจิตวิญาณเรามาอาศัยอยู่เพียงลำพังก็หาไม่ ยังมีเซลล์อื่นที่ประกอบกันขึ้นมาอยู่ในร่างกายเราอีกมากมาย เช่น เชื้อโรคทั้งหลาย จุลินทรีย์อีกมากมาย แบคทีเรีย ปาราสิต เชื้อรา และอื่นอีกสารพัดนับหมื่นนับล้านเซลล์ ที่ก่อขึ้นมาเป็นร่างกายเรา

และยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจยังไม่เคยรู้ มาก่อนก็ได้ หรือไม่คิดว่าจะเชื่อด้วยซ้ำไป ที่หมอแผนทางเลือกเรียกกันว่า อาการเลือดเป็นพิษ ที่ปรากฏเป็นร่องรอยเหมือนการห้อเลือด ปรากฏให้เห็นบนผิวหนังชั้นนอกในรูปแบบที่แตกต่างกันไปตามอาการความรุนแรงที่สะสมของเชื้อร้ายที่อยู่ในร่างกาย

บางครั้งแม้ไม่มีการทำกัวซา ก็ปรากฏร่องรอย เขียวจ้ำบนผิวหนังได้บางที่ ที่คนโบราณเรียกกันว่า ” พรายย้ำ”
พรายย้ำ แพทย์ยุคใหม่อธิบายว่า <O</O
เกิดจากความผิดปกติของหลอดเลือด

- เกิดจากการอักเสบของหลอดเลือดเช่น โรคภูมิต้านทานผิดปกติ (Autominiume Disease หรือ Connective Tissue Disease) รวมทั้งโรคที่มีดาราดังหลายคนเป็น คือ เอสแอลอี (SLE)
- เกิดจากเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ซึ่งเป็นส่วนประกอบของผนังหลอดเลือดที่มีความผิดปกติทำให้เส้นเลือดเปราะ ฉีกขาดง่าย เช่น ในคนสูงอายุ พบมากบริเวณหลังมือ ข้อมือซึ่งมักมีขนาดใหญ่ แบนราบ กดไม่จางและมีขอบเขตที่ชัดเจนเมื่อได้รับการกระทบกระแทกก็จะเกิดจ้ำเลือดง่ายแม้ว่าจะเป็นการกระทบกระเทือนเพียงเบาๆ เท่านั้น จ้ำลักษณะดังกล่าวจะค่อยๆจางหายไปโดยไม่ต้องทำอะไร และไม่มีอันตรายใดๆ หรือในคนที่ขาดวิตามินซีก็อาจทำให้เนื่อเยื่อเกี่ยวพันมีปัญหาได้
- เป็นปฏิกิริยาจากการได้รับเลือดของคนอื่น
- โรคมะเร็งบางชนิด เช่น Carcinoma , Myeloproliferative Disorder
- นอกจากนั้น ยังมีโรคบางชนิดที่ไม่มีคำแปลภาษาไทยเช่น Amyloidosis , Ehlers-Danlos Syndrome , Osler-Weber-Rendu Disease<O</O

 

. .

 

<table class="tborder" width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> supatorn, pegaojung+
วันน้ตื่นแต่เช้าเลยนะคะpegaojung เมกาี่สี่โมงเย็นครึ่งจ้า(kiss)
</td> </tr> </tbody></table>

 

แม่ต้อย Supatorn นี่นับวัน..ยิ่งพิมพ์ตัวเล็กลงๆ เรื่อยๆ หนักข้อขึ้นทุกที

ช่างไม่เห็นใจชาวกระทู้ท่านอื่นเลย ..
แกล้งผู้อื่นให้ปวดตา ยาม ส.ว ระวังจะเป็นบาปเด้อ..

จะลีบเล็กไปไหน..กะว่า พิมพ์คนเดียว อ่านคนเดียว รู้เรื่องอยู่คนเดียว สบายใจดีว่างั้น..ซิ

ขอตัวใหญ่อ่านง่ายๆหน่อยครับ..ผมสายตานับวันก็แย่ลงเรื่อยๆ
ยังต้องมาเจออะไรที่เล็กๆนี่
..มันปวดตา (eek)แล้วระบมปวดร้าวไปถึง..หัวใจ(tm-love)

 

ขออนุญาติอาจารย์ใช้กระทู้ของท่านเพื่อให้พี่น้องญาติมิตรที่เข้ามาอ่านกระทู้ของอาจารย์

ช่วยกันเผื่อจะเป็นประโยชน์แก่ญาติ ๆ ใครได้บ้าง

เจลลี่ พระราชทาน เป็นเงินส่วนพระองค์ของในหลวงทำออกมาแจกให้กับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งในช่องปาก
และ ผู้ป่วยที่เป็นอัมพฤก อัมพาต ผู้ป่วยที่ไม่สามารถกินอาหารได้ต้องให้อาหารทางสายยาง
ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับการบดเคี้ยว ลิ้นแข็ง เบื่ออาหาร ทำให้ร่างกายผู้ป่วยผอม ได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
ลองไปขอรับเจลลี่ พระราชทาน มารับประทานดู
มันจะเหมือนเต้าหู้นิ่มก้อนสี่เหลี่ยม มีรสชานม กับรสมะม่วงกินแทนข้าวมันจะอิ่ม หรือจะกินข้าว แล้วกินเจลลี่ พระราชทาน
คู่กันไปด้วยก็ได้ แต่ถ้ากินข้าวได้ก็ให้กินข้าว แต่ถ้ากินข้าวไม่ได้ก็ให้กินเจลลี่ พระราชทาน 1 มื้อ ต่อ 1 กล่อง

เราก็ไปขอรับมาแล้วที่คณะทันตแพทย์ศาสตร์ จุฬา เราเอามาให้แม่กิน (แม่ไม่ซำบาย) ตอนแรกรู้ข่าวไปขอรับ
นึกว่าจะได้กล่องเล็กๆ หนึ่งกล่อง ที่ไหนได้!! เจ้าหน้าที่หอบมาให้ 2 แพ็ก รสชานม (แพ้นมก็กินได้)
แล้วก็เอารสมะม่วงอีกหนึ่งกล่องมาให้ (ลองชิม) เพราะรสมะม่วงหมด

เราถึงกับร้องโอ้โฮ !!!!! ให้เยอะจัง เจ้าหน้าที่บอกให้มาทานทั้งหมด 6 วันลองดูก่อน ถ้าหมดแล้วมาขอรับใหม่ได้
เราก็เลยถามกลับไปว่า แล้วจะ ขอบริจาคช่วยด้วยจะได้มั๊ย (เกรงใจให้ตั้งเยอะ ใส่ถุงผ้าอย่างดีเลย คิดแล้วคงจะหลายตังค์)

เจ้าหน้าที่บอกว่าที่นี่ไม่มีให้รับบริจาค เพราะเป็นเงินของ ในหลวง

โห !!! เรานี้ตะลึง ตึง ตึง เลย !!! ปลาบปลื้มเอามั่กๆไม่คิดเลยว่าในหลวงจะห่วงประชาชนคนไทย
ตั้งแต่หัวจรดเท้าเลยจริงๆ ไม่มีฟันเคี้ยวอาหารก็ทำรากฟันเทียมให้ใส่ กินอาหารไม่ได้ก็ทำเจลลี่ พระราชทานให้กิน โห !!!
ซาบซึ้งพระองค์ท่านสุดๆ จริงๆ ไม่มีความรักใดยิ่งใหญ่กว่าความรักของในหลวงที่มีให้กับประชาชนคนไทยทุกคนจริงๆ
" ทรงพระเจริญ "

1. โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา 044-235582, 081-955-9002
2. สถาบันมะเร็งแห่งชาติ กรุงเทพฯ 02-3547025-35
3. ศูนย์มหาวชิราลงกรณ ธัญบุรี จ.ปทุมธานี 02-5461960-6
4. ศูนย์มะเร็งชลบุรี 038-784001-5
5. ศูนย์มะเร็งลพบุรี 036-621800
6. ศูนย์มะเร็งลำปาง 054-335262-8
7. ศูนย์มะเร็งอุดรธานี 042-207375-80
8. ศูนย์มะเร็งอุบลราชธานี 045-285610-5, 045-285637-40
9. ศูนย์มะเร็งสุราษฎร์ธานี 077-211625-8 ต่อ 1006
10. คณะทันตแพทย์ศาสตร์ จุฬา 089-664-4634, 02-218-9027

 

เจ้าสำนวนจริง ๆ ท่าน toplus 99 ขอบพระคุณนะคะ สำหรับสาระดี ๆ

อาจจะเครียดสักหน่อย ขออภัยนะคะ

กรณีที่พบโรคร้ายเจอแบบทีเดียวก็อยู่ในระยะที่ต้องผ่าตัด ไม่ก็ในระยะที่ช่วยได้ยากแล้ว

รายแรกนั้นเป็นคุณลุงที่หน้าตาดีมากท่านหนึ่งค่ะ แกแข็งแรง หน้าตาดูอ่อนกว่าวัยแปดสิบของแกมากมายนักค่ะ ขับรถเองได้ และสมองแจ่มใสมาก ๆ ค่ะ มีใจเอื้อเฟื้อดูแลผู้คนรอบข้างด้วยดีค่ะ

และแล้ววันสุดท้ายที่แม่ได้พบ วันนั้นแกธุระออกเร็วกว่าเวลาปกติ จะไปผ่าตัดค่ะ เพราะแพทย์วินิจฉัยให้ผ่าตัด แกก็ไปผ่าตัด สุดท้ายไม่ฟื้น จากไปหนึ่งท่าน

อีกท่านหนึ่ง สามีป่วยค่ะ ดูแลสามี ไป ๆ มา ๆ ไม่นานมานี้ตรวจพบก็เป็นมะเร็งค่ะ ขั้นสามกระมัง และไม่กี่วันก่อน สามีเพิ่งเสียไปค่ะ

โรคนี้มีแพทย์ทางเลือกมากมายจริง ๆ ค่ะ

ลางเนื้อชอบลางยานะคะโรคนี้ บางท่านไปหาแพทย์ทางเลือกหนึ่ง ๆ แล้วหาย บางท่านตามไปหาด้วยหวังหาย กลับลาโลก

 

แย่เลย... แย่เลย... เครื่องฉายจะรวนไหมคะนี่ ยิ่งหมู่นี้เห็นแอบอู้บ่อย ๆ เสียด้วย
งั้นรับกลอนสี่ บทใหม่ไปหล่ะกันนะเจ้าคะ จะได้ดีขึ้น(ฤาจะหนักกว่าเดิม)
โอม..เพี้ยง ให้หาย ให้คลายปวดตา
อย่าร้าวอุรา เชิญมาฉายต่อ(เอย,ซิ)
;aa44

 

มาแล้วๆๆ...
ขอบคุณที่อุตส่าห์ แต่งกลอนให้( ลดๆลงหน่อยก็ได้)เอย

ขอใช้เวลาหน่อย เรื่องนี้มีกันอีกยาวเชียว..โน่นล่ะ ก่อนวันสงกรานต์ปีหน้า
ก็น่าจะจบซะที...

เพราะจะรวบรวมหมวดหมู่ว่าด้วย เรื่องศาสตร์ของโรคภัยทั้งหลายในร่างกายเรา ในหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของกรรมและพลังจิต

รอหน่อยขอพักผ่อนนิดหนึ่ง... จะทะยอยส่งต้นฉบับเล่มใหญ่ให้เชียว

 

ช่วงที่รอร๊อรอหนังฉาย เรามานั่งจิบน้ำชาเสวนากันเองก่อนดีกว่านะคะคุณพี่ กว่าหนังจะฉายคงจะรอนานเลยอ่ะ (deejai)(deejai)

พอดีน้องเปิดคอมดูข่าวแต่เช้าก่อนไปทำงานอ่ะค่า ตื่นตั้งแต่3.15AM

 

แวะมาให้กำลังใจท่านพี่toplus99 นะครับ
ขอมอบผลบุญ พลังที่ผมมีทั้งหมดให้ท่านครับ

ผมเข้าใจในสิ่งที่ท่านกำลังทำ
ท่านเข้าใจในสิ่งที่ผมทำ

เข้าใจซึ่งกันและกัน
เข้าใจธรรมชาติ เข้าใจความธรรมดา

สิ่งที่ท่านทำนั้น ..... แจ่มครับ


จากคนธรรมดาคนนึงครับ

ด้วยจิตรคารวะ

 

ไม่มีใครพ้นจริงๆ เกิด แก่ เจ็บ ตาย

หัวหน้าผมตอนนี้ นอนพักฟื้นอยู่ที่ รพ.ศิริราช แกพึ่งผ่าตัดเอาลำไส้ใหญ่ออกทั้งยวง ..... ท่านอ่านไม่ผิดครับ ทั้งยวงจริงๆ

หมอบอกว่า มะเร็งที่เจอนี้เป็นสายพันธ์ลำไส้ใหญ่ จะผ่าออกก้อทำได้ แต่ มันก้อจะเกิดอีก มันไม่ตาย (ก่อนหน้านี้ 2 ปี ก้อเจอและผ่าตัดทิ้ง แต่ปีนี้มันมาอีก .... โคร ตะ ระ อึด จริงๆ มะเร็งเนี่ย)

ต่อให้เราดูแลร่างกายดีแค่ไหน มันจะมา มันก้อมาครับ เราทำอะไรเพื่อป้องกันได้ยากยิ่งนัก แต่ส่วนมาก จะเป็นกรรมพันธ์ครับ


มีสองอย่างที่เราจะทำ คือ
1.ดูแลร่างกาย เพื่อไม่ให้ป่วย
2.กายส่วนกาย จิตส่วนจิต .... เดินหน้าหาธรรม เพื่อหลุดพ้น ไม่กลัวความตาย พร้อมตาย ความตายเป็นธรรมชาติ
ตายแล้วจบ ไม่พบอีกการเกิด .... อยู่กับทุกข์ เข้าใจทุกข์ ไม่เอาทุกข์


ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรม

พร้อมตายอยู่เสมอ ความตายอยู่กับเราทุกขณะจิต


.... จบ.๑๑ คนธรรมดา

 

คนเราถ้าถึงที่ตายก็ตาย ถ้าไม่ถึงที่ตายมันก็ไม่ตาย ปลงๆเสียได้ก็สบายใจดี ปฎิบัติธรรมหาทางสายกลาง ฝึกตายก่อนตายไว้ก็ดี เฮือกสุดท้ายจะได้ไปที่ดี เอ อยากช่วยจ่าย"ดอกเบี้ยกรรม" ให้ท่าน เราจะทําอย่างไร ส่งใจมาช่วยนะคะ
=============================================
อยู่ที่นี่มาสามปีเพิ่งจะมีคน"ไม่เห็นด้วย"ก็ครั้งนี้แหละ แถมล้อเลียนดีนัก ระวังเถอะ อีก๒๔ปีก็จะตามทันกันแหละ
ชัดหรือยังคะเขียนแบบนี้({)(^)HBDsHBDsHBDs