จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

เธ่อคุณภู ลมกำลังเย็นเลย ออกทะเลเนี่ยะ(รับมุกๆ) ว่าจะไปสำรวจ พายุแกมิ ซะหน่อยว่าถึงไหนแล้ว

 

_/\_ สาธุ
ขอนุโมทนากับจิตบุญดวงที่ ๘๙ และคุณครูจิตบุญทุกท่านด้วยครับ

 

สาธุ สาธุ สาธุ จ้า ๆ ๆ

 

วัดผาซ่อนแก้ว​

เฉลยว่า...(ต๊ะเองไปขุดมาจากหน้าไหนเนี๊ย)
วัดพระธาตุผาแก้ว(ชื่อเดิมว่า..วัดผาซ่อนแก้ว)
เลขที่ ๙๕ หมู่ ๗ บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ๖๗๒๘๐
ภาพบรรยากาศ

 

Hello Guys!
Someone like you?
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=jCya1yiFFP4&feature=related]Adele - Someone like you (OFFICIAL VIDEO LYRICS) HD Live from Brit Awards 2011 - YouTube[/ame]​

 

อย่าเพิ่งไปคิดว่าคนอื่นทำไม่ได้ หรือ
อย่าเพิ่งไปคิดว่าตนเองทำไม่ได้
อย่าเพิ่งตอบว่าทำไม่ได้ แต่ขอให้ลงมือทำก่อน ส่วนผลจะออกมาอย่างไร ก็ไม่เป็นไร
(หมายถึงผู้ที่เกาะขอบกระทู้ หรือกำลังปฎิบัติจิตเกาะพระ)

ทำให้หวนกลับไปนึกถึงคำพูดของครูเพ็ญเลย เพราะติดใจในโวหารหรือวาทะของท่าน

 

2กฎแห่งธรรมชาติ..

โมทนาสาธุกับท่านพี่ภูด้วยครับ..

"กฎแห่งกรรม"สอนให้เราเข้าใจ อดีต กับปัจจุบัน..
"กฎไตรลักษณ์"สอนให้เราเข้าใจ ปัจจุบัน กับอนาคต..
แต่ทั้ง2กฎสอนให้เราเข้าใจ การอยู่กับปัจจุบัน..

ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ..สาธุสวัสดี

 

สวัสดีครับ
ผมมีเรื่องเล่ายามเช้าให้ท่านอาจจะช่วยกันตอบซักเรื่องนะครับ คือว่าไม่กี่วันก่อน มีน้องในบริษัทมาถามผมว่า พี่ถามจริงๆเหอะ คนที่เขาปฏิบัติเพื่อหลุดพ้นเนี่ย เขาเห็นแก่ตัวไหม จะทิ้งคนใกล้ตัวไว้ข้างหลัง แต่ตัวเองหนีไปคนเดียวเหรอ
(แล้วน้องเขาก็ถามต่ออีกว่า แล้วที่ทำให้คนข้างหลังเสียใจที่เราต้องทิ้งเขาไปนี่บาปไหม แถมอีกข้อนะครับ จริงๆข้อนี้คุณภูเขียนคำตอบไว้บ่อยๆ)
ฮิๆๆๆๆ ถ้าเป็นท่านท่านจะตอบว่าอย่างไรครับ (น้องหว้าห้ามตอบเด้อ )

 

โมทนาสาธุกับปุจฉาธรรมนี้ด้วยครับ

เมื่อหลายๆปีก่อน ตัวเราเองเคยถามคำถามนี้กับพระป่าสายปฎิบัติรูปนึงมาก่อน
เพราะเราก็ไม่แน่ใจและก็ลังเลสงสัยเหมือนน้องคนนี้เช่นกัน
พระท่านตอบว่า"ใช่ ในทางโลก"
พลันได้ยินคำตอบ เราก็ตาสว่างเลยในทันที..

 

ขออนุโมทนาบุญกับจิตบุญดวงใหม่ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

 

แล้วคิดว่าผู้ปฎิบัตินั้นหลุดพ้นหรือยัง? แต่ถ้าหลุดพ้นแล้ว เขามิได้เห็นแก่ตัวดอก แต่เขาเรียกว่า "พี่คนนี้ นั้นมีแต่ให้ เจ้าไฉน ไม่เคยให้พี่ อยากได้อะไรหาให้ทันที ให้เจ้ามากอย่างนี้ไม่ดีอีกหรือแม่คุณ..." ฮ่าๆ ร้องเพลงให้ฟังซะเลย...

ก็บอกเขาไปสิว่า พี่ไม่ได้ทิ้ง แต่ที่พี่จะทิ้งน่ะ ก็คือ กายหยาบหรือกิเลสของตนเองเท่านั้น ฮ่าๆ (อ๊าว แล้วไปเกี่ยวกับพี่ภูตรงไหน เมื่อไหร่ละเนี๊ย)
แต่คนที่ไปหลงยึดตนเองหรือคนอื่นนี่สิ บาปตัวจริง เสียงจริง...
ว่าแต่ว่า เราไปทำกรรมต่อเนื่องอะไรกับเขาไว้ก่อนหรือเปล่า?

ใครก็ได้ถามมาใหม่หนุกดี...ปุจฉา-วิสัชนา...

 

โมทนาสาธุกับจิตบุญดวงที่ 87 และ 88 พร้อมครูผู้สอน ครูวิทย์ด้วยจ๊ะ
แห๊ม ตามแทบไม่ทันเลยนะครูเพ็ญจ๋า

 

ห้ามหว้าคนเดียวไม่ได้ห้ามเมิล ตอบแบบเกรียน ๆ ก็บอกว่าน้องต่างหากที่ทิ้งพี่ ไม่ยอมตามไปด้วย อิ ๆ

 

(เฮือกท้ายสุดเช่นกัน)
รู้ตัว รู้ตื่น อย่างมีสติ .....ล้วงดี ล้วงเลว วางจิตเป็นกลาง
จิตยก จิตยอด ยังไงก็ช่าง รู้แล้วฉันวาง กลางดงกิเลส

 

ดูท่าคนจำนวนมากมักเข้าใจผิด( เมื่อก่อนผมก็เช่นกัน ) คิดว่าเมื่อคนที่จะปฏิบัติธรรมจนหลุดพ้นได้นั้น จะต้องไม่รับผิดชอบอะไรเลย ไม่ต้องทำงานอีกแล้ว มุ่งแต่สวดมนต์เข้าวัดอย่างเดียว นับว่าเป็นความเข้าใจที่ผิดมาก จนเข้าใจว่ายังไงเราก็ไม่มีทางเข้าสู่หนทางแห่งการพ้นทุกข์
ผมเองมานั่งคิดๆก็นับเป็นการณ์ที่ดีที่คุณภูนำจิตเกาะพระเข้ามาสอน ทำใครหลายๆคนเข้าใจได้มากขึ้นว่าคนที่หลุดพ้นจากทุกข์นั้น อาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นพระ อาจเป็นชาวบ้านทั่วไปนี่เอง และเป็นโอกาสอันดีที่ครูทุกๆท่านได้นำความรู้อันนี้แพร่กระจายไปทั่วโลก จะเรียกว่าเป็นเหตุบังเอิญคงไม่ได้
ส่วนเรื่องที่จะให้ทุกคนมาเข้าใจ เข้าถึงนั้นคงไม่สามารถทำได้แน่ๆ เพราะคนจำนวนไม่น้อยยังคงเห็นกิเลสเป็นสิ่งหอมหวลยิ่งนัก ยังยึดมั่นในตัวกู ของกูอยู่ดังที่เป็นข่าวอยู่เสมอๆ บางท่านสอนไปก็หาว่าเราบ้าไปอีก กลายเป็นกรรมขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวอีก
ผมก็มาคิดถึงคุณ....(ขออภัยครับที่จำชื่อไม่ได้จริงๆ แฮะๆๆๆๆ)ที่ว่าเราอาจจะต้องมีการบุกเข้าไปวัด เพราะคนที่เข้าวัดอยู่แล้วนั้น ท่านอาจจะติดอยู่แค่นิดเดียว แค่เราแนะไปนิดเดียวท่านก็เข้าใจไปได้เลย ซึ่งตัวผมเองก็ได้มีส่วนเข้าไปร่วมในจุดนี้บ้างแล้วครับ

 

มีน้องในบริษัทมาถามผมว่า พี่ถามจริงๆเหอะ คนที่เขาปฏิบัติเพื่อหลุดพ้นเนี่ย เขาเห็นแก่ตัวไหม จะทิ้งคนใกล้ตัวไว้ข้างหลัง แต่ตัวเองหนีไปคนเดียวเหรอ

เคยโดนว่าประมาณนี้อยู่เหมือนกัน
ถ้าเขาไม่อยากถูกทิ้งไว้คนเดียว ก็มาปฎิบัติซิ จะได้ไปด้วยกัน ไม่งั้นก็โบกมือลานะจ๊ะ อิอิ

แล้วที่ทำให้คนข้างหลังเสียใจที่เราต้องทิ้งเขาไปนี่บาปไหม

ถามกลับ แล้วที่จะดึงเราไว้ไม่ยอมให้พ้นทุกข์ บาปไหมจ๊ะ

ถามต่อ ให้เลือกตอบ
ก. ถ้าอยู่ด้วยกันต่อ แล้วมีสิทธิ์ตกนรกไปด้วยกัน เพราะยังปิดอบายภูมิไม่ได้ กับ
ข. ปฏิบัติไปด้วยกัน แล้วมีสิทธิ์พ้นทุกข์ทั้งคู่

จะเลือก ก หรือ ข
ไม่มีถูกทุกข้อ สำหรับคำถามนี้นะ อิอิ

จริงๆมันยากมากที่จะดึงคนใกล้ตัวบางคนไปด้วย
ถ้าเขาไม่ยอมเปิดใจ

แต่เราก็ยังมีความหวังนะ แผ่เมตตาไปให้ อธิษฐานจิตให้เขาเปิดใจรับสม่ำเสมอ มันคงได้ผลไปซักวันแหละน่า never keep up :VO

 

โมทนาสาธุ พี่ภู ครูลูกพลัง
ตามอ่านจนทัน อิอิ

 

ทุกวันนี้ คิดได้แต่ว่า ....
อันเรานี้ เป็นเหมือนเครื่องบินขนส่งผู้โดยสาร...จบ อิอิ

 

ถ้าอยู่วัดก็เหมือนทิ้งเขาจริงอ่ะแหละ นี่ก็ไม่ได้ติดต่อเพื่อนๆไปนานแล้วอ่ะครับ ๕๕๕ จิตเกาะพระ ก็ทำให้เราช่วยเหลือญาติมิตรโดยใช้ความรู้ความสามารถทางโลกต่อไปได้ เพียงแต่ถ้าเขาห่างเราไปเองนี่เราก็ไม่ผิดใช่ป่ะครับ ปล.ยังตามเกาะกระทู้อยู่ครับ ๕๕๕

 

คนเราเป็นทุกข์เพราะ...
(ไม่ได้มาสอน แต่มาทบทวน)
(๑.)ไม่ได้เรียนรู้เรื่อง อริยสัจ ๔ (ความจริงอันประเสริฐทั้ง ๔ ประการ)
อริยสัจ ๔ อันได้แก่
๑.)ตัวทุกข์ ก็คือ อุปาทานขันธ์ หรือขันธ์ ๕ (สภาพที่ทนได้ยาก ภาวะที่ทนอยู่ในสภาพเดิมไม่ได้ สภาพที่บีบคั้น(เกิดแก่เจ็บตาย) การประสบกับสิ่งอันไม่เป็นที่รัก การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก การปรารถนาสิ่งใดแล้วไม่สมหวังในสิ่งนั้น)
๒.)เหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ ได้แก่ ตัณหา๓ คือ ๑.กามตัณหา(ความอยากได้ทางกามารมณ์) ๒.ภวตัณหา(ความอยากเป็นโน่นเป็นนี่) ๓.วิภวตัณหา(ความไม่อยากเป็นโน่นเป็นนี่)
๓.)ความดับทุกข์(ดับเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์)
๔.)แนวทางการปฏิบัติที่นำไปถึงความดับทุกข์ อันได้แก่ มรรคมีองค์๘(ศีลสมาธิปัญญา)

หรือเรียนรู้แล้ว แต่ปฎิบัติตามยังไม่ได้ เพระคนส่วนใหญ่เข้าใจว่า การเรียนรู้ธรรมะนี้ แค่อ่านหรือฟังก็รู้และเข้าใจแล้ว จึงเป็นเหตุทำให้เราเองไปเรียนรู้ธรรมะแทนจิต แท้ที่จริงแล้ว มิใช่เราไปเรียนรู้แทนจิตตนเอง
(๒.)ทุกข์เพราะความรู้สึกนึกคิดหรือความคิด ความฟุ้งซ่าน ความลังเล ความสงสัย
(๓.)ทุกข์เพราะหลงไปยึดติดกับขันธ์ ๕
(๔.)ทุกข์เพราะรัก เป็นต้น

และท้ายที่สุดก็หาคำตอบให้กับตนเองไม่ได้
ขนาดจิตของเราอยู่ที่เราแท้ๆ ก็ยังไม่ค่อยจะเข้าใจ นับประสาอะไรจะไปเข้าใจคนอื่น หรือหวังจะให้คนอื่นมาเข้าใจตนเองเลย นั่นเข้าใจผิดแล้ว
มีบันไดก็ต้องเดินให้ครบทุกขั้น อย่าไปข้ามขั้นตอน การปฎิบัติธรรมก็เหมือนกัน ก็อย่าไปมองข้ามเรื่องศีล หรืออย่าหาว่าศีลเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น เพราะไม่มีใครมาดูศีลให้กันหรอก แต่อย่าลืมนะ หลอกคนอื่นได้ แต่หลอกตนเองหรือเทวดาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ แต่ถ้าจะให้พ้นทุกข์กันจริงๆ หรือพ้นทุกข์แบบถาวร จะต้องมาปฎิบัติธรรม แต่ต้องปฎิบัติตามทางมรรคมีองค์๘ นี้เท่านั้น ทางอื่นไม่มี อาจจะหลงทางไปกันใหญ่ ออกป่า ออกทะเลไปเลย

ปล.บางท่านอ่านตำรามาก็มาก ปริยัติท่องจำได้เกือบจะหมด ฟังเทศน์ฟังธรรมก็มาก แม้นกระทั่งทำสมาธิก็ได้ถึงฌานสูงถึง๓-๔ก็แล้ว(ยกเว้น ถ้าคุณนั่งหลับตาเข้าฌานโดยไม่ต้องลืมตามาดูโลกภายนอก ทำได้กันหรือเปล่า หรือทรงฌานทั้งลืมตา/หลับตา หรือทรงฌานได้ทั้งวันทั้งคืนกันได้หรือเปล่าหล่ะ) แต่ทำไมจึงไม่พ้นทุกข์สักทีนึง ไหนๆยกมือขึ้นสูงๆสิ มีกี่คน ก็บอกใบ้ให้ไปแล้วไงว่า เราเดินขึ้นบันไดไปไม่ถึงขั้นสุดท้าย กล่าวคือ เมื่อทำสมถกรรมฐาน(มุ่งทำจิตนิ่งจิตสงบเป็นหลัก)ก็ต้องต่อด้วยวิปัสสนากรรมฐาน(มุ่งอบรมปัญญาเป็นหลัก)