ความตายไยต้องเศร้า - ชาดก

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย KK1234, 8 มีนาคม 2009.

  1. KK1234

    KK1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    2,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,515
    <TABLE cellSpacing=1 cellPadding=2 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=2 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle></TD></TR><TR><TD><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=2 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>บทที่10 ชาดกในหมวดอุเบกขาบารมี</TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=3 width="98%" border=0><TBODY><TR><TD class=p_content>
    10.1 ความตาย ไยต้องเศร้า


    สาเหตุที่ตรัสชาดก นครสาวัตถี กฎุมพีคนหนึ่งเศร้าโศกเสียใจเพราะพี่ชายตาย พระทศพลเสด็จไปโปรดกฎุมพีนั้นว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง สิ่งที่ควรแตกทำลายก็แตกทำลายไป ไม่ควรคิดเสียใจในเรื่องนั้น แม้โบราณกบัณฑิตทั้งหลาย เมื่อพี่ชายตายไปก็มิได้คิดเสียใจ ทรงนำเรื่องในอดีตมาสาธกดังนี้..​

    ในอดีตกาลนานมา มีชายหนุ่มผู้หนึ่งดูแลบิดามารดาด้วยความกตัญญูเสมอมา แต่ทว่ากาลเวลาย่อมกลืนกินสรรพสัตว์ แม้จะเป็นบิดามารดาสุดรักบูชาของชายหนุ่มผู้นี้ก็มิอาจเว้นให้ได้ ดังนั้นทั้งสองตายไปแล้ว พี่ชายมาดูแลกิจการแทนบิดามารดา ต่อมาไม่ทันไร พี่ชายก็รีบด่วนป่วยตายตามไปอีกคน คราวนี้หมู่ญาติทั้งหมดต่างร้องห่มร้องไห้ เพราะเพียงไม่กี่วันคนในบ้านก็ตายมากเกินไปแล้ว ​

    แต่น้องชายผู้ตายกลับไม่ร้องไห้เลยแม้สักนิด อย่าว่าแต่ร้องไห้ แม้ใบหน้าฉายแวว เสียใจสักนิดยังไม่มีปรากฏ ชายหนุ่มไม่ยอมร้องไห้ตามคนอื่น ทำตัวแตกต่างจากคนอื่นเช่นนี้ มีหรือจะไม่โดนโพทนาด่าว่าได้? ดังนั้นเวลานี้หมู่ญาติต่างพากันมารุมโพทนาด่าว่าน้องชายผู้ตายกันเป็น การใหญ่
    "ดูเอาเถิดๆ! พวกเราทั้งหลาย จงมาดูคนอะไรใจกระด้างเย็นชาเหลือเกิน ขนาดพี่ชายแท้ๆของตัวตายไป หน้าสยิ้วเสียใจสักนิดก็ไม่มีเลย ช่างใจแข็งกระด้างอะไรปานนี้ สงสัยคงจะอยากให้พี่ชายตายเร็วๆ คิดฮุบสมบัติไว้คนเดียวแน่ๆ!"​

    เมื่อมีคนเปิดประเด็นก็มีคนตาม และดูเหมือนทุกคนจะรอรุมประณามอยู่แล้ว ดังนั้น ญาติสนิททั้งหมดของชายหนุ่มผู้นี้จึงพากันจ้องมองอย่างเหยียดหยัน คล้ายตำหนิติเตียน พากันเดินมารุมด่าว่า..
    "พี่ชายตาย! ทำไมเจ้าไม่ร้องไห้?"
    น้องชายผู้ตายสลดใจเหลือประมาณ แต่มิได้สลดใจที่พี่ชายตาย กลับสลดใจในหมู่ญาติพวกนี้เพราะหมู่ญาติพวกนี้ได้ตายไปแล้ว! ผู้ประมาทชื่อว่าคนตาย! ชายหนุ่มจึงค่อยๆ กล่าวอธิบายแก่หมู่ญาติว่า..​

    "ท่านทั้งหลายยังไม่รู้จักโลกธรรม 8 ประการ เพราะความที่ตนเป็นคนบอดเขลาจึงพากันร้องห่มร้องไห้ว่าพี่ชายของเราตาย ความจริงแม้ตัวฉันเองก็จะต้องตาย เหตุไรท่านทั้งหลายไม่ร้องไห้ถึงฉันผู้จะต้องตายบ้างล่ะ! และแม้ท่านทั้งหลายก็จะตาย แล้วเหตุไรจึงไม่ร้องไห้ถึงตนเองบ้าง?

    สังขารทั้งปวงเป็นของไม่เที่ยง ต้องเสื่อมสิ้นไปเป็นธรรมดา จะหาคงสภาพยืนยงนั้นไม่มีเลย ท่านทั้งหลายไม่รู้โลกธรรม 8 จึงได้แผดเสียงร้องไห้กันใหญ่ เอาแต่ร้องไห้ถึงแต่คนตายแล้ว กลับไม่ร้องไห้ให้กับคนที่จะต้องตาย?

    สัตว์ทั้งหลายต้องทอดร่างลงสู่ดินทั้งนั้น ทุกคนทุกชนชั้นล้วนไม่มีอิสระในสรีระร่างกายนี้เลย ถึงจะเสวยสุขอภิรมย์ชื่นชมร่างกายนี้ก็มีแต่ต้องละทิ้งชีวิตไปทั้งสิ้น แท้ที่จริงสุขและทุกข์ที่แสวงหากันอยู่ในหมู่มนุษย์เป็นของแปรผันไม่จีรังยั่งยืน การคร่ำครวญร่ำไห้ ไม่เป็นประโยชน์อันใดสักนิด ไฉนปล่อยให้ความคิดโศกเศร้ามารุมเร้าท่วมทับท่านได้เล่า พวกนักเลงและขี้เมาไม่ทำความเจริญทั้งแก่ตนและคนอื่น เป็นคนพาลห้าวหาญไร้ความขยันหมั่นเพียร เป็นคนโง่งมย่อมสำคัญนักปราชญ์ว่าเป็นคนพาล เมื่อทุกข์เพียงเล็กน้อยเกิดขึ้นก็มัวเสียใจคร่ำครวญร้องไห้ เพราะไม่รู้โลกธรรม 8 อย่างถ่องแท้ แล้วมาสำคัญเราว่าเป็นพาลที่ไม่ยอมร้องไห้ให้เหมือนกันกับเขา"​

    ญาติทั้งหมดนั่งฟังอย่างสงบจบลงแล้ว ก็หายเศร้าโศก ทำฌาปนกิจเสร็จแล้วก็แยกย้ายกัน กลับบ้านไปทำงานของตนๆ กันตามปกติ.. ​

    ประชุมชาดก
    พระทศพลทรงประชุมชาดกว่า บัณฑิตในครั้งนั้นมาเป็นตถาคตแล​

    จากชาดกเรื่องนี้ ชายหนุ่มฝึกฝนตนให้อยู่เหนือโลกธรรมอย่างช่ำชองชำนาญ จนกระทั่งใจไม่สั่นคลอนไปกับความโศกเศร้า และสามารถทนเสียงกระทบกระเทียบจากผู้อื่นได้ การรักษาใจให้เป็นกลางเช่นนี้นับว่าทำได้ยากยิ่ง เพราะหากยังมีความปรารถนาลามกอยู่ก็ยากที่จะตัดใจไม่อาลัยในโลกธรรมได้ ดังนั้นผู้ที่จะสั่งสมอัธยาศัยแห่งอุเบกขาบารมีจึงต้องหมั่นปลงใจให้ได้เสมอๆ ว่าเราต้องเสื่อมลาภ เสื่อมยศ ถูกนินทา และประสบทุกขเวทนาอย่างแน่นอน แล้วขจัดความปรารถนาลามกออกไปจากใจ ต้องฝึกเป็นผู้ที่เห็นคนรักตายไม่โศก เป็นโรคร้ายไม่โวยวาย ทรัพย์มลายไม่ปรารมภ์ ใครชื่นชมไม่เริงร่า ถูกกล่าวหาไม่นำพา ใครนินทาไม่ซึมเซา ทุกข์รุมเร้าไม่โอดครวญ ประสบผันผวนไม่รวนเร ​

    "ความยินดียินร้าย" เป็นอุปสรรคต่อนิสัยที่ทำให้ใจเป็นกลาง ดังคำเทศนาของพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี(สด จนฺทสโร)ที่ได้เทศนาไว้ว่า..
    "ถึงเวลาเราดีๆ อยู่ความดีใจเสียใจนี่แหละ ตีอกชกใจ กินยาตาย โดดน้ำตาย ผูกคอตาย ดีใจเสียใจนี่มันเต็มขีดเต็มส่วนของมันเข้า บังคับอย่างนี้ เพราะฉะนั้นความดีใจเสียใจนี่เป็นมารร้ายทีเดียว ..ถ้าว่าทำใจให้สบาย ให้ชื่นมื่น ให้เย็นอกเย็นใจ สบายใจ จะมั่งมีดีจนอะไรก็ช่าง ทำใจให้เบิกบานไว้ ทำใจสบายไว้ ร่างกายมันก็ชุ่มชื่นสบาย ไอ้ดีใจเสียใจมันฆ่ากายมนุษย์อย่างนี้"​

    "นิสัยมักเห็นโทษความหวั่นไหวว่าเป็นของทุกข์ร้อน, ชอบใจที่สงบราบเรียบ, สลัดอารมณ์, ไม่ชอบยินดียินร้ายให้ใจซัดส่ายไปมา, มีใจเสมอกันในสุขและทุกข์และเห็นโลกธรรมกระจ่างอยู่ในใจ" ทั้งหมดนี้จึงนับเป็นนิสัยในวิถีนักสร้างบารมีที่นับเนื่องเข้าในอุเบกขาบารมี​

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>





    </TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. natspdo

    natspdo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +1,505
    อนุโทนาครับ
     
  3. Tanyong03

    Tanyong03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +343
    จะฝึกจิตทุกวัน ทุกวัน คงจะถึงฝั่งฝันซักวัน อนุโมทนาค่ะ
     
  4. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    โมทนาสาธุคะ คนตายเหมือนใบไม้ร่วงเลย ย้ายบ้านกันไปเรื่อยๆ ในความรู้สึกตอนนี้นะ
    พรุ่งนี้ก็อีกงานแหละ สำหรับคนที่เรารักอะนะ (ไป-ดู-ตัว-เอง)
     
  5. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    "ต้องฝึกเป็นผู้ที่เห็นคนรักตายไม่โศก เป็นโรคร้ายไม่โวยวาย ทรัพย์มลายไม่ปรารมภ์ ใครชื่นชมไม่เริงร่า ถูกกล่าวหาไม่นำพา ใครนินทาไม่ซึมเซา ทุกข์รุมเร้าไม่โอดครวญ ประสบผันผวนไม่รวนเร"

    จดๆจำๆ จดๆจำๆ จดๆจำๆ
    ขออนุโมทนาค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ ...
     
  6. แมงปอปีกดำ

    แมงปอปีกดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    265
    ค่าพลัง:
    +379
    อนุโมทนาสาธุค่ะ
    สำหรับตัวเองแล้ว รู้สึกว่าคงอีกยาวไกลนัก
     

แชร์หน้านี้

Loading...