เรื่องเด่น เราผ่านยุค "มนุษย์จักมีอายุขัยเหลือ 10 ปี" มาหรือยัง

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย jikkiijang, 16 กันยายน 2012.

  1. jikkiijang

    jikkiijang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    215
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +335
    a.jpg

    พระสุตตันตปิฏก ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค จักกวัติสูตร (ต่อ)

    สมัยที่คนมีอายุขัย 10 ปี

    [103] ภิกษุทั้งหลาย จักมีสมัยที่มีบุตรของมนัษย์เหล่านี้มีอายุขัย 10 ปี ในเมื่อมนุษย์มีอายุขัย 10 ปี เด็กหญิงอายุ 5 ขวบก็มีสามีได้ ในเมื่อมนุษย์มีอายุขัย 10 ปี รสเหล่านี้คือ เนยใส เนยข้น น้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย และ เกลือ จักอันตรธนานไปสิ้น ในเมื่อมนุษย์มีอายุขัย 10 ปี หญ้าจับแก้จักเป็นอาหารอย่างดี ภิกษุทั้งหลาย ข้าวสาลี เนื้อ และข้าวสุก เป็นอาหารอย่างดีในบัดนี้ฉันดี เมื่อมนุษย์มีอายุขัย 10 ปี หญ้าจับแก้ก็จักเป็นอาหารอย่างดีฉันนั้น

    ในเมื่อมนุษย์มีอายุขัย 10 ปี กุศลกรรมบถ 10 จักอันตรธนานไปหมดสิ้น อกุศลกรรมบถ 10 จักรุ่งเรื่องเหลือเกิน แม้แต่ชื่อว่ากุศลก็จักไม่มี และคนที่ทำกุศล จักมีแต่ที่ไหน ในเมื่อมนุษย์มีอายุขัย 10 ปี มนุษย์ทั้หลายที่ไม่เกื้อกูลมารดา บิดา สมณะพราหมณ์ และไม่ประพฤติอ่อนน้ำมต่อผู้ใหญ่ในตระกูล ก็จักได้รับการบูชา และได้รับการสรรเสริญ ภิกษุทั้งหลาย คนที่เกื้อกูลบิดา มากดา สมณะ พราหมณ์ และประพฤติอ่อนน้อมถ่อมคน ได้รับการบูชาสรรเสริญในบัดนี้ฉันใด เมื่อมนุษย์มีอายุขัย 10 ปี มนุษย์ทั้หลายที่ไม่เกื้อกูลมารดา บิดา สมณะพราหมณ์ และไม่ประพฤติอ่อนน้ำมต่อผู้ใหญ่ในตระกูล ก็จักได้รับการบูชา และได้รับการสรรเสริญฉันนั้น

    ในเมื่อมนุษย์ทั้งหลายที่มีอายุขัย 10 ปี พวกเขาจักไม่มีจิตคิดเคารพยำเกรงว่า แม่ ว่า ป้า ว่าป้าสะใภ้ ว่า น้ำสะใภ้ ว่า ภรรยาของอาจารย์ หรือว่า ภรรยาของครู สัตว์โลกจักถึงความสมสู่ปะปนกันหมด เสมือนแพะ แกะ ไก่ สุกร สนุขบ้าน และสนัขจิ้งจอก ฉะนั้น

    ในเมื่อมนุษย์มีอายุขัย 10 ปี มนุษย์เหล่านั้นจักเกิดความอาฆาตอย่างแรกกล้า ความพยาบาทอย่างแรงกล้า ความคิดร้ายแห่งใจอย่างแรงกล้า มารดากับบุตรก็ดี บุตรกับมารดาก็ดี บิดากับบุตรก็ดี บุตรกับบิดาก็ดี พี่ชายน้องชายกับพี่สาวน้องสาวก็ดี พี่สาวน้องสาวกับพี่ชายน้องชายก็ดี จักเกิดความอาฆาตอย่างแรงกล้า ความพยาบามชทอย่างแรงกล้า ความคิดร้ายแหล่งใจอย่างแรงกล้า ความคิดจะฆ่ากันเองอย่างแรงกล้า ภิกษุทั้งหลาย นายพรานเนื้อเห็นเนื้อเข้าเกิดความอาฆาตคิดจะฆ่ากันอย่างแรงกล้า ความพยาบาทอย่างแรงกล้า ความคิดร้ายแห่งใจอย่างแรงกล้า ความคิดจะฆ่ากันเองอย่างแรงกล้าฉันใดในเมื่อมนุษยํทั้งหลายมีอายุขัย 10 ปี มนุษย์เหล่านั้นจักเกิดความอาฆาตอย่างแรงกล้า ความพยาบามชทอย่างแรงกล้า มารดากับบุตรก็ดี บุตรกับมารดาก็ดี บิดากับบุตรก็ดี บุตรกับบิดาก็ดี พี่ชายน้องชายกับพี่สาวน้องสาวก็ดี พี่สาวน้องสาวกับพี่ชายน้องชายก็ดี จักอาฆาตอย่างแรงกล้า พยาบาทอย่างแรงกล้า ความคิดร้ายแห่งใจอย่างแรงกล้า ความคิดจะฆ่ากันเองอย่างแรงกล้า ฉันนั้น

    ภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุขัย 10 ปี จักมีสัตถันตรกัปตลอด 7 วัน (คือความพินาศเพราะศัสตรา) มนุษย์เหล่านั้นจักเกิดความเข้าใจในกันและกันว่าเป็นเนื้อ ศัสตรทั้งหลายอันคมกริบจักปรากฏในมือของพวกเขา พวกเขาจักใช้ศัสตราอันคมกริบฆ่ากันเองด้วยเข้าใจว่า ‘นี้เป็นเนื้อ นี้เป็นเนื้อ’

    ครั้งนั้นมนุษย์บางพวกมีความคิดอย่างนี้ว่า ‘พวกเราอย่าฆ่าใครๆเลย และใครๆอย่าได้ฆ่าพวกเราเลย ทางที่ดีเราควรเข้าไปตามป่าหญ้า สุมทุมพ่อมไม้ป้าไม้ เกาะกลางแม่น้ำ หรือซอกเขา ใช้รากไม้และผลไม้ในป่าเป็นอาหารเลี้ยงชีพ’ พวกขาจึงได้เข้าไปตลอด7 วัน เมื่อล่วงไป 7 วัน พวกเขาพากันออกจากป่าหญ้าสุมทุมพุ่มไม้ ป่าไม้ เกาะกลางแม่น้ำ หรือ ซอกเขา ต่างสวมกอดกันและกัน ขับร้องปลอบใจกันในที่ประชุมว่า ‘ ท่านผู้เจริญทั้งหลาย เราพบเห็นกันแล้ว ท่านยังมีชีวิตอยู่ เราพบเห็นกันแล้ว ท่านยังมีชีวิตอยู่’

    กระผมขอสรุปบทที่ว่าด้วย ความเจริญด้วยอายุวรรณะเป็นต้นในที่นี้ เนื่องจากตรงกันข้ามกับบทความที่กล่าวมา

    เมื่อคนทั้งหลายคิดได้เช่นนั้น ก็พากันเลิกทำปาณาติบาตทั้งหลาย กุศลกรรมบถ ก็เริ่มเกิดขึ้น เพราะว่าการยึดในทางที่ดีนี้ จึงพากันเจรืญอายุ และวรรณะ บุตรของมนุษย์ที่มีอายุ 10 ปีอายุขัยเพิ่มขึ้นเป็น 20 ปี จากนั้น มนุษย์ทั้งหลายเหล่านั้นก็คิดว่า พวกเราเจรืญด้วยอายุบ้างวรรณะบ้าง เพราะสมาทานกุศลธรรมเป็นเหตุ จากนั้นเริ่มงดจากอทินนาทาน กาเมสุมิจฉาจาร ปิสุณาวาจา ผรุสวาจา สัมผัปปลาปะ งดจาก อภิชฌา พยาบาท ละจากมิจฉาทิฏฐิ ละจากธรรม3ประการคือ อธัมมราคะ วิสมโลภะ มิจฉาธรรม เริ่มเกื้อกูลบิดามารดา สมณะพราหมณ์ ปฏิบัติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ในตระกูล เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเหตุ เวลาผ่านไปเนิ่นนาน จนในที่สุดมนุษย์ก็กลับมามีอายุขัย 80,000 ปี

    และเวลานั้น จักมีพระพุทธเจ้าองค์ใหม่ปรากฏขึ้น เมื่อมนุษย์มีอายุขัย 80,000 ปี




    จากบทความข้างต้น

    เราผ่านยุคนั้นมาหรือยังครับ
     
  2. thepkere

    thepkere เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    1,018
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,449
    (ยังครับ ยุคพุทธกาล อายุเฉลี่ย 100 ปี ผ่านมา 2600 ปี ยุคเรา อายุเฉลี่ย 75 ปี ตอนนี้เป็นขาลง แต่ขึ้นลงแบบนี้ มากมายนับไม่ถ้วน หาต้นไม่ได้ หาปลายไม่ได้ เหมือนวงกลมและไม่มีใครทำลายวงกลมนี้ได้นอกจาก เป็นพระอรหันต์ เดินออกจากวงกลม)


    [๔๔๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถ
    บิณฑิกเศรษฐี เขตพระนครสาวัตถี ณ ที่นั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสเรียกภิกษุทั้งหลาย ...
    แล้วได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ เมื่อเหล่า
    สัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นที่กางกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องประกอบไว้ ท่องเที่ยวไปมาอยู่ ที่สุดเบื้องต้น
    ย่อมไม่ปรากฏ
    เธอทั้งหลายเห็นทุคตบุรุษผู้มีมือและเท้าไม่สมประกอบ พึงลงสันนิษฐานในบุคคล
    นี้ว่า เราทั้งหลายก็เคยเสวยทุกข์เห็นปานนี้มาแล้ว โดยกาลนานนี้ ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะว่า
    สงสารนี้กำหนดที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายไม่ได้ ฯลฯ พอเพื่อจะหลุดพ้น ดังนี้ ฯ
    จบสูตรที่ ๑
    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๖
    พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๘ สังยุตตนิกาย นิทานวรรค
    หน้าที่ ๑๘๕/๒๘๘
     
  3. Samarnl

    Samarnl เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    2,287
    ค่าพลัง:
    +4,704
    a.jpg
    มนุษย์ในยุคต้นกัปล์จะมีอายุนับเป็นอสงไขยปี
    นานจนนับอายุไม่ได้ว่าอายุตนเองเท่าไหร่ มนุษย์จึงเกิดความประมาท
    เพราะไม่เห็นทุกข์และไม่เห็นความตาย จึงไม่ขวนขวายที่จะเจริญ ศีล สมาธิ ปัญญา
    ขณะนั้นมนุษย์จะเริ่มมีอายุน้อยถอยลงมาเรื่อยๆ ใน ๑๐๐ ปี มนุษย์จะอายุลดลงมา ๑ ปี
    จนถึงยุคปัจจุบันมนุษย์มีอายุแค่ ๗๔ ปีแล้ว และก็จะต่ำลงไปเรื่อยๆจนถึงอายุ ๑๐ ปี
    หญิงอายุ ๕ ปีจะมีบุตรได้ และต่อจากนั้นมนุษย์ก็จะผิดศีลมากขึ้นสมสู่กันเหมือนสัตว์เดรัจฉาน
    โดยไม่เลือกว่าคนไหนเป็นพ่อเป็นแม่เป็นลูก และก็จะเกิดรบราฆ่าฟันกันเองเพราะเห็นหน้ากันก็คิดว่าศัตรู
    พอผ่านยุคนี้ไปได้ภายใน ๗ วัน พวกที่หลงเหลือก็จะมาเริ่มปฏิบัติถือศีลกันใหม่
    อายุมนุษย์ก็จะเจริญขึ้นอีกไปตามลำดับ เช่นพ่อแม่อายุ ๑๐ ปี ลูกก็จะมีอายุเพิ่มขึ้นเป็น ๒๐ ปี
    พอพ่อแม่อายุ ๒๐ ลูกก็จะมีอายุเป็น ๓๐ ปีไปตามลำดับจนมีอายุถึงอสงไขยปีอีก
    และมนุษย์ในยุคอสงไขยปี ก็จะเริ่มมีความประมาท อายุก็จะลดน้อยมาจนถึง ๘ หมืนปี
    ช่วงนี้แหละที่จะเข้าสู่พระศรีอริยะเมตรัยที่จะมาอุบัติขึ้นในโลกนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Untitled-1.jpg
      Untitled-1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      415.4 KB
      เปิดดู:
      950
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 18 กันยายน 2012
  4. jikkiijang

    jikkiijang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    215
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +335
    ผมนึกว่าสิ้นยุคสมัยพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า 5 พันปี แล้ว พระศรีอาริยเมตไตรยจะมาประสูติเลย แต่ถ้าเป็นอย่างท่านลุงหมานกล่าวไว้ คงอีกไม่รู้กี่หมื่นกี่แสนปี พระศรีอริยเมตไตรยถึงจะได้มาประสูติ รบกวนชี้แนะเพิ่มเติมด้วยครับ
     
  5. เเสงเทียน

    เเสงเทียน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2017
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +156
    สมัยพระพุทธเจ้ายังอยู่ มีคนเลว 3 ส่วน คนดี 1 ส่วน ตอนนี้คนชั่วคง 3.5 คนดี 0.5
     
  6. ปฐมรังสี

    ปฐมรังสี Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 เมษายน 2016
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +176
    หลวงพ่อฤาษีเคยบอกว่า หากนับตามอายุคน ก็อีกประมาณ 1.2 ล้านปี กว่าพระศรีจะมาตรัสครับ
    ...ช่วงนี้อายุมนุษย์อยุ่ในขาลง แต่กว่าจะลงถึงมีอายุขัย 10 ปี ก็อีกนาน. ..(100 ปี อายุคนจะลดลงมาปีนึง ตอนนี้อายุคนอยุ่ช่วง 75 ปี เนื่องจากผ่านไปแล้ว 2500 ปี).ต้องหลังศาสนานี้สิ้นสุด 5000ปี ตามพุทธพยากรณ์ ซึ่งคาดว่าช่วงนั้นอายุคนจะเหลือแค่50 ปี (ตอนนี้อายุของพระพุทธศาสนามาได้ครึ่งทาง )

    เป็นช่วงว่างระหว่างศาสนาของพระสมณโคดมกับพระศรีอารีย์

    นั่นก้หมายความว่าหลังพระศาสนานี้สิ้นสุดไปอีก 4000ปี หรือนับจากนี้ไปอีกประมาณ 6500 ปี(ประมาณ พ.ศ.10000) อายุคนจะเหลือ10 ปี....นั้นคือจุดต่ำสุด (แต่อย่าลืมกว่าพระศรีจะมาตรัสก้อีกเป็นล้านปี ซึ่งระหว่างนี้คนที่เกิดมาในยุคนั้น ไม่มีศีล ไม่รุ้จักบุญบาป ลำบากเบียดเบียนกัน เว้นผู้มีบุญอยุ่บ้าง จะได้เจอ พระปัจจเจก ที่ท่านเป้นเนิ้อนาบุญ)....แต่คนที่บุญถึงพร้อมจริงๆก้จะไม่ไปเกิดในยุคนั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2018
  7. littleyogi

    littleyogi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +41
    ครูบาอาจารย์เล่าให้ฟัง เท่าที่ผมจำได้คือ
    - พุทธศาสนาจะดำรงอยู่ในไทยถึง พ.ศ. 5000 ปี หลัง พ.ศ.5000 สิ้นพุทธพจน์ แต่ยังคงเหลือพระ เณรอยู่แต่เหลือน้อย ต่อมาพระหมด เหลือเณร
    -ราชวงศ์จักรีจะอยู่ต่อไปได้ถึง 1500 ปี ต่อมา มีราชวงศ์ ตรี สืบต่อมา
    - หลัง พ.ศ. 10,000 จะเกิดสัตถันตรกัป คนฆ่าล้างกันด้วยอาวุธ 7 วันเกลี้ยง เหลือแต่พวกหนีเข้าป่า พวกมีศีล มีธรรม จะรอด
    -หลังฆ่าล้างกันหมด แก้วแหวน เงิน ทอง เพชร นิล กองท่วม บ้านเมือง พวกที่รอด ไม่สนใจ เที่ยวหาแต่เมล็ดข้าว เมล็ดหญ้า เอามากิน เอามาเพาะปลูก อาหารในเมืองกินไม่ได้มีแต่พิษ
    -พวกที่รอด ที่อายุ 10 ปี เริ่มฟื้นฟู อยู่ด้วยกันมีลูก หลาน คนก็เริ่มอายุมากขึ้น เป็น 10 ปี 20 ปี
    -จนคนอายุได้ 100 กว่าปี จะมีพระเจ้าจักรพรรดิ์ลงมาเกิด พระองค์เคยมีพระนามว่าภูมิพล

    หมายเหตุ : ผิดพลาดประการใดในเรื่องข้อ พรบ คอมพ์ขอให้แอดมินเซนเซอร์ด้วยครับ
     
  8. Pattarakorn2010

    Pattarakorn2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2014
    โพสต์:
    488
    ค่าพลัง:
    +1,752
    พระคุณเจ้าที่ผมนับถือท่านบอกว่า หลังจากสิ้นสุดศาสนาของพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันแล้ว ก็อีกเป็นล้านปีกว่าจะมี พระพุทธเจ้าเกิดขึ้นมาอีก ในช่วงว่างเว้นไม่มีพระพุทธเจ้า ก็จะมีพระปัจเจกพุทธเจ้า แล้วก็อยู่ในช่วงกลียุค จำพวกมนุษย์ที่ไม่เชื่อในคำสอน ไม่นับถือศาสนา(ทำตามหมู่คณะไปงั้นๆ) พวกที่ไม่เชื่อในนรกสวรรค์ เกิดแก่เจ็บตาย จำพวกนี้จะมาเกิดในช่วงกลียุค ในช่วงที่ว่างเว้นไม่มีศาสนา ไม่มีพระพุทธเจ้า
     
  9. littleyogi

    littleyogi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +41
    เพิ่มเติมครับ
    -สมัยประเทศไทยชื่อสุวรรณภูมิ ขอมวิศณุได้เกิดในแผ่นดินนี้ ได้เป็นอาจารย์สอนอยู่หลายรัชสมัย เช่นสมัยพระเจ้าทับไทยทอง ข่าวว่า ขอมวิศณุคือ พระโพธิสัตว์ศรีอริยเมตไตย
    -บารมีขอมวิศณุล้นเหลือ โรงทานของท่าน ยาวจากแถบบังกลาเทศถึงเวียดนาม ด้านบนจากยูนานจดอินโดนีเซีย
    -ข่าวว่า พระโพธิสัตว์ศรีอริยเมตไตย จะลงมาบำเพ็ญบารมีอีกที่ไทย(ไม่ทราบช่วงเวลา) แล้วจะรอที่ดุสิตไม่ลงมาอีก รอเพียงการตรัสรู้
     
  10. littleyogi

    littleyogi Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +41
    สำหรับท่านที่สนใจเรื่องราว สามารถอ่านเพิ่มเติมเป็นความรู้ได้ที่หนังสือพุทธศาตร์สุวรรณภูมิครับ บางเรื่องที่โพสก็มีในหนังสือนั่น บางเรื่องก็ไม่มีครับ
    **การได้ศึกษาประวัติศาสตร์นี้ทำให้เรา(ผู้ที่เชื่อและศรัทธา)ได้เข้าใจว่าสังสารนี้ยาวไกล การเวียนว่ายตายเกิดนี้ไม่รู้จบ ทำให้เกิดความเบื่อหน่าย หาทางเพื่อออกจากมันครับ สำหรับผู้ที่ไม่เชื่อเรื่องกรรม เรื่องบุญบาป ชีวิตหลังความตายก็อยากให้ฟังหรืออ่านผ่านๆ ก็ยังดีครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...