ความลับของ ชีวิต คน

การที่เราเกิดมา
เรามีสองกาย
คือ กายสังขาร ที่เรามองเห็นเป็นเนื้อเป็นหนัง

และกายวิญญาณ/กายทิพย์ ที่เรามองเห็นเป็น แสงออร่า
สองสิ่งนั้นซ้อนกันอยู่

การซ้อนกัน อยู่ เหมือน ปาท่องโก๋ ที่ต้องติดกัน

ที่ส่วนศีรษะ มี ต่อมคุมชีวิต ที่เรียกว่า ต่อมไพเนียล/ปิทุยแตรี่
ต่อมนี้ คุมการมีชีวิตทุกอย่าง โดยมี รีโมทคือ ต่อมไร้ท่อ ทั้งหลาย

ต่อมไร้ท่อ นี้ที่แท้ก็คือ รากของ..ตัว จักระนั่นเอง
ที่เรียงกันจาก ฝีเย็บ ขึ้นมาถึง ส่วนบนสุดของ สมอง

 

ต่อมไพเนียล/พิทุยแทรี่ อยู่กลางกระโหลกศีรษะ
อยู่ในตำแหน่งที่ มีป้อมค่ายแข็งแรงที่สุด
เพราะเป็น หัวใจของชีวิต..เป็นตำแหน่งที่ปลอดภัยที่สุด

เพราะเป็นตำแหน่งที่คุมชีวิตนี้เอง
วิญญาณ ที่แข็งแรง เทพ เทวดา เมื่อ จะเข้ายึดครอง หรือเป็นองค์ใน
ก็จะต้องเข้ามายึดที่จุดนี้

เมื่อมองด้วยตาใน เราจึงมองเห้น ดวงสว่างอยู่ที่จุดนี้เสมอ
ดังนั้นเวลาจะมีการไล่ผี อกจาก คน

ต้อง เอามือ หรือ จิตที่มีพลัง สวนแกนสมอง เข้าไป ดัน
ตรงปลายแกนสมอง คือ ตำแหน่งตาที่สาม นั่นเอง
เพื่อ จะได้ ชนกันตรงๆๆ..ดันกันออกไปเลย
เหมือน การดันคนร้ายออกจาก บ้าน

จะออก หรือไม่ออก..อยู่ที่ว่า คนที่ มาไล่ กับคนที่ ค้างอยู่
ใครเจ๋ง..กว่ากัน

 

ส่วนบนสุด ของศีรษะ ที่เรียกว่า จักระ 7
เป็นช่องทางเข้า ออก ของ พลัง และ วิญญาณ ที่จะออกไป เมื่อ เวลา ตาย

เมื่อเป็นช่องทางเข้าออก ของพลัง
พวก เรียนพลังจักรวาล จึงต้อง ทำสมาธิ กำหนดจิตไว้ที่ จักระ 7 ที่ อยู่บนกระหม่อม..เพื่อ เรียกพลังมาในตัว

กำลังหนุนของชีวิต ที่เป็น ขั้วล่าง
คือ ตำแหน่งที่ ฝีเย็บ ระหว่างช่อง ถ่าย ทั้งสอง
และจะอยู่ในตำแหน่งที่ ปลอดภัยที่สุด เช่นกัน

เป็นกำลังหนุน ชีวิตที่สำคัญ
มีความร้อนแรง..ที่เราเรียกว่า "พลังกุณฑลินี " นั่นเอง
พลังกุณฑลินี ทำให้ ชีวิต เข้มแข็ง
คนที่ พลังอ่อน..จึงพยายามเติมให้เต็ม

ผู้ที่รู้ส่วนหนึ่ง จะไปนั่งรับพลังที่ ปากปล่องภูเขาไฟ
เช่นที่ บน ปราสาม เขาพนมรุ้ง บุรีรัมย์

ในทุกปี เราจะเห็นขบวน กลุ่มพลัง จักรวาล จะไปที่นั่นพร้อมๆๆกัน ทุกปี
ครั้งละ กว่า 400 คน..ขบวนรถ บัสใหญ่ไม่น้อย กว่า 10 คันรถ

และถ้าใครมีเงินมาก..ก็จะไปรับพลัง ที่ มหาปีระมิด ในประเทศ อิจิปต์

จากการวัด..พบว่า พลังที่ เขาพนมรุ้ง กับ ที่ มหาปีระมิด เกือบ เท่ากัน
ไม่ต้องไปที่ อิจิปต์ก็ได้..เว้นแต่ จะมีสาระ.ท่องเที่ยวเป็นหลัก

 

กายมนุษย์ มีจุดสำคัญ อยู่ที่ จักระ 7 หรือ ต่อม ไพเนียล/พิทุยแทรี่ นั่นเอง
ซึ่งเป็นจุดบนสุด ของ กาย

และมีจุดพลังหนุน อยู่ในกาย ที่ จุดล่างสุด คือ จักระ ที่ 1

พลังทั้งสอง จุดนั้น จะ วิ่งเข้าออก ระหว่างกัน
เสริมกัน เป็นพลังชีวิต
ปกติ จะเป็นไปโดยธรรมชาติ..คือ ค่อยๆๆ เป็น..ค่อยไป

แต่มีมนุษย์ บางคน รู้มาก..รู้ความลับนี้
จึงพยายาม ที่จะปลุก.ให้เกิดการเคลื่อนพลังให้แรงขึ้น

คือ ทั้งบีบ ทั้ง หมุน.จักระที่ 1 ด้วยความมี โลภะ
ถ้า พลังออกมา พอดี..ตัวจะมีพลังอำนาจเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

แต่ถ้ามากเกินล่ะ....เหมือนเป็นการกระพือไฟแรง
เหมือนคนที่เวลาไฟใหม้..แล้วยกของหนักไดก อย่างเหลือ เชื่อ ด้วยอำนาจของ ต่อม อดรีนาลิน...
แล้ว พอไห้ หยุด..เขาเป็นเช่นใด

การปลุก พลัง กุณฑลินี จึงมีความเสี่ยง ค่อน ข้างสูง
ปล่อยให้เป็นไป ธรรมชาติ จะดีกว่า

 

จักระที่ 1 มีพลัง หนุนที่แรงมาก

เมื่อ เรา ทำบุญ กุศล และ ต้องการส่งตรง ขึ้น เบื้องบน
เราก็มาส่งจิต โดยใช้ พลังกุณฑลิณี ช่วยนำส่ง สู่เบื้องบน

ดังนั้นผู้ที่ต้องการ ส่ง บุญ แบบ อีเอ็มเอส..แบบถึงแน่ๆๆ
ก็ใช้พลังกุณฑลิณี ช่วยส่ง

ขณะที่ ส่ง..ผู้ที่ส่ง จะรู้สึก พลัง กุณฑลิณี จะเคลื่อน ขึ้นจาก ฝีเย็บ
ผ่านตลอดหลัง ทำให้ หลังเย็น วาบๆๆตลอด ระยะทาง ที่พลัง กุณฑลิณีเคลื่อนผ่านไป

แล้วพลังกุณฑลิณี จะขึ้นมาที่ ท้ายทอย..เคลื่อนเข้าไปที่ จักร 7
เมื่อพร้อม สองพลังที่ รวมกัน จะแรงมาก
เราจะรู้สึกเหมือนกับว่า
มือเรา ยืด ออก สูงสู่สวรรค์ชั้นสูงสุด
แล้วมี มหาเทพ..ถือพานคอยรับบุญนั้น
เป้นการบันทึกไว้ ว่า ผู้นี้ได้ทำบุญ แล้ว

เป็นการส่งบุญ แบบ อีเอ็มเอส..ที่แน่นอน
ใครอยากจะลองมาส่ง แบบ อี เอ็ม เอส
ก็มาได้ ครับ สถานี ไปรษณีย์ ส่งบุญ แบบ อี เอ็ม เอส
ที่ บู๊ธ 052 บนสถานี รฟม กำแพงเพชร
ทุกวัน เว้น วันจันทร์
ช่วงเวลา 13.30-17.30 น

ผู้ที่ เคย ใช้ บริการ ส่ง บุญ แบบ อีเอ็ม เอส
ลองเข้ามาเล่า ประสบการณ์ จริง..ให้เพื่อนๆๆรู้บ้างก้จะดี
จะได้ เป็นที่รู้กัน..ว่า ผมไม่ได้หลอกใคร

 

ประสพการณ์ในการทำบุญแบบ อี เอ็ม เอส ของผม

อาจารย์จะให้เราพนมมือโดยมีเงินอยู่ในมือมากน้อยแล้วแต่เราจะทำ

จากนั้นอาจารย์จะจับมือเราไว้แล้วบอกต่อเบื้องบนว่าบุคคลผู้นี้ตั้งใจมาทำบุญ

ให้เบื้องบน และเจ้ากรรมนายเวรอาจารย์พูดยาวกว่านี้จำไม่ได้ทั้งหมด โดยให้

เทพเทวดาเอาพานทองมารับ ในขณะที่ทำควรทำใจให้มีสมาธินึกตามที่

อาจารย์พูดความรู้สึกจะเย็นจากขาขึ้นมาจนสุดปลายมือที่ชูขึ้น ลองทำบุญ

แบบนี้ดูครับถึงใจจริง

 

ผมเองได้แต่ดูคนอื่นทำ แต่แค่อ่านที่พี่ประสงค์พิมพ์เข้ามาก็รู้สึกได้ เกิดอาการปิติอย่างแรงในการโมทนาตามแล้ว ถ้าได้ทำเองจะขนาดไหนเนี่ย เพราะอ.อาชวินบอกว่าผมเองสามารถส่งเองได้ เลยประมาทไปหน่อย ว่างๆฝากอ.ส่งบ้างดีกว่า (b-smile)

 

ทุกอักษรที่อาจารย์พิมพ์เป็นเหมือนความรู้อันมีค่าสำหรับผม
และทุกๆคน อนุโมทนาจากใจจริงเลยครับ

 

โมทนาบุญครับอาจารย์ในการเผยแพร่ความรู้
ขอบพระคุณมากๆเลยครับ

 

อนุโมทนาสาธุครับ ^_^
แต่มีคำถามสงสัยครับ
-ทำไมมนุษย์ถึงมีเทพองค์ใน ที่ไม่เหมือนกัน แล้วบางคนมีหลายๆเทพ
เมื่อเรารู้ว่ามีเทพองค์ในคือองค์นี้ เราควรทำอย่างไร ควรเคารพบูชา หรือว่าอย่างไรครับ

อ.เคยบอกว่า การเปิดจักระที่ 1 ถ้าไม่แกร่งพอจะทำให้งูไฟรามขึ้นจากจักระที่1 มาแกนสมองและเผาแกนสมองบางส่วน(ถ้าทนไม่ได้)
ที่ว่าส่งบุญแบบ ems นั้น "ขณะที่ ส่ง..ผู้ที่ส่ง จะรู้สึก พลัง กุณฑลิณี จะเคลื่อน ขึ้นจาก ฝีเย็บ
ผ่านตลอดหลัง ทำให้ หลังเย็น วาบๆๆตลอด ระยะทาง ที่พลัง กุณฑลิณีเคลื่อนผ่านไป" เป็นงูไฟที่เย็นเหรอครับ (อันนี้ผมก็ไม่ทราบนะครับ) ผมไม่มีความรู้ ยังไงขอให้ อ. ช่วยอธิบายให้ฟังหน่อยนะครับ

 

สงสัยอ่ะครับ คืนพอดีเมื่อวานผมได้ทดสอบทำแล้ว อาการเป็นแบบที่ว่านี่แหละครับ เพิ่งมารู้จักตอนนี่ ดันถึงแค่กลางหลังตรงกับหัวใจเองอ่ะครับ ผมนั่งสมาธิ5นาทีได้มั่งครับ เจออาการแบบนี่เลยหยุดกลัวจะอันตราย แล้วมันได้บุญยังไงอ่ะครับ พอดีผมไม่ค่อยเก่งเรื่องแบบนี่ครับ

 

กุณฑลินี ปกติจะเป้น งูไฟ ที่ร้อนแรง
เป็นต้นกำลังกำเนิดของ ชีวิต..ให้พลังแก่ชีวิต

เหมือนดวงอาทิตย์ ที่ให้พลังความร้อนและแสงสว่าง
แก่ ดาวต่างๆๆ เช่นเดียวกับโลก

ในการส่ง บุญ แบบ อีเอ็ม เอส
งูไฟ จะช่วยในการนำส่ง เบื้องบน
จะต้องไปพบกับเทพเทวา ผู้รับ
พลังงูไฟ จึงต้องปรับตัว..ให้เป็นที่เรียบร้อย
ถ้าเป็นพลังร้อนขึ้นมา..พอตอนผ่านหลัง มันจะปวดแสบ ปวดร้อนมาก
การทำบุญ..ถ้าต้องทรมาณ กาย..แล้วใคร..จะทำ
พลังกุณฑลินี..เป้นพลังที่มีชีวิต

 

อาจารย์คะ ดิฉันมีประสบการณ์เรื่องหนึ่งเกี่ยวกับ จักร ดิฉันยังนึกอยู่ถึงบัดนี้ว่า เป็นไปได้ยังไง แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคำอธิบายคืออะไร และจะขอคำแนะนำจากอาจารย์ด้วยค่ะ

 

เรื่องมีอยู่ว่า ประมาณ 2 ปีมาแล้วดิฉันเข้ารับการอบรม เปิดจักร ค่ะ หลังจากนั้นประมาณ 1 เดือน ก็เกิดเหตุการณ์แปลกขึ้นกับดิฉันคะ
คือปกติแล้ว ที่บริษัทของดิฉัน จะมีเรื่องแปลกคือ พนักงานไม่สามารถนอนหลับในที่ทำงานได้ค่ะ ถ้าใครหลับในที่ทำงาน จะมีอาการเหมือนกันหมดคือ คือนอนแล้วตื่นยาก ต้องรอให้เพื่อนสะกิดแรง ๆ จึงจะลุกขึ้นได้ค่ะ ทุกคนจะบอกเหมือนกันหมดว่า ตื่นนานแล้วแต่ลุกไม่ได้ พอจะลุกเหมือนวิญญาณออกจากร่าง ดิฉันก็ได้แต่ฟังค่ะ ตอนแรกคิดว่าเป็นข้ออ้าง ของพนักงาน แต่ดิฉันสังเกตุว่าพนักงานคนไหนที่เคยนอนหลับแล้วบอกว่าลุกไม่ได้นั้น ต่อมาจะไม่ยอมนอนที่ทำงานอีกเลยค่ะ ถึงแม้จะป่วยก็ไม่ยอมนอนค่ะ (พนักงานจะนอตอนเที่ยง หรือบางทีไม่สบายก็จะนอนพักค่ะ)

 

จนกระทั่งวันหนึ่ง ดิฉันไม่สบาย ก็ไปนอนพักที่ห้องด้านหลังค่ะ ปรากฎว่า ดิฉันมีอาการเหมือนที่พนักงานเล่าให้ฟังค่ะ คือพอถึงเวลาที่เราตื่นแล้ว ไม่สามารถลุกจากเตียงที่นอนได้ ดิฉันเห็นคนเดินเข้าเดินออกห้องปกติ แม้กระทั่งสามีมาดูดิฉันที่เตียงดิฉันก็เห็น แต่เขานึกว่าดิฉันหลับก็เลยไม่ปลุก แต่สำหรับดิฉันแล้ว พยายามบอกเขาว่าให้ช่วยที ลุกไม่ได้ เขาก็ไม่รู้เรื่องค่ะ พอดิฉันพยายามลุกขึ้นนั่ง ดิฉันก็นั่งได้นะคะ แต่พอหันหลังไปดู เห็นตัวเองยังนอนอยู่ที่เตียงค่ะ ดิฉันกลัวก็เลยลงนอนใหม่ แล้วก็พยายามลุกอีก ก็เป็นเหมือนเดิมอีก จนสามีมาสะกิดตัวเรียก ดิฉันจึงสามารถตื่นขึ้นมาได้ (เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนที่จะไปเข้ารับอบรมเปิดจักรค่ะ)

 

จากเหตุการณ์ที่เกิดกับตัวเองนี้ ดิฉันบอกกับตัวเองเลยว่า จะไม่เผลอนอนที่ทำงานอีกเลย เข็ดค่ะ
จนกระทั่ง ไปรับการอบรมจักรมาแล้ว ผ่านไปประมาณ 1 เดือน วันนั้น ดิฉันรู้สึกเพลียค่ะ ตอนกลางวันก็เลยมานั่งพักบนโซฟาในห้องทำงาน ตั้งใจว่าจะไม่หลับ แต่สุดท้ายก็เผลองีบหลับไปในท่ากึ่งนั่งบนโซฟานะค่ะ แล้วก็เกิดเรื่องอีกจนได้ คือไม่สามารถตื่นได้เหมือนเดิม พอจะลุกก็เหมือนวิญญาณออกจากร่างเห็นตัวเองกำลังนอนอยู่เหมือนเดิม ดิฉันคิดหาทางออก คราวนี้ก็เลยสวดมนต์ค่ะ บทอิติปิโส สวดยังไม่จบบทเลยค่ะ ปรากฎเหตุการณ์คือ
บนกลางศรีษะของดิฉัน จักระ 7 หมุนค่ะ จักระ 7 หมุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ รู้สึกเหมือนใครมาโม่แห้งอยู่กลางศรีษะเราค่ะ และเสียงก็ดัง ครืด ๆ ดังมากค่ะ แล้วสักพัก ก็มีเสียงพระสวดมนต์ดังมาจากที่ไกล ๆ จนกระทั่งดังก้องไปทั้งศรีษะ
ส่วนที่ปลายนิ้วทั้ง 10 นิ้ว ก็รู้สึกว่ามีพลังอะไรสักอย่าง พุ่งออกมาจากปลายนิ้วทั้งสิบค่ะ พลังที่พุ่งออกมา แรงและเร็วค่ะ ดิฉันนอนอยู่รู้สึกทุกอย่างค่ะ เสียงพระสวดดังมาก ส่วนที่จักระ 7 ก็หมุนแรงและเสียงก็ดังมาก ส่วนที่ปลายนิ้วมือพลังก็พุ่งออกมาตลอด จนสักพักหนึ่ง ก็มีเสียงผู้หญิง กรีดร้องดังแทรกขึ้นมาในหัวสมองของดิฉันค่ะ จนกระทั่งเสียงกรีดร้องหยุดไป สักพักหนึ่ง เสียงพระสวดก็ค่อย ๆ เบาลงและเสียงห่างออกไป ส่วนที่จักระ 7 ก็หมุนช้าลง จนกระทั่งหยุด ส่วนที่ปลายนิ้วมือ พลังที่พุ่งออกแรง ๆ ก็ค่อย ๆเบาลง จนกระทั่งทุกอย่างเงียบสงบค่ะ ดิฉันก็ลืมตาและลุกขึ้นได้ ดิฉันนั่งงงอยู่กับที่คนเดียวว่าเกิดอะไรขึ้น เกิดขึ้นได้ยังไง อยากเล่าให้ใครฟัง แต่เขาคงไม่เชื่อ และที่สำคัญ หลังจากนั้น ไม่มีใครเป็นอะไรจากการนอนที่บริษัทอีกเลยค่ะ

 

ประเด็นก็คือ อาจารย์ที่อบรมจักระให้ ท่านบอกว่า วิชานี้ จะไม่มีเรื่องเกี่ยวกับผี หรือสิ่งเร้นลับ แต่เป็นวิชาเพื่อการรักษาโรคเท่านั้น ดิฉันก็เลยไม่เคยเล่าให้อาจารย์ที่อบรมฟังค่ะ กลัวท่านจะว่าดิฉันเพ้อเจ้อ แต่ดิฉันคิดว่า วิชานี้ต้องมีอะไรมากกว่าการรักษาโรคค่ะ เรียนถามอาจารย์ว่า สิ่งที่เกิดขึ้น มีเหตุผลมั้ยค่ะ

 

ขอบคุณอาจารย์ที่ให้ความรู้ครับ

 

วิธีแก้ไข..ให้ทำบุญเลี้ยงพระที่ที่ทำงาน
แผ่กุศล ให้แก่ดวงวิญญาณ ที่ติดอยู่ ณ ที่นั้น
ที่คุณ สามารถ สัมผัสติดต่อกับเขาได้ เพราะ การที่จักรหมุน ทำให้มีพลังจิตพิเศษ จึงติดต่อ เขาได้
เขาแสดงตัว ให้เห็นรูป ให้ได้ยินเสียง
แปลว่า กำลัง เดือด ร้อน ต้องการความช่วยเหลือ
แผ่เมตตา กรวดน้ำ
ควรจะมีการถวายสังฆทาน และ ผ้าไตร สามผืน
พร้อมกันไปด้วย จะเป็นโอกาสที่ดีที่สุด