ใครศรัทธา หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด มาพูดคุยกันครับ

อนุโมทนาด้วยนะครับ พี่นวล งดงามมากครับ ชอบๆๆๆ

 

รักเลย ๆๆ(k)

 

หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด สำนักสงฆ์เขากุฏ สงขลา
เหรียญเม็ดแตง

 

อนุโมทนาครับผม .....

 

พระดินดิบซะด้วยยย (ping-love(ping-love(ping-love(ping-love(ping-love

 

ท่านใจดีจริง ๆ ครับ

มีอยู่ครั้งผมเช่า หลวงพ่อทวด วัดเขาอ้อ ปี 32 และเข้าไปกราบท่าน นำพระไปให้ท่านเสก ท่านกล่าวว่า หลวงพ่อทวดศักสิทธิ์อยู่แล้วไม่ต้องเสกมาก และท่านก้อเมตตาเสกให้

 

ผ้ายันต์หลวงพ่อทวด วัดช้างให้ รุ่นบูรณะพระบรมธาตุเจดีย์
๒๕๕๑

 

สีดำคราบดินปลวก ติดแน่น ติดทนซะด้วย เอิ๊กก

 

สวัสดีค่ะน้องภัทรอยากทราบประวัติวัดช้างให้ความเป็นมา
ก่อนพระอาจารย์ทิม ครองวัด (เป็นเจ้าอาวาสค่ะ)
เล่าให้ฟังหน่อยนะคะ

 

กลับบ้านค่อยไปถามเจ้าอาวาสแถว ๆ บ้าน ให้ครับ อันนี้ไม่ทราบเหมือนกันครับ (k)

 

ค่ะ แล้วปี พศ.2484...ที่น้องภัทรบอก.....(f)

 

เท่าที่ทราบตอน 2484 อาจารย์ครองวัดช้างให้แล้ว ตอนที่ หลวงพ่อทวด หยุดรถไฟญี่ปุ่นอ่าคับ

 

ขุนช้าง พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ แรงกว่าขุนแผนอีกนะ

เพราะ ขุนช้างยังเบี้ย ... ขุนแผนม่ายเบี้ย ;aa17

 

หลวงพ่อทวดวัดสีหยัง สงขลา (ทรงอักษร)

 

ฮึม อยากยังเบี้ย ขอสักองค์
"ว่าแต่ขุนช้างกลางคืนจะมาหาหรือเปล่า"....กลัวมาเข้าฝัน...

 

อ๋อ ครับ ท่านใจดีมากที่เมตตาเสกให้ครับ วันนี้นำพระที่แขวนและพกติดตัวประจำไปเสก คราวหน้า พาอีกชุดไปให้ท่านเสกอีกครับ ต้องหาวันดีๆๆ ครับ

 

ค้นเจอมาค่ะ...

​

ขุนช้างเจ้าทรัพย์ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ
ขุนช้างรุ่นนี้มีทั้งเนื้อสีขาว และสีดำ เป็นของดีที่ทางวัดจัดสร้างอีกรุ่นหนึ่ง สร้างประมาณปี 45 สภาพสวย เป็นเนื้อผงลอยองค์ ท่านดังเงียบ ๆ แถบพื้นที่มานาน ท่านเก่งทาง ปลุกเสกอธิฐาน หลวงปู่ทวด ขุนช้าง ราหู ปลัดขิก ผ้ายันต์ รับทรัพย์ เพิ่มทรัพย์ พรานบุญ
สภาพสวย ไม่มีแตก ไม่มีร้าว
ขุนช้างเจ้าทรัพย์
หลายท่านคงแปลกใจวัดอื่นนิยมทำพระขุนแผนกันทำไมวัดห้วยเงาะกลับทำขุนช้างแล้วจะดีสู้พระขุนแผนได้หรือ? คงเป็นคำถามที่ติดอยู่ในใจทุกท่านแน่ พ่อท่านเขียวอธิบายเคล็ดให้ฟังกันดังนี้ครับ

1.ขุนช้างได้ยศขุน เพราะร่ำรวยมีเงินทองมาก แต่ขุนแผนต้องรบพุ่งพบแต่ความยากลำบากกว่าจะได้ยศขุน
2.ขุนช้างไม่ต้องติดคุกแต่ขุนแผนกลับต้องติดคุก
3.ขุนช้างมีทาสในเรือนเบี้ย (โดยนัยคือภรรยาทั้งสิ้น)นับสิบ ๆ คน
4.ขุนช้างมีความสุขสบาย แต่ ขุนแผนต้องพบกับความยากลำบาก

ในแต่ละวันมีแต่คนเอาเงินมาให้ ไม่ต้องออกไปเสาะหาทรัพย์สิ้นเงินทองให้ลำบาก

พ่อท่านเขียวจึงดำริให้สร้างขุนช้างเนื้อว่านแจกเหล่าศิษย์ที่เป็นพ่อค้าคหบดี เพราะผลดังกล่าวมาข้างต้นและผลในทาง โชคลาภค้าขายให้ถือเป็นเคล็ดอันสำคัญให้เกิดผลแก่เหล่าลูกศิษย์ใกล้ไกลที่นับถือท่าน พบกับความสุขสบายไม่มีความทุกข์ ประกอบอาชีพคล่องตัวมีเงินมีทองไม่มีหนี้สิ้นดำรงชีพชอบ
ที่มา : พระเครื่องพระเกจิ

 

พ่อท่านฉิม - พ่อท่านคิ้ม วัดพลานุภาพ ยอดพระเกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด ... ที่ถูกลืม

วัดพลานุภาพ หรือ วัดทุ่งพลา เป็นวัดโบราณวัดหนึ่งของจังหวัดปัตตานี มีอายุการสร้างเก่าแก่พอ ๆ กับวัดตุยง คือ ในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (หลังแบ่งหัวเมืองมลายู 7 หัวเมือง) คำว่า ทุ่งพลา มาจาก ในสมัยโบราณพื้นที่บริเวณแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งพลับพลาของพระเจ้าแผ่นดิน เวลาเสด็จยกทัพมาทางใต้

วัดพลานุภาพ ตามประวัติเจ้าอาวาสรูปแรก คือ พระอาจารย์เกลี้ยง (ต่อมาลาสิกขา) เจ้าอาวาสรูปต่อมาคือ หลวงพ่อจันทร์ จันทสโล ท่านเป็นพระธุดงค์มาจากพระนครศรีอยุธยา เมื่อธุดงค์มาถึงวัดพลานุภาพ เวลานั้นทางวัดไม่มีเจ้าอาวาสปกครองวัด ชาวบ้านในแถบถิ่นจึงนิมนต์ให้ท่านรับตำแหน่งสมภารครองวัดพลานุภาพจนท่านมรณภาพ เจ้าอาวาสรูปต่อมา คือ พระครูมนูญสมณการ ชาวบ้านในแถบถิ่นเรียกท่านว่า พ่อท่านฉิม , หลวงทวดฉิม พ่อท่านฉิม ท่านเกิดเมื่อวันจันทร์ เดือนยี่ ปีมะโรง พุทธศักราช 2398 ที่บ้านโตระ ตำบลควน อ.เมือง จ.ปัตตานี โยมบิดาชื่อ บุญ โยมมารดาชื่อ อิน เมื่ออายุได้ 13 ปี จึงได้เข้าบรรพชาเป็นสามเณร เมื่ออายุ 21 จึงอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดคอนนอก โดยมี พระอธิการณ์อินทร์ เป็นพระอุปปัชฌาย์ ได้รับฉายา "คงฆสโร" ครั้นอุปสมบทแล้วท่านได้ศึกษาพระธรรมวินัย ณ วัดคอนรัก จ.สงขลา เป็นเวลา 5 พรรษา แล้วกลับมาจำพรรษา ณ วัดคอนนอก อีก 8 พรรษา จึงได้รับการนิมนต์ให้มารับตำแหน่งสมภาร วัดพลานุภาพ และเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2474 จึงได้รับสมณศักดิ์ที่ "พระครูมนูญสมณวัตร" ตรงกับรัชสมัยล้นเกล้ารัชกาลที่ 7

ในสมัยพ่อท่านฉิมยังทรงสังขารอยู่นั้น ท่านได้รับตำแหน่งเป็น เจ้าคณะหมวดมะกรูด ในสมัยนั้นท่านได้อบรมสั่งสอนกุลบุตร กุลธิดา ในด้านการศึกษา อีกทั้งท่านได้ให้การบรรพชาแกพระภิกษุในยุคนั้นนับพัน ๆ รูป เป็นนัยสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า พ่อท่านฉิม วัดพลานุภาพ เป็นพระเถระอีกรุปหนึ่งในภาคใต้ยุคนั้น

พ่อท่านฉิม เป็นพระที่มีตบะแกร่งกล้า กล่าวกันในสมัยนั้นหากท่านนั่งอยู่ที่ใดก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นพระภิกษุ เณร ตลอดจนฆราวาสหญิงชาย ไม่มีใครกล้าเดินตัดหน้าท่านเป็นอันขาด นอกจากนี้ท่านยังมีความเชี่ยวชาญในหลายสรรพวิชาต่าง ๆ ในหลาย ๆ แขนง พระเกจิอาจารย์ละแวกใกล้เคียงที่อยู่ยุคสมัยเดียวกับท่าน ได้แก่พระครูพิบูลสมณวัตร (ชุม) และ พระครูมนัตสมณคุณ (หลวงพ่อทวดสีพุฒ) พระอุปัชฌาย์ของ หลวงพ่อดำ วัดตุยง และ หลวงตาแดง วัดศรีมหาโพธิ์ ตามลำดับ

หลังจากสิ้นพ่อท่านฉิมแล้ว เจ้าอาวาสรุปต่อมาคือ พ่อท่านคิ้ม สำหรับพ่อท่านคิ้ม ท่านเป็น ชาวอำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี พื้นฐานทางครอบครัวมีอาชีพเกษตรกรรม โยมบิดาชื่อ หนู โยมมารดาชื่อ เลื่อน นามสกุล บุญยศาสตร์ มีพี่น้องร่วมบิดา - มารดา 5 คน โดยพ่อท่านคิ้ม เป็นบุตรชายคนโต พ่อท่านคิ้ม ท่านเกิดเมื่อวันจันทร์ เดือน 7 ปีขาล พุทธศักราช 2443 เมื่ออายุครบ 21 จึงได้พรรชา ณ วัดพลานุภาพ โดยมี พ่อท่านฉิม เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการเพชรแก้ว เป็นพระกรรมวาจา พระวินัยธรฉิม เป็นพระอนุสาวาจารย์ เมื่อบวชแล้วได้ไปศึกษาต่อนักธรรมชั้นตรี ณ วัดตานีนรสโมสร (วัดกลาง) โดยมีพระอาจารย์ชู เป็นผู้สอน ทางด้านไสยเวทย์ท่านได้ศึกษาจาก พ่อท่านฉิม และโยมนำ ชาวสงขลา

โยมนำ ชาวสงขลาเก่งกล้าด้านไสยเวทย์ สามารถเรียกกาลงมากินข้าวได้ ด้านคงกระพันชาตรีก็เป็นยอด นอกจากโยมนำแล้วท่านยังได้ศึกษาเพิ่มเติมด้านคาถาอาคมกับฆราวาสในถิ่นนั้นอีกหลายคน แต่ละท่านล้วนเป็นผู้ทรงอาคมขลังด้วยกันทั้งถิ้น

วิชาสายใต้ ชาวใต้ในยุคเก่านิยมเรียนคาถาอาคม หากศึกษาประวัติประเกจิอาจารย์อาจารย์ในยุคเก่าก่อน จะกล่าวเป็นเสียงเดียวกัน ภาคใต้ธุดงควัตรได้ยาก เนื่องจากมีคนที่มีวิชาดีทรงอาคมขลังหลายคน การธุดงค์มาทางใต้มักโดนลองของเสมอ ๆ แม้แต่พวกรำโนราก็มีอาคมขลัง พวกรำโนรามีวิชาใช้เท้าเขียนยันต์บนดิน หากใครเดินมาเหยียบยันต์เข้าจะเพ้อเดินตามเค้าทันที แต่วิชาสายใต้นั้น ถือ แรงครูเป็นหลัก หากศิษย์คนใดลบหลู่ครูบาอาจารย์ จะถูกแรงครูเล่นงานเอาได้ ในสมัยก่อนจะพบชายชาตรีเหมอลอย ท่าทางเสียสติ ให้เห็นอยู่หมือนกัน เป็นผลมาจากการลบหลู่ครูบาอาจารย์ นอกจากนั้นพวกเล่นไสยสายใต้ มีวิชากลายร่างเป็นเสือ หากกลายร่างแล้วจิตใจของตนเองต่ำ จะไสยถูกไสยครอบงำ ทำให้ไม่สามารถกลับร่างกลายเป็นคนได้ บางท่านวันดีคืนดีร้อนวิชา กระโดนหน้าต่างกลายร่างเป็นเสือหนีเข้าป่าไปเลยก็มี ตรงนี้พระสายใต้ที่ทำการธุดงธวัตร หากพบเจอคนพวกนี้ ท่านจะช่วยให้รอดพ้นจาก "กรรม" ตรงจุดนี้

พ่อท่านคิ้ม ในสมณศักดิ์เดียวกับพระอุปัชาย์ คือ พระครูมนูญสมณการ พ่อท่านคิ้ม เป็นพระเกจิอาจารย์ผู้เรืองเวทย์มีความเชียวชาญในหลาย ๆ ด้าน ทั้งด้านเมตตามหานิยม ด้านคงกระพันชาตรี ด้านรักษาโรค แต่สิ่งที่โดดเด่นมาก คือ การรักษาโรคพิษสุนัขบ้า

พ่อท่านคิ้ม ท่านเถระที่มีวัตรปฏิบัติอันงดงาม มีเรื่องแปลกมาก ๆ คือ เล็บเท้าของท่านตัดไม่เข้า ต้องปล่อยให้หลุดไปเอง

วัตถุมงคล
1.เหรียญพระครูมนูญสมณการ(ฉิม) 2476 แจกจ่ายในงานพระราชทานเพลิงพ่อท่านฉิม เป็นพระเหรียญที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดปัตตานี
2.ในพ.ศ. 2500กว่า ๆ พ่อท่านคิ้ม ได้ทำผ้ายันต์รูปท่าน โดยใช้ผ้าบังสุกุลมาทำ
3.พระผงผสมว่าน รุ่นแรก วัดพลานุภาพ 2508 มี 3 พิมพ์กลีบบัว(คล้ายพระกสินหลวงพ่อพัฒน์) พิมพ์รูปไข่ และ พิมพ์มนต์ พระรุ่นนี้ทำพิธีที่วัดพลานุภาพ โดยมี พระเกจิอาจารย์เข้าอฐิษฐานจิตดังนี้ 1.พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ 2.พระครูไพโรจน์ นราธิวาส 3.พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว 4.พระอธิการเอี่ยม 5.พ่อท่านพุฒ วัดห้วยเงาะ 6.พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย 7.พ่อท่านวัดเขากง 8.พระครูศสิขัน (ตาเจ้า) วัดนาเกตุ 9.พ่อท่านคิ้ม วัดพลานุภาพ
4.รูปเหมือนพ่อท่านฉิม ก้นอุดเหล็กไหล

พ่อท่านคิ้ม ท่านพิถีพิถันเรื่องวัตถุมงคลเป็นอย่างมาก มีประสบการณ์ด้านมหาอุตย์


วันนี้ผมนำพระเครื่องพ่อท่านฉิม - พ่อท่านคิ้ม เนื้อผงผสมว่าน ปี 2508 ซึ่งผมได้รับมอบจาก พ่อท่านพรหม มาให้ชม 3 องค์ครับ

 

ได้เบอร์บอกบ้างเน้อ 555+