เมื่อพระอภิญญาท่านว่า...

ถึงแม้จะอยากได้พระเนื้อแร่ตระกูลธาตุศักดิ์สิทธิ์ ก็จะไม่อิจฉาค่ะ มีแต่ยินดีและสุขใจไปกับผู้ที่ได้รับ สาธุค่ะ...

 

ขอบคุณครับ..ที่ชมว่า..ดีอย่างโง้นอย่างงี้..ดีครับ ผมชอบคำชม

ส่วนใครจะตำหนิก็ได้ครับ..ชอบเหมือนกัน แสดงว่าเขาสนใจเรื่องของเรา

ขอแต่อย่าเปรี้ยว อย่ากวน..แบบไม่มีเหตุผล อันนี้ไม่ดีไม่ชอบ ..เหนื่อยใจ

ตกลงว่าเพราะชื่อtoplus99 เลยสะดุดหูเลยตามเข้ามาอ่าน ..ว่างั้นนะครับ

ไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือ...วันหน้าจะแถมภาพการณ์ตูนสีสวยๆให้นะครับ

Example

Sol..
ลองดูสมการ ว่า เงิน 100 สตางค์ = 1 บาท

ถ้าเรามี 99 สตางค์ = ไม่เต็มบาท

และถ้ามี 101 สตางค์ = เกินบาท

ที่มา: To = ถึง,plus= บวก ,99 มันก็ยังไม่เต็มร้อย และเมื่อไปบวก99

เพราะฉะนั้น ความหมายของ Toplus99 =มันก็ไม่เต็มบาทอยู่ดี แค่พยายามทำให้เต็ม Ans

 

สาวน้อยท่านนี้..เชียร์เก่งที่สุดในโลก...
....เชียร์กันสนั่นพสุธา..น่ารักมากมาย

 

จบจากเรื่อง...การจัดสร้างพระชุดเนื้อแร่ตระกูลเหล็กไหลและธาตุกายสิทธิ์
...ต่อด้วยประสบการณ์พลังพุทธคุณและการทดสอบทีทำให้วิทยาศาสตร์
..ให้งงงัน แล้ว

======++++=====
จะขอบอกเล่า ..#ความตายบนเส้นทางโจรสลัด...
ก่อนออกบรรชิตเพื่อค้นหาสัจจะธรรมชีวิตของอดีตนักเลงบ้านนอก
(ขอบอกว่า ตื่นเต้น..โหด..เหตุประหลาด...หดหู่..สะท้อนใจ..และประทับใจแน่นอน...อูย!อยากเล่าๆ)

 

เชียร์.ร์.ร์..เชียร์.ร์.ร์..เชียร์.ร์.ร์..chearrchearrchearrchearrchearrchearrchearrchearrchearrchearr
:z2:z2:z2:z2:z2denceedenceedenceedenceedenceeเย้..เย้..เย้....!!!!!!

 

ค่อยอ่านอยู่ครับ...ไม่ค่อยได้โพสต์ เพราะพูดไม่ค่อยเก่งครับ...

 

.อูย!อยากเล่าๆ
อูย อยากฟังๆ...เอ๊ย อยากอ่านๆๆqsqu

 

ไม่ได้เข้ากระทู้มานานเป็นเดือน เลยอดของดี เดี๊ยวต้องไปหาของดีบ้างดีกว่า
ยังเขียนได้น่าติดตามจริงๆ ยิ่งตอนผจญภัยในถ้ำ เหมือน รพินทร์ ไพรวัล ทีเดียว

 

วันนี้กะว่า..จะบ่นถามหาออกสื่ออยู่พอดี...เห็นเงียบหายไป งดโฆษณา
เหมือนผีดลใจ..ให้ทักทายมาซะก่อน

สบายดีอยู่นะครับ

คิดถึงกันอยู่เด้อ! คิดถึง..
:VO(deejai)

 

ทุกคืนวันศุกร์-เสาร์ จะแวะมาฉายหนัง..

รอหน่อยกำลังกรอฟิล์มอยู่...

 

จองตั๋วปูเสื้อรอแล้วครับ

 

#เรื่องราวของพลังเหล็กไหลและธาตุกายสิทธิ์กับการค้นหาในถ้ำเหวอาถรรพ์

หยุดไปหลายวัน มา...มาฟังกันต่อดีกว่า..เดี๋ยวลืม

วันถัดมา..ของเวลาที่ยังเหลือจากวันหยุดและขอลาพักร้อน

“มาหลวงพี่นิดมา เราไปลุยกันต่อ...ไปมาดลุกเตรียมตัวกันอีกรอบ” ชักชวนทั้งคู่ทั้งพระทั้งโยม

“ขอตัวเถอะพี่ ผมล่ะเหนื๊อยเหนื่อย! …”งานวันนี้ เจ้ามาดออกตัวล้อฟรี..โธ่ ไอ้อ่อนเอ๊ย!นายอ่อนมากๆ

“งั้น ก็ต้องหาผู้ช่วยคนใหม่ “

ในที่สุดก็ได้พระมารายงานตัวใหม่อีกหนึ่งรูป คงปล่อยให้เจ้ามาดมือถือสากเหล็ก(อันเบอเริ่ม) ปากเคี้ยวหมากฝรั่ง นั่งตำบดผงแร่อื่นๆที่ได้มา โป๊กๆๆ แบบสบายๆแทนการลงถ้ำทั้งวัน
(อย่าหวังว่า..ฉันจะปล่อยแกได้สบายเลย)

...ซอกหลืบถ้ำลึกในถ้ำเหวลึกนับร้อยเมตรต้องป่ายปีนลงด้วยบันไดเหล็กเส้นเล็กๆ อย่างยากลำบาก เสี่ยงอันตรายยิ่งนัก ถึงอย่างไรก็เป็นเสน่ห์ที่คนทั้งพระทั้งโยม ต่างก็อยากใคร่รู้ อยากเห็นว่าเป็นอย่างไรแต่หากมีน้อยรายที่จะกล้าลงไปยังสถานที่แห่งนี้

....เนื่องจากทั้งสูงแนวดิ่ง เสียวสุดๆ หากพลาดพลั้งมือไม้อ่อน หล่นร่วงตกลงไป ผู้ที่อยู่ด้านบนก็โปรดเตรียมแจ้งญาติให้จัดหาผ้าไตรถวายชักบังสุกุลให้คนร่วงไปเมื่อกี้ได้เลย..รับรองรอดยาก!

พระอาจารย์ท่านว่า..ที่ปล่องถ้ำนี้ถือเป็นสะดือแผ่นดิน เป็นจุดรวมพลังงานทั้งสามโลก มีไม่กี่สถานที่ในโลกนี้ ที่มีพลังงานของมิติเป็นเช่นนี้ นั่นรวมถึงเขาพนมรุ้ง ที่เป็นที่ตั้งของปราสาทในยุคขอมรุ่งเรืองอยู่ด้วย

ที่ถ้ำเหวลึกนี้...ถือเป็นชั้นที่2 จากถ้ำปกติ มีพื้นที่ทางยาวไปตามแนวเขาอีกเป็นกิโลๆ แต่คงไม่เคยมีมนุษย์คนไหนที่จะสามารถผ่านไปสำรวจได้ตลอดรอดฝั่งด้วยสังขารกายเนื้อแน่ๆ

นี่ยังไม่รวมชั้น ที่ 3 ลึงลงไปอีกนับร้อยเมตร ที่เป็นประตูมิติลับเส้นทางเชื่อมเขตมวกเหล็กสู่แม่น้ำโขง
ด้วยคุณสมบัติหลักๆของถ้ำชั้นที่ 2 มีดังนี้คือ

....สัตว์มีพิษมีอยู่มาก โดยเฉพาะงู ตะขาบ แมลงป่อง

.... เพราะอากาศออกซิเจนในถ้ำนี้น้อยมากๆ แสงเทียนแท่งใหญ่ก็แทบไม่มีแสงสว่างให้เห็น เพราะไม่มีออกซิเจนช่วยติดไฟ
<O</O
.....ที่สำคัญคือไฟฉายของท่านที่มีแบตเตอรี่ทุกประเภทไม่ว่าเยี่ยมยอดปานได้ ก็ไร้ผลแสงริบหรี่เท่านั้น
ก็เดินไปแห่งหนใดต้องระวังอย่างมาก เพราะที่ที่ท่านยืนอาจเป็นปากเหวอีกที่หนึ่ง

มีพลังงานของแร่บางอย่างในถ้ำ ที่คอยดูดซับพลังแบตเตอรี่ของท่านแทบไม่เหลือหรอ หรือใช้ได้ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น ปีนขึ้นมาบนปากถ้ำพลังไฟก็หมดหายเกลี้ยง!

…..ในถ้ำแห่งนี้มีพลังงานของเหล่าเจตสิกของเหล่าวิญญาณทั้งเหล่าภูตวิญญาณ เหล่าเทพชั้นภุมมานังผู้ดูแลทั้งหลาย เหล่าอสูรกาย ทั้งเหล่าพญานาคที่พ่นคายกระแสไอพิษร้อนทิ้งไว้มากมาย แม้นว่าไม่บริสุทธิ์ใจจริง ไม่มีสัจจะจริง กำลังสมาธิไม่นิ่งอยู่ตัวจริง...ไม่ได้ทำงานเพื่อพระศาสนาจริง ขออย่าเสี่ยงด้วยประการทั้งปวง..โดยเฉพาะพวกนักล่าเหล็กไหลทั้งหลาย เราขอเตือน!

ที่ Toplus99และคณะลงไปถ้ำลึกได้ มิใช่ว่าเก่งกาจแต่อย่างใด เพียงแต่พระอาจารย์ท่านทำพิธีบวงสรวงบอกกล่าวแก่ผู้ดูแลสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้ล่วงหน้าแล้วนั่นเอง...

แต่กระนั้นก็มิสำคัญไปกว่ากันคือ..ความกล้า บ้ามึนสู้และเชื่อมั่นของเราเป็นสำคัญ ที่ต้องมีเอาไว้ควบคู่กัน

และการมุดถ้ำครั้งนี้...ในที่สุดหลวงพี่นิดก็เจอด้วยตัวเอง(ซะ)มั่ง.....จนได้ เหอๆๆ <O</O

 

#เรื่องราวของพลังเหล็กไหลและธาตุกายสิทธิ์กับการค้นหาในถ้ำเหวอาถรรพ์


มุดถึงลงไปให้เจอหลืบถ้ำแห่งหนึ่งที่ต้องรอดรูกันแยกออกเป็นสองทางโดยมีจุดหมายปากทางเข้าล้อมเพิกหินที่กลุ่มแร่อยู่ ต่างมองเห็นกันอยู่ประมาณ ร่วม 3 เมตร ปากทางหลืบถ้ำนี้พบกับสิ่งมีชีวิตรูปร่างยาวๆ ขยับตัวยวบยาบๆ แลบลิ้นสองแฉก สิ่งนี้คือสิ่งที่เราไม่อยากพบเจอนั่นคือ
โอ้เฮ้ย..คุณพระช่วยด้วย! นั่นมันพญางูใหญ่งูยักษ์นี่...
ลำตัวสีออกดำสนิท คาดด้วยเหลืองเป็นปล้องๆ สีสวยเชียว ขนาดความยาวใหญ่โต ชวนให้สยองยิ่ง<O</O
เพราะมัน......มันใหญ่พอๆกับแท่งดินสอของเด็กอนุบาลเลยอ่ะตัวเอ๊ง!..... แป่วๆๆ ตกใจซะนะ


งูทับสมิงคลา..งูที่แสนหล่อ รูปร่างเล็กกระทัดที่พลาดโดนกัดล่ะก็ ม่องเท่งได้เหมือนกัน...<O</O

<?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 class=inlineimg title="Tongue out" alt="" border="0" src="http://palungjit.org/images/smilies/tongue-smile.gif" o</v:shapetype>referrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><Vath o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></Vath><?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com</o:lock><v:shape style="WIDTH: 285pt; HEIGHT: 183.75pt; VISIBILITY: visible; mso-wrap-style: square" id=Picture_x0020_1 target="_self" alt="http://www.biogang.net/upload_img/blog/icon-blog-42686-5eced6f23d9a45b114eaaa9ddea0b341.jpg" o:spid="_x0000_i1025" type="#_x0000_t75" href="http://www.biogang.net/upload_img/blog/blog-42686-5eced6f23d9a45b114eaaa9ddea0b341.jpg" o:button="t"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\NBTTTBB\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image001.jpg" o:title="icon-blog-42686-5eced6f23d9a45b114eaaa9ddea0b341"></v:imagedata></v:shape><O></O>
ชื่อไทย:งูทับสมิงคลา, งูปล้องเงิน (ใต้), งูทับทางขาว (อีสาน), งูทำทาน (อีสาน)<O></O>
ชื่อสามัญ:Blue Krait, Malayan Krait
ชื่อวิทยาศาสตร์: Bungarus candidus (Linnaeus, 1758)
ขนาดเมื่อโตเต็มวัย:
การกระจายพันธุ์:
การจำแนกชนิด:
ถิ่นอาศัย:
ข้อมูลทั่วไป:งูทับสมิงคลาจัดเป็นงูพิษที่มีขนาดค่อนข้างเล็กลำตัวเป็นลายขวางสลับดำ-ขาว แต่ลายสีดำนี้จะไม่คาดผ่านส่วนท้องของงูซึ่งในงูสามเหลี่ยมนั้นลายจะพาดผ่านส่วนท้องด้วยแม้จะอยู่ในสกุลเดียวกับงูสามเหลี่ยม แต่ลำตัวมันกลับค่อนข้างกลมปราดเปรียวทั้งกลางวันและกลางคืน ออกหากินเวลากลางคืนใกล้ลำธารบางครั้งพบอาศัยอยู่ในถ้ำ มีความผันแปรของลายมาก บางตัวอาจมีลายคล้ายงูปล้องฉนวนมากแต่จะมีส่วนที่ต่างกันคือเกล็ดที่แนวสันหลังเป็นรูปหกเหลี่ยมและมีขนาดใหญ่กว่าเกล็ดข้างลำตัวพิษมีความรุนแรงกว่างูสามเหลี่ยมประมาณ 20 เท่าในห้องปฏิบัติการเช่นกันผู้ป่วยที่ถูกกัดมักหมดสติในเวลาไม่กี่ชั่วโมงเป็นเวลาหลายวันหากสามารถรักษาชีวิตได้ทันปัจจุบันมีการผลิตเซรุ่มแล้วแต่ต้องติดต่อสถานเสาวภา สภากาชาดหรือโรงพยาบาลจุฬาโดยตรง เพราะยังไม่มีการกระจายตามโรงพยาบาลทั่วไป<O></O>
<O> </O>
<O> </O>
แต่ก็บอกกล่าวไปว่ามาด้วยเจตนาดี ขอได้เปิดทางให้เราเถอะ โปรดอนุโมทนาบุญกันเถอะจ๊ะ..
(ก็คนมันช่างประจบ !กะงู..กูก็ไม่เว้น)

จากนั้นพญางูใหญ่งูยักษ์ ร่างเล็กๆก็หลบหายไปไหนซอกหินที่เราต้องรอดผ่าน...ผ่านช่องหินไป
เอาวะวัดใจกันทั้งขาเข้าขาออกล่ะ เผื่อรอดน่า?

ความรู้สึกแปลกๆก็เริ่มอุบัติขึ้นกับผู้เขียนมีเสียงหายใจ ดังฟืดๆฟาดๆ แบบหนักๆของสัตว์ประเภทงูคอยติดตามแว่วอยู่ข้างหูอยู่ตลอดเวลา
รับรองว่า...ไม่ใช่เสียงงูจิ๋วๆเมื่อตะกี๊แน่นอน มันคุ้นๆน๊าเสียงแบบนี้
เงียบไว้อย่าพูด! เดี๋ยวพากันหนาวเปล่าๆ..
<O</O
จนมาคลานสูง คลานต่ำรอดรูถ้ำถึงจุดกลุ่มแร่ผุด ก็รับรู้ว่าแผ่นหินแถบนั้นมีกระแสไฟช๊อต ที่ฝ่ามือ ปิ๊บๆ เป็นช่วง อะไรวุ้ย ปะเดี๋ยวช๊อตฝ่ามือ เดี๋ยวข้อศอก ประเดี๋ยวโดนหัวล้านตัวเอง
.... แต่ครั้งนี้ที่ตรงไหนโดนไฟช๊อตปรุ๊บ! ก็แอบเอาไขควงเช็คไฟที่พกลงไปด้วยตรวจดูปรั๊บ!
ก็ไม่เห็นปรากฏว่ามีแสงไฟ บอกว่ามีกระแสไฟอยู่!?!

ถึงตอนนี้เลยอดใจถามพระหลวงพี่นิดไม่ได้
“หลวงพี่ว่าเจอหรือโดนอะไรแปลกๆไหม?”

“ฉันรู้สึกว่ามีไฟมันช๊อตแปร๊บๆ เดี๋ยวโดน ไม่โดนอยู่นั่นแหละ แต่ฉันไม่กล้าพูด”
อืม !โดนบ้างก็ดีจะได้เหมือนๆกัน

จนการเก็บนำแร่ชุดนั้นออกมาได้ประมาณหนึ่ง<O</O
แต่ช้าก่อน... หลวงพี่นิด ก็ดันตาดี(รึเปล่า)สายตาเหลือบไปเห็น ก้อนกลมขาวๆขนาดลูกปิงปอง วางอยู่บนแท่นหินเข้า ประมาณ 2-3 ลูก (สันนิษฐานว่าคงเป็น..หินไข่มุก)
<O</O
“นี่ทิด ฉันว่า..ฉันจะเอากลับไปถวายหลวงพ่อดีไหม?” ถามปนเชิงขอความเห็นด้วย (อยากได้ไว้เองล่ะ..ไม่พูด)
“เอางั้นเหรอ...หลวงพี่ลองขยับดูสิ ถ้าเขาให้ก็คงหลุดไม่ยาก”
หลวงพี่นิดจึงคลานไปใช้มือเอื้อมขยับหินกลมลูกนั้นดู...ผลก็คือ

“อู๊ยยยๆ! เขาไม่ให้ๆ ไปเถอะๆ ไม่ไหวแล้วรีบกลับกันเถอะ” หลวงพี่ส่งเสียงลนลาน
สงสัยคงโดนอะไรทีเด็ดเข้าแง๋มๆ ทำหน้าตาเลิ่กลั่กๆเชียว ..รู้นะหลวงเพ่<O</O

 

จินตนาการตามไปด้วยให้ความรู้สึกเหมือนตามพี่ไปในถ้ำด้วย ตอนพี่บรรยาย
"ความรู้สึกแปลกๆก็เริ่มอุบัติขึ้นกับผู้เขียนมีเสียงหายใจ ดังฟืดๆฟาดๆ แบบหนักๆของสัตว์ประเภทงูคอยติดตามแว่วอยู่ข้างหูอยู่ตลอดเวลา" นี่รู้สึกเสียวสันหลังวูบเลย........
แถม......ยังได้ความรู้เรื่องงูทับสมิงคลาอีกด้วย

แต่......โปรดติดตามตอนต่อไปนี่กระชากอารมณ์ที่สุด รอคอยอย่างลุ้นระทึกครับ

หากผมเข้าใจถูกว่ามวลสารที่พี่อธิบายนี้นำไปสร้างพระที่พี่มอบให้ ความรู้สึกของผมขณะนี้ดีใจมากที่ได้รับพระที่สร้างจากมวลสารเหล็กไหลที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงของพี่ หลวงพี่นิดและพี่มาด และท่านอื่น เนื่องจาก
1.พี่และท่านทั้งหลายมีศรัทธา กล้าหาญ รวมทั้งมีศีล สมาธิ ปัญญา และวิริยะ อย่างยิ่งยวดยากที่จะหาได้จากคนรุ่นใหม่
2.มวลสารเหล็กไหลนี้มีคุณวิเศษอยู่ในตัวเองและมีค่า เป็นของหายากเรียกว่าแลกมาด้วยชีวิตก็ได้
และ3.สิ่งสำคัญที่สุดคือได้พระอาจารย์ผู้บริสุทธิ์เป็นผู้อธิษฐานจิตสร้าง

และถึงแม้ว่าได้รับพระที่ไม่ได้จากมวลสารเหล็กไหลนี้ผมก็ดีใจไม่น้อยไปกว่ากันครับ
เพราะพระอาจารย์ท่านสร้างรูปจำลองพระพุทธเจ้ามาให้ลูกหลานบูชาเพื่อระลึกถึงคุณวิเศษของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์และสามารถคุ้มครองได้ในยุคภัยพิบัตินี้

ขอเอาใจช่วยท่านอื่นๆ ให้ได้รับพระพิเศษชุดนี้ครับ (+++ แอบคิดขอให้พี่ toplus99 +++ ใจอ่อนมอบให้ทุกท่านที่เข้ามาชมครับ)

 

น้อง ton344.. นี่ก็ปากหวาน ช่างประจบเหมือนกันนะเรา...

.. ไปยืมนิสัยดีๆของใครมาใช้รึเปล่า?

ดังบทกลอนตอนหนึ่งที่ว่า...รู้ประจบ จะพบเจริญ เหอๆๆ

***********

ใครรู้ความหมายของคำว่า " เจ้าสัว" บ้างว่าคืออะไร ?

ทำไมต้องตั้งชื่อเรียกว่า เจ้าสัว ด้านหลังประทับ" ยันต์เฑาะห์" คล้ายในพระวัตถุมงคลทั้งหลาย ที่หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว พระเกจิชื่อดังในอดีตนครปฐม นิยมจัดสร้าง

มงคลงามนาม เจ้าสัว แสนไพเราะ เสนาะโสตเรียกขานความมั่งมี
ยันต์หลังคือยันต์เฑาะห์ พุทธา มหาฤทธิ อิทธิเดชแห่งเวทย์มนตรา
เหล่ามวลผงสารล้วนพร้อมพรั่งพี เรื่องราวมี มากมาย มหัศจรรย์

พระที่วัดจัดสร้างเอง เจตนาบริสุทธิ์ผ่องผุด เพื่อชาวพุทธเหล่าชนทั้งหลาย
โรงงานสร้างต้องของด อดวาสนา เพื่อรักษาด้านพลังความศักดิ์สิทธิและมนต์ฤทธานุภาพ
ตลอดเวลาหน้าพิธี ต้องจุดธูปเทียนบูชา ครูบูรพา เทพเทวา ตลอดถึงบรรดาองค์จ้าวปู่ฤาษี ผู้ดูแลธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย

บุคคลไม่เกี่ยวข้อง อย่าได้มองหมายกลายกล่ำ ล่วงล้ำเขตปะรำพิธี เพื่อเขตแดนแห่งเทพเทวา..ช่วยพานำเจริญ

ด้วยกาลภาคภายหน้าน่ากลัวนัก พระอาจารย์ท่านจักต้องนำพาบุคคลดี
มีมงคลคุณธรรมให้พ้นภัย ด้วยนิมิตสร้างจากมวลสารตามญานวิถึ
ที่ได้รับกล่าวบอกเตือน หากวาสนาสัมพันธ์เกื้อหนุนนำมา
คงได้ประสบ....พบของดี

 

ตั้งจิตรอข่าวดีจาก คุณ toplus99 ด้วยความขอบคุณ

 

จากข้อมูลของ เรือนไทย.วิชาการ.คอม บอกว่า เจ้าสัว หมายถึงคหบดี แต่คำนี้เดิมจะใช้ในรูป เจ๊สัว น่าจะราวสมัยรัชกาลที่ ๕ นี้เองที่เจ๊สัวค่อยเลือนหายไปและเจ้าสัวถูกใช้แทนที่

คำว่า เจ๊สัว หรือ เจ้าสัว นี้มาจากภาษาจีนสำเนียงแต้จิ๋วว่า จ่อซัว (座山 - จีนกลางว่า จว้อซาน)

จ๋อ 座 เป็นคำเดียวกับที่แปลว่าที่นั่ง แต่ในที่นี้ในความหมายว่า เป็นปึกแผ่นมั่นคง
ซัว 山 แปลว่าภูเขา
รวมความ จ่อซัว (เสียงจ๋อกลายเป็นจ่อเมื่อตามหลังด้วยเสียงสามัญตามหลักการออกเสียงจีนแต้จิ๋ว) แปลได้ว่าขุนเขาอันมั่นคง หมายถึงคหบดีนั่นเอง
ดิฉันจึงคิดเห็นว่า ไม่ว่า เจ้าสัว จะเป็นขุนเขาอันมั่นคง หรือคหบดี ล้วนเป็นสิ่งที่ดีงาม สมบูรณ์พูนผล เมื่อมาผนวกกับพุทธานุภาพต่าง ๆ ล้วนเป็นมงคลยิ่งนักค่ะ

 

เอาใจคนสูงวัยสายตาแย่ จะลำบาก ต้องขยายตัวอักษรให้โตๆไว้ก่อน

 

ยันต์เฑาว์พุทธะ
ในสมัยที่หลวงพ่อปานออกธุดงค์คือประมาณปี พ.ศ. 2446 ท่านพบลายแทงฉบับหนึ่งบ่งบอกว่า มีขุมทรัพย์และพระคาถามหายันต์อันศักดิ์สิธิ์บรรจุอย ู่ภายในพระปรางค์ร้างวัดพระศรีมหาธาตุ สุพรรณบุรี หลวงพ่อปาน มีความสนใจในพระคาถามหายันต์นั้นเป็นอย่างมาก ท่านจึงออกธุดงค์ดั้นด้นค้นหาพระปรางค์ร้างจนพบและทำ การขุดเจาะรงตำแหน่งลายแทง ก็พบทรัพย์สมบัติและพระพิมพ์ต่างๆ มากมายบรรจุอยู่ในพระปรางค์ แต่ท่านก็ไม่มีความสนใจในทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าต่างๆ เหล่านั้นเลย นอกจากผอบทองคำใบหนึ่งซึ่งภายในมีแผ่นลานทอง จารึกพระคาถาและอุปเท่ห์วิธีใช้ที่พระฤาษี 108 ตน ร่วมกันชักยันต์ขึ้นมาเป็นพิเศษ เพื่อมอบแด่ผู้มีบุญต่อไปในภายภาคหน้า เมื่อหลวงพ่อปาน ได้พระคาถามหายันต์ไปใช้แล้วก็นำมาท่องจนขึ้นใจสามาร ถชักยันต์ได้จนมีความชำนาญ จึงนำแผ่นลานทองเก็บไว้ในผอบทองคำตามเดิมแล้วนำมาบรร จุที่ใต้ฐานพระพุทธรูปองค์หนึง จากนั้นหลวงพ่ปานก็นำพระคาถามหายันต์นั้นมาใช้ได้บัง เกิดผลอันศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่น่าอัศจรรย์ ต่อมาเมื่อหลวงพ่อปานพิมพ์รูปของท่านออกแจก จึงประทับมหายันต์นั้นไว้บนศีรษะมหายันต์ดังกล่าวนั้ นคือ "ยันต์เฑาว์พุทธะ"นั่นเอง
ยันต์เฑาว์พุทธะนี้มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์สูงส่งเ พราะพระฤาษีผู้ทรงอภิญญาร่วมกันชักยันต์ขึ้นภึง 108 ตน นอกจากจะใช้ป้องกันภูตผีปีศาจแล้ว ยังใช้แก้โรคภัยไข้เจ็บทั้งภายในและภายนอกได้ดี โดยพิมพ์ยันต์ลงบนผ้า ปิดตามร่างกายที่ปวดเช่น ปวดศีรษะ ปวดบวมตามร่างกาย หรือจะสูญฝีก็ได้ให้ใช้นิ้วจุ่มน้ำลายใต้ลิ้น เขียนยันต์สูญรอบๆฝีหรือจะลงแก้มแก้คางทูมก็ได้ดียิ่งนัก ให้ระลึกถึงคุณพระศรีรัตนตรัย พระฤาษี 108 ตน และหลวงพ่อปานเท่านั้นก็หายสิ้นแล<!-- google_ad_section_end -->

 

#เรื่องราวของพลังเหล็กไหลและธาตุกายสิทธิ์กับการค้นหาในถ้ำเหวอาถรรพ์


ด้วยพลังของแร่ธาตุศักดิ์สิทธิ์ ที่ทางพระอาจารย์ ได้สะสมรวบรวมจากหลายแหล่งหลายสถานที่หลายประเภท และผสานด้วยบุญบารมีที่ท่านพระอาจารย์สั่งสมมาเพื่อจรรโลงพระศาสนา และพลังจากการร่วมอนุโมทนาอุทิศธาตุเพื่อสร้างบารมีของดวงเหล่าเจตสิกผู้ดูแลธาตุศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ตลอดถึงการแผ่พลังจากการอัญเชิญบารมีขององค์พระรัตนตรัย ครูบาอาจารย์สายโลกทิพย์ตลอดถึงพลังของเหล่าเทพยดาเจ้าทั้งหลาย ร่วมอธิษฐานจิตพุทธาภิเษก เทวาภิเษก การบวงสรวงบัดพลีตามตำราพิธีพราห์มโบราณ ทำให้เกิดการจัดสร้างวัตถุมงคลรุ่นล่าสุด ที่มีพลังพุทธคุณ ความศักดิ์สิทธิ์มหัศจรรย์มากมาย ที่ต่างออกไปจากของที่อื่นจนน่าทึ่งทีเดียวแล้ว

บางส่วนก็มีลูกศิษย์ที่มีแร่ธาตุศักดิ์สิทธิ์บางอย่างอยู่แล้ว เคารพนับถือท่านก็นำมาถวายให้ บางส่วนก็ได้จากการที่ท่านสั่งให้เก็บรวบรวมมาจากธุดงค์ในป่าแถบทับลานเช่น เพชรหน้าทั่ง ส่วนหนึ่งก็จากที่ผู้เขียนเคยรวบรวมเก็บสะสมไว้ จากการท่องเที่ยวป่าบ้าง เดินทางทำงานในสถานที่ต่างๆหลายจังหวัดบ้าง และบางส่วนก็ขอบูชาจากสถานที่ต่างนำมาถวายท่าน<O</O

จนเหตุการณ์การพยายามเริ่มเข้มข้นขึ้นมาเมื่อในวันเข้าพรรษาของปีที่แล้ว พร้อมชักชวนเพื่อนรุ่นน้อง ไปพักปฏิบัติธรรมที่วัดถ้ำ ตามนิมิตเพราะฝันถึงพระอาจารย์บ่อยมาก เข้าใจว่าท่านคงมีธุระอยากให้ช่วยงานท่าน
โทรศัพท์มีแต่สัญญาณอ่อน ติดต่อยากมาก ท่านเลยอธิษฐานเป็นนิมิตหมายให้ผู้เขียนรับรู้ว่า
“..รีบมาที่วัดซะดีๆ ข้ามีธุระจะให้เอ็งทำ”

จนมีการรวบรวมธาตุศักดิ์สิทธิ์มากมายหลายประเภท ได้มาด้วยความยากลำบาก เสี่ยงภัยอันตรายมากมายนานับประการในถ้ำเหวลึก บางจุดพระอาจารย์ให้ไปนำเอามาเป็นจุดพิเศษ ที่ท่านรับรู้จากนิมิตญาน
ที่เจ้าของผู้ดูแลธาตุบอกให้รับทราบ แต่ละถ้ำท่านก็เรียกชื่อเฉพาะของท่านเอง