ขอเพียงที่พักใจ

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย kookandf, 19 กรกฎาคม 2012.

  1. kookandf

    kookandf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +115
    ชีวิตรักตอนนี้มาถึงตอนอวสานแล้ว ตอนนี้รู้สึกเหมือนใจจะขาดให้ได้ ความเห็นแก่ตัวของใครบางคนแสดงออกมาชัดเจน เจ็บจังเลย วันนี้ไม่สามารถที่จะเข้มแข็งไปส่งศิษย์น้องเข้าเรียนครูสมาธิได้เลย ไม่มีแรงแม้แต่จะเดินลงไปซื้อน้ำดื่ม เราเหนื่อยจังเลย
     
  2. kookandf

    kookandf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +115
    ขอกำลังใจหน่อยนะคะ
     
  3. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    สรรพสิ่งล้วนมี"อวสาน"เป็นที่ไปเท่านั้น ..สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วตัั้งขึ้นแล้วย่อมแปรเปลี่ยนและหมดสิ้นไปเหมือนกันหมด ไม่มีสิ่งใดที่เกิดขึ้นแล้วมีความถาวรเป็น
    นิรันดร์..เราทั้งหลายย่อมผ่านพ้นประสบการณ์แห่งการจากพรากมานับไม่ถ้วน แต่ไม่ได้พิจารณาเห็นความจริงจึงมีวิปลาสว่าสิ่งทั้งหลาย"เที่ยง มั่นคง แน่นอน ยั่งยืน"... ครั้นสิ่งนั้นแปรเปลี่ยนไป ไม่ตรงกับวิปลาสที่ตนยึดถือ ย่อมเข้าถึงทุกข์ โศกเศร้า พิไรรำพัน"ยิ่งแล้ว

    จากสิ่งที่ท่านจขกท เล่ามาครั้งแรก ก็พอจะทราบได้ว่า จุดจบนั้นปรากฏขึ้นมานานแล้ว ทว่า ท่านจขกท ยังมั่นใจว่าจะยื้อเอาไว้ได้ จึงไม่กล้าเตือนตรงๆ รอให้สภาวะธรรมปรากฏให้ทราบเอง ซึ่งบัดนี้ท่านจขกทก็ได้พิสูจน์ความจริงในธรรมชาติที่มีอยู่ว่า สิ่งทั้งปวงไม่อยู่ในอำนาจบังคับบัญชา ร้องขอเอาได้ของใครๆเลย
    ..

    อนึ่งเมื่อมีอวสาน ก็ย่อมมีความเริ่มต้นเกิดด้วยตามมา..
    ท่านจขกท จะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ..?.. เมื่อก่อน ท่านอยู่ด้วยความทุกข์ระทมขมขื่น ไม่แน่ใจไม่มั่นใจ ในชายที่ตนรัก..ท่านต้องทำการต่างๆเพื่อบำรุงเขาให้มีความสุขและชอบใจ ท่านต้องคอยหวาดระแวงว่าท่านจะเป็นที่รักของชายคนนี้เพียงคนเดียวหรือว่ามีใครอื่นน่านิยมกว่าท่าน...ท่านต้องกังวลในทุกๆวันที่ผ่านไปว่า อายุก็มากขึ้นทุกวัน เมื่อไรหนอ เราและเขาจึงจะได้สมรสกันอย่างเป็นทางการ..และเขาจะเลี้ยงดูเราเยี่ยงสามีที่ดีเสียที ..ฯลฯฯลฯฯลฯ

    บัดนี้
    ท่านไม่ต้องกังวลกับข้อสงสัยไม่แน่ใจต่างๆในตัวชายนี้อีกแล้ว...ท่านไม่ต้องลำบากขวนขวายในกิจที่ไม่ใช่ธุระของท่านเพื่อชายนี้อีกแล้ว..ท่านไม่ต้องเสียเวลาและเงินทองกับชายคนนี้โดยเปล่าประโยชน์อีกแล้ว...ท่านเป็นอิสระแล้ว...!! ท่านเป็นอิสระแล้ว!!..นี่มิใ่ช่จุดเริ่มต้นใหม่ที่ดีแก่ท่านหรอกหรือ??..นี่มิใช่ความเบาสบายแก่ท่านดอกหรือ?.

    นี่น่าจะเป็นที่มายินดีปรีดาปราโมทย์แก่ท่าน ที่หลุดจากอกุศลวิบากอันทรมานนั้นมิใช่หรือ?? ใยจึงยังรันทดหดหู่อีกเล่า?.. ถ้าว่ามารดาได้ทราบความทุกข์นี้ของท่าน มารดาจะเข้าถึงทุกข์ยิ่งกว่าท่านหลายเท่านัก.ท่านไม่พึงทำตนให้เป็นวัตถุแห่งทุกข์แก่มารดาเลย...ท่านพึงยังใจให้แช่มชื่นเถิด บุญที่ท่านทำมาไว้ดียิ่งแล้วกำลังมาช่วยฉุดท่านให้ออกจากนรกในปัจจุบันแล้ว..

    เหมืิอนคนไข้ใกล้ตายด้วยมะเร็ง ครั้นมะเร็งถูกทำลายทิ้งไป คนไข้ย่อมรักษาชีวิตไว้ได้ ไม่เรียกร้องดื้อดึงเพื่อจะเก็บเอาก้อนมะเร็งนั้นไว้ชื่นชม ไม่เศร้าโศกเพราะสูญเสียมะเร็งอันเป็นภัยร้าย ฉันใด ท่านจขกท ก็พึงไม่ก่นโศกเสียดายการเสียชายคนนี้ัอันไม่ต่างจากก้อนมะเร็งนั้นเลย..ฉันนั้น..

    บัดนี้ท่านมิต้องแบกของหนักอะไรอีก อันภาระคือขันธ์๕ของท่านเอง ย่อมหนักหนาสาหัสยิ่งแล้วในการดูแลบริหาร..ใยจึงยังยินดีในการหาขันธ์๕นอกตัวมาเพิ่มภาระอีกเล่า?..

    ตื่นเถิดจากฝันร้าย รู้ตื่นด้วยปัญญาเถิด...อย่าจมอยู่ในความหลงอยู่นานเลย...ท่านเดินบนทางสายธรรมะอยู่ ทางนี้ย่อมน่ารื่นรมย์ เกษมปลอดภัย อันบุคคลทั่วไปเข้าถึงได้ยาก ท่านมีบุญอันยิ่งไม่ธรรมดาเลย บุญนั้นกำลังจัดสรรค์เพื่อรองรับสนับสนุนให้ท่านเดินไปบนทางเพื่อความพ้นทุกข์อันน้อยคนจะไปถึง..ขอให้ท่านเข้มแข็งด้วยปัญญา ทิ้งความอาดูรอาลัยในสิ่งที่ไม่เป็นแก่นสารเสีย เริ่มต้นใหม่เสียในบัดนี้ เวลาและความตายไม่เคยรอหรือปราณีใครเลย ..ที่แน่ๆ ไม่เกิน๑๐๐ปี ทั้งคนเขียน คนอ่านคนตอบคนถามในบัดนี้ ก็อาจไม่เหลือแม้ซาก...

    เป็นกำลังใจให้ครับ..

    <table class="D" border="0" cellspacing="0"><tbody><tr valign="top"><td>
    </td><td>กามโต ชายตี โสโก </td><td>กามโต ชายตี ภยํ </td></tr><tr valign="top"><td> </td><td>กามโต วิปฺปมุตฺตสฺส </td><td>นตฺถิ โสโก กุโต ภยํ. </td></tr><tr valign="top"><td> </td><td colspan="2">ความโศกย่อมเกิดแต่กาม, ภัยย่อมเกิดแต่กาม; </td></tr><tr valign="top"><td> </td><td colspan="2">ความโศกย่อมไม่มีแก่บุคคลผู้พ้นวิเศษแล้วจากกาม, </td></tr><tr valign="top"><td> </td><td colspan="2">ภัยจักมีแต่ไหน</td></tr></tbody></table>
    ที่มา: อรรถกถา ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท ปิยวรรคที่ ๑๖

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2012
  4. kookandf

    kookandf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +115
    ขอบคุณสำหรับคำแนะนำและกำลังใจที่ดีมาก อ่านจบรู้สึกดีจังเลย แต่ก็ยังเศร้าและร้องไห้เหมือนเดิม พึ่งจะเลิกกันวันนี้ เดี๋ยวประมาณสองทุ่มเขาจะเข้ามาขนของของเขา แม้กระทั่งทีวีเก่าๆเขายังจะเอาไปเลย เหตุผลที่เลิกเขาบอกเราเข้ากันไม่ได้ ดิฉันงงมากเลย เซ่อๆซ่าๆสมอง ปัญญาไม่ทำงานเอาซะเลยในเวลานี้ ต่อให้เคยปฏิบัติธรรมมา ชั่วโมงนี้รู้สึกว่าสติไม่มีเลย เจ็บมาก รู้สึกไม่มีค่า เหมือนโดนผลัก ใจหวิวๆ เกิดคำถามในใจ งง สับสน และร้องไห้
     
  5. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    ถ้าคุณอยากหายทุกข์จริง ๆ คุณต้องยอมรับความจริงและปล่อยเขาไปให้ได้ครับผมเคยมีความทุกข์เรื่องความ รักมาก่อนและรู้สึกเหมือนอกจะฉีก ใจจะขาดเป็นชิ้นๆ แต่พอทำสมาธิจนเกิดปัญญาแล้วมันก็หายไปเลยเวลาไม่ถึง 1 วินาที อาการปวดหน้าอก ความแค้นใจหายไปหมดเลย ผมมีความรู้สึกว่ารู้แล้ว แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่ารู้อะไรต้องทบทวนจึงเข้าใจ คุณสามารถทำได้นะครับผมอยากให้คุณพิจารณาตามนี้ (อาจทำใจยากหน่อยครับแต่หายจริง)
    -ให้คุณทำความเข้าใจว่าความทุกข์ทั้งหมดเกิดจากเราเองพยายามโทษตัวเองทั้ง หมด เพราะถ้าคุณมัวแต่ไปคิดว่าคนอื่นทำให้เราทุกข์เราจะไม่มีทางที่จะดับทุกข์ ได้เลยเพราะคนอื่นทำเรา แต่ถ้าคิดว่าเราเป็นผู้ทำให้เกิดทุกข์เองเราสามารถที่จะดับมันได้เอง
    -ขอให้คุณหาให้ได้ว่าความจริงแล้วคุณรักอะไรในตัวผู้ชายคนนั้นกันแน่ โดยปกติแล้วเรายังไม่สามารถรักเขาที่ตัวเขาได้ถ้าเรายังไม่เป็นพระอริยเจ้า แต่เราจะรักเขาที่ส่วนย่อย ๆ คุณอาจจะพบว่าสิ่งที่คุณรักจริง ๆ คือ ภาพเวลาเก่าๆ ที่เขาดีกับคุณ ภาพเวลาที่คุณสองคนเคยมีความสุขร่วมกัน หรืออาจจะเป็นอนาคตที่คุณวาดฝันเอาไว้ หรือภาพที่คุณฝันหวานถึงเขา
    -ขอให้คุณลองคิดดูว่าคุณทำตัวเป็นเจ้าของเขาหรือไม่ คุณมีความรู้สึกว่าคุณคนเดียวเท่านั้นที่ทำให้เค้ามีความสุขได้หรือว่าทุก ความสุขในชีวิตเขาเป็นของคุณหรือไม่ หรือคุณเคยคิดว่าไม่อย่ากให้เขามีความสุขเมื่ออยู่กับคนอื่นมากเกินไปหรือ ไม่ ถ้าใช่แสดงว่าคุณยึดติดกับช่วงเวลาที่คุณเคยมีความสุขกับเขาแล้วคุณอยากที่ จะรักษามันไว้คุณเลยทำตัวเป็นเจ้าของเขาไปเพราะเขาสามารถให้ความสุขกับคุณ ได้คุณเลยอยากเก็บเค้าไว้ให้ใกล้ตัวที่สุดแล้ววันหนึ่งเขาเกิดเลือกที่จะไม่ ให้ความสุขคุณแล้วคุณถึงได้มีความทุกข์มากมายขนาดนี้
    -นี่เป็นเพราะคุณไปสร้างตัวของคุณขึ้นในตัวของเขา คุณเลยคิดว่าคุณรักเขาแต่ความจริงแล้วคุณรักตัวเองผ่านทางเค้าหรือรักตัวคุณ ที่อยู่ในตัวเค้า ตัวตนที่คุณสร้างขึ้นเอง ซึ่งความรักนี้เป็นความเคยชินจากเด็กๆ คุณลองคิดดูว่าคุณมีพฤติกรรมแบบนี้หรือเปล่า เด็กอายุไม่กี่ปีเมื่อกำลังเล่นของเล่นอย่างหนึ่งอยู่แล้วมีเด็กอีกคนจะมา เล่นของเล่นเด็กคนที่เป็นเจ้าของของเล่นจะไม่ยอมให้เด็กอีกคนเล่นโดยเขาจะ แกล้งทำเป็นเล่นของเล่นชิ้นนั้นพอเด็กอีกคนไปแล้วเขาจึงกลับไปเล่นของเล่น ชิ้นเดิมและไม่สนใจของเล่นชิ้นนั้นเลย นี่เป็นความเคยชินสมัยเด็กที่ติดตัวมาแสดงออกเวลาที่เรามีความรัก
    -คุณต้องพิจารณาให้ดีว่าเราทำตัวเป็นเจ้าของเขาอย่างไร เรารักอะไรกันแน่ คนเรามีความยึดติดกับการยึดเป็นเจ้าของสิ่งต่างๆ มาก เช่น สมมติบ้านเรามีต้นมะม่วงอยู่พอมันมีมะม่วงเราก็เริ่มไปมองว่ามันเป็นของเรา แล้วตั้งแต่อยู่บนต้นเลย พอคนอื่นเอาไปเราก็ทุกข์หนักเพราะเอาของเราไป เห็นไหมครับในกรณีนี้เจ้าของต้นไปสร้างตัวตนในมะม่วงอาจเป็นตัวตนเล็กๆ พอคนอื่นเอาไปจึงทุกข์ไม่มาก กรณีของคุณอาจสร้างตัวตนมากกว่าจึงทุกข์มากกว่าต้องพยายามดึงตัวตนที่คุณใส่ ไว่ในเขากลับมาเพราะมันไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรักตัวเองผ่านคนอื่น คุณก็รักตัวเองเลยเดี๋ยวนี้เลย
    -ผมอยากให้คุณพิจารณาว่าคนทุกคนเกลียดตัวเองเป็นปกติโดยเราถูกสังคมหล่อหลอม ว่าเราไม่สมควรที่จะรักตัวเองควรรักคนอื่นก่อน แต่ความรักเป็นสิ่งที่จำเป็นคนเราเลยทำสิ่งที่แยบยลกว่าคือการสร้างตัวเรา ของเราในคนอื่นแล้วรักตัวเราของเราในคนอื่นแทนที่จะรักตัวเองโดยตรง ซึ่งการทำแบบนี้เองทำให้เราเกลี่ยดตัวเองและรักตัวเองไม่เป็น ถ้าคุณลองมารักตัวเองอย่างไม่มีเงื่อนไขคุณจะหายทุกข์ได้คุณจะดึงตัวตนทั้ง หมดที่คุณฝากไว้ทุกหนทุกแห่งกลับมาหาคุณและเริ่มรักตัวเองซึ่งการรักตัวเอง เป็นจุดเริ่มต้นของความรักทุกประเภท
    -การปฏิบัติผมอยากให้คุณเจริญสติอยู่กับปัจจุบันให้ได้ตลอดเวลาที่คนเราไม่ มีสติเพราะเราเกลียดตัวเองชอบหนีตัวเองไปอยู่ในโลกความคิด หนีไปอยู่กับอดีตแสนหวานบ้าง อนาคตที่รุ่งโรจน์บ้าง ถ้าคุณอยู่กับตัวเองและยอมรับตัวเองได้คุณจะมีความสุขมหาศาลขนาดที่ว่าหนึ่ง ปีนี้เทียบกับหนึ่งนาทียังไม่ได้ ขนาดที่ว่าถ้าสามารถเป็นคนนั้นคนนี้ได้จริงก็ยังไม่เอาเลือกที่จะเป็นตัวเอง
    -การภาวนาให้นั้งภาวนาไป ไม่ต้องคิดมาก แค่นึกถึงคำเหล่านี้ ตัวเราของเรา เกลียดตัวเอง ไม่ต้องคิดต่อครับอยู่กับคำสองคำนี้ให้นานที่สุดจนซักพักความคิดหยุดลงคุณจะ รู้เองและคุณจะดับทุกข์ทั้งหมดคุณจะไม่มีวันลืมวินาทีนั้นเลย
     
  6. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ครับ เมื่อแผลยังใหม่อยู่หลังการผ่าตัด ความเจ็บปวดรวดร้าวย่อมต้องปรากฏ ..หากเป็นแผลทางกาย ก็ต้องใช้ยาทา-กินสมานให้หายเจ็บ.. แต่นี่เป็นแผลทางใจ อาการย่อมหนักหนาแทบจะตายลงไปนั่นเทียว ทั้งการจะรักษาได้..ก็มีเพียง"ธรรมะโอสถ"ของพระพุทธองค์เท่านั้นที่จะบรรเทาได้..

    เมื่อจะให้ทานคนยาก เราก็ต้องเกิดความกรุณาแก่เขาก่อนว่าคงมีความลำบากยากเข็ญ ไม่อาจแม้ซื้อทีวีได้ แล้ววางใจสละทีวีเก่านั้นให้เขาไปเถิด ถือว่าสงเคราะห์ผู้ด้อยกว่่า ทานชนิดนี้ย่อมมีผลมากเพราะปรารภด้วยจิตมีกรุณาและปัญญาประกอบ..บางทีเขาอาจขายมันต่อเพื่อนำเงินแม้น้อยนั้นไปยังชีพต่อได้ ..เราเคยให้ข้าวน้ำกระทั่งหมาแมวฯลฯมาแล้ว เพื่อให้เขาอยู่รอด กับคนคนหนึ่งจะเป็นไรไปหากจะสงเคราะห์ พึงกุลีกุจอช่วยจัดเตรียมให้เขายกไปได้ โดยสะดวกดีเถิด วางใจไว้ด้วยโยนิโสมนัสสิการให้เป็นไปกับวิปัสสนาว่า"โอ้หนอ แม้ทีวีนี้ก็มีอันต้องพรากจากไป ไม่มีอะไรเป็นของเราอย่างแท้จริงสักสิ่งอย่าง" ดังนี้ ยังใจให้แล่นไปด้วยโสมนัสในทานนี้คิดถึงพระเวชสันดรเมื่อทรงประทานสิ่งของแจกจ่ายแก่คนทั้งหลาย ยังความปลื้มใจให้เกิดขึ้นว่า"แม้เราก็มิได้หวงแหนในทีวีเก่าๆนี้เลย จึงยกให้แก่บุรุษผู้ยากไร้นี้ได้ด้วยเจตนาทานนี้แล" เป็นต้น..

    เขาก็คงไม่กล้าบอกเหตุผลแท้จริงอื่นๆในใจให้ทราบทั้งหมดหรอกครับ อาการเข้ากันไม่ได้นี้ย่อมมีรากมาจาก เหตุผลอื่นๆมากมายเช่นเพราะเธอแก่ง่าย ดูไม่จืดแล้ว เพราะฉันเจอใหม่ที่สวยกว่าเธอ เธอไม่ใช่สิ่งตื่นเต้นแก่ฉันอีก..เพราะฉันเจอคนที่มีฐานะดีกว่าเธอ หรือเพราะเธอดีเกินไป เพราะมีศีลมากกว่าฉัน ฯลฯ ดังนั้น จึงไม่พึงเอ๋อเมื่อได้ฟังเหตุผลกลางๆที่นิยมใช้ติดปากในการปลีกตนออกจากสัมพันธภาพแบบคู่นี้เสีย..ว่ากันที่จริงน่าขอบใจที่เขาไม่บอกอะไรที่เสียหายตรงๆให้ไฟลุกท่วมใจเรามากกว่านี้นะครับ..

    ครับสภาพธรรมย่อมเป็นของจริงที่ปรากฏได้ด้วยเหตุปัจจัย เมื่อขณะปฏิบัติธรรมอยู่นั้น เรามีสติมากกว่าเพราะไม่มีอารมณ์ที่ไม่ดีมากระทบกระทันหัน..แต่ในเวลาที่ต้องกระทบผัสสะที่ไม่น่าปรารถนาย่อมเป็นที่มาของโทสะ คือเศร้าโศกสลดหดหู่ตกใจเบลอนี้เป็นเรื่องปกติครับ เมื่อฝึกสติให้เกิดได้ทันการเป็นปกติ ท่านจะไม่หวั่นไหวเลยกับสิ่งทั้งปวงที่มากระทบ.

    .อีกประการหนึ่ง คือการที่ท่านไม่ได้พินิจไตร่ตรองและเตรียมรับความแปรผัน เมื่อมันเกิดขึ้น โทสะจึงเกิดนำสติ หากว่าท่านเตรียมใจยอมรับหลักความจริงของธรรมชาติว่า สักวันหนึ่งเขาต้องทิ้งเราไป..(จะด้วยตายหรือแยกทิ้งไปก็เถิด).. หรืออวสานของแต่ละสิ่งย่อมปรากฏ ท่านก็จะสามารถเกิดสติขึ้นได้เมื่ออวสานมาถึงจริงๆ..การพิจารณาถึงความพลัดพรากจากสิ่งที่รักเนืองๆจนชิน เป็นการเจริญวิปัสสนาที่เรียกว่าอนิจจานุปัสสนา
    พึงทำให้มาก เพราะเราทั้งหลายต้องประสบกับอวสานในหลายๆอย่างในชีวิตนี้ เมื่อทำให้มากแล้วย่อมเห็นการอวสานของสิ่งที่ตนเกี่ยวข้องว่าเป็นเรื่องปกติของโลก ยอมรับได้ ปล่อยเป็น..จะไม่ทำตัวเหมือนทาสที่ปล่อยไม่ไป คือเขาไปแล้ว เรายังเอาบ่วงทาสมาพันคออยู่ ไม่น่าดูเลย..

    อีกประการหนึ่ง หากตนเองยังไม่เห็นตนมีค่า แล้วจะหวังให้ใครอื่นที่ใหนมาเห็นค่าของเราได้เล่าครับ...

    เมื่อจะร้องไห้ก็พึงคิดถึงศักดิ์ศรีของตนว่า"ก็ใครเล่าทำเราให้ทุกข์เช่นนี้?..เราเองมิใช่หรือที่พาตนมาพัวพัน กับชายคนนี้ เราถูกใครหรือเขาบังคับให้มาหรือ หรือเราเลือกทำเอง?หรือว่าเราทำไปเพราะเสียสติ ในเวลานั้น?.. ทำไปเพราะฟั่นเฟือนหรือก็เปล่า..เราเองพาตนมาเกี่ยวข้องกับเขาเองทั้งๆที่ทราบแก่ใจว่าตน อยู่ในฐานะเสียเปรียบทุกด้าน ก็เมื่อเป็นเช่นนี้เราจะโทษใครเล่าหากไม่ใช่โทษตนเอง..เราต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยตนเองไม่ว่าผลจะเป็นบวกหรือลบ.."

    แล้วพยายามระงับความเศร้าลงในแต่ละวันที่ผ่านไป ..ไม่นาน ท่านก็จะเป็นผู้ที่ไม่โศกเพราะเรื่องนี้อีกท่านอาจจะตระหนักถึงภัยของสังสารวัฏมากขึ้น ใครจะทราบว่า ท่านอาจได้บรรลุธรรมเพื่อความไม่เกิดอีกเพราะเบื่อหน่ายสังสารวัฏจนจิตหลุดพ้นทีเดียว อย่านึกว่าเป็นไปไม่ได้ อย่าดูถูกตนเองในที่ทั้งปวง...

    ขอให้พ้นทุกข์ไวๆครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 สิงหาคม 2012
  7. kookandf

    kookandf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +115
    เขาทำงานดีค่ะ เงินเดือนค่อนข้างสูง เรื่องขาดเงินเขาจึงไม่ค่อยมีเท่าไหร่ ตอนนี้สามทุ่มกว่าแล้ว เขายังไม่ได้มาขนของเลย ใจหายทุกครั้งที่ได้ยินเสียงคนเดินผ่านหน้าห้อง ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไงถ้าเขามา แต่เดาว่าเขาคงไม่พูดอะไร เพราะเขาก็เป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว คิดไว้ว่าจะออกไปนอกระเบียง ไม่อยากมองตอนเขาขนของออกไป และเขาก็คงจะเอาเพื่อนเข้ามาช่วยขนด้วย รู้สึกใจหายเหลือเกินเหมือนจะจากกันตลอดกาล ชั่วโมงนี้อาศัยอินเตอร์เน็ทเป็นเพื่อน มันเหงาและอ้างว้างเกินจะบรรยายเลยค่ะ
     
  8. kookandf

    kookandf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +115
    เหงาและเศร้าจังเลย มีใครอยู่แถวนี้ไหม
     
  9. bluebaby2

    bluebaby2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2010
    โพสต์:
    2,471
    ค่าพลัง:
    +4,288
    อย่ากลัวการอยู่คนเดียวเลยครับ มันคือความจริงของชีวิต ทุกคนเกิดมาคนเดียว
    ใช้ชีวิตคนเดียว และตายคนเดียว มีชีวิตเป็นของตนเอง มันคือความจริงของ
    ธรรมชาติแต่กลับไม่ค่อยมีใครคิดแบบนี้เลย มันทำให้ผมแปลกใจได้เสมอว่าคน
    เรายอมทำอะไรบ้างเพื่อที่จะไม่ได้อยู่คนเดียว ยอมที่จะทนทุกข์มากมายขนาด
    ไหนเพื่อที่จะไม่ต้องอยู่คนเดียว เพื่อหนีความจริงของชีวิตข้อนี้ ทุกคนช่างกลัว
    ความจริงข้อนี้อย่างที่สุด พยายามอยู่กับคนอื่นก็เพื่อลืมความจริงข้อนี้ สร้าง
    สมาคม ชุมนุมหรือกลุ่มต่างๆ ขึ้นมาเป็นหมื่นเป็นแสนก็เพื่อลืมความจริงข้อนี้ เมื่อ
    ไหร่ที่อยู่คนเดียวก็หาอะไรเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อที่จะลืมความจริงข้อนี้ และ
    หลายคนก็ทำสำเร็จหนีมันได้ตั้งแต่เกิดจนตายก็ไม่ต้องคิดพิจารณาถึงความจริง
    ข้อนี้เลย ทั้งที่มันไม่จำเป็นต้องเป็นแบบนั้นก็ได้ ถ้าสามารถอยู่กับตัวเองได้เมื่อ
    ไหร่ถึงจะพบกับอิสรภาพที่แท้จริงของชีวิต ไม่ต้องเอาแต่สนใจในสิ่งที่คนอื่นคิด
    อยู่ตลอดเวลา จะเห็นทุกสิ่งเป็นชั่วคราวไปหมด เป็นตัวของตัวเองได้ตลอดเวลา
    อยู่กับคนอื่นก็เหมือนกับอยู่คนเดียวไม่ต่างกันเลย
     
  10. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    อ้อ..ถ้างั้นคงอยากได้ทีวีเก่าไปเป็นซูเวเนียร์(souvenir=ของที่ระลึก) กระมัง..เพราะคนเงินเดือนมากย่อมสามารถซื้อของใหม่คุณภาพดีกว่าได้อยู่แร้ว.

    .

    ทำตัวเบาเหมือนกำลังจะหมดภาระครับ แผ่บุญกุศลให้เขาไปดีมีสุข และอย่าได้ย้อนกลับมาให้หนักใจอีก..ถ้าพูดไม่ออก ก็ทำไว้ในใจ ..คิดว่า"หมดเวรหมดกรรมกันเสียที นับแต่นี้ไป..เราทนมานานแล้ว ไม่คุ้มเลย และเสียเวลาเปล่า"..

    เวลาดึกๆอย่าผลีผลามรีบเปิดประตู ระวังความปลอดภัยของตนอย่างเข้มงวด เวลานี้ เขาเป็นคนแปลกหน้าแล้ว ไม่พึงไว้วางใจอย่างที่เคยทำ ..คิดหาวิธีป้องกันตัวในยามฉุกเฉินและจำเป็นไว้ด้วย..อย่ามัวเศร้าสลดจนมือไม้อ่อน ..รักตัวและรักษาตัวให้มากครับ


    ก็ดีครับ จะได้ไม่ต้องทำวจีทุจริตกันอีก..ถ้าเขาพูดก็ฟังด้วยสติ ถ้าไม่จำเป็นต้องตอบ..ก็นิ่งเสีย

    อยู่ในที่ใหนๆก็ได้ ที่ท่านสบายใจ..เพราะนี่เป็นที่อยู่ของท่าน..และท่านมีสิทธิตรวจตราดูว่าเขาขนอะไรของใครออกไป..อย่าลืมว่าเขาเป็นคนแปลกหน้าแล้ว ..เวลานั้น..

    น่าจะดีกว่าอยู่ด้วยกันแล้วทุกข์เหมือนตกนรกตลอดกาลมิใช่หรือครับ..?

    เพราะคุ้นเคยแต่การเอาตนไปพึ่งพิงคนอื่น จึงรู้สึกเหงาเมื่อเขาจากไป..
    บัดนี้..ถึงเวลาแล้วที่จะต้องเริ่มฝึกความคุ้นชินกับการอยู่กับตนเองให้เป็น .เมื่อทำได้ ท่านจะมีเพื่อนที่ดีี่สุดคือตนนี่แหละในที่ทุกสถาน ในทุกกาล..ใครเล่าจะหวังดีแก่ตนเท่าตนเอง ..?

    แม้พระพุทธองค์ยังทรงตรัสสอนว่า เธอจงมีตนเป็นเกราะเป็นที่พึ่งเถิด อย่ามีสิ่งอื่นเป็นที่พึ่งเลย
    ..นะครับ..

    ขอให้ปลอดภัยครับ
     
  11. kookandf

    kookandf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +115
    ขอบคุณนะคะคุณdd man ที่ทำให้ยิ้มและหัวเราะได้บ้าง ตอนนี้รู้สึกกลัวพวกผู้ชายจังเลย ไม่รู้ว่าในอนาคตจะเจอแบบไหนอีก ไปดูดวงมาเขาบอกว่าจะมีเนื้อคู่ แต่ถ้าโชคชะตาฟ้าลิขิตให้มารักใครอีก ก็ขอให้ได้คู่บุญบารมีหรือคู่สร้างคู่สมจะดีกว่า แต่ตอนนี้คู่เวรคู่กรรมกำลังจะจากไป
     
  12. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    ให้ถือว่าต่อไปนี้ ชีวิตจะเริ่มต้นด้วยโสมนัส เบิกบานไม่เหงาเศร้าซึมอีกต่อไป นับว่าเป็นนิมิตรหมายที่ดีมากๆ..นะครับ..

    ครับกลัวด้วยปัญญาดีกว่ากล้าด้วยความเขลา..เอ๊ะ พูดให้คล้องจองกันเท่านั้น...แต่โดยความหมายแล้วเมื่อมีปัญญาก็จะไม่กลัวอะไรๆโดยไม่ทราบเหตุผล..เพราะปัญญานั้นท่านเปรียบเหมือนแสงสว่าง สามารถส่องฉายให้ทราบว่าที่ใด ..บุคคลใดที่เราควรเสพส้องข้องแวะได้หรือไม่ ..เพียงไร..

    และอย่าเพิ่งพะวงถึงว่าจะเจอแบบใหนอีกในอนาคต ตอนนี้ ต้องก่อร่างสร้างความเข็มแข็งให้ใจตนที่บอบช้ำก่อน เมื่อได้ใจแข็งแรงแล้วย่อมสามารถเผชิญสิ่งใหม่ๆได้โดยอาศัยประสบการณ์เก่ามาเป็นบทเรียน..ดังนั้นจะเจอแบบใหนก็พอได้แนวทางไว้รับมือบ้างแล้วจริงใหมครับ..


    อะนะ เรื่องดูดวงนี้ ขอให้งดไปเลยเถอะครับ ...

    เมื่อเรามีสรณะคือพระรัตนตรัยแล้ว ประพฤติศีลอยู่เป็นปรกติ ทั้งยังเจริญภาวนาเป็นอาจิณแล้ว ก็พึงเชื่อมั่นในกฏแห่งกรรมดีกว่าไปหาหมอดูนะครับ.. ก็ความเชื่อว่ากรรมมีผลนั้นเรียกว่า" กัมมสกตาสัมมาทิฏฐิ "เป็นความ
    เห็นที่ถูกตรง เป็นมรรคข้อแรกในมรรคมีองค์๘ทีเดียว ..เมื่อเรามีความเห็นถูกตรงเช่นนี้ ย่อมทราบชัดว่าอาศัยการเจริญกุศล เป็นเหตุ ผลคือความสุขความสมหวังย่อมมีได้...เพราะสิ่งทั้งปวงไหลมาจากเหตุปัจจัยที่สอดคล้องกันทั้งสิ้น..

    ดังนั้น หากและเมื่อท่านยังหวังอยู่ว่าจะหาขันธ์๕อื่นมาอยู่ด้วย ก็พึงตั้งอธิษฐานว่า ด้วยบุญอันข้าพเจ้าทำไว้ดีแล้วมี ....เป็นต้น ขอให้ข้าพเจ้าได้คู่ครองที่มีจาคะ ศีล ปัญญาเสมอกัน..และเมื่อคบบุรุษใด พึงพิจารณาว่าเขาเป็นผู้มีศีลเป็นปรกติหรือไม่ เพราะคนมีศีลย่อมไม่เบียดเบียนใครๆให้เดือดร้อนนะครับ..

    เอาละ สนทนาเป็นเพื่อนจนดึกแล้ว ท่านจขกท ควรจะพักผ่อนให้มาก พรุ่งนี้จะเป็นวันเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ชีวิตยังต้องดำเนินไป จงอย่าท้อถอยเพียงเพราะใครคนใดคนหนึ่งที่ไม่ใช่มารดาบิดาหรือญาติพี่น้องอัปเปหิตัวเขาเองออกจากชีวิตที่มีค่าของเรา ....จำไว้นะครับว่า เราไม่ได้ถูกใครทิ้ง แต่คนอื่นอัปเปหิตนเองออกไป...เพราะเขาไม่มีบุญพอที่จะได้คนอย่างเราไว้เป็นคู่ ..เวลาจะพิสูจน์เรื่องนี้ แก่ท่านจขกทเองในไม่ช้านะครับ..

    เป็นกำลังใจให้พ้นวิกฤติครับ..

     
  13. kookandf

    kookandf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +115
    เขาเข้ามาขนของออกไปครึ่งชั่วโมงที่แล้ว เราทักเขาก่อนและบอกเขาว่าเราไม่ได้ช่วยเขาขนของนะ เราออกไปยืนที่ระเบียงตอนที่เขาขนของออกนอกห้อง เขาขนไปวางไว้หน้าห้องแล้วปิดประตูให้เรา เราปรึกษากับเพื่อนว่ารู้สึกแย่และเห็นแก่ตัวที่ไม่ได้ช่วยเขาขนของ เพื่อนบอกทำอะไรก็ได้ที่ทำให้ตัวเรารู้สึกดี เราออกไปนอกห้องเขาขนของเหงื่อโทรมกาย รู้สึกสงสารเขามาก จึงบอกอีกครั้งว่าขอโทษนะที่ไม่ได้ช่วยขน
     
  14. kookandf

    kookandf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +115
    พอเขามาขนของชิ้นสุดท้าย เราเดินไปบอกเขาว่าขอให้โชคดีนะ เขาบอกเราว่าอย่าพึ่งเปลี่ยนกุญแจห้องนะเผื่อลืมของจะได้มาเอา แต่เรามั่นใจว่าเราเก็บให้เขาหมดแล้วแม้แต่เเปรงสีฟัน มีดโกนหนวด แชมพู โฟมล้างหน้าเราก็เก็บให้เขา คิดว่าอยากจากกันด้วยดีแต่บางที มันก็ไม่ใช่อย่างที่เราคิด พยายามคนเดียวมันไม่มีวันสำเร็จ ตอนนี้รู้แต่ว่าเราอยากร้องไห้แต่มันร้องไม่ออก ไม่รู้ทำไม ตอนนี้เราเป็นโสดแล้ว มันไม่ชินเท่าไหร่ นั่งซื้อspyมาดื่มกับเพื่อนสาวสองคน ฉลองความโสดให้ตัวเองอีกครั้ง ต่อแต่นี้ถ้ามีผู้ชายเข้ามาพื้นฐานข้อแรกจะต้องเป็นคนมีศีลห้าและนั่งสมาธิ นอกนั้นหยวนๆ
     
  15. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ คุณพ้นวิบากกรรมแล้ว
    ต่อไปนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณเองว่าจะจัดการอย่างไรกับความรู้สึกที่คุณมีต่อเขา
    ขอว่าอย่าใจอ่อนหากเขามาง้อขอคืนดี
    เพราะผู้ชายคนนี้ไม่มีวันเปลี่ยนตัวเองอย่างถาวรเพื่อใคร
    เขาก็จะเป็นอย่างนี้....
    ถ้าเขารักคุณอยู่บ้าง เขาก็จะไม่จากคุณไป
    เขาจะทำทุกอย่างเพื่อคนที่เขารัก

    เขาเหมือนหนามแหลมที่ทำให้อกคุณกลัดหนอง
    พอถอนหนามออกไปได้ นับวันอาการคุณจะดีขึ้น

    รีบเปลี่ยนกุญแจโดยด่วน
    ไม่ใช่กลัวเขากลับมาเอาของที่ลืม
    แต่กลัวคุณอ่อนแอ ยอมแพ้เมื่อเขามา

    กาลเวลาจะช่วยคุณได้
    กาลเวลาจะทำให้คุณเติบใหญ่ขึ้น
    อายุเท่านี้ ยังเริ่มต้นใหม่ได้
    (แต่อย่ารีบมีคนใหม่นะคะ โอกาสผิดหวังและเจอคนหลอกลวงจะมาก เพราะช่วงเวลานี้สติปัญญาคุณยังไม่เข้มแข็งพอ)

    ขอส่งกำลังใจมาให้ ขอกุศลผลบุญช่วยส่งเสริมคุณให้รอดพ้นจากภัยพาลทั้งปวง และเข้มแข็งโดยเร็ว
     
  16. kookandf

    kookandf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +115
    วันนี้เพื่อนสาวคนสนิทบอกว่าเราแข็งแกร่งขึ้นมาก มากจนคิดว่าเราไม่ได้อกหัก เราอยากบอกเราเองก็ไม่เคยคิดว่าเราจะสามารถทำใจได้ในระดับนี้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าพรุ่งนี้มันจะมาหลอนอีกหรือเปล่าหรือแบบไหน เรามองย้อนกลับไปอาจจะเป็นเพราะช่วงเวลาที่เราเรียนหลักสูตรครูสมาธิเป็นเวลาหกเดือนได้นั่งสมาธิในเวลาเดียวกันทุกวัน อาจจะทำให้จิตของเราแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง เราเคยพัฒนาจนถึงฌานสองแต่คงด้วยปัญหาชีวิต จิตเลยตกมาที่ปฐมฌานเหมือนเดิม พอเราอกหักเราจึงอยู่กับความเป็นจริงมากกว่า แต่อยากขอบคุณใรคคนหนึ่งมากมายที่ทำเรากลับมาพิจารณาตัวเองอีกครั้ง และทำให้เราเข้มแข็งหัวเราะแบบนี้ได้อีกครั้ง ขอบคุณมากๆเลยนะคะช่วยทำให้พิจารณาได้แบบนี้
     
  17. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    พระท่านว่าเห็นทุกข์จึงเห็นธรรม ขอขอบคุณอดีตแฟนของคุณที่ทำให้คุณเห็นว่าชีวิตนี้เป็นทุกข์....ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ คนที่มีธรรมมักทุกข์ไม่นาน เพราะธรรมแลย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม
    ขอบุญกุศลอำนวยอวยผลให้คุณเข้มแข็งและเบิกบาน หมั่นแผ่เมตตาให้อดีตแฟน ให้เขามีความสุขความเจริญนะคะ
     
  18. kookandf

    kookandf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    60
    ค่าพลัง:
    +115
    ขอบคุณนะคะคุณติงติง ที่เป็นกาลังใจให้ เมื่อคืนนอนไม่หลับ ไม่รู้ทำไม เช้านี้จึงรู้สึกคลื่นไส้ และคิดว่าคงจะอยู่ห้องเดิมไม่ได้อีกแล้ว มันยังมีหลอนๆอยู่ ขอบคุณทุกกำลังใจอีกครั้งนะคะ วันนี้เตรียมแพ็คกระเป๋าไปนอนกลับเพื่อน จะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียวส่วนโทรศัพท์ก็ยกให้เพื่อนเป็นคนถือ คนรับ เกรงว่าวันไหนจิตใจเเข็งแกร่งไม่พอจะเผลอโทรหาเขา
     
  19. surapong chot

    surapong chot เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    220
    ค่าพลัง:
    +1,212
    ทุกข์ จึงเห็นธรรมของตถาคต เราเองก็ทุกข์เช่นกัน จึงไม่อาจจะพูดอะไรได้ดีกว่า ทำอย่างไร เราจึงจะพ้นทุกข์ คนที่ไม่เคยเจอ แบบเราๆ ก็พูดได้ง่าย แต่ของจริงที่เจอนี่ซิ ช่างโหดร้ายจริงๆ ในใจเรา...สวัสดี...ครับ...
     
  20. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,730
    ดีแล้วค่ะ ออกจากสิ่งแวดล้อมเดิมๆไปก่อน การมีเพื่อนจะช่วยไม่ให้เราคิดมาก ติงว่าคุณมีบุญนะคะ คุณมีบุญเกื้อหนุน จึงทำให้คิดอะไรได้เร็ว ไม่ทำอะไรที่เลวร้ายทั้งต่อตนเองและผู้อื่น โดยส่วนมากผู้หญิงเราก็เหมือนคุณ รักใครรักจริง และเป็นความรักที่คิดแต่จะให้ ให้คนที่เรารักมีความสุข เป็นห่วงเขา ไม่ว่าเขาจะทำเราปวดร้าวแค่ไหนก็ไม่เคยที่จะอาฆาตพยาบาท

    สู้ๆนะคะ สวดบทแผ่เมตตาให้ตนเองเยอะๆ รักตัวเองมากๆ ลุกขึ้นแต่เนื้อแต่งตัวให้ดูดี มีความมั่นใจ
    ก่อนรู้จักเขา ก่อนมีเขา เรายังมีความสุขได้ ก็แล้วเดี๋ยวนี้ ทำไมจึงจะทำไม่ได้
    ร้องไห้มากตาจะไม่สวยนะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...