จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ทุกข์ดับแล้ว แล้วเห็นว่ากายเป็นยังไงบ้างคะ?

 

จิตวิปัสสนาอยู่ค่ะ ทำให้เข้มเลยค่ะ มองให้เห็นตามจริงนะว่าตัวกู ของกูอยู่ไหน? คิด พิจารณา แล้วตอบด้วยน๊า

 

​

สมเด็จองค์ปฐม ทรงพระเมตตาตรัสสอนว่า

๑. ทำกรรมฐานได้ผลดีบ้าง - เลวบ้าง อย่ากลุ้มใจ เพราะทุกอย่างมันไม่เที่ยง

๒. อย่าเอาผลของการปฏิบัติในแต <wbr>่ละวันแต่ละเวลาไปวัดกัน มันจักทำให้ท้อถอย เพราะจิตมักจะติดดี คือยึดผลของการปฏิบัติดีมาเ<wbr>ป็นมาตรฐานของการวัด ซึ่งมันไม่ถูก เพราะขึ้นอยู่กับสุขภาพของร<wbr>่างกาย ซึ่งแปรปรวนอยู่เป็นปกติ ขึ้นอยู่กับสภาพของจิต ซึ่งมีอารมณ์แปรปรวนอยู่เป็<wbr>นปกติ นี่เป็นเพราะตัวอุเบกขายังอ<wbr>่อนกำลังอยู่ หรือสังขารุเบกขาญาณยังอ่อน<wbr>ไปนั่นเอง

๓. เรื่องการพักผ่อนให้เพียงพอ <wbr> เจ้าเองก็หาเวลาได้ยาก ในเมื่อเป็นเช่นนี้ การหลับจักตามปกติในเวลานอน<wbr> หรือทนไม่ไหวต้องนั่งหลับใน<wbr>เวลาที่เจริญพระกรรมฐาน ก็พยายามนึกถึงมรณานัสสติคว<wbr>บอุปสมานัสสติ โดยการปลงอสุภะจนกายเนื้อนั<wbr>้นเน่าเปื่อยอนัตตาไป เห็นกายแก้ว นั่งหรือนอนหลับอยู่ในวิมาน<wbr>ของตนเองที่พระนิพพานก่อนทุ<wbr>กครั้งไป เจ้าทำได้ไหม

๔. ต้องทำได้ เพื่อความไม่ประมาท จงพิจารณารู้ไว้เสมอ ๆ ว่า การนั่งหลับก็ดี การนอนหลับก็ดี อิริยาบถนี้มีคนตายมาแล้วมา <wbr>กมาย หากไม่ตั้งเข็มทิศให้มุ่งไป<wbr>ยังจุดหมายปลายทางที่ต้องกา<wbr>ร เจ้าเกิดตายลงในขณะนั้นจักว<wbr>่าอย่างไร

๕. พยายามทำบ่อย ๆ จิตจักได้ชิน ขณะที่ก่อนจักหลับทุกครั้ง และให้กำหนดรู้ไว้ว่า ที่เจ้าต้องหลับ เพราะร่างกายมันเสื่อม ไม่หลับมันก็ทนไม่ไหว เป็นความทุกข์

๖. หลับแล้วไม่สบายใจ เพราะไม่ได้ผลของการปฏิบัติ <wbr> ก็ทุกข์อีก เจ้าก็จงตัดใจ อย่ากลุ้ม ปลงมรณาไปเสียเลยว่า ทุกข์อย่างนี้ขอมีเป็นชาติส<wbr>ุดท้าย ถ้าหากกายมันตายไปในขณะหลับ<wbr> ก็ขอไปพระนิพพานจุดเดียว (หมายความว่าการนอนหลับ ก็ขอเป็นครั้งสุดท้าย เป้าหมายคือนิพพานจุดเดียว)

๗. อย่าลืม การปฏิบัติต้องพร้อมทั้ง ๔ อิริยาบถ คือ ยืน - เดิน - นั่ง - นอน และทำกิจการงานใด ๆ ก็ยกให้เป็นพระกรรมฐานหมด กายส่วนกาย จิตส่วนจิต ต่างฝ่ายต่างทำงานควบคู่กัน <wbr>ไปทั้งทางโลกและทางธรรม

๘. อย่าลืมรักษาอารมณ์ของจิตเอาไว้ให้ดี ๆ อย่าให้ไหลขึ้นไหลลงมากนัก จิตเหนื่อยจักพลอยทำให้กายเ<wbr>หนื่อยไปด้วย กล่าวคือหมดกำลังใจนั่นเอง จุดนี้ระมัดระวังเอาไว้ให้ด<wbr>ี ๆ อย่าให้เกิดแก่จิตเป็นอันขา<wbr>ด

*****************************

ผมขออนุญาตอัญเชิญน้อมนำคำสอนของสมเด็จองค์ปฐม บรมศาสดา
มาเพื่อเป็นเครื่องเตือนสติ ให้แก่พวกเราชาวจิตบุญ จิตเกาะพระ จิตบำเพ็ญ และท่านที่สนใจใฝ่ธรรมทั้งหลาย
ไว้เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติที่ถูกต้อง และชัดเจน หายสงสัย
ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยจิต ขอให้มีความตั้งใจ มุ่งมั่น แน่วแน่ในการปฏิบัติ
ความสำเร็จก็อยู่แค่เอื้อม อย่ากังวลจนเกินไป ว่าจะได้เมื่อไหร่
ถึงเวลา เรานั่นแหละ จะรู้ดีที่สุด
ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จย่อมอยู่ที่นั่น

ขอให้ทุกท่านโชคดี ประสบความสำเร็จโดยทั่วหน้ากัน ทุกท่านทุกคน เทอญฯ สาธุ

ด้วยจิตคารวะ

นิวเวป จบ.14

​

 

๗ กค -๒๕๕๕
วันนี้ช่วงบ่ายๆ เข้ากระทู้โน้นนี้ อ่านอะไรไปเรื่อยๆ ไปเจอ ข้อความนึง เขียนประมาณว่า เออก็ยึดติดกันจริง ตัวกูของกูเนียะ มันถึงต้องมาเวียนว่ายตายเกิดกันไม่จบไม่สิ้น จริงๆลินดาก็อ่านมาเยอะเรื่องพวกนี้ ครูก็สอน เราก็พยายามฝึก
แต่ไหงวันนี้ ประโยคนี้มันกระทบใจอย่างแ้รง จนกระทั่งทนไม่ไหวต้องไปนั่งสมาธิและครุ่นคิดถึงเรื่องนี้ ความรู้สึกบางครั้งเหมือนจะตื่นโพลงแตาแล้วก็หรี่ไปอีก นั่งๆไปเห็นตัวเราแยกเป็น สามกอง กองแรกคือตัวเรา แต่งตัวเหมือนตอนนี้ที่นั่งอยู่ อีกกองคือ กิเลสทั้งหลาย รักโลภ โกรธหลง อีกกองคืออะไรไม่รู้ในตอนแรก แล้วจิตก็คิดต่อไปว่า ร่างกายจิตมันยึดกันอยู่ด้วยยางเหนียวคือกิเลสต่างๆ จนเหมือนแยกกันไม่ออก หากมันยังพอใจในอารมณืต่างๆ มันเหมือนยึดกันอยู่ถึงจะตายไป แต่ด้วยความที่มันยังชอบกันอยู๋มันก็ต้องหาทางกลับมาเสพอารมณืเหล่านี้ ผ่านร่างกายสังขารอีกจนได้ไม่ว่าสังขารนั้นอาจะไม่ใช่คนอีกต่อไป อาจเป็นเปรต หมูหมากาไก่ฯลฯ

คิดต่อไปว่า ต้องทำลายสังขารกับกิเลสให้ สิ้นซาก กองที่สามจึงพุ่งชนทำให้ทุกอย่างสลายไป เป็นต้นธาตุ ดินนัาลมไฟ ไม่มารวมกันอีก เมื่อไม่มารวมกันก็"ไม่มีตัวกู มีแต่ความว่าง ของกู
คือกิเลสอารมณืสิ่งของทั้งหลายก็ถูกชนแหลกกลายเป็นความว่างเช่นกัน ไม่มีตัวกูของกูแล้วในจิตเห็นแต่ความสว่างโพลง นั่งๆไปลินดาก็คิดว่า แล้วไอ้ที่มาชนคืออะไร นั่งไปสักพักก้นึกขึ้นได้ว่าสงสัยจะเป็นสติหรือปัญญาละมั้ง
นั่งสมาธิไปอีกสองรอบค่ะ สองรอบหลังไม่คดอะไรนิ่งๆหูวูบ
<VAR id=yiv1289123134yui-ie-cursor></VAR>สรุปไดว่า ตัวกูไม่มีจริง ของกูก็ไม่มีจริง จิตไปยึดไปจับมาพันด้วยยางเหนียวคือกิเลส สลัดสลัดๆให้เหลือแต่จิตอย่างเดียว
มีความรูสึกว่า การพิจารณามันขาดๆเกินๆบอกไม่ถูก เวลาอ่านเรื่องเหล่านี้จากผู้รู้ลินดาก็เข้าใจด้วยสมองนะ
แต่พอจะทำความเข้าใจด้วยจิตไหงเรียกอะไรไม่ถูก เนียะคะจิตยังไม่กระจ่าง

กราบรบกวนจัดกองอะไรต่อมิอะไรให้ลินดาด้วยค่ะrabbit_rest

 

หนูยัง งง งง อยู่นะนี่ คิดว่าคืนนี่ต้องไปพิจารณากันอีก

ทำไมหนูไม่รู้สึกโลกธาตุหวั่นไหวเลย ตอนวิปัสนาญาณเกิด คืนก่อนที่เล่าว่ารู้สึกมีแสงจ้ามากตอนนั่งสมาธิ แล้วรู้สึกตัวหลุดจากอะไรบางอย่าง ยังดูมี effect มากกว่าเลยค่ะ

ทุกข์ดับแล้ว แล้วเห็นว่ากายเป็นยังไงบ้างคะ?
กายก็อยู่ส่วนกาย เหมีอนรถ มีก็ใช้ไป ถ้าใช้ไม่ได้แล้ว ก็เปลี่ยนใหม่

ที่ว่ารู้สึกยึดกายน้อยลง ความรู้สึกในจิตว่าตัดกายนี้ขาดไหม
คืออารมณ์ว่ามีร่างกายอยู่นั้นมี แต่จิตเกาะกับกายไหม
คิดว่าไม่นะค่ะ

หรือเห็นว่าเป็นอย่างไรคะ?
เหมือนรถที่ตอบข้างบนค่ะ มีก็ใช้ ถ้าถึงเวลาต้องเปลี่ยนก็เปลี่ยน ไม่อาลัย อาวรณ์

ไม่ต้องเค้นหาภาพพระนะ
ให้รู้ว่าพระอยู่กับเราในจิต
พระประทับอยู่กับจิตเรา
ผนึกเป็นร่างเดียวกัน
"จิตพุทธะ"
สาธุ สาธุ สาธุ

คุณหมอบรรยายอารมณ์มาให้ละเอียดอีกหน่อยค่ะ
ทุกอย่างผ่านหมดแล้วน๊า
แต่จิตคุณหมอยังไม่ยอมรับ...
กลับไปถามจิตตนเองดูนะว่า

1. คุณหมอมีความรักและศรัทธาในพระนิพพานจริงไหม?
100% ค่ะ

2. คุณหมอเชื่อหรือไม่ว่าพระนิพพานมีอยู่จริง?
100% ค่ะ

3. คุณหมอมีความเคารพรักและศรัทธาในพระพุทธเจ้าจริงไหม?
1000% ค่ะ

4. คุณหมอเบื่อขันธ์ห้าหรือยัง จิตยังอยากอยู่กับขันธ์ห้าอีกไหม ถ้าให้เกิดอีกจะมาเกิดไหม?
เมี่อกี้เดินจงกรมอยู่ก็เห็นว่าขันธ์ 5 เป็นทุกข์ ไม่อยากอยู่ค่ะ

ถ้าให้เกิดอีกจะมาเกิดไหม?
ไม่เอา แน่นอนค่ะ

5. ถ้าคุณหมอต้องละขันธ์ลง ณ เวลานี้ แล้วให้ไปเสวยอริยผลอยู่บนพระนิพพานคุณหมอตัดใจจากขันธ์ห้าได้ไหม? (คิดให้ละเอียดก่อนตอบนะว่าเราปฏิบัติมรรคผลเพื่ออะไร)
ได้ค่ะ ถ้าจบกิจแล้วจริงๆ

 

ขออภัยนะค่ะ แก้ font และสีบางตำแหน่งไม่ได้เลยค่ะ

หนูยัง งง งง อยู่นะนี่ คิดว่าคืนนี่ต้องไปพิจารณากันอีก

ทำไมหนูไม่รู้สึกโลกธาตุหวั่นไหวเลย ตอนวิปัสนาญาณเกิด คืนก่อนที่เล่าว่ารู้สึกมีแสงจ้ามากตอนนั่งสมาธิ แล้วรู้สึกตัวหลุดจากอะไรบางอย่าง ยังดูมี effect มากกว่าเลยค่ะ

ทุกข์ดับแล้ว แล้วเห็นว่ากายเป็นยังไงบ้างคะ?
กายก็อยู่ส่วนกาย เหมีอนรถ มีก็ใช้ไป ถ้าใช้ไม่ได้แล้ว ก็เปลี่ยนใหม่

ที่ว่ารู้สึกยึดกายน้อยลง ความรู้สึกในจิตว่าตัดกายนี้ขาดไหม
คืออารมณ์ว่ามีร่างกายอยู่นั้นมี แต่จิตเกาะกับกายไหม
คิดว่าไม่นะค่ะ
หรือเห็นว่าเป็นอย่างไรคะ?

เหมือนรถที่ตอบข้างบนค่ะ มีก็ใช้ ถ้าถึงเวลาต้องเปลี่ยนก็เปลี่ยน ไม่อาลัย อาวรณ์

ไม่ต้องเค้นหาภาพพระนะ
ให้รู้ว่าพระอยู่กับเราในจิต
พระประทับอยู่กับจิตเรา
ผนึกเป็นร่างเดียวกัน
"จิตพุทธะ"
สาธุ สาธุ สาธุ
คุณหมอบรรยายอารมณ์มาให้ละเอียดอีกหน่อยค่ะ
ตอนนี้รู้สึก ใจเป็นกลาง ไม่มีความอยาก กังวลใดๆ อาการขาดปัทสัทธิ หายไป ผ่อนคลาย
ทุกอย่างผ่านหมดแล้วน๊า
แต่จิตคุณหมอยังไม่ยอมรับ...
กลับไปถามจิตตนเองดูนะว่า

1. คุณหมอมีความรักและศรัทธาในพระนิพพานจริงไหม?
100% ค่ะ


2. คุณหมอเชื่อหรือไม่ว่าพระนิพพานมีอยู่จริง?[/COLOR]
100% ค่ะ[/B]

3. คุณหมอมีความเคารพรักและศรัทธาในพระพุทธเจ้าจริงไหม?
1000% ค่ะ


4. คุณหมอเบื่อขันธ์ห้าหรือยัง จิตยังอยากอยู่กับขันธ์ห้าอีกไหม ถ้าให้เกิดอีกจะมาเกิดไหม?[/B][/COLOR]
เมี่อกี้เดินจงกรมอยู่ก็เห็นว่าขันธ์ 5 เป็นทุกข์ ไม่อยากอยู่ค่ะ

ถ้าให้เกิดอีกจะมาเกิดไหม?
ไม่เอา แน่นอนค่ะ

5. ถ้าคุณหมอต้องละขันธ์ลง ณ เวลานี้ แล้วให้ไปเสวยอริยผลอยู่บนพระนิพพานคุณหมอตัดใจจากขันธ์ห้าได้ไหม? (คิดให้ละเอียดก่อนตอบนะว่าเราปฏิบัติมรรคผลเพื่ออะไร)[/B]

ได้ค่ะ ถ้าจบกิจแล้วจริงๆ

 

อ้างอิง : <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->อุษาวดี<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_6514170", true); </SCRIPT>

5. ถ้าคุณหมอต้องละขันธ์ลง ณ เวลานี้ แล้วให้ไปเสวยอริยผลอยู่บนพระนิพพานคุณหมอตัดใจจากขันธ์ห้าได้ไหม? (คิดให้ละเอียดก่อนตอบนะว่าเราปฏิบัติมรรคผลเพื่ออะไร)


ได้ค่ะ ถ้าจบกิจแล้วจริงๆ

โมทนา สาธุการ
คุณหมอจบกิจแล้วค่ะ
ขอท่านจงเสวยวิมุตติสุข
ไปตลอดการนิรันดร์เทอญ
สาธุ สาธุ สาธุ​

​

​

 

ขออนุญาตประกาศจิตบุญดวงที่ ๓๑ ณ วันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๕

ขอท่านทั้งหลายจงโมทนา

กับจิตบุญดวงที่ ๓๑
ของกลุ่มจิตบุญเทอญ


สาธุ สาธุ สาธุ
​

​

 

อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ

 

อนุโมทนาสาธุกับจิตบุญดวงใหม่ด้วยนะครับ ....

 

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยคะ

กรณีคุณหมอสร้างความเพียรให้ดิฉันมากคะ ครูวิทย์คะปลืมศีลครบ จิตระลึกถึงพระเสมอคะ ความคืบหน้ายังไงจะแจ้งให้ทราบคะ

ขอบพระคุณคะ

 

สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาบุญด้วยคะ

กรณีคุณหมอสร้างความเพียรให้ดิฉันมากคะ ครูวิทย์คะปลื้มศีลครบ จิตระลึกถึงพระเสมอคะ ความคืบหน้ายังไงจะแจ้งให้ทราบคะ

ขอบพระคุณคะ

 

สาธุ โมทนาสาธุการกับคุณหมอคะ

ขอให้เจริญในศีลในธรรมให้ยิ่งๆขึ้นคะ

 

คุณหมอดวงพร(นามแฝงว่า อุษาวดี) ลูกศิษย์ครูนก(ชาย)
ยกจิตขึ้นพระนิพพานเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2555
เป็นจิตบุญดวงที่ 31 ของสายบุญกลุ่มจิตบุญ

คุณหมอเริ่มฝึกจิตเกาะพระอย่างจริงจังเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2555
จบกิจเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2555
รวมระยะเวลาฝึกจิตเกาะพระ 81 วัน

สำหรับคุณหมอนี้พี่เพ็ญไม่มีอะไรจะกล่าวมาก
เพราะเห็นถึงความเพียรในการละอัตตามานะของท่านแล้ว
บอกได้คำเดียวว่าท่านทำได้ยอดเยี่ยมมาก
ท่านมีขันติบารมีสูง
ท่านมีความอดทนไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคในการปฏิบัติธรรม
แม้ว่าท่านจะติดกรรมอย่างยาวนานและสุขภาพไม่ดี
แต่หัวใจของท่านเด็ดเดี่ยวยิ่งนัก
พี่เพ็ญของสรรเสริญและยกย่องบูชาน้ำจิตน้ำใจของท่านว่าเลิศล้ำปถพี

และขอขอบคุณครูนก(ชาย)ที่ช่วยเลี้ยงดูและอบรมจิตคุณหมอให้เป็นอย่างดีและมีเมตตาสูง งานนี้ต้องยกนิ้วโป้ทองคำฝังเพชรให้ครูนก(ชาย) สำหรับการฝึกฝนจิตลูกศิษย์ที่ค่อนข้างยาวนานเป็นเวลาถึง 81 วัน โมทนา สาธุ

ขอชาวจิตบุญ ชาวจิตบำเพ็ญ ชาวจิตเกาะพระทุกท่าน
จงโมทนา สาธุการกับจิตอรหันต์ดวงใหม่เทอญ

พี่เพ็ญขอโมทนา สาธุ สักล้านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆครั้งเน้อค่า

อ่านคำตอบ

ดูประกาศบนกระทู้จิตพร้อมฯ

พี่เพ็ญ จบ.3

ปล.คุณหมอช่วยไปรายงานตัวบนกระทู้กับพี่ภู
คุณพ่อใหญ่ของบ้านรากแก่นแห่งโพธิญาณด้วยค่ะ

 

สวัสดีครับ ศีลครบแล้ว กำลังใจดีแล้ว เกาะพระได้ตลอดแล้ว ก้อดีครับ

แต่ต้องอย่าห่างครูนะครับ

ต้องหมั่นส่งการบ้านทุกวัน รายงานทุกวัน ครูจะได้ปรับให้ทุกวัน
การเดินจะได้ถูกต้อง ไม่หลงทาง

ส่งการบ้านทุกวันนะครับคุณปลื้ม ผมรออยู่ครับ

 

ร่วมชื่นชมครูนกชาย และคุณหมออีกครั้ง
สิ่งที่ทำนั้น นอกจากจะทำให้คุณหมอยกจิตได้แล้วนั้น

สิ่งที่ถ่ายทอดออกมายังทำประโยชน์ให้จิตบำเพ็ญอื่นๆอีกมากมายนัก

มาช่วยงานท่านพ่อกันนะครับ ...

 

รับทราบพร้อมปฎิบัติการคะ....

 

สาธุ ขออนุโมทนากับคุณหมอด้วยนะครับ ตอนนี้ก็มีคุณครู เพิ่มขึ้นอีก 1 คนแล้ว

 

(f) อนุโมทนาสาธุกับคุณหมอดวงพร ครูเพ็ญ และครูนกชายด้วยค่ะ

 

ขอกราบขอบพระคุณ พี่ภู พี่เพ็ญ คุณนก (ชาย) และคณะครูจิตบุญ ทุกท่าน ที่ได้ทุ่มเท ในการช่วยผลักดันให้ยกจิตได้สำเร็จ

ขอขอบพระคุณเป็นอย่างสูง และขอโมทนาสำหรับกำลังใจจากทุกท่าน

บุญกุศลในการยกจิตครั้งนี้ ขออุทิศให้กับ

พี่ภู พี่เพ็ญ คุณนก (ชาย) และคณะครูจิตบุญ ทุกท่าน ขอให้ท่านมีธาตุขันธ์ที่แข็งแรง มีกำลังในการรับใช้พระพุทธศาสนาสืบไป

รวมถึงจิตบำเพ็ญ ทุกท่าน ขอให้ยกจิตได้สำเร็จ เร็วเร็วไวไว ด้วยค่ะ
ช่วยกันยกจิตนะค่ะ ตอบแทนพระคุณ ท่านพ่อ พระพุทธเจ้า ฉลองพุทธชยันตี ด้วยการปฎิบัติบูชา(kiss)