เมื่อหลวงพ่อเป่ายันต์เกราะเพชรครั้งแรก

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 1 สิงหาคม 2007.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,440
    [​IMG]
    ทีนี้ก็มาคุยถึง เรื่องยันต์เกราะเพชร ยันต์เกราะเพชรนี่ ความจริงอาตมาเรียนตรงมาจากหลวงพ่อปาน เมื่อเรียนตรงมาแล้วก็ไม่เคยเป่าให้ใครเลย ทั้งนี้เพราะอะไร เพราะเกรงว่าจะเป่าไม่ออก ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๒ อาตมาป่วยอยู่ที่บ้าน ฉวีวรรณ สรรพกิจ ที่กรุงเทพฯ คุณหมอประสิทธิ์ ฟูตระกูล กำลังให้น้ำเกลืออยู่ ขณะที่นอนให้น้ำเกลืออยู่ ขณะที่เขาจะแทงเข็ม ก็คิดว่า เข็มย่อมเป็นอันตราย อาจจะถึงชีวิตได้ ฉะนั้นจึงภาวนา จับอารมณ์ถึงขั้นสูงสุด คิดว่า ถ้าตายเพราะเข็มเราก็จะไปนิพพาน กำลังใจก็เป็นสุข
    ขณะที่หมอประสิทธิ์ ฟูตระกูล เธอให้น้ำเกลือแล้ว เธอก็ออกไป ก็นอนภาวนาอยู่ ขณะนั้นก็เห็นภาพหลวงพ่อปานท่านมา ท่านบอกว่า ต่อไปนี้เธอต้องเป่ายันต์เกราะเพชร เพราะว่าเธอเรียนมาแล้ว เวลานี้ไม่มีใครเป่าได้ ลูกศิษย์ที่เรียนมาจริง ๆ ก็เหลือเธอเท่านั้นที่เรียนมาโดยตรง แต่ว่าที่เขาเรียนมาจากคนอื่น ก็เป็นเรื่องต่างหาก เรื่องคาถาอาคมจำกัดกันไม่ได้ เพราะเขาอาจจะไม่เรียนที่เรา เขาอาจจะเรียนที่อื่นเป็นของธรรมดา ก็จะถือว่า การเป่ายันต์เกราะเพชร คนอื่นเป่าไม่ได้ ไม่จริง ใครก็เป่าได้ ถ้าเขาเรียนมาแล้ว
    ทีนี้มีปัญหาอยู่ว่า จะต้องเป่าเฉพาะวันเสาร์ห้า เลยกราบเรียนท่านบอกว่า ผมเป่าได้แต่ว่าเกรงว่ายันต์จะไม่ออก ทั้งนี้เพราะว่าตั้งแต่เรียนมาผมยังไม่เคยทำเลย ท่านบอกว่า มันถึงวาระที่จำเป็นจะต้องทำ เธอต้องทำ ก็ถามท่านว่า ทำอย่างไรจึงจะเป่าออกขอรับ ท่านบอกว่า เธออย่าเป่าเองซิ ให้พระท่านเป่า ฉันเอง ในสมัยที่ฉันเป่าก็เช่นเดียวกัน ฉันไม่ได้เป่า ฉันก็ทำตามพระท่านสั่ง ท่านสั่งให้เขียนยันต์เกราะเพชร และยืนอยู่หลังกระดาน แล้วท่านสั่งภาวนาอย่างไร เราก็ภาวนาอย่างนั้น แล้วท่านก็เป่าของท่านเอง เราก็ดูภาพว่ายันต์เกราะเพชรเข้าเกาะตัวทุกคนแล้วหรือยัง ถ้ายันต์เกราะเพชรเข้าเกาะตัวทุกคนแล้ว และพระท่านบอกว่า เต็มแล้ว ครบถ้วนแล้วเลิกได้ เราก็สั่งเลิก ก็เป็นอันว่ารับปากท่าน
    เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๒๓ จึงเริ่มเป่ายันต์เกราะเพชรเป็นครั้งแรก นี่ว่าถึงยันต์เกราะเพชร สำหรับ คุณสมบัติของยันต์เกราะเพชรนี่ บรรดาท่านพุทธบริษัท หลวงพ่อปานท่านบอกแต่เพียงว่า กันคุณผี คุณคน แต่ความจริงยันต์เกราะเพชรนี่ เป็นยันต์ยอดธงมหาพิชัยสงคราม ในสมัยสุโขทัยเวลาที่เราจะรบเขาใช้ธงมหาพิชัยสงครามด้วย และใช้ยันต์เกราะเพชรอยู่ข้างบนยอดธงมหาพิชัยสงครามต้องถือว่าเป็นยันต์ที่มีความสำคัญมาก แต่อาตมาจะไม่อธิบายคุณสมบัติ เพราะจะออกนอกคอกเกินไป ครูไม่อธิบาย ก็ไม่อธิบาย
    ทีนี้มาว่ากันถึงว่า ยันต์มหาพิชัยสงครามมีอยู่ที่ไหน ก็ขอบอกว่า ยันต์แดง ยันต์ผ้าแดง นั่นคือผ้ายันต์มหาพิชัยสงคราม เรื่องมีอยู่ว่าในขณะที่อาตมาออกไปจากกรุงเทพฯ มาเรียนบาลีที่กรุงเทพฯ กลับไปที่วัด เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๒ ในตอนนั้น พระอาจารย์เจิม เป็นเจ้าอาวาส และท่านก็บังเอิญตาย เขาก็บังคับให้อาตมาเป็นเจ้าอาวาส อาตมาก็เป็นเจ้าอาวาส จำเป็น จำใจที่จะต้องเป็นเจ้าอาวาส ก็ช่างเขา ในเมื่อเขาให้เป็น ก็เป็นไปตามเรื่อง และก็ประชุมพระ มีพระผู้ใหญ่มากกว่า ก็บอก ท่านก็บอกว่า งานทุกอย่างขอให้ร่วมกันทำ ผมคนเดียวทำไม่ไหว ก็เป็นอันว่า พระท่านก็ร่วมกันทำ
    ต่อมาคืนหนึ่ง ปิดไฟ ดับไฟเรียบร้อย ฟังข่าวจากสถานีวิทยุแห่งประเทศไทย เพราะวิทยุนี่ชอบฟังเฉพาะข่าว เรื่องเพลง เรื่องละคร เรื่องอะไรนี่ มันฟังไม่ค่อยได้ ฟังได้เหมือนกัน แต่ไม่รู้เรื่อง เพราะเป็นคนแก่ ตอนนั้นก็แก่ไม่มาก แก่แค่อายุ ๓๒ ปี แต่แก่โขแล้ว ๓๒ ปี เด็ก ๆ ก็ไม่รักแล้ว ขณะที่นอนฟังสถานีวิทยุอยู่ เสียงวิทยุก็ได้ยิน ก็มีเสียงคนเดิน ยวบๆๆๆ ความจริงกุฏิแน่นหนามาก ไฟก็ดับ มองไปเห็นคนนุ่งขาวห่มขาว เดินเข้ามา และก็มานั่งบนเตียง นั่งปุ๊บบนเตียง เตียงยวบ ถามว่า ท่านเป็นใคร ท่านก็บอกว่า ฉันเป็นพรหมชั้นที่ ๘ เป็นเจ้าของตำราของท่านปาน
    เวลานี้ท่านปานตายแล้ว และมอบตำราให้แก่เธอ แล้วเธอทำไมจึงไม่ใช้ตำรา ทำยันต์บ้าง ทำตะกรุดบ้าง ทำพระบ้างแจกชาวบ้าน ก็เลยกราบเรียนท่านบอกว่า ผมทำไม่ได้ขอรับ เพราะว่าหลวงพ่อปานดีกว่าผมมาก คนที่รับไปยังมีความอกตัญญูไม่รู้คุณท่าน ผมดีไม่ถึงท่าน คนที่รับไปจะมีผลเป็นประการใด ท่านก็บอกว่า เธอต้องทำ ถามว่า ทำไมจึงต้องทำ ท่านก็บอกว่า ตำราท่านปาน คนที่สืบตระกูลกันมา เธอเป็นคนสุดท้ายนะ ฉันเป็นต้นตระกูล ต้นตำรา เจ้าของตำรา และตระกูลของฉันก็มีคุณเป็นคนสุดท้ายของตระกูล ถ้านอกจากคุณแล้วใครจะนำตำรานี้ไปใช้จะมีผลไม่ถึง ๕๐ เปอร์เซ็นต์ เพราะฉันไม่ช่วย และท่านก็บอกคาถาโน่น คาถานั่น คล้าย ๆ กับหยิบตำรามาอ่านให้ดู
    ในที่สุดก็บอกว่า ผมไม่เอา อย่างไรก็ไม่เอา เพราะว่าหลวงพ่อปานดีกว่าผม ยังถูกคนนินทา ผมดีไม่เท่าหลวงพ่อปาน ผมไม่เอาแน่ ท่านก็นั่งไปพักหนึ่ง แล้วท่านบอกว่าเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน อย่างอื่นไม่ทำก็ไม่เป็นไร ให้ทำยันต์ธงมหาพิชัยสงคราม เพราะยันต์ธงมหาพิชัยสงคราม ใช้ได้ทุกอย่าง ทั้งป้องกันด้วย ทั้งมีลาภสักการะด้วย สถานที่มีเสนียดจัญไรทั้งหลายก็ตาม ถ้ามีอยู่อย่างบ้านถูกฟ้าผ่าก็ตาม ปลูกบ้านคร่อมป่าช้าก็ตาม คร่อมตอก็ตาม ถ้าเอายันต์ไปแล้วเสนียดจัญไรจะคลายตัวจะไม่มีอันตรายจากเสนียดจัญไรทั้งหลายเหล่านั้น เมื่อท่านเขียนยันต์ให้ดูเยอะแยะ ก็บอกว่า ไม่เอาหรอกท่าน ผมไม่เอา ท่านบอก เธอต้องเอา ยันต์นี้ต้องทำ ก็บอก ไม่ทำ เพราะมันมาก ทำไม่ไหว อ่านไม่ไหว
    ท่านบอก คุณมันโง่ เขาก็ใช้คาถา ๔ คำ ตอนท้ายนี่แหละ ท่านก็บอกคาถา ๔ คำให้ ให้เขาพิมพ์ผ้ายันต์มาให้เสร็จ เธอก็เสกด้วยคาถา ๔ คำ เมื่อท่านบอกอย่างนั้นแล้ว อาตมาก็บอกไม่เอา คาถา ๔ คำ ก็ไม่เอา ท่านถามว่า ทำไม บอกไม่แน่ใจในตนเอง ท่านก็นิ่งไปประเดี๋ยวหนึ่งท่านก็หันมาพูดบอกว่า ไอ้สันดานของคุณนี่มันดื้อมาตลอดกาล ตั้งแต่สมัยไหน ๆ มันก็ดื้อมาชาตินี้ชาติสุดท้ายมันก็ดื้ออีก ก็เลยกราบเรียนท่านบอกว่า ในเมื่อดื้อมาแล้วจะมาเลิกดื้อได้อย่างไร ต้องรักษาความดี คือ ความดื้อเข้าไว้ก่อน
    ในที่สุดท่านก็บอกว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกันของนี้จะสลายตัวเสีย ต่อนี้ไปถ้าเธอจะทำอะไร จะสร้างพระก็ดี จะทำตระกรุดก็ดี จะทำผ้ายันต์ก็ดี จะทำผ้ายันต์มหาพิชัยสงครามก็ตามทุกอย่าง ให้เธอเอาผ้าขาวปูบนโต๊ะ และเอาของวางไว้ ให้จุดธูปจุดเทียนอาราธนาพระไตรสรณาคมน์เสร็จ ระลึกถึงบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบวงสรวงเสร็จ เชิญเทวดา เชิญพรหม เชิญครูบาอาจารย์ให้ครบถ้วน หลังจากนั้น ฉันจะมาทำให้เอง แล้วก็เธอนั่งอยู่ ว่าคาถาตามฉันบอก ฉันบอกให้ว่าคาถาอะไร เธอก็ว่าคาถาอย่างนั้นว่าไปเฉย ๆ ไม่ต้องทำ ฉันบอกให้เปลี่ยน เธอก็เปลี่ยนตามฉันสั่ง ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นหน้าที่ของฉันโดยตรง
    ก็รวมความว่า ผ้ายันต์มหาพิชัยสงครามก็ดี ยันต์เกราะเพชรก็ดี และพระต่าง ๆ ก็ดี บรรดาญาติโยมพุทธบริษัท ที่อาตมาทำความจริงญาติโยม และลูกหลานทั้งหลายคิดว่า อาตมาทำ แต่ความจริงอาตมาไม่ได้ทำ นี่บอกกันตรงไปตรงมา เพราะว่าสันดานคนดื้อมันเป็นอย่างนั้น เมื่อถึงวาระเข้าจริง ๆ ก็จุดธูปจุดเทียนเสร็จบวงสรวงเสร็จ ก็อาราธนาตั้งแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าลงมาทั้งหมด ในตอนต้น ๆ ท่านพรหมชั้นที่ ๘ และท่านท้าวมหาชมพูบ้าง ท้าวพกาพรหมบ้าง และพระอินทร์บ้าง
    ต่อมาช่วงระหว่างนี้ก็อาราธนาตั้งแต่พระพุทธเจ้า ทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า ทุก ๆ พระองค์ พรหมทุกท่าน พระอริยเจ้าทุกท่าน เทวดาทั้งหมด ครูบาอาจารย์ทั้งหมดช่วยกันทำ แล้วก็นั่งฟังคำแนะนำของพระผู้ควบคุม จะมีพระองค์หนึ่งเข้ามาควบคุมมายืนใกล้ ๆ บอกว่า เวลานี้เธอว่าคาถาบทนี้ และจับอานาปานสติให้ทรงตัว ขณะนั้นจิตจะเคลื่อนนิดเดียวไม่ได้เลย จิตเคลื่อนนิด ท่านบอก จิตเคลื่อนใช้ไม่ได้ เริ่มต้นใหม่ต้องทำจิตให้ทรงตัวจริง ๆ นิ่งอยู่ตลอดเวลาจนกว่าท่านจะบอกเลิก
    ก็รวมความว่า การเป่ายันต์เกราะเพชรก็ดี อาตมาก็ไม่ได้เป่า พระท่านเป่า การทำผ้ายันต์ก็ตาม ทำพระก็ตาม อาตมาไม่ได้ทำพระท่านทำ เทวดาท่านทำ พรหมท่านทำ ก็ขอบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย และลูกรักทุกคนโปรดทราบตามนี้ว่า คนที่คิดว่าอาตมาเก่ง ความจริงไม่ใช่เก่งน่ะ เก่งจริง ๆ แต่ว่าเก่งในทางดื้อ คือว่า ยอมรับคำสอน ไม่ยอมรับคำแนะนำของครูบาอาจารย์ ในที่สุดก็เดือดร้อนครูบาอาจารย์ต้องมาทำให้เอง
    ฉะนั้น การที่วัดหนองกุยเขียนป้าย มีชื่ออาตมาไปเป่ายันต์เกราะเพชร ไม่ใช่วันเสาร์ห้า อาตมาก็ไปไม่ได้ ถึงแม้ว่าไม่ป่วย ก็ไปไม่ได้ ทั้งนี้เพราะว่า ไม่ใช่วันเสาร์ห้า และอีกประการหนึ่ง การเป่ายันต์เกราะเพชรตั้ง ๓ องค์ นี่จะเป่ากันอย่างไร ฤาษีลิงขาวอยู่ข้างหน้า ฤาษีลิงดำรอง แล้วเณรเล็กรอง ถ้าว่ากันทางโลกแล้ว ทางอาวุโสก็ไม่ถูกต้อง อาตมามีอาวุโสมากกว่าฤาษีลิงขาว ฤาษีลิงขาวนี่ก็คนละฝูง ไม่ใช่ฝูงเดียวกัน ไม่รู้ว่าท่านเกิดมาจากป่าไหน แต่ลิงขาวที่เป็นเพื่อนอาตมานั่นยังอยู่ ยังมีชีวิตอยู่ ยังอยู่ในป่า ไม่ได้ออกมา ffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    แต่ลิงขาวองค์ที่เป่ายันต์เกราะเพชรนี่คนละฝูง แต่ว่าขึ้นชื่อว่าความสามารถ บรรดาท่านพุทธบริษัทจะเหยียดหยามกันไม่ได้ และความสามารถของท่านอาจจะมี และก็ต้องมีด้วย ถ้าไม่มี ท่านก็ทำไม่ได้ ถือว่าในเมื่อไม่ใช่วันเสาร์ห้า อาตมาก็ต้องไม่ไป ถ้าไปก็เสียแน่นอน เพราะว่าใคร ๆ ก็ทราบว่าการเป่ายันต์เกราะเพชรต้องเป็นวันเสาร์ห้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อาตมาก็เป็นพระที่ท่านตั้งให้เป็นพระราชาคณะ ถ้าเสียก็เสียมากกว่าพระสามัญชนธรรมดา
    ก็รวมความว่า บรรดาญาติโยมพุทธบริษัทโดยทั่วหน้า ที่มีความสงสัยว่า อาตมาทำไมจึงไม่ไปวัดหนองกุย ก็โปรดทราบตามนี้ และในที่สุดนี้ อาตมาภาพก็ขอตั้งสัตยาธิษฐาน อ้างคุณพระศรีรัตนตรัย มีพระพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสังฆรัตนะ ทั้งสามประการ จงอภิบาลทุกท่าน ท่านเจ้าของบ้านก็ดี ท่านที่มาร่วมทำบุญก็ดี และลูกสาวที่บ้านคลองน้ำใส อำเภออรัญประเทศ อุตส่าห์มาตั้งร้อยกิโลกว่าเอาเทียนมาถวาย เอาทองมาถวายก็ดี และลูกหลานที่รัก ลูกแก้วทางบ้านฉางก็ดี และทุกท่านก็ตาม
    ขอทั้งหมด จงมีแด่ความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคล สมบูรณ์พูนผล ปรารถนาสิ่งใด ขอให้ได้สิ่งนั้นสมความปรารถนาทุกประการ อาตมาพูดมา ก็หมดเวลาพอดี ขอลาก่อน บรรดาท่านพุทธบริษัท สวัสดี

    ที่มา หนังสืออ่านเล่นเล่ม20
     
  2. jirakoma

    jirakoma เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +136
    ยันต์ยอดธงมหาพิชัยสงคราม

    ขอกราบอนุโมทนาสาธุด้วยครับ และขอแนบไฟล์ยันต์ธงมหาพิชัยสงครามเพื่อเป็นที่ระลึก ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. wara43

    wara43 ทีมผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 เมษายน 2006
    โพสต์:
    9,108
    ค่าพลัง:
    +16,130
    [​IMG][​IMG] ขอกราบโมทนาสาธุครับ สาธุ...[​IMG][​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2008
  4. Ugood

    Ugood ธรรมชาติ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    635
    ค่าพลัง:
    +490
    ขออนุโมทนาครับ
    สาธุ สาธุ สาธุ
    <!-- / message -->
     
  5. udomchai

    udomchai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2008
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +334
    ไม่เคยอ่านมาก่อนเลย ขอบคุณนะครับ ที่นำมาให้อ่าน ......
    หลวงพ่อท่าน รักปู่ปานมากเลยนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...