จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

แอบๆดูแล้ว เป็นอย่างไร
ชนเผ่าอินทาเนีย ไม่น้อยเลยนะ สงสัยกัเก่งนะ ต้องมีที่มาที่ไปนะ ทีหลักทฤษฎีนะ
และอีกหลายๆคนทีแอบๆ
อย่าช้า อย่าเหนียม
อยากได้ของดี แต่ไม่มีครู มั่นจะรุ่งรึ
ออกมาได้แล้ว
เรารอท่านอยู่
ไม่อยากกลับบ้ารึ

ตอบตัวเองได้ไหม

ธรรมชาติสวัสดี

วิทย์ จบ.11

 

ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 23 คน ( เป็นสมาชิก 17 คน และ บุคคลทั่วไป 6 คน )
natthapatpun, urairatvi, dutchanee+, newwave1959, ลูกพลัง, Wittayapon, กรรมบท 10, สู่วันใหม่, chalesa, ่jarunee, jprabs, kritthiya P, thipka, engineer45, Espanda, ธัมมัง+

วันนี้อุ่นหนาฝาคั่ง ขอให้เจริญสุขกันทุกท่านนะคะ
เนื่องจากว่าวันนี้คงตอบการบ้านต่อไม่ไหวแล้วขอยกไปเป็นพรุ่งนี้ค่ะ
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ

ปล.ขอทักทายคุณวิทย์หน่อย ขอให้สุขภาพแข็งแรงโดยเร็วพลันนะคะ ตอนนี้พี่เพ็ญเจอวิปัสสนาขันธ์แตก เหอ ๆ เป็นปายด้าย ช่างมันเรื่องของขันธ์ห้า สีทนได้ 555 เดี๋ยวมีเฮอีกแล้วค่ะ รอจิตเธอและเขานิ่งอีกนิดหนึ่ง

 

กรรมบท10 (แพนด้าจอมฟุ้ง)
วันนี้จิตเธอดีมาก เบาดี
ดีมากๆ ทำไปนะ
อย่านอนดึกละ เดี๋ยวหลินปิงจะมีคู่แข่ง

สวัสดีครับ

 

ขอตามท่านพี่ไปด้วยคน

สวัสดีครับ ขอให้สุขกาย สบายจิตทุกท่านครับ

 

สวัสดีค่ะคุณ watjojoj สบายดีนะค่ะ มีแอบปลื้มนะค่ะเนี่ย ที่คุณวัฒน์กล่าวถึงบ่อยๆ (นี้เรายังเลวอยู่รึเปล่าเนี่ยกับโลกธรรม8 อิๆ) แต่ไม่หรอกค่ะ ที่ว่าปลื้มนั้น เกษมองอีกมุมค่ะว่า คุณวัฒน์นั้น เป็นคนกตัญญูต่างหากล่ะค่ะ ที่ระลึกนึกถึงคนที่บอกบุญคุณ ชักนำคุณให้มาพบบ้านหลังที่คุณอยู่แล้วคุณมีความสุข สบายใจ แค่นี้แหล่ะค่ะที่เกษต้องการ คือมันแสดงให้เห็นว่าตัวคุณวัฒน์เองต่างหากที่วางอัตตา (รึเปล่าอ่ะ กลัวเรืยกไม่ถูกจัง คือเรื่องปริยัตินี้ไม่ถนัดเลยค่ะ ถ้าผิดช่วยแก้ไขด้วยนะค๊า คุณครูทั้งหลาย) ลงได้ เกษเจอมาเยอะค่ะ คนที่เป็นบัวใต้น้ำ แต่ทำตัวอยากจะโผล่พ้นน้ำ ต่อไปนี้คนประเภทนี้จะเยอะนะค่ะ จิตยังด้านอยู่หรือจิตตนเองไมรู้อยู่ไหน แต่ปากนั้นทำเป็นพูดรู้ดีมาก รู้ไปโหมดดด ก็ก๊อปมาจากตำราที่อ่านมายังไงล่ะค๊าาา (มาที่เรื่องนี้ได้ไงเนี่ย) อีกอย่างหนึ่งอยากจะบอกว่า ก็เพราะเรามีบุญสัมพันธ์กันยังไงละค่ะ ก็บทสวดที่คุณวัฒน์เคยเอามาลงในกระทู้และขอเปลี่ยนแปลงนิดหน่อยว่า ขอให้ถึงซึ่งพระนิพพานในชาตินี้ด้วยเทอญน่ะค่ะ เกษก็สวดน่ะค่ะ (บทสวดสมเด็จองค์ปฐมฯ) เกษสวดได้สักพักใหญ่ๆ เกษก็มาเจอกระทู้พี่ภูนี้แหล่ะค่ะ ขอย้ำอีกทีค่ะว่า ไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอนค๊าาาา ขอบอก...

 

ขอโมทนาสาธุกับน้องสู่วันใหม่ด้วยนะ
น้องเอ๋ย! วันนี้น้องรีบมารับรางวัลจากพี่ภูไวๆเลย
เอาไปเลยพี่ภูให้ บุญที่พี่ภูทำมาดีแล้ว ทุกภพ ทุกชาติ จนปัจจุบัน
และที่พี่ภูปรารถนาอยากให้ทุกๆดวงจิตได้มีโอกาสลิ้มรสชาด สัมผัสนิพพานบนดิน ก่อนที่ดวงจิตของพวกเราจะไปพระนิพพานกันจริงๆ
เมื่อถึงกาล..ดับขันธ์

พี่ภูขอให้น้องสู่วันใหม่นี้ เธอจงจำหลวงปู่ดูท่านนี้ให้ดีๆนะะะ
ขอให้ท่านช่วยยกจิตของเราอีกสักหนึ่งดวงนะ...น้องรัก
พี่ภูเจอเมื่อไหร่จะขอกอดหนึ่งที น่ารักมาก ดวงจิตเธอนี่
ภายในของเธอเริ่มดีวันดีคืนแล้วนะ เกาะพระ เกาะบุญ เกาะนิพพาน
ทรงอารมณ์ให้สบายๆนะ เพราะอย่าลืมนะ คำว่า บุญ หรือ บาป นั้น
พร้อมที่จะเปลี่ยนชิวิต เปลี่ยนจิตของคนไปในทางที่ดี หรือไม่ดี
ก็อยู่ที่เรา โดยเฉพาะการปฎิบัติของตนเองเป็นหลัก

น้องสู่วันใหม่เธอแทบไม่ต้องทำอะไรมากนัก แค่ส่งธรรมาทานแบบนี้แหล่ะ และก็ขยันนึก ระลึกถึงพระที่ชอบ ที่เธอเคารพนับถือ เลื่อมใสและศรัทธา ให้ได้ทุกวัน
แล้วชีวิตเธอจะเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีเอง
จำไว้...
ดูรูปหลวงปู่ดู่นานๆนะ ท่านกำลังส่งพลังงานสักอย่างนึงให้กับเธอ
และขออาราธนาบารมีของท่านบ่อยนะ
แล้วท่านจะช่วยน้องยกจิตแบบง่ายดาย(ถ้าเธอทำตามที่พี่ภูบอกนะ)
พี่ภูเห็นเธอเกาะอยู่ขอบกระทู้แทบทุกวัน อยู่หรือไม่ได้อยู่ ไม่รู้
แต่พระท่านเท่านั้น จะเป็นผู้ดู ผู้รู้เจตนาของเธอดี เป็นบุญหรือไม่
ตรงนั้นเธอก็รู้เอง

คนอื่นๆก็เหมือนกัน อย่าได้เกาะทู้เพียงอย่างเดียวนะ
ขอให้เกาะไปด้วย ให้จิตเกาะพระไปด้วยนะ
พี่ภูมิได้ให้พวกเรามาเกาะกระทู้นี้ เอาแค่มัน เอาแค่โมทนากันเฉยๆ
เพราะมันไม่ได้ทำให้เราไปถึง มรรคผลนิพพาน แค่บุญเล็กน้อย
บุญใหญ่ทำไมไม่เอา ไม่ทำกัน(จิตบางคนถามมา ก็เพราะกำลังใจ นั่นไง๊)
ปฎิบัติเ่ท่านั้น ความเพียรของผู้ปฎิบัติเท่านั้น ถึงจะสำเร็จ

ปล. เดี๋ยวต่อไปนี้ผมจะออกมาเฉลยจิตที่พร้อมจะยกกัน ว่ามีจิตใครบ้าง
เพราะถ้าพี่ภูประกาศไปแล้ว ขอให้พวกเราเร่งความเพียร+ความต่อเนื่อง
โดยเฉพาะขอเน้นความต่อเนื่อง ใครจะเป็นจะตายก็ช่างมัน ให้จิตเรารอดก่อน จิตเรายกก่อน เดี๋ยวท่านก็จะทราบเองว่า มันยกแล้วมันจะเป็นเช่นไร
แต่ถ้าเรายังพอมีเวลาเหลือ เราค่อยมาเก็บตก สะสม สร้างบารมีของตนกันทีหลัง

โดยเฉพาะผู้ที่กำลังสงสัยการปฎิบัติของผู้อื่นนั้น ทางธรรมเขา เรีกกันว่า คนที่โง่เขลานักแล ฉลาดทางโลก แต่มาโง่เขลาในทางเหล่านักภาวนา นักปฎิบัติด้วยกัน เพราะจิตเราไปตกอยู่กับสิ่งที่ไม่ได้เป็นฝ่ายบุญแล้ว
เพราะมัวไปหลงดูจิตคนอื่นเขา
แต่ถ้าใครรู้ตัวขอให้รีบนำจิตตนเอง กลับเข้าสู่ที่ตั้งเดิม หรือการปฎิบัติจิตของตน หมายถึง เราจะต้องมีสติอยู่ภายในกาย ภายในจิตของตนเท่านั้น

ครูบาจารย์ก็จะพูดเหมือนกันนี้ เพราะพี่ภูก็ปฎิบัติตามคำสั่งสอนท่านกันมา ที่พี่ภูพูดอยู่ในขณะนี้ ก็มิได้เป็นธรรมะของตนเองหรอก
แต่พี่ภูพยายามสื่อ/ น้อมนำเอาคำสั่งสอนจากพระพุทธเจ้า หรือน้อมจิตรับเอานำเอาธรรมะของพระอริยเจ้าทุกๆองค์
เมื่อฟังแล้ว อย่าฟังกันเฉยๆ เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา มันไม่มีประโยชน์
เราจะได้ประโยชน์กับธรรมะนั้น ก็ต่อเมื่อฟัง หรือ อ่านธรรมะของพระอริยเจ้ากันแล้ว และขอให้พวกเราน้อเอาธรรมะที่ฟัง/อ่านนั้น นำไปปฎิบัติตามกันด้วย
ขอให้สุขกาย สบายใจกันดี ร่ำรวยทั้งทางโลกและทางธรรมกันทุกๆท่านกันด้วยเทอญ
สาธุๆ

เอ็งคิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงเเก
เเกไม่คิดถึงข้า ข้าก็คิดถึงเเก​

***แต่ถ้าใครอยากจะยกจิตกับเขาบ้าง ก็ควรระลึกถึงพระพุทธเจ้ากันให้มาก และอย่างต่อเนื่อง

 

ผลกรรมจากการผิดศีล 5 อย่างละเอียด

<table id="post6188680" class="tborder" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-right: 0px"> 27-05-2012, 09:49 AM </td> <td class="thead" style="font-weight:normal; border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px" align="right"> #3 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px; border-bottom: 0px" width="175"> 2499
สมาชิก



วันที่สมัคร: Sep 2005
ข้อความ: 326
ได้ให้อนุโมทนา: 595
ได้รับอนุโมทนา 6,128 ครั้ง ใน 240 โพส
พลังการให้คะแนน: 325


</td> <td class="alt1" id="td_post_6188680" style="border-right: 1px solid #FFFFFF"> ผลกรรมจากการผิดศีล 5 อย่างละเอียด




ผิดศีลข้อ 1 ( ฆ่าสัตว์,เบียดเบียนทำร้ายสัตว์,กักขังทรมาณสัตว์) ผลกรรมคือ
1. มักมีปัญหาสุขภาพ ขี้โรค มีโรคเรื้อรัง รักษาไม่หาย รักษายุ่งยาก
2. มีอุบัติเหตุบ่อยๆ อาจมีอุปฆาตกรรม คือกรรมตัดรอน ทำให้ตายก่อนอายุขัย
3. อาจพิกลพิการ มีปัญหาร่างกายไม่สมส่วน ไม่สมประกอบ
4. กำพร้าพ่อแม่ คนใกล้ตัวโดนฆ่า
5.อายุสั้น ตายทรมาณ ตายแบบเดียวกับที่ไปฆ่าไปทรมาณสัตว์ไว้
6. อัปลักษณ์ มีปมด้อยด้านสังขาร

แนะนำหนทางทุเลา — ตั้งสัจจะว่าจะพยายามไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ทำร้ายหรือเบียดเบียน ไม่แกล้ง ไม่กักขัง ว่างๆก็ไถ่ชีวิตสัตว์ เช่นไปตลาดซื้อปลาที่เค้ากำลังจะขายให้คนไปทำกิน ให้เราซื้อไปปล่อยในเขตอภัยทาน (ท่าน้ำของวัด) หรือ ซื้อยาสมุนไพร ยาแผนปัจจุบันไปให้ถวายพระที่วัด หรือไปตามโรงพยาบาลทั้งของคนปกติและ ของสงฆ์เพื่อบริจาคค่ารักษา หรือรับอุปถัมภ์ค่ารักษาพยาบาล บริจาคเลือดและร่างกายให้สภากาชาดไทยหรือตามโรงพยาบาลต่างๆ และอื่นๆตามแต่ท่านจะสะดวกและตามกำลัง



ผิดศีลข้อที่ 2 (ลักทรัพย์ ขโมย ฉ้อโกง ยักยอก ทำลายทรัพย์) ผลกรรมคือ


1. ธุรกิจไม่เจริญก้าวหน้า เจ๊ง ขาดทุน ฝืดเคือง โดนโกง
2. มีแต่อุบัติเหตุให้เสียทรัพย์สิน ต้องชดใช้ให้คนอื่นอย่างไร้เหตุผล
3. ทรัพย์หายบ่อยๆหลงลืมทรัพย์วางไว้ไม่เป็นที่ หาก็ไม่เจอ
4. มีคนมาผลาญทรัพย์เรื่อยๆทั้งคนใกล้ตัวและคนทั่วไป
5. ลูกหลานแย่งชิงมรดก โดนลักขโมยบ่อยๆ
6.ตระกูลอับจนไม่มีที่สิ้นสุด มีแต่คนมาทำลายทรัพย์

แนะนำหนทางทุเลา — ตั้งสัจจะไม่ยุ่งกับทรัพย์สินของคนอื่น หากอยากได้ให้ขอเสียก่อน จนกว่าเจ้าของจะอนุญาตด้วยความเต็มใจ หมั่นทำบุญสังฆทาน บริจาคค่าน้ำค่าไฟวัด เพื่อที่ศาสนาจะได้ไม่ขาดแคลนปัจจัยส่งผลบุญให้เราไม่ขัดสน มอบทุนการศึกษาแด่ผู้ที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ผลบุญทำให้เรามีปัญญาที่จะหาทรัพย์ อย่างสุจริต รวม ทั้งต้องตั้งสัจจะที่จะมีสัมมาอาชีพไม่ฉ้อโกงใครแม้แต่สลึงเดียว และอื่นๆตามแต่ท่านจะสะดวกและตามกำลัง



ผิด ศีลข้อ 3 (ประพฤติผิดในกาม ผิดลูกเมียเขา ล่วงเกินบุตรธิดาของผู้อื่นก่อนได้รับอนุญาต แย่งคนรักของคนอื่น,กีดกันความรักคนอื่น,นอกใจคู่ครอง,หลอกลวง, ข่มขืน,ค้าประเวณี, ล่วงเกินทางเพศต่างๆ) ผลกรรมคือ
1. หาคู่ครองไม่ได้ ,ไม่มีใครเอา, หน้าตาอัปลักษณ์ ,โดนเพศตรงข้ามล้อเลียนจนมีปมด้อย
2. เป็นหม้าย ,ผัวเมียตายจาก, ผัวหย่าเมียร้าง,คบใครก็มีเหตุให้หย่าร้างเลิกรา
3. คนรักนอกใจ ,คนรักมีชู้ ,มีเมียน้อย ,คบใครก็เจอแต่คนเจ้าชู้ ,โดนหลอกฟัน, ท้องไม่รับ, เสียตัวฟรี ,โดนข่มขืน
4. ไม่มีมิตรจริงใจ, เพื่อนฝูงไม่รัก, พี่น้องก็ไม่รัก ,พ่อแม่ทอดทิ้ง ,ชีวิต
ขาดความอบอุ่น, มีแฟนก็ไม่มีใครจริงจังด้วย,ครอบครัวไม่อบอุ่น
5.มีความผิดปกติทางเพศทางร่างกาย,ทางจิตใจ,ถูกกีดกันทางความรัก,สังคมไม่ยอมรับความรักของตน,มีความรักหลบๆซ่อนๆ
6. ต้องมีเหตุพลัดพรากจากคนรักและของรักอยู่เสมอ(ก่อนเวลาอันควร)

แนะนำหนทางทุเลา — ตั้งสัจจะว่าจะไม่ทำผิดเรื่องทางเพศ ไม่ทำให้ใครรู้สึกผิดหวังเสียใจในเรื่องความรัก ไม่กีดกัน ไม่คิดแย่งหรือไปรักกับคนรักของใคร ไม่คิด
ทำร้ายความรู้สึกคนรัก ไม่ล่วงเกินบุตรธิดาของใครก่อนได้รับอนุญาต รักเดียวใจ
เดียว ไม่นอกใจไม่มีกิ๊ก พอใจในคู่ครองของตนเอง
หมั่นทำบุญถวายเทียนคู่ให้วัด ถวายธงคู่ประดับวัด ช่วยออกค่าใช้จ่ายงานแต่งงานและอื่นๆตามแต่ท่านจะสะดวกและตามกำลัง หรือให้ธรรมะด้านความรักแก่คู่รักที่รู้จัก เอาใจใส่คู่ครองคนรัก เอาใจใส่พ่อแม่ของตนเอง หากรักพ่อแม่เอาใจใส่พ่อแม่อย่างดีจะได้รับผลบุญทำให้ความรักของเราสดใสไม่ เจ็บช้ำ หากทรมาณพ่อแม่ ทำอย่างไรกับพ่อแม่ไว้ ต่อไปชีวิตรักก็จะเลวร้ายพอๆกับความรู้สึกเสียใจของพ่อแม่ที่เราได้กระทำไว้



ผิด ศีลข้อ 4 (โกหก ปลิ้นปล้อน กลับคำ ไม่มีสัจจะ หลอกลวงผู้อื่น ใส่ร้ายผู้อื่น ยุแยงให้คนแตกกัน ใช้วาจาดูหมิ่น พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ ขี้โม้ นินทา ด่าทอ ด่าพ่อล้อแม่ ด่าและเถียงผู้มีพระคุณ ผิดสัญญา สาบานแล้วไม่ทำตาม ) ผลกรรมคือ
1.ปากไม่สวย ฟันไม่สวย มีกลิ่นปาก มีปัญหาเรื่องปากเรื่องฟันอยู่เนืองนิจ
2.มีแต่คนพูดให้เสียหาย มีคนซุบซิบนินทาเรื่องของเรา มีคนคอยใส่ร้ายดูหมิ่นและส่อเสียดเราอยู่เสมอ
3.ไม่มีใครจริงใจด้วย มีแต่คนมาพูดจาหลอกลวง ผิดสัญญาต่อเรา
4.เกิดในสังคมที่พูดแต่คำหยาบคำส่อเสียดปลิ้นปล้อน นินทาอยู่เนืองนิจ เพียงตื่นมาก็พบเจอความไม่เป็นมงคล (สังคมที่ปากไม่เป็นมงคล)
5.หลงเชื่อคนอื่นได้ง่าย โดนหลอกได้ง่าย ไม่มีความระวังเวลาโดนโกหก
6.ไม่มีใครเชื่อถือในคำพูดของเรา, เป็นคนที่พูดอะไรแล้วคนเมิน,พูดติดๆขัดๆ, นึกจะพูดอะไรก็ไม่ได้ดั่งใจ

แนะนำหนทางทุเลา โดย” ตั้งสัจจะว่าจะไม่พลั้งปากโกหกหรือส่อเสียด นินทายุแยงใคร ไม่ด่าใคร พูดตามความเป็นจริงทุกอย่าง สิ่งใดควรพูดก็ควรพูด ไม่ควรพูดก็อดทนไว้ ไม่ด่าไม่เถียงไม่นินทาผู้มีพระคุณเช่นพ่อแม่ครูบาอาจารย์ ให้คำสัญญาใครไว้ต้องรักษา อย่าสาบานอะไรพร่ำเพรื่อ ว่างๆก็ออกค่าใช้จ่ายให้ค่าทำฟันแก่คนยากคนจนและอื่นๆตามแต่ท่านจะสะดวกและ ตามกำลัง หมั่นให้สัจธรรมความจริงแก่คนทั่วไป พูดแต่ธรรมะ สอนธรรมะอยู่เสมอ หมั่นพูดหรือเผยแพร่ธรรมะให้คนอื่นฟังบ่อยๆ ทำตัวให้มีธรรมะให้มีสัจจะ พูดอะไรก็ไม่ผิดคำพูดไม่กลับคำ ไม่หลอกลวงใคร คนจะเชื่อถือมากขึ้น



ผิดศีลข้อ 5 (ดื่มของมึนเมา เสพยาเสพติด ให้ยาเสพติด ให้ของมึนเมา ขายของมึนเมา ขายยาเสพติด) ผลกรรมคือ
1. สติปัญญาไม่ดี ขี้หลงขี้ลืม เรียนไม่เก่ง อ่านหนังสือไม่จำ อ่านยังไงก็ไม่เข้าใจ
2. เกิดในตระกูลที่โง่เขลา เต็มไปด้วยอบายมุข
3. หากกรรมหนักจะเกิดเป็นเอ๋อ ปัญญาอ่อน เป็นโรคทางปัญญา
4. ลูกหลานสำมะเลเทเมา มีลูกหลานติดยาเสพติด
5. เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ไม่มีสติระวัง มีแต่ความประมาท
6. มักลุ่มหลงในสิ่งผิดได้ง่าย เป็นคนที่โดนมอมเมาให้หลงใหลในสิ่งผิดได้ง่าย (ขาดสติ)

แนะนำหนทางทุเลา โดย” ตั้งสัจจะว่าจะไม่ดื่มของมึนเมาและยาเสพติดทุกชนิด ไม่จำหน่าย จ่ายแจกของมึนเมาและยาเสพติดทุกชนิด หมั่นทำธรรมทานวิทยาทานให้ปัญญาความรู้แก่คนทั่วไป และอื่นๆตามแต่ท่านจะสะดวกและตามกำลัง




ผลกรรมจากการผิดศีล 5 อย่างละเอียด | หมอดูไทย ดูดวง
</td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-top: 0px"> </td> <td class="alt1" style="border: 1px solid #FFFFFF; border-left: 0px; border-top: 0px" align="right"> </td> </tr> </tbody></table> สมาชิก 97 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ 2499 ในข้อความที่เขียนด้านบน

ขออนุญาตินำบทความ ผลกรรมจากการผิดศีล 5 อย่างละเอียด
จากคุณ2499 ที่นำมาลงไว้ในเวปพลังจิต มานำเสนอให้กับทุกๆท่าน
ได้ศึกษาในรายละเอียดได้อย่างชัดเจน ไว้เป็นการเตือนสติ และจิต
ให้ยึดมั่นอยู่ในศีลห้า และแนวทางแก้ไข

ขอโมทนา สาธุ และขอขอบคุณ คุณ2499 เป็นอย่างสูง มาณ.ที่นี้

ขอเจริญในธรรม

ด้วยจิตคารวะ

นิวเวป จบ.14
​

 

สวัสดีครับ พอดีเมื่อวานโดนจัดหนักหลายอย่าง และมีบางอย่างน่าจะมีประโยชน์กับใครบางคน เลยต้องขอเอามาลงไว้ครับ ( เป็นคำตอบของครูลูกพลังที่ตอบการบ้านผมครับ)
เรื่องศีลนี่ ความจริงจะว่าง่ายมันก็ง่าย จะว่ายากมันก็ยาก..<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
ตัวเรานี่สมัยก่อนจะทรงศีล4 คือทรงได้แค่4ข้อ เว้นแต่ข้อมุสาทำไม่ได้ แต่ว่าก็น้อยมากๆแล้ว เพียงแต่ว่ามันยังมีหลุดๆอยู่บ้าง มันก็เลยไม่บริสุทธิ์ซักที..<o></o>
ทำอยู่เป็นปีๆเลย.. แต่ว่ายังไม่ได้ถึงกับเอาเป็นเอาตายนะตอนนั้น..<o></o>
ความที่เราต้องมุสานี่ก็เพราะว่าเรื่องผลประโยชน์ทางธุรกิจ แล้วเรายังมีความสามารถในการมุสาได้แบบออโต้เลย แถมทำหน้าตายอีกต่างหาก แถมใส่นำ้เสียงโคตะระจริงจังเลย.. (จิตวิทยาสุดๆเลยเรานี่) ชอบคุยเล่นๆกับเพื่อนว่าที่บ้านตรูมีถ้วยรางวัลตุ๊กตาทองตั้งเรียงเป็นแถวๆเต็มตู้เลย คือแสดงละครเสแสร้งเก่งสืบเนื่องจากว่าเรามุสาเก่งมากๆ แล้วคนเชื่อเราทั้งบ้านทั้งเมืองเลย..(ดูความเลวเราซิในสมัยก่อนนะ)<o></o>
พอดีว่าได้พบเจอพระอาจารย์ทางด้านกรรมฐาน ท่านก็เมตตาสอนกรรมฐานเรา ท่านก็สอนเรื่องศีลนี่แหล่ะ(เหมือนที่พวกเราพร่ำสอนคุณวัฒนาอยู่นี่แหล่ะ..อิอิ) <o></o>
ด้วยว่าแค้นใจที่นั่งสมาธิแล้วไม่ได้ถึงฌาน4ซักที (เราเคยนั่งได้ถึงฌาน4มาก่อนแล้วหลายครั้งเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว แต่เลิกทำไปเพราะว่า"หลง"ในกระแสโลกเหมือนกับคนทั่วๆไปน่ะ เลยหยุดทำไปหลายปีทีเดียว) พอกลับมาทำใหม่ มันก็กองๆอยู่แถวฌาน2-3นี่แหล่ะ ไม่ไปไหนซักที..<o></o>
แล้ววันนึงเราก็พูดกับท่านพระอาจารย์ว่า ผมนี่สามารถรักษาศีลได้ทุกข้อยกเว้นข้อมุสาเพราะว่าตราบที่เรายังทำงานทางโลกอยู่มันไม่น่าจะทำได้.. ท่านอาจารย์เงียบไม่ตอบอะไรเลย.. <o></o>
แต่เราก็รู้ว่า.. "ก็มรึงมันไม่ได้เรื่องนี่ มีแต่สารพัดข้ออ้าง" เข้ามาในหัวเราเอง นี่เหตุข้อที่1<o></o>
ด้วยความแค้นที่"ทำไมตรูนั่งสมาธิทำฌาน4ไม่ได้ซักทีฟว๊ะ ก็ตรูเคยทำมาก่อนได้แล้วนี่หว่า ตั้งหลายๆครั้งด้วย แถมตอนนั้นได้สัมผัสอภิญญาบางอย่างมาแล้วด้วย-ทิพย์จักษุ" กิเลสแห่งความแค้นใจ นี่เหตุผลข้อที่2<o></o>
ค่อยๆมาพิจารณาโดยใช้ปัญญาว่า ความจริงถ้าเราจะหาหนทางหลีกเลี่ยงแบบจริงๆจังๆมันก็พอได้นี่หว่า, หรือบางเรื่องเราก็พูดความจริงไปเลย ไม่มีอะไรต้องอาย/กลัวเกรงใครก็มันเป็นเรื่องจริงนี่หว่า ถึงมรึงไม่อยากจะฟังก็ต้องฟังเพราะว่ามันเป็นความจริง, หรือเงียบ..ไม่ตอบ ตีหน้าตาย คนถามมันเลิกถามเอง(ก็ตรูจะไม่ตอบซะอย่างจะทำไม..) หรือ ตอบเลี่ยงๆตามแบบพระอาจารย์เราคือ แกจะพูดเสมอว่า "จะรู้ไปทำไม" แล้วแกก็ไม่ตอบเฉย นี่คือเหตุข้อที่3<o></o>
<o> </o>
รวมเหตุผล3ข้อ เราก็เริ่มทีจะรักษาศีล5ทุกข้อให้บริสุทธิ์ (แต่เราจะระวังข้อมุสาเป็นพิเศษ) เพราะข้ออื่นๆเราทำได้อยู่แล้วนี่ <o></o>
พอตรูกัดฟันตั้งใจเอาจริงๆ(สุดชีวิตเลย) มันก็ทำได้ ก็ใช้เวลาไม่นานนัก พอพ้นเดือนไปแล้วมันก็ไม่ต้องระวังแล้วคือ สติ+จิตเรา มันทำงานออโต้ของมันเองเรื่องศีล5 นี่<o></o>
ความจริงเราทำมากกว่านั้นอีก คือเราบุกไปที่ศีล8เลยแต่ยกเว้น ข้อ"วิกาลโภชนา" คือยังทานมื้อเย็นอยู่บ้างแต่น้อยและด้วยหน้าที่การงาน มันก็ต้องไปกินกับชาวบ้านชาวเมืองมื้อเย็น แต่ถ้าธรรมดาอยู่บ้านจะทานแค่ผลไม้อย่างเดียวมื้อเย็น (เชื่อไหมนำ้หนักตัวลดลงเป็น10กิโลเลย ภายใน5เดือนคือลดเดือนละ2กก.) หรือบางวันก็ขนมนิดหน่อยหรือบางวันก็ไม่ทานอะไรเลย คือว่าจริงๆแล้วเราค่อยๆฝึกปรับร่างกาย จนทุกวันนี้เรากินแค่มื้อเที่ยงมื้อเดียวบวกมื้อเย็นแบบชิวๆเบาๆส่วนใหญ่จะเป็นผลไม้ซะมากกว่า.. <o></o>
สรุปว่าเรานี่นับจากบัดนั้นมาจนบัดนี้ เราเป็นคนที่ทรงศีล7 อยู่นะจวบจนทุกวันนี้ (ถ้าเราจะทรงศีล8จริงๆแล้วก็ไม่ยากเลย เพียงแค่งดมื้อเย็นอย่างเดียวก็เป็นศีล8แล้ว.. ที่ยังไม่ทำเพราะเรื่องหน้าที่การงานเป็นหลัก คือเราคิดว่าถ้าตั้งใจจะรักษาให้มันบริสุทธิ์แล้วก็ไม่ควรยึกๆยักๆ แต่เราก็รู้ตัวเราเองว่าอีกไม่นานซักปีกว่าๆหรืออาจจะน้อยกว่านั้น เราก็จะรักษาศีล8แบบจริงจังเอาแบบบริสุทธิ์เลยตลอดไปเลย..) พอหลังจากรักษาศีลได้บริสุทธิ์แล้วสมาธิเราก็ก้าวหน้ามากยิ่งๆขึ้น จนเราสามารถทำมโนฯแบบเต็มกำลังได้เองโดยไม่ต้องมีใครมาสอนเลย(แต่ว่าอ่านหนังสือหลวงพ่อฤาษีเอาเอง..) พอเราถอดกายทิพย์ได้ เราก็ไปกราบพระพุทธเจ้า และมีไปเที่ยวจุฬามณีเท่านั้นแหล่ะ ที่อื่นไม่เคยไปเพราะว่าไม่คิดว่าจะไปเลย เราอ่านไตรภูมิของหลวงพ่อมาหมดแล้ว(เราเชื่อหลวงพ่อน่ะ)ดังนั้นจึงไม่คิดที่จะไปไหน คือเราไม่อธิษฐานจิตให้ไปที่ไหนๆ ผลก็คือ พอนั่งสมาธิได้แค่แป๊ปเดียว กายทิพย์มันถอดออกมาเองแล้วก็วนเวียนอยู่รอบๆกายหยาบเราเอง (เราก็นั่งนึกว่ามรึงออกมาทำไม ตรูไม่ได้อยากจะไปที่ไหนๆ) เป็นแบบนี้อยู่เรื่อยๆทำให้เราสวดมนต์เสร็จก็จะนี่งสมาธิแบบไม่นานมากเพราะว่ากายทิพย์มันชอบทะลึ่งโผล่ออกมาเอง.. เราก็เลิกนั่ง<o></o>
ตอนหลังได้โอกาสถามท่านพระอาจารย์ ท่านก็บอกว่า ให้เอากายทิพย์กระโดดใส่เข้าไปในกายหยาบเราเอง ท่องเที่ยวไปในส่วนต่างๆของร่างกายเราเองเข้าไปดูสมองตับไตไส้พุงตัวเอง.. ภายหลังมาเราถอดกายทิพย์เพื่อเข้ามาในกายหยาบตัวเอง..เพื่อพิจารณากายคตานุสติ<o></o>
จนมาได้เจอจิตเกาะพระนี่แหล่ะ.. ฝึกฝนจนจิตตัวเองยกได้แล้ว.. <o></o>
เชื่อไหมทุกวันนี้นะ ความอยากได้อภิญญามันหายไปไหนหมดแล้วก็ไม่รู้ ทั้งที่แต่ก่อนพลังฮึดนี่มาจากความอยากได้อภิญญาแท้ๆเลยเชียว.. อุตส่ารักษาศีลให้บริสุทธิ์ก็เพื่อจะทรงฌาน4ให้ได้เท่านั้นเอง..เพื่ออภิญญา..<o></o>
ทุกวันนี้นั่งสมาธิฌาน4ตลอด แต่ว่าเรา(จิต)ไม่อธิษฐานฝึกฤทธิ์เอง จิตมันไม่เอา..เราก็ตามใจมัน <o></o>
คือจิตมันต้องการแค่ว่างๆแค่นั้นเอง<o></o>
นี่กะว่าจะกลับไปฝึกอรูปฌานต่อ ให้ได้สมาบัติ8 แล้วฝึกการเข้านิโรธสมาบัติให้ได้ เพื่อดับสัญญาพักผ่อน..ถ้าจะดีกว่าฝึกอภิญญา<o></o>
<o> </o>
สรุปว่าวันนี้เล่าเรื่องตัวเองให้คุณวัฒนาฟัง โดยมาเน้นเรื่อง"การรักษาศีลให้บริสุทธิ์" โดยองค์รวมคือว่าถ้าเราจะเอากับมันจริงๆจังๆแล้ว เราทุกคนสามารถที่จะทำได้โดยไม่มีข้ออ้างใดๆทั้งสิ้น มันเป็นเรื่องของ"กำลังใจ"ล้วนๆเลยล่ะครับ..<o></o>
<o> </o>
สาธุสวัสดี<o></o>
อ่านตรงที่ ถ้าเราจะเอากับมันจริงๆจังๆแล้ว เราทุกคนสามารถที่จะทำได้โดยไม่มีข้ออ้างใดๆทั้งสิ้น มันเป็นเรื่องของ"กำลังใจ"ล้วนๆเลยล่ะครับ.. แล้วบอกตัวเองว่าโดนอีกแล้วเรา

 

สวัสดีครับ ตอนนี้สบายดีครับ ช่วงนี้ผมรู้สึกว่าบางทีอยากทราบคำตอบบางอย่าง เปิดเว็บไปเล่นๆก็จะเจอคำตอบให้เองแบบ เฮ้ย เป็นไปได้ไงฟะเนี่ย แต่บางคำตอบมันก็ทำให้ผมหลงไปกับเรื่องกิเลสเหมือนกัน บางทีคิดว่าคุมมันได้แบบใกล้ๆแล้ว โดนกระทุ้งเมื่อวานอ้าวจิตไปโน้นนนแล้วนี่หว่า ต้องวิ่งไปตามมันกลับมาโดยพลัน

 

มีครูสอนแล้วค่ะ ส่งการบ้านทุกวันไม่เคยขาดแม้แต่วันเดียว ฝึกมาเกือบเดือนแล้วค่ะ มาห้อยขอบกระทู้อ่านธรรมะค่ะครูวิทย์

 

ขอโทษ พิมพ์ตัวหนังสือใหญ่ไปไม่ค่อยได้ใช้กระทู้ ทำไม่ค่อยเป็นค่ะ

 

มีคนรู้ด้วยว่าเราแอบดู อิอินึกว่าหลบเก่งแล้วนะเนี่ย
ฝึกฝนอยู่คร้า เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ

 

ยังอ่าน(พยายาม)อยู่ค่ะท่านอาจารย์ภู ขอบพระคุณท่านอาจารย์และเพื่อนๆทุกๆท่านใน "จิตเกาะพระ"ค่ะ

 

สาธุ ขออนุโมทนาบุญด้วยกับคุณวิทย์ค่ะ กับธรรมะเป็นทานในครั้งนี้ เห็นแจ้งตามจริงนั้นแลค่ะ แล้วคุณวิทย์หายรึยังค่ะ หวังว่าคงจะดีวันดีคืนขึ้นเป็นลำดับนะค่ะ ขอให้หายป่วยในเร็วพลันนะค่ะ สาธุ๊

 

ผมเจอแต่คนที่ ทำๆๆๆไป ทบทวนไป เจอปัญหาก้อค่อยแก้ไป ถึงมันจะช้าหน่อย แต่มัน ถึงแน่ๆ
วิ่งเร็ว วิ่งช้า สุดท้ายถึงเหมือนกันนะ อย่ารีบ อย่าร้อนรนนะครับ ... เอาแบบไปช้าๆ แต่แน่นๆ ยืนหยัดได้ด้วยตนเอง
มิใช่ไปไว แล้ว ล้ม กลับมาใหม่ ... คุณจะต้องล้มสักกี่ครั้งถึงจะจำ ล้มแล้วจะสร้างกำลังใจใหม่ได้เหมือนเดิมไหม ส่วนใหญ่ ท้อ แล้วก้อเลิกไป

การวางกำลัง เป้นสิ่งสำคัญที่ตัวผุ้ฝึกจะต้องมี วางกำลังใจให้เป็น
อย่าถามเลย ครูครับ/ค่ะ นู๋เป็นศิษย์ที่แย่ที่สุดไหม ครูครับ ผมไปไวที่สุดในกลุ่มแล้วใช่ไหมครับ

ทำๆๆ แล้วก้อ ทำๆๆๆๆๆๆๆ ทุกที่ ทุกเวลา(สูตรครูลูกพลัง) อยุ่กับตัวเรา อยู่กับครูเรา ไม่ต้องไปสนใจผู้อื่น สนใจแล้วไม่ได้ทำให้เราไวขึ้นนะ

เพราะการฝึกนี้ เราฝึกมิใช่ผู้อื่นมาช่วยฝึก ตนเป้นที่พึ่งแห่งตน จำไว้นะครับ

แล้วบางคน ชอบโทษตนเอง ผม/หนู เลวมาก ทำบาปมามาก จะทำได้เหรอ ผมทำไม่ได้แน่ ... ผมไม่เห็นนะคนที่เลว คนที่บาปหนา ผมเห็นแต่ปัจจุบันที่คุณมาฝึก คุณตั้งใจจะหลุดพ้น ผมขอให้คุณอยู่กับปัจจุบันให้มาก ทุกขระจิต อย่าไปเอา อดีต หรือ อนาคต มาทำให้เราเสียกำลังใจ อีกเลย ... ปัจจุบันนะ ปัจจุบัน


สาธุ๊ อนุโมทนาบุญค่ะ ครูวิทย์ มักหลายเด๊...5555 บทความนี้ โดนใจ "เต่ายิ้ม" อย่างเราจริงๆ อิๆ ขอยืนยันอีกครั้งค่ะว่า อย่าสงสัยมาก อย่าอ่านมาก ให้ทำๆๆๆๆๆ ค่ะ ความเพียรนั้นจะส่งผลคุณเองในสักวันหนึ่ง ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน เท่านั้นค่ะ (คำๆ นี้เพิ่งคุยกับพี่ภูเลยอ่ะ มาอ่านเจอในบทความครูวิทย์พอดีเล้ย เลยอดไม่ได้ที่จะขอแชร์สักเล็กน้อยค่ะ) เมื่อก่อนเกษก็ไม่รู้จะส่งการบ้านยังไง ก็แอบเกาะกระทู้ฝึกมา ทำทั้งของเก่า(ภาวนา)ทั้งของใหม่(ระลึกนึกถึงภาพพระ) ควบคู่กันไปด้วย ก็คือยังติดของเก่าอยู่นั่นเอง ให้เราทำๆๆๆๆๆๆ ไปเถอะนะค่ะ แล้วจะเจอปัญหา หรือข้อติดขัด ของเราขึ้นมาเอง (ถ้าไม่ทำก็ไม่เจอปัญหา ปริยัติไม่ต้องไปพูดถึงค่ะ เพราะไม่รู้เรื่องเลย แต่ว่า ถ้าคุณปฏิบัติ แล้วคุณจะพบปฏิเวธ ด้วยตัวของคุณเอง แล้วมันจะทำให้คุณเข้าใจเองมากขึ้นเป็นลำดับ) พอเกาะกระทู้ไม่ปล่อย ก็จะเจอคำตอบที่ตัวเองติดขัดไปเรื่อยๆ ในที่นี้ ต้องกราบขอบพระคุณพี่ภูนะค่ะ ที่คุยจนจับได้ว่าเราติดตรงไหน อ้าว..ต้องทิ้งของเก่าใช่มั้ย ห้ามทำควบคู่กัน จิตมันสับสนอ่ะดิ อ้าวเหรอค่ะ ต้องทิ้งของเก่า งั้นก็ทิ้งๆๆๆๆๆ หันมาจับภาพพระอย่างเดียว ที่นี้ก็ติดเรื่อง สติ อีก อ้าว..จับภาพพระเป็นการสร้างสติยังไงล่ะเนีย งงอีก ก็ได้ครูลูกพลังค่ะ อธิบายมาซะจนเข้าใจแจ่มเลย แต่ยังไม่แจ้งซะทีเดียวน่ะค่ะ เอ้า..ต้องจับภาพพระให้ได้ถี่ที่สุด บ่อยที่สุด ดูซิจะเป็นการสร้างสติได้ยังไง ต้องความเพียรค่ะ อ้าว..เอาล่ะซิ พอเริ่มจับภาพพระได้ เออ..แหะ สติมันมาอย่างนี้นี้เอง แต่อย่าเร่งนะค่ะ ให้ทำตามกำลังของตน ด้วยใจที่สบายๆ นะค่ะ อย่าไปเร่งจนเครียด ปวดหัว อะไรอย่างนี้ไม่ใช่ ก็อย่างที่ครูทั้งหลายบอกไว้เลยค่ะ พอสติมาปุ๊ป จะรู้สึกว่าใจมันนิ่งๆ ใจนิ่งขึ้นเยอะค่ะ และจะรู้สึกเบาๆ สบายๆ พอสติมาแล้วเนี่ย ความนิ่งก็จะมาแล้ว และจะทำให้เกิดสมาธิเร็วมากมาก โดยที่ไม่ต้องไปบังคับกายให้มานั่งขัดสมาทเพื่อบังคับจิตให้เกิดสมาธิเลย (ก็เมื่อก่อนดิฉันเป็นแบบนี้นี้ค่ะ ถึงรู้ โอโห้..พอนั่งปั๊ปนั่นแหล่ะ ฟุ้งซ่านคิดไปไม่รู้กี่ร้อยแปดพันเรื่องทั้งอดีต อนาคตคิดไป ปรุงแต่งมันเข้าไปซะงั้น แล้วก็ยิ่งทุกข์ซิ ทุกข์เพราะไอ้เจ้าความคิดที่ปรุงแต่งมันไปนี้แหล่ะ) ขอบอกว่าเมื่อสติมาทำให้เกิดความนิ่ง และต่อด้วยเกิดสมาธิเนี่ย มันเกิดขึ้นได้ในทุกอิริยาบทเลยนะค่ะ อย่าไปกังวลว่าจะต้องไปนั่งขัดสมาธอะไรอย่างนี้ ให้อยู่ในท่าสบายๆ ได้เลยค่ะ แค่นี้ก่อนนะค่ะ เดี๋ยวคุณครูจะว่า แหม..เพิ่งจะเริ่มได้แค่ฌาณต้นๆ มาได้ไม่เท่าไรเอง ออกมาโม้ซะแล้ว 5555 เดี๋ยวขอกลับไปฝึกสติต่อก่อนนะค่ะ เดี๋ยวไม่มีการบ้านส่งครู 55556666 หวิ๊ววววว....:boo::boo:

 

โมทนาสาธุ สาธุกับครูวิทย์ด้วยครับ..

ไอ้หย๋า..หายเปื่อยมานี่ ดุ เจงๆ..555


ท่านผู้กำลังฝึกอยู่ทุกๆท่าน ได้โปรดอ่านนะครับซัก2-3รอบ
แล้วท่านจะได้"แก่น" จริงๆ (เปลือกกับกระพี้ อย่าไปเอาเพราะมันไม่เป็นประโยชน์)
เหนือสิ่งอื่นใด ต้องโน้มนำไปปฎิบัติด้วยนะครับ..
แล้วความสำเร็จก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมนะครับ..

ขอให้ทุกๆท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ.. สาธุสวัสดี

 

ดีใจกับ เต่ายิ้มด้วย....

แต่พอจิตคุณเกาะพระได้แนบแน่นนะ .... จะแปลงร่างเป็นเต่าเทอร์โบ
วิ่งฉิวละทีนี้

แต่ละครูที่คุณได้รับคำแนะนำไปนี่ สุดยอดทั้งนั้นเลยนะ(ครูพ่อใหญ่ภู / ครูพี่ลูกพลัง ...)

เพียรทำไป ด้วยใจสบาย

ขอส่งจิตไปช่วยด้วยคน

สวัสดีครับ

 

55555555555 ผมไม่ดุนะค้าบบบบบ
กระทุ้งไป เผื่อของบางคนยังมึนๆ เมาๆ หลงๆ นีสสสนึง

อ่านแล้ว น้อมไปคิดพิจารณาหาแก่นนะครับ และ น้อมไปทำๆๆๆๆๆๆๆๆ

ขอให้ทำๆๆๆๆๆๆๆ และ เกาะครูๆๆๆๆๆๆๆ แล้วคุณจะ แจ้งๆๆๆๆๆๆๆ

สวัสดีครับ

 

คนละตุ้บ คนละตั้บ .... ถ้วนหน้าครับพี่เพ็ญ
5555 จะบอกอะไรให้เน้อ...
จิตบุญนี้ ยิ่งทุบ ยิ่งแกร่ง ยิ่งกระแทก ยิ่งสดใส ยิ่งสว่าง

สิ่งที่มา สิ่งที่กระทบนั้น มาแล้วก้อไป
มิได้อยู่ถาวร มาเพื่อให้เราได้นำมาเป็นสิ่งทดสอบ ทั้งครูและศิษย์ทั้งหลาย
เพื่อเป้าหมายสุดท้าย

แต่ผมมั่นใจ จิตบุญนี้และเหล่าศิษย์ เราจับกัน โค-ตะ-ระ แน่น ไม่หลุดหรอครับ
เพราะ .... เราจะจูงมือทุกท่านกลับบ้านด้วยกัน

สวัสดีครับ

วิทย์

 

อนุโมทนาด้วยครับ

ว่าแต่ จะเกาะอย่างเดียวจริงๆเหรอ

ไม่มายกจิตกันแบบจริงๆเหรอครับ

ครูดัช คร้าบบบ ครูเพ็ญคร้าบบบบ

ครูใหญ่ม้ากกกกกกกกกกกพี่ภูครับ

มารับ คุณชลิษา ด้วยครับ

เธออยากเดินไปกับเราแล้วครับ ....