ข้อความจากต่างมิติ - การเดินทางของจิตวิญญาณ - วิญญาณ และ จิตวิญญาณ คืออะไร

กระทู้นี้ก็เป็นอีกกระทู้หนึ่ง ที่พูดถึงจุดกำเนิดของจิตวิญญาณ
ว่ามาจากไหน และเป็นมาเป็นไปอย่างไร

รวมถึงยังพูดถึง ความแตกต่างของคำว่า "วิญญาณ" (Spirit)
กับคำว่า "จิตวิญญาณ" (Soul) ด้วย ซึ่งสองคำนี้ คิดว่าคงมีหลายคน
ที่ยังสับสนและไม่เข้าใจอยู่ รวมทั้งตัวผมเองด้วย

ก่อนหน้านี้ผมเคยเอาข้อความทำนองนี้มาโพสต์ทีหนึ่งแล้ว ในกระทู้ข้างล่างนี้นะครับ

"ข้อความจากต่างมิติ-จุดกำเนิดของจิตวิญญาณ-และลำดับชั้นทางจิตวิญญาณในเอกภพของเรา"

http://palungjit.org/threads/ข้อควา...และลำดับชั้นทางจิตวิญญาณในเอกภพของเรา.326865/

แต่ว่าข้อความในกระทู้ดังกล่าวนั้น มาจากรูปธรรมชีวิตที่ชื่อว่าแมทธิว
แต่ข้อความในกระทู้นี้ มาจากท่านมหาเทพมิคาเอล (Achangel Michael)

ดังนั้น ผมจึงอยากแนะนำว่า หากท่านใดยังไม่เคยอ่านกระทู้ดังกล่าวนั้น
ให้ลองไปอ่านดูก่อนนะครับ แล้วท่านจะได้เห็นความเหมือน และ ความต่าง
ของข้อความจากรูปธรรมชีวิตต่างมิติทั้งสองนี้

และเหมือนทุกครั้งที่เคยมาครับ คือ โปรดใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูลเสมอนะครับ

..........................................................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพมิคาเอล (AA Michael)
เรื่อง: การเดินทางของจิตวิญญาณ (The journey of the Soul)

ผ่านทางนาง Ronna Hernman
เมื่อเดือน ธันวาคม 2003

ที่มา:
DMC - Archangel Michael: The journey of the Soul

ตอนที่ 1:


ท่านคุรุที่รักทั้งหลาย พวกคุณสงสัยมาโดยตลอดใช่ไหมว่า “จิตวิญญาณ” (Soul)
และ “วิญญาณ” (Spirit) ของพวกคุณ มีความแตกต่างกันอย่างไร?

”จิตวิญญาณ” (Soul) คืออะไร?
มันประกอบขึ้นมาจากอะไรบ้าง?
ต้นกำเนิดของมันมาจากไหน?

จะเกิดอะไรขึ้นกับจิตวิญญาณของพวกคุณ เมื่อพวกคุณตายไป หรือ เปลี่ยนรูปแบบไป?
มันอยู่ตรงส่วนไหนของร่างกายเนื้อของพวกคุณ?
พวกคุณจะสามารถกลายเป็น “จิตวิญญาณที่สูญหาย” (Lost Soul) ได้หรือไม่?
จิตวิญญาณของพวกคุณจะต้องถูก “ช่วยให้รอด” เพราะว่าบาปในอดีตหรือไม่?

คำถามทั้งหมดเหล่านี้ ได้ถูกถามมาโดยตลอด และได้ถูกนำมาครุ่นคิดกันอยู่ตลอด ทุกยุคทุกสมัย
นับตั้งแต่มนุษย์ได้เริ่มมาอยู่บนโลกนี้แล้ว

เพราะฉะนั้น ขอให้พวกเราได้ช่วยตอบคำถามเหล่านี้แบบสั้นๆให้แก่พวกคุณสักหน่อยเถิด
เพื่อที่พวกคุณจะได้มีความเข้าใจซะใหม่ และถูกต้องมากขึ้น เกี่ยวกับความเป็นไปของจักรวาล
และต้นกำเนิดอันศักดิ์สิทธิ์ของตัวพวกคุณเอง

แต่อย่างไรก็ตาม มันก็ขึ้นอยู่กับตัวพวกคุณเองด้วยว่า
จะยอมรับเอาคำอธิบายเหล่านี้ ว่าคือความจริงสำหรับตัวเองหรือไม่
เพราะว่าพวกเราก็จะขอให้พวกคุณใช้วิจารณญาณพิจารณาเอาเองเหมือนเช่นเคย
และพวกเราก็จะขอให้พวกคุณ ยอมรับเอาเฉพาะสิ่งที่สอดคล้องกับความรู้สึกลึกๆภายในหัวใจ
(และภายในจิตวิญญาณ) ของตัวเองเท่านั้นด้วย



(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ในระดับ “เอกภพ” (Cosmic) หรือในระดับ “สรรพจักรวาล” (Omniverse) แล้ว
พวกคุณคือ “วิญญาณ” (Spirit) ซึ่งก็คือ ”เหลี่ยมมุม” (facet) หนึ่ง หรือ “รังสี” (Ray) หนึ่ง
ของแก่นแท้อันศักดิ์สิทธิ์ (Divine Essence) ที่ถูกส่งออกมาจากใจกลางของหัวใจของ
“พระผู้สร้างสูงสุด” (the Supreme Creator)

ในระดับนั้น พวกคุณจึงมีความตระหนักรู้ที่เต็มเปี่ยมและสมบูรณ์ว่าพวกคุณคือใคร
และมีความเชื่อมต่ออยู่กับพระผู้สร้างสูงสุดอย่างไร
พวกคุณจะมีความตระหนักรู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของตัวเอง
และรู้จักตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเป็นอย่างดี

แต่ในระดับจักรวาล (Universe) แล้ว พวกคุณคือ “ผู้สร้างร่วมศักดิ์สิทธิ์” (Divine Co-creator)
หรือที่เรียกว่า “พระเจ้า” ผู้ที่เป็นทั้งบิดาและมารดาของพวกเรา (our Father/Mother God)
ซึ่งก็ได้แผ่กระจายรังสีที่หักเหของแสงสว่างออกมาอย่างมากมายมหาศาลอีกต่อหนึ่งด้วยเช่นกัน
เพื่อสร้างโลกต่างๆขึ้นมา อย่างไม่มีวันจบสิ้น

ในระดับนี้ พวกคุณจะตระหนักรู้ถึงแผนการอันศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดทั้งมวลของจักรวาลแห่งนี้
และของส่วนที่พวกคุณกำลังเล่นอยู่ในนี้ด้วย แต่อย่างไรก็ตาม พวกคุณอาจจะจำได้
หรือจำไม่ได้ก็ได้ว่า ต้นกำเนิด หรือ ตัวตนที่แท้จริงของตัวเองในระดับเอกภพนั้นเป็นใคร

ในฐานะของ “วิญญาณ” (Spirit) ซึ่งต่อไปนี้พวกเราจะเรียกว่า “รังสีแห่งพระเจ้า” (God Ray) แล้ว
พวกคุณก็คือรูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างผู้ยิ่งใหญ่ ที่ก็ได้ส่งเหลี่ยมมุม (facet) หรือ รังสีย่อยๆ (sub-ray)
ของตัวเองออกมาอีกต่อหนึ่ง จำนวนมากมายมหาศาลด้วยเช่นเดียวกัน
จนทำให้เกิด “จิตวิญญาณต้นธาตุ” (Oversoul) จำนวนมากมายมหาศาลขึ้น
ซึ่งจิตวิญญาณต้นธาตุเหล่านี้ ก็คือส่วนหนึ่งของแก่นแท้ของความเป็นตัวตนของพวกคุณเองนั่นเอง
และก็จะกระจายไปอยู่ในมิติต่างๆ, แกแล็กซี่ต่างๆ, ระบบดวงดาวต่างๆ, และโลกต่างๆ ทั่วทั้งจักรวาลนี้

และในทางกลับกัน “จิตวิญญาณต้นธาตุ” (Oversoul) ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลายนี้ แต่ละดวง
ก็จะส่ง “ประกาย” (Spark) หรือ “ภาคย่อยของจิตวิญญาณ” (Soul Fragment)
ของแก่นแท้ของความเป็นตัวตนของพวกคุณเอง ออกมาอีกต่อหนึ่งด้วยเช่นเดียวกัน

ดังนั้น “พวกคุณ” ที่กำลังอยู่ในร่างกายเนื้อนี้ บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้ ในขณะนี้
ก็คือหนึ่งใน “ประกายแห่งจิตวิญญาณ” (Soul Spark) ที่ได้ยินยอมพร้อมใจแล้วว่า
จะลงมาเกิดและท่องไปในอวกาศที่ไม่รู้จัก เพื่อสร้างโลกต่างๆที่หลากหลายขึ้นมา
แล้วก็ เพื่อที่จะเข้าไปอาศัยอยู่ในโลกเหล่านั้น และมีประสบการณ์กับมัน กับสิ่งที่พวกคุณเอง
เป็นคนช่วยสร้างมันขึ้นมานั่นแหละ แล้วประสบการณ์ที่พิเศษเฉพาะของพวกคุณแต่ละคน
ก็จะกลายไปเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์รวมของจิตสำนึกในระดับจักรวาล
และในระดับ “จิตใจของเอกภพ” (Cosmic Mind) ต่อไป ในท้ายที่สุด


ร่างกายเนื้อของพวกคุณ เป็นแค่ภาชนะชั่วคราว ที่พวกคุณได้เลือกเอาไว้
เพื่อใช้บรรจุจิตวิญญาณของตัวเองเอาไว้ ในช่วงระยะเวลาสั้นๆ
ในขณะที่กำลังอยู่ในโลกแห่งวัตถุธาตุทางกายภาพนี้เท่านั้นเอง

“วิญญาณ” (Spirit) หรือ “จิตสำนึกอันศักดิ์สิทธิ์” (Divine Consciousness)
อาศัยอยู่ภายใน “จิตวิญญาณ” (Soul) ของพวกคุณเอง มันคือ “แก่นแท้แห่งชีวิต” (Essence of life)

ดังนั้น พวกคุณจึงมีสายสัมพันธ์แห่งชีวิต เชื่อมต่ออยู่กับพระผู้สร้างอย่างไม่มีวันขาดสาย อยู่ตลอดเวลา
(ไม่ว่าในอดีตที่ผ่านมาสายสัมพันธ์ที่ว่านั้นจะเรียวเล็กหรือว่าเลือนลางแค่ไหนก็ตามแต่)

จิตวิญญาณของพวกคุณ คือเหลี่ยมมุมหนึ่งที่มีความเป็นอมตะ
ของตัวตนที่กว้างใหญ่ไพศาลกว่าของพวกคุณเอง ที่ได้ท่องเที่ยวไปไกล ทั่วทั้งกาลเวลาและอวกาศแห่งนี้
เพื่อที่จะสั่งสมประสบการณ์และความตระหนักรู้เกี่ยวกับ “ตัวมันเอง” ให้มากขึ้นไปอีก

ภายในจิตวิญญาณของพวกคุณเอง จะมีบันทึกของประสบการณ์ทุกๆประสบการณ์
ของพวกคุณเก็บเอาไว้อยู่ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ตั้งแต่ยุคไหนสมัยไหน
และภพชาติไหนของพวกคุณเองก็ตาม

จิตวิญญาณของพวกคุณ จะมี “ภาษาแห่งแสงสว่าง” (Language of Light) บรรจุอยู่ภายในด้วย
ซึ่งก็คือบันทึกประวัติของแต่ละชาติภพตอนที่อยู่บนโลกที่ถูกบีบอัดเอาไว้นั่นเอง
แล้วก็ยังมีบันทึกที่เป็น “บัญชีแยกประเภท ด้านความสั่นสะเทือนของจิตวิญญาณ”
(Vibrational soul ledger) ที่จะบันทึกทุกสิ่งทุกอย่าง ที่จำเป็นจะต้องได้รับการทำให้สมดุล
และทำให้กลับคืนสู่ความสอดคล้องลงตัวใหม่อีกครั้งหนึ่งเอาไว้อีกด้วย

..........................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพมิคาเอล (AA Michael)
เรื่อง: การเดินทางของจิตวิญญาณ (The journey of the Soul)

ผ่านทางนาง Ronna Hernman
เมื่อเดือน ธันวาคม 2003

ที่มา:
DMC - Archangel Michael: The journey of the Soul

ตอนที่ 2:

แต่เมื่อใดก็ตาม ที่จิตวิญญาณได้เดินทางมาถึงจุดที่ไกลที่สุด บนเส้นทางแห่งการ “แบ่งแยกเราเขา” ของมันแล้ว
และเมื่อมันพร้อมที่จะเริ่มต้นเดินกลับไปสู่เส้นทางแห่งการ “กลับไปรวมตัวกันใหม่และผสานรวมเป็นหนึ่งเดียวกันใหม่”
อีกครั้งหนึ่งแล้ว จิตวิญญาณก็จะค่อยๆสั่งสมความไม่พึงพอใจอันศักดิ์สิทธิ์นี้เข้ามาอย่างช้าๆ
และจะค่อยๆส่งผ่านต่อเข้าไปในความตระหนักรู้ของ “จิตมนุษย์” (Human mind) อย่างช้าๆ
และอย่างมีความหวังว่า เมื่อใดที่มนุษย์ผู้นั้นเริ่มต้นกลับเข้ามาสู่ภายในของตัวเอง เพื่อควบคุม ego ของตัวเองได้แล้ว
มนุษย์ผู้นั้น ก็จะสามารถกลับไปเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณ, กับจิตวิญญาณต้นธาตุ
และกับเหลี่ยมมุมอันหลากหลายของตัวตนที่ยิ่งใหญ่กว่าของตัวเองได้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง

ในภพชาติก่อนๆ และในยุคสมัยก่อนๆหน้านี้ “การกลับมารวมตัวกันใหม่อีกครั้งหนึ่งของจิตวิญญาณและวิญญาณ”
(Reunion of the Soul and Spirit) นั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ “รู้ได้เฉพาะตน”
และเป็นเรื่องตัวใครตัวมัน อย่างแท้จริงเลยทีเดียว และก็ไม่ใช่เรื่องที่คนส่วนใหญ่จะสามารถทำได้ด้วย
มีเพียงคนจำนวนเล็กน้อยเท่านั้นที่สามารถทำได้

แต่ว่าความเป็นจริงนี้จะไม่เป็นจริงอีกต่อไปแล้ว
เพราะว่าตอนนี้ มันถึงเวลาแห่งการ “ตื่นรู้หมู่ครั้งใหญ่” (mass awakening) แล้ว
มันถึงเวลาแห่งการกลับมารวมตัวกันใหม่อีกครั้งหนึ่ง
ในระดับโลก, ในระดับกาแล็กซี่ และในระดับจักรวาลแล้ว
เพื่อเลื่อนระดับขึ้นไปสู่สภาวะอันสูงส่งของการมีจิตสำนึกของพระผู้สร้าง/พระวิญญาณ

เพราะฉะนั้นในตอนนี้ พวกคุณจึงมีศักยภาพที่จะสามารถเชื่อมต่อกับเหลี่ยมมุมอันหลากหลาย
ของบรรดาสมาชิกครอบครัวชาวจิตวิญญาณของตัวเอง (your Soul family),
ของตัวตนที่สูงส่งกว่าของตัวเอง (your Higher Self),
และของจิตวิญญาณต้นธาตุอันหลากหลายของตัวเอง (your many Oversouls)
และของรังสีแห่งพระเจ้าของตัวเอง (your God Ray) หรือ I AM Presence ของตัวเองได้แล้ว



(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ซึ่งในระดับเอกภพแล้ว ตอนนี้ “พระผู้สร้างสูงสุด” (the Supreme Creator)
กำลังส่งแสงทิพย์ของพระองค์เองแผ่รัศมีลงมายัง “ดวงอาทิตย์ใจกลางกาแล็กซี่”
(the Great Central Sun) ทั้งหลายอยู่ และแสงทิพย์แห่งรัศมีของพระองค์ที่ว่านี้
ก็กำลังถูกส่งต่อลงมายังดาวเคราะห์โลกใบนี้อยู่
ผ่านทางดวงอาทิตย์ของระบบสุริยะของพวกคุณ ในรูปแบบของ
“เปลวไฟแห่งชีวิตที่มีชีวิต” (Living Flame of Life)
ที่กำลังปะทุและพลั่งพลูออกมาครั้งใหญ่อยู่นี้

..........................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพมิคาเอล (AA Michael)
เรื่อง: การเดินทางของจิตวิญญาณ (The journey of the Soul)

ผ่านทางนาง Ronna Hernman
เมื่อเดือน ธันวาคม 2003

ที่มา:
DMC - Archangel Michael: The journey of the Soul

ตอนที่ 3:


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

“จิตวิญญาณ” (Soul) สามารถพรรณาได้ว่า มันคือ “อะตอมที่เป็นเมล็ดพันธุ์”
ของพลังงานแห่งชีวิตที่กระพริบเป็นจังหวะรูปแบบหนึ่ง (Seed Atom of pulsating life force energy)
ที่ดำรงอยู่ภายในบริเวณหัวใจของพวกคุณ
(ซึ่งภายในใจกลางของเมล็ดพันธุ์นี้ จะมีเซลของพระเจ้า
ที่มีรูปทรงเหมือนเพชร หลากหลายเหลี่ยมมุม ดำรงอยู่ภายใน ซึ่งตอนนี้ เซลของพระเจ้าที่ว่านี้
กำลังถูกกระตุ้นอยู่ และกำลังถูกซึมซาบด้วยแสงสว่างแห่งพระผู้สร้างมากขึ้นเรื่อยๆอยู่)

แต่ว่าจิตวิญญาณ ที่อยู่ในบริเวณหัวใจ ของผู้ที่ยังคงติดอยู่ในบ่วงของมายาการ แห่งมิติต่ำๆนี้
ก็อาจจะเป็นแค่ “ประกายแห่งแสงสว่าง” ประกายเล็กๆประกายหนึ่งเท่านั้นก็ได้
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อใดที่มันผลิบานและงอกงามขึ้นมาแล้ว และกลับคืนสู่ฤทธิ์และพลังอำนาจเต็มพิกัดของมันได้แล้ว
มันก็จะขยายตัวใหญ่ขึ้น แล้วกลายไปเป็น “ศูนย์กลางหัวใจแห่งโซลาร์” (Solar Heart Center) ไป
ซึ่งจะกินพื้นที่ครอบคลุมทั้ง โซลาร์เพล็กซัส (จักระที่ 3 บริเวณท้อง – ผู้แปล),
หัวใจ, ต่อมไทมัส (หัวใจ และ ต่อมไทมัส คือ พื้นที่ของจักระที่ 4 – ผู้แปล) และบริเวณลำคอ (จักระที่ 5 – ผู้แปล)

ซึ่งสิ่งนี้มักจะถูกเรียกว่า “เปลวไฟ 3 ชั้น” (The Three-Fold Flame) และหัวใจเอง
ก็จะถูกเรียกว่า “ที่ตั้งของจิตวิญญาณ” (Seat of the Soul)

จิตวิญญาณของพวกคุณ จะติดต่อสื่อสารกับพวกคุณ
ผ่านทางกายแห่งอารมณ์ (Emotional body)
และ กายแห่งจิตใจ (Mental body) ของพวกคุณเอง

โดยที่ถ้าติดต่อสื่อสารผ่านทางกายแห่งอารมณ์ ก็จะเกิดขึ้นที่ศูนย์กลางหัวใจของพวกคุณ
แต่ถ้าติดต่อสื่อสารผ่านทางกายแห่งจิตใจ ก็จะเกิดขึ้นที่ “ต่อมไพเนียล” (Pineal grand)
โดยการไปจุดประกาย กระเปาะเล็กๆทั้งหลาย ของภูมิปัญญาแห่งแสงสว่าง
ที่ถูกเก็บกักเอาไว้ภายในส่วนของสมองที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูงกว่า
ให้ทำงานขึ้นมา และเมื่อใดที่การติดต่อสื่อสารบรรลุผลสำเร็จแล้ว ร่างกายเนื้อของพวกคุณ
ก็จะเริ่มต้นได้รับผลตอบแทนกลับมา เป็นการมีสุขภาพที่ดีขึ้น และมีชีวิตชีวามากขึ้น
รวมถึงมีการเชื่อมต่ออย่างลึกซึ้งมากขึ้นกับ “กายธาตุละเอียด” (Body Elemental) ด้วย

(ปล. Body Elemental หรือชื่อภาษาไทยที่ผมตั้งขึ้นเอง เพื่อความเข้าใจและเพื่อใช้เรียก..ว่า
“กายธาตุละเอียด” นี้ คือวิญญาณธรรมชาติชนิดหนึ่ง หรือตัวตนอีกส่วนหนึ่งของเรา ที่อยู่กับเราตลอดเวลา
ภพชาติแล้วภพชาติเล่า แต่ไม่ใช่ตัวตนที่สูงส่งกว่าของเรา ทำหน้าที่เป็นผู้สร้าง
และคอยควบคุมดูแลความเป็นไปของกายทั้ง 4 ของเรา คือ กายเนื้อ, กายทิพย์, กายแห่งอารมณ์
และ กายแห่งจิตใจ ทั้งยังทำหน้าที่คอยเก็บบันทึกข้อมูลทุกๆความเป็นไปของเรา ในทุกๆภพชาติเอาไว้อีกด้วย

แต่เขาจะทำงานสอดคล้องกับระดับจิตสำนึกของเราด้วย ดังนั้น สุขภาวะของกายทั้ง 4 ของเรา
จะดีหรือเลวอย่างไรนั้น ก็ขึ้นอยู่กับระดับจิตสำนึกของเราเองเป็นหลัก แต่เมื่อใดที่ร่างกายเนื้อของเราตายลงไป
เขาก็จะใช้เวลาภายใน 3 วันเพื่อที่จะจากเราไป จากนั้นก็พักอยู่เฉยๆ จนกว่าเราจะมาเกิดบนโลกใหม่อีกครั้งหนึ่ง
เขาถึงจะมาอยู่กับเราใหม่ เพื่อทำหน้าที่เป็น “นายช่างผู้สร้างเรือนกายทั้งหลาย” ขึ้นให้กับเรา

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากลิงค์ข้างล่างนี้นะครับ – ผู้แปล)

The Elemental of your Body

RE-BUILDING OUR CHRIST AVATAR FORM


พวกเราเข้าใจความรู้สึกของพวกคุณนะ แต่พวกเราก็อยากจะบอกพวกคุณว่า
พวกคุณไม่สามารถที่จะกลายเป็น “จิตวิญญาณที่สูญหาย” (Lost Soul) ไปได้หรอกนะ
ถ้าคำว่า lose ที่ว่านี้ หมายถึงการสูญเสียความเชื่อมโยงกับพระผู้สร้างหละก็

จริงอยู่ที่พวกคุณอาจจะหลงทางได้
หรือสูญเสียแสงสว่างของพระผู้สร้างไปได้
หรือมีแสงสว่างของพระผู้สร้างลดลงไปได้
แต่จิตวิญญาณของพวกคุณ มีความเป็นอมตะ
และไม่สามารถที่จะทำให้สาบสูญ หรือ ถูกทำลายไปได้

ดังนั้น พวกคุณนั่นแหละคือผู้ที่ “ช่วยให้ตัวเองรอดพ้น” จากความเจ็บปวด, จากความทุกข์ทรมาน
และจากมายาการของการแยกขาดจากพระผู้สร้าง โดยการผสานรวมจิตวิญญาณของตัวเอง,
ตัวตนที่สูงส่งกว่าของตัวเอง (Higher Self หรือ Christ Self) และ รังสีแห่งพระเจ้า (God Ray)
ของตัวเองเข้าด้วยกันให้ได้ อย่างที่รูปธรรมชีวิตแห่งแสงสว่างผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย
ผู้ที่ได้เคยลงมาเกิดบนโลกใบนี้ ได้ทำให้เห็นเป็นตัวอย่างเอาไว้แล้ว
และได้ชี้ทางสว่างเอาไว้ให้มากมายแล้ว

ดังนั้น จงเลือกเดินตามทางสว่างเหล่านั้น สายใดสายหนึ่ง ที่เห็นว่าสอดคล้องกับความรู้สึกภายในของตัวเอง
แต่ว่ามันก็จะต้องเป็นทางที่สามารถทำให้จิตวิญญาณ/พระวิญญาณของตัวพวกคุณเอง
กลับไปรวมเข้ากับพระผู้สร้างได้ ผ่านทางเหลี่ยมมุมจำนวนมากมายมหาศาลของความเป็นตัวตนของพวกคุณเอง
ที่ดำรงอยู่ในมิติต่างๆจำนวนนับไม่ถ้วน ทั่วทั้ง “สรรพสิ่งทั้งปวง” (Creation) นี้ด้วย

......................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพมิคาเอล (AA Michael)
เรื่อง: การเดินทางของจิตวิญญาณ (The journey of the Soul)

ผ่านทางนาง Ronna Hernman
เมื่อเดือน ธันวาคม 2003

ที่มา:
DMC - Archangel Michael: The journey of the Soul

ตอนที่ 4:


เมื่อเร็วๆนี้ พวกเราได้พูดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับจิตวิญญาณ (Soul) ของพวกคุณ
เมื่อตอนที่พวกคุณได้ตายจากร่างกายเนื้อนี้ไปแล้วแล้ว และพวกเราก็ได้พูดถึง
สิ่งที่จะเกิดขึ้นในระนาบที่สูงกว่าทั้งหลายไปแล้วด้วย

(ดูรายละเอียดในข้อความสื่อสารรหัส LM-9-2003 ที่ชื่อตอนว่า
“Which Do You Choose, A God of Wrath or a God of Love?”)

ดังนั้น..คราวนี้ พวกเราจึงจะพูดถึง เฉพาะเรื่องของจิตวิญญาณที่ได้บรรลุถึง
ความสอดคล้องสมดุลขั้นใดขั้นหนึ่งแล้วเท่านั้น และจะพูดถึงเฉพาะผู้ที่ได้เริ่มต้นกลับไปเชื่อมต่อ
กับเหลี่ยมมุมอันหลากหลายของจิตวิญญาณของตัวเองและของจิตวิญญาณต้นธาตุของตัวเองแล้วเท่านั้น

ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่แบบนี้
พวกคุณไม่จำเป็นที่จะต้องตายจากร่างกายเนื้อของพวกคุณไปก่อน
ในระหว่างที่อยู่ในกระบวนการนี้ก็ได้

และตอนนี้ ก็มีพวกคุณหลายคนแล้ว ที่กำลังมุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็ว
บนเส้นทางแห่งการผสานรวมกันนี้อยู่

ก่อนหน้านี้พวกเราได้เคยให้ความหมายของคำว่า “The Golden Promise” ไปแล้ว
ซึ่งคำสัญญาที่ว่านี้ ก็คือคำสัญญาที่จะให้พวกคุณมีความสามารถในการดึงดูดเอาแก่นแท้ของรังสีแห่งพระเจ้า
หรือ I AM Present ทั้งหมด เข้าไปสู่ตัวพวกคุณได้ เท่าที่พวกคุณจะสามารถรองรับเอาไว้ได้

แต่อย่างไรก็ตาม พวกคุณก็จะต้องผสานรวมเอาสิ่งที่ดึงดูดเข้ามาทั้งหมดนี้ เข้าไว้ในตัวของพวกคุณเอง
และพวกคุณก็จะต้องนำเอามันออกมาใช้เพื่อประโยชน์สูงสุดเท่านั้น

พวกคุณมีศักยภาพที่จะกลายเป็น “คุรุผู้รู้แจ้ง ที่ยังมีชีวิตอยู่
ที่ยังหายใจอยู่ ที่ยังมีเนื้อหนังอยู่ และที่สามารถทำหน้าที่ได้อย่างเต็มที่
ในระดับระบบสุริยะ” นี่แหละคือปาฏิหาริย์อย่างหนึ่งของช่วงเวลานี้หละ

พวกเราอยากจะให้พวกคุณเข้าใจไว้ด้วยว่า บนเส้นทางแห่งการเลื่อนระดับขึ้นนี้
มันมีเกลียวแห่งการเลื่อนระดับขึ้นอยู่หลายชั้นด้วยกัน มันไม่มีจุดสิ้นสุด
เพราะว่าสรรพสิ่งทั้งปวง จะมีการเพิ่มขึ้น, ลดลง และวิวัฒน์ไปอยู่ตลอดเวลา

พวกเรายังอยากจะให้พวกคุณเข้าใจไว้อีกด้วยว่า มีจิตวิญญาณผู้อันเป็นที่รักมากมาย
ที่กำลังเดินอยู่บนโลกใบนี้ในขณะนี้ ที่กำลังเลื่อนระดับขึ้นไป
จนใกล้จะถึงระดับของกาแล็กซี่แล้ว แต่อย่างไรก็ตาม
มันก็จะทำให้พวกเขาต้องจากโลกแห่งวัตถุธาตุทางกายภาพนี้ไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เพื่อไปอยู่ในที่ๆมีระดับการสั่นสะเทือนที่สูงขึ้น ที่ซึ่งจะไม่สามารถมองเห็นพวกเขาได้
หรือที่ซึ่งพวกเขาไม่สามารถที่จะมีร่างกายเนื้อได้

พวกเขาได้เลือกที่จะเลื่อนระดับขึ้นล่วงหน้าไปก่อน เพื่อที่จะอนุเคราะห์ และให้ความช่วยเหลือผู้อื่น
บนเส้นทางแห่งการรู้แจ้งต่อไป มันคือพันธะสัญญาอย่างหนึ่ง ที่พวกเขาได้ทำเอาไว้
ก่อนที่จะมาถือกำเนิดในภพชาตินี้ และพวกเขาก็ได้อุทิศชีวิตให้กับภาระหน้าที่ของพวกเขาอย่างเต็มที่แล้ว
และพวกเขาก็ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะทำภาระกิจของตัวเองให้เสร็จสิ้นสมบูรณ์

พวกเรารู้ว่าพวกคุณเป็นใครบ้าง และพวกเราก็ยกย่องพวกคุณ
สำหรับการอุทิศตน และการอนุเคราะห์ครั้งยิ่งใหญ่นี้ของพวกคุณ

....................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพมิคาเอล (AA Michael)
เรื่อง: การเดินทางของจิตวิญญาณ (The journey of the Soul)

ผ่านทางนาง Ronna Hernman
เมื่อเดือน ธันวาคม 2003

ที่มา:
DMC - Archangel Michael: The journey of the Soul

ตอนที่ 5:


พวกเราเคยบอกพวกคุณไปแล้วว่า “พวกคุณคือลมหายใจเข้าของพระผู้สร้าง”
ช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่พิเศษสุด ไม่เคยมีช่วงเวลาไหนเป็นแบบนี้มาก่อน
มันเป็นช่วงเวลาที่พวกคุณมีศักยภาพ ที่จะแก้ไขกรรมในอดีตทั้งหมดของพวกคุณ
ให้หมดสิ้นไปได้

มันเป็นช่วงเวลาที่พวกคุณมีศักยภาพ ที่จะเข้าไปสู่ความสอดคล้องกับ
“ตัวตนที่กว้างใหญ่ไพศาลกว่า” (Vaster Being) ของพวกคุณเองได้
และมันก็เป็นช่วงเวลาที่พวกคุณมีศักยภาพ ที่จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง
ของแผนการสำหรับการขยายตัวของจักรวาลแห่งนี้
ของ Father/Mother God ของพวกเราได้ด้วย

พวกคุณยังไม่พร้อมใช่ไหม ที่จะละทิ้งกฏเกณฑ์ข้อบังคับเก่าๆทั้งหมด, ความเชื่อเก่าๆทั้งหมด,
และข้อจำกัดเก่าๆทั้งหมดไป ที่พวกมันได้ฉุดรั้งพวกคุณเอาไว้ในปลักเลนของความเจ็บปวด, ความขาดแคลน
และความทุกข์ทรมาน ไม่ให้หลุดออกไปได้?

พวกคุณจะยอมเปิดจิต (mind) และ หัวใจ (heart) ของตัวเองขึ้น
เพื่อยอมรับภูมิปัญญาที่สูงส่งกว่าของจิตวิญญาณ (Soul) และของวิญญาณ (Spirit) ของตัวพวกคุณเองไหม?


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

อีเธอร์ (the Ether) หรือ สนามพลังแห่งจิตสำนึก ที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูงกว่าทั้งหลาย
ล้วนเต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ อันมากมายมหาศาล
ที่กำลังรอคอยให้พวกคุณ มาปั้นแต่งพวกมัน ให้เป็นไปตามความปราถนา
และตามความฝันอันยิ่งใหญ่ที่สุดของพวกคุณเองอยู่ เท่านั้นเอง

.................................

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพมิคาเอล (AA Michael)
เรื่อง: การเดินทางของจิตวิญญาณ (The journey of the Soul)

ผ่านทางนาง Ronna Hernman
เมื่อเดือน ธันวาคม 2003

ที่มา:
DMC - Archangel Michael: The journey of the Soul

ตอนที่ 6:


ก่อนหน้านี้ พวกเราได้เคยมอบของขวัญแห่งการเรียนรู้ให้พวกคุณไปแล้ว
เกี่ยวกับวิธีการสร้างปิระมิดแห่งแสงสว่าง หรือปิระมิดแห่งพลังอำนาจของพวกคุณเอง
ขึ้นมาในมิติที่ 5 (your Pyramid of Light/Power in the Fifth Dimension)


(ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

ซึ่งตอนนี้ มันมีปิระมิดแห่งแสงสว่างอันอลังการอันหนึ่ง ถูกสร้างขึ้นมาอย่างมั่นคงถาวรแล้ว
ในส่วนบนของมิติที่ 5 ซึ่งภายในปิระมิดอันนั้น ได้บรรจุภาพโฮโลแกรมของลูกโลกเอาไว้
และภายในนั้น ก็จะมีเก้าอี้ที่ทำจากคริสตัลวางอยู่ เพื่อให้พวกคุณแต่ละคนเอาไว้ใช้นั่ง
เมื่อพวกคุณเข้าไปในนั้นในช่วงเวลาที่เงียบสงบของพวกคุณ เพื่อแผ่ความรักแบบไม่มีเงื่อนไข
ให้กับลูกโลกที่อยู่ในนั้น และให้แก่มนุษย์โลกทุกๆคน

และพวกเราก็ยังได้สอนพวกคุณไปแล้วว่า จะสามารถสร้างปิระมิดทำงาน และปิระมิดขนาดเล็ก
สำหรับใช้เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ส่วนตัวของพวกคุณเองได้อย่างไร

และพวกเราก็ยังได้ช่วยให้พวกคุณสร้างปิระมิดกลุ่มขึ้นมาหลายอันแล้วด้วย ในงานสัมนาหลายๆครั้งที่ผ่านมา
ที่ผู้รับสาส์นอันเป็นที่รักของพวกเราเป็นคนจัดขึ้นทั่วโลก

และขอให้เชื่อเถอะว่า ปิระมิดเหล่านี้ คือแหล่งกำเนิดพลังงานที่กระพริบเป็นจังหวะ,
ที่ทรงฤทธิ์และพลังอำนาจมาก ที่พวกคุณจะสามารถใช้
เพื่อเข้าถึงพลังชีวิตมูลฐานของเอกภพอันบริสุทธิ์
ซึ่งเป็นธาตุแท้ของสรรพสิ่งทั้งปวงได้จริงๆ

มาคราวนี้ พวกเราอยากจะช่วยพวกคุณสร้าง และเข้าถึงปิระมิดแห่งแสงสว่างอีกอันหนึ่ง
ซึ่งปิระมิดอันนี้ จะเป็นปิระมิดอเนกประสงค์ ที่มีความสำคัญมากที่สุด

มันจะไปดึงดูดเอาพลังงานของพระผู้สร้าง ที่อยู่ในระดับสูงที่สุด เท่าที่พวกคุณ
จะสามารถเข้าถึงได้และผสานรวมเอาไว้ได้ในขณะนี้ มาให้พวกคุณ

ดังนั้น หลังจากที่พวกคุณได้อ่านวิธีการต่อไปนี้อย่างละเอียดหลายๆครั้งจนจดจำได้ขึ้นใจดีแล้ว
พวกเราขอแนะนำว่า ให้พวกคุณหายใจเข้าออกลึกๆ จนกว่าจะสามารถเข้าถึงสภาวะที่
ความตระหนักรู้ของพวกคุณอยู่ในระดับอัลฟ่าได้ แล้วพวกเราก็จะนำพาพวกคุณไปสู่การเดินทาง
เพื่อกลับไปสู่การรวมตัวกันใหม่อีกครั้งหนึ่งกับพี่น้องชาวเอกภพของพวกคุณ
และกับเหลี่ยมมุมอันหลากหลายของความเป็นตัวตนของพวกคุณเอง

...............

 

ข้อความสื่อสารทางโทรจิตจากมหาเทพมิคาเอล (AA Michael)
เรื่อง: การเดินทางของจิตวิญญาณ (The journey of the Soul)

ผ่านทางนาง Ronna Hernman
เมื่อเดือน ธันวาคม 2003

ที่มา:
DMC - Archangel Michael: The journey of the Soul

ตอนที่ 7: จบครับ


กรุณาหลับตาลง แล้วจดจ่อความตระหนักรู้มาอยู่ที่วิหารแห่งหัวใจของตัวพวกคุณเอง ที่ๆซึ่งมีเซลของพระเจ้าบรรจุอยู่
หายใจเข้าลึกๆ แล้วจินตนาการว่ามีประตูสีทองบานหนึ่งกำลังเปิดออกมา มันคือประตูสู่ความตระหนักรู้ของมิติภายใน

จากนั้น ก็ให้จินตนาการไปว่า ตัวเองอยู่ในเครื่องแต่งกายที่เป็นแสงสว่างแวววาวระยิบระยับ
ซึ่งก็คือแก่นแท้ที่สว่างสุกใสของตัวตนที่แท้จริงของพวกคุณเองนั่นเอง

จากนั้น ไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดก็ตาม ให้พวกคุณกำหนดรู้ว่า และทำความรู้สึกว่า ตัวเองกำลังลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ
และเข้าไปสู่มิติต่างๆมากมาย ที่สรรพสิ่งทั้งปวงมีความละเอียดประณีตมากขึ้นๆ

จากนั้น ให้พวกคุณหยุดอยู่ ณ.ที่ใดที่หนึ่งของมิติที่ 5 ซึ่งเป็นระดับชั้นที่สมบูรณ์แบบสำหรับพวกคุณแล้วในขณะนี้
จากนั้น ก็ให้จินตนาการไปว่า ข้างหน้าของพวกคุณนั้น มีปิระมิดแห่งแสงสว่างที่กำลังแผ่รัศมีเรืองรองออกมาเป็นจังหวะๆอยู่
จากนั้นก็ให้พวกคุณตรงไปที่ประตู แล้วก้าวเข้าไปข้างในปิระมิดนั้น

ภายในปิระมิดนี้ มีเก้าอี้ที่ทำจากคริสตัลอยู่หลายตัว วางไว้รอบๆแท่นที่ถูกยกสูงขึ้นมาจากพื้นแท่นหนึ่ง
ซึ่งจำนวนเก้าอี้นี้ สามารถเพิ่มขึ้นอีกได้ตามความจำเป็น แต่ตอนนี้ ให้มันมีจำนวนพอดีกับจำนวนคน
ที่จะมาร่วมกับพวกคุณซะก่อน

ตรงใกล้ๆกึ่งกลางของแท่นที่ว่านี้ จะมี “น้ำพุของเปลวไฟสีม่วงแห่งการเปลี่ยนรูปแบบ” พวยพุ่งขึ้นมาอยู่จุดหนึ่ง
และตรงกลางของแท่นนั้น ก็จะมีเปลวเพลิงสีขาวที่เรืองแสงระยิบระยับอยู่
ซึ่งมันมีแหล่งกำเนิดมาจากแท่งคริสตัลขนาดใหญ่ ที่แขวนอยู่บนจุดยอดสุดภายในปิระมิด
เปลวเพลิงสีขาวดังกล่าวนี้ ถูกส่งมาอย่างต่อเนื่องจากแก่นแท้อันบริสุทธิ์ของพระผู้สร้างสูงสุดอีกต่อหนึ่ง
และมันก็คือของขวัญชิ้นหนึ่ง ที่เตรียมเอาไว้ให้กับใครก็ตามที่มีความพร้อมแล้ว
และพยายามที่จะมีส่วนในของขวัญอันศักดิ์สิทธิ์ชิ้นนี้

อันดับแรก พวกเราอยากจะขอให้พวกคุณใช้เวลาสักครู่ เพื่อนึกถึงสิ่งที่พวกคุณจำเป็นจะต้องปลดปล่อยมันออกไปมากที่สุดก่อน
เพื่อทำให้กระบวนการกลับคืนสู่ความสอดคล้องสมดุลภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณเอง ดำเนินต่อไปได้

ให้เลือกเรื่องที่พวกคุณอยากจะจัดการกับมันมากที่สุดในเวลานี้ มาเพียง 1 หรือ 2 เรื่องเท่านั้น หรือไม่เกิน 3 เรื่อง
จากนั้น ก็จินตนาการไปว่าพวกมันปรากฎรูปร่างเชิงสัญลักษณ์ขึ้น บนฝ่ามือของพวกคุณ
(ให้พลังงานเหล่านี้ หรือ กระแสความคิดเหล่านี้ ปรากฎรูปร่างอะไรก็ได้ขึ้นมาตามที่พวกมันต้องการ)

จากนั้นก็ให้จินตนาการว่าตัวเองลุกขึ้นยืนแล้วก้าวขึ้นไปยืนอยู่บนแท่นอันนั้น ตรงตำแหน่งที่มี
“เปลวไฟสีม่วงแห่งการเปลี่ยนรูปแบบ” (Violet Fire of Transformation) พวยพุ่งขึ้นมาอยู่

จากนั้นก็ให้พูดกับตัวเองว่า “ฉันขออวยพรให้แก และ ฉันขอปลดปล่อยแกไป
เพื่อให้แกเปลี่ยนรูปแบบไปเป็นสิ่งที่มีสถานะสูงส่งกว่า”

จงเป็นไปตามนั้น และมันก็เป็นเช่นนั้น!

คราวนี้ ให้กระเถิบไปยืนอยู่ตรงกลางแท่น ตรงตำแหน่งที่มี “เปลวเพลิงแห่งพระผู้สร้าง” (Creator Flame) พวยพุ่งลงมา
แล้วให้ทำความรู้สึกว่า ตัวเองกำลังถูกเอิบอาบไปด้วยแก่นแห่งความรักอันบริสุทธิ์ของสรรพสิ่งทั้งปวง
ซึ่งมาจากหัวใจของ All That Is อยู่

จงอย่าลังเลสงสัย แล้วพวกคุณจะได้รับพลังชีวิต/ความรัก/แสงสว่าง ในปริมาณที่เหมาะเจาะ
เพื่อช่วยให้พวกคุณก้าวต่อไปบนเส้นทางของพวกคุณด้วยความสะดวกสบายและนุ่มนวลได้

จงทำความรู้สึกว่า ความรักที่หอมหวานที่สุดเท่าที่พวกคุณเคยรู้จักมา กำลังซึมซาบเข้าไปในตัวพวกคุณอยู่
ซึมซาบลึกลงไปจนถึงแก่นแท้ของความเป็นตัวตนของพวกคุณเองเลยทีเดียว

จากนั้น ก็ให้พูดกับตัวเองว่า “ตอนนี้ ฉันพร้อมแล้วที่จะรับแสงสว่างจากพระผู้สร้าง
และฉันก็จะรับให้มากที่สุดเท่าที่ฉันจะสามารถรองรับเอาไว้ได้
ฉันขอยืนยันว่า ฉันจะใช้ของขวัญชิ้นนี้ เพื่อคุณงามความดีอันสูงสุดของตัวฉันเอง และของทุกๆคน”

จงเป็นไปตามนั้น และมันก็เป็นเช่นนั้น!

จากนั้น ให้ก้าวออกมาจากเปลวไฟแห่งพระวิญญาณอันนั้น แล้วนั่งลงบนเก้าอี้คริสตัลตัวใดตัวหนึ่ง
แล้วจากนั้นก็ให้ค่อยๆหายใจเข้าช้าๆเอาลมหายใจอันละเอียดประณีตของพระวิญญาณเข้าไป
แล้วก็หายใจออกช้าๆเอาความรักและแสงสว่างจากหัวใจของพวกคุณเองออกมา

ให้ทำเช่นนี้หลายๆครั้ง

แล้วจากนั้น ก็ให้นั่งอยู่เงียบๆเฉยๆต่ออีกสักครู่ เพื่อปล่อยให้ของขวัญชิ้นนั้นผสานรวมเข้ากับ “คุณคนใหม่” ได้

จงรู้ไว้ว่า ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ เราก็อยู่กับพวกคุณด้วย จงเรียกหาเราแล้วเราจะมาร่วมกับพวกคุณ
พวกคุณจะพูดกับเราในฐานะเพื่อนเก่าแก่คนหนึ่งก็ได้ แล้วเราจะตอบคำถามพวกคุณ

พวกคุณไม่จำเป็นจะต้องใช้ร่างสื่อ-ร่างทรงใดๆเลย เพราะว่าพวกคุณมีความเชื่อมต่อโดยตรง
อยู่กับทุกๆรูปธรรมชีวิตที่อยู่ในมิติสูงๆอยู่แล้ว

แล้วพวกคุณอยากจะให้รูปธรรมชีวิตท่านไหนมาร่วมกับพวกคุณ ในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้หละ?

ถ้าเช่นนั้นก็จงเรียกหาพวกเขา แล้วพวกเขาก็จะมานั่งอยู่กับพวกคุณ

ในสถานที่แห่งการกลับมารวมตัวกันใหม่นี้ พวกคุณอาจจะเรียกหาสมาชิกครอบครัวชาวจิตวิญญาณของพวกคุณเอง
(your soul family) ให้มาร่วมด้วยก็ได้ และถ้ามีโอกาส พวกคุณอาจจะเรียกหา “จิตวิญญาณต้นธาตุ”
(Oversoul) ของพวกคุณเอง รวมถึง “เหลี่ยมมุม” (facet) อื่นๆ ของความเป็นตัวตนของพวกคุณเอง
ให้มาร่วมกับพวกคุณ ณ.ที่แห่งนี้ด้วยก็ได้

เมื่อพวกคุณได้เรียนรู้ที่จะปลดปล่อยข้อบกพร่องของตัวเองออกไปในเปลวไฟสีม่วงมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
พวกคุณก็จะเปิดทางให้แสงสว่างแห่งพระผู้สร้างและเหลี่ยมมุมอื่นๆของความเป็นตัวตนของพวกคุณเอง
สามารถเข้ามาผสานรวมกับพวกคุณเองได้มากขึ้นด้วย

จากนั้นก็ให้ค่อยๆนำความตระหนักรู้กลับมาไว้ที่ศูนย์กลางหัวใจของพวกคุณเอง
เพื่อผสานรวมเอาของขวัญอันทรงพลังแห่งพระวิญญาณนี้เข้าไว้

จากนั้นก็ให้หายใจเข้าออกยาวๆ เพื่อนำพาตัวเองกลับมาสู่สภาวะของการมีสติสัมปชัญญะแบบเต็มตื่น


จงเข้าไปในสถานที่แห่งนี้ (ปิระมิดแห่งแสงสว่าง – ผู้แปล) บ่อยๆ ที่รักทั้งหลาย
เพราะว่ายิ่งพวกคุณดึงเอาพลังงานออกมาใช้มากเท่าไหร่
พวกคุณก็จะยิ่งหลงเสน่ห์ปิระมิดแห่งแสงสว่างของตัวเองอันนี้มากขึ้นเท่านั้น
และมันก็จะยิ่งกลายเป็นจริงมากขึ้นเท่านั้นด้วย

ในแต่ละครั้งที่พวกคุณไปเยือนสถานที่แห่งนี้ พวกคุณก็จะนำเอาพลังงานที่ละเอียดอ่อนประณีตนี้
กลับมาสู่โลกแห่งวัตถุธาตุทางกายภาพด้วย มากขึ้นเรื่อยๆทุกครั้ง
และนั่นก็เท่ากับว่า พวกคุณกำลังสร้าง “เสาหลักแห่งการเลื่อนระดับขึ้น” (Ascension column)
ขึ้นในที่ๆพวกคุณอาศัยอยู่ และด้วยความพยายามของพวกคุณ ความสั่นสะเทือนแห่งความรักและแสงสว่าง
ก็จะแผ่กระจายออกมารอบๆตัวพวกคุณมากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ

พวกคุณแต่ละคนสามารถที่จะมีบทบาทสำคัญในการให้ความช่วยเหลือเพื่อนบ้านของพวกคุณ,
เมืองของพวกคุณ และประเทศของพวกคุณได้
เพราะว่าพวกคุณมีพลังอำนาจมากมายเกินกว่าที่พวกคุณคิดซะอีก

จงหยุดเดี๋ยวนี้ แล้วทำความรู้สึกถึงความสั่นสะเทือนและเสียงฮัมเบาๆของ
“บทเพลงแห่งชีวิต” (Soul song) ของตัวพวกคุณเอง ที่แผ่ไปทั่วร่างกายของพวกคุณ
เพราะว่าพวกคุณกำลังปรับจูนตัวเองให้เข้ากับวงซีมโฟนี่ของทรงกลมแห่งแสงสว่างอยู่
(Symphony of the Spheres of Light)

ยินดีต้อนรับสู่โลกของพวกเรา ที่รักทั้งหลาย
จงมา และเดินไปข้างหน้าด้วยกัน
พวกคุณเป็นที่รักมากมายเหลือคณานับ

I AM Archangel Michael.


Transmitted throuth Ronna Herman

© 2003 Ronna Herman, Star Quest All Rights Reserved
Phone/Fax: 775-856-3654 • ronnastar@earthlink.net
* 6005 Clear Creek Drive • Reno, NV 89502

…………………………..

 

บทความกระทู้นี้ยอดเยี่ยมมาก ขอบคุณมากค่ะ คุณ Chayutt

 

โดยส่วนตัวเชื่อเนื่องจากมีประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาคำอธิบายได้ เป็นเรื่องที่เหนือจินตนาการ ไม่คิดว่าเราจะพบเจอ
ปัจจุบันก็ยังไม่ได้เล่าให้ใครฟังเลยค่ะ ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันกันนะคะ

 

ขอบคุณ พี่ชยุตมากๆครับ กับข้อความเนื้อหาบทความที่มีประโยชน์จริงๆ

 

ขอบคุณท่านผู้ถ่ายทอดความรู้ และท่านผู้แปลทุกท่านครับ
ขออาราธนาคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก
โปรดช่วยคุ้มครองทุกท่าน ให้รอดพ้นจากภัยพิบัติทั้งปวงด้วยเทอญ.

 

บทความแปลอันนี้มีประโยชน์และได้ความรู้มากเลยค่ะ แอบได้ลองทำตามเลยด้วย

ขอขอบคุณและขอเป็นกำลังใจให้กับพี่ชยุตต์และทีมงานผู้แปลทุกท่านค่ะ (k)(k)

 

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของกระทู้และทีมงานเป็นอย่างยิ่งครับ

 

อัพหน่อยครับ เฝื่อมีใครสนใจจะได้อ่านในช่วงนี้

 

save เอาไว้อ่านหน่อย
ตอนนี้ตามไม่ค่อยทัน
ขอบคุณผู้แปลค่ะ
;aa6;aa13

 

ขออนุญาตดันกระทู้ขึ้นมาหน่อยนะครับ
เพราะว่ากำลังมีคนตามหาอยู่

.....................................