ดาวมฤตยู จะสร้าง "ตัวตน" ขึ้นมาจากความเชื่อของคนมากมาย

ผมไม่ได้สื่อสารนะ อันนี้เขียนจาก
ความเข้าใจของตนเอง จากการได้
รับสื่อสารบ่อยๆ

 

ดาวมฤตยู ไม่มีตัวตนมาก่อน (เป็นอรูปเหมือนเมฆหมอก)
แต่เขาจะสร้างตัวตน มาจาก "ความเชื่อของคนจำนวนมาก"
เช่น สร้างเรื่องขึ้นมาว่า "มีใครสักคน" ที่ยอดเยี่ยม เก่งมากๆ
จะมาเร็วๆ นี้ ให้คนเชื่อกันมากๆ แล้วพลังความเชื่อว่ามีตัวตน
นั้นอยู่จริง นี่แหละ จะก่อรูปร่างเป็นตัวตนขึ้น ก็คือ ดาวมฤตยู
เขาจะนำพาซึ่ง "ภัยหายนะ" มากมาย หลายประการ ....


อย่าไปส่งพลังความเชื่อให้ตัวตนเช่นนั้น

 

ตัวตน "ศรีอาร์ฯ" ตัวตน "เจ้าจักรพรรดิ"
ตัวตน "ลูน่า" ตัวตน อะไรก็ช่าง ทั้งนั้น
เขาจะสร้างเรื่องขึ้นมา ดลจิตดลใจให้มี
คนมาเขียนเรื่องราว ให้คนมาเชื่อเยอะๆ
เชื่อแล้วไม่ได้ปัญญา ไม่เกิดความสว่าง
ไสวอะไรขึ้นมา มีแต่ "ความไม่รู้" ทั้งนั้น
เพราะไม่รู้ เพราะพิสูจน์ไม่ได้ เลยเชื่อ นี่
ละ พลังจิตภาคลบ (อวิชชา) ที่จะก่อตัว
เป็นตัวตนที่แท้จริงของเขา คือ "มฤตยู"


เขาคือ ผู้นำมาซึ่งภัยพิบัติทั้งปวง อย่าไป
ส่งพลังจิตให้เขา อย่าไปส่งพลังแห่งความ
เชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดปัญญาอะไร เช่นนั้นเลย
มันมีแต่พลังอวิชชาเท่านั้น เขาใกล้จะเกิด
ขึ้นแล้ว เพราะพลังจิตของพวกเราส่งให้ !

 

ถ้าเชื่อแล้วได้ปัญญา สว่างไสวขึ้น ก็ควรเชื่อ
แต่ถ้าเชื่อแล้ว มันก็ไม่รู้อยู่ดีว่าจริงหรือเปล่า
ใช่ไหม? ทำให้ชีวิตเราสว่างไสวขึ้นไหม? มี
ปัญญาเข้าใจอะไรขึ้นได้ไหม? ยังคงเป็นแค่
"ความเชื่อที่ไม่อาจพิสูจน์ได้" อยู่ดี หรือแม้
ว่าจะพิสูจน์ได้ แต่ถ้ามันนำไปสู่ความมืดมน
ก็อย่าไปเชื่อมัน


ดาวมฤตยู อนาคตที่มืดมน กำลังมีอำนาจ
มากขึ้นทุกขณะ และเขาจะนำภัยหายนะมา

 

ความเชื่อที่นำไปสู่ "ความมืดมน"

เช่น ความเชื่อที่ไม่อาจพิสูจน์ได้
ความเชื่อที่นำไปสู่ความหม่นหมอง
ความเชื่อที่นำไปสู่ความไม่รู้ ไม่เกิดปัญญา


ฯลฯ


ความเชื่อที่นำไปสู่ "ความสว่างไสว"


เช่น ความเชื่อที่พิสูจน์ได้จริง ไม่วนอยู่กับความไม่รู้
ความเชื่อที่นำมาซึ่งปัญญา เชื่อแล้วทำให้เกิดปัญญา
ความเชื่อที่นำมาซึ่งความหลุดพ้นทุกข์ เชื่อแล้วพ้นทุกข์


คุณจะเลือก "ความเชื่อ" แบบไหน?

 

อิฉันก็คิดแบบนี้ล่ะค่ะ ยิ่งช่วงนี้ ยิ่งต้องระวัง ฝ่ายมาร ฝ่ายมืด ฝ่ายขาว ฝ่ายแสงสว่าง ต่างก็ไล่บี้กันอย่างมันส์ในอารมณ์ น่ากลัวจริงๆ.(มาแข่งกันส่งพลังบวกให้เยอะๆนะคะ เพื่อแม่โลกของเรา)

 

ปีนี้ ดาวมฤตยูจะมีอำนาจมาก


คนที่ใช้ "พลังความเชื่อด้านมืด"
จะมีอิทธิพลมาก คนที่ใช้พลังความ
เชื่อด้านสว่าง จะตกยาก ไม่อาจทำ
อะไรได้มากนัก และจะนำไปสู่ภัยพิบัติ
เพราะความเชื่อที่นำไปสู่ความมืดมนนั้น

 

ปีนี้เป็นปีของเขา
คนมากมายจะเชื่อเขา
เขามีอำนาจมากเหนือใจคน


กำลังของเรา ยังต้านทานเขาไม่ได้เลย
(ลองดูกระทู้บางกระทู้นะ คนเชื่อเยอะมากๆ)

 

เช่น..กระทู้ไหนบ้างคะ? (จะได้ไม่เข้าไป)..

 

ส่วนตัวดิฉันเอง ยิ่งต้านไม่ไหวเข้าไปใหญ่. (ตอนนี้เน้นบทสวดไล่มารอย่างเดียวค่ะ พอไหวมั้ยคะ แบบนี้?)

 

พูดเจาะจงมากไป จะกลายเป็นเรื่อง
เพราะทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเชื่ออะไรก็ได้
ทั้งนั้น เราทำได้เท่านี้ครับ


ยังไม่ถึงเวลาปะทะ เขายังมีกำลังมากกว่าเรา

 

สำคัญที่ใจ ถ้าใจสว่างไสว
ร้องเพลงก็ยังใช้ได้เลย ...

 

==============================>

yimm

 

แล้วเมื่อไรเราจะมีกำลังมากกว่าเขาบ้างล่ะคะ? แปลกนะ ทำไมเราเอาชนะมารยากจัง พวกเขาประกอบด้วยอะไรบ้าง?

 

ที่ผมพูดคือระดับ "จิตวิญญาณ" ครับ
ไม่ใช่วัตถุ วัตถุเป็นสิ่งที่อยู่ในมิติที่ต่ำมาก
ผมไม่ได้พูดถึงเรื่องนั้น

 

ต้องพ้นปีนี้ไปก่อน ปีนี้เป็นปีของเขา
เขาประกอบขึ้นมาจากพลังจิตของคน
จำนวนมากๆ ที่เชื่อในสิ่งที่ไม่เกิดปัญญา
ความเชื่อที่นำไปสู่ กิเลส, อวิชชา, อะไร
นี่คือ "เครื่องหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณของเขา"


เดิมเขาเป็นเหมือนพลังงานไร้รูป แต่เขากำลังจะ
ก่อตัวเป็นรูปร่างมีตัวตนเป็นจิตวิญญาณที่เป็นรูปธรรม
ในอีกไม่ช้านี้

 

เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณมากนะคะ สำหรับข้อมูล โชคดี..บาย

 

เคยได้ยินคำว่า "ศรัทธาใหม่" ไหม?
ทำไม มันต้องมีศรัทธาใหม่? ความ
เชื่อใหม่ เพราะมันมีศรัทธาเก่าที่ไม่
ใช่ ที่มันไม่ควรเชื่อ เกิดขึ้นมาก่อน
ยังไงละ และมันก็คือ เขานี่ละ ...

 

อีกนิดนึง...แสดงว่า เราต้องฝึกคิดบวก คิดดี ทำดี เยอะๆใช่มั้ยคะ? มารจะได้อ่อนกำลังลง น่าจะเป็นแบบนี้นะ .

 

ไม่ใช่การคิดนะ


เป็นการมองโลก ซึ่งมันมีสองด้านอยู่แล้ว
เราเข้าใจว่ามันมีทั้งด้านดีและร้าย แต่เรา
จะไม่เอาตัวไปจมปลักกับด้านร้าย


มองให้ออก จะพลิกมุมมอง พลิกสถานการณ์ได้
มองสิ่งที่เป็นจริงอยู่แล้ว ในด้านที่ดี ไม่จำเป็นต้องคิด
เพราะมันมีอยู่แล้ว แต่มองให้ออก มองให้เห็นก็เท่านั้น


ปล. การคิดด้านบวกมากๆ จะทำให้สำเร็จเป็นมารเลยละ