ถามการตั้งศาลพระภูมิ

ไม่รู้ถามถูกห้องไหม ถ้าไม่ถูกข้อโทษนะค่ะ คือที่บ้านเจ้าทีค่อนข้างแรงพอสมควรค่ะ แฟนเคยไปล่วงเกินทำบ้านทุบออกโดยไม่ได้บอกกล่าวเจ้าทีเลย ทุบเสร็จเป็นลมในห้องนํ้าเเบบไม่รู้สาเหตุเลย คอเคล็ดเป็นเดือน แต่ได้ขอขมาไปแล้ว ใครไปเฝ้าให้ก็จะไปทำให้นอนไม่ได้ ที่สำคัญไม่เคยทำบุญขึ้นบ้านเลยสักที กลับไปไทยงวดนี้กะว่าจะนิมต์พระมาทำบุญบ้านด้วย และอีกอย่างเคยสัญญาเจ้าทีที่บ้านว่า จะตั้งศาลให้เขาด้วย ปัญหาคือ......เป็นหมู่บ้านจัดสรรค่ะ เนื้อที่๕๐ตารางวา บ้านมีสนามหน้าบ้านนดหน่อย ทีสำคัญไม่เคยเห็นหลังไหนตั้งศาลกันเลยค่ะ แถมหน้าบ้านมีเสไฟหลักตั้งอยู่ข้างๆรั้วเลย สิบหม้อมิตเตอร์มารวมไว้หน้าบ้านเราหมด ถ้าเราจะตั้งศาลให้เจ้าที่ในบ้านควรทำยังไงบ้างค่ะ ตั้งศาลพร้อมทำบุญบ้านในวันเดียวกันได้ไหมค่ะ ขอผู้รู้ช่วยชี้แนะทีค่ะ พระนี้ต้องนิมมต์กี่รูปดีค่ะ
ถ้าตั้งไม่ได้จริงๆควรแก้ไขยังไงดีค่ะ เพราะมองๆดูสภาพสนามหน้าบ้านไม่อำนวยเลย เข้าว่าตั้งศาลห้ามหันหน้าไปหน้าบ้านและห้ามหันหน้าไปทางทิศตะวันตก บังเอิญหน้าบ้านหันไปทางทิศตะวันออกพอดี อันนี้ไม่รู้จริงไหม..เขาว่าห้ามเงาบ้านทับศาลนะค่ะ... ยังไงก็ขอคำแนะนำที่ง่ายๆไม่ยุ่งยากด้วยค่ะ

 

หลวงพี่ขอเสริมสักนิดว่า ถ้าตั้งตามแบบหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านบอกว่าถ้าตั้งศาลพระภูมิในบ้าน ให้ตั้งทางทิศ ตะวันออก ออกเฉียงเหนือ หรือทิศเหนือของตัวบ้านเรื่องหน้าศาลที่จะหันยังไม่มีความสำคัญเท่าทิศที่ตั้งศาล
หรือตั้งที่บริเวณ ช้นระเบียงบ้านที่ยื่นออกมากก็ได้
แต่ถ้าเป็นทางพราหมณ์ หรือพวกที่รับตั้งศาลเขาก็จะว่าตั้งไม่ได้ พอได้ที่แล้วให้ตั้งศาล 4 เสา ทำฐานให้อยู่ระดับความสูงประมาณหน้าอกเรา
พิธีอัญเชิญ หรือเครื่องบวงสรวง แนะนำให้โยมตั้งเครื่องบวงสรวงชุดเล็กตามแบบหลวงพ่อพระราชพรหมยาน จะมีผลมาก กว่า
ถ้าจ้างให้คนอื่นมาตั้ง ก็จะมีทั้งค่าครู ค่าเครื่องบวงสรวง ค่าเสียเวลาให้กับคนมาตั้งจะเสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ อย่างน้อยก็ร่วมหมื่น
ยังไงให้โยมลองถามท่านที่เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อ หรือโยมท่านใดมีแผนผังการตั้งโต๊ะบวงสรวงชุดเล้ก ให้ลองช่วยโพสลง ให้หลวงพี่ด้วย
ทั้งนี้เป็นความเห็นโดยส่วนตัว หรือโยมท่านใดมีอะไรพอแนะนำก้อช่วยกัน เพือ่เป้นการสั่งสมบารมีด้วย สาธุ สาธุ สาธุ

 

ไม่มีคำแนะนำค่ะ เพราะมีปัญหาเหมือนกัน ไปเจอคน (หมอดูเพศที่ 3 ที่เราไม่ศรัทธาเท่าไหร่) ทักว่า ที่บ้านเจ้าที่แรง เป็นบ้านที่มีตำหนิ อาจมีคนตายมาก่อน เขาขอศาลพระภูมิ แต่บ้านที่ซื้อเป็นบ้านใหม่จากโครงการ (แต่หลุดจากคนจองซื้อเดิม เพราะกู้แบงก์ไม่ผ่าน) แล้วเราก็ต่อเติมครัว พอย้ายไปอยู่ ก็รู้สึกแปลก ๆ เหมือนกัน เพราะของใช้เสียบ่อย แต่ก็พยายามคิดว่าอายุงานหมดแล้ว ไมโครเวฟซื้อใหม่ ก็เสีย ทั้งที่ไม่ค่อยใช้งาน แต่ก็พยายามคิดว่าไม่เกี่ยวกัน แต่พูดง่าย ๆ ว่าตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ รู้สึก ชีวิตแย่ลง รายได้พิเศษก็หาย มีแต่ค่าใช้จ่าย ค่าซ่อม รวมถึงซ่อมหลังคาบ้านเป็น สิบครั้ง ๆ ก็ไม่หาย ทุกวันนี้ ฝนตกทีไร เครียดทุกที(แต่เราเชื่อว่าฝีมือช่างไม่ดีมากกว่าทั้งของโครงการและของต่อเติม) ทุกวันนี้ก็ยังไม่ตั้งศาลพระภูมิ ไม่ใช่หลบหลู่นะ แต่ถ้าเขาอยากได้จริง ๆ ควรจะมาบอกเราดีกว่า ให้เจอกับตากับตัวเองไปเลย เขาบอกว่าบ้านหลังนี้สวดมนต์ไม่ได้ แต่เราก็สวดทุกเช้า 9 เดือนแล้วที่มาอยู่ มีสมาธิบ้าง ไม่มีบ้าง แต่ก็ตั้งใจทำ และไม่เชื่อว่าจะสวดมนต์ไม่ได้ ใครจะมาขัดขวางได้ ถ้าเราตั้งใจจะทำ แต่เวลาทำบุญ หรือทำความดีอะไรก็อุทิศให้เจ้าที่เจ้าทาง พระภูมิเจ้าที่นะ เพียงแต่ไม่ได้ตั้งศาลพระภูมิให้ เลยไม่รู้ว่าพระภูมิเจ้าที่ท่านยังต้องการศาลอยู่หรือเปล่าแต่ถ้าถามตัวเอง ทุกวันนี้ ก็ยังไม่อยากตั้งศาลพระภูมิให้

 

ขอบคุณคุณspecialized และหลวงพี่พระธรรมกาโมมากๆเลยค่ะ และคุณsunsmell ที่ออกความเห็นมาค่ะ ก็จะคอยผู้รู้มาบอกเรื่องการตั้งโต๊ะบรวงสรวงชุดเล็กค่ะ หวังว่าคงมีคนใจดีเอามให้ดูด้วยนะค่ะ ขอขอบพระคุณล่วงหน้าเลยค่ะ

 

โองการอัญเชิญพระภูมิ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
อายันตุภูมิเทวัง นะมามิข้าพเจ้าขอยอกรชุลี โดยยินดีเคารพ คำนับนบเทพบดี กรุงพาลีเรืองเดช ภูมิเทเวศร์สิทธิการ สมยานโดยยุบล พระชัยมงคลเทพวรารักษ์ ผู้พิทักษ์ภูมิสถาน อภิบาลบำรุงเขต ณ. นิเวศน์มณฑลนี้ เชิญปรีดีปราโมทย์ เอื้อเอียงโสตทรงสดับคำ คำนับอาราธน์ขอเชิญนาถเสด็จดล สู่มณฑลเทพพิธี คฤหาสน์นี้เชิญเนาว์ โดย ( ชื่อเจ้าของบ้าน ) ได้ตกแต่งเครื่องสักการะ เครื่องพลีโดยวิธียัญนิยม อุดมโภชนาหาร ผลพฤกษานานาชาติ บริสุทธิ์สะอาดบ่ปาน อีกธูปเทียนมาลย์ลาศพึงพิศ ควรชมชิดโสคันธชาติ จันทน์ปรุงมาศกระแจะจุณ อนึ่งไซร้ ( ชื่อ เจ้าของบ้าน ) ผู้อาทรธุรกิจ ได้ประดิษฐ์คฤหาสน์ มีขนาดพรสมเยี่ยงนิยมแบบบรรพ์ และจัดสรรคเชนทร์ชาติ อัศวราชพาหนะ อีกสมบัติชนบริพาร คู่ขนานพร้อมสรรพ์ ด้วยสมานฉันท์จำนง มุ่งประสงค์ตรงหมายอุทิศถวายเทพารักษ์ เพื่อพำนักเป็นสุก ทุกทิวารราตรีกาล เป็นรมณียสถานพิเศษ ขอเชิญเทเวศร์อย่างละเลย เชิญรับสังเวยสรวงเทวพลี บรรดามีนั้น ๆ โดยพลันด้วยปรีดีเวลานี้ได้ฤกษ์งามยามวารดิถี ที่ปลอดโปร่งดีแล้วไซร้ เชิญภูมิไท้ธิบดี เสด็จขึ้นสถิต ยังอาสนวิจิตรโอฬาร พร้อมบริพารเทพคณิศร์ เป็นกิจการอันควรแล้ว จงอย่าแคล้วคลาดประสงค์ ซึ่งข้าพเจ้าจำนงกล่าวสนอง ผิวสิ่งทั้งผองใดพลาด เกินหรือขาดไปบ้าง ขออย่าสร่างซึ่งเมตตา จงกรุณาโปรดอภัย โปรดตั้งใจบริรักษ์ พิทักษ์ทั้งมณฑลสถาน ตั้งแต่บ้านเรือนโรง โยงตลอดถึงบริวาร ทั้งบุคคล ซึ่งมาดลถิ่นนี้ มีท่านเจ้าของบ้าน อีกปริชนบุตรภรรยา ปนิจาราญาติมิตร ผู้ประพฤติสุจริตไตรทวาร ทั้งยวดยานพาหนะสกลภัณฑ์ บริโภคประโภค สัมภาระประโยชน์อันยับยั้ง ตั้งอยู่ ณ. ที่นี้ไซร้ เชิญภูมิไท้กรุณา ถือเป็นภารกิจ ช่วยป้องปิดอันตราย อุปสรรคอุปัทวะใด ๆ อย่ากรายอย่ากล้ำ สารส่ำสิ่งศุภสวัสดิ์ ขอจงอุบัติแล้วยืนยงสิ่งใดประสงค์ขอให้สมมาด สรรพทุกข์ สรรพโศก สรรพโรค จงนิราศ จงนิราไกล สรรพเสนียด และจัญไร สรรพภัยอย่าแผ้วพาน เพื่อภูมิเทพพิทักษ์ บริรักษ์เนื่องนิรันดร ดุจข้าสรรแทรกพ้อง ขออย่าขัดอย่าข้อง สำเร็จได้ดังประสงค์โสตถิ เทอญ ฯ <o></o>
บวงสรวงพระภูมิ<o></o>
นะมามิ เทวาติเทวัง สัมพุทธธัง โสตถิเทสะถัง นะมามะอุตตะมัง ธัมมัง สังฆังสุโสตถิยาจะหัง<o></o>
นะมามะ ธัมมะทายาทัง สังฆัง สุโสตถิการะวัง โสตถิยาวะระวัตถูนัง นะมัสการัสสะ เตชะสา<o></o>
หัญญันตูปัทวาเนกา ตะถา ตะถา อะนิฏฐะกา อิฏฐา กันตา นะนาปาจะ สัพพะโสตถี ภะวันตุโน<o></o>
อากังขามะ มะยันทานิ เทวานัง โนสะมาคะมัง พะลิง ปะฏิคคะหาเปตุง อัมหากังพะลิการินัง<o></o>
กะถัญจิญญาปะนัตถายะ สาเวตุง ภาสิตัมปิ จะ สาธุ เทวาอิธายันตุ อัมหัง มังคะละมัณฑะเล<o></o>
อารักขะกา วัตถุฏฐา จะ ทูรัฏฐาสันติกาฏฐะกา ภุมมัสฐา จาม พะสัสถา จะ สัณฐิตะจะตะหิงตะหิง<o></o>
สัพเพปิ เตอิธาคันตะวา สุณันตุภาสิตังอิมัง มะยังมะนุสสะภูตาโข เทเวหัปปานุภาวะกา<o></o>
อิทธิมันโต มะนุสเสหิ เทวะมะหานุภาวิโน มานุสสะกัพพะลัง ยังยัง อะติกกันตังประวัตตะติ<o></o>
ตัตตถะตัดถาภิปัตเถมะ เทวานังอะนุกัมปะนัง อิทนว โรพระลิงเดลัง อะภิสัชชามะ กะลิกัง<o></o>
พะลิกัมมะวิธาเนนะ สังขะเตนะ ยะถาระหัง สาธุ อิมังพลิงเทวา ปะฏิคคัณหันตุ สาทะรัง<o></o>
ยา ยา จะตีสุวัตถูสุ ปูชาทิกะระเณนะ จะ เทวะโตทิสสะทาเนนะ ธัมมัสสะ สะวะเนนะจะ<o></o>
อารัทธา สัชชิตาทานิ อัมเหหิ ธัมมิกา พะลิง ปฏิคคัณหันตุ สัพพันตัง อะนุโมทันตุ สาธุกัง<o></o>
ยานิ จัญญานิ ปุญญานิ อัญญาทา สัญจิตานิ ใน ทาเนนะ ยะทิ สิเลนะ สัญญะเมนะ ทะเมนะ จะ<o></o>
สัพเพสุ เตสุปุญเญสุ ปัตติกา โหนตุเทวตา เอวังปาวทิตัง สัพพัง อัมหากังธัมมิกัง พะลิง<o></o>
ปฏิคคัณหันตุ สัมมาวะ เทวตาโนนิเวทิตา เทวตาราธะนีตะถายะ ยังยัง อัมเหหิสัญจิตัง<o></o>
หน้า 2<o></o>
เทวตา นะมะธิปปายัง อะชานันเตหิ ตัตตะโต ตัง ตัง รุจเจยยะ วาโนวา เทวานัง พะลิมิจฉะตัง<o></o>
อรุจจะมานะเก กัมเม สาธุ เทวาขะมันตุโน อาราธะนายะ อุสสาโห กะโต ปะนะปะสังสิโย<o></o>
ยานัญญานิปิ กัมมามิ อัมเหหิ กะริยันติธะ รุจเจยยุง วานะวาตานิ เตสังอุปปะริกขะตัง<o></o>
ตัปปัจจะยาปิ อัมหากัง ตะถาขะมันตุเทวะตา นานาธาตุยะโต โลโก อะโถนานาธิมุตติโก<o></o>
รุจจะมานะเกกัมเมสุ อะนุโมทันตุเทวตา ตะโต โนอนุกัมปันตุ กัลยาเณเนวะ เจตะสา<o></o>
อะหิตานิ วิโนเทนตุ หิตานิ จุปะเนนตุโน รัฏบาภิรักขะโรเปาเย สาสะนัส สานุปาละเน<o></o>
เทวตา โน อะนุกัมปันตุ โกสัสสาปัตติยา ยะถานุภาวังสาเธนตุ สัพพากุสะละปัตถะนา<o></o>
เทวตานุกัมปิตา สันตาโหมะภัทรานิทัสสิโน เตหานุกัมปิตานัญจะ สะทา โน โหนตุวุฑฒิโย<o></o>
อุปปัทถะวันตะรายาจะ มาโนเหสุงกะทาจิปิ โสมะนัสสัญจะปาโมชชังโสตถิจะโหนตุโนสะทา<o></o>
ขอพรพระภูมิ<o></o>
สิโรเม ขอเดชพระภูมิเทวา ซึ่งรักษาที่ รับพระพรจากเจ้ากรุงพาลี ขอให้วัฒนาสิ่งสุข แก่ ( ชื่อเจ้าของ )<o></o>
เจ้าของบ้าน ให้……………………………. โสตถิ สัยยะ มังคะละ สิทธิ ภวันตุเต<o></o>
สิทธิกิจจัง กิจจานุกิจ ซึ่ง ( ชื่อเจ้าของ ) บำเพ็ญกรณี พิธีในงานนี้ จงเสร็จสม อย่าค้างขัดข้องแรมนาน เลยนา <o></o>
สิทธิกัมมัง การงานผดุง เพื่อบำรุงรักษาอย่าเริดอย่าโรยรา ขอให้ได้สมประสงค์เทอญแลนา<o></o>
ถวายเครื่องสังเวย<o></o>
นะโม เม พระภูมิเทวานัง ธูปะทีปะจะ ปุปผัง สักการะวันทะนัง สูประพะยัญชนะสัมปันนัง โภชะนานัง สาลีนัง สะปะริวารัง อุทะกังวะรัง อาคัจฉันตุ ปะริภุญชันตุ สัพพะทา หิตายะ สุขายะ สันติเทวา มะหิทธิการเตปิ ตุมเห อะนุรักขันตุ อาโรคะเยนะ สุเชนะ จะ<o></o>
ลาเครื่องถวาย<o></o>
อายันตุ โภนโต อิธะ ทานะสีลา เนกขัมมะปัญญา สะหะ วิริยะ ขันติ สัจจะ อธิฏฐานะ สเมตตุเปกขายุทธายะโว ทิสสาวินะติ อะเสสะโต<o></o>

 

น่าสนใจค่ะ

 

ขอบคุณ คุณสงมากๆเลยที่กรุณานำมาลงให้ จะก็อปเก็บไว้ค่ะ

 

ร้านศาลพระภูมิอินทรศิลป์

http://intrasilp.com อินทรศิลป์ หมายถึง ศิลปะความเป็นไทยที่ยิ่งใหญ่และยังคงไว้ซึ่งความอ่อนช้อย บรรจง โดยร้านคลองตันศาลพระภูมิ ยังคงเปิดกิจการอยู่และเป็นโรงงานผลิตศาลพระภูมิของเรา โดยเริ่มผลิตและจำหน่ายศาลพระภูมิมากกว่า 50 ปี จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเรากล้าพูดได้ว่าศาลพระภูมิของเราทุกหลังมีความแข็งแรงทนทาน ผลิตด้วยความประณีต มีความงดงามตามแบบสถาปัตยกรรมไทยโบราณและลวดลายที่เราเลือกใช้บนศาลทุกๆ หลัง ต่างก็มีความหมายที่ดีเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ลูกค้า ร้านอินทรศิลป์ ศาลพระภูมิ สามารถติดต่อสอบถาม
086-776-6509 หรือทางwebsite และ facebook
ศาลพระภูมิอินทรศิลป์, www.facebook.com/ร้านศาลพระภูมิอินทรศิลป์

 

ร้านศาลพระภูมิอินทรศิลป์

http://intrasilp.com อินทรศิลป์ หมายถึง ศิลปะความเป็นไทยที่ยิ่งใหญ่และยังคงไว้ซึ่งความอ่อนช้อย บรรจง โดยร้านคลองตันศาลพระภูมิ ยังคงเปิดกิจการอยู่และเป็นโรงงานผลิตศาลพระภูมิของเรา โดยเริ่มผลิตและจำหน่ายศาลพระภูมิมากกว่า 50 ปี จากประสบการณ์ที่ผ่านมาเรากล้าพูดได้ว่าศาลพระภูมิของเราทุกหลังมีความแข็งแรงทนทาน ผลิตด้วยความประณีต มีความงดงามตามแบบสถาปัตยกรรมไทยโบราณและลวดลายที่เราเลือกใช้บนศาลทุกๆ หลัง ต่างก็มีความหมายที่ดีเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้แก่ลูกค้า ร้านอินทรศิลป์ ศาลพระภูมิ สามารถติดต่อสอบถาม
086-776-6509 หรือทางwebsite และ facebook
ศาลพระภูมิอินทรศิลป์, www.facebook.com/ร้านศาลพระภูมิอินทรศิลป์

 

ตั้งได้ครับแต่ควรจะให้ผู้ที่ชำนานจริงๆทำนะครับ ของแบบนี้เขามีพิธีการไม่ใช่ว่าตั้งเองหรือว่าคาถาเอาเอง ทำผิดก้อเป็นโทษนะครับ ดีไม่ดีไปเชิญวิญญาณเร่รอน หรือพวกผีตายโหง รากษตชั้นต่ำเช่นพราย ผีปอบ หรือพวกพรายที่กินเลือดเข้าจะยุ่งนะครับ อนุโมทนากลับทุกๆท่าน ขอบคุณครับ

 

1. ตำนาน”คัมภีร์พรหมจุติ” เล่าว่า

อดีตกาลเมื่อครั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อุบัติขึ้น สมัยนั้นท้าวพลี หรือพาลี เจ้ากรุงพาลี (บางตำราว่าชื่อท้าวทศราช,สกราช,โสกราช,กายทัตต์) อยู่ที่เมืองบาดาล ได้ทำกรรมเบียดเบียนโลกมนุษย์และสวรรค์ให้เดือดร้อน โดยส่งโอรสทั้ง 9 องค์ ออกไปปกครองแผ่นดินตามสถานที่ต่าง ๆ ทำให้รู้สึกว่าตนเองมีอำนาจมาก และได้ประกอบพิธีอัญญกรรมมีอิทธิฤทธิ์มาก สามารถยึดครองโลกทั้ง 3 โลก (มนุษย์,สวรรค์,บาดาล) ทำให้มนุษย์และเทวดาเดือดร้อนเพราะไม่มีที่อยู่อาศัย
พระพุทธองค์ทรงตรัสรู้ทราบด้วยพระโพธิญาณจึงเสด็จไปยังโรงพิธีของท้าวพลี เมื่อท้าวพลีเห็นพระพุทธองค์จึงมาแสดงคารวะ ทูลถามความประสงค์ที่ทรงเสด็จมา พระพุทธองค์จึงเอ่ยพุทธวาจาขอที่จากท้าวพลีเพียง 3 ก้าว ท้าวพลีเห็นว่าเล็กน้อยมากจึงทูลถวายตามพระประสงค์ เมื่อท้าวพลีถวายให้แล้วพระองค์จึงประกาศให้เทพยดาทั้งหลายทราบว่าท้าวพลีได้ยกที่ดินให้พระองค์ 3 ก้าว ด้วยพระพุทธาภินิหาร พระองค์ทรงย่างเหยียบเพียง 2 ก้าวก็ถึงขอบจักรวาล ฝ่ายท้าวพลีเห็นเช่นนั้นก็ตกใจสุดขีดเกรงว่าตนจะไม่มีที่อยู่ แต่ได้ทูลถวายไปแล้วจำเป็นต้องออกไปอยู่นอกเขตจักรวาล เมื่อพระพุทธองค์ได้ที่แล้วก็ยกสวรรค์คืนให้เทวดาทั้งหลายและคืนโลกให้มนุษย์ต่อไป
ต่อมาไม่นาน ท้าวพลีลำบากอดอยากไม่มีที่อยู่ที่กิน จึงเข้าไปกราบทูลขอคืนที่ดินบ้าง จึงทรงมีพุทธานุญาตว่า ต่อไปถ้าใครผู้ใดจะสร้างบ้านเรือน ก่อเจดีย์ ปลูกต้นไม้ศรีมหาโพธิ์ สร้างวิหาร ปลูกศาลา ปั้นพระพุทธรูป บวชภิกษุสงฆ์ หรือประกอบพิธีมงคลใด ๆ ขอให้จัดสถานที่เป็นที่ตั้ง “ศาลพระภูมิ” กว้างยาวพอสมควรไว้ตามเรือน เมื่อจะทำงานมงคลใด ๆ ให้กระทำบูชาและสังเวยพระภูมิเจ้าที่ก่อนเพื่อเป็นสิริสวัสดิ์แก่เจ้าบ้านต่อไป
ท้าวพลีมีโอรส 9 องค์ อันเกิดกับนางสันทาทุก (นางมันทาทุกาธิบดี) ท้าวพลีได้มอบหมายให้คุ้มครองดูแลรักษาสถานที่ต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. พระชัยมงคล ดูแลรักษาเคหสถาน โรงร้าน อาคารหอการค้าต่าง ๆ
2. พระนครราช ดูแลรักษาค่ายคู ประตูหอรบ และบันได
3. พระเทวเถร (พระเทเพน) ดูแลรักษา คอกสัตว์ ช้าง ม้า โค กระบือ
4. พระชัยสพ (พระโพสพ) ดูแลรักษายุ้งฉาง ที่เก็บเสบียงและท้องพระคลัง
5. พระคนธรรพ์ ดูแลรักษาโดรงพิธีอาวาห์และวิวาห์ ตลอดจนเรือนหอของบ่าวสาว
6. พระธรรมโหรา (พระเยาวแผ้ว) ดูแลรักษาเรือกสวนไร่นา ป่าเขา และแมกไม้
7. พระวัยทัตต์ (พระวันทัตหรือพระศรัทธาหรือพระสุธาจะ) ดูแลรักษาวัดวาอาราม อุโบสถ วิหารและปูชนียสถานต่าง ๆ
8. พระธรรมกฤช (พระธรรมิกราชาหรือพระธรรมโหรา) ดูแลรักษาวนอุทยาน สวนผลไม้ เรือกสวนไร่นา พืชพรรณ ธัญญาหารต่าง ๆ
9. พระทาษธารา (ธารธารา) ดูแลรักษา ห้วยหนอง คลองบึง คูคลอง แม่น้ำทั่วไป

นอกจากนี้ โอรสทั้ง 9 แต่ละคนจะมีบริวารหรือคนใช้ 3 คนด้วยกันคือ
1. นายจันทิศ หรือนายจัน
2. นายจันที หรือจันถี
3. จ่าประสพ หรืออาจเสน หรือพระเชิงเรือน
คนใช้ทั้ง 3 คนนี้ เป็นผู้ทำบัตรพลี หรือเจ้าพิธี การจัดตั้งศาลพระภูมิจึงต้องสมมุติคนใช้ (บริวาร) เพื่อเป็นสื่อนำสิ่งสักการะและเครื่องสังเวยไปถวายต่อพระเจ้ากรุงพาลีอีกที
เมื่อจะกระทำการใด ๆ เช่น การบวงสรวงสังเวย, ครบรอบปีของการตั้งศาลพระภูมิ, งานวันเกิดเจ้าของบ้านหรืองานมงคลต่าง ๆ ควรบวงสรวงสังเวย ข้อสำคัญจักต้องกล่าวชื่อพระภมฺให้ถูกต้องตามลักษณะ พระภูมิจึงจะรับเครื่องสังเวยและสักการะบูชา เช่น พระภูมิรักษาเคหสถาน ต้องออกชื่อพระชัยมงคล เป็นต้น จึงจะเกิดสิริมงคลแก่เจ้าของบ้านและบริวาร
ลักษณะศาลพระภูมิ
ตัวศาล

อาจสร้างด้วยไม้ แบบเรือนทรงไทยแบบต่าง ๆ หรือหล่อด้วยปูน แบบวิหารจำลอง ปราสาท วิมาน พระปรางค์ ศาลา ฯลฯ
เสา

เสาเดียว ความสูงของศาลจะต้องเพียงตาเจ้าของบ้าน
บริเวณที่จะตั้งศาล

เมื่อสร้างบ้านเรือนเสร็จแล้ว ประสงค์จะตั้งศาลพระภูมิเจ้าที่ การเลือกสถานที่ตั้งศาลพระภูมินั้น ส่วนมากหมอโหรหรือผู้ที่เจ้าบ้านเชิญมาจะเป็นผู้กำหนดให้เอง แต่โดยทั่วไปนิยมกำหนดสถานที่ไว้ริมรั้วบ้าน เพื่อเป็นเคล็ดจะได้มองเห็นข้าศึกศัตรูที่จะเข้ามาทำอันตรายต่อเจ้าของบ้านและสมาชิกในบ้าน ริมรั้วที่ว่านั้นอาจจะเป็นข้างใดข้างหนึ่งแต่มิใช่หน้าประตูบ้าน ควรอยู่ที่ดอนน้ำท่วมไม่ถึง สะอาด ห่างไกลครัว ส้วม และที่เทขยะ

สิ่งที่ต้องคำนึงในการตั้งศาลพระภูมิมีดังนี้

1. ที่ตั้งศาลต้องเป็นบริเวณพื้นดิน มิใช่บริเวณเดียวกับพื้นของตัวบ้าน
2. หากไม่มีพื้นที่ ๆ เป็นพื้นดิน สามารถทำการตั้งศาลบนชั้นดาดฟ้าได้ แต่ส่วนใหญ่การตั้งบนดาดฟ้าจะเป็นศาลเทพต่าง ๆ เช่น พระพรหม หรือพระนารายณ์ มิใช่พระภูมิเจ้าที่
3. จุดที่ตั้งของศาลต้องไม่ถูกเงาของตัวบ้านทอดลงมาทับ
4. ที่ตั้งของศาลควรอยู่ห่างจากบริเวณที่ตั้งของห้องน้ำ
5. อย่าตั้งศาลให้อยู่ใกล้ตัวบ้านมากนัก
6. อย่าหันหน้าศาลเข้าสู่บริเวณที่ตั้งของห้องน้ำ
7. ไม่ควรตั้งศาลให้หันหน้าศาลตรงกับประตูบ้าน
8. ตั้งศาลให้ห่างจากรั้วหรือกำแพงบ้านอย่างน้อย 1 เมตร
9. ความสูงของศาล ควรสูงเหนือระดับสายตาของผู้เป็นเจ้าของบ้านขึ้นไปเล็กน้อย
10. ถ้าสามารถยกพื้นที่ตั้งศาลให้สูงขึ้นสัก 1 คืบ จากพื้นดินได้ก็เหมาะสมอย่างยิ่ง

ทิศที่ตั้งศาล

เกจิอาจารย์นิยมใช้เพียง 2 ทิศ คือ ทิศเหนือ กับทิศใต้บ้าน เพื่อมิให้ร่มเงาบ้านทับศาลกันเกิดอัปมงคล รูปเทพารักษ์หรือเจว็โ ห้ามหันหน้าออกตรงทางเข้าบ้านเพราะเป็นการดูหมิ่นหรือเป็นการเหยียบศรีษะพระภูมิเจ้าที่ไป
ทิศมงคล โบราณท่านว่าไว้ว่า
1. ทิศอุดร (เหนือ) เหมาะตั้งศาลของผู้มียศศักดิ์ หรือ ราชสกุล
2. ทิศประจิม เหมาะตั้งศาลพระภูมิ นา สวน
3. ทิศทักษิณ (ใต้)เหมาะตั้งศาลพระภูมิ พ่อค้าพานิช เศรษฐีและคหบดี
4. ทิศบูรพา เหมาะตั้งศาลพระภูมิวัด เจดีย์ ศาลา สวนสาธารณะ ปูชนียสถาน
5. ทิศอิสาน และทิศอาคเนย์ เหมาะกับการตั้งศาลของสามัญชนทั่วไป
บางตำรากล่าวถึงทิศว่า
1. ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ หรือ ทิศอิสาน เป็นทิศที่ดีที่สุดหากตั้งศาลหันไปทิศนี้บ้านนั้นจะมีความเจริญรุ่งเรืองตลอดไป
2. ทิศตะวันออก หรือ ทิศบูรพา เป็นทิศที่ดีอันดับสอง หากตั้งศาลหันไปทิศนี้ บ้านั้นจะมีความเจริญรุ่งเรือง
ทิศต้องห้าม

1. ทิศตะวันตก
2. ทิศใต้

 

เรื่องตั้งศาล ผมว่าไม่แนะนำให้้ตั้งเองนะครับ ถ้าเชิญเทพไม่มา แล้วสิ่งอื่นจะมาอยู่แทนนะครับ แล้วจะกลายเปนกราบไหว้พวกผีสางแทน อันนี้ต้องเชิญเจ้าพิธีที่เชื่อถือได้ด้วยนะครับ เพื่อความถูกต้องและสบายใจเรื่องพิธีไปขอคำแนะนำจากพราหมณ์ที่เทวสถานโบสถ์พราหมณ์เสาชิงช้าก็ได้ครับ ท่านใจดีแล้วก็เมตตาตอบทุกคำถามครับ (ถ้าท่านว่างนะ)

 

ยอดเยี่ยมคำเดียว