ช่วงนี้มีใครรู้สึกแบบนี้บ้างค่ะ

อ่านเล่นๆกันนะครับ
บางท่านอาจจะรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลง
นั้นอาจจะเป็นเพราะว่าช่วงเวลาหลังจากนี้เป็นระยะเวลาช่วงสุดท้าย ที่เราจะได้อยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ทางช้างเผือก (Milky Way Galaxy)
ช่วงระยะเวลาหลังๆนี้เราอาจจะต้องรับศึกหนัก โดยจะมีความแปรปรวนเกิดขึ้นกับสนามแม่เหล็กโลก ตลอดจนสสารและอณูบนโลกรวมถึงมนุษย์อย่างเราๆท่านๆด้วยครับ
และเมื่อถึงจุดสุดท้ายของการเปลี่ยนแปลงเราก็จะกลับไปเริ่มต้นใหม่ภายใต้แรงดึงดูดของ กาแลคซี่ไตรแองกุลัม (Triangulum Galaxy)
ช่วงสุดท้ายหรือช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อนี้แหละครับ ที่จะเล่นพวกเราแทบไม่เหลืออะไรเลย
การเปลี่ยนแปลงและสิ่งที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับภัยพิบัติไม่ขอเล่านะครับ เพราะหาอ่านได้แถวนี้ซึ่งเยอะมากอยู่แล้ว

คือว่า ณ ปัจจุบันที่เราอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ทางช้างเผือกระยะสุดท้ายนั้น จะมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ หรือทำได้อย่างไม่สมบูรณ์
ไม่ว่าจะเป็นทางด้านร่างกายและจิตใจ เหมือนกับมีอะไรมาปิดกั้นความสามารถบางส่วนของเราไว้ เช่นเมื่อก่อนรู้สึกทำได้ดีกว่า แต่ปัจจุบันเหมือนทำอะไร ๆ จะแย่ลงครับ
สังเกตได้ง่าย ๆ จากจิตใจของคน ว่าเดี๋ยวนี้ทำไมเรื่องราวต่างๆทั้งหลายบนโลกมันช่างดูยุ่งเหยิง สับสน วุ่นวายกันจัง หาความสงบมิได้เลย จิตใจตกต่ำอย่างมาก

แต่เมื่อไรที่กระบวนการเปลี่ยนแปลงได้เสร็จสิ้นสมบูณ์ เราก็จะได้สัมผัสถึงสภาพแวดล้อมของโลกใหม่ใบเดิม ที่ได้เปลี่ยนไปอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ไตรแองกุลัม
ความรู้สึกทางกายและจิตใจที่เราได้รับจะแตกต่างจากที่เราเคยได้สัมผัสมาก่อนหน้านี้อย่างมาก จิตใจที่เคยสับสนวุ่นวาย ก็คล้ายกับว่าจะเริ่มนิ่งพร้อมที่จะรับสิ่งดีๆเข้ามาภายในจิตใจ
สรุป สภาพแวดล้อมของโลกที่อยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ไตรแองกุลัมจะส่งผลในด้านที่ดีต่อสสสาร รวมถึงชีวิต และจิตวิญญาณของพวกเราบนโลกใบเดิมนี้ครับ
ที่สำคัญคือเราจะสามารถรับรู้และเข้าใจในเหตุและผล รวมถึงหลักธรรม ได้ง่ายกว่าเดิม ไม่มากก็น้อย ซึ่งนั้นเป็นผลดี
จากที่เมื่อก่อนเราเคยอยู่ภายใต้แรงดึงดูดของกาแลคซี่ทางช้างเผือก ซึ่งการเข้าใจหรือสนใจในธรรมของบางท่านมันช่างยากและลำบากเสียนี่กระไร
หากจะถามผมหรือผมจะเล่าลึกกว่านี้ผมก็ทำไม่ได้แล้วครับ เพราะได้รับรู้มาในกรอบแค่นี้
จริงๆยังมีการเปลี่ยนแปลงอีกหลายอย่างเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งมันก็เป็นธรรมดาของกฎไตรลักษณ์อยู่แล้ว
สิ่งที่มนุษย์ได้ค้นพบ ได้ศึกษา หรือได้พบเจอ ยังไม่ถึง 1 ในล้าน ของสิ่งที่เกิดขึ้นหรือมีอยู่จริงๆ เลยครับ

แต่หากวันนั้นจะมาถึง ความบอบช้ำที่เกิดกับโลกมันคล้ายกับว่าแทบจะไม่มีอะไรเหลือเลย หมดสิ้นแล้ว
ชีวิตที่เหลือรอดอยู่ก็ช่างน้อยนิดนัก ผมก็ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตรอดอยู่ถึงวั้นนั้นหรือเปล่า
ใครอยากจะเห็นหรือได้สัมผัสสิ่งดีๆในยุคต่อไปก็พยายามรักษาชีวิตไว้ครับ ตอนนี้อาจจะบอกว่า ตายก็ช่างมัน ถึงตอนนั้นอาจจะบอกว่ายังไม่อยากตายก็ได้
อย่างน้อยที่สุดก็ให้รักษาศีล 5 ให้เป็นปกติ หากจะตายก็จะได้ไปสู่ภพภูมิที่ดีไม่ต้องตกสู่อบายภูมิครับ

ผมไม่ใช่ผู้รู้ คนเข้าทรง หรือผู้วิเศษอะไรนะครับ และยังมีความเลวอยู่มาก
แต่แค่มาเล่าเรื่องแปลกๆ สู่ๆกันฟังเท่านั้น ไม่ต้องการจะเถียงหรือโต้ตอบกันไปมากับใคร
อาศัยแค่ฟังมาบ้าง อ่านมาบ้าง ดูหนังมาบ้าง ปรุงแต่งเองบ้าง มีผู้มาเล่าให้ฟังบ้าง
ถือซะว่าอ่านนิทาน หรือนวนิยายวิทยาศาสตร์ก็ได้นะครับ
ผมถือว่าเรื่องที่เล่ามาเป็นแค่การแสดงความคิดเห็นและจินตนาการของผู้เขียน ไม่ใช่เรื่องจริง
ควรใช้วิจารณญาณในการอ่าน และเคารพความคิดเห็นของผู้อื่นเสมอๆด้วยครับ

 

ดีครับ ผมว่าเป็นเรื่องดีที่นำมาเล่าสู่กันฟัง แม้จะเป็นเรื่องจากความคิดของคนอื่น ๆ แต่ผมยินดีเปิดใจรับฟัง และอ่านทุกความคิดเห็น สิ่งไหนดีมีประโยชน์ ผมจะเลือกรับเอา สิ่งไหนอาจจะไม่ใช่ ผมก็เฉยๆ เราทุกคนมีสิทธิ์แสดงความคิดเห็น คับ และก็ไม่มีใครมาบังคับความคิดกันได้ ตราบเท่าที่ไม่เบียดเบียนกัน

 

ปกติ เวลาเย็นๆ จะต้องนั่งสมาธิได้อย่างน้อยครึ่งชั่วโมง แล้วนอนสามทุ่มตามเวลาปกติ แต่ช่วงนี้หลังจากสวดมนต์ พอเริ่มนั่งสมาธิเพียงไม่นาน กลับรู้สึกว่าต้องนอน ทั้งที่ร่างกายไม่ได้เป็นอะไรอาการปวดเมื่อยร่างกายก็ยังไม่เกิด หวังว่าจะผ่านไปโดยเร็วนะครับอาการอย่างนี้ (ถ้าไม่ตั้งกระทู้มาก็ไม่ได้สังเกตตัวเองนะครับ)

 

เป็นเหมือนกันคะ ทั้ง ๆ ที่นอนเต็มที่แล้ว แต่ยังรู้สึกง่วงนอนทั้งวันเลยคะ

 

สงสัยพวกอิลลูมิเนติจะเอาเชื้อโรคมาปล่อยเพื่อลดจำนวนประชากรโลกอ่ะคับ อิอิ

ส่วนผมสบายดี ปกติดี ไม่รู้สึกอะไรเลย ไม่ป่วย ไม่เป็นหวัดมา 2 ปีกว่าละ (deejai)

 

อากาศมันเย็นขึ้นรึเปล่าครับ ไม่ร้อนเลยทำให้เกิดอาการง่วงนอน ^^

 

มาช่วยยืนยันว่าข้อความตรงนี้เป็นจริง ได้ยินมาจากสายปฎิบัติหลายสายคล้ายๆกันครับ รวมถึงประสพการณ์ปฏิบัตของตัวเองด้วยครับ

 

เมื่อกี๊รู้สึกเหมือนแผ่นดินไหวเลย นานด้วย สัก 4-5 วินาทีนี่แหละ

ตอนแรกก็คิดว่าคิดไปเองหรือเปล่า ?? พอมันรู้สึกนานๆ เราก็ตกใจมาก.. มองออกไปตรงระเบียงห้อง ถ้ามันไหวหนักๆ เราจะโดดดีไหม?? (ตอนนี้อยู่ชั้น 4) แล้วคอมฯอ่ะ O.O Hard disk มีข้อมูล, งาน, เอกสาร

โห.. คิดๆอยู่สักพัก มันก็หยุด

ยอมรับว่า ค่อนข้าง ตกใจ นะ

พอมันหยุดแล้ว เราก็ทบทวน.. หรือเราเป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากันวะ ?? >,<

---

อย่างไรก็ตาม.. จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้เรารู้ว่า เราควรเก็บคอมฯไว้ในกระเป๋าตลอดเวลาที่เลิกใช้งาน(เพราะกระเป๋ามันจะมีกันกระแทกด้วย)

และ.. ให้ไปยืนตรงริมระเบียง(มันจะมีกระถางต้นไม้ยื่นๆออกไปด้วย) ยืนดูก่อน ถ้ามันถล่มลงมา เราค่อยกระโดดจังหวะที่มันกำลังถล่มก็ได้ (เพราะถ้ากระโดดเลย กลัวขาหัก ตั้ง 4 ชั้นแน่ะ แต่ละชั้นมันสูงด้วย ห้องมันเป็นห้องเพดานสูงๆอ่ะ แถมตัวตึกยังยกตัวสูงจากพื้นอีกราวๆ 1 เมตร เราอยู่ชั้น 4 สูงจากพื้นประมาณ 12 เมตร หรืออาจจะสูงกว่านี้)

 

ไม่ทราบว่าอยู่แถวไหนค่ะ

 

เป็นเหมือนกันเลยค่ะสามีก็เป็น

 

อยู่แถวไหนครับท่าน แล้วท่านๆ อื่นๆ อยู่ไหนกันครับที่บอกว่าแผ่นดินไหว

 

ผมก็เป็นครับ

 

ผมชอบง่่วงจัดๆเวลาสวดมนต์ บางวันปากก็สวดไปแต่หัวทิ่มคมำไปข้างหน้าแล้ว ต้องแก้ด้วย
การงีบหลับตอนเย็นสักพัก ส่วนตัวผมถ้าง่วงตอนเย็นเป็นเรื่องร่างกายกับสภาพอากาศแวดล้อม ถ้าง่วงจัดเฉพาะตอนสวดมนต์ ใจคิดเองว่าเป็นสภาวะที่เค้าจัดมาให้เรียนรู้ที่แยกแยะสภาวะความง่วงออกจากเรา ถ้ามีจิตที่ตั้งมั่นขึ้น มันจะเห็นความง่วงเป็นกลุ่มก้อน
สภาวะอย่างหนึ่งแยกออกมาจากเรา สำหรับผมบางทีก็แยกความง่วงได้ บางทีก็หัวทิ่มบ่อยๆ

ความง่วง ก็เหมือนฝนตก แดดออก กลัวเปียกกลัวร้อน ก็อยู่ในบ้าน แต่เราจะห้ามไม่ให้มีฝน ไม่ให้มีแดดไม่ได้

 

ออกกำลังกายครับ ท่านทั้งหลาย
วันละ 10 นาที หรือ 15 นาที่ก็ยังดี
เอาให้เหงื่อออก

ช่วยเรียกความฟิต ของร่ายกายกลับคืน

แต่ต้องหาสถานที่ ที่มีอากาศบริสุทธิ นะครับ ข้างถนนควัญรถเยอะๆนี่ ไม่ดีต่อสุขภายอย่างมาก

 

อ้างอิง...คุณ pczophie รู้สึกเหมือนแผ่นดินไหว ...หรือน้ำในหูไม่เท่ากัน

แต่คนที่เป็นโรคน้ำในหูไม่เท่ากัน ..( โรคบ้านหมุน ) อย่างดิฉัน นะสิ ....รู้สึกเหมือนแผ่นดินไหวอยู่บ่อยครั้ง....จนที่บ้านและที่ทำงาน จะรู้เลยว่าถ้านั่งทำงานอยู่ แล้วชะงัก หันมองซ้าย..ขวา ทำคิ้วชนกัน ..ยายนี่มันรู้สึกดินไหวอีกแล้ว
สักครู่...ก็ปกติ เราก็ได้แต่ยิ้ม แหะ แหะๆๆๆ รู้สึกอายนิดๆๆๆ(smile)(smile)
ขอถาม แพทย์ (จริงๆแล้วไม่กล้าถาม)...หรือผู้รู้ว่า
1...ว่ามันไหวจริงแล้วเรารู้สึก
2.. เพราะน้ำในหูไม่เท่ากัน ทำให้รู้สึกไปเอง
ปล. รู้สึกง่วงตลอด เพราะทำงานดึก ...อิอิ

 

ไม่เป็นอะไรเลย แต่มีผู้มาส่งสาร จะเกิดเรื่องอีกแล้ว

 

บางช่วงของการปฏิบัติธรรม จิตต้องการพักผ่อน (พูดง่ายๆคือ จิตอยากเข้าฌาน) ถ้าเราสามารถเข้าสมถภาวนาได้ ก็จะเข้าฌานได้ง่ายและลึกมากกว่าปกติ

อีกกรณี หากเดินทางไปแปลกที่ บางทีมีผู้อยากสื่อสารด้วย ก็จะกดจิตเราให้พยายามลงภวังค์

พวกนี้ก็เป็นสาเหตุได้เหมือนกันครับ

 

ที่บ้านหลับกันกลางวันกันทั้งบ้านเลยค่ะ ส่วนตัวเองก็ง่วงซะจนแทบจะหาวเป็น
ดาวเป็นเดือนได้ อิอิ

 

แบบนอนๆ อยู่สมมติแผ่นดินไหวขึ้นมาก็แย่เลย แบบไหวนานๆ ซ้ำไปซ้ำมาเซ็งเลย