สงสัยครับ คนบ้ารู้ตัวเองป่าวว่าตัวเองบ้า

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย surer, 28 พฤษภาคม 2012.

  1. surer

    surer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,508
    ค่าพลัง:
    +1,317
    คือถ้าเราไปบอกเค้าว่า สิ่งที่เค้าคุยคนเดียวเกิดจากการ หลอน
    เค้าจะเป็นไง และเค้ารู้ตัวป่าวว่าเค้าบ้า
     
  2. nickybamby

    nickybamby เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +174
    คนที่จะตอบคำถามนีี้ได้??!! o_O catt3







    (แอบขำ)
     
  3. nickybamby

    nickybamby เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +174
    คนที่จะตอบคำถามนีี้ได้??!! o_O catt3







    (แอบขำ)
     
  4. NARKA

    NARKA เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    1,572
    ค่าพลัง:
    +4,560
    ซูเล่อ....
    ..คนบ้า นิยามนี้กว้างเกินไป...คนเป็นโรคจิต....อย่างนี้ เป็นหรือเกือบเป็นกันหลายคน...
    บ้างว่าเกิดจากสารเคมีในสมองผิดปกติ บ้างว่า เป็นกฏแห่งกรรม...
    .....บางทีเราไม่รู้ ลูกเด็กเล็กแดง ไปถูกพวกนี้จับเป็นตัวประกัน ทำร้าย ก็มีให้เห็นทั่วไป
    บางรายอย่างฝรั่ง มันฆ่าคนตายเป็นร้อย....มันบอกมันไม่ได้บ้า แต่เป็นอุดมการณ์ของมัน
    อย่างนี้อาจเรียกเป็นพวกหัวรุนแรง....
    ...นาซีเยอรมัน...ฆ่ายิวเป็นล้าน...คุณว่ามันบ้าไหม...มันไม่ได้ว่ามันบ้า มันบอกคลั่งลัทธิสายเลือดอารายันนั่นเอง
    ...พวกนี้จึงจัดเป็นคนบ้าขนานแท้...แต่มันรู้ตัว...
    ....ส่วนคนที่เดินตามถนน ผมเผ้ารุงรัง เก็บขยะ เดินบ่นคนเดียว นั่นบ้าแน่..และน่าสงสาร
    ..เดินไปพูดด้วย บางทีพูดโต้ตอบได้ แต่สักพักก็เพี้ยนไปคุยไม่รู้เรื่อง....พวกนี้จะไม่รู้ตัวเอง...ส่วนใหญ่เป็นเพราะดวงใจที่แหลกสลาย อาจจากความรัก อาจจากระบบเศรษฐกิจ อาจจากพลัดพรากจากครอบครัวฯลฯ
    ...แต่ถ้าย้อนไปที่อุดรฯอุบลฯโคราช ตาคลี อู่ตะเภา.ยุค40ปีที่แล้ว..จะมีฝรั่งพวกนี้ เดินเหิรพูดคุยเหมือนคนบ้า ขี้เมา...แต่ที่แท้ พวกนี้ ซีไอเอทั้งนั้น ฮา
     
  5. ทะเลลึก

    ทะเลลึก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +80
    รู้จักคนบ้าคนหนึ่ง เวลาใครด่าแกว่า "ไอ้บ้า" แกก็จะด่ากลับว่า "แกนั่นแหละบ้า"
     
  6. Pomaii

    Pomaii สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +5
    โลกนี้ไม่มีคนบ้า ในพุทธกาล คนสามัญไม่น้อยสงสัยในพุทธองค์ องคุลีมาลห้อยนิ้วเสมือนคนบ้าแต่ไม่ใช่ เลดี้กาก้าดูบ้าๆ รับทรัพย์ไป หญิงที่อุ้มก้อนหินและร้องเพลงกล่อมเด็ก ผูกฝังจิตกับลูกที่เสียไป ภาพที่เห็นเรียกว่า ideal image คือภาพที่ต้องการเห็น ขาดสติในการรับรู้โสตประสาททางสายตา เพราะภาพในจิตนั้นเข้มข้นกว่า หรือสิ่งที่เราเรียกว่าหลอน แต่จริงๆแล้วเรียกว่ากรรมครับ หลายท่านไม่คุยกับพ่อแม่แต่ใช้ชีวิตทำงานในสังคมรู้เรื่อง บางคนมีหน้ามีตา แต่ถึงเวลาคุยกับพ่อแม่ ไม่เคยคุยกันรู้เรื่อง ทั้งคู่ต่างหลอนตัวเองเวลาคุยกัน กรรมครับ...
     
  7. ชีวอน

    ชีวอน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2012
    โพสต์:
    246
    ค่าพลัง:
    +763
    คนอื่นผมไม่รู้ แต่ผมไม่ได้บ้านะจริงๆ ตามไปถามสายันได้ ถ้าไม่จริงให้อมขี้หมามาพู่ ใส่หน้าได้เลย ขอบคุณกาบบบบบบบบ สัดๆๆๆสี่ๆๆๆๆสสสสสสส ปะๆๆๆๆแปดๆๆๆๆๆปปปปปปป
     
  8. ตาดำดำ

    ตาดำดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +732
    อาการทางจิตมีหลายอาการ
    - delusion หรือ fixed-false belief
    คือ ความเชื่อแบบผิดๆ ความหลงผิด ที่ไม่สามารถสั่นคลอนได้
    เช่น มีความระแวงว่านายก.จะทำร้าย ต่อให้เอานายก.มายืนยัน หรือต่อให้บอกว่านายก.ไม่ได้คิดแบบนั้น ยังไงก็ไม่ยอมเชื่อ อาจจะคิดไปด้วยว่าคนที่บอกร่วมมือกับนายก.ซะด้วยซ้ำ ยังไงก็จะหาเหตุผลมาจนได้ว่านายก.คิดไม่ดีกับตน ซึ่งเหตุผลฟังดูแล้วก็ข้างๆคูๆ บางครั้งอาจไม่เป็นเหตุเป็นผลแต่เค้าก็เชื่อแบบนั้นจริงๆ
    อยากให้ลองดูเรื่อง A Beutiful mind ผมว่าจะเข้าใจอะไรได้ดีขึ้น
    - poor insight ก็เป็นอาการหนึ่งที่ผู้ป่วยจะไม่ยอมรับว่าตัวเองเจ็บป่วย เพราะเชื่อว่าสิ่งต่างๆที่ตนเห็นหรือได้ยิน หรือความเชื่อหลงผิดนั้นเป็นของจริง ดังนั้นจึงไม่ยอมตรวจ ไม่ยอมรักษา ไม่ยอมกินยา

    การวินิจฉัยอาศัยอาการหลายๆอย่างประกอบกัน อาจมีไม่ครบทุกอาการก็ได้ คนที่มีอาการเริ่มแรกก็ย่อมมีอาการเพียงเล็กน้อย คนทั่วไปอาจสังเกตไม่พบ แต่คนใกล้ชิดจริงๆอาจเริ่มเห็นว่าผู้ป่วยมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป ผู้ป่วยอาจลังเลว่าอาการที่เกิดขึ้นจริงหรือไม่ในช่วงแรก แต่เมื่อเกิดมากๆบ่อยๆ รวมถึงกระบวนการคิด การใช้เหตุผลก็มีปัญหา จนไม่สามารถแยกแยะความเป็นจริงกับอาการได้
    ตัวอย่างโรค - Schizophrenia - มีความผิดปกติหลายด้าน ทั้งด้านการพูด การคิด การรับรู้ทางประสาทสัมผัส ถ้าปล่อยไว้จะมีความบกพร่องทางด้านสติปัญญา การนึกคิดได้
    - delusional disorder - มีแค่ความคิดหลงผิด แต่อย่างอื่นปกติดี ถ้าปล่อยไว้ไม่รักษาอาจกลายเป็น schizophrenia ได้

    จะแยกอย่างไรเรื่องความคิดหลงผิด
    ต้องดูว่าความคิดเหล่านั้นผิดไปจากความเป็นจริงหรือไม่(out of reality) บางอย่างอาจต้องอาศัยข้อมูลจากคนใกล้ชิด เพราะเพียงผู้ป่วยเล่าอาจแยกไม่ออก เช่นบอกว่าสามีมีเมียน้อยจึงวางแผนฆ่าตน แบบนี้ก็คงต้องดูข้อมูลหลายๆด้าน บางทีก้อาจแยกได้ยากกับความเชื่อของแต่ละท้องถิ่น เช่น ในชนบทเชื่อเรื่องผีปอบ ซึ่งอาจไม่แปลก แต่ถ้าอยู่ชุมชนเมืองแล้วคิดว่ามีผีปอบก็อาจจะต้องไปตรวจโดยผู้เชี่ยวชาญ

    ปัญหาคือ คนไข้ไม่รู้ตัว และคนอื่นรอบๆก็ไม่รู้ว่าป่วย เลยเสริมความคิดหลงผิดก็มี เรียกว่า เสริม delusion ทำให้การวินิจฉัยและการรักษาเป็นไปได้ยาก อย่างบางคนเป็นหมอดู คนรอบข้างก็เชื่อว่ามีญาณวิเศษจริง ก็ไม่พามารักษา หรือคิดว่าไม่ป่วยก็ไม่ให้ผู้ป่วยรักษาก็มี ดังนั้นไม่ใช่แค่ผู้ป่วยไม่รู้ตัว คนรอบข้างก็อาจไม่รู้ด้วย

    สาเหตุ - ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่เป็นจากความผิดปกติในสมองทำให้สารสื่อประสาทบางชนิดมีมากผิดปกติ จึงเกิดอาการรับรู้ผิดปกติ เช่น ไม่มีเสียงอะไร ก็คิดว่ามีเสียงคนพูด หรือรับรู้สิ่งเร้าเปลี่ยนไป เช่น เห็นเชือกกลายเป็นงู

    ถ้าเป็นทางพุทธ ก็เชื่อว่าเกิดจากกรรม เช่น ชาติก่อนดื่มเหล้า มาชาตินี้ก็กลายเป็นคนสติไม่ดี เป็นต้น (ส่วนใหญ่ผู้ป่วยที่เป้นโรค ก็มักจะมีประวัติใช้สารเสพติดด้วย)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2012
  9. ผีอีแพง

    ผีอีแพง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +117
    คุณหลวง ขา.......................อยู่นี่ไหม?

    "โอมให้ช้างลืมโขลง โอมให้โขลงลืมไพร โอมให้มันร้อนเร่า โอมให้มันรักใคร่ โอมให้มันอยู่มิได้"

    "โอมของไม่แพง โอมค่าแรงสามร้อย โอมคอยไป..เจ็ดล้านห้า โอมโดดสภาเอาอยู่ โอมเงินที่ปล่อบกู้จงกลับมา"

     
  10. นายเบทร์

    นายเบทร์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    882
    ค่าพลัง:
    +91
    คนบ้าจะไม่บอกว่าตัวเองบ้าครับ

    แสดงว่าเขาก็ไม่รู้ว่าบ้า

    หยังผมนี่ก็ไม่บ้า เอ๊ะ???
     
  11. HLC

    HLC เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    466
    ค่าพลัง:
    +259
    เท่าที่เคยพบเจอมานะ

    นอกจากจะไม่รู้ตัวแล้ว พวกเขายังคิดไปว่าตัวเองเหนือกว่าสูงส่งกว่ามนุษย์ปกติแบบเราๆท่านๆด้วยซ้ำ


    เป็นทั้งมนุษย์ต่างดาว เอเลี่ยนพันธุ์ผสม ผู้พิทักษ์จักรวาลหยุดยั้งสงครามอวกาศ เทพ มนุษย์กึ่งเทพ พระเจ้า พระพุทธเจ้าในชาติถัดไป Messiah พระโพธิสัตว์ พระศรีอารย์ อนุพุทธะ นารายณ์อีกหนึ่งอวตารมาเกิด พระนเรศวรมาเกิด นโปเลียนกลับชาติมาเกิด เรียกยูเอฟโอได้ คุยกับมนุษย์ต่างดาว คุยกับมนุษย์ต่างมิติ คุยกับมหาเทพ พระพรหม เจ้าแม่กวนอิม พญานาค หนุมาน ผี วิญญาณ .. ฯลฯ สารพัดจะจาระไน
    ล้วนเป็นยอดมนุษย์ผู้วิเศษ อัครอภิมหาเทพเทวา กันทั้งน๊านนนน


    หาดูและศึกษาอาการ เป็นประสบการณ์ ได้ความรู้ และความฮา ได้ที่บางเว็บ
    มาชุมนุมกันเยอะแยะไปหมด นับไม่ถ้วน ราวเป็นเป็นศูนย์รวมคนบ้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในจักรวาลเลย


    สิ่งเดียวที่พวกเขาไม่เป็น และจะไม่ยอมเป็นเด็ดขาด คือ เป็นมนุษย์ปกติธรรมดา เฉกเช่นชาวโลกทั่วไปเขาเป็นกัน
    555555555555555

    (||)(||)(||)(||)(||)(||)(||)
     
  12. เทพธรรมบาล

    เทพธรรมบาล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    1,215
    ค่าพลัง:
    +291
    คนบ้าไม่เท่าไหร่ เจอบ้าไม่เลิกนี่แหละหนักใจ
     
  13. ตาดำดำ

    ตาดำดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +732
    ครับ นอกจากปัญหาที่ไม่สามารถแยกแยะความผิดปกติกับความเป็นจริงได้
    การที่หลงอยู่กับจินตนาการว่าตัวเองเป็นผู้วิเศษ VS ต้องมายอมรับความจริงว่าที่แท้ตัวเองคิดไปเอง แค่ประสาทหลอน ก็ยากที่จะยอมรับความจริงได้เช่นกัน

    แต่ในโลกนี้ยังมีเรื่องเหนือธรรมชาติที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้อีกมาก จึงเป็นความยากที่จะบอกได้ว่าใครบ้าหรือไม่ แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะบอกหรอก อย่างที่บอกแล้วว่า out of reality เป็นแค่อาการหนึ่ง ยังต้องอาศัยข้อมูลที่บ่งชี้ความผิดปกติอื่นๆด้วย

    ในทางกลับกัน ต่อให้บอกว่าไม่เชื่อเรื่องเหนือธรรมชาติ ไม่เชื่อเรื่องที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้ ก็ไม่ได้แปลว่าคนนั้นไม่บ้านะครับ

    ปล.
    reality = การรับรู้สภาวะต่างๆตามความเป็นจริง = รูปธรรม+นามธรรม = สิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้+สิ่งที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ไม่ได้
    ดังนั้น ถ้ามีผีอยู่จริงแล้วเค้าเห็นผี ก็ไม่ได้แปลว่าผิดปกติ หรือถ้าเค้ามีหูทิพย์ตาทิพย์จริงก็ไม่ใช่เรื่องแปลก
    คนที่จะบอกว่าคนอื่นบ้าจึงต้องรู้ว่าอะไรคือความเป็นจริงตามธรรมชาติ รู้ว่าสิ่งที่เค้ารับรู้มานั้นผิดปกติหรือไม่ ซึ่งก็ต้องแยกกับความเชื่อในสังคมนั้นๆ คนที่ชอบอะไรแปลกแหวกแนวหรือพวกมีความคิดสร้างสรรค์ต่างๆที่คิดไม่เหมือนชาวบ้านอีก จึงเห็นได้ว่า การที่จะบอกว่าใครบ้าหรือปกติ คงไม่ใช่แค่พูดกันคำสองคำแล้วจะบอกได้ ยิ่งไม่เคยพบเจอ ไม่รู้จักลักษณะนิสัย ไม่มีข้อมูลจากคนรอบข้างก็ยิ่งยากครับ คงได้แค่ตระหนักไว้ว่าอาจมีความผิดปกติแค่นั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 พฤษภาคม 2012
  14. แฝดแก้มก้อย

    แฝดแก้มก้อย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +28
    อันนี้ น่าสนใจนะคะ ...จิตสั่งให้เห็น เป็นหลอน มันต่างกับ สิ่งที่เห็นจริงแบบหลอนๆมั้ยคะ เล่าสู่กันฟังนะคะ คุณพ่อดิฉันป่วยเป็นโรคสมองเสื่อมจากการอุดตันหลอดเลือดในสมองคะ ช่วงแรกที่ป่วย หมอบอกเค้าอาจจะมีอาการหลอน ภาพลวงตา ตอนนั้น คนรอบข้างมองว่าคุณพ่อ "บ้า"คะ เพราะคุณพ่อ ไม่นอนเลย ร้องตะโกนโวยวาย สับสน การกิน นอน พูด เดิน ทุกอย่าง แต่นี่คุณพ่อ ป่วยมาแปดปีแล้วถึงเข้าใจ สภาวะของโรคนี้ชัดเจนคะ แต่ตอนแรก วันแรกๆที่พ่อป่วย พ่อมองเพดาน ยิ้ม พูดคุยกับเพดาน แล้วบอกว่า "ไปก่อนเถอะ ไว้จะตามไป (ยังไม่ไป)" แปลกแต่จริง ฟังเค้าเล่าว่า เพิ่งได้เจอกับตัว แอบอึ้งเล็กๆ ว่าจริง หรือ หลอน....:boo:
     
  15. ตาดำดำ

    ตาดำดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    420
    ค่าพลัง:
    +732
    อาการทางจิต(เช่น การพูด การคิด การรับรู็้้ทางประสาทสัมผัสที่ผิดปกติไป) เกิดได้จากหลายสาเหตุ
    - โรคทางกาย
    - โรคทางจิตเวช
    - การใช้สารเสพติด เหล้า คาเฟอีนขนาดสูงๆ

    โรคทางกาย - เช่น โรคทางสมอง ลมชัก สมองเสื่อม อุบัติเหตุทางศีรษะ สมองอักเสบ/ติดเชื้อ โรคหลอดเลือดสมอง
    เกลือแร่ไม่สมดุลย์ เบาหวาน โรคไต ขาด O2 โรคหัวใจ มะเร็ง การใช้ยาบางตัว โรคตับแข็ง ซึ่งจะมีผลให้สมองทำงานผิดปกติที่เรียกว่าอาการสับสน
    หรืออาจเกิดจากภาวะฮอร์โมน เช่น ไธรอยด์ ผู้หญิงหลังคลอด

    วิธีการแยกระหว่างสาเหตุจากโรคทางกาย กับ ทางจิตเวช ก็มีวิธีอยู่ คร่าวๆ เช่น อาการจากภาวะทางกายมักส่งผลให้สมองสับสน จึงเป็นขึ้นมาทันที มีอาการไม่รับรู้เวลา สถานที่ บุคคล ซึ่งอาการมักเป็นช่วงกลางคืน อาการขึ้นๆลงๆในแต่ละวัน หรือขึ้นกับช่วงที่มีอาการทางกายผิดปกติ เช่น ก่อนชักบางคนได้กลิ่นแปลก เห็นแสงผิดปกติ เห็นเฃือกเป็นงู หรืออาจมีภาพหลอนเป้นภาพชัดเจน การรับรู็สัมผัสแปลกๆเหมือนอะไรไต่ตามตัว คนไข้จะเห็นจริงและคิดว่าสิ่งเหล่านั้นมีจริง แต่คนรอบข้างจะไม่เห้นว่ามีอะไร หลังจากนั้นก้จะมีอาการชักตามมา บางคนกล้ามเนื้อกระตุก บางคนอาจแค่นิ่งเหม่อไปเฉยๆ หรืออาจมีแค่ประสาทหลอนไม่มีอาการชักก็ได้

    ต่างกับคนไข้จิตเวชที่การรับรู้สิ่งต่างๆยังดีอยู่(ยกเว้นกรณีเป็นมากอาจมีความคิดสับสนมากจนแยกกับภาวะสมองสับสนได้ยาก) อาการจะค่อยๆเป็นค่อยๆไปอาจใช้เวลาเป็นหลายเดือนหรือหลายปี ช่วงแรกก็พูดคุย ทำงาน เรียนได้ปกติ ช่วงหลังจะเริ่มอาการมาก การคิดการทำงานแย่ลงไปเรื่อยๆ อาการทางจิตมักเป้นอยู่เรื่อยๆไม่ขึ้นกับเวลา อาการประสาทหลอนมักเป็นหูแว่ว ระแวงเป็นหลัก ภาพหลอนมักไม่ชัดเจนอาจเป็นเงาลางๆ (ต่างกับสาเหตุทางกายที่มักเป็นภาพหลอนชัดเจน ได้กลิ่นแปลกๆ รู้สึกสัมผัสแปลกๆ) แต่หากอาการจิตเป้นมากๆก็อาจมีภาพหลอนชัดเจนได้

    โดยส่วนใหญ่ต้องนึกถึงสาเหตุทางกายก่อนโดยเฉพาะคนสูงอายุ หรือคนที่มีโรคทางกายอยู่เดิม ถ้าไม่มีอาการทางกายที่อธิบายได้จึงจะนึกถึงโรคทางจิตเวช

    อันนี้พูดถึงความผิดปกตินะครับ ซึ่งจะต้องมาแยกกับภาวะปกติ เรื่อง ฌาณ เรื่องวิญญาณอีก

    ยังไงก็ตาม ผมก็เชื่อเรื่องจิตวิญญาณ นิมิตเช่นกัน คนใกล้ตายก็จะเห็นสุขนิมิตหรือทุกขนิมิตตามแต่เส้นทางที่จะได้ไป แต่บุคคลเหล่านั้นก็คือบุคคลปกติ สิ่งที่เขาเห็นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริง ดังนั้นการรับรู้สิ่งอื่นก้ย่อมปกติ พูดคุยได้รู้เรื่อง สติปัญญาเป็นปกติ เพราะไม่ได้เกิดจากอาการผิดปกติด้านการรับรู้

    ปล.1
    ไม่รู้มีใครเคยฝันเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนจริงมากๆบ้างหรือไม่ ตื่นมายังอาจงงเลยว่าเมื่อกี้ฝันไปหรือเป็นเรื่องจริง แต่ก็ย่อมมีวิธีการที่จะเช็คได้ว่าสิ่งเหล่านั้นเกิดขึ้นจริงหรือไม่ อาจเช็คกับคนรอบข้างก็ได้ เช็คจากเวลา ... ยังไงซะการพิสูจน์ความจริงย่อมไม่ยากอะไร
    หรือเรื่องความเชื่อ บางทีก็กลายเป็นวัฒนธรรมไปก็มี เช่น ความเชื่อเรื่องตัดผมวันพุธไม่ดี จิ้งจกทักห้ามออกจากบ้าน ศุกร์ 13 อันนี้ก็คงไม่ต้องแก้เพราะส่วนใหญ่คงไม่ได้เป็นผลกระทบอะไร บางคนที่หลงผิดคิดว่าตนมีอำนาจวิเศษไปเป็นหมอดูก็มี อันนั้นคนเป็นได้ประโยชน์ คนที่ไปดูดวงก็พออกพอใจกันไป
    ส่วนใหญ่คนทั่วไปจึงมักไม่พิสูจน์ ใช้ความเชื่อความรู้สึกของตนตัดสินมากกว่า บางทีก็เสียดายนะที่คนเหล่านั้นไม่คิดจะแสวงหาความจริงบ้าง แต่จะมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาก็ได้ ไม่งั้นพวกหนังพวกละครก็คงขายไม่ออก หากจะเอาแต่เรื่องจริงมาพูดกัน

    ปล.2
    กรณี rep บน น่าจะลองถามรายละเอียดถึงสิ่งที่ท่านเห็น ถามท่านว่าท่านกำลังคุยกับใคร สิ่งที่เห็นนั้นลักษณะอย่างไร อย่างในพุทธกาลก็มีเรื่องที่เศรษฐีคนหนึ่งใกล้ตายแล้วเห็นว่ามีเทวดามารับ ถ้าสมองปกติก็ย่อมจะเล่าได้ แต่หากเกิดจากอาการสับสน ก็อาจจะพูดคุยไม่รู้เรื่อง เช่นไม่รับรู้เวลา สถานที่ หรือบุคคล บางคนอาจคิดว่ากลางคืนเป็นกลางวัน คิดว่าบ้านไม่ใช่บ้านของตัวเอง หรือถ้าสับสนมากๆอาจถึงขึ้นจำคนรอบข้างไม่ได้ หลังจากที่หายสับสนผู้ป่วยก็มักจะจำเรื่องราวช่วงที่มีอาการไม่ได้ บางคนอาจคิดว่าฝันไป แต่หากเป็นคนปกติก็ย่อมจะจำเรื่องราวรายละเอียดที่เกิดขึ้นได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤษภาคม 2012
  16. artidk

    artidk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +129
    ถ้าถามคนเมาว่าเมาไหม ป่าวยังไม่มาวววว

    ถามคนบ้ามั่ง เอ็งซิบ้า ข้าไม่ได้บ้า
     

แชร์หน้านี้

Loading...