ผมต้องการคําตอบครับ เวลาพระท่านเทศน์แล้วแถมมุขตลกจะบาปไหมครับ

คือผมเกิดอาการสงสัย อ่อเจตนาตั้งกระทู้นี้ผมอ่านกรรมบถ10 แล้วข้อตรงที่พูดเพ้อเจอเหลวไหล ไม่เป็นประโยชน์ ไรพวกนี้แล้วเกิดสงสัย อยากได้คําตอบว่า

เวลาพระท่านสมัยนี้ท่านเทศน์ใช้ไหมครับ ท่านก็เล่นมุขตลก(แต่จริงแบบสิ่งใกล้ตัว แบบพระมหาสมปอง ยกก่อนท่านสอนคือผมคือท่านสอนคิดตัดความคิดเครียดไม่ให้เครียด แล้วแฝงธรรม ไปในตัว แบบนี้จะผิดกรรมบถ10ไหมครับ คือธรรมคลายเครียด จะเรียกแบบนี้ก็ได้)

 

พระภิกษุเป็นแบบอย่างของการสังวรณ์ สำรวม ระวังในอินทรีย์ทั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย

อันเป็นทางผ่านเข้า ออก ของบุญและบาป ดังนั้นคำตอบของคำถามคือ ควรแล้วหรือ

 

พระภิกษุเป็นแบบอย่างของการสังวรณ์ สำรวม ระวังในอินทรีย์ทั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย

อันเป็นทางผ่านเข้า ออก ของบุญและบาป ดังนั้นคำตอบของคำถามคือ ควรแล้วหรือ

 

บางทีอาจไม่บาปเสมอไปนะครับ เป็นการที่ทำให้เราคล้อยตามธรรมนั้นนะครับ
แล้วก็จะรู้ว่าบาปไม่บาปก็ใช้ปัญญาพิจารณากันเถอะครับ

 

ผมว่าไม่บาปหรอกครับ มีมุขตลกเพื่อดึงดูดคนฟัง ถ้ามานั่งเทศน์แต่เนื้อหาผมคนนึงแหละที่ฟังแล้วจะหลับ เพราะฉะนั้นถึงต้องมีมุขบ้างไม่งั้นน่าเบื่อแย่เลย แล้วถ้าเราเบื่อจะทำให้ไม่ตั้งใจฟังไม่ได้สาระจากการฟังธรรม

 

การรักษาศีลนั้น ให้ดูที่ผลลัพธ์เป็นหลัก ครับ

อย่างเช่น กรณี อยู่ในป่า กวางวิ่งผ่านหน้า นายพรานเดินตามมา ถามว่ากวางไปทางไหน
จะเลือกให้ศีลข้อ 1 ด่างพร้อย หรือ จะผิดศีลข้อ 4 ดีครับ?

เช่นเดียวกัน การสอนธรรมะคนในปัจจุบัน ก็ต้องดูตามจริตนิสัย จะให้เทศน์แบบเดิมๆ สมัยพุทธกาล สักพันคน คงจะเหลือคนนั่งฟัง 2-3 คน...
ดังนั้น กรณีนี้ คงจะเหมาะกับคำว่า "กุศโลบาย" (กุศล + อุบาย) ครับ

 

เออจริงครับ ขอโทษครับที่ตั้งคําถามแบบนี้ พอดีบางครั้งผมดูธรรมแล้วพระท่านเทศน์แล้วไปมาๆ มันเกินไปสําหรับผม แต่ผมก็เลวเองไปเพ่งโทษ เพราะไม่ใช่หน้าที่ของผม

 

คุณปุณบพิตร ตอบได้ดี
ถูกแล้วที่เป็นกุศโลบายโน้มนำผู้คนให้เข้าหาธรรม
อย่าลืมว่า กลยุทธิ์พวกนี้ มักถูกใช้โดยสมมุติสงฆ์ทั้งสิ้น...
..ถ้าเป็นอริยะสงฆ์อย่างหลวงตามหาบัว...จะตรงกันข้าม
...องค์ท่านจะพิจารณาจริตของผู้ฟัง(รู้ด้วยญาน) ถ้าเป็นคนดี ก็จะเทศน์ดี
ถ้าเป็นคนที่มีกิเลศหนา ท่านก็จะเทศน์แรงๆ เพื่อขัดกิเลศอย่างหนาออกไป..
ท่านเปรียบว่าถ้าคนพ้นน้ำ จะเป็นไม้ที่ก้านตรง เหลาบางๆ พูดดีๆก็เข้าใจธรรม
แต่ถ้าคนที่มีกิเลศมาก เปรียบไม้ที่มีตาปุ่มตาป่ำมาก จำต้องใช้ขวานถาก คือ พูดแรงๆ กิเลศมันถึงจะหลุดได้...สาธุ

 

หาส่วนดีของท่านดีกว่า ส่วนไม่ดีของใครเราก็พยายามอย่าไปใส่ใจให้มาก ถ้ายังไม่ถึงกับผิดศีลละเมิดวินัยอย่างร้ายแรงก็ปล่อยๆไป เวลาของเรามีน้อย ไม่ชอบองค์นี้ก็ไปหาองค์อื่นที่สอนถูกใจเรา

 

ขอออกความคิดเห็นด้วยคนนะขอรับ

ผมว่าไม่บาปครับ เพราะว่าท่านมีเจตนาดี ต้องการให้คนสนใจในธรรมมะ ในความหวังดีของท่าน ไม่ได้ประสงค์ร้ายอ่ะครับ แล้วมันก็ไม่เข้าข้อพูดเพ้อเจ้อนะ เพราะว่าท่านพูดอย่างงี้แล้วทำให้คนตั้งใจฟัง

ผมเคยไปฟังเทศน์นะ ตอนแรกๆเริ่มรู้สึกเมื่อย ไม่ค่อยตั้งใจฟัง พระท่านเลยพูดแบบสบายๆ ยิ้มแย้ม พูดให้คนอื่นขำโดยการยกตัวอย่าง คนทำบาป ประมาณนี้ ทำให้ผมตั้งใจฟังอ่ะครับ ผมว่าเป็นการดีด้วยนะครับ

 

เพศของนักบวชกับเพศฆราวาส มีความเป็นอยู่ต่างกันตลอดจนความประพฤติมารยาท ความสำรวมระวังต่างๆต้องเป็นไปตามแบบหรือประเพณีของพระที่เป็นเพศที่สงบงามตา ผู้เป็นพระสงฆ์จึงควรมีความเข้มงวดกวดขันในข้อวัฏปฏิบัติต่างๆ ให้เป็นที่อบอุ่นเย็นใจแก่ตนและเป็นที่น่าชื่นชมเลื่อมใสแก่ผู้อื่น

อ้างอิงจาก ž’หนังสือปฏิปทาของพระธุดงค์กรรมฐาณ สายท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

 

นักบวช ที่ เทศ นา โดย หยอด ขบขัน (ดีกว่า) เรา ต้อง มา ดู ที่ พระ วินัย

ที่ นักบวช ตน นั้น รับ รักษา ไว้ ก่อน เพราะ ท่าน อยู่ ใน เพศ ของ นักบวช

พระ วินัย เพศ ของ นักบวช ตน นั้น ได้ กำหนด ไว้ หรือ ไม่

หาก ไม่ ก่ ไม่ ผิด หาก กำหนด ไว้ ก่ ถือ ว่า ผิด

เพราะ ปกติ พระ วินัย จัด ให้ เป็น ศีล เพื่อ ความ เป็น ระเบียบ

เรียบ ร้อย ของ เพศ นั้น ๆ ให้ ดำรง มั่น เป็น ปกติ หรือ มี ศีล

หรือ ข้อ บัญญัติ เพื่อ ความ เป็น ปกติ เรียบ ร้อย นั้น เอง

ทั้ง ภาย นอก และ ภาย ใน

 

เห็น post คุณ phudit999 หลาย post แล้ว สงสัยมาก
พิมพ์คำ เว้นคำนึง ถนัดหรือครับ?

 

ชิน แล้ว ครับ

ตอน นี้ พิมพ์ ชิด กัน เลย มี ปัญหา

 

เวลาอ่าน คนอ่านก็ต้องอ่านแบบตะกุกตะกักด้วยค่ะ ^^