การเตรียมตัว เตรียมใจ ไปสู่ยุคภัยพิบัติ

สมาชิกใหม่สวัสดีครับ ผมและครอบครัว ขอถวายเงินร่วมบุญกับมูลนิธิพระพุทธเจ้าห้าพระองค์ โดยโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย 093-2-43875-5 เมื่อเช้านี้9/05/55เวลา 08:36น. จำนวนเงิน 500บาท (ผม pm ที่อยู๋ให้เมื่อวานคืน
นี้ครับ)ขออนุโมทนาบุญและผู้ร่วมบุญทุกๆท่านด้วยครับ
<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->

 

ขอแจ้งที่อยู่ในการจัดส่งลูกแก้วพระรัตนตรัย
ณัฐิกานต์ วัฒนะ
127/32 อาคารปัญจธานี ชั้น 27 (บริษัท บางกอกเทอร์มินอล โลจิสติกส์ จำกัด)
ถนนนนทรี เขตยานนาวา กรุงเทพฯ 10120
ขออนุโมทนาค่ะ

 

ขอให้ญาติมิตรธรรมทุกท่าน ปลอดภัยกับการปรับเปลี่ยนเพื่อเข้าไปสู่ยุคใหม่ การเปลี่ยนยุคในครั้งนี้จะกินเวลา 59 วัน 7 ราตรี (1 ราตรี = 7 วัน) 7 วันสุดท้ายจะป็นวันที่ก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ ท้องฟ้าจะค่อยๆสว่างขึ้น ขอให้ญาติมิตรธรรมทุกท่านมาช่วยกันมาหมุน ธรรมจักรกัปปวัฒนะสูตร ร่วมกัน เพื่อให้พวกเราเข้าสู่บ้านเกิดที่เป็นแดนนิพพาน และ เราคือโลก โลกคือเรา

ธรรมจักรกัปปวตน(วัฒนะ)สูตร
ความหมายของคำว่า "ธรรมจักรกัปปวตน(วัฒนะ)สูตร" <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
1.แปลความหมายตามคำ: = ธรรมะ+จักร+กัปป+วัฒนะ+สูตร<o></o>
@ ธรรมะ หมายถึง ธรรมชาติ<o></o>
@ จักร หมายถึง หมุน หรือ การเหวี่ยงหมุน (เป็นกริยาอาการ)<o></o>
@ กัปป หมายถึง ระยะเวลาอันยาวนานจนหาที่สิ้นสุดยุติไม่ได้ (Infinity)<o></o>
@ วัฒนะ หมายถึง ความก้าวหน้า<o></o>
@ สูตร หมายถึง ข้อกำหนด หรือ กฎเกณฑ์<o></o>
2.ธรรมจักรกัปปวัฒนสูตร จึงหมายถึง กฎเกณฑ์ของการเหวี่ยงหมุนธรรมชาติ ให้เกิดความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องยาวนานโดยมิรู้สิ้นสุดยุติ<o></o>
กฎเกณฑ์การหมุนธรรมจักร:<o></o>
1.ใช้อายตนะทั้งหกให้ได้ ใช้ให้เป็น และใช้ให้ถูกต้อง อันหมายถึง สัมผัสรู้ดูเห็นสิ่งใดเรื่องใดก็ตาม มนุษย์จะต้องสั่นสะเทือนจิตสำนึกเป็นด้านบวกให้สูงสุดเท่าที่จะทำได้เท่านั้น จะสั่นสะเทือนเป็นด้านลบด้วยอารมณ์รู้สึกนึกคิดด้านลบ ตอบสนองสรรพสิ่งหรือเรื่องราวที่ตนสัมผัสรู้ดูเห็นมันอยู่นั้นไม่ได้โดยเด็ดขาด<o></o>
2.เมื่อสั่นสะเทือนจิตใจตนเองเป็นด้านบวกสูงสุด ตอบสนองการสัมผัสรู้ดูเห็นของอายตนะภายนอกภายในทั้งหกดังกล่าวแล้ว จะต้องนำไปสู่การนึกบวกเพื่อการคิดรู้ด้วยสมองที่เป็นด้านบวกต่อไปด้วย หมายความว่า เมื่อสั่นสะเทือนจิตสำนึกด้านบวกได้แล้ว ก็ต้องคิดด้วยสมองของตนเองทางด้านบวกต่อไปอีกว่า ตนจะตอบสนองสิ่งนั้นเรื่องนั้นหรือคนๆนั้นที่เป็นด้านบวกอย่างไร จึงจะถูกต้อง เหมาะสม และดีงามได้ โดยไม่เป็นเงื่อนไขด้านลบให้เขาหรือผู้อื่นเกิดการเสียสมดุลหรือจิตตก คือ โกรธ แค้น ขุ่นเคือง เศร้าหมอง เสียใจ หรืออื่นๆ ทั้งนี้การสั่นสะเทือนจิตสำนึกด้านบวกที่ว่านี้ มนุษย์จะต้องเข้าถึงมันให้ได้ ไม่ว่าเงื่อนไขที่ตนสัมผัสรู้ดูเห็นนั้นมันจะเป็นสิ่งที่ตนไม่พึงประสงค์เอาเสียเลยก็ตาม มนุษย์ก็จะต้องสั่นสะเทือนด้านบวกตอบสนองแค่เพียงสถานเดียว!!!<o></o>
3.เมื่อกำหนดนึกด้วยจิตทางด้านบวก แล้วนำไปสู่การคิดด้วยสมองทางด้านบวกเรียบร้อยแล้ว ก็ให้นำเอาผลึกแห่งการคิดหรือผลการคิด-ตัดสินใจด้วยสมองของตนนั้น แสดงออกหรือกระทำตอบสนองต่อสิ่งนั้น เรื่องนั้น หรือคนนั้นให้เป็นรูปธรรมในขั้นตอนสุดท้าย อันหมายถึง เมื่อเธอสั่นสะเทือนทางอารมณ์รู้สึกนึกคิดเป็นด้านบวกได้ ไม่ว่าจะสัมผัสรู้ดูเห็นด้วยอายตนะภายนอกภายในชิ้นใดก็ตาม เธอก็จะต้องขับเคลื่อนหรือเหวี่ยงหมุนมันออกมาภายนอก เพื่อกระทำตอบสนองทางด้านบวก ให้ผู้อื่นเขารับรู้ด้วย<o></o>
เท็คนิกการหมุนธรรมจักรภายในตนเองให้สำเร็จ<o></o>
1.ถ้าเธอสามารถหมุนเวียนอายตนะภายนอกของเธอ ผลัดกันสัมผัสรู้ดูเห็นสิ่งเร้าภายนอกใดๆในชีวิตประจำวัน แล้วถ่ายทอดข้อมูลการสัมผัสนั้นเข้าสู่อายตนะภายใน คือ
"จิตหยาบ" เพื่อให้มันสั่นสะเทือนเป็น "การรับรู้" ขึ้นมาเฉยๆ คือ รู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้ว ก็ให้ถ่ายทอดข้อมูลการรับรู้นั้นต่อไปยัง "จิตวิญญาณ" ซึ่งเป็นแก่นแท้ที่เร้นอยู่ข้างในสุดให้จงได้<o></o>
2.ถ้าเธอใช้จิตหยาบรับรู้แล้ว ทำเกินหน้าที่ คือ "รับเอา" เสียเอง เช่น ชอบ-ไม่ชอบ สวย-ไม่สวย อยาก-ไม่อยาก เท่ากับว่าการหมุนธรรมจักรของเธอนั้นไม่สมดุลเสียแล้ว ถือว่าล้มเหลวแล้ว เพราะแท้แล้วผู้ที่จะต้องมีหน้าที่สั่นสะเทือนขั้นสูงสุดก็คือ จิตวิญญาณของเธอต่างหาก มิใช่จิตหยาบของเธอหรอก ซึ่งข้อมูลของการสัมผัสรู้ดูเห็นอันเกิดจากการรับรู้ของจิตหยาบนั้น จะถ่ายทอดหรือเหวี่ยงหมุนต่อเข้าไปยังจุดศูนย์กลางหรือแก่นแท้ได้ก็ต่อเมื่อ จิตหยาบ "รับรู้อะไรแล้วต้องไม่รับเอา" นั่นเอง เช่น เห็นก็สักแต่ว่าเห็นอะไร ได้ยินก็สักแต่ว่าได้ยินอะไร เป็นต้น<o></o>
3.เมื่อเหวี่ยงหมุนข้อมูลต่างๆจากอายตนะภายนอก สู่อายตนะภายใน แล้วไปจบที่แก่นแท้หรือจุดศูนย์กลางของการหมุน ที่เธอเรียกว่า "จิตวิญญาณ" แล้ว แก่นแท้ของเธอมันก็จะสั่นสะเทือนตนเองด้านบวกเพื่อการรับเอาทันที เนื่องจากจิตวิญญาณของเธอมีคุณสมบัติทางอารมณ์รู้สึกนึกคิดอยู่ด้านเดียวเท่านั้น นั่นคือ "รักสุดหัวใจ รักเพื่อให้ไม่ใช่รักเพื่อเอา รักใครก็ได้รักได้ทุกๆคน รักอย่างไม่มีเงื่อนไขและรักโดยไม่ต้องให้ใครร้องขอ" ไม่ว่าใครคนนั้นจะเป็นลบไม่สบอารมณ์ของจิตหยาบของเธอขนาดไม่น่าให้อภัยเลยก็ตาม<o></o>
4.ในขั้นตอนสุดท้าย จิตวิญญาณของเธอนอกจากจะสั่นสะเทือนตนเองขึ้นมาทางด้านบวกได้แล้ว ก็จะกระตุ้นให้สมองทั้งสองซีกตื่นตัวขึ้นมาสั่นสะเทือนเพื่อการคิดรู้ด้วยปัญญาทางด้านบวกด้วยว่า จะตอบสนองออกมาเป็นพฤติกรรมภายนอกอย่างไร เมื่อมั่นใจแล้วก็จะแสดงพฤติกรรมนั้นออกมาอย่างเป็นรูปธรรมทันที<o></o>
5.ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คือ "เท็คนิกการหมุนธรรมจักรภายในตนเองให้สำเร็จ" ซึ่งพระบิดาทรงย้ำเสมอว่า มันคือ "รักได้-ให้เป็น" ใช่มั้ยล่ะเนี่ย??????<o></o>
การสร้างกระบวนการ "ธรรมจักรกัปปวัฒนสูตร"<o></o>
1.เธอต้องรู้ไว้ด้วยว่า "มนุษย์อย่างพวกเธอน่ะ จะไปสวรรค์คนเดียวไม่ได้" หมายความว่า ถ้าเธอสามารถเหวี่ยงหมุนธรรมจักรในตนเองได้สำเร็จแล้ว เธอจักต้องช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์คนอื่นๆที่เธอเกี่ยวข้องสัมพันธ์คบหา ให้เขาสามารถเข้าถึงการเหวี่ยงหมุนธรรมจักรในตัวของเขาด้วย โดยมีตัวเธอนั่นแหละจะต้องเป็นผู้ช่วยเหลือ<o></o>
2.เธอจะสามารถช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ทุกคน ให้เข้าถึงการเหวี่ยงหมุนธรรมจักรในตนเองของพวกเขาแต่ละคนได้ เพียงแค่ให้เธอใช้ผลสำเร็จในการเหวี่ยงหมุนธรรมจักรในตัวเธอเองนั่นแหละ ขับเคลื่อนมันออกมาเป็นพฤติกรรมภายนอกที่เป็นด้านบวกบริสุทธิ์ ทั้งความรัก ความรู้ และความคิด เพื่อแสดงออกหรือกระทำต่อเพื่อนมนุษย์ทั้งหลายให้เขาสามารถใช้อายตนะภายนอกภายในสัมผัสรู้ดูเห็นความเป็นบวกของเธออย่างเป็นรูปธรรมที่สุดให้จงได้เท่านั้นเอง ไม่ได้ยากเย็นอะไรเลย<o></o>
3.ถ้าหากว่าเธอและมนุษย์ทุกคน หมุนธรรมจักรในตนเองได้เป็นผลสำเร็จ แล้วช่วยเหลือผู้อื่นให้เขาสามารถเหวี่ยงหมุนธรรมจักรในตนเองได้ต่อเนื่องกันไปเรื่อยๆเช่นนี้แล้ว การเหวี่ยงหมุนธรรมจักรของพวกเธอทั้งสังคม ทั้งประเทศ และทั้งดาวโลกมันก็จะเกิดความก้าวหน้าต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่รู้จบสิ้น (Infinity)<o></o>
4.ที่เรากล่าวสอนเธอมาทั้งหมดนี้ เป็นแค่เพียงมายาด้านกายภาพของการเหวี่ยงหมุน
ธรรมจักรในตนเองของพวกเธอทั้งดาวโลกเท่านั้น แต่เธอต้องรู้เอาไว้ด้วยว่าในมิติของแก่นแท้ ที่เป็นกระบวนการทางพลังงานนั้น ถ้าเธอหมุนธรรมจักรเป็นผลสำเร็จ การปฏิสัมพันธ์ทางพลังงานจากจิตสำนึกด้านบวกของพวกเธอ มันก็จะเกิดขึ้นและเป็นไปตามสมการ Sum-Beta.x (ซัมเบต้าเอ็กซ์) ที่เราเรียกว่า "ยันต์ไฮเท็ค"นั่นเอง<o></o>
การสร้างกระบวนการ "ธรรมจักรกัปปวัฒนสูตร" เพื่อการทำให้โลกหมุนรอบตัวเอง<o></o>
1.สมการ ∑ β<SUB>x</SUB> = 3X² (β₁ + β₂ +β₃ +.......+β<SUB>x</SUB>) เป็นสมการพลังงานจากจิตสำนึกด้านบวกของพวกเธอทั้งหมดในวินาทีใดๆ ที่สามารถร่วมกันหมุนธรรมจักรในตนเองพร้อมๆกันได้อย่างต่อเนื่อง ตามกรรมวิธีที่เราสอนไว้ทั้งหมดตั้งแต่ต้นนั้น ซึ่งมันจะมีหน่วยพลังงานของจิตที่ได้จากสมการนี้เป็น เม็กกะเฮิร์ทซ์ (Mhz.) หรือคิดเป็นจำนวนรอบของการเหวี่ยงหมุนต่อวินาทีนั่นเอง<o></o>
2.พลังงานรวมนี้ จะอยู่ในรูปของคลื่นความถี่ทางไฟฟ้าแม่เหล็กที่เป็นด้านบวก ที่พวกเธอเรียกว่า "พลังจิต" ซึ่งมีคุณสมบัติทางไฟฟ้าเป็นบวก และเป็นชนิดเดียวกันกับคลื่นความถี่ทางพลังงานของสนามแม่เหล็กโลกเช่นกัน พลังงานรวมจากจิตสำนึกด้านบวกของพวกเธอทั้งโลกในทุกๆวินาทีนี่แหละ เป็นสิ่งที่ดาวโลกของเธอต้องการ และเป็นหน้าที่ของจิตวิญญาณผู้เป็นแก่นแท้ของเธอทุกๆคนที่ได้รับโอกาสให้มาเกิดเป็นมนุษย์ ก็ต่างขันอาสาพระบิดา คือ องค์จิตจักรวาลว่า จะมาทำหน้าที่อันสำคัญนี้ในบทบาทของ "เพื่อนร่วมงานกับดาวเคราะห์โลก" ให้ประสบผลสำเร็จให้จงได้ ซึ่งเป็น 1 ในพันธะสัญญา 6 ที่พวกเธอต่างให้ไว้ต่อพระบิดาตั้งแต่ก่อนมาเกิดเป็นมนุษย์ในภพชาติแรกโน่นแน่ะ <o></o>
3.ถ้าพวกเธอทั้งโลกสั่นสะเทือนจิตสำนึกด้านบวกต่อกัน หรือหมุนธรรมจักรร่วมกันให้ได้อย่างต่อเนื่อง ดาวโลกของเธอก็จะเป็นเหมือนสวรรค์บนดิน จะไม่เสียสมดุลกันมากมายอย่างทุกวันนี้เลย สังคมของพวกเธอก็จะเต็มไปด้วยสันติสุข คนโง่ คนงมงาย คนชั่วบนโลกของเธอก็จะไม่มี เพราะทุกคนรักได้ ให้เป็น ใช้สมองเป็น จริงมั้ย???<o></o>
หมุนธรรมจักรร่วมกันไม่ได้ จะกลายเป็นหมุน "กรรมจักร" แทน<o></o>
1.หน้าที่หลักทางจิตวิญญาณของพวกเธอ รวมทั้งสัตว์ และต้นไม้น้อยใหญ่ ต่างจะต้องสั่นสะเทือนแก่นแท้ของตนให้เป็นด้านบวก เพื่อแสดงออกหรือกระทำต่อกันทางกายภาพ คือ คิดดี ทำดี พูดดี อารมณ์รู้สึกนึกคิดดีต่อกัน และแสดงออกต่อกันในมิติทางพลังงานด้านของแก่นแท้ ผ่านสมการ ∑ β<SUB>x</SUB> ให้สำเร็จในทุกวินาทีให้จงได้ด้วย<o></o>
2.การทำเช่นนี้ก็คือ การเหวี่ยงหมุนธรรมจักภายในตนเอง เพื่อช่วยให้เพื่อนมนุษย์คนอื่นๆเขาเหวี่ยงหมุนธรรมจักรตามเธอ และนำเอาพลังงานรวมทั้งหมดนั้นไปกระตุ้นแก่นหรือแกนโลกหรือจิตสำนึกของดาวโลกที่เธอเหยียบยืนนี่แหละ ให้สั่นสะเทือนตามทางด้านบวกด้วย เมื่อแกนโลกสั่นสะเทือนตามได้อย่างต่อเนื่อง มันจะก่อให้เกิดการบิดตัวของแกนแม่เหล็กโลก จนยังผลให้ดาวโลกของเธอเหวี่ยงหมุนรอบตัวเองตามไปด้วยในที่สุด<o></o>
3.เธอเห็นภาพความจริง (TRUTH) ของการเหวี่ยงหมุนธรรมจักรในตัวเธอ เพื่อเหวี่ยงหมุนร่วมกับคนอื่นๆ แล้วช่วยกันทำให้ดาวโลกเหวี่ยงหมุนในบั้นปลายนี่มั้ยล่ะว่า ภารกิจของพวกเธอที่เป็นมนุษย์ตัวเล็กนิดเดียว สามารถทำให้โลกซึ่งมีขนาดใหญ่ มีมวลมากกว่าตัวเธอนับเท่าไม่ถ้วน หมุนรอบตัวเองได้อย่างต่อเนื่องมาจนบัดนี้นั้นมันยิ่งใหญ่ สง่างาม น่าภาคภูมิใจขนาดไหน ถ้าเธอทำได้มันน่าภูมิใจกว่าทำตัวเป็นขยะรกโลกตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายภพชาติแล้ว เธอว่ามั้ย???<o></o>

 

4.นี่ล่ะ...เธอจึงต้องเข้าให้ถึง "ธรรมจักรกัปปวัฒนสูตร" ให้ได้อย่างแท้จริงก่อนกาลสิ้นยุคที่เราเตือนมาตลอดเวลา เพราะมนุษย์ล้มเหลวไม่นำพาในสิ่งที่พระบิดาสื่อสอนผ่านเรามา มหันตภัยธรรมชาติทั้งหลายที่จะนำความหายนะมาสู่พวกเธอกับชาวโลกในเร็วๆนี้ ที่พวกเธอไม่เคยพบเจอในประวัติศาสตร์โลก จะเป็นสิ่งน่ากลัวและโหด! ที่พวกเธอเลี่ยงไม่พ้นแล้ว เพราะอะไรรู้มั้ย? ก็เพราะพวกเธอทำในสิ่งไม่ควรทำ คือ ทำในสิ่งตรงกันข้าม ด้วยการใช้อารมณ์ขยะรายวันสั่นสะเทือนต่อกันทั้งทางจิตใจและกายภาพ มันคือการก่อ "กรรมจักร" อันเป็นที่มาของกฎแห่งกรรม กับสังสารวัฏชัดๆ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
หากใครต้องการศึกษารายละเอียดเรื่อง การหมุนธรรมจักร และใช้ธรรมจักรหมุนโลกก็ให้ไปอ่านเพิ่มเติมในพระคัมภีร์จิตจักรวาล ซีรี่ส์ 19 และ 20 เพิ่มเติม เพราะเราได้สื่อถ่ายทอดมาให้ได้เรียนรู้กันตั้งนานแล้ว<o></o>
เส้นทางนิพพานมี 2 ทางเลือก คือ นักรบแห่งแสงสว่าง กับ นักสู้เพื่อการรู้แจ้ง <o></o>
1.ภายในเวลาก่อนสิ้นยุคพลังงานเก่า (6 หมื่นปี) ซึ่งขณะนี้ล่วงเลยมากว่าแปดร้อยปีเศษแล้ว มนุษย์ทุกคนจะต้องนำพาจิตวิญญาณของตนกลับบ้าน คือ นิพพาน หรือหลุดพ้นออกไปจากสังสารวัฏที่มีการเวียนว่ายตายเกิดเป็นสำคัญให้จงได้ ไม่ว่าจะบรรลุผลสำเร็จสูงสุดในการปฏิบัติธรรมด้วยบทบาทใดก็ตาม<o></o>
2.สำหรับมนุษย์โลกเสรีนี้ พระบิดาทรงกำหนดทางเลือกเสรีเอาไว้ให้สองทาง คือ<o></o>
(2.1)เส้นทางของนักรบแห่งแสงสว่าง: <o></o>
ถ้าเลือกทางนี้ก็จะต้องอุทิศตนและทุ่มเทให้กับภารกิจนี้อย่างจริงจัง เช่น ต้องสละสิ้นซึ่งทางโลก นำตนออกห่างไกลจากอาสวะกิเลส พร้อมที่จะปลีกวิเวก ไม่ยุ่งเกี่ยวกับทางโลกและไม่ยอมให้ทางโลกมายุ่งเกี่ยวกับตนใดๆทั้งสิ้น จึงต้องถือครองพรหมจรรย์และครองสมถะทั้งชีวิต!!! ส่วนใหญ่สถานที่ๆเหมาะสมคือ ป่าเขาลำเนาไพรหรือหลืบถ้ำ วิธีการเข้าถึง "แสงสว่าง" อันหมายถึง การรู้แจ้งในทุกสิ่งได้ด้วยตนเองนั้นจะต้องใช้กระบวนการทางเท็คนิกที่เรียกว่า "สมถะกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน" บุคคลเหล่านี้จึงต้องเป็นนักพรต นักบวช ผู้ทรงศีล ซึ่งจะต้องทุ่มเททั้งเวลา จิตใจ และชีวิตให้กับภารกิจบนเส้นทางสายนี้อย่างจริงจัง เพราะไม่ว่างที่จะมีลูกเมีย ไม่ว่างที่จะดูแลครอบครัว ไม่ว่างที่จะทำธุรกิจการค้า และอื่นๆ<o></o>
‎(2.2)เส้นทางของนักสู้เพื่อการรู้แจ้ง:<o></o>
พวกเธอที่มิใช่นักพรตนักบวช แต่เลือกที่จะมีลูกเมียสามี มีครอบครัว มีธุรกิจการงานค้า มีหน้าที่ราชการบ้านเมือง คือ ผู้ที่ไม่ว่างเพราะวุ่นอยู่กับทางโลก เธอจึงเลือกเส้นทางแรกแบบนักพรต นักบวช ไม่ได้ เพราะมันไม่เหมาะสมกับพวกเธอเลย เนื่องจากเธอไม่ว่างที่จะนั่งกรรมฐานในถ้ำเป็นเดือนๆ การถือศีลกินเจปฏิบัติธรรมนั่งกรรมฐานทำบุญสุนทานอย่างทุ่มเททุกวันทั้งชีวิตของเธอนั้น เป็นเรื่องเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับฆารวาสอย่างเธอ พวกเธอจึงสมควรเลือกเส้นทางนักสู้เพื่อการรู้แจ้งนี้เป็นมรรควิถีสู่นิพพานกันเท่านั้น ไม่มีหนทางอื่น นั่นคือ <o></o>
@ เธอจะต้องบวชที่ใจ<o></o>
@ ประพฤติธรรมในชีวิตประจำวันด้วยปัญญา<o></o>
@ แผ่เมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยการ "ให้"<o></o>
@ มีปลายทางสุดท้าย คือ กลับบ้านไปกราบพระบาทพระบิดา (นิพพาน)<o></o>
ดังนั้น การที่หลายภพชาติที่ผ่านมา เธอประพฤติธรรมมามากมานานแต่นิพพานไม่ได้ เพราะเธอไปยืมเอาวิธีปฏิบัติทางเท็คนิกของนักบวชในบางเสี้ยวส่วนมา ทั้งๆที่เวลาในชีวิตของเธอไม่มากพอ ซึ่งมันสู้ปฏิบัติธรรมไปในชีวิตประจำวันให้เป็นธรรมชาติของตนเองไม่ได้เลย<o></o>
กฎแห่งกรรม กับ กฎแห่งการกระทำ <o></o>
กฎแห่งกรรม เป็นกฎแห่งการกระทำในมิติทางพลังงานด้านของแก่นแท้ อันเกิดจาก "มโนกรรม" หรือ การกระทำทางอารมณ์ ความรู้สึก และการนึกคิดของจิตมนุษย์นั่นเอง<o></o>
ทันทีที่จิตมนุษย์สั่นสะเทือนทางด้านลบ ในด้านที่ไม่ใช่ความรัก จิตกับกายสังขารก็จะสั่นสะเทือนร่วมกันเพื่อผลิตสร้างอนุภาคประจุไฟฟ้าลบขึ้นภายในตนเองแล้วจะถ่ายทอดสู่กระแสโลหิตที่เซลสมองซีกซ้าย ทำให้เซลร่างกายและอวัยวะทุกเซลเต็มไปด้วยประจุไฟฟ้าลบที่เซลอวัยวะร่างกายไม่ต้องการ ยังผลให้เครื่องยนต์แห่งกรรมของมนุษย์โลกมีอายุขัยใช้งานสั้นลงเสื่อมลง ทั้งๆที่พระบิดากำหนดสร้างไว้ไม่ให้มันต้องตายเลยสักนิดเดียว นี่คือ "ผลกรรม" ที่เธอต้องรู้!!!<o></o>
เมื่อจิตสั่นสะเทือนต่อใครหรือสิ่งใดทางด้านลบ มันยังจะก่อให้เกิดผลกรรมทางพลังงานที่เรียกว่า "รหัสบุรพกรรมแม่เหล็ก" หรือ "วิบากกรรม" ที่จะสั่งสมไว้เป็นคุณสมบัติของจิตวิญญาณเมื่อตายไปในภพชาตินั้น ซึ่งมันก็คือ "ขยะทางพลังงาน" ที่จิตวิญญาณของเธอถือติดตัวไปด้วยเมื่อสิ้นอายุขัยนั่นแหละ พอได้รับโอกาสให้มาเกิดเป็นมนุษย์ใหม่ จิตวิญญาณของเธอก็จะแบกขนเอาขยะเหล่านี้ติดตัวมาด้วย คราวนี้เธอต้องมีภารกิจเพิ่มขึ้นจากพันธะสัญญา 6 ที่ให้ไว้ต่อพระบิดาแล้ว นั่นคือ การกำจัดขยะทางพลังงานที่เรียกว่า "บุรพกรรมแม่เหล็ก" มากน้อยแค่ไหนมีเท่าไหร่ต้องกำจัดมันให้สิ้นซาก เพื่อทำให้จิตวิญญาณเธอสะอาดบริสุทธิ์ดังเดิม คือ ว่างไปจากบุรพกรรมหรือว่างจากวิบากกรรมให้ได้ งานหนักขึ้นใช่มั้ยล่ะ???<o></o>
ถ้าในภพชาติใหม่นั้น ขจัดผลกรรมขยะของจิตวิญญาณตนเองไม่สิ้นซาก แถมยังสร้างใหม่เพิ่มเข้าให้อีก ก็ต้องเวียนตายเวียนเกิดเพื่อขอโอกาสพระบิดาแก้ไขกันอยู่นั่นล่ะ สุดท้าย...ก็นิพพานไม่ได้ เพราะจิตวิญญาณสกปรก และช่วยค้ำจุนโลกไม่ได้<o></o>
ถ้าเธอใช้อายตนะและอวัยวะของเธอ (กายกรรม) ไม่เป็นและใช้ไม่ถูกต้อง ในการแสดงออกหรือกระทำต่อผู้อื่น เธอก็จะต้องย้อนกลับสู่การเวียนว่ายตายเกิดไปเรื่อยๆจนกว่าเธอได้เรียนรู้ที่จะใช้มันให้เป็นและใช้ได้อย่างถูกต้อง<o></o>
ผลกรรมที่เธอจะได้รับก็คือ "บททดสอบจิตสำนึกของเธอ" ที่จะมองเห็นคุณค่าและประโยชน์ของอายตนะและอวัยวะชิ้นนั้นๆอย่างแท้จริง เพื่อเธอจะได้เรียนรู้ที่จะใช้มันอย่างรู้คุณค่า เช่น ถ้าเธอได้พบเจอพระศาสดาหรือผู้สมดุลทางจิตวิญญาณแต่เธอกลับไม่เคารพ ไม่นับถือ ไม่ศรัทธา ไม่นำพาในคำสอนของท่านนั้นๆ ภพชาติหน้าที่เธอจะต้องรับผลกรรมนั้นก็คือ ตาเธออาจพิการ (ข้อหามีตาแต่ไร้แวว) เธอจะอับเฉาเบา
ปัญญาจนนำปัญหามาสู่ชีวิตตนเองอยู่เนืองๆ (โง่เพราะมีปัญญาแต่ไม่รู้จักใช้) เป็นต้น<o></o>
กฎแห่งการกระทำ เป็นกฎเกณฑ์ทางกายภาพของมนุษย์โลกเอง<o></o>
1) ปลูกกล้วยได้กล้วย ปลูกอะไรได้สิ่งนั้น<o></o>
2) ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว<o></o>
3) เด็กเลี้ยงแกะ ไม่มีใครเชื่อถือ<o></o>
4) ทำผิดกฎหมายก็ต้องรับโทษตามกฎหมาย<o></o>
5) สอบตกเพราะเกียจคร้าน เพราะขยันจึงสอบได้<o></o>
6) เพราะประมาทจึงเกิดอุบัติเหตุ<o></o>
7) เพราะกินไม่ดี สุขภาพร่างกายจึงทรุดโทรม<o></o>
8) เพราะทำตัวไม่ดีจึงไม่มีใครคบหา<o></o>
2.การกระทำทางกายภาพที่ไม่ถูกต้องต่อผู้อื่นนั้น กฎแห่งการกระทำก็คือ มันจะเป็นเงื่อนไขด้านลบของผู้อื่น ที่จะนำไปสู่การต่อสู้ ตอบโต้ ต่อต้าน และหลีกเลี่ยงอย่างใดอย่างหนึ่ง ที่ผู้อื่นเขาจะกระทำตอบที่เธอเองไม่ปรารถนาเช่นกัน<o></o>
(ป.วิสุทธิปัญญา)

 

ในหลวงจะประพระราชฐาน อยุธยา ช่วง 11-13 พ.ค นี้
น่าจะมี นัยยะ บางอย่างหรือเปล่า ครับ

 

กิจใดที่ท่านอัญญาสิทธิ์ตั้งใจทำเพื่อพระพุทธศาสนาทั้งหมดทั้งมวลนั้น ดิฉันขออภิโมทนากุศลนั้น และขอให้ทุกสิ่งที่ท่านตั้งใจทำตามความประสงค์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์สำเร็จลุล่วงด้วยดี สาธุ สาธุ สาธุ

 

จะเป็นการบังเอิญหรือเปล่าก็ไม่ทราบนะครับ ผมกับคุณพ่อและคุณแม่และน้องชายและว่าที่น้องสะใภ้พวกเราทั้งหมดมีกำหนดการเดินทางไปท่องเที่ยวแถบภาคเหนือ โดยออกเดินทางเช้าวันอังคารที่ 15 พ.ค. 2555 นี้ครับ โดยใช้เวลาท่องเที่ยว1สัปดาห์กว่าๆ แต่ผมสังหรณ์ใจว่าไปเที่ยวคราวนี้แล้วคงไปลับไม่ได้กลับมาภาคกลางอีกแน่ๆ (ถ้าฟ้ามืดก่อน17พ.ค.2555) แต่ก็พอมีคนรู้จักอยู่ในจังหวัดที่จะไปเที่ยว เห็นเขาชวนให้ไปอยู่ด้วยกันนานแล้ว อาจจะได้ไปอยู่กับเขาจริงๆก็ได้งวดนี้

 

หมายถึง "แปรพระราชฐาน" ใช่มั้ยครับ ... ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมนะ ไม่ควรนำพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่าน ไปเชื่อมโยงกับ นัยยะแห่งการเกิดเภทภัยพิบัติ โดยรวมทั้งหมด
เหมือนกับการตีความเรื่อง พระมหาชนก เอง หลายท่านตีความจนทำให้พระราชนิพนธ์กลายเป็นปริศนาธรรม-ปริศนาแห่งการเตือนภัย จนลืมใครครวญถึงสาระอันแท้จริง ... สิ่งที่พสกนิกรอย่างเราๆท่านๆควรตะหนักให้มาก ควรจะเป็นเนื้อหาสาระในพระราชดำรัสและพระราชนิพนธ์ นั้นจะดีกว่า

หากแม้นเราเคารพพระองค์ท่านดังพระโพธิสัตย์ น้อมเหนือเศียรเหนือเกล้า การตีความโดยใช้หลักการเดาพระทัยพระองค์ ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง

 

อนุโมทนากับมหากุศล มหาผลบุญ ทั้งหมดทั้งมวลของท่านอัญญาสิทธิ์พร้อมคณะด้วยครับ
สาธุ สาธุ สาธุ

 

9 พค เนื่องจากยังมีข่าวไม่ดีอย่างต่อเนื่องเกิดขึ้นมาเกี่ยวกับภัยพิบัติดังนั้น ขอทุกท่านช่วยกันท่องสื่อและอธิษฐานร่วมกันนะครับ


สำหรับท่านที่เป็นห่วงสถานการณ์ภัยพิบัติตอนนี้ ท่านสามารถร่วมช่วยประเทศและโลกของเราได้นะครับ โดย ดึงพลังงานเต๋าแม่เหล็กไฟฟ้าจากจักรวาลที่ยิ่งใหญ่มา ช่วยสลายภัยพิบัติได้

วิธีนี้อาจารย์"เมี่ยวกว่อ"แห่งประเทศจีนได้คิดค้นเอามาจากคัมภีร์ "เต๋าเต้อจิง"81บท ของท่านเหลาจื่อ(เล่าจื๊อ)ปรมาจารย์แห่งวิถีเต๋า

วิธีดึงพลังงานเต๋าแม่เหล็กไฟฟ้าจากจักรวาลมา ช่วยสลายภัยพิบัตินี้ไม่มีอันตรายกับท่านอย่างแน่นอนครับเพราะ อาจารย์"เมี่ยวกว่อ"ได้ยืนยันด้วยตัวของท่านเองว่าผู้ที่ทำด้วยใจรักเมตตา บริสุทธิ์ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน จะไม่มีผลกระทบอะไรแน่นอน

และอีกประการนึงผมได้เรียนรู้มาว่าวิถีเต๋านี้เป็นวิถีที่สวนกระแสธรรมชาติ อยู่แล้วดังเช่นในเรื่องเล่าแต่โบราณว่ามีนักพรตเต๋าอยู่ได้เป็นร้อยๆพันๆปี ได้ เขาทำได้อย่างไรเพราะว่าวิถีเต๋านี้เป็นวิถีที่สวนกระแสธรรมชาตินั่นเองครับ

อีกทั้งวิธีนี้เป็นวิธีดึงพลังงานเต๋าแม่เหล็กจักรวาลมาใช้และสะเทินออกไป ดังนั้นจึงไม่กระทบตัวเราแต่อาจจะรู้สึกเหนื่อยบ้างนะครับ(แต่ไม่ อันตราย)เพราะต้องใช้พลังจิตของท่านอยู่บ้าง ท่านที่มีปัญหาสุขภาพขอให้ทำแค่ตามกำลังเราที่ไหวนะครับ


และท่านอาจารย์"เมี่ยวกว่อ"ก็ได้ยืนยันด้วยตัวท่านเองด้วยว่าท่านยินดี แบกรับโรคภัยของทุกท่านไว้ด้วยชีวิตของท่านเองสำหรับผู้ที่ทำด้วยใจรักเมตตา บริสุทธิ์ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ดังนั้นท่านที่อยากท่องรหัสเต๋า10คำดึงพลังงานเต๋าแม่เหล็กจักรวาลสลายภัย พิบัติก็ไม่ต้องกลัวไปนะครับ ถ้าท่านทำถูกตาม คำแนะนำด้านบนจะไม่มีผลกระทบที่ไม่ดีเกิดกับท่านแน่นอนครับ


สำหรับท่านที่อยากช่วยดึงพลังงานเต๋าแม่เหล็กไฟฟ้าจากจักรวาลที่ยิ่งใหญ่มา ช่วยสลายภัยพิบัติแต่ยังไม่รู้วิธีมีขั้นตอนคร่าวๆดังนี้นะครับ

1.ท่องรหัส10คำว่า “ ฉิ่งจ้าวเหล่าซือเก๋ยหว่อเต้าเต๋อซิ่นซี ”


2.ท่องคำอธิษฐานโดยออกเสียงว่าด้วยบารมีของท่านเหลาจื่อและพลังเต๋าที่ยิ่งใหญ่ในจักรวาล
ขอให้ไม่เกิดแผ่นดินไหวทางภาคใต้ของไทย ซึนามิจงสงบ พื้นดินภาคใต้เกาะภูเก็ตจงมั่นคง เกาะภูเก็ตจงสงบและปลอดภัย นานาประเทศจงปลอดภัยจากภัยพิบัติ

3.ท่องรหัส10คำ “ ฉิ่งจ้าวเหล่าซือเก๋ยหว่อเต้าเต๋อซิ่นซี ” กับคำอธิษฐานสลับกันไปมา8นาที(จับเวลาไว้ด้วยนะครับ);
{ตัวอย่างนะครับ
“ ฉิ่งจ้าวเหล่าซือเก๋ยหว่อเต้าเต๋อซิ่นซี ”
ด้วยบารมีของท่านเหลาจื่อและพลังเต๋าที่ยิ่งใหญ่ในจักรวาล
ขอให้ไม่เกิดแผ่นดินไหวทางภาคใต้ของไทย ซึนามิจงสงบ พื้นดินภาคใต้เกาะภูเก็ตจงมั่นคง เกาะภูเก็ตจงสงบและปลอดภัย นานาประเทศจงปลอดภัยจากภัยพิบัติ

ฉิ่งจ้าวเหล่าซือเก๋ยหว่อเต้าเต๋อซิ่นซี ”
ด้วยบารมีของท่านเหลาจื่อและพลังเต๋าที่ยิ่งใหญ่ในจักรวาล
ขอให้ไม่เกิดแผ่นดินไหวทางภาคใต้ของไทย ซึนามิจงสงบ พื้นดินภาคใต้เกาะภูเก็ตจงมั่นคง เกาะภูเก็ตจงสงบและปลอดภัย นานาประเทศจงปลอดภัยจากภัยพิบัติ

ฉิ่งจ้าวเหล่าซือเก๋ยหว่อเต้าเต๋อซิ่นซี ”
ด้วยบารมีของท่านเหลาจื่อและพลังเต๋าที่ยิ่งใหญ่ในจักรวาล
ขอให้ไม่เกิดแผ่นดินไหวทางภาคใต้ของไทย ซึนามิจงสงบ พื้นดินภาคใต้เกาะภูเก็ตจงมั่นคง เกาะภูเก็ตจงสงบและปลอดภัย นานาประเทศจงปลอดภัยจากภัยพิบัติ..................

ท่องรหัส10คำสลับกับท่องคำอธิษฐานโดยออกเสียงด้วยเช่นตัวอย่างด้านบนจนครบ8นาที}

4. จบท้ายด้วยออกเสียงคำว่า"ดี" ดังๆเพื่อย้ำกับจิตตนเองให้ทุกอย่างดีครับ


ใครมีข้อสลสัยเพิ่มเติมถามได้ในหระทู้นี้นะครับจะพยายามตอบเท่าที่ทำได้ครับ ที่post เพราะเห็นว่า พลังงานนี้มีจริงและกลุ่มเต๋านี้ก็พยายามอธิษฐานช่วยสลายภัยที่ภูเก็ตอยู่ ครับ
==================================

link บอกวิธี การใช้รหัส10คำ “ ฉิ่งจ้าวเหล่าซือเก๋ยหว่อเต้าเต๋อซิ่นซี ”
ในการดึงพลังงานเต๋าธรรมชาติมาช่วยเราและช่วยโลกอยู่ด้้านล่างครับ


ขั้น ตอนซอฟต์แวร์ของการพัฒนาศักยภาพบำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยตนเองและดึง พลังงานเต๋าธรรมชาติมาช่วยเราและช่วยโลก

สำหรับท่านที่เป็นห่วงสถานการณ์ภัยพิบัติตอนนี้ ท่านสามารถร่วมช่วยประเทศและโลกของเราได้นะครับ โดย ดึงพลังงานเต๋าแม่เหล็กไฟฟ้าจากจักรวาลที่ยิ่งใหญ่มา ช่วยสลายภัยพิบัติได้

วิธีนี้อาจารย์"เมี่ยวกว่อ"แห่งประเทศจีนได้คิดค้นเอามาจากคัมภีร์ "เต๋าเต้อจิง"81บท ของท่านเหลาจื่อ(เล่าจื๊อ)ปรมาจารย์แห่งวิถีเต๋า

วิธีดึงพลังงานเต๋าแม่เหล็กไฟฟ้าจากจักรวาลมา ช่วยสลายภัยพิบัตินี้ไม่มีอันตรายกับท่านอย่างแน่นอนครับเพราะ อาจารย์"เมี่ยวกว่อ"ได้ยืนยันด้วยตัวของท่านเองว่าผู้ที่ทำด้วยใจรักเมตตา บริสุทธิ์ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน จะไม่มีผลกระทบอะไรแน่นอน

และอีกประการนึงผมได้เรียนรู้มาว่าวิถีเต๋านี้เป็นวิถีที่สวนกระแสธรรมชาติ อยู่แล้วดังเช่นในเรื่องเล่าแต่โบราณว่ามีนักพรตเต๋าอยู่ได้เป็นร้อยๆพันๆปี ได้ เขาทำได้อย่างไรเพราะว่าวิถีเต๋านี้เป็นวิถีที่สวนกระแสธรรมชาตินั่นเองครับ

อีกทั้งวิธีนี้เป็นวิธีดึงพลังงานเต๋าแม่เหล็กจักรวาลมาใช้และสะเทินออกไป ดังนั้นจึงไม่กระทบตัวเราแต่อาจจะรู้สึกเหนื่อยบ้างนะครับ(แต่ไม่ อันตราย)เพราะต้องใช้พลังจิตของท่านอยู่บ้าง ท่านที่มีปัญหาสุขภาพขอให้ทำแค่ตามกำลังเราที่ไหวนะครับ

และท่านอาจารย์"เมี่ยวกว่อ"ก็ได้ยืนยันด้วยตัวท่านเองด้วยว่าท่านยินดี แบกรับโรคภัยของทุกท่านไว้ด้วยชีวิตของท่านเอง ดังนั้นท่านที่อยากท่องรหัสเต๋า10คำดึงพลังงานเต๋าแม่เหล็กจักรวาลสลายภัย พิบัติก็ไม่ต้องกลังไปนะครับ ถ้าท่านทำถูกตาม คำแนะนำด้านล่างจะไม่มีผลกระทบที่ไม่ดีเกิดกับท่านแน่นอนครับ





ขั้นตอนซอฟต์แวร์ของการพัฒนาศักยภาพบำบัดรักษาโรคภัยไข้เจ็บด้วยตนเองและดึงพลังงานเต๋าธรรมชาติมาช่วยเราและช่วยโลก Untitled


ท่านที่อยากอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมสำหรับพลังเต๋าชนิดนี้เชิญเข้าไปอ่านได้ที่

DaoDeXinXi.org

 

......................

 

ขอรับลูกแก้วพระรัตนตรัยค่ะ

คุณอัญญสิทธ์คะ
ไม่ทราบว่าจะขอรับลูกแก้วพระรัตนตรัย 3 ลูก ได้ไหมคะ
รบกวนส่งที่

ธัญญพัทธ์ เปี่ยมวุฒินันท์
8/29 ม.3 บ้านสวยน้ำใส ซ.10
ต.บางสมัคร อ.บางปะกง
จ.ฉะเชิงเทรา
24180

_/\_ กราบขอบพระคุณค่ะ

 

ได้โอนร่วมทำบุญวันที่ 28/04/12 เวลา 10.29 น
http://image.ohozaa.com/view2/w44Shh5qx6XK1PIk

หากจะขอรับลุกแก้วพระรัตนตรับ 3 ลูก สำหรับครอบครัวด้วยจะขอบคุณมากครับ
ธนกฤต สารเวียง
สถานีวิทยุทหารอากาศ018 น่าน
อ.เมือง จ.น่าน 55000

 

ฐานความรู้เพิ่มครับ... หากเรารอดพ้นจากภัยพิบัติ เราก็ต้องมีความรู้พอที่จะดำรงชีพต่อไปครับ


ชัยพร พรหมพันธุ์ ชาวนามีเงินล้านเพราะใช้หลัก เศรษฐกิจพอเพียง
ชัยพร พรหมพันธุ์ ชาวนามีเงินล้านเพราะใช้หลัก เศรษฐกิจพอเพียง

ข้าวเปลือกเพียง 1 เมล็ด หากมีเคล็ดวิชา มันสามารถเลี้ยงคนในครอบครัวได้ทั้งปี ค้นหาเคล็ดลับนั้นได้จากคลิปรายการสภากาแฟ
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=xVCiLIdIoW0]อ เชาว์วัชกับนาข้าว6ตันต่อไร่ - YouTube[/ame]

กสิกรรมบนดอน
กสิกรรมบนดอน | OpenBase.in.th

http://www.openbase.in.th/files/sitthiporn006.pdf

ฐานข้อมูลสมุนไพร วว. (TISTR Medicinal Plants DB)
ศูนย์ความรู้ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย

เทคนิคการทำนา ตอนที่1
ทำเกษตรให้รวย ทองธรรมดา ศรีเลอจันทร์ เทคนิคการทำนา ตอนที่1 - YouTube

ทางเลือกในการทำวนเกษตรสำหรับไร่และสวนขนาดเล็กบนพื้นที่สูง
http://www.track-of-the-tiger.com/media/volunteer/Agroforestry-Thai-web.pdf

 

สวัสดีค่ะคุณ อัญญาสิทธิ์ ดิฉันได้ร่วมทำบุญด้วยเมื่อวันที่ 27 เมษายน อยากจะได้ลูกแก้วไว้บูชาเหมือนกันค่ะ แต่คิดว่าคงไม่ทันแล้วเพราะว่าช่วง 2วันก่อนไม่ได้เข้ามาอ่านเลย เพราะว่าต้องไปประชุมที่ กทม น่ะค่ะ และอีกอย่างไม่กล้าจะขอด้วยค่ะ เห็นว่าลูกแก้วมีแค่ 500 ลูกเอง ดิฉันคงจะไม่มีบุญพอที่จะได้ลูกแก้ว คงได้แต่ตั้งสติยอมรับกับภัยพิบัติที่จะเกิด
ขึันเร็วๆนี้ค่ะ ขออนุโมทนาบุญด้วยน่ะค่ะคุณอัญญาสิทธิ์

 

สรุปว่าภัยพิบัติมันใกล้เข้ามาแล้วใช่ใหมค่ะ บอกสามีเขาก็ไม่เชื่อ เลยไม่รู้ว่าจะหนีไปหลบที่ไหนดี เขาหาว่าดิฉันบ้าค่ะ สงสัยต้องยอมรับชะตากรรมค่ะ

 

ทำไมไม่มองกลับไปว่า เขาบ้าบ้างล่ะครับ และให้เขายอมรับชะตากรรมของเขาไปด้วย ทำไมเราต้องไปฝากชีวิตกับเขาล่ะครับ

ตอนมา เราก็มาคนเดียว ตอนไปก็ต่างคนต่างไปไม่ใช่เหรอ ?

 

รู้สึกอึกอัดใจ เเละไม่กล้าบอกใครหรอกครับ เรื่องภัยพิบัติใหญ่ที่จะเกิดขึ้นอะครับ

 

ครอบครัวนะครับ เห็นใจเขานิดนึง ผู้หญิงเวลาเลือกใครเขาเลือกฝากชีวิตไว้ ส่วนผู้ชายเราจะเลือกแม่ของลูกมากกว่า เพราะผู้ชายเราไม่ต้องการคนมาดูแล(จุกจิกกับชีวิต)

 

เช่นกัน เพราะ คนชอบ หัวเราะ ว่าบ้า ก็เลยเฉยๆ ดีกว่า อีกอย่างถ้าเกิดจริง ก็ต้องรับชะตากรรม หากไม่เกิดก้อดี เพียงแค่เราเป็นคนที่เพ้อเจ้อ ก็เท่านั้น 5555 น้ำงะ ไม่มาแล้ว แห้งแล้งจะตาย เราก็เงียบแย้ว คอยดูของจริงดีกว่า ไม่พูดแย้วจัวอารมณ์