จิตพร้อม? รับภัยพิบัติ

ผมเข้ามาชาร์ตอยู่ทุกวันคับถ้าเกิดไฟไม่ดับเน็ตใช้ไม่ได้ก็จะเข้ามาคับ แต่แอบเข้ามาชาร์ตแบบไม่เสดงตัวนะคับ:boo::boo:

 

ดีแล้วครับ เกาะท่านไว้ในใจตลอด เดี๋ยวจิตจะละเอียดขึ้น แล้วจะพบกับอะไรที่ไม่เคยเจอ ต้องมีความเพียรนะครับ แต่อย่าอยาก เดี่ยวจะกลายเป็นช้าไป

สู้ๆครับ ผมเอาใจช่วย

 

สวัสดีค่ะพี่วิทย์ วันนี้ทำไมครูละไมนอนดึกได้คะ?​

 

ไปแล้วละครับ เดี่ยวฟุจิดุเอา 555..ฝากครุละมุนรับช่วงต่อเลยนะครับ อิอิ

 

ครูละมุน.. ฮ่าๆ..
เดี๋ยวครูพี่ภูก็มาเข้าเวรแล้วมั้งคะ..
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ ครูละไม

 

เหตุผลว่า ทำไม?​

คนทำจิตเกาะพระกันได้น้อย
คนมีดวงตาเห็นธรรมจึงมีน้อย
คนที่เข้าถึงแก่นธรรมจึงมีน้อย
คนเห็นคุณค่าพระธรรมจึงมีน้อย
คนที่เห็น หรือสัมผัสกับพระพุทธเจ้าจึงมีน้อย
(น้อยเข้าไปกันใหญ่)

" ผู้ใดเห็นทุกข์ ผู้นั้นเห็นธรรม
ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นเรา...ตถาคต "

มองเห็นง่ายๆกัน ก็คือ คุณเคยเห็น Show Room กันไหม๊?
ขอยกตัวอย่างยี่ห้อรถยนต์ Lamborghini
2012 Lamborghini Aventador Pricing
(ถามว่า) มีสักกี่คนที่มีสิทธิ์เป็นเจ้าของ มี แต่น้อยใช่ไหม๊?

ในห้องเรียนของเรา จะมีคนที่เรียนดี เรียนเก่งจึงมีน้อย

เพราะฉะนั้น
พวกเราก็มาสำรวจตนเองว่า เราจัดอยู่จำพวกใด
แต่ถ้าตอบว่า มิได้อยู่ในกลุ่มคนส่วนน้อยที่ได้กล่าวมาแล้ว
(ถามว่า) มีสิทธิ์จะได้ จะเป็นเหมือนกับคนจำนวนน้อยๆนั้นไหม๊?
(ตอบว่า) มีสิทธิ์ มีสิทธิ์ด้วยกันทุกคน
แต่...
ถ้าบุคคลนั้นมีความพยายามอดทน มุมานะสูง ความเพียรสูง หรือมีบำเพ็ญเพียรบารมีสูง

เราอยากมีดวงตาเห็นธรรม
(คนส่วนใหญ่มีดวงตาเห็นแต่โลกมายา เพราะธรรม แปลว่าธรรมชาติ และธรรมชาติ แปลว่าของจริง)
เราอยากเป็นอริยบุคคล
(พระโสดาบัน พระสกิทาคามี อนาคามี พระอรหันต์)
(จิตนะ มิใช่กาย)
เราอยากพ้นทุกข์แบบถาวร
(พวกที่เบื่อความทุกข์กันจริงๆ อยากปฎิบัติธรรม จึงจะเห็นทุกข์นั้นคืออะไร)
อยากมีความสุขแบบถาวร
(ไม่อยากไปวิ่งตามกิเลส โดยเฉพาะความโกรธ หรือตามกระแสโลกเหมือนคนส่วนใหญ่เขาเป็นกัน)
อยากไปพระนิพพาน
(พวกที่เบื่อการเกิด เบื่อการเวียนว่ายตายเกิดกันจริงๆ จึงจะคิดกันได้)

ต่อไปนี้ฯ
พวกเราพอจะตอบคำถามให้กับตนเองกันได้หรือยัง???​

 

แต่ถ้าใครรู้สึกเหนื่อย เมื่อยล้า ทั้งกายและใจ
ก็ให้มาแวะเวียน ทักทายกันที่กระทู้นี้กันนะ
มาชาร์ตแบ๊ตกันที่นี่ มาพักผ่อนจิตใจกันที่นี่ก่อน
(กระทู้ศิราณี...555)

เพราะกระทู้นี้มีแต่ให้
เมื่อท่านกลับไปแล้ว ท่านมีแต่ได้
ได้กำลังใจ ได้บุญ ได้บารมีแห่งตน ถ้าผู้ตั้งใจปฎิบัติจิตเกาะพระกันจริง

แถมมี Dเจหนุ่ม(วิทย์) จัดเพลงให้กันฟังเบาๆ กันอีกต่างหาก
แหม๊! สมเป็นเวปพี่ๆ น้องๆ เพื่อนๆ กันจริงๆ
และยังคงคอยให้กำลังใจกันไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีอะไรมาพลัดพรากจากพวกเราไป

 

คำประกาศ
​

​

ของชาวคณะจิตเกาะพระ หรือจิตบุญ

ขอประกาศว่า...
จะเป็นพุทธบุตรที่ดีของพระพุทธเจ้า ทุกๆพระองค์
วันนี้ ทุกลมหายใจนี้ พวกเราพยายามเฝ้าตามหาจิต ดวงจิตที่หลงเหลือ
ยังคงวนเวียนว่ายตายเกิดกันบนโลก
หรือวัฎฎสงสารกันอยู่นี้

โดยเฉพาะ
จิต ดวงจิตลูกหลานเหลน ของพระพุทธเจ้า ทุกพระองค์
จิต ดวงจิตลูกหลานเหลน ของหลวงปู่ทวด หลวงมั่น หลวงปู่ปาน
และหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เป็นต้น

พวกเราพร้อมช่วยกันยกจิต ดวงจิตของผู้คนเหล่านั้น
บอกให้เดินทางตรง ได้แก่ มรรค ผล นิพพาน และนำดวงจิตกลับขึ้นไปยังพระนิพพานกันให้ได้มากที่สุด
และพวกเราจะยังรอทุกๆจิต ทุกๆดวงจิต
กลับขึ้นไปพระนิพพานด้วยกัน

ก่อนที่กระทู้นี้จะหมดอายุขัย หรืออายุขัยของพวกเราหมด
ก็เป็นอันต้องจบลง​

​

​

​

 

และต่อไปนี้ฯ ชีวิตที่ยังเหลืออยู่ มีลมหายใจกันอยู่
คุณจะยอมให้กรรมเป็นผู้กำหนด(ฟ้าลิขิต)
หรือ...
คุณจะเป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของตนเอง

คุณคือ ค้นฟ้าคว้าดาว เอ๊ย! ไม่ใช่ดิ!!!
คุณคือ ผู้ได้รับสิทธิ์นั้นครับ

สำหรับคนจิตหลง มักหลงทางตรง คือเดินทางอ้อม ก็ยังคงวนเวียนว่ายตายเกิด และไม่รู้จะจบสิ้นกัน เมื่อไหร่
​

และอีกเมื่อไหร่ พวกเราจึงจะเดินทางตรงกัน
คือเลือกเดินทางเข้าสู่พระนิพพาน ตามอย่างพระพุทธเจ้าของพวกเรา​

ปล.วันนี้ขอนำเสนอคลิปละครเรื่อง กรรมลิขิต (คุณมนตรี เจนอักษร)
กับ ชีวิตลิขิตเอง(ฅนค้นฅน)


[ame=http://www.youtube.com/watch?v=AGz_8ncKqrA]กรรมลิขิต "คนขายชีวิต 1" 17 มกราคม 2555 - YouTube[/ame]
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=h5OpM6xqSPc]ชีวิตลิขิตเอง - YouTube[/ame]

 

กราบลาท่านภู๑เดือนไปMinnesota (to see grandchild)ค่ะ มีอยู่วันหนึ่งนั่งภาวนาแล้วเหมือนมองจากเพดานเห็นตัวเองว่ากําลังนั่งห้อยเท้าอยู่ สติก็นึกว่าเราไม่ง่วงนี่นา ก็เลยลืมตา อยากทราบว่าถ้าเกิดขึ้นอีกจะต้องทําอย่างไรคะ ขอบพระคุณค่ะcatt1

 

สวัสดีครับ
สุขกาย สบายใจดีนะครับ
ขอให้เดินทางปลอดภัย มีพระคุ้มครอง มีบุญรักษาทั้งไปและกลับ
ไม่ว่าอยู่ไหน ทำอะไรก็ขอให้ระลึกถึงพระพุทธเจ้าตลอดไป
(เช่น ตาดูหลาน จิตเฝ้าพระพุทธเจ้า เป็นต้น)
ถ้าทำได้อย่างที่กล่าวมาแล้ว ทั้งกายและจิตของเราก็จะปลอดภัย และพ้นจากภัยอันตรายทั้งปวง
นี่เป็นวิธีทำให้จิตเราศักดิ์สิทธิ์ กายเราก็จะศักดิ์สิทธิ์ตาม
เพราะพระพุทธเจ้าท่านจะประทับอยู่ภายในกาย ในจิตของเรา
(ขอให้พระพุทธเจ้าคุ้มครองหลานของคุณด้วยนะครับ)

(ตอบเรื่องการภาวนาทั่วไป)
จิตคุณกำลังอยู่ในขั้นอัปปนาสมาธิ(จิตตั้งมั่น หรือสมาธิในฌาน)
จิตทรงฌาน2แล้ว แต่ถ้าคุณ(จิต)ไม่สนใจภาพที่ปรากฎ หรือนิมิตที่จิตเห็นนั้น
จิตคุณจะยกขึ้นสู่ฌาน3-4 หรือฌานกำลังจะเลื่อนขึ้นโดยอัตโนมัติ
ถามว่าถ้าเกิดขึ้นอีก ก็อย่าไปสนใจสิ่งที่จิตเห็น(นิมิต)
ต่อไปให้กำหนดรู้แล้ววาง โดยการฝึกสติ หรือความรู้สึกตัวให้มากๆ
(และสิ่งที่คุณเห็นนั้น เป็นปิติ1ใน5 คือรู้สึกว่าตัวเองลอยขึ้น)
ตรงนี้ถือว่า คุณพลาดโอกาสจิตทรงฌานสูงขึ้นไปตามลำดับทันที เพราะสติไม่พอ
ในยามปกติพยายามหมั่นเจริญสติให้มากๆ เพราะในขณะจิตเป็นสมาธิ จิตทรงฌานนั้น
จะไม่มีใครช่วยใครได้ นอกเสียจากสติของตนเองเท่านั้น
เพราะสติเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับจิต(จำให้แม่นๆ) มิใช่นิมิต(ขณะจิตทรงฌาน)

ส่วนภาพที่ปรากฎในขณะที่จิตทรงฌาน หรือเรียกกันว่า นิมิต
นิมิตนั้นมีไว้เพื่อหลอกให้จิตหลง เพราะถ้าจิตหลงไปดูแล้ว ฌานก็จะถอยทันที (รู้สึกตัวทันที)
ขณะที่จิตทรงสมาธิ หรือทรงฌานนั้น ถือว่าจิตตั้งอยู่ฝ่ายบุญกุศล(เป็นการสร้างบุญภายใน เป็นบุญใหญ่)
พยายามรักษาอารมณ์สมาธิกันให้ดี จนกว่าจิตเขาจะถอนออกมาจากสมาธิเอง อย่าให้นิมิต หรือมารมาทำลาย

ปล.สำหรับผู้ทำจิตเกาะพระ พยายามทำให้สติเกิดบ่อยๆ เพื่อรองรับกรณีที่จิตไปรับรู้อะไรมา ให้เรามีสติกำหนดแค่รู้รู้ วางวาง รู้เห็นได้ยินแล้ววางเฉย เหมือนเราตามดูจิต ตามรู้จิต ด้วยใจเป็นกลาง เพียงเท่านี้

(เพิ่มเติม)

ปิติ5
แต่ละคนอาจจะเกิดมากน้อยไม่เท่ากัน หรือไม่เกิดกับนักภาวนาก็ได้ แต่ไม่เกิดจะดีมาก เพราะไม่มีอะไรไปรบกวนจิต ขณะจิตทรงฌาน
1. ขุททกาปิติ (ขนลุก น้ำตาไหล)
2. ขณิกาปิติ (เสียว กระตุก หรือเหมือนจะมีมด มีไรมาไต่ตามผิวหนัง)
3. โอกกันติกาปิติ (รู้สึกซู่ซ่า อิ่มใจ)
4. อุพเพงคาปิติ (รู้สึกว่าตนเองลอยอยู่เหนือพื้น)
5. ผรณาปิติ (รู้สึกซาบซ่าน อิ่มเอิบใจไปทั่วทั้งร่างกาย)

องค์ฌาน5
ในรูปฌาน ฌานที่เกิดขึ้นนั้นจะมีองค์ฌานที่เกิดขึ้นตามลำดับ ดังต่อไปนี้ฯ
1. ปฐมฌาน (องค์ฌาน 5 คือ วิตก วิจาร ปีติ สุข และเอกัคคตา)
2. ทุติยฌาน (องค์ฌาน 3 คือ ปีติ สุข เอกัคคตา)
3. ตติยฌาน (องค์ฌาน 2 คือ สุข เอกัคคตา)
4. จตุตฌาน (องค์ฌาน 1 คือเอกัคคตา แต่จะเพิ่มอุเบกขา(ความวางเฉย)มาอีกหนึ่ง)

 

กราบท่านภูค่ะขอบพระคุณค่ะ

 

ขอบคุณคร๊าบบบบบบบบ ถูกจิตจริงๆ
ที่จริงพี่ดัช อยากเอาอะไรเยอะแยะมาลง มีเยอะมากและบางอย่างก้อเป็นภาพที่ถ่ายได้ แต่ นิพพานช่วยกล้วยทอด ทำม๊ะเป็น เคยนำภาพมาลงก้อ ลืมวิธีแล้ว เอาเป็นว่า อย่าว่า เห็นแก่จิต(ตัว) เลยนะ ฮ่วย...

 

ไม่ต้องแสดงก้อได้จ๊า ถ้ากำลังใจพร้อมดีแล้ว แต่เข้ามาทักทายกันก้อดีนะ
เป็นกำลังใจจ๊ะ ขอพระคุ้มครอง

 

ขอบคุณค๊า ที่นำมาลงให้ดูกัน เพิ่งสะกิดใจได้ว่า เอ๊ะ..ชีวิตเราหายไปไหน ทำไม ไม่เคยดูทีวีเลย แตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิงเลย หุหุ

 

็Hello! วันหยุด

สวัสดีครับ ชาวจิตเกาะพระ และชาวจิตบุญทั้งหลาย
มีคนมาเปลี่ยนเวรแล้ว
งั้นพี่ภูก็จะเข้าอาศรมสถานก่อนนะ

555...กระทู้ AM&PM_24 hrs.
bye

 

ยายดูข่าว พลอยได้ยินไปกับเขาด้วยอีกแล้ว ประเทศเปรูนกตายตามชายหาด อืม...คิดกันเอาเองนะว่า ภัยพิบัติได้กัดกระแทะไปทุกหย่อมหญ้าของโลกใบนี้ แม้แต่จิตใจของคนเรา นกตายเป็นเบืออย่างนี้ หรือจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก ตามชายฝั่งเปรู แถบนี้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยอยู่นะ วันๆ ถ้าไม่ได้ยินก้อต้องได้ฟังเกี่ยวกับเรื่องของภัยพิบัติที่เกิดขึ้นอย่างเนืองๆต่อเนื่องกันอยู่ตลอดเวลา ...........พอจะรู้ตัวกันบ้างมั้ยว่า.....ไฟโลกันต์มันสุมสูงรุมๆตรงหลังของเรา ตื่นกันได้แล้ว ตื่นกันซะที ใครที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ อย่าได้แต่อ่านเฉยๆ นำดวงจิตของท่านมาทำการจับภาพพระ เกาะติดพระอยู่เนืองๆเพื่อหลีกหนี วิ่งออกมาให้ห่างจากไฟที่สุมรุมๆอยู่ข้างหลังของเราก่อนที่จะถูกเผาจนไม่เหลือแม้แต่กระจึ๋งของจิตที่จะนำมาเกาะพระ และขึ้นนิพพานหนีไฟโลกันต์ไปอย่างสุดโต่ง กิเลส...คือไฟ ไฟที่ทยอยเผาผลาญใจเราให้ร้อนรน ร้อนเร่า ร้อนรุ่ม แม้เมื่อได้ยินได้ฟังได้อ่านเรื่องไร หรือใครๆเขาพูดแบบไหนที่ไม่พอใจไม่ได้ตามที่ใจต้องการ ในจิตในใจ มันร้อน มันเต้น มันกระเสือกกระสนดิ้นรน ว่าจะแก้แบบไหน ไปทางใด โธ่เอ๋ย..เคยเป็นกันทุกคน ก้อเลยต้องหาที่เกาะ วิ่งไปวัด ไปหาสิ่งศักดิ์สิทธ์ให้ช่วย ให้พระให้เจ้าช่วย จุดธูปบอกต้นไม้ ขอก้อนหินให้ช่วยก้อยังมี หลวงพ่อเทียนบอกว่า บางท่านไปขอให้ต้นไม้ช่วย ท่านบอกว่า ถ้าต้นไม้ช่วยเราได้ทำไมต้นไม้ไม่ช่วยตัวเองก่อนโดยการปลูกบ้านให้ตัวเอง ท่านบอกเห็นชาวบ้านไปตั้งศาลปลูกบ้านให้ต้นไม้ นี่ถือว่าไม่เก่งจริง ปลูกบ้านก้อไม่ได้แล้วจะมาช่วยอะไรให้คนได้ เออ..ก้อจริงของท่าน ทีนี้มาดูที่ตัวเรา ..... วิ่งๆวนๆหาที่เกาะหาที่ช่วย หมอดูอยู่ไหน หมอเดาตามไป หมออะไร อะไร วิ่งไปหาให้หมด เพื่อความสบายใจ เพื่อให้ท่านช่วย ............... อย่ากระนั้นเลยท่านผู้เจริญทั้งหลาย.....มีเทียนในมือหนึ่งเล่ม ถ้าไม่จุดไฟขึ้นมาจะมีใครเห็นแสงสว่างของเทียนท่านมั้ย ไม่มีแสงสว่างใดๆจากเทียนของท่าน ก้อมืดไม่มีแสง ฉันใด ฉันนั้นก้อไม่มีใครเห็นแสงจากเทียนของท่านไม่มีใครเข้ามาหาท่าน เข้ามาช่วยท่านได้... อยากจะบอกว่า ช่วยตัวเองก่อนสิ ก่อนจะไปขอความช่วยเหลือจากใคร...นำจิตนำใจของตัวเองมาดูความนิ่งไม่วิ่งไปตามกระแสของกิเลส....ทางลัดก้อคือ นำจิตเข้ามาเกาะพระ เพื่อความนิ่ง นิ่งเพื่อเริ่ม เริ่มเพื่อหนี นำจิตหนีให้ห่างจากไฟโลกันต์ ไปอย่างสุดโต่งถึงนิพพานกันงัย ฉะนั้นเมื่อใดที่เกิดภัยพิบัติ จิตไม่หวนกลับไปร้อนรน กระวนกระวายกับมันอีกแล้ว กิเลสเรอ...กระเด็นไป กรรมเรอ...ตามไม่ทัน เพราะจิตไม่อยู่ให้ตามทันแล้ว ฉะนั้น...จง นำ จิต ของ ท่าน มา เกาะ พระ กัน........

 

เจ้าค๊า มาเข้าเวรแล้ว รอจนมีคนมาเปลี่ยนเวรเชียวนะท่านพี่..ตอนนี้ก้อขอเชิญตามอัธยาศัยเจ้าค่ะ

 

ขอช่วยอีกแรง.... จงมาเถอะๆๆๆๆๆๆ จงมาๆๆๆๆ

 

" จิตกับปูเสฉวน "​

นึกๆไปแล้วชีวิตคนเราก็ไม่ได้ต่างกับปูเสฉวนเลย
เพราะร่างกายคนเราก็ไม่ต่างจากเปลือกหอย และจิตคนเรานั้นก็ไม่ต่างจากปูเสฉวน
เพราะฉะนั้นร่างกายเป็นเพียงที่อยู่อาศัยชั่วคราวของจิต และเปลือกหอยก็เป็นที่อยู่อาศัยชั่วคราวของปูเสฉวน เท่านั้น

แต่ปูเสฉวนนั้นต้องเปลี่ยนเปลือกหอยอยู่เรื่อยไป เพราะตัวมันโตขึ้น
ซึ่งไม่ต่างกับจิตคนเราที่จะต้องเปลี่ยนร่างกาย เปลี่ยนภพ เปลี่ยนชาติกันอยู่เรื่อยไป
ตราบจนจิตจะเข้าสู่พระนิพพาน
ถึงจะหยุด

(คิดไปได้เน๊อะ! จิตบุญ)
​

​