พระผงจักรพรรดิ กับภัยพิบัติ...

​

...ส่วนผสมในมวลสารของเนื้อพระผงจักรพรรดิ ประกอบด้วยผงจักพรรดิของหลวงปู่ดู่ที่หลวงตาม้า(พระอาจารย์วรงคต วิริยะธโร) วัดถ้ำเมืองนะ ท่านได้รับมาจากหลวงปู่ดู่โดยตรง การสร้างพระเครื่องของหลวงตาม้านั้น ท่านจะนำมวลสารต่างๆของหลวงปู่ดู่มาผสมรวมกับปูนซีเมนต์ขาวและน้ำมนต์จักรพรรดิ จากนั้นจึงนำไปกดพิมพ์ออกมา แล้วนำไปอธิษฐานจิตปลุกเสกด้วยพระคาถามหาจักรพรรดิ ท่านสร้างพระทุกวัน เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการ
การที่หลวงปู่ดู่สร้างหรืออนุญาตให้สร้างพระเครื่องพระบูชา ก็เพราะเห็นว่า ยังมีบุคคลจำนวนมากที่ขาดที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ และเนื่องเพราะศิษย์หรือบุคคลนั้นมีจิตใจทั้งที่ใฝ่ธรรมล้วนๆ กับที่ยังต้องอิงกับวัตถุมงคลอยู่ ท่านเคยพูดว่า "ติดวัตถุมงคล ยังดีกว่าที่จะไปติดวัตถุอัปมงคล" อย่างน้อยก็ดึงให้ใจเขาติดอยู่กับพระเครื่อง ให้เห็นพระทุกวัน ก็เป็นพุทธานุสติ ใจเขาก็เป็นบุญ ดีกว่าปล่อยให้ใจเขาไปติดอยู่กับเหล้ายา กิเลสสิ่งที่ไม่ดีอื่นๆ

คุณลักษณะพิเศษอีกประการหนึ่งในวัตถุมงคลของหลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า นั่นคือการเกิดพระธรรมธาตุขึ้นที่องค์พระ ยิ่งผู้บูชานำพระผงไปกำขณะทำสมาธิ ที่องค์พระก็ยิ่งเกิดพระธรรมธาตุเสด็จมาเกาะมากมาย จนบางครั้งทำให้ไม่สามารถมองเห็นรายละเอียดความคมชัดขององค์พระได้เลย พระธรรมธาตุที่เสด็จมานี้ บ้างก็เป็นเกศาเสด็จ บ้างก็เป็นพระธาตุเสด็จ พระธาตุนี้เมื่อแรกเสด็จมาจะมีขนาดเม็ดเล็กๆ หลังจากนั้นขนาดของเม็ดพระธาตุจะขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

และเป็นที่รู้กันดีในหมู่ลูกศิษย์ว่าพระของหลวงปู่หลวงตา ดิ้นได้ ยิ้มได้ พูดได้ทุกองค์ ทั้งนี้เป็นเพราะ เวลาที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ท่านจะอาราธนารวมกำลังบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยะสงฆ์ พระโพธิสัตว์ทั้งปวง เทพพรหมทั่วสามแดนโลกธาตุ ตลอดถึงบุญบารมีของท่าน ทั้งหมดนี้ให้มารวมกำลังกันเป็นกระแสพลังเหนือพลัง ผ่านพระคาถามหาจักรพรรดิลงสู่พระเครื่องทุกองค์ นอกจากนี้ ยังได้รับการอธิฐานจิตปลุกเสกด้วยวิชา "ภูติพระพุทธเจ้า" ซึ่งเป็นวิชาพิเศษในสายหลวงปู่ดู่นั่นเอง

หลายคนมีความสงสัยว่า ทำไมพระที่หลวงปู่ดู่และหลวงตาม้าสร้าง บังเกิดความอัศจรรย์อย่างนี้ หลวงตาบอกว่า อยู่ที่วิธีการปลุกเสก และกำลังที่อัญเชิญมา พุทธคุณขององค์พระนี้ ท่าน บอกว่าเป็นกำลังของพระรัตนตรัย รวมกับพระจักรพรรดิ และพระโพธิสัตว์ที่บารมีเต็มแล้ว ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โดยมีกำลังบารมี รวมของหลวงปู่ทวด ของหลวงปู่ดู่เป็นที่สุด

จึงมีพุทธคุณ และกำลังบารมี 10 เข้มข้น สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในด้านกุศลได้ทุกประการตามแต่จะอธิษฐาน หากนำไปบูชาก็จะทำให้ภพภูมิเทวดา ผีสาง สัมภเวสีที่ผ่านไปมาได้รับกระแสนี้เข้าไปปรับให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย

พระผงกรรมฐานนี้ สามารถป้องกันรังสีนิวเคลียร์ได้ แม้กระทั่งโรคเอดส์ โรคไข้หวัดนก รวมไปถึงโรคระบาดใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้

หลวงปู่ดู่เคยกล่าวไว้ว่า "ถ้าใช้พระเป็น ถึงนิพพานได้เลย"

พระผงกรรมฐานเป็นพระใช้ มิใช่เป็นพระเก็บหรือสะสมไว้เฉยๆ และไม่มีกำหนดว่ารุ่นใดเป็นรุ่นใดเป็นรุ่นหนึ่งรุ่นสอง เพราะหลวงตาสร้างพระอยู่เรื่อยๆ การเก็บพระผงกรรมฐานเอาไว้เฉยๆ ไม่คล้องคอติดตัว ไม่แช่ถังน้ำในบ้านเพื่อทำน้ำมนตร์ ไม่ใช้เพื่อการปรับภพภูมิส่งวิญญาณ ถือว่าเสียประโยชน์เปล่า

วิธีการใช้พระผงกรรมฐานควบคู่ไปกับการสวดมนต์

การใช้พระผงกรรมฐานควบคู่ไปกับการสวดมนตร์ โดยกำพระผงนี้ไว้ขณะสวดมนตร์ ไม่ว่าจะเป็นบทระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ ก็ดี บทสวดพระคาถามหาจักรพรรดิก็ดี หรือบทสัพเพฯก็ดี เป็นการทำให้จิตเรามีกำลังเป็นอย่างยิ่ง อานิสงส์ที่เกิดจากการที่เราแผ่บุญออกไปนี้จะคลุมไปทั่วจักรวาล หากสามารถทำได้ ก็ควรกำพระผงนี้ ทำใจให้สบาย สวดพระคาถามหาจักรพรรดิไปเรื่อยๆ เป็นการน้อมพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณเข้าสู่จิต เพื่อยกระดับจิตใจให้ละเอียดยิ่งขึ้นตามไปด้วย

วิธีการใช้พระผงกรรมฐานควบคู่ไปกับการภาวนา

การฝึกปฏิบัติภาวนาด้วยการกำพระผงกรรมฐานนี้ จะช่วยทำให้ผู้ที่กำองค์พระรวมจิตเป็นสมาธิได้เร็วกว่าการฝึกด้วยตนเองมากนัก เพราะได้กำลังจากองค์พระมาเสริมที่ดวงจิตด้วย โดยการกำพระผงกรรมฐานแล้วสวดระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ สวดอาราธนาศีล สวดบูชาหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ สวดขอขมาพระรัตนตรัย แล้วต่อด้วยการสวดบทพระคาถาพระมหาจักรพรรดิ จากนั้นจึงทำสมาธิภาวนาในอิริยาบทที่เราถนัด กำองค์พระไว้ในมือ น้อมนึกอาราธนากำลังจากองค์พระมาที่จิต เป็นการเพิ่มกำลังจิตในการภาวนา แล้วน้อมพลังงานนี้มายังฐานที่เราใช้ในการทำสมาธิตามที่ถนัด เช่นอานาปาสติเป็นต้น

<O</O
(สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ลองใช้ และสัมผัสความรู้สึกที่หลวงตาเล่าให้ฟัง นับว่าน่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง และผู้ที่ได้รับแจกพระมาแล้ว อย่าได้เสียโอกาส.. ที่หลวงตาเล่าให้ฟังและจากประสพการณ์ที่ลูกหลานหลวงปู่แต่ละทุกคนได้สัมผัสมาแล้ว เป็นกำลังอันเต็มเปี่ยมที่หลวงปู่บรรจงให้การสงเคราะห์บรรดาลูกหลานทุกคน ที่ได้ประสบโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ ก่อนจะบังเกิดภัยพิบัติโลกที่ไม่เคยคาดคิดกันมาก่อน พระผงจักรพรรดิและการปฏิบัติภาวนาในแนวทางหลวงปู่ จะเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยท่านได้ )
<O</O

ขอแนะนำให้สวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิ และกำหนดนิมิตเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ หลวงปู่ทวด หรือหลวงปู่ดู่ก็ได้ กำหนดนิมิตนี้เบาๆ พร้อมกับกานภาวนาคำบริกรรม เมื่อทำได้คืบหน้าแล้วจะรู้ที่จิตเอง เมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะทำให้สามารถสัมผัสโลกทิพย์ อันจะมีประโยชน์อย่างยิ่ง ทำให้เราเข้าใจความจริงของธรรมชาติได้ และหากจิตเราสบายๆ องค์พระในมือจะดิ้นได้

การใช้อธิษฐานทำน้ำมนต์รักษาโรค

นำพระที่เลี่ยมแล้วหรือยังไม่เลี่ยมก็ได้ มากำสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิ แล้วอธิษฐานว่า "....ขออาราธนาอัญเชิญบารมีรวมพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระธรรม บารมีรวมพระอริยะสงฆ์ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด ขอหลวงปู่ได้โปรดรวมบารมีทั้งหมดทั้งมวล แผ่มายังน้ำบริสุทธิ์นี้ ให้มีพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ และมหิทธานุภาพ เพื่อใช้ในการมงคลทั้งปวง เพื่อใช้ในการปรับธาตุทั้ง 4 และรักษาโรคภัยทุกประเภท ขอบารมีอันหาที่สุดมิได้ของหลวงปู่ จงโปรดให้เป็นไปตามคำอธิษฐานแห่งข้าพเจ้านี้ด้วยเถิด...." จากนั้นค่อยๆจุ่มพระลงในภาชนะใส่น้ำ สวดบทสัพเพฯ อัญเชิญพระเข้าตัว บทอธิษฐาน
เราสามารถแช่พระผงกรรมฐานนี้ไว้ในภาชนะใส่น้ำได้ตลอด โดยไม่ต้องกังวลว่าพระจะเปื่อยหรือละลายไป(หลวงตาม้ารับรองว่า พระจักรพรรดิยิ่งแช่น้ำยิ่งแข็งแกร่ง)

(ในช่วงเกิดภัยพิบัติจะเกิดโรคระบาดติดต่ออย่างร้ายแรง ติดง่าย ตายเร็ว น้ำมนต์รักษาโรคนี้จะช่วยได้)


การอธิษฐานครอบดวงแก้วให้แก่บ้าน เพื่อป้องกันรังสี
<O</O
พระผงจักรพรรดิที่หลวงปู่ดู่ท่านสร้างขึ้น และพระผงจักรพรรดิที่สร้างขึ้นตามสูตรของหลวงปู่ดู่นั้น สามารถนำมาอธิษฐานเพื่อป้องกันอันตรายจากรังสีนิวเคลียร์ได้ทุกองค์ กับผู้ที่บูชาคล้องคอติดตัว และกับบ้านพักที่อาศัย แต่ถ้าต้องการให้คุ้มครองบ้านพักอาศัยด้วยนั้น ต้องอัญเชิญพระผงจักรพรรดิไว้ที่บ้าน 1 องค์ โดยให้อัญเชิญพระผงจักรพรรดิมาอธิษฐานทำน้ำมนต์ ในเวลา 20.30 น. เพราะต้องอาศัยกำลังใหญ่(ช่วงเวลาดังกล่าว หลวงตาม้า จะนำเทพ พรหม ร่วมสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ) โดยนำพระผงจักรพรรดิแช่ในภาชนะที่เหมาะสม เช่น ขันน้ำมนต์ และให้แช่ไว้อย่างนั้นตลอด เพื่อจะได้เป็นหัวเชื้อน้ำมนต์สำหรับใช้ในการอื่นๆ ได้ แล้วให้ตั้งจิตน้อมระลึกถึง หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ แล้วกล่าวคำอธิษฐานว่า “ข้าพเจ้าขออาราธนาอัญเชิญพระบารมีรวม แห่งองค์สมเด็จพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระโพธิสัตว์เจ้า พระอรหันตาขีณาสพเจ้าทั้งหลาย พระธรรม บารมีรวมแห่งพระอริยสงฆ์ ตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด ขอหลวงปู่ท่านได้โปรดรวมบารมีทั้งหมดทั้งมวล แผ่มายังน้ำบริสุทธิ์นี้ ให้มีพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ และมหิทธานุภาพ ในการป้องกัน ขจัดทำลายรังสีและพลังงานอันไม่ดีทั้งปวง ที่เข้ามาในอาณาบริเวณเขตน้ำมนต์แห่งนี้ให้เกิดเป็นปราการแก้ว 7 ชั้น คุ้มครองทั้ง 6 ทิศ คือ เบื้องหน้า เบื้องหลัง เบื้องซ้าย เบื้องขวา เบื้องบน และเบื้องล่าง ให้กระแสเย็นแห่งน้ำมนต์นี้จงเปล่งออกไปเป็นรัศมีเรืองรอง คุ้มครองป้องกันและครอบคลุมบ้านทั้งหลังของข้าพเจ้านี้ ให้ผู้ที่อาศัยอยู่ภายในบ้านนี้จงร่มเย็น ปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวงด้วยเถิด” จากนั้นให้สวดบทอัญเชิญพระเข้าตัว(บทสัพเพฯ) แล้วให้นำน้ำมนต์ไปรดรอบๆ บ้าน แล้วตั้งภาชนะใส่น้ำมนต์ที่มีพระผงจักรพรรดิแช่อยู่ไว้ในที่อันควร หมั่นเติมน้ำอย่าให้แห้ง น้ำมนต์นี้ใช้ได้ทั้งกินและอาบ

การครอบวิมาน
<O</O
เป็นการส่งกำลังบุญไปยัง มนุษย์ หรือสัตว์ ที่ยังมีชีวิตอยู่ เพื่อให้เขามีจิตใจดีขึ้นและป้องกันภัยที่มองไม่เห็นต่างๆ และถ้าใช้กับคนหรือสัตว์ที่กำลังจะสิ้นลมนั้นในยามที่จิตออกจากร่างนั้น ก็จะเห็นวิมาน และบารมีพระท่านจะเกิดนิมิตเป็นแสงสว่างนำทางผู้นั้นไปสู่สุคติภูมิตามกำลังบุญที่ได้ทำไว้ การครอบวิมานนี้ สามารถครอบให้ได้กับตนเอง และผู้อื่น โดยการครอบให้กับตนเองนั้นก็ด้วยวิธีการสวดพระคาถามหาจักรพรรดิ ส่วนการครอบให้ผู้อื่นนั้นทำได้โดยการอธิษฐานขอบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด แล้วให้นิมิตภาพหลวงปู่ดู่ซ้อนไปยังบุคคลผู้นั้น หรือกลุ่มคน โดยในขณะที่กำลังอธิษฐานจิตอยู่นั้น ผู้อธิษฐานต้องมีจิตเมตตากรุณาจึงจะเกิดผลอย่างสูงสุด
<O</O
การใช้พระผงจักรพรรดิในการภาวนา(ฝึกจิต)
<O</O
ให้นำพระผงจักรพรรดิมากำไว้ในมือ ซึ่งจะช่วยให้สามารถรวมจิตเป็นสมาธิได้เร็วขึ้น ให้เริ่มด้วยการสวดระลึกถึงพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ สวดอาราธนาศีล สวดบูชาหลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ สวดขอขมาพระรัตนตรัย แล้วสวดบทพระคาถามหาจักรพรรดิ เสร็จแล้วให้อธิษฐานว่า “.....ข้าพเจ้า...(นาม)....ขออาราธนาบารมีแห่งพระพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยบุคคลทุกชั้นภูมิ และพระมหาจักรพรรดิ ตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมของพระศรีอริยเมตไตรยเป็นที่สุด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้าขึ้นสู่ภาวะพระกรรมฐานทั้ง 40 ทัศ พระปิติทั้ง 5 และวิปัสนสนาญาณทั้ง 9 จงมาบังเกิดปรากฏในกายทวาร ในวจีทวาร ในมโนทวาร ของข้าพเจ้า ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด ขอได้โปรดยกจิตของข้าพเจ้า ขึ้นสู่ภาวะเมฆจิต ให้สามารถกำหนดจิตรู้ภาวการณ์ต่างๆ ทั้งเหตุผล อดีต ปัจจุบัน และอนาคต ได้ในทุกขณะจิตที่ปรารถนาจะรู้ และเมื่อรู้แล้วขอให้เห็นภาพนั้นได้ชัดเจนแจ่มใส และสามารถพยากรณ์ได้ตามความเป็นจริงทุกๆ ประการ เหตุที่จะพึงบังเกิดแก่ข้าพเจ้า ขอให้ข้าพเจ้าได้รู้เหตุนั้นโดยมิต้องกำหนดจิตแม้แต่ประการใด ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้ด้วยเถิด” แล้วให้สวดบทอัญเชิญพระเข้าตัว(บทสัพเพฯ) แล้วให้เริ่มทำสมาธิได้ตามแบบที่ถนัด เช่น อานาปานสติ จะใช้คำภาวนาว่า “พุทโธ” หรือ “พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ธัมมัง สรณัง คัจฉามิ สังฆัง สรณัง คัจฉามิ” หรือ “ยุบหนอ พองหนอ” หรือจะใช้บทสวดพระคาถามหาจักรพรรดิก็ได้ แต่หลวงตาม้าท่านแนะนำให้ใช้บทพระคาถามหาจักรพรรดิ เพราะว่ามีกำลังมาก แล้วก็ให้กำหนดหรือตั้งนิมิตเป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องจักรพรรดิ(พระมหาจักรพรรดิ) หรือหลวงปู่ทวด หรือหลวงปู่ดู่ ก็ได้ แต่บางท่านก็กำหนดเป็นภาพพระผงจักรพรรดิที่กำอยู่ในมือ ให้กำหนดหรือตั้งนิมิตเบาๆ ไม่ต้องเกร็งหรือเพ่งเกินไป พร้อมกับภาวนาไปเรื่อยๆ จิตจะค่อยๆ นิ่งเอง เมื่อถึงจุดหนึ่งจะทำให้สามารถสัมผัสกับโลกทิพย์ได้ และในบางครั้งองค์พระผงจักรพรรดิที่กำอยู่ในมือนั้นจะดิ้นได้

การแผ่ส่วนบุญปรับภพภูมิ
<O</O
กำพระผงจักรพรรดิไว้ในมือ แล้วอธิษฐานว่า “ข้าพเจ้าขออาราธนาอัญเชิญบารมีรวมพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ นับตั้งแต่อดีต ปัจจุบัน และอนาคต โดยมีบารมีรวมของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ เป็นที่สุด ขอได้โปรดส่งวิญญาณ ปรับภพภูมิดวงวิญญาณของ(เอ่ยชื่อ หรือกล่าวโดยรวมคือดวงวิญญาณทั้งหลายที่สถิตอยู่ในบริเวณสถานที่แห่งนี้) ให้ไปสู่สุคติด้วยเถิด” สวดบทอัญเชิญพระเข้าตัว(บทสัพเพฯ)

(ในช่วงเกิดภัยพิบัติผู้คนจะล้มตายเป็นจำนวนมาก มีจิตวิญญาณที่ต้องทนทุกข์ทรมาน รอการช่วยเหลือมากมาย ศาสตร์ของหลวงปู่ดู่จะช่วยปรับภพภูมิวิญญาณได้เป็นอย่างดี)

(ข้อมูล เวปวัดถ้ำเมืองนะ)

รับพระผงจักรพรรดิฟรี วัดถ้ำเมืองนะ แจกพระผงจักรพรรดิ และบทสวดจักรพรรดิ จัดส่งให้ทั่วโลก โดยหลวงตาม้า

[/FONT][/SIZE]

 

อนุโมทนา...สาธุ กับ ท่าน จขกท ด้วยครับ

ยืนยันพลังพุทธคุณในวัตถุมงคลที่หลวงตาม้าได้สร้างไว้ ทุกรุ่น ทุกองค์
ว่ามีมหาพลานุภาพอย่างที่กล่าวไว้ แน่นอน ครับ

 

ได้อ่านเนื้อความที่ตัวเองรวบรวมและเรียบเรียงในกระทู้นี้แล้วปลื้มใจจัง ^-^

 

อนุโมทนาบุญด้วยครับ สาธุๆๆ ครับ (ส่วนมากก็นำมาจากเวปถ้ำเมืองนะ ข้อมูลของกลุ่มศิษย์หลวงปู่
และคำสอนของหลวปู่ หลวงตา..ร่วมด้วยช่วยกันครับ เพื่อเผยแพร่ศาตร์ของหลวปู่ แม้จะทำได้ไม่มากก็ยินดี ครับ)

ยังเป็นห่วงในการนำเสนอข้อมูล เพราะเรื่องเหล่านี้เป็นปัจจัตตัง... หากผิดพลาดบกพร่องอย่างไร ก็ยินดีน้อมรับทุกประการครับ

 

<TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%">เรื่องความเสื่อมในอนาคต

หลวงตา : คนเราอีกหน่อยมันก็กลับไปสภาพเดิม ไม่มีอะไรเที่ยง ในสรรพสัตว์ในโลกนี้ มันก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เปลี่ยนมาก็เปลี่ยนไป ยุคนี้มันเป็นยุคที่กำลังจะเปลี่ยนแปลง สภาพของสังคมมันกำลังจะเปลี่ยน จิตมันเสื่อมไปเรื่อยๆ มันก็เปลี่ยน

ศิษย์ : หลวงตาครับ... ถ้าน้ำท่วมจริงๆแล้ว ไทยก็ติดจีน พวกจีน ลาว พม่า นี่ไปไหนหมดครับ ?

หลวงตา : จีนแตกฮะ จีนก็จะมีความวุ่นวาย เพราะว่าวาตภัยก็เยอะกว่าประเทศอื่นนะจีนน่ะ เปลี่ยนไปหมดนะทั่วโลกน่ะ เกิดวาตภัยเกิดอุทกภัยเกิดอะไรพวกเนี้ย ต่อจานั้นก็เป็นสงครามโลก เนี่ยจากนี้ไป 10 ปีเนี่ย อยู่เฉยๆดีที่สุด หาที่เหมาะๆนะ 20-30ไร่ก็ปลูกกระท่อมอยู่ กินกล้วยกินเผือกดีกว่า กินมะละกอไป วงการทุกวงการน่ะเปลี่ยนแปลงหมด แม้แต่วงการพระก็ไม่มี นิกายไม่มี รวมหมด ไม่มีนิกาย มีแต่พระปริยัติกับพระปฎิบัติเท่านั้น จะเห็นว่ามันไม่เที่ยง ฮึๆๆ

หลวงตา : กำลังอธิษฐานอยู่เนี่ย... ถ้าเป็นอย่างอธิษฐานก็ไวหน่อยฮะ เอ้า...อยากให้มันเกิดไวๆไง จะเกิดก็เกิดไวๆ จะได้จบเรื่องหมดเรื่อง รับฟังไว้แล้วเทพพรหมทั้งหลาย จัดการให้เรียบร้อย ฮึๆๆ เรียบร้อยเป็นหน้ากลอง ฮึๆๆ

ศิษย์ : แล้วจะโดนมิสไซล์มั๊ยครับ ?

หลวงตา : มีฮะ ไม่มีประเทศไหนในโลกเขารักษาของมีพิษไว้ในประเทศเขาหรอก พออยู่นานๆมันก็เสื่อม แล้วก็ตายเอง ใช่ไหม ถ้างั้นก็ปล่อยไปที่อื่นไม่ดีกว่าเหรอ มันอยู่มากี่ปีแล้ว รักษาไว้กี่ปีแล้ว ถ้าเสื่อมเมื่อไหร่ ก็คนเฝ้านั่นแหละตาย ถ้างั้นก็ปล่อยก่อน มันก็จะปล่อยก่อน ปล่อยไปที่อื่นก่อน หมั่นไส้ที่ไหนก็ปล่อยไปที่นั่น..(ที่มา วัดถ้ำเมืองนะ...ไม่ระบุปี พ.ศ. )



</TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" cellSpacing=0 cellPadding=5 width="100%"><TBODY><TR><TD height="100%" vAlign=top width="85%">



</TD></TR><TR><TD class=smalltext vAlign=bottom width="85%"><TABLE style="TABLE-LAYOUT: fixed" border=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=smalltext width="100%" colSpan=2></TD></TR><TR><TD id=modified_42015 class=smalltext vAlign=bottom></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ปกิณกะคำสอนหลวงตาม้า

หลวงปู่ดู่ท่านสอนไว้ว่า ทำอะไรที่มีประโยขน์ให้ทำ หากไม่มีประโยขน์อย่าไปทำ ให้ค่อยๆทำ เรื่อยๆ แล้วพิจารณาด้วย ไม่ใช่ว่าทำอย่างเดียวแล้วไม่พิจารณา เหมือนการเรียน เราต้องเรียนตั้งแต่ ชั้นประถม มัธยม จนไปถึงปริญญา หากเรายังไม่เรียนชั้นประถมแล้ว อย่าคิดไปรู้เรื่องของ ปริญญาเลย มันไม่ได้

การเขียนแผ่นทองตอนหล่อพระ ให้เราเขียนชื่อเราอยู่ในพระ อธิษฐานฝากเทวดา ผู้ที่เวียนว่ายตายเกิด สิ่งที่ข้าพเจ้าทำ และความดีทั้งหมด ให้ฝากกระแสไปที่องค์พระองค์นี้ ตลอดจนกว่าพระพุทธรูปองค์นั้น สูญสลายเป็นน้ำไป หลวงปู่ว่า การทำบุญเหมือนนักธุรกิจ หากทำเป็นก็ยาว ให้พิจาณาทุกครั้งที่ได้ทำบุญ ไม่ใช่ว่า เขาพูดอะไรก็เชื่อ จะต้องฟังและพิจารณาตามสภาพของความเป็นจริง

เจ้ากรรมนายเวร คือ คนที่รักเราหรือคนที่เรารักมากที่สุดนั่นแหละ ที่งี้เราไม่รู้หรอกว่าเจ้ากรรมนายเวรเราอยู่ที่ไหน หากอยู่เทวดาหรือพรหม เขาก็ไม่เอาเรื่องเราหรอก ถ้าติดอยู่ข้างล่างก็เหมือนติดคุก เขาก็เอาเรื่องเราไม่ได้ ดังนั้นเจ้ากรรมนายเวรเราอยู่ที่โลกมนุษย์เรานั้นแหละ รวมถึงภพภูมิวิญญาณสัมภเวสีด้วย หากเราทำกรรมฐานอยู่ แผ่ให้เจ้ากรรมนายเวรเราเสมอ หากเจ้ากรรมนายเวรเราอยู่ในภูมิที่ลำบาก ถามว่าจะทำอันตรายเราใหม หลวงตาตอบว่าไม่ทำหรอก เพราะว่าเราเป็นตัวบุญอย่างดี ดังนั้นเจ้ากรรมนายเวรที่อันตรายที่สุดคืออยู่ในมนุษย์เรานั้นแหละ (ญาติ ลูก เมีย เรา รวมถึงเพื่อนรักเรา พี่น้อง เจ้านาย หรือคนที่เราไม่ชอบ นี่คือ เจ้ากรรมนายเวรเราในโลกมนุษย์ทั้งนั้น)

ไหว้พระ สวดมนต์ทุกวัน ก็ทันพระศรีอริยเมตไตรย์แล้ว แต่ต้องสวดทุกวันนะ แม้แต่คนที่อยู่ในเมืองก็ทำได้ เช่นเดียวกัน คนที่อยากเกิดในยุคพระศรีอริยเมตไตรย์ หลวงตาบอกว่าไม่ยากหรอก ให้ทาน รักษาศิล เจริญภาวนา ทุกวัน ทำทั้งตอนตื่นนอน เสร็จแล้วก็ไปทำงาน และก็ทำก่อนนอน ยังไงก็ถึงพระศรีอริยเมตไตรย์ แน่นอน (หลวงตาบอกว่าที่กล่าวมานี้ให้พิจารณาให้ดี)

การเชิญวิญญาณหรือญาติเราที่เสียชิวิตไปแล้ว จะไม่มาใน 2 กรณี คือ ตกอบายภูมิ และ เกิดใหม่แล้ว ถ้าอยู่ในโลกวิญญาณ ภพภูมิอื่นๆ หรืออยู่ในชั้นเทพพรหม จะมาได้ตลอด

หลวงตาสอนว่า เหตุที่พวกเราต้องอธิษฐานฝากกระแสไว้ตามสถานที่ต่างๆ หรือ การวางพระผงจักรพรรดิ ลูกแก้วจักพรรดิ ตามสถานที่ต่างๆ เนื่องจาก ภูมิบริเวณนั้น บางภูมิ ไม่สามารถออกไปไกลกว่าสถานที่อยู่ได้ เนื่องจากมีความละเอียดและแสงสว่างแห่งบุญไม่มาก เช่น ภูมิที่อยู่ใกล้มนุษย์ อย่างชั้นจาตุมหาราชิกา จะไปได้ในระยะประมาณ 3 กม. รอบๆบริเวณที่อยู่เท่านั้น อย่างภูมิ นาค หรือ พญาครุฑ ก็จะไปได้แค่ระดับ หัวหน้า ส่วนคนอื่นๆก็ต้องอยู่แถวๆนั้น ดังนั้นอยู่ที่เราที่จะต้องเป็นผู้อธิษฐานฝากกระแส เพื่อปรับภพภูมิในสถานที่ๆเราต้องการจะแผ่เมตตา เพื่อให้พลังงาน หรือ กระแสบุญต่างๆที่เราได้กระทำ ให้มีแสงสว่างแห่งบุญให้ ภพภูมิ เทวดา วิญญาณต่างๆ ที่อยู่ตรงที่จุดที่เราฝากกระแสหรืออธิษฐานไว้ ให้มาโมทนาบุญกับเราได้ตลอด นี่คือวิธีการแผ่เมตตา โดยการฝากกระแส ในศาสตร์ หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

พระโพธิสัตว์ คือผู้ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ ท่านต้องรีบเกิด รีบทำ รีบตาย การเกิดแต่ละชาติ ท่านต้องมีประโยชน์ เอาปัจจุบัน หลวงปู่ดู่ ท่านสร้างพระให้คนกำพระ สวดบทพระมหาจักรพรรดิ ซึ่งตอนนี้มีสวดกันเยอะ ทั่วโลก ที่หลวงตาทำทุกวันนี้ หลวงตาคือสาขาของท่าน บุญไปไหน ก็ไปที่ท่านอีกนั่นแหละ รวมถึงทุกคนที่สร้างพระ ส่งเสริมให้คนสวดบทพระมหาจักรพรรดิ บุญที่ได้ก็ไปยังหลวงปู่อีกเช่นเดียวกัน ถึงแม้ท่านจะไม่อยู่ แต่ท่านทิ้งรูปลักษณ์เอาไว้ พร้อมพลังงาน ซึ่งมีพร้อมทั้งรูปและนาม เป็นพลังงานของท่านทั้งนั้น

คนดูหมอดู คือ คนที่ประมาทในตัวเอง ไม่เชื่อมันในตัวเอง ไปให้เขาทัก ทายต่างๆนาๆ

สังฆทานที่ถูกต้อง มีพระพุทธรูป มีผ้าไตร มีของใช้ ของฉัน ยารักษาโรค หรืออะไรก็ได้ โดยเป็นทานของหมู่สงฆ์ และสามารถถวายองค์เดียวก็ได้ ไม่จำเป็นต้องถวายหลายๆรูป พร้อมๆกัน

เหรียญหรือวัตถุมงคล ของพระโพธิสัตว์ ไม่ว่าจะเกิดซักกี่ชาติ หากเหรียญที่ท่านทำยังอยู่ พลังงานบุญและบารมีของท่านที่ทำไว้ ในแต่ละชาติ ก็จะเข้าไปยัง เหรียญหรือวัตถุมงคล ของท่านเสมอ แต่ถ้าเป็นเหรียญหรือวัตถุมงคลของพระอรหันต์ พลังงานจะปิดไปแล้ว เหรียญอันนั้นจะไม่สามารถรับพลังงานอะไรได้อีก และไม่สามารถเพิ่มได้อีก เพราะว่าท่านได้ปิดบัญชีไปแล้วนั่นเอง

หลวงตาตอบว่า ไปที่ไหนให้แผ่เมตตาที่นั่น กำหนดหลวงปู่ เห็นอะไรก็ช่าง เห็นคน เห็นสัตว์ เห็นอะไรก็แผ่ไป เริ่มจากเมตตา ไปเรื่อยๆ กรุณาก็จะมา มุฑิตา อุเบกขา ก็จะตามมา มันจะเป็นพุทธพรหมปัญโญ

ประโยชน์ในการสวดจักรพรรดิ สม่ำเสมอ คือ ไม่ว่าจะเกิดอะไร หรือมีเรื่องอะไร เราจะสามารถรับรู้ได้เลยว่าเป็นจริงหรือไม่ เหตุการณ์จะเป็นแบบที่เขาบอกหรือเล่าหรือไม่ จิตเราจะรู้ได้ในทันที เพราะว่าจิตเราอยู่ในไตรสรณะคมส์ อยู่ในจักรพรรดิ ตลอด นี่คือประโยชน์ ที่เราสามารถนำมาใช้ได้ในชิวิตประจำวัน ได้เลย

คนโกรธมีกายทิพย์เป็นยักษ์ ซึ่งพร้อมจะฆ่าใครก็ได้ เรียกว่าหน้ามืด ไม่คิดถึงบุญ ไม่คิดถึงบาปแล้ว เพราะว่าคิดไม่ออก

เราเป็นตัวดึงสิ่งที่ไม่ดีเข้ามาเอง หลวงตาท่านสอนว่า มันมาจากสิ่งที่เราเห็นตามถนน หนทาง และที่ๆเราไป บางสิ่งที่เราเห็น นั่นคือสิ่งที่เราทำมาในอดีต ถ้าเป็นสิ่งที่ไม่ดี แล้วเราไปนึกถึง มันก็จะมา แต่ในขณะเดียวกัน หากเรานึกถึงในสิ่งที่ดี ที่เราเห็น สิ่งนั้นก็จะมาหาเรา เช่นเดียวกัน เพราะว่าในอดีตที่ผ่านมา เราทำทั้งดีและไม่ดี จึงไม่ต้องแปลกใจว่า ทุกอย่างที่กระทบเรา มาจากสิ่งที่เราเคยทำมาแล้วทั้งนั้น

การเวียนว่ายตายเกิด ในช่วงที่เกิดเป็นมนุษย์ จะมารับเศษกรรมในอดีต และมาทำเพิ่มใหม่ต่อไปทั้งดีและไม่ดี พอตายไปก็จะไปรับกรรมตอนที่ทำอยู่ในมนุษย์ ทั้งดีและไม่ดี แต่ถ้าเราฝึกจิต โดยการทำกรรมฐานไปเรื่อยๆ เราก็จะรู้แล้วว่าเราจะเกิดหรือไม่เกิด หรือสิ่งไหนดี สิ่งไหนไม่ดี หลวงตาท่านสอนว่า “พวกเราตายแน่ๆ และเกิดแน่ๆ”

การกระจายพลังงาน แบบหลวงปู่ ตัวอย่างเช่น การเข้าวัดใดวัดหนึ่ง พอเข้าวัด เราก็โมทนาสาธุกับผู้สร้าง ผู้ดูแลรักษา พอเข้าไปในโบสถ์ กราบพระประธาน ก็อธิษฐานให้ เทพพรหม ภพภูมิแถวนั้น มาโมทนาบุญด้วยกัน แล้วมองที่พระประธาน ก็นึกถึงหลวงปู่ บอกว่าขอให้พลังงานผ่านมาที่พระองค์นี้ จนกว่าจะสูญสลายไป โดยตลอดและขอให้ เทพพรหม ภพภูมิต่างๆ มาโมทนาบุญได้ตลอด และสวดมนต์บทพระมหาจักรพรรดิ แล้วสัพเพไป อธิษฐานให้ภพภูมิเทวดาแถวนั้น ช่วยเกื้อกูลกัน ตลอดไป หลวงตาว่า นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น ของการกระจายพลังงาน ซึ่งมีประโยชน์มหาศาล

บุญทุกอย่างที่ทำ ไม่ว่าจะนั่งสมาธิ รักษาศิลภาวนา ทำบุญ สร้างพระ สามารถอธิษฐานทุกอย่าง เป็นการชำระหนี้สงฆ์ได้ทั้งนั้น

การบันทึกบุญอยู่ที่อารมณ์ หากอารมณ์ดีก็จะบันทึกบุญได้ตลอด หากอารมณ์ไม่ดีจะบันทึกบุญไม่ได้เลย

ถ้าหายใจอยู่ก็ต้องทำ ข้อคิดในการปฎิบัติธรรมของหลวงปู่ดู่

หากเราสวดบทพระมหาจักรพรรดิแล้วหลับไป หลวงตาให้มาพิจารณาในพรุ่งนี้ ว่าเป็นอย่างไร นี่คือการฝึกกรรมฐานอย่างหนึ่ง

การคิดถึงในสิ่งที่ไม่ดี นอกจากกรรมจะเข้าเราเร็ว ตามสิ่งที่เราคิดแล้ว ยังทำให้เราตายผ่อนส่ง คือตายเร็วกว่ากำหนดอีกด้วย (ถ้าตายก่อนกำหนดหรือตายก่อนอายุขัย จะติดภูมิตามอายุที่เหลือ คูณด้วย 50 ตามอายุทิพย์ เช่น ตายก่อนอายุขัย 2ปี จะติดภูมิอยู่ถึง 100 ปีมนุษย์) ดังนั้นอย่าไปคิดถึงมัน มันเป็นอดีต นี่คือวิธีแก้ไข

วิธีหนีกรรม คือ การสวดมนต์ภาวนา และไม่คิดถึงมัน กรรมก็จะไม่เกิด หลวงตาท่านว่า หากเราไม่นึกมันก็จะไม่มานะครับ สำหรับสิ่งที่ไม่ดี เหมือนเวลาที่พอมีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นให้ไปทำบุญ ถวายสังฆทานบ้าง บวชบ้างนี่คือการดึงกระแสความดี มาเพื่อเลี่ยงหรือหนีในสิ่งที่ไม่ดี หรือเรียกกันว่า เบรคกรรม นั่นแหละ

พลังจักรพรรดิ สะสมที่จิต ยิ่งเราสวดมาก ยิ่งชำนาญ หากชำนาญมากๆสามารถรู้ได้ทุกอย่าง เป็นกระแสผูกพันทั้งสามโลก รู้อดีต รู้ปัจจุบัน รู้อนาคน เพราะอดีตคือปัจจุบัน ปัจจุบันคืออนาคต ไล่ๆกันไป สวดแล้วมีประโยชน์

การฝึกสมาธิ ไม่เกี่ยวกับการนั่งนานหรือไม่นาน แต่เกี่ยวกับว่า ทำแล้วอารมณ์สบายๆใหม

เวลาไปไหน สถานที่ไปรู้สึกคุ้นเคย คือ สถานที่ๆเราเคยอยู่ มองเห็นใครแล้วรู้สึกคุ้นเคย คือคนที่เราเคยรู้จักคุ้นเคยกันมาก่อน นี่คืออดีตของเรานั่นแหละ

คำถาม ถ้าเราสวดจักรพรรดิแล้วจะไม่ถือพระไว้ในมือได้หรือไม่
หลวงตาท่านตอบว่า "มันไม่เหมือนกันเพราะว่าหากไม่ได้กำพระ จะไม่มีแสงสว่างของพระในมือเรา ดังนั้นกระแสที่ได้ก็จะไม่เหมือนกัน ในศาสตร์หลวงปู่ดู่ จิตเราต้องอยู่ที่พระตลอด พอฝึกไปนานๆ ต่อไปจิตเราจะเลือก เช่นไปเที่ยว หรือไปวัด เราจะเลือกไปวัดทันที จิตเราจะเลือกในสิ่งที่ดี สิ่งที่ไม่ดีจิตจะไม่เอา จิตจะเลี่ยง นี่คือประโยชน์ในการมองพระ และประโยชน์อีกอย่างหนึ่งคือหากเราฝึกไปนานๆ จะไม่มีใครหลอกเราได้ นอกจากเราจะไปหลอกเค้า (พิจารณานะครับคำนี้)"

การมองภาพหลวงปู่ ให้มองภาพไปเรื่อยๆแล้วหลับตาจะสามารถกำหนดภาพหลวงปู่ได้ หากภาพหายไป ก็ลืมตามองใหม่ซักพักแล้วก็หลับตาอีก การมองภาพหลวงปู่จะต้องมองสบายๆ ห้ามเพ่ง หรือตั้งใจมากเกินไป หากมองไปแบบจิตสบายๆ ต่อไปจะกำหนดภาพหลวงปู่ได้เอง โดยไม่ต้องมองภาพอีก แต่การฝึกจับภาพนี้ต้องอาศัยเวลา หลวงตาบอกว่า "การฝึกมองภาพหลวงปู่เรามองกี่ชม. เวลาไปไหนเรานึกถึงท่าน หรือเปล่า ถ้าเรานึกถึงตลอด ก็ไม่ยากสำหรับการจับภาพหลวงปู่ แต่ถ้าฝึกดูภาพหลวงปู่น้อย การจับภาพหลวงปู่ก็จะใช้เวลานานขึ้นไปเรื่อย หรือจับภาพหลวงปู่ไม่ได้เลย" วิธีการง่ายๆที่หลวงตาสอนคือ ให้นำรูปหลวงปู่ใส่กระเป๋าเสื้อไป แล้วเอาออกมาดูบ่อยๆ หรือเวลากินข้าวก็มองภาพหลวงปู่ไปด้วย สวดมนต์ไปด้วยก็ได้ จิตจะบันทึกได้เร็วขึ้น การจับภาพหลวงปู่ก็จะได้เร็วขึ้นด้วย ประโยชน์ของการจับภาพหลวงปู่ คือ เวลามีปัญหาสามารถถามจากภาพหลวงปู่ได้เลย ทุกๆเรื่องที่เป็นประโยชน์

หลวงตาท่านสอนว่า "พระโพธิสัตว์ จะคิดถึงประโยชน์ของคนหมู่มากเสมอ การฝึกสายโพธิญาณ หลวงตาให้ฝึกนั่งสมาธิ จริงๆ ประมาณวันละ 1 ชม. เป็นอย่างน้อย และให้ทำเป็นประจำ นี่เป็นพื้นฐานที่ ต่อไปจะไปเรียนอะไร วิชาพิเศษแบบไหน ก็เรียนได้ นี่คือพื้นฐานสำคัญที่ต้องมี"

การฝึกสายโพธิญาณ (ขั้นต้น)
"พระโพธิสัตว์ จะคิดถึงประโยชน์ของคนหมู่มากเสมอ การฝึกสายโพธิญาณ หลวงตาให้ฝึกนั่งสมาธิ จริงๆ ประมาณวันละ 1 ชม. เป็นอย่างน้อย และให้ทำเป็นประจำ นี่เป็นพื้นฐานที่ ต่อไปจะไปเรียนอะไร วิชาพิเศษแบบไหน ก็เรียนได้ นี่คือพื้นฐานสำคัญที่ต้องมี"

ผู้ปฎิบัติธรรม ให้ดูที่จิต อารมณ์ดี จิตสบาย ไปไหนก็มีแต่คนรัก ทำอะไรก็มีแต่คนช่วยเหลือ ไม่มีอะไรที่ทำไม่ได้ ไม่มีอะไรที่เกินกำลัง หากมีศรัทธาอย่างเต็มเปึ่ยม หลวงตากล่าวว่า "ศรัทธาเป็นหนึ่ง สงสัยแตกเป็นสอง"
พวกเราศรัทธาในตัวหลวงปู่ดู่ และหลวงตา เป็นหนึ่ง ไม่มีอะไรที่พวกเราทำไม่ได้ หากเป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน แม้จะเหนื่อย แต่ก็คุ้ม ที่เห็นทุกคนมีความสุข เจริญในธรรม เข้าใจหลวงตาแล้วว่าท่านเหนื่อยมาก บางครั้งไม่สบายมาก แต่ท่านก็ทำหน้าที่ของท่านอย่างเต็มที่ พร้อมสมบูรณ์ด้วยจิตที่เมตตา ข้าพเจ้าและลูกศิษย์ หลวงปู่ หลวงตาทุกคน ขอน้อมนำสิ่งที่ท่านสอน ท่านแนะนำ ทำให้ดูอย่างชัดเจน มาปฎิบัติเพื่อความหลุดพ้น ตามแนวทางของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ตลอดไป สาธุ...

การดูอนาคต
อนาคตคืออดีต+ปัจจุบัน ให้ดูว่า อดีตมนุษย์ทำอะไร ปัจจุบันมนุษย์ทำอะไร นั่นก็คืออนาคตที่จะเกิดขึ้น สำหรับพวกเราก็ดูที่ประเทศไทยก่อนก็พอครับ นั่นคืออนาคตของประเทศเราครับ

การเวียนว่ายตายเกิด
การเวียนว่ายตายเกิด บังคับมันไม่ได้ ถ้าไม่ได้ฝึกจิต หากเราฝึกจิต จะสามารถบังคับได้ตลอดไป และจะทำในสิ่งที่มีประโยชน์เท่านั้น หากไม่มีประโยชน์จะไม่ทำ

การแจกพระ
การแจกพระ อย่าคิดมาก (บุญได้เมื่อมีการให้) ถึงแม้ว่าคนที่รับจะไม่สวดในวันนี้ แต่อนาคต ญาติพี่น้องของเขา จะสวดเอง เมื่อถึงเวลา

คำคมความดี
ความดีหากเราฝึกไปเรื่อยๆ เราจะรู้ความไม่ดีด้วย แต่ถ้าเรารู้แต่ความไม่ดี เราจะไม่รู้เลยว่าความดีเป็นอย่างไร

การฝึกสวดมนต์เป็นลำดับขั้น
หลวงตาสอนให้เราพิจารณาว่า เราสวดไปทำไม สวดแล้วได้อะไร สวดแล้วดีขึ้นหรือไม่ มีประโยชน์อย่างไร ไม่ใช่ว่าให้สวดไปก็สวดอย่างเดียว ไม่คิดอะไร แบบนี้ใช้ไม่ได้

การเบรคกรรม
การเบรคกรรมได้ จะต้องใช้พระ เพราะว่าพระบันทึกในกรรมดี จะปิดกระแสกรรมของเราได้ หลวงปู่ หลวงตาถึงได้สอนให้เรานึกถึงพระ หรือ กำพระ ห้อยพระ อยู่ตลอดเวลา เพราะว่าเราไม่รู้ว่าอดีตเราทำอะไรมา ดังนั้นการสร้างพระของหลวงปู่ หลวงตา เพื่อประโยชน์ในการใช้กำภาวนา เพื่ออยู่ในไตรสรณะคมณ์ และปิดอบายภูมิ หากเรามองพระแล้วเกิดปิติ นั่นนะใช้ได้แล้ว หลวงตาสอนว่า "พระนั้นไม่ลืมแต่จิตเรานะลืม"

การเชิญภพภูมิมาสวดกับเรามีประโยชน์อย่างไร
การเชิญภพภูมิ มาสวดมนต์กับเราด้วย มีประโยชน์มาก แค่นึกก็มาแล้ว เพราะว่า เขาต้องอาศัยเรา มีประโยชน์ในการข้างหน้า เขาจะเกิด เราก็จะตาย จะเกื้อกูลซื่งกันและกันในอนาคต ประโยชน์มหาศา

หากจิตเรานึก เวลาสัพเพจะถึงคนที่เรานึกหรือไม่
จิตเรามันไว แค่นึกถึงก็ไปแล้ว ดังนั้นเวลาสวดมนต์ ให้นึกถึงญาติ พี่น้อง หรือ คนที่ขัดข้อง หรือภพภูมิในสถานที่ต่างๆที่เราจะแผ่ไปได้เลย ถึงทุกคนและทุกที่ที่เรานึกแน่นอน

เรารู้ได้อย่างใรในการปฎิบัติ หากเราไม่อ่านหนังสือมาก่อน
เราเป็นสื่อ เรานึกถึงองค์ไหน พลังงานขององค์นั้นก็มาที่เรา ดังนั้นไม่ว่าเรื่องอะไร เราก็สามารถรู้ได้ทุกเรื่องโดยไม่ต้องอ่านหนังสือที่เกี่ยวข้องมาเลย มีลูกศิษย์หลวงปู่หลายคน อ่านหนังสือไม่ออก แต่สามารถอธิบายได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าถามเรื่องอะไรก็สามารถตอบได้ทุกเรื่อง ดังนั้นหลวงตาถึงได้สอนให้เรานึกถึงพระอยู่เสมอ หรือที่หลวงปู่หลวงตาเรียกว่า พระพูดได้ นั่นเอง

การสวดมนต์ในใจทำได้ใหม
การติดต่อภพภูมิต่างๆ สามารถติดต่อได้ด้วยใจ ดังนั้นเวลาเราสวดในใจ ภพภูมิต่างๆ จะรับรู้ได้ในทันทีครับ ดังนั้นเวลาทำงาน นั่งรถ หรือทำอะไรก็ตาม ท่านสามารถสวดมนต์ข้างใน(สวดในใจ) เพื่อแผ่ให้ภพภูมิต่างๆได้ตลอดเวลา

หลายๆครั้ง ที่เราพลาดโอกาสกราบหลวงตา และฟังธรรมจากท่านซึ่งเป็นธรรมที่ใช้ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ถ้อยคำง่ายๆ และการปฎิบัติที่เห็นได้เร็ว เหมาะกับยุคนี้เป็นอย่างมาก หลายๆคราวที่หลายคนพลาดการรับชมถ่ายทอดสดที่หลวงตาที่ท่านได้พยายามที่จะใช้สื่อเท่าที่มี กระจายธรรมะให้ถึงที่ เพียงแค่ท่านเปิดคอมพิวเตอร์ หรือ มือถือ ในการรับชมเท่านั้น น่าเสียดายสำหรับหลายๆคนที่ยังติดในสิ่งอื่นๆ ทั้งๆที่ท่านมีโอกาส กว่าคนที่ไม่มี และก็ขอร่วมโมทนากับทุกๆท่านที่มีโอกาสและนำคำสอนของหลวงปู่ หลวงตาไปปฎิบัติ จนเห็นผลอย่างมากมาย

พวกเราจะพยายามนำคำสอนของท่านมาเผยแพร่ให้มากที่สุด และจะทำต่อไปเท่าที่จะทำได้ ขอความถึงพร้อม จงมีแด่ทุกๆท่าน

...ทีมงานออนไลน์วัดถ้ำเมืองนะ และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด...


(ปกิณกะ คำสอนหลวงตาม้า)

 

กราบโมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า และขอบคุณทุกข้อความของท่านเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะที่แนะนำวิธีการใช้ผงพระจักรพรรดิ์ให้ได้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลค่ะ ^^

 

ขออนุญาตเจ้าของกระทู้นะครับ

​

ขออนุญาตเจ้าของกระทู้ครับผม
30 มี.ค.2555 ผมกับแฟนกำลังเดินทางกลับอยุธยา
โดนรถเทลเลอร์เบียดตกไปในเกาะกลาง ( เขาเบียดผมจนเสียหลักบนถนนก่อน )

ดีนะที่ได้ต้นไม้บังไว้ ( เทพารักษ์คงจุก )
ไม่งั้นข้ามไปอีกฝั่งบวกกับรถที่สวนมา ตายทั้งผมทั้งแฟนแน่นอน
เหตุเกิดที่เกาะคา ลำปาง
* ผมกับแฟนห้อยพระเหรียญที่ระลึกในการสร้างสมเด็จองค์ปฐมสูง59เมตรครับ *

 

รุ่นนี้ครับที่ผมและทุกคนในครอบครัวแขวน ( พระที่หลวงตาท่านจารครับ )

​

 

เพิ่มเติม : แต่ในรถผมก็จะมีรูปหลวงปู่ดู่ติดไว้ในรถอีก 2 รูปครับ

และแฟนผมห้อยพระผงจักรพรรดิ (ของวัดถ้ำเมืองนะ ) อีก 1 องค์ครับ

 

ขอบคุณ คุณ Nat usp ที่ร่วมแชร์ข้อมูล ครับ

 

ท่านไม่ไห้เราประมาทกับการใช้ชีวิตคะ ทุกคนมีกรรมเป็นของตัวเองทั้งนั้น จะมาก น้อย หนัก เบา เราต้องเจอกันทุกคน แต่ก็ยังอยู่ในภายใต้บารมีขององค์ท่าน (หากเรารักและศรัทธาด้วยใจจริง) ท่านเมตตาเป็นที่สุดแล้ว ....สาธุ สาธุ
ดีคะที่ไม่มีใครเป็นอะไร ยังมีเรื่องราวแบบนี้อีกเยอะเลยคะเท่าที่ประสบมา ^^

 

ขออนุญาติเจ้าของกระทู้ด้วยครับ ขอเสริมนิดหนึ่ง
เหมือนที่หลวงตาว่า คนไทยก็ยังอยู่กันได้เป็นปกติ และหลังจากภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้น ก็จะมีโรคแปลกๆ หรือโรคที่รักษาไม่หายปรากฏขึ้น ส่วนหนึ่งก็จะเป็นโรคกรรม โดยโรคนี้จะไม่เกิดในผู้มีศีลมีธรรม และผู้ปฏิบัติธรรมทั้งหลายครับ

 

เมื่อวาน หลังจากแจ้งผ่านเว็บบอร์ด ประมาณ 7 วัน (ตาม ลิงค์ แจกฟรีพระผงจักรพรรดิ์ ) เพื่อขอ พระผงจักรพรรดิ์ ลูกแก้ว 3 ลูก และหนังสือ ก็ได้รับตามรูปด้านล่างครับ

 

เพียงแต่ท่านแจ้งชื่อที่อยู่ไปที่ วัดถ้ำเมืองนะ แจกพระผงจักรพรรดิ และบทสวดจักรพรรดิ จัดส่งให้ทั่วโลก โดยหลวงตาม้า
ทางวัดถ้ำเมืองนะ โดยหลวงตาม้า จะจัดส่งมาให้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ..
เพื่อให้ท่านได้ใช้ในการปฏิบัติภาวนา เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ฯลฯ..ครับ

 

ท่านใดที่ขอพระผงฯจากวัดถ้ำเมืองนะ

ถ้าไม่ลำบากเกินไปช่วยชำระหนี้สงฆ์ก็ดีครับ ( ถึงจะแจกฟรีก็ตาม )

ยกตัวอย่างแค่ 1 อย่างคือการเดินทางมาส่งไปรษณีย์ให้กับญาติโยม ไป-กลับก็ร้อยกว่ากิโลเมตรแล้วครับ

 

........

 

โมทนา สาธุ สาธุ สาธุ หลวงปู่ทวด หลวงปู่ดู่ หลวงตาม้า ค่ะ
ขอบคุณสำหรับบทความดีดี ของ ผู้โพสต์ด้วยค่ะ

 

โมทนาสาธุกับเจ้าของกระทู้ ค่ะ กับบทความดีๆ ยินดีกับผู้ประสบเหตุที่รอดมาได้ วันที่ตอกเสาเข็ม สร้างสมเด็จองค์ปฐมสูง59เมตร นั้นเป็นครั้งแรกที่พาแม่ไปวัดได้ ดีใจมากค่ะ ^-^

 

ขอบคุณครับ...หลวงตาท่านก็ได้กล่าวไว้เช่นกันครับ จะเกิดโรคระบาดใหญ่ลุกลามไปทั่ว สำหรับผู้มีศีลธรรมก็จะกระทบน้อย....