ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย
เพราะไม่มีใครอยากเห็นเราเด่นเกิน

มนุษย์โลก..เป็นเช่นนี้กันฤๅ???????????

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไข้เลือดออกลามหนักเด็กเขมร 3,000 คนร่อแร่</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>20 มิถุนายน 2550 12:38 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=480 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=480> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ห้องผู้ป่วยโรงพยาบาลคัณฑบุปผาแน่นขนัดไปด้วยป่วยเด็กๆ ในสัปดาห์นี้ ไข้เลือดออกคร่าชีวิตเด็กในกัมพูชาไปแล้วอย่างน้อย 109 รายใน 5 เดือนที่ผ่านมา (ภาพ: Reuters) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>
ไข้เลือดออกกำลังแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางในหลายจังหวัดของกัมพูชา ในช่วง 15 วันของเดือน มิ.ย.นี้ พบมีเด็กป่วยเป็นจำนวนกว่า 3,000 ราย ขณะที่สถานพยาบาลแห่งต่างๆ รับมือไม่ไหว รวมทั้งที่อยู่พื้นที่ห่างไกลออกไป ซึ่งขาดแคลนทั้งหมอและยา

ในสัปดาห์นี้โรงพยาบาลคัณฑบุปผา (Khantha Bopha) ในกรุงพนมเปญได้ขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนไปยังรัฐบาล รวมทั้งขออนุมัติเงินราว 7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อให้บริการแก่เด็กๆ และ ผู้ใหญ่อีกจำนวนหนึ่งที่กำลังนอนป่วย

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์รัศมีกัมพูชา (Reasmey Kampuchea) นายกรัฐมนตรีฮุนเซน ได้ขอให้โรงพยาบาลคัณฑบุปผา เป็นหัวหอกในการต่อต้านการแพร่ระบาดของโรคร้ายชนิดนี้ ซึ่งในปีนี้ทำให้เด็กเสียชีวิตไปแล้วกว่า 100 ราย

ในวันที่ 16 มิ.ย.วันเดียวมีเด็กๆ 607 คน จากจำนวน ที่ป่วยทั้งหมด 2,144 คน ได้รับการเยียวยาตามโรงพยาบาลแห่งต่างๆ ในกรุงพนมเปญ

ตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงสิ้นเดือน พ.ค. ทั่วกัมพูชาได้พบพบเด็กป่วยเป็นไข้เลือดออกแล้วกว่า 6,000 ราย นพ.ลัมเอ็งฮั้ว (Lam Eng Hour) รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลขัณฑบุปผากล่าว

ไข้เลือดออกระบาดอย่างรุนแรงในระยะไม่กี่วันมานี้ ใน จ.กัมปงสะปือ (Kampong Speu) ตะแกว (Takeo) กัมปงจาม (Kampong Cham) สะวายเรียง (Svay Rieng) เปรยแวง (Prey Veng) กัมโป้ท (Kampot) และ ไกลออกไปถึง จ.กระแจ๊ะ (Kratie) รวมทั้งในกรุงพนมเปญด้วย

ในช่วง 5 เดือนของปีนี้พบเด็กเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกตามโรงพยาบาลแห่งต่างๆ แล้ว 109 ราย เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าจากเมื่อปีที่แล้ว หนังสือพิมพ์เกาะสันติภาพ (Koh Santepheap) อ้างรายงานตัวเลขกระทรวงสาธารณสุข

แต่หลายฝ่ายเชื่อกันว่าจำนวนที่เป็นจริงสูงกว่านั้นมาก เพราะยังมีเด็กๆ จำนวนมากอยู่ในพื้นที่ห่างไกลจากหมอ

นายเฮงไตกรี (Heng Taykry) ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้มีเด็กเสียชีวิตมากเนื่องจากพ่อแม่ผู้ปกครองละเลย ไม่นำลูกหลานที่ป่วยไปพบแพทย์ในเวลาอันควร ปล่อยให้อาการกำเริบหนักจนเยียวยารักษาไม่ทัน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ผู้ป่วยทั้งที่รอตรวจ และ รอรับการรักษาล้นออกไปถึงริมรั้วด้านนอกของโรงพยาบาล (ภาพ: Reuters) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ไวรัสชนิดนี้มียุงลายเป็นพาหะ ยุงลายจะชุกชุมแพร่พันธุ์ได้อย่างรวดเร็วในฤดูฝน เด็กๆ ที่พ่อแม่ปล่อยปะละเลยจะเป็นเหยื่อรายแรก (ภาพ: Reuters) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>เด็กที่โตอีกหน่อยก็ไม่มีการยกเว้น และ ยังไม่มียา-วิธีรักษาที่ได้ผลโดยตรง (ภาพ: Reuters) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=460 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=460> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าสาเหตุหลักที่ผู้ป่วยเสียชีวิตมากก็คือ ไปพบแพทย์ช้าเกินไป (ภาพ: Reuters) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=460 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=460> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ต้องหอบหิ้วให้น้ำเกลือกันกลางแจ้ง อินุงตุงนัง อย่างนี้เลย (ภาพ: Reuters) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ยิ่งอายุยังน้อย โอกาสเสี่ยงก็ยิ่งสูง โอกาสที่จะรักษาไม่หายก็ยิ่งมาก 2540 (ภาพ: Reuters) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> รัฐมนตรีคนเดียวกันนี้กล่าวอีกว่า ปีที่แล้วรัฐบาลใช้งบประมาณไป 3 ล้านดอลลาร์ในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไข้เลือดออก โรงพยาบาลแห่งต่างๆ มียาอยู่ราว 3 คอนเทนเนอร์ แต่ตอนนี้ยาในสต๊อกใกล้หมดเต็มที

กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งซื้อซีรั่ม (Serum) ยา และ เวชภัณฑ์อื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง ทั้งหมด อยู่ระหว่างการขนส่งเข้าประเทศ ซึ่งคาดว่าจะถึงเร็วๆ นี้ แต่ก็น่าเป็นห่วงว่าจะไม่มียาไม่พอใช้ก่อนถึงเวลานั้น

ปกติไข้เลือดออกจะระบาดหนักในช่วงเดือน ก.ค.-ส.ค.และ ก.ย. ของทุกปี เนื่องจากยุงลายซึ่งเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสจะชุกชุมในช่วงเดือนที่ฝนตกชุก แต่ปีนี้ฝนมาเร็ว การแพร่ระบาดก็เกิดขึ้นเร็วตามไปด้วย

"เราเกรงว่าจะมีเด็กๆ ป่วยมากขึ้นในช่วงเดือนแห่งฤดูฝนที่จะถึงนี้" นายเงิน จันทา (Ngan Chantha) เจ้าหน้าที่โครงการโรคไข้เลือกออกแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์

นายจันทากล่าวว่า โรคไข้เลือดออกไปกับการพัฒนา หมายความว่ากำลังมีการก่อสร้างอย่างมากมายในเมืองหลวงและเมืองใหญ่ทั่วประเทศ ทิ้งหลุมบ่อเอาไว้เป็นที่ฟักไข่ของยุงลาย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=460 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=460> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>กระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า ในสัปดาห์นี้ไข้เลือดออกกำลังคร่าชีวิตเด็กๆ อยู่ในอย่างน้อย 6 จังหวัดทั่วประเทศ และ ยากกำลังจะหมดสต๊อก (ภาพ: Reuters) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ยุงพวกนี้ยังสามารถเติบโตได้ดีในยางรถยนต์ทีมีน้ำแช่ขัง ในเศษขยะสิ่งของเครื่องใช้ประจำบ้าน ที่ถูกทิ้งกระจัดกระจายตามแหล่งเสื่อมโทรมต่างๆ

เขากล่าวอีกว่าการแพร่ระบาดอย่างกว้างขวางของไข้เลือดออกในปีนี้ สะท้อนความหวาดกลัวของนักวิทยาศาสตร์ ที่เชื่อกันว่าภาวะโลกร้อนกำลังจะทำให้เกิดโรคระบาดอย่างแพร่หลายยิ่งขึ้น

ไข้เลือดออกแพร่ลามในกรุงจาการ์ตา เมื่อต้นปีนี้ หลังจากเกิดน้ำท่วมรุนแรงขึ้นในเมืองหลวงของอินโดนีเซีย

ไข้เลือดออกทำให้ผู้ป่วยมีไข้สูง เบื่ออาหารและปวดระบมตามข้อต่อต่างๆ ยังไม่มีตัวยาและวิธีรักษาที่ได้ผลจริงๆ นอกจากการให้ผู้ป่วยพักผ่อนและดื่มน้ำมากๆ.
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9500000071530

 

ภาพชุด น้ำทะเลกัด เซาะชายฝั่ง ที่สมุทรปราการ
ภาวะโลกร้อนเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ประเทศไทยมีแนวชายฝั่งทะเลทั้งสิ้น ๒,๖๖๗ กิโลเมตร แต่บริเวณที่ประสบปัญหารุนแรง คือชายฝั่งทะเลจังหวัดฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร



ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นที่ โบสถ์วัดขุนสมุทราวาส นักวิทยาศาสตร์ทำนายว่า อีก ๑๐๐ ปีข้างหน้า อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกจะเพิ่มสูงขึ้น ๑.๑-๖.๔ องศาเซลเซียส ส่งผลให้ระดับน้ำทะเลทั่วโลกสูงขึ้นประมาณ ๐.๓-๑.๑ เมตร



สมุทรปราการเป็นจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งรุนแรงที่สุดในประเทศไทย โดยในระยะเวลา ๓๘ ปีที่ผ่านมา มีพื้นที่ถูกกัดเซาะหายไป ๑๑,๑๐๔ ไร่ ทั้งนี้หน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่



หลักเขตกรุงเทพมหานคร หลักเขตที่ ๒๘ เดิมเป็นหลักเขตกั้นระหว่างเขตบางขุนเทียน กับอ่าวไทย



แนวเขื่อนป้องกันแรงกระแทกของคลื่นตลอดหน้าวัดขุนสมุทราวาส

http://www.oknation.net/blog/myplanet/gallery/2181/comment

 

<TABLE id=table_video cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD class=video_name colSpan=2>

คำเตือนจากนิวออรีน ถึงประเทศไทย
จากอ่าวแมกซิโก ถึงอ่าวไทย ​

</TD></TR><TR><TD align=middle colSpan=2>

​

</TD></TR><TR><TD colSpan=2>

​

</TD></TR><TR><TD class=video_data align=middle colSpan=2>

คำอธิบายว่า ทำไมถึงเกิดพายุในอ่าวไทย (บรรยายไทย)​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

[vdo]http://www.oknation.net/blog/home/video_data/246/4246/video/2763/2763.wmv[/vdo]

http://www.oknation.net/blog/myplanet/video/2763

 

(verygood) สุดยอดเลยครับคุณ mead

 

โห..พี่เม้าท์ พาเพื่อนๆมาดูหนังกันเพียบเลย
เอ่อ...เก็บตังค์ด้วยนะพี่ หัวละ20บาทคับ อิอิ​

​

 

ผิดตรงไหนแล้วควรจะทำไงต่อไปดีละครับ
มาด่าเฉยๆก็ไม่รู้จะทำไงต่อครับคุณลุง
ต้องไม่เชื่อในสิ่งที่เห็นก่อนรึเปล่าครับ
เวลาข้ามถนนต้องปิดตารึเปล่าครับ

 

คุณ mead ขยันหาข้อมูลดี ข้อมูลเยอะจริงๆครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“สมิทธ” ครวญรัฐเมินอนุมัติงบ 200 ล.สำรวจรอยเลื่อนทั่วประเทศ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 มิถุนายน 2550 15:01 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เชียงราย – “สมิทธ” จี้รัฐเร่งให้ความรู้ประชาชนรับมือแผ่นดินไหวหลังเกิดบ่อยขึ้น และพยากรณ์ล่วงไม่ได้ ระบุรัฐไม่สนใจศูนย์เตือนภัยเท่าที่ควร ชี้อาจต้องเสียเงินกว่าหมื่น้านบาท หากไม่ยอมเสีย 200 ล.สำรวจรอยเลื่อนทั่วประเทศ

วันนี้ (21 มิ.ย.) นายสมิทธ ธรรมสโรช ประธานอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้บรรยายพิเศษเรื่อง “แผ่นดินไหวในเชียงราย ไม่ไกลอย่างที่คิด” ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย โดยมีคณาจารย์ นักศึกษา นักเรียน หน่วยงานราชการ และผู้สนใจเข้ารับฟังกว่า 800 คน

นายสมิทธ กล่าวว่า การเกิดแผ่นดินไหวไม่ว่าจะเป็นประเทศไหนก็ไม่สามารถพยากรณ์ล่วงหน้าได้ แต่สามารถระวังป้องกันได้ โดยการให้ความรู้ ความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ที่อยู่ในเขตรอยเลื่อน ซึ่งทั่วประเทศไทย มีรอยเลื่อนที่ค้นพบทั้งสิ้น 13 รอย

ส่วนจังหวัดเชียงรายก็มีรอยเลื่อนเชียงแสน ที่เชื่อมโยงกับรอยเลื่อนแม่จัน แต่รอยเลื่อนที่น่ากลัวที่สุด คือ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และด่านเจดีย์สามองค์ ในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ที่มีเขื่อนขนาดใหญ่ ทั้งนี้ในส่วนของจังหวัดเชียงราย ยังมีโอกาสเกิดแผ่นดินไหวขึ้นได้ ซึ่งการให้องค์ความรู้กับประชาชนจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นที่สุด

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้มีการติดตั้งเครื่องเตือนภัยหลายจุด เช่น ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย แต่ยังไม่มีการทดลองใช้

นอกจากนั้น ยังมีการจัดตั้งศูนย์เตือนภัยแผ่นดินไหว แต่ก็ยังไม่ได้ทำอะไรมากเท่าที่ควรเนื่องจากไม่มีงบประมาณจากรัฐบาลมาสนับสนุน เพราะจะต้องทำการสำรวจรอยเลื่อนต่าง ๆ ซึ่งต้องใช้งบประมาณไม่เกิน 200 ล้านบาท

แต่หากปล่อยให้เกิดขึ้นแล้วบางครั้งต้องใช้งบประมาณในการฟื้นฟูกว่า 10,000 ล้านบาท จึงอยากให้รัฐบาลสนใจในเรื่องนี้มากขึ้น

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ทะเลสาบหายไปอย่างล่องหน</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 มิถุนายน 2550 18:44 น.</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เอเจนซี – ทะเลสาบแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของชิลี หายไปอย่างลึกลับ โดยสันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากการที่แผ่นดินแยกตัว และกลืนน้ำในทะเลสาบลงไป

ทะเลสาบแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขต “มากายาเนส” ในปาตาโกเนีย ทางใต้ของทวีปอเมริกาใต้ เป็นแหล่งกักเก็บน้ำซึ่งส่วนมากละลายมาจากธารน้ำแข็ง ทะเลสาบแห่งนี้มีความกว้าง 4 ถึง 5 เฮกตาร์ หรือในราวๆ สนามฟุตบอล 10 สนาม

ฆวน โฆเซ่ โรเมโร ผู้อำนวยกาเขตของบรรษัทป่าไม้แห่งชาติของชิลี หรือโคนาฟ บอกว่า คณะสำรวจมาตรวจสอบครั้งล่าสุดเมื่อเดือนมีนาคมขณะนั้นทุกอย่างยังอยู่ในสภาพปกติ แต่เมื่อกลับมาอีกครั้งเพียง 2 เดือนให้หลัง ทีมสำรวจก็ประหลาดใจอย่างมากที่อยู่ดีๆ น้ำในทะเลสาบก็หายไป เหลือเพียงแต่ก้อนน้ำแข็งบนก้นทะเลสาบที่แห้ง และยังพบรอยแยกขนาดมหึมาด้วย ขณะนี้โคนาฟกำลังเร่งสอบสอนปรากฏการณ์ดังกล่าว

ทฤษฎีหนึ่งที่ถูกหยิบยกขึ้นมาอธิบาย คือ เกิดแผ่นดินไหวบริเวณนี้ ทำให้เกิดรอยแยกในดิน ดังนั้นน้ำในทะเลสาบจึงไหลลงไปจนแห้ง โดยในปีนี้เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่มีแรงสั่นสะเทือนเล็กน้อยทางตอนใต้ของชิลีหลายพันครั้ง

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right height=10></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“อับบาส” ลั่นไม่ขอเจรจาสงบศึกกับกลุ่มฮามาส</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 มิถุนายน 2550 16:12 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ประธานาธิบดีอับบาสของปาเลสไตน์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เอเอฟพี – ประธานาธิบดี อับบาส เปิดฉากโจมตีกลุ่มฮามาสเป็นครั้งแรกหลังกลุ่มฮามาสบุกยึดฉนวนกาซาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พร้อมประกาศจะไม่มีการเจรจาสงบศึกอย่างเด็ดขาด

ประธานาธิบดี มาห์มูด อับบาส กล่าวโจมตีกลุ่มฮามาส ว่า ไล่สังหารกองกำลังความมั่นคงของปาเลสไตน์อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ รวมถึงวางแผนที่จะบุกยึดฉนวนกาซา จนทำให้อิสราเอลนำเรื่องดังกล่าวไปเป็นข้ออ้างที่จะลงโทษชาวปาเลสไตน์ทั้งประเทศ นอกจากนี้ กลุ่มฮามาสยังวางแผนที่จะลอบสังหารเขาอีกด้วย

“การบุกยึดฉนวนกาซาเป็นแผนการที่ผู้นำกลุ่มฮามาสสมคบคิดกับชาติอื่นๆ ในภูมิภาค ดังนั้น ต่อจากนี้จะไม่มีการเจรจาใดๆ กับกบฏ ฆาตกร และผู้ก่อการร้าย จุดประสงค์หลักของเรา ก็คือ ป้องกันไม่ให้ความวุ่นวายแพร่กระจายเข้ามาในเขตเวสต์แบงก์ ซึ่งรัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี ซาลัม ไฟยัด จะเป็นคำตอบที่ชัดเจนต่อการก่อรัฐประหารในครั้งนี้” อับบาส กล่าวระหว่างการประชุมองค์การปลดปล่อยปาเลสไตน์ (พีแอลโอ) ในเมืองรามัลเลาะห์ซึ่งตั้งอยู่ในฐานที่มั่นของเขาในเขตเวสต์แบงก์

นอกจากนี้ ผู้นำปาเลสไตน์ยังได้เรียกร้องให้นานาชาติจัดการประชุมเพื่อฟื้นกระบวนการเจรจาสันติภาพที่ชะงักงันมานาน เช่นเดียวกับการประชุมที่กรุงมาดริดในปี 1991 ซึ่งนำไปสู่ข้อตกลงกรุงออสโลในปี 1993

ด้าน ทีซิปี ลิฟนี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอิสราเอล ได้โทรศัพท์มาพูดคุยกับนายกฯ ไฟยัด เพื่อขอเปิดการเจรจากับรัฐบาลชุดใหม่ของปาเลสไตน์ หลังอิสราเอลระงับความสัมพันธ์ที่มีต่อรัฐบาลนำโดยกลุ่มฮามาส ซึ่งอิสราเอลและสหรัฐฯ มองว่า เป็นกลุ่มก่อการร้าย มานานถึง 15 ปี

ขณะที่การสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอลและกลุ่มฮามาสในฉนวนกาซาและเขตเวสต์แบงก์ได้เปิดฉากขึ้นอีกครั้ง ส่งผลให้ชาวต่างชาติซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงชาวยุโรปตะวันออกที่แต่งงานกับชาวปาเลสไตน์ และเด็ก เริ่มอพยพออกจากดินแดนดังกล่าว

ทั้งนี้ การบุกยึดฉนวนกาซาของกลุ่มฮามาส ทำให้อิสราเอลสั่งปิดพรมแดนติดกับปาเลสไตน์ แต่ได้อนุญาตให้องค์กรระหว่างประเทศส่งอาหารและยาเข้าไปในฉนวนกาซาได้ ขณะที่สหประชาชาติออกมาเตือนว่า อาจเกิดภาวะขาดแคลนอาหารในฉนวนกาซาภายใน 2-4 สัปดาห์นี้ เช่นเดียวกับโครงการอาหารโลกที่ระบุว่าอาหารที่สำรองไว้อาจหมดลงในอีก 7 วันหากไม่มีการขนส่งอาหารไปยังฉนวนกาซาตามปกติ

อับบาสสั่งปลดรัฐบาลชุดเดิมที่นำโดยกลุ่มฮามาส และแต่งตั้งรัฐบาลฉุกเฉินชุดใหม่ขึ้น ขณะที่กลุ่มฮามาสประกาศไม่ยอมรับรัฐบาลชุดดังกล่าว โดยอ้างว่าเป็นรัฐบาลที่รับใช้อิสราเอลและสหรัฐฯ หลังเคลื่อนกำลังเข้ายึดฉนวนกาซาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ข้อมูลอธิบายง่าย ๆ เกี่ยวกับเรื่องโลกร้อน​

สภาพหลักเขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร ในปัจจุบันนี้​

สภาพหลักเขตบางขุนเทียน เมื่อปี พ.ศ.2546​

คัดจากหนังสือ มหันตภัยโลกร้อน GLOBAL WARMING เรื่องจริงที่คุณต้องรู้โดยสำนักพิมพ์ FREE MIND ว่าด้วยบทวิเคราะห์ของนักวิชาการหลายท่าน อาทิ ดร. อาจอง ชุมสายฯ กล่าวถึงผลกระทบของภาวะโลกร้อน ต่อ กรุงเทพมหานครฯ ดังนี้...

" กรุงเทพฯ อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลแค่ 1 เมตร ถ้าระดับน้ำสูงขึ้นอย่างที่ว่ากัน กรุงเทพฯ ก็จะอยู่ไม่ได้ สิ่งต่างๆ ในกรุงเทพฯ จะต้องพังหมด เพราะอย่าลืมว่า เมื่อน้ำทะเลสูงขึ้น มันก็จะมาในลักษณะของคลื่นที่ซัดเข้ามา มีลมพัด มีพายุเกิดขึ้น ทำให้ทุกอย่างหายไปหมด กลายเป็นทะเล และภาคกลางของประเทศไทยก็จะถูกกวาดไปจนเกือบหมด เมื่อเป็นอย่างนี้ เราจะต้องเริ่มหันมาช่วยเหลือกัน คิดถึงกัน อยู่อย่างเรียบง่าย งดใช้พลังงงานที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจก หลายประเทศยังไม่รู้ตัว แต่ถึงตอนนี้ก็ต้องเริ่มคิดกันได้แล้ว แม้มันจะแก้ไขยาก แต่ก็ไม่ถึงขั้นทำไม่ได้จริงๆ "

​

​

​

ที่มา http://www.siamvolunteer.com/newwebboard/main.php?board=000355&topboard=6

 

เฮ้อ แถวบ้านผมเลยนะนี่ บางขุนเทียน

 

" เทียนทะเล...สัญญาณอันตรายจากการหายของแผ่นดิน "
<O</O

<O</O​

ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ ระดับน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นทุกๆ ปี นำมาสู่ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งซึ่งเกิดขึ้นหลายพื้นที่ในประเทศไทย บริเวณเทียนทะเล อำเภอบางขุนเทียน เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดจากปัญหาดังกล่าว

บางขุนเทียนเป็นเขตที่เคยมีปรากฏการณ์น้ำขึ้นน้ำลงเป็นปกติเมื่อประมาณ 20 ปีก่อน แต่ทุกวันนี้ระดับน้ำมีแต่จะ ขึ้น ไม่ใคร่ยอม ลง เหมือนก่อน ดังนั้นที่นี่จึงเป็นกรณีศึกษาที่นักวิทยาศาสตร์จากอังกฤษและทีมนักวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมของไทย ใช้เป็นสถานที่ศึกษาการเปลี่ยนแปลงในเชิงภูมิศาสตร์ด้วยความสนใจ <O</O

ทีมงานได้เข้าสำรวจพื้นที่ในบริเวณดังกล่าว พบหลักฐานชิ้นโบแดง นั่นคือเสาไฟฟ้า 2 - 3 ต้น ที่ลอยอยู่ในน้ำ และเสาหลักเขตประเทศไทย อยู่ห่างออกไปในระยะไกล <O</O

จากการสอบถามลุงจิตเจ้าของเรือหางยาว ที่พาพวกเราเข้ามาดูพื้นที่ ได้เล่าถึงพื้นที่ดังกล่าวว่า...<O</O

" เมื่อประมาณ 30 ปีก่อน บริเวณเสาหลักเขตประเทศไทยเป็นพื้นแผ่นดิน มีชาวบ้านสร้างบ้านอาศัยอยู่ รัฐก็สร้างเสาไฟฟ้าไว้ให้ อยู่ๆ ไป น้ำทะเลก็ค่อยๆ หนุนสูงขึ้นๆ จนปัจจุบันก็เป็นผืนน้ำไปทั้งหมดแล้ว "<O</O

นอกจากนี้ลุงจิตยังเล่าถึงบ้านของตนเอง ที่อยู่ถัดเข้าไปข้างในอีกว่า...<O</O

" บ้านผมเองก็เคยยกพื้นเมื่อสิบกว่าปีก่อน ทุกวันนี้ที่บ้านผมเอง น้ำก็ท่วมถึงเอวแล้ว แต่โชคยังดีที่น้ำขึ้นเร็วลงเร็ว ผมกะว่าสักพักก็คงต้องยกบ้านอีกรอบ " <O></O>

ทุกวันนี้นอกจากลุงจิตแล้ว ชาวบ้านคนอื่นๆ ที่เคยอยู่ในบริเวณนั้นก็ต้องอพยพย้ายถิ่นออกไป ทั้งๆ ที่ยังถือครองกรรมสิทธิ์หรือโฉนดที่ดินของตนไว้ ภาวะโลกร้อน ทำให้ผืนดินหนึ่งผืน มีค่าเท่ากับกระดาษหนึ่งแผ่น อย่างไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อน <O</O

และนี่คือหลักฐานหนึ่งที่แสดงให้เห้นถึงการกัดเซาะชายฝั่งอย่างเป็นรูปธรรมที่สุด จากแพร้านอาหารที่เรายืนอยู่ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นพื้นดิน ปัจจุบันถูกน้ำกัดเซาะกลายเป็นผืนน้ำจนหมดสิ้น และบริเวณแพร้านอาหารถึงเสาหลักก็เป็นระยะทางกว่าหนึ่งกิโลเมตร <O</O

โดยในช่วงเวลา 30 กว่าปีที่ผ่านมา น้ำได้คืบคลานเข้ากัดเซาะพื้นดินจนหมดสิ้น และน้ำทะเลเหล่านี้ก็ยังกัดเซาะอยู่ทุกวัน หากเรายังไม่ตื่นตัวเรื่องโลกร้อน และหาทางเยียวยารักษาโลกของเราตั้งแต่บัดนี้ คำกล่าวที่ว่า... น้ำท่วมโลก คงไม่ไกลเกินไปนัก<O</O

ที่มา http://www.siamvolunteer.com/newwebboard/main.php?board=000355&topboard=6

 

งานของกลุ่ม"พลังจิต พิชิตภัยพิบัติ"
โดยคุณคณานันท์(ผู้นำกลุ่ม)​

โดยสรุปแล้วงานของพวกเราก็จะแบ่งได้ เป็นสองส่วน คืองานส่วนนามธรรมและงานในส่วนของรูปธรรม

ส่วนนามธรรม

-ส่งเสริมให้คนทั้งหลายปฏิบัติธรรม สร้างกุศล สร้างบารมี ทั้งทางตรงและทางอ้อม

-ค้ำจุนหนุนบารมีของพุทธภูมิทั้งหลายให้ท่านได้สร้างบารมีที่สูงๆ ยิ่งขึ้นไป เพื่อที่บารมีของท่านทั้งหลายจะได้มาช่วยค้ำชู ชาติ พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ อีกชั้นหนึ่ง

-สร้างกระแสบุญ กระแสธรรมสู่สังคมเพื่อถ่วงดุลกระแสกรรมของชาวโลกทั้งปวง

-ส่งเสริมให้เพื่อนๆ ได้สร้างบุญบารมีเพื่อเป็นเครื่องอยู่เครื่องรอดจากภัยพิบัติทั้งปวง

ส่วนงานทางด้านรูปธรรมได้แก่

-ให้ข้อมูลความรู้สู่สังคมเพื่อที่ในยามที่เกิดภัยพิบัติ ไม่ว่าด้านใดเกิดขึ้นจะได้มีความรู้ติดตัวเพื่อเอาตัวรอดกันได้

-ให้ข้อมูลการเตรียมตัว เตรียมอุปกรณ์ต่างๆ เพื่อความปลอดภัยในยามเกิดภัยพิบัติ

-เดินทางไปสำรวจสถานที่ปลอดภัยเพื่อเก็บเป็นข้อมูลเพื่อส่วนรวม

-เตรียมสิ่งของข้าวของไว้ยังสถานที่ปลอดภัยตามจุดต่างๆ

-จัดการอบรมฝึกฝนเพื่อเพิ่มศักยภาพให้มีความพร้อมในทุกๆ ด้าน

-เตรียมสถานที่เบื้องต้นเพื่อการประสานงาน ยามเกิดภัยพิบัติ

<!-- / message --><!-- sig -->

 

*** เข้าใจถูก ****

มีบางท่านใน Website พลังจิต เริ่มเข้าใจถูก...มองเห็นหนทางหลุดพ้น !!!!!!!

มนุษย์เรา จะหลุดพ้นจากโลกไปได้...คือ ไม่กลับมาเกิดใหม่บนโลกอีก
จะต้องหมดกิเลสทั้งปวง...คือ หมดนิสัยปลีกย่อยที่ไม่ดีต่างๆ ในตัวเอง
การจะขจัดนิสัยตัวหนึ่ง....จะต้องตั้งใจจริง ขยัน อดทน ไม่ทำนิสัยนี้ ให้เป็นประจำ
จากเคยทำได้...๑ ชั่วโมง...ก็จะขยายขึ้นเรื่อย เป็น ๑ วัน..๑ เดือน...๑ ปี
จนสุดท้าย...ตัวของเรา ก็จะทำได้เองเป็นอัตโนมัติ...คือ ตลอดไป....ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องบังคับ
เมื่อทำได้เป็นปกติ...สมัยก่อนเขาเรียกว่า "ศีล"
เมื่อเห็นยุงกัด เห็นมดกัด...ก็เข้าใจเขา สงสารเขาที่เกิดเป็นยุง เป็นมด...ใจมันจะเมตตามันเอง
ตัวเราจะบอกกับตัวเราเองว่า...จะทำอย่างไรกับเขา

พระอาจารย์ต่างๆ สอนวิธีให้เห็นนรก สวรรค์...เพื่ออะไร !!!!!!!
เพื่อให้รู้ว่านรก สวรรค์ สามโลกนี้...มีจริง
เห็นนิพพาน...ว่ามีจริง
แต่...กลายเป็นว่า...เห็นแล้วไปไม่ถึง
เพราะ...ไปเข้าใจว่า...วิชาที่ทำให้มองเห็นโลกจิตวิญญาณ...เป็นหนทางสู่นิพพานได้
แต่...ลืม หรือไม่เข้าใจ...คำตรัสสอนของพระพุทธเจ้า...ที่กล่าวว่า "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"
ซึ่งคือ..."หลักตนพึ่งตน"....
หมายถึงว่า.... เมื่อเกิดเป็นมนุษย์...ต้องพึ่งการกระทำเก่า การกระทำที่ได้ทำไปแล้ว

ดังนั้น...สิ่งที่เราจะพึ่งได้ดีที่สุดคือ

 

*** เข้าใจถูกเกี่ยวกับ สัจจะ ****

มีบางท่านใน Website พลังจิต เริ่มเข้าใจถูก...มองเห็นหนทางหลุดพ้น !!!!!!!

มนุษย์เรา จะหลุดพ้นจากโลกไปได้...คือ ไม่กลับมาเกิดใหม่บนโลกอีก
จะต้องหมดกิเลสทั้งปวง...คือ หมดนิสัยปลีกย่อยที่ไม่ดีต่างๆ ในตัวเอง
การจะขจัดนิสัยตัวหนึ่ง....จะต้องตั้งใจจริง ขยัน อดทน ไม่ทำนิสัยนี้ ให้เป็นประจำ
จากเคยทำได้...๑ ชั่วโมง...ก็จะขยายขึ้นเรื่อย เป็น ๑ วัน..๑ เดือน...๑ ปี
จนสุดท้าย...ตัวของเรา ก็จะทำได้เองเป็นอัตโนมัติ...คือ ตลอดไป....ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องบังคับ
เมื่อทำได้เป็นปกติ...สมัยก่อนเขาเรียกว่า "ศีล"
เมื่อเห็นยุงกัด เห็นมดกัด...ก็เข้าใจเขา สงสารเขาที่เกิดเป็นยุง เป็นมด...ใจมันจะเมตตามันเอง
ตัวเราจะบอกกับตัวเราเองว่า...จะทำอย่างไรกับเขา

พระอาจารย์ต่างๆ สอนวิธีให้เห็นนรก สวรรค์...เพื่ออะไร !!!!!!!
เพื่อให้รู้ว่านรก สวรรค์ สามโลกนี้...มีจริง
เห็นนิพพาน...ว่ามีจริง
แต่...กลายเป็นว่า...เห็นแล้วไปไม่ถึง
เพราะ...ไปเข้าใจว่า...วิชาที่ทำให้มองเห็นโลกจิตวิญญาณ...เป็นหนทางสู่นิพพานได้
แต่...ลืม หรือไม่เข้าใจ...คำตรัสสอนของพระพุทธเจ้า...ที่กล่าวว่า "ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"
ซึ่งคือ..."หลักตนพึ่งตน"....
หมายถึงว่า.... เมื่อเกิดเป็นมนุษย์...ต้องพึ่งการกระทำเก่า การกระทำที่ได้ทำไปแล้ว

ดังนั้น...สิ่งที่เราจะพึ่งได้ดีที่สุดคือ

 

*** บารมี ****

บารมี...คือ สิ่งที่ทำได้จาก "สัจจะปฏิบัติ"
คือ....สิ่งที่จะทำให้เราหลีกพ้นจาก...กรรม ได้
ทั้ง กรรมของตนเอง....กรรมของประเทศ...จนถึง กรรมของโลก
สัจจะ...คือ หนทางสะสมบารมี...ได้เร็วที่สุด
สัจจะปฏิบัติ....จึงสามารถช่วยตัวเอง และประเทศชาติได้จริง

บารมี...ที่เราทำได้ ที่สะสมบนพระนิพพาน...จะจัดสรรหนทางรอดพ้นภัย พ้นกรรมให้เราเอง
ประชาชนคนไทย...ต้องช่วยกันทั้งประเทศ....จึงจะเกิดผลสูงสุด

อนาคตต่อไป...จะถึงวันพิพากษา...การกระทำของตนเองที่เคยทำมา
ผู้ที่ไม่เชื่อ ไม่มีสัจจะ....จะลำบากมาก !!!!!!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

*** ชะตากรรมของประเทศ ***

ไม่มีใครช่วยได้ !!!!!!!
มันเป็น...ชะตากรรมของประเทศ

เรื่อง

 

สัจจะ คือพลัง
ขอให้คุณหนุมานฯ พยายามต่อไปครับ ขอบคุณที่คอยย้ำเตือนบ่อยๆ
ตอนนี้เชื่อว่าหลายๆคนเข้าใจ และ เริ่มปฎิบัติกันมากขึ้นแล้ว
ปลูกฝังจิตสำนึกกันเอาไว้ วันนึงก็จะเห็นผล
แรกๆอาจเข้าใจยากหน่อย แต่ทุกๆเรื่องก็เป็นเรื่องเดียวกันหมด
สัจจะ ทำให้สภาวะธรรมในตัวเราเห็นเด่นชัดขึ้น
โลกกุตระ บอกคุณหนุมานฯ มาจริงๆครับ