เรื่องพิเศษ รวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา

โห! กระทู้ก๋วยเตี๋ยวนี่ ผมชอบมากเลย น่ากินไปหมด อย่าง'เตี๋ยวคั่วไก่สวนมะลินี่ ทานเกือบทุกสัปดาห์ช่วงทำงานที่ finance เมื่อ 15 ปีก่อน อร่อยจริงครับ อย่างอื่น ต้องตามไปชิม...

 

อร่อยก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึง กรอบ มัน กับกล้วยแขกทอด
<TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20>ก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึง</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20>ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20>เจ้าของร้านและพนักงานของร้านกล้วยทอด</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20>หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึง</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20>กล้วยทอด</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20>กล้วยทอดกับเผือดทอดและมันทอดเสร็จเรียบร้อยแล้ว</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR><TR><TD class=message-normal style="HEIGHT: 10px" vAlign=top align=middle><SCRIPT type=text/javascript>// URLs of slidesvar slideurl = new Array('http://ads.dailynews.co.th/column/images/2007/food/5/18/39849_37497.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/images/2007/food/5/18/39849_37498.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/images/2007/food/5/18/39849_37499.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/images/2007/food/5/18/39849_37500.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/images/2007/food/5/18/39849_37501.jpg','http://ads.dailynews.co.th/column/images/2007/food/5/18/39849_37502.jpg') ;// Comments displayed below the slidesvar slidecomment = new Array('ก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึง','ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น','เจ้าของร้านและพนักงานของร้านกล้วยทอด','หน้าร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึง','กล้วยทอด','กล้วยทอดกับเผือดทอดและมันทอดเสร็จเรียบร้อยแล้ว');var picNo = new Array('0','1','2','3','4','5');var i;var j;var picturecontent=''function poppic(ncId,NewsType,picNum){window.open('../../html/popup_news/popup_news_popuppic.htm?' + slideurl[picNum] + '?Daily News Online : Food','','resizable=1,HEIGHT=200,WIDTH=200');}function createtable(){picturecontent ='<table width=100% cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0>' ;for (i=0;i<=(slideurl.length-1);i++) {picturecontent +='<tr>' ;picturecontent +='<td vAlign=top align=center>' ;picturecontent += '';picturecontent += '' ;picturecontent += '</td>' ;picturecontent +='</tr>' ;picturecontent +='<tr>' ;picturecontent += '<td class=messageblack vAlign=middle align=center height=20>' ;picturecontent+=slidecomment ;picturecontent +='</td>' ;picturecontent +='</tr>' ;}picturecontent+='</table>' ;document.getElementById("hlblTable").innerHTML=''+picturecontent+'';}createtable();</SCRIPT></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top>เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ผมพาเพื่อน ๆ ไปชิมข้าวมันไก่และข้าวเหนียวส้มตำ ที่เวิ้งของโรงหนังมงคลวัฒนา กันมาแล้ว ตามสัญญาที่ผมบอกไว้ว่า สัปดาห์นี้จะแนะนำร้านอาหารในเวิ้งนี้อีก 2 ร้าน ซึ่งเป็นร้านที่ทุกคนควรจะไปชิมกัน

ร้านแรกที่ผมอยากจะแนะนำนั้น อยู่ตรงข้ามกับร้านข้าวมันไก่ มองข้ามไปจะเห็นร้านเล็ก ๆ มีรถเข็นตั้งอยู่หน้าร้าน มีป้ายหมึกแดงไกด์ติดอยู่ด้วย คือ ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึง นั่นเอง เปิดมานานแล้ว ผมเคยได้ชิมมานานแล้วเหมือนกัน ยังอยู่ยงคงกระพัน ร้านนี้ทำก๋วยเตี๋ยว หมูตำลึงอร่อยมาก

ผมกลับไปคราวนี้ ได้ชิมเพิ่มมาอีกอย่างคือ ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น เป็นแบบน้ำข้นครับ ถ้าจะมากินที่นี่ก็สามารถกินได้ทั้งน้ำข้นและน้ำใส ที่ผมชอบมากคือ กลิ่น ความหอม ความหวาน ของตัวตำลึง ซึ่งหากินแบบนี้ได้ยากแล้วนะ ต้องใช้ยอดตำลึงสด ๆ อ่อน ๆ ใส่หมูสับ ใส่ตับและลูกชิ้นลงไปด้วย และที่สำคัญน้ำซุปรสชาติกลมกล่อมมาก แถมยังได้ประโยชน์จากใบตำลึงที่จะช่วยบำรุงสายตาให้เราได้ด้วย และยังเป็นกากอาหารช่วยระบบการย่อยอาหารได้อีกนะครับ

ส่วนก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ผมเองชอบกินแบบแห้งไม่ชอบกินน้ำ ขอแค่ได้มีน้ำขลุกขลิกนิดหน่อยจาก น้ำซุปของก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ซึ่งรสชาติเข้มข้นใช้ได้เลยครับ อย่าลืมลองแวะไปชิมกันดู อย่างที่ผมบอกนะครับ ว่าก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึงนั้นสมัยนี้หากินยากแล้ว ยิ่งที่อร่อย ๆ ยิ่งหากินยากไปใหญ่ แต่ไปที่ร้านนี้รับรองไม่ผิดหวัง

ยังไม่หมดนะครับ ยังมีของกินที่เราซื้อติดไม้ติดมือกลับไปกิน ที่บ้านได้อีก ซึ่งผมเองไปทีไรซื้อกลับไปกินที่บ้านทุกครั้งไป หรือในระหว่างเดิน หรือนั่งรถไปก็กินได้ ยิ่งผมนี่นาน ๆ ทีจะได้กินของกินแบบนี้ นั่นคือ กล้วยแขกทอด เผือกทอด มันทอด และปีนี้ยังมี ข้าวเม่าทอด เพิ่มมาอีกหนึ่งอย่าง ต้องเรียนตามตรงว่า ข้าวเม่าทอดยังไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่ เพราะผมชอบให้หนัง หรือแป้งที่หุ้มข้าวเม่าทอด ต้องกรอบ ข้างในจะนุ่ม หวาน และอร่อย แต่ว่าข้างนอกของที่นี้ไม่เป็นปุ่ม ๆ ๆ ไม่กรอบพอ แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีกล้วยทอด เผือกทอดและมันทอดที่ยังอร่อยอยู่ โดยใช้วิธีการทอด และแป้งที่ชุบนั้น เป็นแป้งที่ดีมาก เพราะว่าเป็นแป้งน้ำ ที่ฝรั่งเรียกว่า Batter ซึ่งมีส่วนผสมของมะพร้าวขูดใส่เข้าไปในนั้นด้วย ทำให้กล้วยทอด เผือกทอด และมันทอดทุกชิ้นมีกลิ่นหอมหวนชวนกินมาก ๆ เลยครับ

วิธีการทอดและวิธีการเลือกกล้วยของเขา ไม่ได้เลือกกล้วยที่สุกนัก เลือกกล้วยที่ยังห่าม ๆ อยู่นิด ๆ เวลาทอดไปเรียบร้อยแล้ว ได้ความมันของกล้วย และได้ความกรอบ ความมันของแป้งด้วย ที่ ผมชอบมากเพราะว่ากล้วยทอดนี่ หัวใจมีอยู่ 3 อย่าง คือ การใช้กล้วยที่ถูกต้องตามความประสงค์ของเรา ว่าจะให้เนื้อกล้วยออกมาเป็นยังไง สอง เราต้องทราบด้วยว่าแป้งต้องกรอบและหอมยังไง สาม คือการทอดให้เป็น การใช้น้ำมัน ต้องเปลี่ยนน้ำมันอยู่ตลอด ถ้า น้ำมันเก่าจะเหม็นหืน และจะไม่กรอบ จะดำ ที่นี่เขาเปลี่ยนน้ำมันอยู่เรื่อย ๆ เพราะฉะนั้นกล้วยทอด เผือกทอด มันทอดทุกชิ้น จะอร่อย และมีสีที่น่ากิน ผมไปทีไร ผมซื้อใส่ถุงกระดาษ แต่ผมไม่อยากให้เขาใส่ถุงพลาสติกมาให้ เพราะผมจำได้ว่าเมื่อตอนเด็ก ๆ กระดาษที่เป็นถุงกระดาษนั้นจะอมน้ำมันที่ทอดกล้วยทอดได้ดีมาก และให้ความอุ่นกับมือเรา มือเราไม่ร้อน แต่ถ้าเอาไปใส่ถุงพลาสติก หิ้วกลับบ้าน เกิดอะไรขึ้นทราบไหมครับ ไอน้ำ ความร้อนที่ระอุออกมา ไม่ได้ระเหยออกไป กล้วยจะแฉะ ไม่อร่อย ไม่กรอบ เพราะฉะนั้น ถ้าจะกินก็กินที่นั่น ถ้าจะเอากลับบ้าน ใส่ถุงกระดาษ เปิดปากไว้ อย่าเอาอะไรปิดให้มันมิดชิด นี่คือวิธีการทอด วิธีการซื้อ วิธีการกิน และวิธีการเก็บรักษาให้มันยังคงรสชาติที่แสนจะอร่อยอยู่ได้จนเรากินมันหมดนะครับ

อย่าลืมนะครับ ถ้าไปที่เวิ้งนี้ต้องแวะไปซื้อกล้วยทอด ไปกินส้มตำ ไปกินก๋วยเตี๋ยวหมูตำลึง ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ไปกินข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น และยังมีบะหมี่หน้าไก่ทอด เวลาไปเตรียมท้อง ไว้เยอะ ๆ นะครับ รับรองว่าได้กิน เต็มที่เลยครับ.

หมึกแดง​

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>"ก๋วยเตี๋ยว เรือเอ็นแก้ว"(หอวัง)บางคนเรียก "ก๋วยเตี๋ยว ไฮโซ" / แม่ช้อยนางรำ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>4 มิถุนายน 2550 17:37 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย : แม่ช้อยนางรำ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"สรกณก (บัวก้านทอง) นิติวัทน์" เจ้าของสูตรดัดแปลงจาก "ก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา"</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>"ก๋วยเตี๋ยว สูตรพิสดาร อร่อยพิสวง
เป็นก๋วยเตี๋ยว หมูไม่ใช่ก๋วยเตี๋ยว เนื้อ
แต่ใช้ "เอ็นแก้ว"ของแพงอร่อยชูโรง"

เจ้านาย..คงชอบกิน"ก๋วยเตี๋ยว เรือ"
ส่วนอีชั้นนะชอบเอามาก..มาก เบื่อข้าวเบื่อปลา เบื่ออาหารฝรั่งมังค่า อาหารจีนภัตตาคาร เห็นร้านก๋วยเตี๋ยว เรือที่ไหน ต้องเป็นวิ่งเข้าใส่ สรแซ่บ..อร่อยเด็ด เผ็ดเปรี้ยวหวานมันเค็ม กินแล้วสะใจ!!
เพื่อนรุ่นน้องของอีชั้น รู้จักมักจี่กันมาเป็นเวลาสาม..สี่สิบปี ชื่อคุณ "สรกณก บัวก้านทอง" แต่ปัจจุบันแต่งงานแล้วเปลี่ยนนามสกุลตามสามีว่า "นิติวัทน์" เธอก็เป็นคนชอบทานก๋วยเตี๋ยว เรือเหมือนกัน แต่ชอบเกินเลยหน้าอีชั้น เพราะเมื่อสิบกว่าปีก่อนเธอถึงกับไปขอเล่าเรียนสูตรก๋วยเตี๋ยว เรือโบราณจาก บ้านอีชั้นคือจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
แล้วก็ได้สูตรอร่อยพิสดารจากคุณป้าอายุ 70 กว่า
เพราะนอกจากสูตรอร่อยพิสดาร ทำกินทำขายไม่เหมือนใครแล้ว
ก๋วยเตี๋ยว เรือของคุณ"สรกณก" ก็ยังขายใน "สยาม พารากอน" ศูนย์การค้าใหญ่ทันสมัยที่สุดของประเทศไทยไชโย ไม่ใช่พายเรือขายอยู่ในคลองเจ้าเจ็ด เหมือนเจ้าของสูตรดั้งเดิม
ความจริงคุณ "สรกณก" ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องมาขายก๋วยเตี๋ยว หร๊อก!!
แค่นามสกุลเดิมที่ว่า "ก้านบัวทอง"นั้นก็ต้องรู้อยู่ว่า เป็นเจ้าของที่ดินสองฝากถนนรัชดาภิเษก
แต่ที่ต้องทำขายก๋วยเตี๋ยว เรือขาย(ความจริงทำให้ลูกจ้างไปขาย) ก็เพราะบรรดาเพื่อนๆ เศรษฐี หมาเศรษฐีทั้งหลาย เอ่ยชื่อก็ต้องรู้จักกันอย่างเช่า "หมอสัณฑ์ ศัลยสิริ"หมอผ่าตัดศัลยกรรมเสริมความงามที่บุกเบิกวงการนี้รุ่น

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"เอ็นแก้ว" เป็นเอ็นหมูไม่ใช่เอ็นเนื้อกรอบนุ่มล้างวิธีธรรมชาติสะอาดปลอดภัย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>แรกๆเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน และก็เป็นเพื่อนอีชั้น
คุณ "สุริยา สิวายุ" ที่เคยถูกเรียกสมญาว่า "เจ้าแม่นมตรามะลิ"
"คุณอัญชลีกับนายห้างทองธรรมวัฒนะ"และใครต่อใครอีกมากมายในวงการคนมีเงินเป็นร้อนเป็นพันล้าน เมื่อไปกินฝีมือทำก๋วยเตี๋ยว ของคุณ "สรกณก" แล้วติดอกติดใจ เลยยุงยงส่งเสริมสนับสนุนให้เปิด ร้านขายก๋วยเตี๋ยว เรือสูตรพิสดารเสียซะเลย
คุณ"สรกณก"ก็ยุขึ้น ก็เลยทำขายจนเป็นเรื่องให้อีชั้นต้องเขียนถึงนี่ไง

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>"ก๋วยเตี๋ยวเรือเอ็นแก้ว" แบบน้ำข้น หรือจะแบบน้ำใส..ตามสั่ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ความอร่อย
ของ "ก๋วยเตี๋ยว เรือเอ็นแก้ว"
ก๋วยเตี๋ยว เส้นเล็กเส้นใหญ่ ใช้ของดีเป็นของ
โรงงานที่ใช้แป้งข้าวเจ้าเปอร์เซ็นต์สูง
น้ำก๋วยเตี๋ยว ใช้เครื่องยาจีนผสมเครื่องเทศไทย
ร้านขายยาเจ้าดั่งเดิมจากตลาดหัวรอ อยุธยา
พริกน้ำส้มผสมน้ำผึ่งแท้ ตามแบบฉบับเจ้าของ
สูตรเขาทำมาเป็น "เคล็ดลับ"ไม่เคยบอกใคร
รวมทั้งพริกป่น ใช้พริกแขกอินเดียคั่วเองเผ็ด
กลมกล่อม แบบ "ไฮโซ" ไม่ใช่เผ็ดแบบชาวบ้าน
ลูกชิ้นปลาทะเล ลูกชิ้นหมู สั่งทำพิเศษ
และที่สำคัญยิ่งกว่านั้น มีการเพิ่มเอ็นแก้วเอ็นใส
ใส่ให้เป็นพิเศษ เจ้าเดียวในเมืองไทย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=380 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=380> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ก็อย่างที่อีชั้นเรียนเจ้านายแล้วว่า
คุณ "สรกณก" คนนี้เป็นคนใจถึง จะทำอะไรจะต้องเป็นที่หนึ่ง อย่างชนิดที่วงการเขามีคำใช้กันว่า...เจ๊มาเอง หรือ ซ้อสั่งลุย
เขียนแล้วอีชั้นคุยได้ว่า เป็น "ก๋วยเตี๋ยวเรือ" ที่อร่อยพิสดาร เลือกสรรทำเป็นพิเศษ
ขนาดหมูสด หมูเปื่อย ก็ยังใช้หมูส่วนที่ดีที่สุด ไม่มีการลดต้นทุน
หมูสดเป็นหมูสะโพกไม่ติดมัน แต่จะต้องหมักให้เนื้อหวานและนุ่ม ส่วนหมูเปื่อยใช้หมูขั่วปอดที่อร่อยยอดเพราะมีทั้งหมู เอน และกระดูกอ่อน
ส่วนที่ก๋วยเตี๋ยวที่นี่มีชื่อสมญาว่า "หอวัง" ก็เพราะคุณ "สรกณก" เคยทำงานอยู่ในรั้วในวังเพื่อนฝูงก็เลยตั้งให้ แต่อีชั้นขอเรียกชื่อใหม่ว่า "ก๋วยเตี๋ยวไฮโซ"
...เป็นก๋วยเตี๋ยวโชว์ฝีมือ กำรี้กำไรไม่สน ขอให้ได้รับคำชมว่าอร่อยเป็นที่หนึ่ง จะกินฟรีก็ยังโอ.เคเลยเจ้านาย.

**********************************************
**********************************************

"ก๋วยเตี๋ยวเรือเอ็นแก้ว" (หอวัง)
ขายที่ "ฟู้ดคอร์ท" ของ "สยามพารากอน" ปทุมวัน
กับที่ "ชั้นจี" ฟู้ดคอร์ทของ "ไอทีสแคว์" หลักสี่
สอบถามรายละเอียดที่ 08-1649-6900

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อนุโมทนา หิวขึ้นมาทันที เอาน้ำลูบท้องไปก่อน แล้วกันวันนี้ หึๆ

 

"พรชัยโภชนา"ระยอง ก๋วยเตี๋ยวหลากเส้น ลูกชิ้นปลา-ทำเอง
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->http://www.matichon.co.th/matichon/m...sectionid=0125

วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10690​

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD>
"พรชัยโภชนา"ระยอง ก๋วยเตี๋ยวหลากเส้น ลูกชิ้นปลา-ทำเอง

คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม

โดย ปิ่นโตเถาเล็ก

</TD><TD vAlign=top align=right>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

คำกล่าวสัปดนปนทะเล้นที่ว่า "ไปเสม็ดเสร็จทุกราย" เห็นจะไม่จริงแล้ว ที่ถูกควรจะเป็นวลีที่ว่า "ไปเสม็ดเสร็จทุกชั่วโมง"

เสร็จในที่นี้หมายถึง อาการปลาบปลื้มตะลึงงันในความงดงามของธรรมชาติบนเกาะแก้วพิสดารแห่งนี้ ซึ่งเปลี่ยนไปไม่ซ้ำกันทุกๆ ชั่วยาม ไม่ว่าจะเป็น ยามเช้า ยามอาทิตย์อัสดง ยามแสงแดดแผดกล้า ยามพายุโหมกระหน่ำ ขนาดตอนที่ผมไปเยือนกลางเดือนและปลายเดือนเมษายน ฝนดันตกอยู่ตลอดทั้งสองทริป ยืนมองทะเลยามฝนโปรยปรอย ยังบังเกิดความสุนทรีย์ขึ้นในใจเลย

ความเปลี่ยนแปลงอีกอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ความหลากหลายของกลุ่มคนที่ไปเที่ยว นอกจากจะมีพวกแบ๊คแพคเกอร์ที่สะพายเป้ไปเที่ยวอย่างซำเหมาเหมือนที่เคยเป็น ยังมีกลุ่มใหม่ๆ ที่มาร่วมสร้างสีสันทำให้ลุงปิ่นโตเถาเล็กคนนี้เจริญตายิ่งนัก

หน้ารีสอร์ทฮิปกิ๊บเก๋แห่งใหม่ชื่อ *เสม็ดคลับ* (เสม็ดฮัทเดิม) ริมอ่าวน้อยหน่า ฝั่งเดียวกับหน้าด่าน ซึ่งเป็นท่าเรือประจำเกาะ คลาคล่ำไปด้วยหนุ่มสาววัยเริ่มทำงานตลอดจนนิสิตนักศึกษา ที่เพิ่งสร้างเนื้อสร้างตัวหรือยังขอสตางค์พ่อแม่อยู่

ด้วยสนนราคาต่อห้องในระดับสองพันกว่าแลกกับรีสอร์ทชั้นดีมีสิ่งอำนวยความสะดวกพร้อม รวมทั้งสระว่ายน้ำ คุณหนูทั้งหลายชอบอกชอบใจ จึงบอกต่อๆ กันจนกลายเป็นแหล่งชุมนุมของคนกลุ่มนี้โดยปริยาย

ทางด้านอ่าวพร้าวอีกฟากเกาะก็เช่นกัน นอกจากนักท่องเที่ยวต่างชาติและครอบครัวคนไทยกลุ่มเดิมๆ แล้ว ยังมีกลุ่มหนุ่มสาวระดับอายุยี่สิบกว่าไปจนสามสิบกว่า ผู้มีกำลังซื้อสูง ต่างพร้อมใจกันมาเที่ยวจนดูเหมือนปาร์ตี้ย่อยๆ พวกนี้แต่งตัวดูดีตั้งแต่หัวจรดเท้า ชุดว่ายน้ำวันพีซนั้นไม่เคยอยู่ในสายตา มันต้องบิกินีทูพีซร่วมสมัย น่ารักจริงจริ๊ง <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

ถ้าไป *รีสอร์ทปารดี* ที่อ่าวกิ่วท้ายเกาะ ท่านก็จะได้กระทบไหล่กับบรรดานักท่องเที่ยวต่างชาติกระเป๋าหนัก คู่ฮันนีมูนที่ต้องการความสงบพร้อมด้วยบริการระดับห้าดาว อีกทั้งคนไทยที่มาเป็นคู่ๆ ผู้ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยไม่ถึงสี่สิบ

ชีวิตสูงสุดคืนสู่สามัญ การไปเที่ยวเสม็ดระยองไม่จำเป็นต้องทำตัวเลิศหรูอยู่ตลอดเวลา ควรชิมของอร่อยราคาถูกระหว่างทางกันดีกว่า

ร้านนี้ขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาและเย็นตาโฟ ชื่อ *พรชัยโภชนา* เจ้าเก้งคนเดิม ผู้ชอบแสวงหาความอร่อยแปลกใหม่อยู่เสมอเป็นผู้พาข้าพเจ้าไปชิม ซึ่งไปทีไรก็ลืมแบกกล้องไปทุกที จนครั้งที่สี่นี้แหละได้ฤกษ์เปิดตัวเสียที

พรชัยโภชนาอยู่ใกล้ตัวเมืองระยอง ริม *ถนนสายบ้านค่าย 3138* ที่มีนิคมอุสาหกรรมตั้งอยู่มากมาย ทางไปนั้นง่ายมาก ถ้ามาจากกรุงเทพฯ เมื่อใกล้ตัวเมืองระยอง ให้วิ่งบนสาย 36 ซึ่งเป็นเส้นอ้อมเมืองบายพาสสายหลัก <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

เห็น *บิ๊กซี* ทางฝั่งซ้ายเมื่อไหร่ ให้เลี้ยวซ้ายแยกถัดไปใกล้ๆ กัน (ไม่ต้องขึ้นสะพานลอยนะจ๊ะ) เข้าไปอีกไม่กี่ร้อยเมตรเห็นร้านพรชัยขนาด 3 คูหาอยู่ทางซ้าย จอดรถริมถนนได้เลย ปลายปีนี้เขาจะย้ายร้านเลยไปอีกประมาณ 500 เมตร ที่บ้านเลขที่ 64/3 หมู่ 4 ตรงข้ามโรงสีมิตรชาวนา จึงขอบอกกล่าวไว้ล่วงหน้า

ความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวเจ้านี้อยู่ที่ลูกชิ้นหลายชนิดที่มีเนื้อสัมผัสนุ่มนวลชวนรับประทาน ไม่ถึงกับเด้งดึ๋งๆ ไม่คาวเลย รสชาติอร่อยอีกด้วย ชิมดูก็รู้ว่าต้องทำจากเนื้อปลาคุณภาพดี ซึ่งเขาบอกว่าต้องสั่งปลามาจากกรุงเทพฯหลายชนิด แล้วมาทำลูกชิ้นเองที่นี่ มีทั้งลูกชิ้นกลมขาวและกลมทอด (ถ้าติดใจซื้อกลับคิดร้อยละ 130 บาท) ลูกชิ้นรักบี้ขาวและทอด (ร้อยละ 200 บาท) ตลอดจนฮื่อก้วยของโปรดผมซึ่งมีทั้งอย่างขาวและอย่างทอดแล้ว (เส้นละ 40 บาท) วันที่ไปลูกชิ้นรักบี้หมดจึงไม่เห็นในรูปนะครับ

นอกจากนี้ ยังมีของอร่อยเด็ดเป็นเกี๊ยวปลาซึ่งใช้เนื้อปลาห่อไส้ปลาผสมหมู ไม่ควรพลาด

ถ้าสั่งเป็นเย็นตาโฟจะไม่ได้เกี๊ยว ต้องขอเป็นชามพิเศษเพิ่มเกี๊ยวปลาด้วย เกี๊ยวหมูและเกี๊ยวกุ้งสดก็มีให้เลือกอีกด้วย

ที่แปลกประหลาดอีกอย่างคือ ร้านนี้มีเส้นให้เลือกสารพัดจริงๆ ทั้งเส้นหมี่ เส้นเล็ก เส้นใหญ่ บะหมี่ เส้นปลา บะหมี่กรอบ มักกะโรนี เส้นเซี่ยงไฮ้ เกี๊ยมอี๋ โอ๊ย ทำไมมีมากมายขนาดนี้ก็ไม่รู้

เมนูที่ควรสั่งคือ เย็นตาโฟที่มีรสชาตินุ่มนวลชวนกิน ก๋วยเตี๋ยวต้มยำน้ำข้นคลั่กเต็มไปด้วยถั่วทุกอณูแถมรสจัดถึงใจ หรือจะกินก๋วยเตี๋ยวธรรมดาน้ำหวานหอม

และที่ขาดไม่ได้คือ ลูกชิ้นลวก ซึ่งควรบอกให้ใส่เกี๊ยวปลาลวกเข้าไปด้วย ให้จิ้มกับน้ำจิ้มซีฟู้ด

วันนั้นพวกเราสั่งเพิ่มไปถึงสี่จาน เครื่องดื่มนั้นก็มีเพียบอีกเช่นกัน ถ้าเบื่อน้ำเปล่าหรือน้ำอัดลม ให้สั่งชาเย็นรสชาติหอมมัน ผมเป็นคนดื่มชากาแฟแล้วจะเหงื่อแตกนอนไม่หลับทั้งคืน ยังอดใจไม่ได้เลย น้ำอื่นๆ ยังมี น้ำตาลสด น้ำอ้อย เก๊กฮวย น้ำมะขาม น้ำกระเจี๊ยบ

ส่วนใครไม่กินลูกชิ้นปลา ก็เล่นข้าวขาหมูและหมูสะเต๊ะแทนได้

ร้านพรชัยเปิดมา 10 ปี มี 4 สาขา มาเส้นบ้านค่ายสะดวกสุด หรือจะไปที่มาบตาพุด และที่นิคมพัฒนาก็ได้ ใกล้ที่ไหนไปที่นั่นนะจ๊ะ

ข้อมูลร้าน

พรชัยโภชนา

โดย คุรพรชัย เมธีเฉลิมบุญ

ที่ตั้ง 32/6 หมู่ 3 ถนนจันทอุดม (เส้นไปบ้านค่าย) ต.เชิงเนิน อ.เมือง จ.ระยอง 21000

โทร. 0-3887-4007, 08-6334-6242, 08-9748-8269

เปิดบริการ 07.30-16.00 น. ทุกวัน

อาหารแนะนำ เย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ลูกชิ้นปลาลวก เกี๊ยวปลา
<!-- / message --><!-- sig -->

 

สูตรเจ๊น้อยก๋วยเตี๋ยวเรือ บางม่วง
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->สูตรเจ๊น้อยก๋วยเตี๋ยวเรือ บางม่วง
<TABLE style="WIDTH: 480px"><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle height=20></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR><TR><TD class=message-normal style="HEIGHT: 10px" vAlign=top align=middle><SCRIPT type=text/javascript>// URLs of slidesvar slideurl = new Array('http://ads.dailynews.co.th/column/images/2007/food/6/16/41282_38953.jpg') ;// Comments displayed below the slidesvar slidecomment = new Array('');var picNo = new Array('0');var i;var j;var picturecontent=''function poppic(ncId,NewsType,picNum){window.open('../../html/popup_news/popup_news_popuppic.htm?' + slideurl[picNum] + '?Daily News Online : Food','','resizable=1,HEIGHT=200,WIDTH=200');}function createtable(){picturecontent ='<table width=100% cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0>' ;for (i=0;i<=(slideurl.length-1);i++) {picturecontent +='<tr>' ;picturecontent +='<td vAlign=top align=center>' ;picturecontent += '';picturecontent += '' ;picturecontent += '</td>' ;picturecontent +='</tr>' ;picturecontent +='<tr>' ;picturecontent += '<td class=messageblack vAlign=middle align=center height=20>' ;picturecontent+=slidecomment ;picturecontent +='</td>' ;picturecontent +='</tr>' ;}picturecontent+='</table>' ;document.getElementById("hlblTable").innerHTML=''+picturecontent+'';}createtable();</SCRIPT></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top>เทศบาลตำบลบางม่วง จัดเที่ยว วันเดียวเที่ยว ๙ วัด มี วัดพิกุลเงิน วัดคงคา วัดปรางค์หลวง วัดอัมพวัน วัดราษฏร์ประคองธรรม วัดเสาธงหิน วัดอินทร์ วัดสะแก และวัดสวนแก้ว สนใจติดต่อ โทร. 0-2924-9480-3

ที่นี่คือสุดทางคลองบางกอกน้อย อ.บางใหญ่ น้ำในคลองใสสะอาดเหลือเกิน แล้วยังมีก๋วยเตี๋ยวเรือฝั่งตรงข้ามเทศบาลตำบลบางม่วงให้กินอีกด้วย คุณวนิดา นนท์สว่าง หรือ เจ๊น้อยก๋วยเตี๋ยวเรือ มีก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำตก น้ำข้น น้ำใส และต้มยำ ให้กินชามละ 15 บาทเท่านั้น

เครื่องปรุงน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำข้น 1 หม้อ

1.โป๊ยกั๊ก 10 ดอก

2.อบเชย 5 ชิ้น

3.พริกไทยเม็ดโขลก 3 ช้อนโต๊ะ

4.ใบเตยมัดเป็นฟ่อนเล็ก ๆ 2 ต้น

5.กระเทียม 10 หัว

6.ซีอิ๊วดำ 1 ทัพพี

7.ซอสถั่วเหลือง 2 ทัพพี

8.กระดูกซี่โครงหมู (เอียเล้ง) 3 กิโลกรัม

9.กระดูกตะโพกหมู (คาตั๊ง) 3 กิโลกรัม

วิธีต้มน้ำซุปก๋วยเตี๋ยว

1.ตักน้ำสะอาดใส่หม้อก๋วยเตี๋ยวให้ท่วมแล้วต้มน้ำให้เดือดจัด

2.ใส่เครื่องเทศเครื่องปรุงทุกอย่างและกระดูกหมูทั้งสองชนิดลงไปหลังจากที่น้ำเดือดดีแล้ว เจ๊น้อยบอกว่าถ้าใส่เครื่อง ปรุงลงไปต้มตอนน้ำไม่เดือด น้ำซุปจะมีกลิ่นคาวจัด กินไม่อร่อย ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ก็จะได้น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวขายได้ทันที

เจ๊น้อยก๋วยเตี๋ยวเรือ โทร. 08-7507-8571

คุณวิชัย เจริญธรร มานนท์ ที่ปรึกษาสมาคมภัตตาคารไทย ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จัดให้มีการอบรม โครงการพัฒนาธุรกิจร้านอาหารสู่สากล สมัครด่วน โทร.0-2938-0696, 08-7493-7576 เจ้าของร้านอาหาร และธุรกิจด้านอาหารสมัครด่วน ไม่เสียค่าใช้จ่าย และยังมีโอกาสไปจัดแสดงสินค้าถึงต่างประเทศ.

ขุนขยับ แม่มะลิ
Chaisang_k@yahoo.co.th​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
http://www.dailynews.co.th/web/html/...e=2&Template=1
<!-- / message --><!-- sig -->

 

หลงทางเข้ามา ...เห็นอาหารแล้วตาลาย น้ำลายไหลอ่ะ

 

สองอา (อาจารย์กวง,อาจารย์หนุ่ม) แอบมาเร่ขายก๋วยเตี๋ยวแถวนี้เอง

 

http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01fod02240650&day=2007/06/24&sectionid=0125

วันที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10697​

"ก๋วยเตี๋ยว"ซอยข่าวสด

คอลัมน์ หิวหรืออิ่มกก็ยิ้มพอกัน

โดย พัชรพน



ทุกทีเลยครับ กลางคืนไปงานเลี้ยง ตอนเช้าขึ้นมาหิวแสบท้อง เหตุก็พฤติกรรมการกินแบบนั่นนิดนี่หน่อย หนักไปที่ไวน์ เบียร์ เหล้า เสียมากกว่า กินไปคุยกันไป อำกันไปหัวเราะลั่นห้อง เป็นการสังสรรค์มากกว่าจะกินกันเอาจริงเอาจัง

เหมือนอิ่ม แต่ไม่เหมือนกินข้าวเย็น เลยตื่นเพราะหิวขึ้นมากลางดึกทุกที

ประสาคนกรุงเทพฯที่เช้าขึ้นมาต้องตาลีตาเหลือกส่งลูกไปโรงเรียน ก่อนขับรถมาทำงาน

ส่งลูกเสร็จส่วนใหญ่ก็จะหาอะไรแถวข้างทางที่ผ่านกินสักหน่อย เพื่อให้การทำงานช่วงเช้าเป็นไปด้วยความราบรื่น

ทำงานแบบหิวๆ นี่ไม่รื่นจริง มันไม่มีสมาธิ

กรุงเทพฯนั้นเช้าวันไหนๆ ก็เหมือนกัน วันทำงานที่ออกมาอยู่บนท้องถนนช่วงหกโมงครึ่งถึงแปดโมง สภาพที่ต้องเจอคือรถติดแหง็ก บนถนน ขยับตัวได้แต่ละคืบยากเย็น เมื่อท้องหิวเข้าไปด้วย อาการ หงุดหงิดมาเยือนแต่เช้า

เสียสุขภาพจิตที่สุด

วันศุกร์ที่ผ่านมาก็เป็นอย่างนั้น ที่หนักไปกว่าคืออย่างที่บอก หิวมากกว่าปกติ เพราะโหยๆ จากซัดไวน์ไปมากกว่าวันอื่นๆ

ที่แย่ไปกว่านั้นคือเกิดอะไรขึ้นไม่รู้ ร้านข้าวแกงเจ้าประจำที่กินประทังท้องเกือบทุกเช้าดันปิดร้านขึ้นมาเสียอีก

ได้เรื่องสิครับ ขับรถไปก็คิดไปว่าจะแวะกินอะไรที่ไหนดี

อย่านึกนะครับว่าง่ายกับการหาอะไรกินในช่วงเช้านี่ เท่าที่ถามดูเพื่อนๆ จะประสบเหมือนๆ กันคือ ทางที่ผ่าน แม้มีร้านก็หาที่จอดรถไม่ได้ ถนนกรุงเทพฯส่วนใหญ่ห้ามจอดรถในช่วงเช้า ยกเว้นถนนในซอย

ขับเลยมาเกือบถึงที่ทำงานย่านประชาชื่น ถึงนึกได้ว่ามี "ร้านก๋วยเตี๋ยว" เด็ดอยู่ร้านหนึ่ง

จากถนนวิภาวดี หากขับรถมุ่งไปทางดอนเมือง พอถึงแยกวัดเสมียนนารี เลี้ยวซ้ายเข้าถนนประชาชื่น ข้ามทางรถไฟ เลยตลาดบองมาร์เช่ ชิดซ้ายไว้ เจอสี่แยกไฟแดง เลี้ยวซ้ายตรงเข้ามาเลย เป็นปากทางเข้าสำนักงานหนังสือพิมพ์ข่าวสด เลยมาเรื่อยๆ ถึงซอย 20 มีเห็นป้ายร้าน "อีสานไทยไท" อยู่ขวามือ หาที่จอด แล้วมองฝั่งตรงกันข้ามร้านอีสานไทยไท

เป็นบ้านข้างถนน ที่มีโต๊ะตั้งอยู่บนฟุตปาธ และภายในร้านอยู่ 7-8 โต๊ะ ข้างๆ บ้านเป็นตู้ขายก๋วยเตี๋ยว

"ก๋วยเตี๋ยวหมู" ครับ แห้ง น้ำ ต้มยำ เส้นใหญ่ เส้นเล็ก บะหมี่ สั่งได้เลย

เป็นร้านที่ดูเรียบง่ายจนไม่นึกว่าจะใส่ใจกับรสชาติ แต่ลองดูเถอะครับ แห้งก็ได้ น้ำก็ดี ต้มยำก็ลองเลย

"อร่อย" จนไม่นึกว่า อะไรที่กินแล้วลิ้นมีความสุขจะหาได้ง่ายๆ แบบนี้

แน่นอนครับ ความอร่อยขึ้นอยู่กับน้ำซุป ร้านในซอยริมถนนที่เปิดขายง่ายๆ ร้านนี้ น้ำซุปไม่เป็นสองรองใครทั้งสิ้น รับประกันได้เต็มปากเต็มคำขนาดนั้นเลย หอม หวาน กลมกล่อม

เช้าๆ หิวแบบโหยๆ ได้ "บะหมี่ต้มยำ" ร้อนๆ คุณเอ๋ย ที่หงุดหงิดมาตลอดทาง หายเป็นปลิดทิ้งทันที

เพื่อให้อิ่มต่อเส้นเล็กแห้งอีกชาม เข้าสูตร แห้งชาม น้ำชาม อิ่มตื้อ

ทำงานสบายแล้วครับ ได้กินของอร่อยแต่เช้าแบบนี้ จิตใจผ่องใสขึ้นจม

ที่อยากกระซิบบอกคือ ก๋วยเตี๋ยวร้านนี้แค่ชามละ 15 บาท น้ำเย็นฟรี ตักเองกินเองได้ไม่อั้น ใส่น้ำยาอุทัยหอมกรุ่นอีกต่างหาก

ถ้ายังไม่อิ่ม ลองนี่เลย "ขนมใส่ไส้" หรือ "ข้าวต้มมัด" ในถาดขายไว้หน้าตู้ก๋วยเตี๋ยว รสชาติแบบมือเก่า รับประกันความหอมหวาน แต่อยากกินขนมใส่ไส้ หรือข้าวต้มมัด ต้องมาเช้าหน่อย อย่าให้เกิน 9 โมงเช้า เพราะมีคนขับรถมาจอดแวะซื้อกันเพียบทุกวัน ขายไม่กี่ชั่วโมงหมดแล้ว

หากอยู่แถวนี้ หรือมีโอกาสผ่านมา ลองดูได้เลย แล้วจะรู้ว่าที่ผมบอกว่าอร่อยนั้น ยังน้อยเกินไปในความรู้สึกของคุณเมื่อได้กิน

หากแวะมาสักช่วงแปดโมงกว่าๆ อาจจะเจอกัน เพราะตั้งใจไว้แล้วว่าวันไหนที่หิวแบบโหยๆ แบบนี้ จะเลือกร้านนี้เป็นอันดับแรก

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ถึงรส ถึงเครื่อง กวยจั๊บ"สะท้านบู๊ลิ้ม"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>24 มิถุนายน 2550 17:03 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศภายในร้านสะท้านบู๊ลิ้ม</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> "กวยจั๊บ" เป็นหนึ่งในเมนูก๋วยเตี๋ยว ที่มีเส้นทำด้วยแป้งหั่นเป็นชิ้นใหญ่ๆ แล้วนำไปต้มจนสุก ปรุงรสใส่เครื่องสารพัดอย่าง ซึ่งส่วนมากเป็นพวกเครื่องในของหมู ใส่น้ำซุปร้อนๆ ที่มีทั้งแบบน้ำใส และแบบน้ำข้น ให้ได้เลือกกินกัน แหม!! พูดถึงขึ้นมาแบบนี้แล้วมันยั่วกระเพาะเสียจริงว่าไหม??

ฉะนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการทรมานกระเพาะไปมากกว่านี้ มื้อนี้"ผ่านมาแวะกิน" เลยจะขอพามิตรรักนักกินไปอิ่มหนำสำราญกระเพาะกับกวยจั๊บร้อนๆ ที่ร้าน "สะท้านบู๊ลิ้ม" ตรงซ.อุดมสุขกัน ซึ่งที่ร้านนี้เขาขึ้นชื่อลือชาในเมนูกวยจั๊บ เป็นกวยจั๊บน้ำข้นแบบหอมกรุ่นเครื่องพะโล้ เครื่องเทศยาจีน ส่วนเรื่องรสชาตินั้นต้องบอกว่ารสเด็ดถูกปาก ชนิดที่เรียกว่าหากมากินช่วงกลางวันๆ จะเห็นลูกค้านั่งกินกันแน่นร้านเลย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>กวยจั๊บน้ำข้นชวนกิน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ว่าแล้วอย่ามัวปล่อยให้ท้องกิ่วร้องหิวหากวยจั๊บอยู่เลย ตามมาชิมเมนู กวยจั๊บน้ำข้น (ธรรมดา 40 บาท ใส่ไข่พะโล้ 45 บาท) กันดีกว่า กวยจั๊บหอมๆ เสิร์ฟมาร้อนๆ ในชามใบโตที่เต็มไปด้วยเครื่องสารพัด มีไส้หมูพะโล้ กระเพาะหมู ลิ้นหมู หนังหมู เนื้อหมู หมูกรอบ เต้าหู้ และไข่พะโล้ บวกกับมีเส้นกวยจั๊บขาวๆ ที่ต้มจนนุ่ม ลิ้มรสกวยจั๊บซดน้ำร้อนๆ หอมกลิ่นเครื่องพะโล้ เครื่องยาจีนอ่อนๆ น้ำซุปรสชาติหวานกลมกล่อม กินโดยไม่ต้องปรุงรสชาติเพิ่มก็รสดีถูกปาก พวกเครื่องอย่างไส้หมู กระเพาะหมูเคี้ยวนุ่ม ไม่เหนียว หนังหมูเคี้ยวนุ่มหนึบหนับปาก หมูกรอบเนื้อนุ่มติดมัน เคี้ยวหนังกรุบกรอบปาก

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ และแกงลูกชิ้นปลากราย</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> และใช่ว่าที่นี่จะมีแต่เมนูเด่นชูโรงอย่างกวยจั๊บเท่านั้น ยังมีเมนูอื่นๆ ที่รสเด็ดและชวนกินอีก อย่างก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ (30 บาท) ที่มีหลายเส้นให้เลือกกิน เย็นตาโฟของที่นี่รสดีตรงน้ำซอสเย็นตาโฟที่ทางร้านปรุงขึ้นมาเอง ออกรสชาติเปรี้ยว หวาน เผ็ด ส่วนเครื่องก็ใส่มาไม่อั้นมีทั้งปลาหมึกกรอบ ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮือก้วย ลูกชิ้นแต่ไม่อย่างเคี้ยวนุ่มเด้งไม่คาว ถูกปากดีแท้

อีกหนึ่งเมนูเด็ดที่ไม่ควรพลาด คือ แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย (ราดข้าว/ขนมจีน 35 บาท สั่งแยกมาเป็นจาน 40-50 บาท) เป็นแกงเขียวหวานที่ทางร้านโขลกเครื่องแกงเอง จึงได้เครื่องแกงเผ็ดถึงเครื่อง นำมาแกงใส่ฟักกับมะเขทอพวง และใส่ลูกชิ้นปลากรายที่ทำมาจากปลากรายล้วนๆ ทำให้ลิ้มรสชาติแกงแล้วสัมผัสได้ถึงความเข้มข้นของแกงที่ออกเผ็ด หวาน มัน ที่สำคัญลูกลิ้นปลากรายเนื้อแน่นเคี้ยวเด้งนุ่มปาก

นอกจากนี้ก็มีเมนูอื่นๆ อาทิ ขาหมูพะโล้ (ราดข้าว 35 บาท สั่งมาเป็นจาน 50 บาท) ถ้าเป็นช่วงเวลาตั้งแต่ 17.00 น. เป็นต้นไป จะขายอาหารตามสั่งด้วย มีเมนูที่แนะนำ อาทิ ข้าวต้มปลากะพง (50 บาท) ออส่วนกระทะร้อน (100 บาท) และก็มีอีกหลากหลายเมนูเด็ดชวนกิน ที่ต้องลองแวะมาชิมกันเองที่ร้าน "สะท้านบู๊ลิ้ม"

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

คลิก!! อ่านรายละเอียดและการเดินทางไปยังร้าน "สะท้านบู๊ลิ้ม"
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและการเดินทางไปยังร้าน "สะท้านบู๊ลิ้ม"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>21 มิถุนายน 2550 16:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : สะท้านบู๊ลิ้ม (อุดมสุขโภชนา)

ประเภทอาหาร : กวยจั๊บ

เมนูจานเด่น : กวยจั๊บน้ำข้น, ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ, แกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย

บรรยากาศร้าน : ตึกแถว 2 ห้อง โต๊ะนั่งกว้างขวาง

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 970-970/1 ถ.สุขุมวิท 103 (ซ.อุดมสุข) แขวง/เขตบางนา กทม. การเดินทางถ้ามาจากทางถนนสุขุมวิท ให้เลี้ยวเข้าถ. สุขุมวิท 103 หรือซ.อุดมสุข ตรงเข้ามาเรื่อยๆ จนเห็นโชว์รูมอีซูซุทางขวามือ ก็จะเห็นร้านสะท้านบู๊ลิ้มอยู่ใกล้กับโชว์รูม หรืออยู่ตรงข้ามกับซ.อุดมสุข 47 มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน ตั้งแต่ 09.30 - 24.00 น.

เวลาเปิด-ปิด : ร้านเปิดทุกวัน (ปิดเฉพาะช่วงเทศกาล)

เบอร์โทรศัพท์ : 0-2746-5028-29
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01fod02010750&day=2007/07/01&sectionid=0125

วันที่ 01 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10704​

"ลูกชิ้นศรีย่าน"เก่าแก่

คอลัมน์ หิวหรืออิ่มก็ยิ้มพอกัน

โดย พัชรพน



ลูกชิ้นเนื้อเจ้าอร่อยเป็นที่รู้จักกันมานาน ต้อง "ลูกชิ้นศรีย่าน"

ร้านขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อที่ "ศรีย่าน" ซึ่งเป็นต้นตำรับ คือร้านดังที่นักกินรู้จักกันทั่ว ตอนหลังมีร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นศรีย่านเปิดขายไปทั่ว ได้ยินมาว่าร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นศรีย่านต้นตำรับเปิดขายลูกชิ้น นับขายเป็นลูกๆ เป็นร้อยๆ ใครอยากขายก็ไปซื้อลูกชิ้นมาเปิดเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวขายได้เลย ทำให้ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นศรีย่านไปมีร้านตามย่านอื่นๆ ที่ไม่ใช่แค่ศรีย่าน

ร้านที่จะแนะนำวันนี้ คงเป็นเหมือนร้านอื่นๆ แต่เปิดขายมานานมากแล้ว จำได้ว่าตั้งแต่ผมเข้ากรุงเทพฯใหม่ๆ เมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วก็เห็นร้านนี้มีอยู่แล้ว และยังอยู่จนถึงทุกวันนี้ในแบบเดิมๆ

อยู่ตรงสี่แยกพงษ์เพชร ถนนงามวงศ์วานครับ

ถ้าขับรถมาจากวิภาวดีรังสิต เข้าถนนข้ามวงศ์วาน อย่าขึ้นสะพานข้ามแยก ชิดซ้ายเลียบสะพานข้ามแยกไปจะเจอไฟแดง ก่อนถึงไฟแดงมีคลองประปา เลี้ยวซ้ายข้างคลองไปหาที่จอด ร้านนี้อยู่ปากซอยข้างคลอง

จุดสังเกตคือหน้าร้านตั้งเตาขายเต้าหู้ทอด

เดิมนั้นร้านนี้ขายก๋วยเตี๋ยวเนื้ออย่างเดียว แต่ไม่กี่ปีมานี้เพิ่มตู้ก๋วยเตี๋ยวหมูเข้าไปด้วย

คงเป็นบรรยากาศร้านก๋วยเตี๋ยวเก่าแก่

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำใสนี่ สำหรับผม "เส้นหมี่น้ำ" ถูกใจสุด

ทุกครั้งที่สั่งก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำใสกิน เกิดความรู้สึกว่าเส้นหมี่ขาวนี่เหมือนอยู่ในน้ำร้อน จะให้กลิ่นหอมเรียกน้ำย่อยได้ดีเป็นพิเศษกว่าเส้นอื่น

"ก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำใส" นั้น นอกจากลูกชิ้นต้องทีเด็ดแล้ว น้ำซุปใสๆ นั้นต้องเยี่ยม ใสแหนวแต่กลมกล่อม อีกอย่างคือน้ำส้มพริกตำต้องใช้พริกขี้หนูเขียว

กลิ่นเหม็นเขียวนิดๆ ผสมกลับกลิ่นน้ำส้มสายชู เปรี้ยวจี๊ดเผ็ดจ๊าด เมื่อใส่ผสมกับน้ำซุปใสๆ รสกลมกล่อม เป็นความอร่อยที่กลมกลืน

ลูกชิ้นจากศรีย่านเหมือนกัน แต่ความอร่อยของก๋วยเตี่ยวแตกต่างกันก็ตรงนี้

คงด้วยประสบการณ์ที่ขายมายาวนาน ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นศรีย่าน พงษ์เพชร จึงปรุงได้อย่างครบสูตรความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำใส

เปิดขายแต่เช้าครับ ก๋วยเตี๋ยวศรีย่าน พงษ์เพขร ด้วยเหตุฉะนี้ หากผมมีธุระแวะผ่านไปแถวนั้น จะหมายไว้เป็นอาหารเช้า

ลองดูเถอะครับ หากแวะผ่านไปทางนั้น เป็นร้านที่รับประกันเลยว่า ไปแล้วไม่ผิดหวังแน่นอน

หากจะให้เด็ด ลองสั่งเต้าหู้ทอดมาลองกินเล่นเรียกน้ำย่อยสักจาน

เท่าที่เห็นเป็นเต้าหู้ทอดที่ขาประจำมาซื้อกันมาก เคยกินแล้วต้องอยากกินอีก กรอบนอกนุ่มใน น้ำจิ้มรสเด็ด

หากไปกินตอนเที่ยง ซื้อเต้าหู้ทอด เผือกทอด ใส่ถุงกลับมาเป็นอาหารว่างยามบ่ายที่ทำงาน แม้จะเย็นไปนิด ชืดไปหน่อย ขัดกับหลักการกินเต้าหู้ทอด เผือกทอดที่ต้องกินร้อนๆ จึงจะเด็ด แต่เชื่อเถอะครับหยิบขึ้นมาวางบนโต๊ะเมื่อไร เพื่อนแย่งกินกันแน่น กินแล้วไม่มีใครยอมวางไม้จิ้มอีกต่างหาก เพราะว่ารสชาติเด็ดขาด ชนิด "ชิ้นเดียวไม่เคยพอ"

จะหาร้านที่ก๋วยเตี๋ยวก็ได้รสชาติ เต้าหู้ทอดก็เฉียบขาดแบบนี้ หาไม่ง่ายครับ

หากผ่านมาทางพงษ์เพชร อยากอร่อยแวะเลย

 

http://www.matichon.co.th/matichon/...g=01fod01010750&day=2007/07/01&sectionid=0125

วันที่ 01 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 ปีที่ 30 ฉบับที่ 10704​

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="100%"><TBODY><TR><TD>
"มิสเตอร์โจ"ก๋วยจั๊บตรอกจันทน์ มีดีที่หมูกรอบ

คอลัมน์ ตามรอยพ่อไปชิม

โดย ปิ่นโตเถาเล็ก

</TD><TD vAlign=top align=right>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

เอ้า เร่เข้ามา บรรดาพลพรรคชมรมนิยมเครื่องใน วันนี้ปิ่นโตเถาเล็กขอพาไปเยือนย่านเก่าแถวตรอกจันทน์ที่ขึ้นชั้นเป็นถนนจันทน์ไปตั้งนมนานแล้ว ถิ่นนี้มีของอร่อยที่ยังไม่ได้แนะนำอีกเพียบ เกริ่นเลยก็แล้วกัน อาทิตย์นี้ขอเสนอตอน "ก๋วยจั๊บน้ำใส เผ็ดร้อนด้วยพริกไทย ใส่สารพัดเครื่องใน แต่ทำไมหมูกรอบช่างกร๊อบกรอบอร่อยเสียจริง"

ผู้ให้เกียรติชี้แนะข้าพเจ้าในคราวนี้ ต่างพร้อมใจกันบอกกล่าวโดยไม่ได้นัดหมายถึงสามพวกสามหน เริ่มจากน้องหมี ไมตรี เพื่อนสมาชิกชมรมนักลงทุนรุ่นเยาว์ ไอเอฟซีที รุ่นที่ 2 ซึ่งคอร์สอบรมนักศึกษารายการนี้กลายเป็นอดีต เพราะถูกยุบรวมไปอยู่กับธนาคารทหารไทยแล้ว มาบัดนี้เจ้าหมี ผู้เคยมีหุ่นสะโอดสะอง ยี่สิบสองปีผ่านไป มันเหมือนหมีไปแล้วจริงๆ พวกเรานัดสังสรรค์กันเมื่อหลายเดือนก่อน เลยถือโอกาสสอบถาม หมีเลยแนะให้มาที่นี่ พร้อมกับจัดแจงวาดแผนที่ให้เสร็จสรรพ

จากนั้นเมื่อผมไปเข้าก๊วนอาหารกลางวันของคุณอาประกิต อภิสารธนรักษ์ และคุณอาวงษ์ชัย บุศราพันธ์ ก็ยืนยันถึงชื่อเสียงเจ้านี้อีกเป็นหนที่สอง และครั้งสุดท้ายเมื่อเร็วๆ นี้ พี่วีระนักชิมประจำซอยเซนต์หลุยส์ 3 ก็ตอกย้ำอีกว่าคุณอิ๊งค์จำไม่ได้หรือที่ผมจะพาไปชิม เราเคยนัดกันแล้วนะ ผมเลยไม่รีรอใครทั้งสิ้น รีบบึ่งไปร้านก๋วยจั๊บทันที <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

ก๋วยจั๊บร้านนี้ "ไม่มีป้ายชื่อหน้าร้าน" แต่รู้จักกันในนาม "ก๋วยจั๊บมิสเตอร์โจ" อยู่ริมถนนจันทน์ระหว่างซอยจันทน์ 44 และ 42 ซึ่งเป็นช่วงต้นๆ ของถนนจันทน์ที่แยกมาจากถนนเจริญกรุงริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ถ้าท่านมาจากสีลม บางรัก หรือจากโรงแรมแชงกรี-ลา ห้างโรบินสัน ให้วิ่งบนถนนเจริญกรุง ลอดใต้สะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินไปอีกด้านหนึ่ง วิ่งไปอีกประมาณ 1 กม. ผ่านวัดสุทธิวรารามเมื่อไหร่ ให้เลี้ยวซ้ายตรงสามแยกไฟแดงถัดไป เข้าถนนจันทน์ไปอีกไม่กี่ร้อยเมตร ผ่านซอยจันทน์ 44 แล้วให้ชิดซ้าย จอดได้เลย

ย้ำว่าร้านก๋วยจั๊บไม่มีป้ายชื่อ ให้สังเกตร้านเกาเหลาเนื้อตุ๋นป้ายสีแดงแจ๊ดที่อยู่ติดกันแทน ลืมบอกไปว่า ถนนเส้นนี้จอดรถได้นอกเวลาเร่งด่วนเช้าเย็น โดยสลับฝั่งที่ให้จอดได้ตามวันคู่วันคี่

ลักษณะร้านเป็นตึกแถว 1 คูหาลึกๆ ตั้งที่ปรุงก๋วยจั๊บอยู่ด้านหน้าริมทางเท้า ช่วงสายๆ ใกล้เที่ยง (วันนั้นที่ผมไปชิมเป็นวันเสาร์ 11.30 น.) ของทุกวันจะมีลูกค้ามายืนออหน้าร้านเต็มไปหมดเหมือนแย่งกันกินฟรี เพื่อมาซื้อใส่ถุงกลับบ้าน ส่วนด้านในตั้งโต๊ะเรียงราย ผู้มาชิมถึงที่ไม่ถึงกับต้องรอคิวนาน ค่อนข้างกินกันรวดเร็วเหมือนร้านฟาสต์ฟู้ด <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

เมนูอาหารไม่มีอะไรมาก มีก๋วยจั๊บน้ำใสและเกาเหลากับข้าวเปล่า ทั้ง 2 รายการนี้มี 2 ขนาด คือชามธรรมดาสีชมพู 30 บาท ชามพิเศษสีเขียว 40 บาท ส่วนข้าวคิดถ้วยละ 5 บาท

ที่ไม่ควรพลาดสำหรับท่านผู้รักการกินเป็นชีวิตจิตใจคือ "หมูกรอบเปล่าๆ" ซึ่งเขาจะสับใส่จานเล็กมา สนนราคาจานละ 35 บาท เห็นสั่งกันแทบทุกโต๊ะ ให้จิ้มกับซีอิ๊วดำหวานที่จัดมาให้ด้วย หมูกรอบเจ้านี้หนังกรอบๆ มีเนื้อมากกว่ามัน ยิ่งกินยิ่งเพลิน ผมกินคนเดียวหนึ่งจานกำลังดี ถ้าติดใจจะสั่งกลับบ้านคิดโลละ 350 บาท

ส่วนก๋วยจั๊บและเกาเหลานั้นมีดีที่เครื่องในใส่สารพัด ยกเว้นตับ ผมไปชิมสองทีไม่เคยเห็น ลืมถามไปคิดว่าไม่มีตับนะครับ ที่ชื่นชอบอันดับหนึ่งคือ "ลิ้นหมู" ที่นุ่มและมีรสชาติหอมๆ มันๆ "ปอด" ก็นุ่มอร่อยเช่นกัน

อีกอย่างที่ชอบเอามากๆคือ "เซ่งจี๊" สดๆ ไม่มีกลิ่นเหม็น และยังมี "หัวใจ ม้าม" ไส้ 2 ชนิดทั้ง "ไส้อ่อน" ที่เป็นท่อนกลมๆ และ "ไส้ใหญ่" ที่เป็นไส้แบนๆ "กระเพาะหมู" ก็เด็ดอีกเหมือนกัน ที่นี่เขาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ

นอกจากเครื่องในแล้ว เขายังใส่ "เต้าหู้ หมูกรอบ และหนังหมู" อีกด้วย ไม่อยากได้อะไรบอกเขาได้ ไม่ต้องเกรงใจ น้ำซุปก๋วยจั๊บเผ็ดร้อนด้วยพริกไทย แต่ยังไม่หนักเท่าก๋วยจั๊บนายเล็กอ้วนตลาดเก่าเยาวราช เส้นก๋วยจั๊บนั้นเหนียวหนึบๆ ไม่นุ่มๆ อย่างที่ผมเคยกินบ่อยๆ ตอนเด็กๆ ผมชอบปรุงรสเพิ่มเติมด้วยน้ำส้มพริกตำกับน้ำปลา เติมน้ำตาลเข้าไปนิดหน่อย บางคนยังสะใจไม่พอเหยาะพริกไทยเข้าไปอีก ขึ้นอยู่กับความชอบพอของแต่ละท่าน

ก๋วยจั๊บเจ้านี้ตั้งอยู่ที่นี่มา 10 กว่าปีแล้ว ก่อนนั้นอยู่แถวสะพานสอง สรุปขายมานาน 30 กว่าปี เปิดตั้งแต่แปดโมงเช้าไปจนถึงห้าโมงเย็นทุกวัน ไม่ควรไปตอนบ่ายแก่ๆ นะจ๊ะ ถ้าหมดก่อนก็จะปิดร้านก่อน อยากรู้อะไรเพิ่มเติมให้ถามมิสเตอร์โจที่ยืนสับหมูกรอบอยู่ข้างหน้า ฝากถามด้วยว่าชื่อนี้มีที่มาประการใด อย่าลืมบอกปิ่นโตเถาเล็กด้วยล่ะ

ข้อมูลร้าน

ก๋วยจั๊บมิสเตอร์โจตรอกจันทน์(ไม่มีป้ายชื่อร้าน)

โดย คุณชุนง้อ แซ่ลี้

ที่ตั้ง 313/7 ถนนจันทน์ (ใกล้ซอยจันทน์ 44) เขตบางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120

โทร. 0-2213-3007

เปิดบริการ 08.00-17.00 น. ทุกวัน (อาจจะหมดก่อนเวลา)

หยุด ตามเทศกาลเช่น สงกรานต์ ช่วงกินเจ (หยุด 1 อาทิตย์) และตรุษจีน

แนะนำ ก๋วยจั๊บน้ำใสใส่เครื่องในและหมูกรอบจิ้มซีอิ๊วดำหวาน

 

มิสเตอร์โจ"ก๋วยจั๊บตรอกจันทน์ มีดีที่หมูกรอบ














<!-- / message --><!-- sig -->

 

แค่ชมภาพก็อร่อยแล้ว ได้ทานคงพุงกาง

 

2 อา(จารย์)เค้าขายตรงนี้มานานแล้ว แต่ผมเพิ่งเห็นคนเชียร์(แขก)นะสิพี่เม้า...

โห!ครบเครื่องทั้งพระเครื่อง ทั้งก๋วยเตี๋ยวเลยนะ พ่อ 2 หนุ่ม

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>Gialong Cuisine เวียดนามจานอร่อยเพื่อสุขภาพ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 มิถุนายน 2550 12:26 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>เฝอเนื้อ </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ยำหอยแมลงภู่ </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ยำหัวปลี </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>บั้นก๊วน-หมูหย่อ </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>เนื้อย่าง-หมูย่างใบชะพลู </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ส้มตำ-ปลาดุกฟู </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>พอร์ก ชอพ ทอด </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>ร้าน Gialong Cuisine เป็นร้านอาหารที่เน้นหนักไปทางอาหารเวียดนามจานอร่อย มีมาตั้งแต่ครั้งที่ยังเป็นศูนย์การค้า “เวิลด์เทรด” และเมื่อมีการปิดปรับปรุงยกเครื่องด้วยผู้บริหารใหม่เปลี่ยนรูปลักษณ์จนไฉไลใหม่เจี๊ยบ ในนามของ “เซ็นทรัล เวิลด์ พลาซ่า” ร้าน Gialong Cuisine ก็เปิดตัวโฉมใหม่ในรูปแบบของร้านอาหารสวย เก๋ หรูหรา แต่ราคายังคงเดิม

นโยบายของร้านนี้คือยังคงใช้เมนูอาหารจานอร่อยที่อุดมด้วยสารพัดผัก มาปรุงเป็นอาหารเวียดนาม ไทย และอาหารฝรั่งบางจาน ด้วยฝีมือของคณะผู้ปรุงไทยจากอุบลราชธานี เป็นอาหารจานอร่อยที่ทุกคนคุ้นทั้งชื่อและหน้าตา ล้วนเป็นอาหารจานสุขภาพที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย รสชาติถูกปากลูกค้ามานาน จานที่ยกมาเป็นเพียงหนึ่งในไม่กี่จานอร่อย

ยำหอยแมลงภู่ ใช้หอยแมลงภู่ลวกพอสุกมาเปิดฝาออกด้านหนึ่ง ใส่น้ำยำปรุงรสจัดจ้านแต่งหน้า เคียงมาด้วยเส้นขนมจีน ผักสด สะระแหน่ ทำแบบเมี่ยง ห่อด้วยผักทำเป็นคำพอดีๆ รสชาติครบถ้วนทุกรสเรียกน้ำย่อยได้ดีนัก ราคา 80 บาท

ยำหัวปลี ยำโบราณแบบนี้หากินไม่ได้ง่าย หัวปลีกล้วยตานี หั่นขวางเป็นฝอย ล้างคลุกในน้ำผสมน้ำมะนาวจนหมดยาง ยำกับมะม่วงเปรี้ยวสับซอยละเอียด ปรุงรสด้วยน้ำยำรสกลมกล่อม ขยำเล็กน้อยพอให้ผักช้ำน้ำปรุงรสเข้าเนื้อ ใส่กุ้งชีแฮต้มสุก เสิร์ฟพร้อมกับข้าวเกรียบกุ้งทอด บิแล้วตักยำหัวปลีวางข้างบน กินเป็นคำๆจานนี้รสไม่จัดนักกินเป็นกับแกล้มก็ได้ ราคา 80 บาท

บั้นก๊วน-หมูหย่อ อาหารเวียดจานขึ้นชื่อมานานนมเป็นข้าวเกรียบปากหม้อแป้งนิ่มใส่สีจากดอกไม้-ไบไม้ นึ่งสุกเป็นแผ่นบางสามสีคือ ขาว น้ำเงินและเขียว เป็นสีขาวธรรมชาติ และอีกสองสีได้จากดอกอัญชันและใบเตย หุ้มไส้วางเรียงสวยงามมาในจาน แต่งหน้าด้วยหมูหย่อเจ้าขึ้นชื่อส่งตรงมาจากนครพนม เคียงมาด้วยน้ำปรุงรสที่ปรุงจากหัวไชเท้าและแครอทหั่นฝอย น้ำส้ม น้ำเชื่อมเล็กน้อยและน้ำปลาดี พริกตำสีแดง เป็นน้ำราดที่ทำให้มีรสชาติถูกปากทุกคน จานนี้กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วนเพราะแคลอรี่ไม่สูง ราคา 80 บาท

เนื้อย่าง-หมูย่างใบชะพลู เนื้อสะโพกแล่เป็นชิ้นบางๆ ถ้าเป็นหมูใช้ส่วนติดมันเล็กน้อยแล่บางๆเช่นกัน นำมาหมักกับเครื่องปรุงรสและกลิ่นต่างๆ ทิ้งไว้จนเข้าเนื้อก่อนนำมาห่อม้วนด้วยใบชะพลูเขียวสด เสียบด้วยไม้ไผ่เล็กๆแล้วนำไปย่างจนสุกหอมคลุ้งเกรียมนิดๆ กินกับชิ้นมะนาวหั่นได้รสเปรี้ยวมาเสริมให้ครบรส จะเลือกเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจะสั่งมาทั้งสองอย่างในจานเดียวกันก็ได้ ราคา 95 บาท

ส้มตำ-ปลาดุกฟู ส้มตำจากผักสามชนิด ทั้งมะละกอดิบ แครอทและแตงร้าน เป็นส้มตำไทยสามสี ชูรสด้วยกุ้งแห้ง เมล็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดกรอบ และเครื่องปรุงรสต่างๆจนรสชาติจี๊ด จัดแต่งหน้าด้วยปลาดุกฟูทอดกรอบร้อนๆ ให้ความกรอบมัน ช่วยชูรสให้เป็นส้มตำจานพิเศษที่ไม่ต้องการเครื่องเคียงอื่นอีกเลย ราคา 150 บาท

เฝอเนื้อ ใช้ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กลวกสุก ใส่ลงในชามโคมที่มีน้ำซุปที่เคี่ยวจากกระดูกโครงไก่ คาตั๊ง และหัวไชเท้า ปรุงรสด้วยน้ำตาลทรายแดง เกลือป่นและน้ำปลาดี จนหวานหอมกลมกล่อม เนื้อสันในหั่นแล่บางๆลวกพอเป็นสีชมพูวางบนเส้นจนกลบ เวลาจะกินต้องเด็ดทั้งผักชีฝรั่ง ใบโหระพา ถั่วงอกดิบ พริกขี้หนูบุบ บีบมะนาวปรุงให้ครบรสทั้งหมด เป็นอาหารจานเด็ดที่นิยมไปทั่วโลก หากไม่ชอบเนื้อจะสั่งเป็นใช้หมูไก่ หรือกุ้งแทนก็ย่อมได้ ราคา 95 บาท

พอร์ก ชอพ ทอด อาหารฝรั่งจานที่ใครๆก็ชอบมาตั้งแต่รุ่นฐานทัพอเมริกันยังรุ่งเรือง ใช้หมูชิ้นโตหั่นติดกระดูกซี่โครง หมักกับเครื่องปรุงจนเข้าเนื้อ แตะแป้งบางๆทอดในน้ำมันจนสุก เหลือง ขอบเกรียมนิดๆ เนื้อติดมันนุ่มราดด้วยน้ำเกรวี่ กินพร้อมกับเฟรนช์ฟรายและผักต้ม เป็นอาหารหลักจานเดียว หรือจะสั่งมาแบ่งกันกินคนละคำสองคำก็ย่อมได้ ราคา 195 บาท

ของหวานมีไม่มากนักแต่ก็เป็นของหวานที่อยู่คู่ร้านมาช้านาน ทั้ง “กล้วยหอมทอดราดน้ำผึ้ง” ที่ใช้ชิ้นกล้วยหอมห่ามๆ ชุบแป้งทอดจนกรอบเหลือง ราดด้วยน้ำผึ้งและน้ำตาลผงป่น ราคา 65 บาท สาคูแคนตาลูบ หอมเย็น หวานน้อยๆชื่นใจดับคาวอาหาร ราคา 55 บาท เป็นต้น

ร้าน Gialong Cuisine ในโฉมใหม่ในบรรยากาศสีขาวสะอาดตาน่านั่ง อยู่ชั้น 6 ใกล้กับทางออกของ Zen ดีพาร์ทเม้นท์สโตร์ เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-21.30 น.ทุกวัน ไม่มีวันหยุด สนใจติดต่อขอรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่


ข้อมูล
ร้าน Gialong Cuisine
สถานที่ ชั้น 6 ศูนย์การค้าเช็นทรัล เวิร์ลด์พลาซ่า ใกล้ Zen Department Store
ถนน ราชปรารภ สี่แยก ราชประสงค์ กทม.
โทรศัพท์ 02-255-9654,02-255-9656

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวรสชวนกินที่ร้าน "ลูกชิ้นปลาโบราณ"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 กรกฎาคม 2550 17:26 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้านลูกชิ้นปลาโบราณ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> มื้อนี้ "ผ่านมาแวะกิน" อยากกินอะไรที่มันไม่เบาไม่หนักท้องจนเกินไป คิดไปคิดมาอยู่หลายตลบสุดท้ายก็มาลงเอยที่ก๋วยเตี๋ยวจนได้ และส่วนมากหากพูดถึงก๋วยเตี๋ยวแล้วก็ต้องนึกถึงลูกชิ้น ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักๆอย่างหนึ่งของเมนูเส้น หากนักกินท่านใดพิสมัยชื่นชอบลูกชิ้นปลา และเนื้อปลาขาวๆแล้วละก็ มื้อนี้ต้องไม่พลาดร้าน"ลูกชิ้นปลาโบราณ" ถ.สิรินธร ที่เปิดบริการมาปีนี้ย่างเข้าปีที่ 10 แล้ว ด้วยบรรยากาศร้านที่โล่งโปร่งสบาย ชวนนั่ง

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=280 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=280> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เล็กยำนมสดและเล็กแห้งพริกสด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> หลังจากเราเลือกโต๊ะนั่งเหมาะๆ ได้แล้ว ก็ขอสั่งอาหารมาดับความโหยหิวก่อนเลย ซึ่งที่ร้านลูกชิ้นปลาโบราณมีก๋วยเตี๋ยวให้เลือกกินหลากหลาย และมีเส้นให้เลือกตามความชอบใจสไตล์ใครสไตล์มันอีกมากมาย อาทิ เส้นใหญ่ เส้นบะหมี่เหลือง เส้นหมี่ขาว วุ้นเส้น เกี้ยมอี๋

"ผ่านมาแวะกิน" ขอเริ่มประเดิมเมนูแรกด้วย เล็กยำนมสด (35 บาท) หน้าตาชวนกิน สีน้ำซุปออกขาวขุ่นเพราะจานนี้นอกจากจะใช้น้ำซุปกระดูกหมูแล้วยังใส่นมสดผสมไปด้วย ให้รสชาติหวานมัน ปรุงเพิ่มด้วยเครื่องต้มยำ มะนาว น้ำพริกเผา ออกรสเปรี้ยวเผ็ดเล็กน้อยกลมกล่อม และที่สำคัญจานนี้ใส่ลูกชินปลาสารพัดรูปแบบ ทั้งทรงกลม ทรงรีรักบี้ ลูกชิ้นกุ้ง และเนื้อปลากะพงแสมขาวเคี้ยวหนึบไม่มีรสและกลิ่นคาวเลยแม้แต่น้อย

จัดการเมนูแรกไปเรียบร้อยต่อที่ เล็กยำตะไคร้ (45 บาท) ซึ่งหอมกลิ่นตะไคร้สมุนไพรมาแต่ไกล ในจานมีเครื่องต้มยำข่าตะไคร้ ผักชีฝรั่ง มะเขือเทศ เห็ดฟาง และเนื้อปลากะพงแสมขาว ดูแล้วเหมือนต้มยำเนื้อปลาน้ำใสปกติ แต่เมื่อได้ตักคนดูจะเห็นว่ามีเส้นเล็กใส่อยู่ด้วย ชิมแล้วก็ติดใจหยุดไม่อยู่ด้วยรสชาติต้มยำออกเปรี้ยวหวานและเผ็ดเล็กน้อยชุ่มคอ

หลังจากกินเมนูน้ำๆไปแล้ว สุดท้ายปิดท้ายมื้ออิ่มด้วย เล็กแห้งพริกสด (35 บาท) ด้วยเส้นเล็ก ใส่เครื่องด้วยสารพัดลูกชิ้นมีทั้งลูกชิ้นกุ้งเนื้อนุ่ม ลูกชิ้นปลาเคี้ยวเด้งหนุบหนับปาก และเกี๊ยวปลาสด ราดด้วยน้ำจิ้มซีฟู้ด ไม่ต้องปรุงเพิ่มก็ให้รสเผ็ดจัดจ้านแบบซีฟู้ด เข้ากันได้ดีกับผักรองจานอย่างผักบุ้งไทยอีกด้วย

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เล็กยำตะไคร้ใส่เนื้อปลาชิ้นโต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> และนอกจากนี้ยังมีอีกหลากเมนู อาทิ สลัดปลา ใช้เนื้อปลาชุปแป้งทอดกินคู่กับผักสลัดและน้ำครีมสลัด (45 บาท) ส้มตำปลา คือส้มตำไทยใส่เนื้อปลาสดลวก (45 บาท) ก๋วยเตี๋ยวเศรษฐี ที่ใส่เครื่องเยอะ (40 บาท) เล็กยำยาย (30 บาท) เลือกเลือกอิ่มได้อีกสารพัดเมนู ซึ่งหากมิตรรักนักกินท่านใดยังเลือกร้านฝากท้องไม่ได้ ก็ขอแนะนำร้าน "ลูกชิ้นปลาโบราณ" ให้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ชวนกิน

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

คลิก!! อ่านรายละเอียดและการเดินทางไปยังร้าน "ลูกชิ้นปลาโบราณ"
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและการเดินทางไปยังร้าน "ลูกชิ้นปลาโบราณ" </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>1 กรกฎาคม 2550 17:19 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=540 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=540> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : ลูกชิ้นปลาโบราณ

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยว และข้าว

เมนูจานเด่น : เล็กยำนมสด เล็กยำตะไคร้ เล็กแห้งพริกสด

บรรยากาศร้าน : ร้านโล่งโปร่งสบาย ตกแต่งร้านด้วยสีสันที่สดใส

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 369 ถ.สิรินธร แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กรุงเทพฯ 10700 การเดินทาง จากสะพานกรุงธน (สะพานซังฮี้) ตรงขึ้นสะพานข้ามแยกบางพลัด ตรงไปเรื่อยๆผ่านห้างสรรพสินค้าตั้งฮั่วเส็งแล้วชิดซ้าย ประมาณ 300 เมตรจะมีป้ายร้านสีส้มให้เห็นชัดเจน

เวลาเปิด-ปิด : ร้านเปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 - 22.30 น.

สถานที่จอดรถ : สามารถจอดรถได้ที่ซอยสิรินธร 7 แล้วเลี้ยวซ้ายซอยแรก ตรงไป 150 เมตร

เบอร์โทรศัพท์ : 08-9792-3869
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>