หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย psombat, 18 มีนาคม 2010.

  1. สมาชิกธรรม

    สมาชิกธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2011
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +1,308
    โมทนาบุญกุศลที่ท่านทำแล้วทุกประการนะครับ.....
     
  2. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    ขออนุโมทนาบุญกับท่านอีกครั้ง ท่านเป็นหนึ่งในหัวเรี่ยวหัวแรงใหญ่ของเหล่านักรบธรรม มาตั้งแต่ต้น และตลอดไปตามที่ท่านได้อธิษฐานจิตไว้ก่อนที่จะเจอพ่อแม่ครูอาจารย์และเหล่านักรบธรรม บัดนี้ท่านก็ได้พบแล้ว ผมเองมีความปีติและซาบซึ้งในบุญกุศลที่ท่านได้กระทำแล้วทุกประการ และอยากจะมอบสิ่งเป็นมงคลให้กับท่าน 1 อย่าง แต่ยังไม่รู้ว่าจักมีสิ่งใดหนอ จึงจะเหมาะควรกับผู้ใจบุญอย่างท่าน เพื่อตอบแทนน้ำจิตน้ำใจอันประเสริฐของท่าน และเพื่อเป็นตัวแทนองค์พ่อแม่ครูอาจารย์และเหล่านักรบธรรม แล้วผมจะแจ้งท่านอีกครั้งนะครับ

    ขอเจริญในธรรม
    ดร.นนต์
    26 มีนาคม 2555
     
  3. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    กระผมขอร่วมโมทนาสาธุในบุญใหญ่กับท่านฉันทะธรรมด้วยครับ

    ปัจจัยก้อนนี้จักได้นำไปชดเชยปัจจัยที่ได้เบิกจากปัจจัยกองกลางสร้างศาลาฯ
    ที่ได้เบิกไปจ่ายค่าสร้างถนนและระบบไฟฟ้าตามที่เคยเรียนไว้เมื่อก่อนหน้านี้ครับ

    คาดว่าตัวเลขเรื่องสร้างถนนกับไฟฟ้าคงมากเกินตัวเลขประเมิน เพราะเป็นจังหวะดีที่ได้ทำถนนจากปากทางเข้า ผ่าทุ่งนา เข้าวัด ผ่านหน้าศาลาหลวงปู่ฯ จนถึงลานธรรม แล้วทางวัดก็ต้องการดินมาเพื่อปรับพื้นที่ในการก่อสร้าง ตัวเลขจึงต้องสูงขึ้นอีก

    ไว้ผมจะ update รูปภาพให้ในภายหลังครับ

    ปล: องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ได้มอบพระพุทธปฐวีธาตุ (ชุดพิเศษ) วาระแทนคุณบิดามารดาให้กับท่านฉันทะธรรมด้วยครับ
     
  4. Phoobes

    Phoobes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,181
    ขอบพระคุณครับ
    คงต้องเรียนปรึกษาท่านอาจารย์เป็นการส่วนตัวทางPM คงจะเหมาะกว่านะครับ ผมเป็นหนูตัวที่ติดแร้วแถมตาและฟันไม่ดี คงต้องขอความกรุณาให้ผู้อาวุโสที่อยู่นอกแร้วชี้แนะ ขอบพระคุณในความเอื้ออารีของท่านนะครับ

    หากผมได้พบช่องทางแล้ว คงเชิญชวนท่านถวัลย์มาเป็นคนเมืองด้วยกันนะครับ
     
  5. kumlungjai

    kumlungjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2012
    โพสต์:
    164
    ค่าพลัง:
    +406
    ขออนุโมทนาบุญกับท่านสมบัติ ท่านฉันทะธรรม และทุกๆ ท่าน ที่ได้เสียสละกำลังกาย กำลังใจ และกำลังทรัพย์ เพื่อสร้างวัดที่ภูดานไหครับ สาธุ สาธุ
     
  6. Phoobes

    Phoobes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,181
    ขออนุโมทนาบุญกับท่านฉันทะธรรมด้วยครับ
     
  7. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    [FONT=Verdana, sans-serif]แจ้งให้ทราบ[/FONT]


    เรียนทุกท่าน เหตุจากผมได้นำเอาพระที่ญาติธรรมผู้ใจบุญได้มอบมาให้ เพื่อนำออกให้ผู้บูชา เพื่อนำปัจจัยที่หักจากค่าส่งแล้ว มอบถวายแด่พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช ทั้งหมด เพื่อสร้างวัดภูดานไห อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์ และได้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์ของผู้ใจบุญดังที่เคยเรียนให้ทุกท่านทราบมาแล้วเป็นระยะ แต่ในภายหลังกลับมีผู้เข้าใจผิด คิดว่าผมและเหล่านักรบธรรม รวมทั้งผู้บริจาคพระมา เป็นแก็งค์ 18 มงกุฎ เป็นผู้ปลอมพระขึ้นมา แล้วนำมาให้ผู้บูชาแบบหลอกลวง ผมไม่แน่ใจว่า อาจมีบางท่านบูชาพระไปแล้ว อาจนำไปให้เซียนพระดูแล้วเขาตีว่าเป็นพระปลอม ก็อาจเสียกำลังใจหรืออาจเจ็บแค้นใจก็เป็นไปได้ แต่ผมเชื่อในบุญและจิตอันบริสุทธิ์ของท่านทั้งหลายว่า อยากจะร่วมทำบุญกับพ่อแม่ครูอาจารย์จริงๆ แม้จะไม่ได้รับพระหรือไม่ก็ตาม หรือแม้จะได้รับพระปลอมก็ชั่ง เพราะการทำบุญนั้น เราไม่หวังสิ่งตอบแทนอยู่แล้ว แต่ว่าเหล่านักรบธรรมก็ขอแสดงน้ำใจต่อผู้ใจบุญ โดยการนำเอาพระที่ตนเองรักและสะสมไว้มามอบให้กับท่าน และมีความเข้าใจว่า พระที่อัญเชิญมานั้นเป็นพระแท้ จึงไม่สงสัยว่าพระที่นำมามอบให้นั้น อาจจะเป็นพระปลอมหรือไม่ เพราะเกิดจากจิตอันบริสุทธิ์ ผมเองก็ไม่อยากจะนำพระมาให้ใครบูชาเลย เพราะคงจะหนีไม่พ้นคำว่า หากินกับพระ ซึ่งผมก็เข้าใจในสัทธรรมข้อนี้ดีกว่าใครๆ เพราะผมเคยหลงเข้าไปสู่วังวงของวงการพระเครื่องอยู่หลายปี แต่ด้วยจิตใจอันหนักแน่น ที่อยากจะต่อบุญให้กับญาติธรรม ผมจึงยินดีเป็นสะพานบุญให้ทุกท่าน ได้มีหนทางสร้างบุญกุศล ดังที่เห็นอยู่ในขณะนี้ แม้จะถูกประนามก็ตาม

    ดังนั้น จึงขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า พระที่ญาติธรรมส่งมาให้บูชานั้น เป็นพระที่บริสุทธิ์ เพราะเกิดจากจิตใจอันบริสุทธิ์ของเขา ผมไม่ขอวิพากษ์ว่าพระนั้นจะแท้หรือปลอม เพราะรูปของพระพุทธเจ้า หรือพระอริยเจ้า หรือรูปพระโพธิสัตว์ ที่ปรากฏอยู่ในองค์พระเหล่านั้น ไม่มีวันปลอม เพราะรูปพระพุทธเจ้าไม่มีปลอม จะปลุกเสกหรือไม่ก็ตาม จะมีเจตนาสร้างขึ้นมาเพื่อปลอมก็ชั่ง แต่เมื่อเกิดเป็นรูปของพระพุทธเจ้าแล้ว รูปนั้นก็แทนพระพุทธเจ้า เมื่อเราศรัทธาในพระพุทธเจ้าแล้ว เราก็ย่อมเข้าใจในสิ่งเหล่านี้ ขอท่านทั้งหลาย หากปรารถนาจะบูชาเพื่อร่วมทำบุญแล้ว ก็จงมีใจหนักแน่น หากยังลังเลหรือสงสัย ก็จงโปรดระงับการบูชาพระที่นำเสนอนี้เสีย จะได้ไม่เกิดความทุกข์ตามมาในภายหลัง และขอให้เข้าใจว่า พวกเราเหล่านักรบธรรม ยังเป็นเพียงผู้แสวงหาในธรรม ยังเป็นเพียงแค่นักปฏิบัติ ยังไม่มีญาณทัศนะที่แจ่มแจ้งดั่งพระอริยเจ้า ก็อาจเกิดผิดพลาดในข้อมูลของพระที่นำมาประมูลได้ ก็โปรดอโหสิกรรมให้แก่กันและกันนะครับ

    จึงแจ้งมาเพื่อให้ทราบโดยทั่วกัน
    ดร.นนต์
    26 มีนาคม 2555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2012
  8. wanchai99

    wanchai99 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +86
    ขออนุโมทนาในบุญที่ท่านอ.ดร.นนท์และทุกๆท่านได้ทำไปทุกๆเรื่องและขอเป็นกำลังใจให้ด้วยครับ

    "น้ำที่ใสบริสุทธิ์ แม้จะถูกใส่สิ่งใดมาเจือปนให้ขุ่นมัว เมื่อตกตะกอน น้ำก็จะกลับมาใสบริสุทธิ์ดังเดิม"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2012
  9. TawanT

    TawanT เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +109
    เรียนท่านภูเบศร์ เคยมีคนแนะนำผมว่าแถวสะเมิง ก็น่าอยู่ครับแต่ผมยังไม่ได้ไปดู เผื่อว่าท่านผ่านไปแถวนั้นครับ
     
  10. sarutha

    sarutha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +180
    แล้วใยเราต้องกังวลกับมันเล่า แล้วสิ่งนั้นทำอะไรให้เรากังวลล่ะ
     
  11. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ท่านฉันทะธรรม post มาแบบนี้นะครับ จะได้ไม่ลายตาหนอ...
     
  12. sarutha

    sarutha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2008
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +180
    ขอบคุณครับ งงๆอยู่เหมือนกัน
     
  13. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    โมทนาสาธุในบุญกับคุณครูนันทวันด้วยครับ
    ด้วยผลบุญนี้ ขอให้ท่านมีความเจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกทางธรรมนะครับ
     
  14. Phoobes

    Phoobes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    361
    ค่าพลัง:
    +1,181
    คงจะบรรยากาศดีนะครับหากอยู่อาศัยและพักผ่อน แต่ผมต้องเผื่อทำการค้าได้ด้วยเลยต้องมองหาที่ไม่ไกลผู้คนนักครับ
     
  15. ckj_tong

    ckj_tong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +869

    เรียนท่านสมบัติ

    วันนี้ผมได้โอนเงินเพื่อร่วมทำบุญสร้างวัดผ่านบัญชีคุณแม่ชมแล้วครับจำนวน 4,999.99 บาท

    เมื่อเวลา 12:01 C798B009

    BBL BE 1ST CARD

    THE MALL 3 RAMKHAMHAENG

    RECORD NO. 480

    TRANSFER 4,999.99

    FR BBLA 0253196....

    TO KTBA 41603.......

    CHARGE 25

    SMS TO: 080176.....

    ขออนุโมธนาสาธุ ด้วยในทุกประการ ขอให้ท่านสว่างไสวทั้งทางโลกและทางธรรม

    ขอขอบคุณมากครับสำหรับคำอวยพร

    ชื่อที่อยู่ผมแจ้งทาง PM แล้วครับ
     
  16. ckj_tong

    ckj_tong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +869
    ขออนุโมทนาสาธุกับผลบุญที่คุณครูนันทวันได้สร้างในครั้งน้ีด้วยครับ

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  17. ckj_tong

    ckj_tong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +869

    ขออนุโมทนาสาธุกับผลบุญที่ท่านสมบัติได้กระทำในครั้งนี้ด้วยครับ

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  18. ckj_tong

    ckj_tong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +869
    วิธีสร้างบุญบารมี : โดยสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชฯ

    ๑. การให้ทาน

    การทำทาน ได้แก่การสละทรัพย์สิ่งของสมบัติของตนที่มีอยู่ให้แก่ผู้อื่น โดยมุ่งหวังจะจุนเจือให้ผู้อื่นได้รับประโยชน์และความสุขด้วยความเมตตาจิตของตน ทานที่ได้ทำไปนั้น จะทำให้ผู้ทำทานได้บุญมากหรือน้อยเพียงใด ย่อมสุดแล้วแต่องค์ประกอบ ๓ ประการ ถ้าประกอบหรือถึงพร้อมด้วยองค์ประกอบ ๓ ประการต่อไปนี้แล้ว ทานนั้นย่อมมีผลมาก ได้บุญบารมีมาก กล่าวคือ


    องค์ประกอบข้อ ๑. "วัตถุทานที่ให้ต้องบริสุทธิ์"
    วัตถุทานที่ให้ ได้แก่สิ่งของทรัพย์สมบัติที่ตนได้สละให้เป็นทานนั้นเอง จะต้องเป็นของที่บริสุทธิ์ ที่จะเป็นของบริสุทธิ์ได้จะต้องเป็นสิ่งของที่ตนได้แสวงหา ได้มาด้วยความบริสุทธิ์ในการประกอบอาชีพ ไม่ใช่ของที่ได้มาเพราะการเบียดเบียนผู้อื่น เช่น ได้มาโดยทุจริต ลักทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกง ปล้นทรัพย์ ชิงทรัพย์ ฯลฯ

    ตัวอย่าง ๑ ได้มาโดยการเบียดเบียนชีวิตเลือดเนื้อสัตว์ เช่นฆ่าสัตว์ต่างๆ เป็นต้นว่า ปลา โค กระบือ สุกร โดยประสงค์จะนำเอาเลือดเนื้อของเขามาทำอาหารถวายพระ เพื่อเอาบุญ ย่อมเป็นการสร้างบาปเอามาทำบุญ วัตถุทาน คือเนื้อสัตว์นั้น เป็นของที่ไม่บริสุทธิ์ แม้ทำบุญให้ทานไป ก็ย่อมได้บุญน้อย จนเกือบไม่ได้อะไรเลย ทั้งอาจจะได้บาปเสียอีกหากว่าทำทานด้วยจิตที่เศร้าหมอง แต่การที่ได้เนื้อสัตว์มา โดยการซื้อหาจากผู้อื่นที่ฆ่าสัตว์นั้น โดยที่ตนมิได้มีส่วนร่วมรู้เห็นเป็นใจในการฆ่าสัตว์ก็ดี เนื้อสัตว์นั้นตายเองก็ดี เนื้อสัตว์นั้นย่อมเป็นวัตถุทานที่บริสุทธิ์ เมื่อนำมาทำทานย่อมได้บุญมากหากถึงพร้อมด้วยองค์ประกอบข้ออื่นๆด้วย

    ตัวอย่าง ๒ ลักทรัพย์ ยักยอก ฉ้อโกง ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์รวมตลอดถึงการทุจริตฉ้อราษฏร์บังหลวง อันเป็นการได้ทรัพย์มาในลักษณะไม่ชอบธรรม หรือโดยเจ้าของเดิมไม่เต็มใจให้ทรัพย์นั้นย่อมเป็นของไม่บริสุทธิ์ เป็นของร้อน แม้จะผลิดอกออกผลมาเพิ่มเติม ดอกผลนั้นก็ย่อมเป็นของไม่บริสุทธิ์ด้วย นำเอาไปกินไปใช้ย่อมเกิดโทษ เรียกว่า "บริโภคด้วยความเป็นหนี้" แม้จะนำเอาไปทำบุญ ให้ทาน สร้างโบสถ์วิหารก็ไม่ทำให้ได้บุญแต่อย่างใด สมัยหนึ่ง ในรัชกาลที่๕ มีหัวหน้าสำนักนางโลมชื่อว่า "ยายแฟง" ได้เรียกเก็บเงินจากหญิงโสเภณีในสำนักของตนจากอัตราที่ได้มาครั้งหนึ่ง ๒๕ สตางค์ แกจะชักเอาไว้ ๕ สตางค์ สะสมเอาไว้เช่นนี้จนได้ประมาณ ๒,๐๐๐ บาท แล้วจึงจัดสร้างวัดขึ้นวัดหนึ่งด้วยเงินนั้นทั้งหมด เมื่อสร้างเสร็จแล้วแกก็ปลื้มปีติ นำไปนมัสการถามหลวงพ่อโตวัดระฆังว่า การที่แกสร้างวัดทั้งวัดด้วยเงินของแกทั้งหมดจะได้บุญบารมีอย่างไร หลวงพ่อโตตอบว่า ได้แค่ ๑ สลึง แกก็เสียใจ เหตุที่ได้บุญน้อยก็เพราะทรัพย์อันเป็นวัตถุทาน ที่ตนนำมาสร้างวัดอันเป็นวิหารทานนั้น เป็นของที่แสวงหาได้มาโดยไม่บริสุทธิ์ เพราะเบียดเบียนมาจากเจ้าของที่ไม่เต็มใจจะให้ ฉะนั้น บรรดาพ่อค้าแม่ขายทั้งหลาย ที่ซื้อของถูกๆ แต่ขายแพงๆ จนเกินส่วนที่ควรจะได้ ผลกำไรที่ได้มาเพราะความโลภจัดจนเกินส่วนนั้นย่อมเป็นสิ่งของที่ไม่บริสุทธิ์โดยนัยเดียวกัน

    วัตถุทานที่บริสุทธิ์ เพราะการแสวงหาได้มาโดยชอบธรรมดังกล่าว ไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นของดีหรือเลย ไม่จำกัดว่าเป็นของมากหรือน้อย น้อยค่าหรือมีค่ามาก จะเป็นของดี เลว ประณีต มากหรือน้อยไม่สำคัญ ความสำคัญขึ้นอยู่กับเจตนาในการให้ทานนั้น ตามกำลังทรัพย์และกำลังศรัทธาที่ตนมีอยู่

    องค์ประกอบข้อ ๒. "เจตนาในการให้ทานต้องบริสุทธิ์"
    การให้ทานนั้น โดยจุดมุ่งหมายที่แท้จริงก็เพื่อเป็นการขจัดความโลภ ความตระหนี่เหนียวแน่น ความหวงแหน หลงใหลในทรัพย์สมบัติของตน อันเป็นกิเลสหยาบ คือ "โลภกิเลส" และเพื่อเป็นการสงเคราะห์ผู้อื่นให้ได้รับความสุขด้วยเมตตาธรรมของตน อันเป็นบันไดก้าวแรกในการเจริญเมตตาพรหมวิหารธรรมในพรหมวิหาร ๔ ให้เกิดขึ้น ถ้าได้ให้ทานด้วยเจตนาดังกล่าวแล้ว เรียกว่าเจตนาในการทำทานบริสุทธิ์ แต่เจตนาที่ว่าบริสุทธิ์นั้น ถ้าจะบริสุทธิ์จริงจะต้องสมบูรณ์พร้อมกัน ๓ ระยะ คือ

    (๑) ระยะก่อนที่จะให้ทาน ก่อนที่จะให้ทานก็มีจิตโสมนัส ร่าเริงเบิกบานยินดีที่จะให้ทาน เพื่อสงเคราะห์ผู้อื่นให้ได้รับความสุขเพราะทรัพย์สิ่งของของตน
    (๒) ระยะที่กำลังลงมือให้ทาน ระยะที่กำลังลงมือทำทานอยู่นั้นเอง ก็ทำด้วยจิตโสมนัสร่าเริงยินดีและเบิกบานในทานที่ตนกำลังให้ผู้อื่น
    (๓) ระยะหลังจากที่ได้ให้ทานไปแล้ว ครั้นเมื่อได้ให้ทานไปแล้วเสร็จ หลังจากนั้นก็ดี นานมาก็ดี เมื่อหวนคิดถึงทานที่ตนได้กระทำไปแล้วครั้งใด ก็มีจิตโสมนัสร่าเริงเบิกบาน ยินดีในทานนั้นๆ

    เจตนาบริสุทธิ์ในการทำทานนั้น อยู่ที่จิตโสมนัสร่าเริงเบิกบานยินดีในทานที่ทำนั้นเป็นสำคัญ และเนื่องมาจากเมตตาจิตที่มุ่งสงเคราะห์ผู้อื่น ให้พ้นความทุกข์และให้ได้รับความสุข เพราะทานของตน นับว่าเป็นเจตนาที่บริสุทธิ์ในเบื้องต้น แต่เจตนาที่บริสุทธิ์เพราะเหตุดังกล่าวมาแล้วนี้ จะทำให้ยิ่งๆ บริสุทธิ์มากขึ้นไปอื่นหากผู้ให้ทานนั้นได้ทำทานด้วยวิปัสสนาปัญญา กล่าวคือไม่ใช่ทำทานอย่างเดียว แต่ทำทานพร้อมกับมีวิปัสสนาปัญญา โดยใคร่ครวญถึงวัตถุทานที่ให้ทานนั้นว่า อันบรรดาทรัพย์สิ่งของทั้งปวงที่ชาวโลกนิยมยกย่องหวงแหนเป็นสมบัติกันด้วยความโลภนั้น แท้ที่จริงแล้วก็เป็นเพียงแต่วัตถุธาตุประจำโลก เป็นสมบัติกลาง ไม่ใช่ของผู้ใดโดยเฉพาะ เป็นของที่มีมาตั้งแต่ก่อนเราเกิดขึ้นมา และไม่ว่าเราจะเกิดขึ้นมาหรือไม่ก็ตาม วัตถุธาตุดังกล่าวก็มีอยู่เช่นนั้น และได้ผ่านการเป็นเจ้าของของผู้อื่นมาแล้วหลายชั่วคน ซึ่งท่านแต่ก่อนนั้น ต่างก็ได้ล้มหายตายจากไปทั้งสิ้น ไม่สามารถนำวัตถุธาตุดังกล่าวนี้ติดตัวไปได้เลย จนในที่สุดก็ได้ตกทอดมาถึงเรา ให้เราได้กินได้ใช้ได้ยึดถือเพียงชั่วคราว แล้วก็ตกทอดสืบเนื่องไปเป็นของคนอื่นๆ ต่อๆไปเช่นนี้ แม้เราเองก็ไม่สามารถจะนำติดตัวเอาไปได้ จึงนับว่าเป็นเพียงสมบัติผลัดกันชมเท่านั้น ไม่จากไปในวันนี้ก็ต้องจากไปในวันหน้า อย่างน้อยเราก็ต้องจากต้องทิ้งเมื่อเราได้ตายลง นับว่าเป็นอนิจจัง คือไม่เที่ยงแท้แน่นอน จึงไม่อาจจะยึดมั่นถือมั่นว่านั่นเป็นของเราได้ถาวรตลอดไป แม้ตัววัตถุธาตุดังกล่าวนี้เอง เมื่อมีเกิดขึ้นเป็นตัวตนแล้ว ก็ตั้งอยู่ในสภาพนั้นให้ตลอดไปไม่ได้ จะต้องเก่าแก่ ผุพัง บุบสลายไป ไม่ใช่ตัว ไม่ใช่ตนแต่อย่างไร แม้แต่เนื้อตัวร่างกายของเราเองก็มีสภาพเช่นเดียวกับวัตถุธาตุเหล่านั้น ซึ่งไม่อาจจะตั้งมั่นให้ยั่งยืนอยู่ได้ เมื่อมีเกิดขึ้นแล้วก็จะต้องเจริญวัยเป็นหนุ่มสาวแล้วก็เฒ่าแก่และตายไปในที่สุด เราจะต้องพลัดพรากจากของอันเป็นที่รัก ที่หวงแหน คือทรัพย์สมบัติทั้งปวง

    เมื่อเจตนาในการให้ทานบริสุทธิ์ผุดผ่องดีพร้อมทั้งสามระยะดังกล่าวมาแล้ว ทั้งยังประกอบไปด้วยวิปัสสนาปัญญาดังกล่าวมาแล้วด้วย เจตนานั้นย่อมบริสุทธิ์อย่างยิ่ง ทานที่ได้ทำไปนั้นย่อมมีผลมาก ได้บุญมากหากวัตถุทานที่ได้ทำเป็นของที่บริสุทธิ์ตามองค์ประกอบข้อ ๑ ด้วย ก็ย่อมทำให้ได้บุญมากยิ่งๆ ขึ้นไปอีก วัตถุทานจะมากหรือน้อย เป็นของเลวหรือประณีตไม่สำคัญ เมื่อเราได้ให้ทานไปตามกำลังทรัพย์ที่เรามีอยู่ย่อมใช้ได้ แต่ก็มีข้ออันควรระวังอยู่ ก็คือ การทำทานนั้นอย่างได้เบียดเบียนตนเอง เช่นมีน้อย แต่ฝืนทำให้มากๆ จนเกินกำลังของตนที่จะให้ได้ เมื่อได้ทำไปแล้ว ตนเองและสามี ภริยา รวมทั้งบุตรต้องลำบาก ขาดแคลน เพราะไม่มีจะกิน จะใช้ เช่นนี้ย่อมทำให้จิตเศร้าหมอง แม้วัตถุทานจะมากหรือทำมาก ก็ย่อมได้บุญน้อย ต่อไปนี้เป็นตัวอย่างที่ทำทานด้วยเจตนาอันไม่บริสุทธิ์ คือ

    ตัวอย่าง ๑ ทำทานเพราะอยากได้ ทำเอาหน้า ทำอวดผู้อื่น เช่น สร้างโรงเรียน โรงพยาบาลใส่ชื่อของตน ไปยืนถ่ายภาพลงโฆษณาในหน้าหนังสือพิมพ์เพื่อให้ได้รับความนิยมยกย่องนับถือ โดยที่แท้จริงแล้วตนมิได้มีเจตนาที่จะมุ่งสงเคราะห์ผู้ใด เรียกว่าทำทานด้วยความโลภ ไม่ได้ทำเพื่อขจัดความโลภ ทำทานด้วยความอยากได้ คืออยากได้หน้า ได้เกียรติ ได้สรรเสริญ ได้ความนิยมนับถือ

    ตัวอย่าง ๒ ทำทานด้วยความฝืนใจ ทำเพราะเสียไม่ได้ ทำด้วยความเสียดาย เช่นมีพวกพ้องมาเรี่ยไร ตนเองไม่มีศรัทธาที่จะทำ หรือมีศรัทธาอยู่บ้าง แต่ทรัพย์น้อย เมื่อมีพวกมาเรี่ยไรบอกบุญ ต้องจำใจทำทานไปเพราะความเกรงใจพวกพ้อง หรือเกรงว่าจะเสียหน้า ตนจึงได้สละทรัพย์ทำทานไปด้วยความจำใจ ย่อมเป็นการทำทานด้วยความตระหนี่หวงแหน ทำทานด้วยความเสียดาย ไม่ใช่ทำทานด้วยจิตเมตตาที่มุ่งจะสงเคราะห์ผู้อื่น ซึ่งยิ่งคิดก็ยิ่งเสียดาย ให้ไปแล้วก็เป็นทุกข์ใจ บางครั้งนึกโกรธผู้ที่มาบอกบุญ เช่นนี้จิตย่อมเศร้าหมอง ได้บุญน้อย หากเสียดายมากๆ จนเกิดโทสจริตกล้าแล้ว นอกจากจะไม่ได้บุญแล้ว ที่จะได้ก็คือบาป

    ตัวอย่าง ๓ ทำทานด้วยความโลภ คือทำทานเพราะอยากได้นั่น อยากได้นี่ อยากเป็นนั่น เป็นนี่ อันเป็นการทำทานเพราะหวังสิ่งตอบแทน ไม่ใช่ทำทานเพราะมุ่งหมายที่จะขจัดความโลภ ความตระหนี่หวงแหนในทรัพย์ของตน เช่น ทำทานแล้วตังจิตอธิษฐานขอให้ชาติหน้าได้เป็นเทวดา นางฟ้า ขอให้รูปสวย ขอให้ทำมาค้าขึ้น ขอให้ร่ำรวยนับล้าน ขอให้ถูกสลากกินแบ่งสลากกินรวบ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสมบัติสวรรค์ หากชาติก่อนไม่เคยได้ทำบุญใส่บาตรฝากสวรรค์เอาไว้ อยู่ๆก็มาขอเบิกในชาตินี้ จะมีที่ไหนมาให้เบิก การทำทานด้วยความโลภเช่นนี้ ย่อมไม่ได้บุญอะไรเลย สิ่งที่จะได้พอกพูนเพิ่มให้มากขึ้นและหนาขึ้น ก็คือ "ความโลภ"

     
  19. ckj_tong

    ckj_tong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +869

    ภาวนา
    (หลวงพ่อชา สุภัทโท วัดหนองป่าพง จ.อุบลราชธานี)

    เรื่องการภาวนา อารมณ์ที่เรียกว่าภาวนา เขาเอา พุทโธ ธัมโม สังโฆ มาภาวนาเป็นกรรมฐานกัน แต่เราเอาสั้นกว่านั้น เมื่อรู้สึกว่าใจหงุดหงิด ใจไม่ดี โกรธ เราก็ร้อง ฮึ ! เวลาดีใจขึ้นมา ก็ร้อง ฮึ ! มันไม่เที่ยงดอก ถ้ารักคนนั้นขึ้นมา ก็ร้อง ฮึ ! ถ้าโกรธคนนั้นคนมา ก็ร้อง ฮึ ! มันไม่เที่ยงดอก ไม่ต้องไปดูลึกถึงพระไตรปิฎกหรอก

    ไอ้ ฮึ ! นี้ คือ มันไม่เที่ยง ความรักนี้มันไม่เที่ยง ความชังมันก็ไม่เที่ยง ความดีมันก็ไม่เที่ยง ความชั่วก็มันไม่เที่ยง

    มันเที่ยงอย่างไรเล่า ? มันจะเที่ยงตรงไหม ? มันเที่ยงก็ตรงที่ของเหล่านั้นมันเป็นของมันอยู่อย่างนั้น คือมันเที่ยงของมันอย่างนั้น มันไม่แปรเป็นอย่างอื่น เดี๋ยวมันก็รัก เดี๋ยวก็มันชัง มันเป็นของมันอยู่อย่างนี้ นี่คือมันเที่ยงอย่างนี้

    ฉะนั้น จึงบอกว่าเมื่อความรักมันเกิดขึ้น ก็ร้องว่า ฮึ ! มันไม่เปลืองเวลาดี ไม่ต้องว่าอนิจจัง ทุกขัง อนัตตาแล้ว ถ้าขี้เกียจภาวนากันมาก เอาง่าย ๆ ดีกว่า มันจะโกรธ ก็ร้องว่า ฮึ ! มันจะหลงก็ร้องว่า ฮึ ! เท่านี้แหละ อะไร ๆ มันก็ไม่เที่ยงทั้งนั้น มันเที่ยงก็เพราะมันเป็นของมันอยู่อย่างนั้น เห็นเท่านี้ก็เห็นแก่นของธรรมะ คือสัจธรรม

    อันนี้ ถ้าเรามา ฮึ ! กันบ่อย ๆ ค่อย ๆ ทะยอยไป อุปาทานก็จะน้อยไป น้อยไปอย่างนี้แหละ ความรักนี้ฉันก็ไม่ติดใจ ความชั่วฉันก็ไม่ติดใจ อะไร ๆ ฉันก็ไม่ติดใจทั้งนั้น อย่างนี้จึงเรียกว่า ไม่เชื่ออะไรทั้งนั้น เชื่อสัจธรรมอย่างเดียว รู้ธรรมะแค่นี้ก็พอแล้ว


    เขียนโดย ธรรมะจากพระพุทธโอษฐ์ ที่ 2:34
     
  20. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]
    สบายดียามบ่ายครับ,

    พักนี้ไม่ค่อยได้ update ข้อมูล หรือลงภาพ เนื่องจากติดการเตรียมวัตถุมงคลเพื่อส่งมอบแด่ นรธ.และญาติธรรม แถมงานก็เข้ามา...เนื่องจากลาหยุดต่อเนื่อง
    การจัดเตรียมพัสดุ 12 ชิ้นเรียบร้อยพร้อมส่ง 10 ชิ้น ขาดรายชื่ออีก 2 ท่าน จึงจำเป็นต้องเลื่อนไปส่งวันพรุ่งนี้ประมาณพักกลางวัน
    โปรดอดใจรอนะครับ

    ด้วยความเคารพ.
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • WP_000671.jpg
      WP_000671.jpg
      ขนาดไฟล์:
      86.1 KB
      เปิดดู:
      622
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2013

แชร์หน้านี้

Loading...