มีเงินสด 1.5 ล้านบาทจะทำอะไรดี

555 ไม่มีหรอกครับ แค่เด็กแว้น ผมอยู่เว็บพลังจิตมาตั้งหลายปี

ก็เพิ่งเจอเด็กแว้น แค่ท่าน คนแรกแหละครับ555555555

 

ถ้ามีจริงๆถึงจะบอกค่ะว่าควรจะเอาไปทำอะไร

แต่ถ้าถามเฉยๆ ไม่มีจริง ก็ยังไม่บอกดีกว่า >< เพราะชอบตอบยาวๆ เหนื่อยพิมพ์อ่ะค่ะ

 

ได้โปรดตอบมาเถิดเพื่อเป็นวิทยาทาน (ไม่เอาแบบพนันทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมายเช่น ซื้อขายหลักทรัพย์ หวยใต้ดินเป็นต้น)

 

ภาษิตจีนกล่าวว่า"เงินทองกับคนโง่อยู่ด้วยกันได้ไม่นาน"ไม่รู้ว่าจริงหรือไม่

 

สิ่งที่ผมกลัว ผมมีของที่มีมูลค่า 2 ล้านกว่า แต่อาจโดนกดราคาเหลือ 1.5 ล้าน
หรือไม่ก็สัก 8 แสน กลัวว่าขายแล้วเงินได้มาจะเอาไปแว๊นซ์หมด

 

เปิดร้านขายอุปกรณ์แต่งรถแว๊นซ์ไปเลย ถ้าชอบรถแวนช์จริงๆจะทำได้ดี
แต่ห้ามขายเงินติดนะครับ (ก่อนอื่นต้องเลือกทำเลให้ดี หรือไม่ก็ไปเซ๊งร้านที่คนเก่าเขาเบื่อหรือจำเป็นต้องหยุดกิจการ อย่าลืมศึกษาเรื่องการทำบัญชีการค้าให้เข้าใจด้วยสำคัญมากๆหากไม่ทำบัญชีด้วยตนเองให้จ้างเด็กจบ ปวส.บัญชีมาทำงานด้านนี้ ๑ ตำแหน่ง จ้างช่างผู้ชำนาญอีกหนึ่งตำแหน่งเราต้องคุมงานใกล้ชิดนะเพื่อให้ผลงานดีถูกใจเด็กแวนซ์ด้วยกันแล้วเขาจะแห่มาหาเราจนแน่นร้าน

 

ลองทำธุรกิจ เล็กๆ ที่คิดว่าเราชอบเรามีความรู้เรื่องนั้นอยู่บ้าง ดีกว่าครับ

อย่าง ชอบกินกาแฟ ก็เปิดร้านกาแฟ อะไรแบบนี้ครับ

 

ให้คุณถามตัวเองสัก 20 คำถาม ดังนี้คือ

1.ตัวคุณเองมีความถนัดอะไรบ้าง
- ถามเพื่อหาความสามารถที่แท้จริงของตัวคุณเอง เขียนออกมาให้เยอะที่สุด ด้วยหัวใจที่วางอย่างเป็นกลางโดยเห็นว่าเราเองสามารถทำได้ เท่านั้นเองนะครับผม :VO

2.ถามว่าตัวเราเองอยากจะมีเงินสักเท่าไรต่อชีวิตที่เราต้องการ
- ถามเพื่อระบุว่างานที่จะเลือกทำสามารถให้ผลตอบแทนตามที่เราต้องการ และสอดคล้องกับสิ่งที่เราสามารถทำได้หรือไม่เท่านั้นเองนะครับผม (deejai)
3. ถามตัวเองว่าเรารักตัวเองที่ตัวเราเองเป็นอย่างไร เท่านั้นเองครับ
- เพื่อรู้ว่าตัวเราเองจะได้มีความสุขในการทำงานของตัวเราเองอย่างไงนะครับผม เช่นว่า บางคนไม่ชอบเจอผู้คน ก็คือว่าเขาเองจะเปลี่ยนตัวเองได้ไหมหากไม่ได้ก็ต้องหางานในลักษณะที่ว่าไม่ต้องการการปฏิสัมพันธ์กับคนมากนัก เพียงแต่ตอบสนองความต้องการของผู้คนได้นั้นก็พอครับผม เป็นต้น

4. ถามตัวเองว่าเราเองนั้นอยากเป็นตัวเองแล้วสามารถทำเงินได้เท่านั้นเองหรือไม่
- ข้อนี้ก็คือว่า เงินคุณมีหน้าที่ทำให้สิ่งที่คุณรักที่จะทำเป็นความจริง เท่านั้นเอง ดังนั้นก็คือว่าผลตอบแทนอาจไม่ได้ดังหวัง แต่ความเป็นจริงก็คือ คุณได้ความสุขจากการทำสิ่งที่คุณรักแน่นอนเลยทีเดียวล่ะครับผม (kiss)

5. หากตัวเองมีแผนการณ์ว่า เงิน 1.5 ล้านบาท คือต้นทุนเพื่อการหาเงินมาทำตามความฝันที่อยากทำให้เป็นความจริงแล้วล่ะก็ ดังนั้นคุณต้องยอมรับตัวคุณเองให้ได้ก่อน ในเรื่องดังต่อไปนี้ก็คือ

๑. คุณพร้อมต่อการเรียนรู้หรือไม่
๒. คุณเปิดใจต่อการเรียนรู้ทุกสิ่งหรือไม่ อย่างไร
๓. สิ่งที่คุณยอมรับได้ ต่อผลตอบแทนคืออย่างไร
๔. อะไรที่เป็นสิ่ง ผลตอบแทนที่คาดหวังไว้
๕. งานที่ทำ สอดคล้องกับสิ่งเหล่านี้หรือไม่อย่างไร

เท่านั้นเองล่ะครับผม ตอบแล้วเขียนความคิดของคุณเองออกมาเพื่อเข้าใจตัวคุณเอง เท่านั้นเองล่ะครับผม :VO

6. ถามตัวเองว่าอยากจะทำอะไร และเข้าใจในสิ่งที่จะทำแล้วชัดเจนมากเท่าไรเท่านั้นเองล่ะครับผม
- บางคนอยากมีงานทำ แต่พอไปรับราชการก็เข้าใจว่าไม่เหมาะกับตนเอง นี้คือตัวอย่างการไม่เข้าใจในสิ่งที่ตนเองกำลังจะเป็นไปโดยการเข้าไปมีส่วนร่วมทางกายแล้วล่ะนะครับผม :z6

7. สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่ความจริง ดังนั้น การเข้าไปถามผู้รู้จริง ผู้ทำแล้วจะได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแน่นอนล่ะครับผม
- ข้อนี้คือเมื่อคุณได้เลือกแนวความคิดที่จะลงมือทำแล้ว แต่ควรลงมือทำเมื่อผ่านการสอบถามจากผู้ที่ทำในระดับหนึ่งแล้วก่อนเสมอนะครับผม

อันนี้ลดความเสี่ยงลงได้จริงแน่นอนเลยทีเดียวล่ะครับผม (deejai)


8. หาแฟรนไซส์เล็ก ๆ เปิดเพื่อเป็นแนวทางต่อยอดอย่างอื่น
- แฟรนไซส์อะไร ที่คุณอยากลองทำด้วยเงินต้นที่ไม่มากเกินไป เพื่อลองมีประสบการจริงได้เข้าใจตลาด ผู้คน และธุรกิจที่เรากำลังทำอยู่นั่นเองล่ะครับ
- เราเรียกสิ่งนี้ว่าทำเป็นประสบการเท่านั้นเองล่ะครับผม จากนั้นนำประสบการที่ได้มาสร้างธุรกิจของตัวคุณเท่านั้นเองล่ะครับผม
- คนที่มีแนวทางนี้ คือ ถนัดเรียนรู้ในการทำมากกว่าการเข้าใจเอาในหน้ากระดาษเท่านั้นเองนะครับ
- เรียนรู้ได้จริงจากการทำจริงเท่านั้นเองครับ จากนั้นก็นำเงินเหลือกับประสบการณ์ที่ได้ กับความเข้าใจตลาดที่ได้จากประสบการณ์ มาดำเนินชีวิตแห่งธุรกิจของตัวคุณเองต่อไปเลยนะครับผม :VO

9. งานตัวเองในปัจจุบันของคุณ คืออะไร และสิ่งที่ทำจะทำให้ชีวิตของคุณมีความสุขจริงหรือไม่ ตามความต้องการที่เป็นความจริง ไม่ใช่ความจริงแห่งความฝันที่ฝากเอาไว้กับงานที่ให้ความเป็นจริงนั้นไม่ได้ เท่านั้นเองนะครับผม (deejai)
- ถามเพื่อเข้าใจตัวเองภายในปัจจุบันว่าตัวเราเองกำลังทำอะไรอยู่เท่านั้นเองล่ะครับผม chearr

10. คำถามที่ตัวเองคิดว่ามีความสำคัญที่สุด คือ คำถามเกี่ยวกับเรื่องใดต่อชีวิตของตัวเราเอง
- กล่าวคือ ทุกสิ่งต้องมีความสำคัญเฉพาะของตัวเราเอง ดังนั้นเราคิดเองนะว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดของตัวเราเองคือสิ่งไหนเท่านั้นเองนะครับผม

แล้วงานที่เราจะทำตอบสนองความต้องการในความสำคัญมากน้อยแก่เราเองได้เท่าไรเท่านั้นล่ะครับผม (deejai)
11. ทุกสิ่งที่เขียนมาจากตอนต้น เราคิดว่าเราได้รับรู้ความเป็นจริงของตัวเราเองว่าเช่นไรบ้าง ตรงนั้นตรงนี้สรุปเป็นอย่าง ๆ พอที่เราเองจะเขียนออกมาก็พอนะครับผม

จากนั้นระดมสมองสักพักหนึ่งก็ได้นะครับว่า ความเป็นจริงเพียงพอสักเท่าไรที่ทำได้จริงนะครับผม

จากนั้นเข้าสู่คำถามชุดถัดมา หลังจากได้ในสิ่งที่เลือกไว้แล้วอย่างชัดเจนนะครับผม

12. สิ่งที่เราหมายถึง สิ่งที่เราเลือก มีขั้นตอนและวิธีการทำงานอย่างไรบ้าง
- เขียนแผนงานอย่างคร่าว ๆ แล้วค่อยเพิ่มรายละเอียดแต่ละขั้นตอนลงไปให้ละเอียดนะครับ ยิ่งละเอียดได้เท่าไรยิ่งดีนะครับผม

สิ่งนั้นสิ่งนี้ จะทำให้คุณเห็นความเป็นจริงในสิ่งที่คุณจะทำอย่างชัดเจนเลยทีเดียวล่ะครับผม :VO

จากนั้นระบุ สิ่งที่เราต้องใช้ในการประกอบกิจกรรมแต่ล่ะส่วนนั้น ๆ ด้วยความชัดเจนในรายละเอียดเลยนะครับผม (deejai)

13. ดำเนินการสำรวจระบบของเราเองว่า ต้องใช้จำนวนเงินเท่าไรในการ
๑. การลงทุนเบื้องต้นในการทำงาน
๒. การลงทุนทำงานในแต่ละรอบการทำงาน
๓. ลักษณะรอบของการหมุนเงินสักเท่าไร เป็นต้นว่า
- ตรงจุดนั้นตรงจุดนี้ ทุกคนก็จะเข้าใจว่าเส้นทางการเงินของระบบธุรกิจนี้เป็นอย่างไรเท่านั้นเองนะครับผม :VO

จากนั้นให้คุณประมาณการเงินต้นที่มี ผลตอบแทนที่ได้ ระยะเวลาที่ใช้ทั้งหมดไว้คร่าว ๆ นะครับผม

ตรงนั้นตรงนี้จะทำให้คุณเองเห็นถึงความเสี่ยงและการยอมรับความเสี่ยงของตัวท่านเองได้เท่านั้นเองนะครับ (deejai)

14. ลงมือทำตามระบบที่ได้วางไว้อย่างชัดเจนแล้วนั้นเองนะครับผม พร้อมกับถามตัวเราเองอยู่เสมอนะครับว่า ทำอย่างไรทุกสิ่งจะดีขึ้น สร้างสรรค์ขึ้น ทุกคนทุกฝ่ายได้รับผลประโยชน์มากขึ้นทุกๆฝ่ายนั้นเองล่ะครับ
- รูปแบบการความคิดตัวเองอย่างนี้จะส่งผลให้ธุรกิจของตัวคุณเองยืนหยัดได้อย่างยาวนานนั่นเองครับ เพราะการคำนึงผลประโยชน์โดยรวมเป็นสำคัญจึงทำให้สิ่งนั้นยั้งยืนได้นาน เท่านั้นเองล่ะครับผม :VO

15. หากการดำเนินงานแต่ล่ะขั้นตอนติดขัดแย้งกับความเป็นจริงแล้ว ปัญหานั้นจะได้รับการแก้ไขอย่างไรเท่านั้นเองนะครับ

ให้ท่านถามตัวเองเป็นข้อขัดแย้งในการทำงานที่น่าจะเกิดขึ้น กับตัวปัญหาต่อระบบที่เป็นความเสี่ยงเอาไว้เพื่อปัญญาเิกิดขึ้นจริง และแนวทางการแก้ไขที่เป็นไปได้ด้วยนะครับผม

อันนั้นอันนี้ คือ แนวทางปัญหา การแก้ไขปัญหา การเรียนรู้สู่ปัญหาที่แท้จริงเท่านั้นล่ะครับผม บางครั้งการทำงานคุณเองอาจพบเจอได้กับปัญหาที่ไม่ได้เป็นปัญหาก็มีได้นั้นเองนะครับผม (deejai)

16. ทุกสิ่งต้องพัฒนาอย่างมีรูปแบบที่ชัดเจน ดังนั้นแล้ว ทุกสิ่งต้องมีการดูแลตัวเองได้ในระดับหนึ่ง

จากนั้นแล้วตัวท่านเองวางตัวท่านเองไว้ในตำแหน่งไหน แล้วจะทำอย่างไรเมื่อระบบเป็นไปได้จริง ๆ

- คำถามนี้ถามเพื่อการขยายแผนงานในระบบภายในอนาคตเท่านั้นเองนะครับผม :VO

17. ทุกสิ่งมีความเป็นไปได้ ทุกสิ่งเป็นไปได้ ลงมือทำ แล้รอคอยความสำเร็จตามที่ได้วางแผนเอาไว้แล้วเท่านั้นนะครับผม
- คำถามก็คือเหตุผลอะไรที่ขัดขวางการรอคอยผลสำเร็จของตัวคุณเองได้เท่านั้นเองล่ะครับผม :z2

18. ทุกสิ่งมีจุดเริ่มต้นและมีจุดสิ้นสุด สิ่งเท่าไรที่คุณคิดเห็นว่ามันเริ่มต้นและจะมีจุดสิ้นสุดอย่างไรเท่านั้นเอง
- ถามเพื่อให้คุณคิดได้ว่าธุรกิจที่คุณเลือกมานั้น อาจทำได้จริงเพียงช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้นเอง จากนั้นคุณต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง และเริ่มต้นในการทำธุรกิจตัวใหม่ให้ได้เร็วขึ้นเท่านั้นเองล่ะครับผม :VO

19. หากคุณมีธุรกิจอยู่แล้วทำให้ธุรกิจของตัวเองยิ่งใหญ่ไปเลยดีกว่าไหม

- หากให้ความเป็นจริงแล้วว่า ตัวคุณเองไม่เคยทำธุรกิจ และไม่เคยคิดมีธุรกิจเป็นของตัวคุณเอง

ผมแนะนำว่า หาผู้ร่วมทุนที่มีความคิด หรือยอมรับความคิดเห็นของคุณ และพร้อมช่วยเหลือให้เกิดความเป็นจริงขึ้นได้เท่านั้นเองล่ะครับผม

- คำถามนั้นก็คือ คนๆนั้นคือใคร เท่านั้นเองล่ะครับผม :VO

20. การร่วมทุน คุณเองต้องคิดอัตราผลตอบแทนที่คุณควรได้รับ กับผู้ร่วมทุนควรได้รับไว้ด้วยแล้วกันนะครับผม

จบหมดคำถามแล้วนะครับผม หากคำถามเหล่านี้ไม่เพียงพอก็ให้ถามตัวคุณเอง หรือคนรอบตัว เว็บไซด์ไปเรื่อย ๆ จนหมดสิ้นคำถามในระดับที่ทำได้จริงแล้วเท่านั้นเองล่ะครับผม

สิ่งนั้นสิ่งนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพื่อให้คุณได้เข้าใจตัวตนของคุณเองสถานเดียวเท่านั้นเองล่ะครับผม

จากคำถามนำสู่การเข้าใจตัวเราเอง :z16 ;hi2

 

การซื้อขายหลักทรัพย์ ไม่ใช่การพนันครับ....

 

ซื้อที่เก็บไว้ขายต่อครับ

 

อีกวิธีถ้าขี้เกียจ เบื่อหน่ายที่เปิดกิจการให้เหนื่อยแรงเปล่าๆ ไหนจะค่าลงทุน ไหนจะเวลามาดูแล ไหนจะค่าจ้างพนักงาน บลาๆ
ก็เอาเงินไปซื้อหุ้น คิดว่าเป็นการลงทุนในหุ้นทิ้งไว้ เหมือนๆฝากแบงค์ รอกินปันผล+รอส่วนต่าง

ลงทุน 1.5m ถ้าได้เงินปันผลเฉลี่ยๆรวมๆซัก 7% ต่อปี ก็จะได้เงินกลับมา 105k ต่อปี

 

ตัวไหนเป็นหุ้นที่ถือยาวได้แบบราคาไม่ตกครับ(ณเวลานี้)
เศรษฐกิจโลกใกล้จะล่มสลาย ใครรับผิดชอบถ้าหุ้นเริ่มเน่าแล้วขายออกก็ไม่มีคนมารับซื้อ(มันก็คือการพนันที่มีกฏหมายรองรับ)

 

กลับบ้านไปหาพ่อกับแม่ และให้ท่านไป 1000000

 

ผมนึกออกแล้วครับสิ่งที่ผมมี ไม่ต้องขายมูลค่าก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆไม่เหนื่อยด้วย ^^

 

อย่าเอ็ดไป...เดี๋ยวแก๊งค์ ๑๘ มงกุฎได้ยินจะไม่ได้ทำอะไรเลย...
นอกจากโอนเงินให้เขาไป

 

อีกอย่างที่ไม่ควรทำคือเอาไปฝากกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทางอีสาน
(ไม่ได้พูดเล่นนะคะ...)

 

แต่ถ้าเป็นข้าพเจ้า จะให้คุณพ่อคุณแม่ ๑ ล้านบาท ที่เหลือทำบุญให้ทานที่อยากทำ...

 

นำไปสนับสนุนสิ่งประดิษฐ์ รถทวนน้ำ เพื่อประโยชน์ต่อสังคมลดโลกร้อนต่อไปครับ

<iframe width="640" height="480" src="http://www.youtube.com/embed/4ehwgawnudM" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

ก่อนนี้

<iframe width="640" height="480" src="http://www.youtube.com/embed/evS3RO7wOXs" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>​

 

เป็นเจ้าของร้าน 7-11 ค่ะ... รายได้ดีแน่นอน มั่นคงด้วย แค่บริหารงานเป็น

 

เศรษฐกิจโลกใกล้จะล่มสลาย >> ผมได้ยินคำนี้มาหลายปีละครับ กำลังรอให้มันล่มอยู่ครับ เห็นอเมริกาก็พิพม์แบงก์กงเต็กออกมาเรื่อยๆๆ ไปซื้อนั้นซื้อนี้ ซื้อทรัพยากรต่างๆจากประเทศนี้ประเทศนั้น ซื้อโรงงานที่ดินกิจการนั้นนี่ คงกะจะเสกกระดาษขึ้นมาซื้อโลกทั้งใบ

อีกอย่าง ประเทศไทยถึงแม้ไม่เคยเป็นเมืองขึ้นใคร แต่ดูๆเหมือนไม่ว่าจะเป็นที่ดินต่างๆกลับกลายเป็นของคนต่างชาติเยอะอยู่ อีกหน่อยคงสนุกหละไม่มีที่อยู่กัน 55555

ขอเข้าเรื่องละกันผมว่าเศรษฐกิจโลกไม่ใช่ปัญหาครับ ถ้าเป็นพวกภัยพิบัติหายนะ แผ่นดินไหว น้ำท่วม ในประเทศดูน่ากลัวกว่าอีก

ผมเน้นที่เงินปันผลจากหุ้นนะครับ ส่วนต่างราคา นั้นไม่ได้เน้น และก็เขียนไว้ว่า ลงทุนในหุ้น

เอาเป็นว่ามันมองได้ 2 มุมไงครับ เล่นหุ้น กับ ลงทุนหุ้น คนที่มองแบบผ่านๆคิดให้ตัวเองดูฉลาดๆก็จะคิดและมองว่าเป็นเหมือนการพนัน หรือจะมองว่าเป็นว่าเราเป็นส่วนหนึ่งในกิจการบริษัทที่เราถือหุ้นอยู่ก็ได้

แต่ถ้าคุณไม่ใช่ไปเล่นหุ้นแบบพวก tfex,Derivative Warrants,Warrants,หรือแบบพวก Forex อะไรแบบนั้น

ถึงแม้ราคาหุ้นจะตกคุณก็ยังมีหุ้นอยู่ อยู่ที่ว่าคุณจะทำใจไม่ได้และขายมันออกไปหรือเปล่าแค่นั้น ถึงราคาจะดูขาดทุน แต่ไม่ได้ขายหุ้นไปก็ได้เงินปันผลอยู่ดี (แต่อาจจะได้รับน้อยลง)ถ้ากิจการที่ซื้อหุ้นไปนั้นมีกิจการดี ก็ไม่น่าจะมีปัญหาครับ

ในทางกลับกันมันก็ดูยิ่งดีนะ ถ้าคุณสามารถที่จะซื้อหุ้นบริษัทที่คุณเคยถือไว้อยู่ในราคาที่ถูกมากกๆๆๆๆๆๆๆ พวกเล่นหุ้นแบบรายวันเหมือนการพนันก็คงแข่งกัน Short Sell กันไปราคาหุ้นก็ตกไปเรื่อยๆๆๆ ก็ดีต่อการซื้อเก็บเพื่อเอาปันผล และพอผ่านไปซัก 3-4 ปี เศรษฐกิจโลกก็อาจจะฟื้นตัว ระหว่างที่รอเศรษฐกิจฟื้นตัวไป ก็ยังได้เงินปันผลอยู่ดี