พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. พิศดู

    พิศดู สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +24
    หวัดดีครับ...ครั้งที่แล้ว attach slip ไม่ได้ทำผิดครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • Picture 763.jpg
      Picture 763.jpg
      ขนาดไฟล์:
      245.9 KB
      เปิดดู:
      50
  2. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เมื่อครู่นี้ผมได้รับพระบรมสารีริกธาตุ ๒ องค์ และผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุสัมฤทธิ์สนิมเขียวแล้ว บุคคลผู้นั้นเพียงห่อกระดาษทิชชู และบรรจุใส่ซองพลาสติกเอาไว้เท่านั้น แล้วส่ง EMS ใส่ซองกันกระแทก เมื่อเปิดซองออก ก็พบว่าผอบบรรจุมีขนาดเล็กมากไม่เกิน ๒ ข้อนิ้วมือเมื่อสวมปิด ผอบมีรอยกระเทาะออกมาเล็กน้อยเห็นสนิมเขียวร่อนหลุดออกมา ซึ่งจะเกิดจากขั้นตอนการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุลงในผอบของบุคคลผู้นั้น ส่วนพระบรมสารีริกธาตุ ๒ องค์ งามมากจริงๆ ไม่เกิดความเสียหายแต่อย่างใด

    นำมาให้ทุกท่านได้ชมกันครับ หากถวายบรรจุยังพระบรมธาตุเจดีย์ต้องบรรจุใส่ผอบใบใหม่อย่างแน่นอน และสมควรที่จะบรรจุในสภาพเดิมๆพร้อมผอบสัมฤทธิ์สนิมเขียวใบนี้ด้วยในลักษณะของการสวมทับอีกชั้น...

    เมื่อได้วาระถวายพระบรมสารีริกธาตุ ๒ องค์ และผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุสัมฤทธิ์สนิมเขียวเมื่อใด จะแจ้งให้ทราบกันอีกครั้งครับ...

    อนุโมทนา..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010382.JPG
      P1010382.JPG
      ขนาดไฟล์:
      157.6 KB
      เปิดดู:
      73
    • P1010386.JPG
      P1010386.JPG
      ขนาดไฟล์:
      240.3 KB
      เปิดดู:
      80
    • P1010398.JPG
      P1010398.JPG
      ขนาดไฟล์:
      228.5 KB
      เปิดดู:
      60
    • P1010399.JPG
      P1010399.JPG
      ขนาดไฟล์:
      236.4 KB
      เปิดดู:
      70
    • P1010400.JPG
      P1010400.JPG
      ขนาดไฟล์:
      251.6 KB
      เปิดดู:
      69
    • P1010388.JPG
      P1010388.JPG
      ขนาดไฟล์:
      204.5 KB
      เปิดดู:
      64
    • P1010389.JPG
      P1010389.JPG
      ขนาดไฟล์:
      203 KB
      เปิดดู:
      68
    • P1010390.JPG
      P1010390.JPG
      ขนาดไฟล์:
      114.4 KB
      เปิดดู:
      60
    • P1010391.JPG
      P1010391.JPG
      ขนาดไฟล์:
      111.8 KB
      เปิดดู:
      62
    • P1010392.JPG
      P1010392.JPG
      ขนาดไฟล์:
      98.2 KB
      เปิดดู:
      58
    • P1010393.JPG
      P1010393.JPG
      ขนาดไฟล์:
      95.9 KB
      เปิดดู:
      68
    • P1010394.JPG
      P1010394.JPG
      ขนาดไฟล์:
      88.8 KB
      เปิดดู:
      69
    • P1010395.JPG
      P1010395.JPG
      ขนาดไฟล์:
      86.4 KB
      เปิดดู:
      65
    • P1010396.JPG
      P1010396.JPG
      ขนาดไฟล์:
      139 KB
      เปิดดู:
      59
    • P1010397.JPG
      P1010397.JPG
      ขนาดไฟล์:
      153.3 KB
      เปิดดู:
      67
  3. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    อนุโมทนาครับ เรื่องการ scan slip หรือไม่ ไม่ได้สำคัญ ทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ ง่ายๆ สบายๆครับ..วันนี้ช่วงบ่ายจัดส่งไปให้แล้วนะครับ ขอแสดงความยินดีสำหรับ'พระเสี่ยงทาย'ลำดับที่ ๓ ครับ ผมพิจารณาแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมคุณพิศดูถึงได้รับพระที่ไม่ใหญ่ไปเลย ก็เล็กกว่าปกติไปเลย ทั้งพระมเหศวร ๒ หน้า พิมพ์เล็ก ยันต์กลับ สนิมแดง และพระสมเด็จวัดโค่ง รู้สึกว่าเคยลงประวัติให้ทราบกันไปแล้ว ลอง search ดูนะครับ หากไม่พบ ส่ง PM แจ้งมาอีกครั้งก็ได้ครับ..
     
  4. Nui28

    Nui28 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +7
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ เพิ่งมาเปิดเครื่องดูเสียดายไม่ได้ร่วมทำบุญด้วย:'( ขอโมทนาบุญอีกครั้งคับ
     
  5. sittiporn.s

    sittiporn.s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +748
    ช่วงนี้ผมไม่มีเวลาได้เข้ามาติดตามข่าวสารหลายวันจึงไม่ทราบงานบุญนี้ แต่ถึงแม้ว่าจะปิดแล้ว ผมก็ยังขออนุญาติร่วมในงานบุญนี้ต่อไปโดยจะโอนปัจจัยตามบัญชีคุณเพชรทาง ATM เป็นเงิน 2555 บาท รบกวนช่วยดำเนินการตามความศรัทธาของผมต่อไปด้วยครับ
     
  6. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เอาใจเป็นที่ตั้ง...โอ...อนุโมทนาบุญกับพี่สิทธิพรด้วยครับ...

    เมื่อคืนได้คุยกับพี่ไฟดูดเกี่ยวกับผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอาจจะเป็นผอบเงิน แต่ผมคิดว่า น่าจะสร้างด้วยโลหะสัมฤทธิ์รูปทรงเดิม แต่สั่งทำขยายขนาดออกไปรอบข้างอีกด้านละ ๑ ซ.ม. แล้วถวายบรรจุพระบรมสารีริกธาตุลงในผอบสัมฤทธิ์เดิม แล้วนำผอบสัมฤทธิ์เดิมบรรจุภายในผอบสัมฤทธิ์ที่จัดสร้างใบใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิมเล็กน้อย ให้ซ้อนกันตามแบบโบราณที่บรรจุผอบซ้อนกันหลายชั้น แต่การสั่งทำใบเดียวอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเพราะเป็นงานสั่งทำไม่ได้หาภาชนะแบบใดก็ได้ และที่สำคัญไม่ทราบจะไปสั่งที่ไหนให้ทำให้ พี่สิทธิพร หรือเพื่อนท่านใดพอจะทราบแหล่งก็รบกวนแจ้งข้อมูลให้ทราบด้วยครับ เอาไว้เช้าวันพรุ่งนี้จะวัดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ความกว้าง ความสูงเอาไว้อีกทีครับ..

    พี่ไฟดูด และผมยังเข้าใจผิดคิดว่า ผอบจะมีความสูงราว ๔ นิ้ว ผมเห็นเขาส่งมาให้ก็ตกใจแล้วครับ ผอบอะไรจะบรรจุในซองกันกระแทกได้ เปิดออกดูเลยถึงบางอ้อ ความสูงของผอบฯที่ปิดฝาแล้วมีความสูงเพียง ๒ ข้อนิ้วมือเท่านั้นเองครับ...

    เรื่องของผอบที่สันนิษฐานว่ามีอายุในราว ๑,๑๒๓ ปี (นับจากปีพ.ศ. ๑๔๓๒-๒๕๕๕) เท่ากับว่า ในกาลข้างหน้า..อีกในราวพันปีเศษก็อาจจะมีผู้ศรัทธาได้สร้างผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอีกครั้งเพื่อสืบศาสนาให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี ซึ่งคณะพระวังหน้าของพวกเราก็ได้รับช่วงดำเนินการสร้างผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุต่อในระหว่างกึ่งพุทธกาลนี้...

    หากพี่สิทธิพรเป็นธุระจัดหาให้ก็ไม่ต้องโอนปัจจัยใดๆมาครับ ถือเป็นทุนตั้งต้นเอาไว้ก่อน เพื่อนๆท่านใดมีศรัทธาร่วมสร้างผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุสัมฤทธิ์ใบใหม่ก็ร่วมสมทบกันที่บัญชีพี่สิทธิพรแบบนี้ผมคิดว่าน่าจะดีที่สุดครับ เพื่อนๆทั้งหลายเห็นว่ายังไงก็ช่วยกันออกความเห็นครับ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010382.JPG
      P1010382.JPG
      ขนาดไฟล์:
      157.6 KB
      เปิดดู:
      38
    • P1010399.JPG
      P1010399.JPG
      ขนาดไฟล์:
      236.4 KB
      เปิดดู:
      43
    • P1010387.JPG
      P1010387.JPG
      ขนาดไฟล์:
      556.5 KB
      เปิดดู:
      51
    • P1010400.JPG
      P1010400.JPG
      ขนาดไฟล์:
      251.6 KB
      เปิดดู:
      38
    • P1010392.JPG
      P1010392.JPG
      ขนาดไฟล์:
      98.2 KB
      เปิดดู:
      48
    • P1010395.JPG
      P1010395.JPG
      ขนาดไฟล์:
      86.4 KB
      เปิดดู:
      35
  7. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    เห็นด้วยครับ รบกวนพี่สิทธิพร ดำเนินการด้านผอบครับ หากขาดเหลือก็รบกวนแจ้งเพื่อร่วมช่วยด้านปัจจัยกันต่อไปครับ
     
  8. sittiporn.s

    sittiporn.s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +748
    ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
    งั้นผมขออนุญาติเป็นแม่งานรับช่วงต่อจากคุณเพชรครับ
    ปลายเดือนนี้พระอาจารย์จะมากรุงเทพฯคงจะได้รับทราบ ( เป็นการภายใน )ถึงประวัติความเป็นมาครับ
    มหามุฑิตาโมทนาสาธุ กับทุกๆท่านที่มีส่วนร่วมในบุญอันยิ่งใหญ่นี้ครับ
    ( ขออนุญาติเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ยังไม่เข้าใจในการมีส่วนร่วมกล่าวคือการมีส่วนร่วมงานบุญใดๆไม่จำเป็นต้องร่วมปัจจัย เพียงแค่ตั้งจิตร่วมโมทนาด้วยความศรัทธาที่เต็มเปี่ยมก็ได้รับอานิสงศ์ร่วมกันแล้วครับ )
     
  9. ปฐม

    ปฐม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    638
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ผมขอโมทนาในกุศลครั้งนี้ของพี่ท่านด้วยนะครับผม สาธุ
     
  10. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ฝ่ายหนึ่งเกรงใจ อีกฝ่ายหนึ่งอาจจะแปลความหมายผิด ผมขออนุญาตช่วยขยายความนะครับ พี่สิทธิพร เรื่องการสร้างผอบใหม่ครอบผอบใบเดิม เมื่อพี่สิทธิพรแสดงความจำนงถวายปัจจัยเป็นพุทธบูชาจำนวน ๒,๕๕๕ บาท ก็ถือเป็นต้นบุญ ค่าใช้จ่ายหลังจากนี้คงมีอีกจำนวนหนึ่งจนกว่าจะสร้างผอบเสร็จ ซึ่งลุงอ.จ. กูรูน้องนู๋ และผมมีความเห็นว่า ส่วนเกินจากนี้น่าจะมีสาธุชนผู้ศรัทธาปรารถนาจะร่วมสร้างผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุใบใหม่ หรือคันธกุฎีของพระพุทธเจ้า ขึ้นอยู่กับว่า จะใช้วัสดุใดจัดสร้าง ในความเห็นของผม เห็นว่าให้คงรูปแบบเดิมไว้น่าจะดีที่สุด คือโลหะสัมฤทธิ์ หากเป็นผอบเงินจะเกิดอ๊อกซิไดซ์กับอากาศ+กาลเวลา ทำให้ดำ และมีน้ำหนักเบา เป็นความชอบส่วนตัวหรือไม่ไม่ทราบนะครับ หากเป็นสัมฤทธิ์ต้องสนิมเขียว หากเป็นเนื้อชินต้องสนิมแดงมันคลาสสิกจริงๆ...

    ผอบใหม่จะสร้างแบบขยายออกข้างซ้าย 1/2 ซ.ม. ขวา 1/2 ซ.ม. และความสูงเพิ่ม 1 ซ.ม. เท่านั้น เท่ากับว่า ความสูงของผอบใหม่= 6.7 ซ.ม. ความกว้างของผอบใหม่=3.3 ซ.ม. ตามรูปครับ...

    เมื่อแรกเริ่มของเจตนาตั้งใจถวายพระอาจารย์นิลเพื่อบรรจุยังพระบรมธาตุเจดีย์ที่พระคุณเจ้าจะดำริสร้างในอนาคตอันใกล้ การตรวจสอบทางรูป และทางนาม บางท่านก็สนใจอยากทราบความเป็นมา ผมคิดว่ามีสื่อให้เดินมาถูกทางประมาณ ๙๐% ในการติดตามประวัติความเป็นมาแล้วครับ อื่นๆก็เป็นน้ำจิ้มว่า เป็นส่วนสำคัญส่วนใด ซึ่งหากพระอาจารย์....ท่านจะเมตตาสงเคราะห์ให้ได้ทราบเป็นกรณีพิเศษเพื่อเติมเต็มความครบถ้วนของข้อมูลได้ก็เป็นการดี และเป็นฉลองศรัทธาญาติโยมที่มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนถวายบรรจุพระบรมสารีริกธาตุสัณฐานสำคัญนี้ครับ

    จากวันนี้ไปพี่สิทธิพรก็แจ้งชื่อ และบัญชีสำหรับการโอนปัจจัยเพื่อสมทบทุนสร้างคันธกุฎีของพระพุทธเจ้าเอาไว้ด้วยนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. faidood

    faidood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +31
    :z5นี่ตาลุงเพชร ผมเปิดผะอบที่บ้านที่เป็นหินจุ้ยเจียเช่ามาจากตลาดพระ ภายในซึ่งบรรจุพระธาติมาไม่กี่องค์เมี่อคึนเปิดดู งงงงมีมากขึ้นกว่าสองเท่า ตอนที่เค้าใส่มือให้เช่าก็ไม่รู้ว่าอะไร แต่ทำไมเย็นจัง ตั้งใจว่าแค่ผะอบก็โอเคนะ เปิดดูก็เห็นตึ้นๆๆเหมือนที่ท่านพบนี้ละ จะไม่ลึก ถ้าลึกละปลอม(ตำราว่าไว้)เพราะเค้าทำแบบเฉพาะ งานเท่านั้น ในส่วนนี้นะถ้าเป็นโลหะแบบเดิม หรือ สแตนเลสสตีลเบอร์304 ให้เค้ากลึงให้พอดีแล้วสวมลงไป เคยเห็นตัวหมากรุกที่เรียกว่าขุนไหม? ส่วนที่เปิดได้ เป็นแบบเกลียว หรึอแบบสวม เหมึอนของเดิม เค้าทำได้ทั้งหมดละ จะทำกี่ชิ้น ก็ได้ ราคาจิ๊บๆๆ โลหะที่จะทำ ทำได้ทุกชนิดครับ ราคาค่าทำพร้อมวัสดุ บอกไปก็ไม่เชื่อ ตัดสินใจเรื่องวัสดุก่อนว่าจะใช้อะไร จะง่ายขึ้น ถ้าถือไปร้าน ร้านรู้มันก็จะโขกราคาทำให้เจ็บใจเล่นๆๆ ถ้าไปเจอสายบุญเช่นเรา น้องคนที่กลึงให้เรามันเต็มใจกลึงให้อย่างงามๆๆซะอีกนะ ถ้าเป็นสแตนเลสนะทำให้หนาได้ถึงหนึ่งเซ็นติเมตร อีก สองพันปียังไมเสื่อมสภาพนะจะบอกให้ ตัดสินใจซะก่อนเรื่องโลหะthaxx
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    "ในหลวง"ทรงมีพระราชดำรัสว่า"คนโลภ"ตัดไม้ทำลายป่าต้นเหตุน้ำท่วม <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td height="1" bgcolor="#CCCCCC">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="body" valign="middle" align="left">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" valign="middle" align="left">24 กุมภาพันธ์ 2555 20:23 น.</td> <td valign="middle" align="left">


    </td></tr></tbody></table>
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">
    </td> </tr> </tbody></table>
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">
    </td></tr></tbody></table>
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชพระบรมราชวโรกาสให้ นายกรัฐมนตรี นำคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) และคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากร (กยน.) เพื่อกราบบังคมทูลถวายรายงานแผนจัดการทรัพยากรน้ำ

    วันนี้ (24 ก.พ.) เวลา 17.49 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จออก ณ ห้องประชุมสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ชั้น 14 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลศิริราช พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี นำคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ (กยอ.) และคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (กยน.) เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท กราบบังคมทูลรายงานเรื่องการวางระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และการวางแผนเพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ จากเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2554 ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างรุนแรงและกว้างขวาง ประกอบกับสภาพภูมิอากาศโลกเกิดการเปลี่ยนแปลง ทำให้ต้องจัดทำแผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศอย่างเป็นระบบ รัฐบาลจึงได้ออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการ บริหารจัดการทรัพยากรน้ำ พ.ศ.2554 และแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อวางระบบการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ขึ้นมาดำเนินการ

    ขณะเดียวกัน จากวิกฤตภัยธรรมชาตินี้ รัฐบาลต้องการสร้างความเชื่อมั่น ฟื้นความน่าเชื่อถือ และสร้างความมั่งคั่งมั่นคงแก่ประเทศ ให้กลับฟื้นคืนมาในระยะยาวอย่างยั่งยืน จึงเห็นสมควรกำหนดยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ ด้วยการออกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ พ.ศ.2554 และแต่งตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์เพื่อการฟื้นฟูและสร้างอนาคตประเทศ ขึ้นมาดำเนินการเช่นเดียวกัน

    โอกาสนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระราชดำรัสว่า การแก้ไขปัญหาน้ำท่วมนั้นต้องหาวิธีระบายน้ำ ให้น้ำไหลได้อย่างสม่ำเสมอ นอกจากนั้นยังมีเรื่องดินและเรื่องป่าไม้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องแก้ไขปัญหาการตัดไม้ทำลายป่าให้ได้ด้วยการเพิ่มบทลง โทษ ขณะเดียวกัน ต้องเร่งปลูกต้นไม้ขึ้นมาทดแทนป่าไม้ที่ถูกทำลาย โดยปลูกทั้งไม้เนื้อแข็งและไม้เนื้ออ่อนผสมกัน เพราะไม้เนื้ออ่อนโตเร็ว แต่รากไม่ยึดดินเท่ากับไม้เนื้อแข็งที่โตช้ากว่า แต่หยั่งรากลึก ช่วยป้องกันดินถล่มได้

    ".. ก็ยากที่จะพูด แต่ว่าข้อสำคัญเป็นการไหลของน้ำ หากให้สามารถ ให้น้ำมันไหลสม่ำเสมอ อย่างที่เห็นมา ในปีที่ผ่านมา น้ำลงมาพรวดพราด แล้วก็ไม่ลง ไม่ยอมลงที่มีปัญหาสำคัญก็เรื่องของป่าไม้ เรื่องต้นไม้ ตลอดตั้งแต่ภาคเหนือ มาถึงภาคกลาง แล้วในภาคใต้ก็มีปัญหาเป็นแห่งๆ ที่แสดงให้เห็นว่าในประเทศไทยและในต่างประเทศเห็นว่า เพราะว่าป่าไม้ถูกทำลาย

    ป่าไม้มีหลายชนิด โดยเฉพาะ 2 ชนิด ป่าไม้ที่ขึ้นเร็ว โตเร็ว และทำลายเร็ว และมีต้นไม้ที่ขึ้นช้า และถูกทำลาย ก็เลยทำให้ไม่สามารถที่จะแก้ไขต้นไม้ที่โตเร็ว ทำลายเร็ว ก็ทำให้มีดินถล่มทุกแห่ง จนกระทั่งเดี๋ยวนี้ทางภาคเหนือก็มีมาก แต่ก่อนนี้ไม่มี ก่อนนี้มีแต่ภาคใต้ ที่มีเพราะว่า มีต้นไม้ที่โตเร็ว ก็ทำลายเร็ว ความเร็ว และก็มีอันตรายมาก มาเดี๋ยวนี้ไปถึงภาคเหนือเกือบทุกแห่ง มีการทำลาย ทลายของดิน ของภูเขา อันนี้ก็อันตรายมาก และแก้ไขยาก ก็ต้องหาวิธีที่จะแก้ไขเรื่องป่าไม้เป็นสำคัญ ที่ลำบากเพราะว่า ความโลภของคน ต้นไม้ที่ชอบ ที่ถูกทำลายคือต้นที่มีคุณภาพ ต้นไม้แข็ง ก็หมายความว่าเป็นต้นไม้ที่ถูกทำลายแล้วขึ้นช้า แล้วจะทำอย่างไร เพราะว่า ความโลภของคน ความโลภของ โดยเฉพาะเราตำหนิข้าราชการที่โลภและก็อยากได้เงิน แต่อันนี้ลำบาก ต้นไม้ที่ช่วยในเรื่องของน้ำท่วมนี่ ก็จะขึ้นช้า ปลูกยาก แต่หลักการที่จะต้องทำก็คือ จะต้องปลูกต้นไม้ขึ้นเร็วผสมกับต้นไม้ที่ขึ้นช้า และก็ช่วยในการป้องกันน้ำท่วม ก็ต้องปลูกต้นไม้ที่เรียกว่า หาไม้แข็ง และขึ้นช้า แต่ว่าเมื่อขึ้นช้าก็ป้องกันยากที่จะไม่ถูกทำลาย พอถูกทำลาย ปลูกแทนมันยาก และก็ต้นไม้ที่ไม้แข็งย่อมขึ้นช้า อันนี้จะต้องหาวิธีที่จะป้องกันไม่ให้มีการทำลาย และก็ให้มีการลงโทษหนัก เพื่อจะไม่ให้ถูกทำลาย การปลูกก็ควรจะปลูกต้นไม้ที่ขึ้นช้า ที่เป็นไม้แข็ง ไม้รากลึก ทำให้ป้องกันการดินถล่ม อันนี้ก็เป็นปัญหายากมาก วิธีจะทำก็ต้องปลูกผสมพวกต้นไม้ ไม้อ่อนและขึ้นเร็วกับไม้แข็งที่ขึ้นช้า

    เพราะฉะนั้น จะต้องหาวิธีที่จะป้องกันการทำลาย เพราะว่า ต้นไม้ไม้แข็งเมื่อถูกทำลายแล้วก็กว่าจะแทนที่ได้ ก็กินเวลานาน อย่างที่กรุงเทพฯ ได้ปลูกต้นไม้แข็ง เช่น ไม้สัก และไม้ยาง ไม้สักก็กินเวลาหลายสิบปีกว่าจะโตและแกร่ง ไม้ยางขึ้นได้เร็วกว่า แต่อย่างไรก็กินเวลานาน 60 ปี กว่าจะใช้ได้ หมายความว่า เป็นงานหนักและการปลูกต้นไม้ที่จะช่วยให้เป็นไม้ที่จะช่วยในเรื่องของที่เรา ปัญหาที่เราทำคือน้ำท่วม ดินถล่ม ต้องใช้เวลาเป็นแรมปีถึงจะดีขึ้นได้

    วิธีทำก็หลีกปัญหา ก็จะต้องปลูกต้นไม้ที่ขึ้นเร็ว หมายความว่าประมาณ 10 ปี ก็โตแล้ว ใช้การได้ แล้วก็ผสมกับต้นไม้ที่ต้องใช้เวลานาน กว่าจะใช้งานได้ ก็ใช้งานทั้งในฐานะเป็นไม้และในฐานะเป็นต้นไม้ที่จะป้องกันน้ำท่วม เป็นเวลาหลายสิบปี ก็ความคิดที่จะทำก็คือปลูกต้นไม้ที่เกิด ที่ขึ้นเร็ว ที่จะใช้งานได้ ขายได้ ได้รายได้ ส่วนหนึ่ง แล้วก็ไม้แข็ง ไม้ที่มีคุณภาพ ไม้ที่แพง ไม้ที่คนชอบไปตัดแล้วไปขาย ก็ต้องพยายามที่จะทำป่าที่ปลูกต้นไม้หลายชนิด


    -http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9550000025355-

    .
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .


    กฟผ. จ่อขึ้นค่าไฟ อ้างน้ำมัน-ก๊าซ ราคาแพง




    [​IMG]




    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบจาก การไฟฟ้าผ่ายผลิตแห่งประเทศไทย


    กฟผ. เตรียมขึ้นค่าเอฟที 20-30 สตางค์ต่อหน่วย เหตุน้ำมันและก๊าซมีราคาแพง กฟผ. ช่วยพยุงราคาไม่ไหว




    เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นายสุทัศน์ ปัทมสิริวัฒน์ ผู้ว่า กฟผ. กล่าวว่า ในเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม มีแนวโน้มว่าค่าไฟจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 20-30 สตางค์ต่อหน่วย เนื่อง จากน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตกระแสไฟฟ้า มีราคาสูงขึ้น ดังนั้น ทาง กฟผ. จึงไม่ต้องการให้รัฐบาลตรึงค่าเอฟทีนานเกินไป เพราะจะส่งผลต่อความสามารถในการตรึงค่าไฟของ กฟผ. หลังจากที่ผ่านมา กฟผ. ได้ตรึงค่าไฟกว่า 8,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือประชาชนในสภาวะที่ถูกน้ำท่วมไปแล้ว


    นายสุทัศน์ยังกล่าวเสริมอีกว่า การที่พยุงราคาค่าไฟเอาไว้นาน ๆ จะทำให้โครงสร้างบิดเบี้ยว และการแก้ไขปัญหาในภายหลังจะยากขึ้น กฟผ. เองก็ไม่สามารถช่วยได้แล้ว เพราะ กฟผ.เองก็มีแผนการที่จะลงทุน ซึ่งต้องใช้เงินเยอะ


    นอกจากนี้ ค่าเอฟทีงวดต่อไปต้องมีการปรับเพิ่มขึ้น เพราะที่ผ่านมา ระดับ ราคาน้ำมันที่คำนวณราคาก๊าซอยู่ที่ 100 เหรียญต่อบาร์เรล แต่ในความเป็นจริงอยู่ที่ 115-120 เหรียญต่อบาร์เรล ประกอบกับสถานการณ์ความตึงเครียดในอิหร่าน และสงคราม จึงทำให้ราคาน้ำมันไต่ระดับสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ และย่อมทำให้ราคาก๊าซเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง




    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก

    [​IMG]


    -http://www.dailynews.co.th/businesss/14169-

    -http://hilight.kapook.com/view/67987-

    .
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    .

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    อนุโมทนาบุญถวายพระบรมสารีริกธาตุ และผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุสัมฤทธิ์สนิมเขียวกับทุกท่านด้วยครับ..

    งานนี้ต้องขอบคุณ และอนุโมทนากับลุงอ.จ.กูรูน้องนู๋อีกท่านด้วยครับที่ช่วยลุ้น ช่วยให้คำปรึกษา ที่สำคัญคือช่วยกำหนดจิตดูว่าเป็นอะไร ความลับบางเรื่องยังไม่ถึงเวลา พวกเราก็ยังไม่ต้องด่วนรับทราบกันก็ได้ ผิดพลาดไป อาจจะเป็นกรรมจากการเผยแพร่ความรู้ในทางที่ผิดๆไป เอาไว้ให้เรื่องราวค่อยๆกระจ่างกว่านี้ ชัดเจนกว่านี้ ผมจะนำแจ้งแก่เพื่อนๆทุกท่านอีกครั้ง แต่..มีเรื่องราวที่พอจะบอกเล่าเพิ่มเติมได้คือ นับแต่พระเจดีย์ซึ่งได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ๒ องค์ และผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุสัมฤทธิ์สนิมเขียวนี้ล้มลง ก็มีคนหาของป่าแถบเชียงดาวได้ไปพบเข้าในป่าลึก ก็ได้นำออกมาขายให้กับคนในพื้นที่เชียงดาวเป็นทอดที่ ๒ และทอดที่ ๓ เป็นพ่อค้าขายพระหาของมาแลกเปลี่ยนซื้อขายกับบุคคลทอดที่ ๒ จนพวกเราไปพบเข้าได้มาเป็นทอดที่ ๔ และจะไม่มีโอกาสเป็นทอดที่ ๕..๖..๗..อีกอย่างแน่นอน เพราะพระบรมสารีริกธาตุส่วนสำคัญนี้จะบรรจุยังพระบรมธาตุเจดีย์แห่งใดแห่ง หนึ่งจังหวัดใดจังหวัดหนึ่งอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้นี้ สาธุชน และพรหมเทพเทวาจะได้สักการะถ้วนทั่วกันได้ และจะไม่มีการสลักชื่อใดๆที่บ่งบอกว่าคณะเราเป็นผู้ถวายบรรจุแต่อย่างใดทั้ง สิ้น...

    โดยปกติการถวายบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของคนสมัยโบราณ นอกจากจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุแล้ว ภายในผอบยังต้องรองรับด้วยอัญมณีของมีค่าแก้วแหวนเงินทองนพรัตน์นพเก้า หรือแร่รัตนชาติ การขุดค้นพบของคนหาของป่าจะต้องพบสิ่งเหล่านี้ในทอดแรก และถูกแยกส่วนจำหน่ายจ่ายโอนไปยังทอดที่ ๒ อย่างแน่นอน ผมได้สอบถามบุคคลทอดที่ ๓ แล้ว เขาก็ไม่ทราบเรื่องราวเหล่านี้....

    ผมเชื่อสายตาทั้งนอก และในของลุงอ.จ.กูรูน้องนู๋ และลุงไฟดูด ว่ามองไม่พลาดอย่างแน่นอนครับ ไม่ว่าจะเป็นของเก่า หรือของใหม่ หรือของเทียมทำเก่า แยกกันได้ง่ายๆ...

    หากประเมินที่อายุของผอบสัมฤทธิ์สนิมเขียวใบนี้ที่พันปี+ ปีพ.ศ. ๑๕๕๕ เป็นอย่างน้อย ลองติดตามเรื่องราวเหนือจินตนาการเหล่านี้ได้ครับ เรื่องราวเหล่านี้อาจจะไม่เกี่ยวข้องกัน แต่ลองสังเกตในบางช่วงบางตอนนะครับว่า ผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุสัมฤทธิ์สนิมเขียวใบนี้ยังเกิดขึ้นก่อนที่พญามัง รายก่อสร้างอาณาจักรล้านนา(พ.ศ. ๑๘๓๙) เกือบ ๓๐๐ ปีเสียด้วยซ้ำไป...

    ตำนานพระญาธัมมิกราชกับถ้ำเชียงดาว

    http://palungjit.org/attachments/a.1182299/
    วัดถ้ำเชียงดาว

    ตำนานถ้ำเชียงดาว

    เป็นนิยายปรัมปรายุคต้นพุทธกาล กล่าวถึงสมเด็จองค์อัมรินทราธิราชเจ้า ประมุขแห่งปวงเทพเทวาได้ดำริให้จัดทำสิ่งวิเศษ เพื่อพระศรีอาริยะเมตไตรยที่จะเสด็จมาเป็นพระเจ้าจักรพรรดิราชในกึ่งพุทธกาล ได้เล็งเห็นว่าถ้ำเชียงดาวเป็นสถานที่เหมาะสมแก่การเก็บรักษาของวิเศษเหล่า นั้น เพราะลึกเข้าไปในถ้ำจนสุดประมาณมิได้ เป็นเมืองแห่งพวกครึ่งอสูรกาย เรียกว่าเมืองลับแล มีความเป็นอยู่ล้วนแต่เป็นทิพย์ ผู้คนทั้งหลายในมนุษย์โลกธรรมดาที่เต็มไปด้วยกิเลสยากนักที่จะเข้าไปพบเห็น ได้ เพราะมีด่านภยันตรายต่างๆมากมายหลายชั้นกั้นขวาง ไว้เป็นอุปสรรค

    มียักษ์สองผัวเมียบำเพ็ญภาวนารักษาศีลเพราะได้ปฏิบัติตนเป็นผู้ถึงซึ่งพระ รัตนตรัยจากสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยมีนางผู้เลอโฉมนามว่า อินเหลา อยู่ปรนนิบัติบิดามารดาผู้ทรงศีลทั้งสอง จนวันหนึ่งได้พบกับ เจ้าหลวงสุวรรณคำแดง ยุวราชหนุ่ม ซึ่งเสด็จมาประพาสป่าจากแค้วนแดนไกล ได้บังเกิดความหลงใหลในความงามของนาง ก็ได้พยายามติดตามนางไปจนถึงถ้ำเชียงดาว และทิ้งกองทหารของพระองค์ไว้เบื้องหลัง จากนั้นก็ไม่กลับออกมาอีกเลย ว่ากันว่าเจ้าหลวงสุวรรณคำแดงอยู่ครองรักกับเจ้าแม่อินเหลาที่ถ้ำเชียงดาว นั่นเอง ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่าจะมีเสียงดังสะเทือนจากดอยหลวงเชียงดาว ปรากฏเป็นลูกไฟ ขนาดลูกมะพร้าว สว่างจ้าพุ่งหายไปในดอยนางซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของดอยหลวงเชียงดาว ซึ่งมีความเชื่อว่า เจ้าหลวงสุวรรณคำแดงลั่นอะม็อกไปเยี่ยมเจ้าแม่อินเหลาที่ดอยนาง

    นอกจากนี้ยังมีตำนานเจ้าหลวงคำแดง จากเอกสารที่เขียนขึ้นโดย พระมหาสถิตย์ ติกขญาโณ กล่าวไว้ว่า พระผู้เป็นเจ้าได้ปกาศิตให้เทวดายักษ์ตนหนึ่งนามว่า เจ้าหลวงคำแดง กับบริวาร 10,000 คนมารักษาของวิเศษในถ้ำเชียงดาว เพื่อรักษาไว้ให้ พระเจ้าทรงธรรมมิกราชใช้ปราบมนุษย์อธรรมในอนาคต ซึ่งนามเดิมของเจ้าหลวงคำแดง คือ เจ้าสุวรรณคำแดง ผู้ซึ่งจะมีหน้าที่เฝ้ารักษาถ้ำและดอยหลวงเชียงดาว จะหมดเวลาของการเฝ้ารักษาเมื่อพระเจ้าทรงธรรมมาปราบมนุษย์อธรรมเสียก่อน

    ที่มาhttp://www.chumchontai.com/detail.php?p_id=2104 (http://www.chumchontai.com/detail.php?p_id=2104)

    ตำนานเจ้าหลวงคำแดง

    ไพฑูรย์ พรหมวิจิตร แห่งสถาบันวิจัยสังคม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นผู้หนึ่งที่ศึกษาตำนานเจ้าหลวงคำแดง ค้นคว้าเรื่องราวของเจ้าหลวงคำแดงจากเอกสารใบลานจากวัดต่างๆ ในเมืองเชียงใหม่ หนังสือประชุมตำนานล้านนาไทย

    ตำนานเชียงใหม่ปางเดิมกล่าวถึง เจ้าชายสุวรรณคำแดง เป็นกษัตริย์องค์แรกในดินแดนล้านนาที่มีเชียงใหม่เป็นศูนย์กลาง มีชีวิตอยู่ในช่วง 1,000 ปีก่อนที่ประวัติศาสตร์จะบันทึกไว้ว่าพญามังรายเป็นผู้ก่อตั้งอาณาจักรล้าน นาในปี พ.ศ. 1839

    เจ้าชายสุวรรณคำแดงมีชีวิตที่เกี่ยวข้องกับถ้ำเชียงดาวเมื่อครั้งที่ไล่ต้อน เนื้อทรายทองมาจนถึงหน้าถ้ำ แต่ไม่พบเนื้อทรายทองแต่พบสาวงามชื่อนางอินเหลา แล้วทั้งสองก็ได้ครองคู่กัน หลังจากนั้นเจ้าชายสุวรรณคำแดงยังต้องตามหาเนื้อทรายทองต่อไป จนกระทั่งมาถึงที่ราบลุ่มน้ำระมิงค์ ฤาษีจึงแนะนำให้สร้างเมือง ซึ่งมีชื่อว่าเมืองล้านนา หลังจากสร้างเมืองเสร็จกษัตริย์ล้านนาจึงกลับไปหานางอินเหลาและอยู่ร่วมกัน ในถ้ำเชียงดาว

    ในส่วนนี้เจ้าหลวงคำแดงจึงมีฐานะเป็นปฐมกษัตริย์ของอาณาจักรล้านนาและเป็น หัวหน้าผีอารักษ์หรือผีบ้านผีเมืองแห่งอาณาจักรล้านนา โดยมีอ่างสลุง ซึ่งเป็นพื้นที่ยอดดอยหลวงที่มีลักษณะเป็นอ่างเป็นที่ประชุมของผีอารักษ์ ดังนั้นการไหว้บูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ตามประเพณีล้านนาจึงต้องมีการบูชาถึงเจ้าหลวงคำแดง

    เรื่องราวอีกชุดหนึ่งของเจ้าหลวงคำแดง ปรากฎในพุทธตำนานที่แต่งขึ้นในสมัยพระเจ้ากือนาถึงสมัยของของพระเจ้าสามฝั่ง แกน (พ.ศ.1866-1985) เรื่องพระเจ้าเลียบโลก ด้วยฤทธานุภาพทรงเหาะเหิรเดินอากาศมายังดินแดนล้านนา “พระพุทธเจ้าเสด็จไปถึงฝั่งแม่น้ำปิง ประทับรอยพระบาทไว้บนหินก้อนหนึ่งที่ผาสะแกง ในเขต อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ จากนั้นเสด็จไปทางอากาศ แล้วชี้ไปที่ดอยแห่งหนึ่ง และทำนายว่าศาสนาจะมารุ่งเรืองในเมืองเชียงดาว จะบังเกิดมีอารามของพระยาคำแดง”

    พร้อมทั้งมีตำนานเกี่ยวกับดอยหลวงเชียงดาวและถ้ำเชียงดาว โดยตำนานอ่างสรงฉบับวัดสันป่าข่อย คัดลอกไว้ในปี พ.ศ.2431 หรือเมื่อ 116 ปีที่แล้ว แปลเป็นไทยได้ ดังนี้

    “ศรีสวัสดี ที่นี้จักกล่าวยังตำนานนิทานปางเมื่อพระพุทธเจ้าแห่งเรานิพพานไปแล้ว ยังเมืองกุฉินาราแล อรหันตาเจ้าทั้งหลาย 500 ตนก็เอายังธาตุพระเจ้ามาไว้ยังดอยสรงที่นี้ เลยได้ชื่อว่าอ่างสรงเชียงดาว พระยาอินทร์ พระยาพรหม และเทวดาเจ้าทั้งหลาย ก็จิ่งจักแปงก่อสร้างยังมหาเจดีย์ทองคำหลัง 1 แล้วด้วยทองคำทั้งแท่ง สูงได้ 3 คาวุตมาบรรจุไว้ยังพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า แล้วอรหันตาเจ้าทั้งหลาย 500 ตนก็เลยนิพพานในถ้ำที่นั้น ยามนั้นยังมีพระยาตน 1 ชื่อว่าอานันทราชา กินเมืองเชียงดาวที่นั้น ก็ได้ส่งสการสรีระคาบยังอรหันตาเจ้าทั้งหลาย 500 ตน อันได้นิพพานไปนั้นทุกองค์…”

    และอารยันตคุปต์ เขียนในปี พ.ศ.2495 ซึ่งมีเนื้อหาตรงกับที่ปรากฏรวมอยู่ในเอกสารใบลานเรื่องตำนานอ่างสรงเชียง ดาว ต้นฉบับเป็นของวัดสันป่าข่อย จ.เชียงใหม่ ต้นฉบับเป็นของวัดแสนฝาง จ.เชียงใหม่ และต้นฉบับเป็นของวัดป่าแดด จงเชียงใหม่ ว่า “ภายในถ้ำนั้น พรหมฤาษีผู้วิเศษได้เรียกประชุมอินทร์พรหมยมนาค เนรมิตของวิเศษหลายอย่างคือ พระพุทธรูปทองคำ พระเจดีย์ทองคำ ต้นโพธิ์วิเศษ ช้างวิเศษ ดาบวิเศษ ผ้าทิพย์ อาหารทิพย์ สิ่งของเหล่านี้นัยว่ามีไว้สำหรับพระยาธรรมิกราช ผู้จะมาเกิดในวันข้างหน้า โดยพระอิศวรสั่งให้เทวยักษ์ตนหนึ่ง คือเจ้าหลวงคำแดง หรือ เจ้าสุวรรณคำแดง เป็นผู้ดูแลรักษาไว้”

    ที่มา ..........
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร:::
    [​IMG]
    update เรื่องราวของพระบรมสารีริกธาตุ และผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุสัมฤทธิ์สนิมเขียวซึ่งน่าจะใกล้เคียงข้อเท็จ จริงในราว ๙๐% นำมาเปิดเผยกันเนื่องจากเสร็จกิจแล้ว คือพระบรมสารีริกธาตุ ๒ องค์นี้ และผอบบรรจุโบราณสัมฤทธิ์สนิมเขียว อายุของผอบมากกว่าพันปี เท่ากับบอกทางอ้อมว่า พระบรมสารีริกธาตุก็มีอายุมากกว่าพันปีเช่นกัน ในราวปี พ.ศ. ๑๔๓๒ พระมหาไหล่ลาย มหาดเล็กแผ่นดินละโว้เดินทางไปลังกา(การที่มีนามว่า"ไหล่ลาย" ก็มีที่มาที่ไปครับ หุ..หุ..) จนพระสังฆราชลังกาบวชให้ ท่านเดินทางไปสักการะพระพุทธบาท และพระธาตุเจดีย์หลายแห่งที่ลังกา ก่อนเดินทางกลับดินแดนสุวรรณภูมิ พระสังฆราชลังกาได้มอบพระบรมสารีริกธาตุจำนวน ๖๕๐ องค์+ต้นพระศรีมหาโพธิ์ โดยได้เดินทางไปบรรจุยังสถานที่ต่างๆ ซึ่งเท่ากับว่า พระบรมสารีริกธาตุส่วนสำคัญนี้ก็คือ ๒ ใน ๖๕๐ องค์ของพระพุทธเจ้าที่พระสังฆราชลังกามอบให้ครับ...

    ขอบคุณลุงอ.จ.กูรูน้องนู๋ด้วยครับที่แจ้งให้ทราบ
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    เมื่อ ครู่นี้ผมได้รับพระบรมสารีริกธาตุ ๒ องค์ และผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุสัมฤทธิ์สนิมเขียวแล้ว บุคคลผู้นั้นเพียงห่อกระดาษทิชชู และบรรจุใส่ซองพลาสติกเอาไว้เท่านั้น แล้วส่ง EMS ใส่ซองกันกระแทก เมื่อเปิดซองออก ก็พบว่าผอบบรรจุมีขนาดเล็กมากไม่เกิน ๒ ข้อนิ้วมือเมื่อสวมปิด ผอบมีรอยกระเทาะออกมาเล็กน้อยเห็นสนิมเขียวร่อนหลุดออกมา ซึ่งจะเกิดจากขั้นตอนการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุลงในผอบของบุคคลผู้นั้น ส่วนพระบรมสารีริกธาตุ ๒ องค์ งามมากจริงๆ ไม่เกิดความเสียหายแต่อย่างใด

    นำมาให้ทุกท่านได้ชมกันครับ หากถวายบรรจุยังพระบรมธาตุเจดีย์ต้องบรรจุใส่ผอบใบใหม่อย่างแน่นอน และสมควรที่จะบรรจุในสภาพเดิมๆพร้อมผอบสัมฤทธิ์สนิมเขียวใบนี้ด้วยในลักษณะ ของการสวมทับอีกชั้น...

    เมื่อได้วาระถวายพระบรมสารีริกธาตุ ๒ องค์ และผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุสัมฤทธิ์สนิมเขียวเมื่อใด จะแจ้งให้ทราบกันอีกครั้งครับ...

    อนุโมทนา..
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    อนุโมทนา ครับ เรื่องการ scan slip หรือไม่ ไม่ได้สำคัญ ทุกอย่างสำเร็จด้วยใจ ง่ายๆ สบายๆครับ..วันนี้ช่วงบ่ายจัดส่งไปให้แล้วนะครับ ขอแสดงความยินดีสำหรับ'พระเสี่ยงทาย'ลำดับที่ ๓ ครับ ผมพิจารณาแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมคุณพิศดูถึงได้รับพระที่ไม่ใหญ่ไปเลย ก็เล็กกว่าปกติไปเลย ทั้งพระมเหศวร ๒ หน้า พิมพ์เล็ก ยันต์กลับ สนิมแดง และพระสมเด็จวัดโค่ง รู้สึกว่าเคยลงประวัติให้ทราบกันไปแล้ว ลอง search ดูนะครับ หากไม่พบ ส่ง PM แจ้งมาอีกครั้งก็ได้ครับ..
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    เอาใจเป็นที่ตั้ง...โอ...อนุโมทนาบุญกับพี่สิทธิพรด้วยครับ...

    เมื่อคืนได้คุยกับพี่ไฟดูดเกี่ยวกับผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุอาจจะเป็นผอบ เงิน แต่ผมคิดว่า น่าจะสร้างด้วยโลหะสัมฤทธิ์รูปทรงเดิม แต่สั่งทำขยายขนาดออกไปรอบข้างอีกด้านละ ๑ ซ.ม. แล้วถวายบรรจุพระบรมสารีริกธาตุลงในผอบสัมฤทธิ์เดิม แล้วนำผอบสัมฤทธิ์เดิมบรรจุภายในผอบสัมฤทธิ์ที่จัดสร้างใบใหม่ที่ใหญ่กว่า เดิมเล็กน้อย ให้ซ้อนกันตามแบบโบราณที่บรรจุผอบซ้อนกันหลายชั้น แต่การสั่งทำใบเดียวอาจจะมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้นเพราะเป็นงานสั่งทำไม่ได้หา ภาชนะแบบใดก็ได้ และที่สำคัญไม่ทราบจะไปสั่งที่ไหนให้ทำให้ พี่สิทธิพร หรือเพื่อนท่านใดพอจะทราบแหล่งก็รบกวนแจ้งข้อมูลให้ทราบด้วยครับ เอาไว้เช้าวันพรุ่งนี้จะวัดขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ความกว้าง ความสูงเอาไว้อีกทีครับ..

    พี่ไฟดูด และผมยังเข้าใจผิดคิดว่า ผอบจะมีความสูงราว ๔ นิ้ว ผมเห็นเขาส่งมาให้ก็ตกใจแล้วครับ ผอบอะไรจะบรรจุในซองกันกระแทกได้ เปิดออกดูเลยถึงบางอ้อ ความสูงของผอบฯที่ปิดฝาแล้วมีความสูงเพียง ๒ ข้อนิ้วมือเท่านั้นเองครับ...

    เรื่องของผอบที่สันนิษฐานว่ามีอายุในราว ๑,๑๒๓ ปี (นับจากปีพ.ศ. ๑๔๓๒-๒๕๕๕) เท่ากับว่า ในกาลข้างหน้า..อีกในราวพันปีเศษก็อาจจะมีผู้ศรัทธาได้สร้างผอบบรรจุพระบรม สารีริกธาตุอีกครั้งเพื่อสืบศาสนาให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี ซึ่งคณะพระวังหน้าของพวกเราก็ได้รับช่วงดำเนินการสร้างผอบบรรจุพระบรม สารีริกธาตุต่อในระหว่างกึ่งพุทธกาลนี้...

    หากพี่สิทธิพรเป็นธุระจัดหาให้ก็ไม่ต้องโอนปัจจัยใดๆมาครับ ถือเป็นทุนตั้งต้นเอาไว้ก่อน เพื่อนๆท่านใดมีศรัทธาร่วมสร้างผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุสัมฤทธิ์ใบใหม่ก็ ร่วมสมทบกันที่บัญชีพี่สิทธิพรแบบนี้ผมคิดว่าน่าจะดีที่สุดครับ เพื่อนๆทั้งหลายเห็นว่ายังไงก็ช่วยกันออกความเห็นครับ...
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    เห็นด้วยครับ รบกวนพี่สิทธิพร ดำเนินการด้านผอบครับ หากขาดเหลือก็รบกวนแจ้งเพื่อร่วมช่วยด้านปัจจัยกันต่อไปครับ
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sittiporn.s [​IMG]
    ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ
    งั้นผมขออนุญาติเป็นแม่งานรับช่วงต่อจากคุณเพชรครับ
    ปลายเดือนนี้พระอาจารย์จะมากรุงเทพฯคงจะได้รับทราบ ( เป็นการภายใน )ถึงประวัติความเป็นมาครับ
    มหามุฑิตาโมทนาสาธุ กับทุกๆท่านที่มีส่วนร่วมในบุญอันยิ่งใหญ่นี้ครับ
    ( ขออนุญาติเพิ่มเติมสำหรับผู้ที่ยังไม่เข้าใจในการมีส่วนร่วมกล่าวคือการมี ส่วนร่วมงานบุญใดๆไม่จำเป็นต้องร่วมปัจจัย เพียงแค่ตั้งจิตร่วมโมทนาด้วยความศรัทธาที่เต็มเปี่ยมก็ได้รับอานิสงศ์ร่วม กันแล้วครับ )
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ปฐม [​IMG]
    ผมขอโมทนาในกุศลครั้งนี้ของพี่ท่านด้วยนะครับผม สาธุ
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ :::เพชร::: [​IMG]
    ฝ่าย หนึ่งเกรงใจ อีกฝ่ายหนึ่งอาจจะแปลความหมายผิด ผมขออนุญาตช่วยขยายความนะครับ พี่สิทธิพร เรื่องการสร้างผอบใหม่ครอบผอบใบเดิม เมื่อพี่สิทธิพรแสดงความจำนงถวายปัจจัยเป็นพุทธบูชาจำนวน ๒,๕๕๕ บาท ก็ถือเป็นต้นบุญ ค่าใช้จ่ายหลังจากนี้คงมีอีกจำนวนหนึ่งจนกว่าจะสร้างผอบเสร็จ ซึ่งลุงอ.จ. กูรูน้องนู๋ และผมมีความเห็นว่า ส่วนเกินจากนี้น่าจะมีสาธุชนผู้ศรัทธาปรารถนาจะร่วมสร้างผอบบรรจุพระบรม สารีริกธาตุใบใหม่ หรือคันธกุฎีของพระพุทธเจ้า ขึ้นอยู่กับว่า จะใช้วัสดุใดจัดสร้าง ในความเห็นของผม เห็นว่าให้คงรูปแบบเดิมไว้น่าจะดีที่สุด คือโลหะสัมฤทธิ์ หากเป็นผอบเงินจะเกิดอ๊อกซิไดซ์กับอากาศ+กาลเวลา ทำให้ดำ และมีน้ำหนักเบา เป็นความชอบส่วนตัวหรือไม่ไม่ทราบนะครับ หากเป็นสัมฤทธิ์ต้องสนิมเขียว หากเป็นเนื้อชินต้องสนิมแดงมันคลาสสิกจริงๆ...

    ผอบใหม่จะสร้างแบบขยายออกข้างซ้าย 1/2 ซ.ม. ขวา 1/2 ซ.ม. และความสูงเพิ่ม 1 ซ.ม. เท่านั้น เท่ากับว่า ความสูงของผอบใหม่= 6.7 ซ.ม. ความกว้างของผอบใหม่=3.3 ซ.ม. ตามรูปครับ...

    เมื่อแรกเริ่มของเจตนาตั้งใจถวายพระอาจารย์นิลเพื่อบรรจุยังพระบรมธาตุ เจดีย์ที่พระคุณเจ้าจะดำริสร้างในอนาคตอันใกล้ การตรวจสอบทางรูป และทางนาม บางท่านก็สนใจอยากทราบความเป็นมา ผมคิดว่ามีสื่อให้เดินมาถูกทางประมาณ ๙๐% ในการติดตามประวัติความเป็นมาแล้วครับ อื่นๆก็เป็นน้ำจิ้มว่า เป็นส่วนสำคัญส่วนใด ซึ่งหากพระอาจารย์....ท่านจะเมตตาสงเคราะห์ให้ได้ทราบเป็นกรณีพิเศษเพื่อ เติมเต็มความครบถ้วนของข้อมูลได้ก็เป็นการดี และเป็นฉลองศรัทธาญาติโยมที่มีจิตศรัทธาร่วมสมทบทุนถวายบรรจุพระบรม สารีริกธาตุสัณฐานสำคัญนี้ครับ

    จากวันนี้ไปพี่สิทธิพรก็แจ้งชื่อ และบัญชีสำหรับการโอนปัจจัยเพื่อสมทบทุนสร้างคันธกุฎีของพระพุทธเจ้าเอาไว้ด้วยนะครับ
    </td> </tr> </tbody></table>
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ faidood [​IMG]
    :z5นี่ ตาลุงเพชร ผมเปิดผะอบที่บ้านที่เป็นหินจุ้ยเจียเช่ามาจากตลาดพระ ภายในซึ่งบรรจุพระธาติมาไม่กี่องค์เมี่อคึนเปิดดู งงงงมีมากขึ้นกว่าสองเท่า ตอนที่เค้าใส่มือให้เช่าก็ไม่รู้ว่าอะไร แต่ทำไมเย็นจัง ตั้งใจว่าแค่ผะอบก็โอเคนะ เปิดดูก็เห็นตึ้นๆๆเหมือนที่ท่านพบนี้ละ จะไม่ลึก ถ้าลึกละปลอม(ตำราว่าไว้)เพราะเค้าทำแบบเฉพาะ งานเท่านั้น ในส่วนนี้นะถ้าเป็นโลหะแบบเดิม หรือ สแตนเลสสตีลเบอร์304 ให้เค้ากลึงให้พอดีแล้วสวมลงไป เคยเห็นตัวหมากรุกที่เรียกว่าขุนไหม? ส่วนที่เปิดได้ เป็นแบบเกลียว หรึอแบบสวม เหมึอนของเดิม เค้าทำได้ทั้งหมดละ จะทำกี่ชิ้น ก็ได้ ราคาจิ๊บๆๆ โลหะที่จะทำ ทำได้ทุกชนิดครับ ราคาค่าทำพร้อมวัสดุ บอกไปก็ไม่เชื่อ ตัดสินใจเรื่องวัสดุก่อนว่าจะใช้อะไร จะง่ายขึ้น ถ้าถือไปร้าน ร้านรู้มันก็จะโขกราคาทำให้เจ็บใจเล่นๆๆ ถ้าไปเจอสายบุญเช่นเรา น้องคนที่กลึงให้เรามันเต็มใจกลึงให้อย่างงามๆๆซะอีกนะ ถ้าเป็นสแตนเลสนะทำให้หนาได้ถึงหนึ่งเซ็นติเมตร อีก สองพันปียังไมเสื่อมสภาพนะจะบอกให้ ตัดสินใจซะก่อนเรื่องโลหะthaxx
    </td> </tr> </tbody></table>


    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]

    [​IMG] [​IMG] [​IMG]



    เรียนพี่สิทธิพรครับ

    ลองพิจารณาดูครับว่า จะใช้โลหะอะไร

    ส่วนตัวแนะนำเรื่องโลหะที่ไม่เกิดสนิม ดีที่สุดครับ

    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่าน ทุกๆประการครับ

    .
     
  15. faidood

    faidood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +31
    (||)นี่นะตาลุงเพชร เห็นแบบแล้วสวยมาก นายแน่มาก แล้วเรื่องนี้นะก็มีพระ.......มาช่วยอีกเห็นมัยละ รถของผมก็มีพระ......ท่านมาช่วยอีก...แล้วอย่างนี้จะไม่เชื่ออีกหรือ...งงงงถามลุงข้างบ้านดูดิ ว่าทำไมธนาคารแทบทุกธนาคารถึงได้รวย....มีพระสวยๆๆๆอยู่เต็มแทบทุกธนาคาร ล่าสุดนี่อีตาลุงฝากไว้กี่สิบร้าน หุหุหุ :p
     
  16. TrainSSS

    TrainSSS สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +4
    เห็นด้วยกับคุณลุงไฟดูดครับ หรือจะเป็นทองเหลือง ทองแดง นำรูปมาให้ดูสวยทุกแบบเลยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • ผอบ5.gif
      ผอบ5.gif
      ขนาดไฟล์:
      32.3 KB
      เปิดดู:
      62
    • ผอบ3.bmp
      ขนาดไฟล์:
      148.3 KB
      เปิดดู:
      102
    • ผอบ4.bmp
      ขนาดไฟล์:
      138.1 KB
      เปิดดู:
      57
    • ผอบ6.bmp
      ขนาดไฟล์:
      159.8 KB
      เปิดดู:
      55
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 24 กุมภาพันธ์ 2012
  17. TrainSSS

    TrainSSS สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    169
    ค่าพลัง:
    +4
    ขอชมแบบ ขอดูรูปบ้างได้ไหมครับ:d
     
  18. sittiporn.s

    sittiporn.s เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +748


    เรียนทุกท่าน
    สเตนเลส หรือเงินบริสุทธิ์ หรือทองคำ หรือทองคำลงยา ( คุณหนุ่มเคยได้โมทนาแล้ว ) วัสดุอย่างนี้ง่ายนิดเดียวครับ ผมขอเวลาหาข้อมูลสัมฤทธิ์สักระยะหนึ่ง ก่อนตัดสินใจ ผมจะขอความเห็นทุกท่านก่อนครับ
     
  19. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    หุ..หุ...ลุงไฟดูดหัวไวมากๆ ลับสมองทุกวัน โครงงานทุกโครงงาน กิจกรรมทุกกิจกรรม จะปฏิเสธเรื่องของปัจจัยไม่ได้เลย เป็นตัวช่วยขับเคลื่อนให้กิจกรรมดำเนินต่อไปได้ เช่นเรื่องนี้เป็นต้น หากไม่มีปัจจัยไปนิมนต์พระบรมสารีริกธาตุ และผอบสัมฤทธิ์มา ก็ไม่มีทางได้ครับ พ่อค้าเขากระหายในการแลกเปลี่ยนเพื่อปากท้องครอบครัวเขา เราเลือกได้ แต่เขาเลือกไม่ได้ หรือไม่อยากเลือกมาก ดังนั้นพระ...ที่ลุงไฟดูดเอ่ยถึงเป็นปริศนานั่นคือ พระเจ้าอยู่หัว(ธนบัตรเป็นเงินที่ชำระหนี้ได้ตามก.ม.)

    ผมเข้าใจความพยายามของเพื่อนทุกท่านครับว่า ปรารถนาที่จะกระทำกิจอันใดให้สมบูรณ์เท่าที่สามารถทำได้ เช่นการเปลี่ยนไฉไบ๊ศาลวังหน้าเมื่อ ๒ ปีก่อน เมื่อร้อยกว่าปีเป็นครั้งแรก คณะพระวังหน้าได้ดำเนินการเปลี่ยนไฉไบ๊เป็นครั้งที่ ๒ และอีกร้อยกว่าปี ก็จะมีคณะบุคคลอีกคณะมาดำเนินการเป็นครั้งที่ ๓ ครั้งที่ ๔..๕..๖..จนกว่าศรัทธาคนเริ่มเปลี่ยน หรือวัฒนธรรมทางสังคม หรือความเชื่อเริ่มเปลี่ยนแปลง ทำไมเขาไม่สร้างไฉไบ๊เหล็กละครับ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเปลี่ยนอีกชั่วกาลนาน นั่นเพราะเขาไม่นิยมกระทำกัน หรืออาจจะมีราคาสูงเกินไป หรืออาจจะใช้เวลาในการอธิบายถึงเหตุ และผลกับบุคคลทั่วไปมากมายเกินความจำเป็น จะอย่างไรด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที เราทุกคน ของทุกอย่างในโลกนี้ ล้วนอยู่ภายใต้คำสอนเรื่องเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ในเมื่อเรายอมรับในหลักการนี้ จึงมาพิจารณากันที่"อารยะสถาปัตย์" โดยพิจารณาความสำคัญ วัฒนธรรม ประเพณี ความเชื่อ ประกอบกันไป ให้ดูกลมกลืน ลงตัว เป็นส่วนที่ยากจะเข้าใจครับ ถึงตรงนี้ ผมคิดว่าผมได้ยอมรับในธรรมะเรื่องความเสื่อมก่อนแล้วครับ จะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ ผมยอมรับ และทุกอย่างเป็นอนัตตา การสืบศาสนาให้ครบ ๕,๐๐๐ ปี ก็มีที่มาที่ไปเช่นกัน พระพุทธเจ้าพระองค์ท่านเป็นสัพพัญญู พระองค์ทรงทราบดีว่าระหว่าง ๕,๐๐๐ ปีนี้มีเกิดอะไรขึ้น มารศาสนาจะเกิดในช่วงใด ความเจริญความเสื่อมจะเกิดในช่วงเวลาใด จึงเกิดพุทธพยากรณ์ขึ้นยังไงละครับ หรือการสร้างพระพิมพ์ หรือพระเครื่อง ประเด็นหนึ่งก็เพื่อโน้มใจผู้คนให้ยึดองค์แทนพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เป็นสรณะ วันหนึ่งเมื่อกำลังจิต กำลังใจเด็ดเดี่ยวมากพอ ก็จะหันมาเร่งปฏิบัติให้หลุดพ้นวัฏสงสารจนถึงเขตแดนพระนิพพาน การสร้างพระก็ยังคงนิยมสร้างพระผง พระเนื้อชิน เนื้อนวฯ แต่ยังไม่เคยมีผู้ใดคิดสร้างพระที่คงทนต่อกาลเวลา เช่นพระสแตนเลส ฯลฯ สิ่งนี้ยังไงครับที่ผมพยายามนำเสนอ ว่าอะไรก็ได้ครับ แต่ต้องกลมกลืน ลงตัว แล้วจึงจะมาที่คงทน..

    อีกอย่างหนึ่ง เมื่อจิตแรกได้ตั้งใจเอาไว้แล้วว่า จะถวายพระอาจารย์นิล เพื่อบรรจุภายในพระธาตุเจดีย์ที่พระคุณเจ้าจะดำริสร้างต่อไปในกาลข้างหน้า ก็ต้องทำตามสัจจะครับ ผมเชื่อว่า เพื่อนทุกท่านเห็นด้วยอย่างแน่นอน แต่มีสิ่งหนึ่งที่เป็นจุดเด่นของพระอาจารย์นิลคือ กระทำสิ่งใดต้องให้ดีที่สุด ไม่เลิกล้มกลางคัน แม้สิ่งนั้นจะกระทำไปแล้วใกล้เสร็จก็ตาม แต่ยังไม่ดีในสายตา และความคิดของท่าน เรียกว่า ดียังไม่เข้าขั้นที่สุดของความสามารถของความเป็นมนุษย์ ท่านก็สั่งรื้อ ปิดทองใหม่ทั้งหมด.. ยังคงจำกันได้ไม๊ครับว่า ท่านให้ช่างปิดทองรื้อทองคำที่ปิดไว้ออกเมื่อคราวสร้างพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ไม่ใช่หรือ??? ดังนั้นที่ว่าดีในสายตาเรา อาจจะไม่ได้ดีในสายตาของท่านก็ได้ ดังนั้นการน้อมขอรับคำแนะนำจากท่าน จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง ไม่ต้องลองผิด ลองถูก ซึ่งส่วนมากก็ลองผิดกันทั้งนั้นแม้จะคิดดีทำดีแล้วก็ตาม แต่..ผมขอลองถูกอย่างเดียวดีกว่าครับ ไม่เสียเวลา และงบประมาณ...

    ผมคงจะไม่พูดเรื่องนี้อีก เพราะไม่มีความจำเป็นอันใด และเกิดประโยชน์อื่นใด...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กุมภาพันธ์ 2012
  20. faidood

    faidood Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2012
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +31
    ผมขออภัยด้วยที่เสนอความเห็นไป และขอถอนข้อเสนอของผมอีกด้วย ลุงมันลุ่มล่ามเองนะท่านเพชร ขออภัยในบางลีลาครับทุกๆท่าน(f)
     

แชร์หน้านี้

Loading...