ปฏิบัติธรรมกับคนบ้า

ได้ข่าวลุงสนใจเกษตรอินทรีย์หรอ

 

ทำความกำหนดรู้ใส่ใจ ความไม่เที่ยงนั้นไป

สัญญา พาให้ปรุงแต่ง ในเรื่องไม่ใช่เรื่อง เป็นเรื่องนอกตัว

พี่ซัวเจ๋งจึงฉลาดเฉพาะตัวนี้ไง

 

ครับบ้านผมทำเกี่ยวกับฟาร์ม พื้นที่ค่อนข้างจำกัด และใช้ยาเยอะ
เลยลอง หาอะไรที่ใช้ไม่ต้องฆ่าแมลง ไปใช้ดู อย่าง EM ก็ลองนะ แล้วพวกน้ำชีวภาพ

คุณรู้ได้ไงครับ

 

เห็นกระทู้ดันๆเด้งๆ เลยเข้ามาติดตามในเรื่องราว..

 

ลุง ฝากบอกลูกสาวลุงด้วย ไว้ครบ 6 เดือน 9 เดือน ค่อยปรากฏ เอ้ก อี เอ้ก เอ้ก

ผมสงสัยลุงมานานแล้วล่ะ เอาน่าใจเย็นๆ ครับ

"เสียอะไรเสียได้ แต่อย่าเสียดายความรู้สึกที่ไม่ดีครับ"

 

ถ้าจะให้คิดจะพูดอะไรล่วงหน้า เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมี

ก็จะเแยก ว่าสิ่งไหนประโยชน์ก็จะพิจารณา

โม้ๆผ่อนคลายบ้าง ด้วยสนทนาธรรมแบบไม่เคลียด

ว่างๆก็ คิดเรื่องประโยชน์ตนบ้าง พอพิจารณาจบ

ก็หาช่องอยู่ปัจจุบัน รู้ว่าอะไรทำตอนนี้ อะไรควรทำในระยะยาว

 

สังสัยอะไรครับ แล้วครบ 6 เดือน 9 เดือนนี่อะไรครับ
จะได้บอกถูก

 

ผมมีมโยยิกยิก ^^

นี่เลยลุง ไปเที่ยวเกษรตอินทรีย์แถวแม่แตง ที่นั้นเขาสุดยอดแล้ว

จัดสรรปันน้ำ รีไซค์เคิลจนหยดสุดท้าย

พวกน้ำชีวภาพ เขาเป็นกันทุกสูตร

 

เห็นเค้าบอกว่าเมื่อหลายเดือนก่อนโน้นที่ผ่านมา ว่าเข้าพรรษา หรือออกพรรษา ปีนี้ล่ะ

ถึงจะเข้ามา เอ้ก อี เอ้ก เอ้ก ไม่งั้นเสียสัจจะ

แต่รู้สึกว่าเข้ามาแอบอ่าน น่าจะเป็นแมว เหมียววๆ แถวนี้หรือป่าว ^^

 

รู้ไปโม๊ด.....

 

อ้อ ครับจะบอกให้ก็มีบ้างที่เข้ามาอ่านก็ผมใช้เครื่องเขานี่ครับ พิมยากหน่อย
เครื่องมันเล็ก ผมบอกแล้วว่า พวกคุณเีถียงเขาไม่ทันหรอก ^^

จะบอกให้ว่า คุณฝากมา ขอบคุณน้องโหน่งด้วยที่แนะนำ
ต้องไปศึกษาหากลดยาไม่ต้องฆ่าได้ มันก็เป็นผลดีนะ

 

...โมโหหิว บ้างก็ดี...

 

ครับ อย่าไปใช้เลย

เขาบอดว่าพืชก็เหมือนลูก เขาต้องการอาหารดี เขาก็เป็นผักที่ดี

เราก็ได้ทานผักที่ดี ที่เราใส่ใจ

เวลาแจกจ่ายให้ผู้อื่น ก็ให้สิ่งที่ดีกับเขาด้วย

ประโยชน์ที่ดีก็เกิดแก่เรา โรคภัยก็ไม่มี สุขใจผู้ให้ สบายใจผู้รับ




ส่วนเรื่องเถียงไม่ได้นั้น อันนี้ไม่จริงนะครับ

เห็นมาลองของนายเจ๋งทีไร เป็นหงายทุกที

ตายเกิด อวตารเปลี่ยน ip กี่ทีก็หงาย ^^

 

ขอบคุณสำหรับข้อมูล

มาฮาเอาข้างล่างนี่ละ น้องโหน่ง

 

ขอตอบเจ้าของกระทู้ ว่า

ก็อย่า เอาใจไปติด เราก็ไม่เป็นเเบบนั้นเเล้ว

เหมือนเขาว่า ว่าเราบ้า เราสติไม่ดี

ตามจริงเเล้ว ท่าจะวิ่งไปที่ต้น ของเหตุ มันก็มาจากเขา หลุดมาจากใจ จาก คําพูด เขา เเค่เราไม่อ้าเเขน ออกไปรับ ออกไปดึง ไปโน้มเอามาเป็น ของ ของเราซะ มันก็จบ

จะเห็นได้เลยว่า มันต่างกับการ ยับยั้ง หรือ วางตัวให้ตรงกลาง เพื่อ เขา
เราไม่จําเป็นต้องไป วางตัว วางใจ อะไรใหม่ เพื่อใคร ถ้า มันไม่ได้ไปทําความเดือดร้อน อะไร ให้ใคร เราก็ ทําของเรา ปฎิบัติ ของเรา เป็นไปตามเเบบของ ของเรา



ก็เท่านั้น มิใช้ดอกหรือ


สังเกตุเอา นะ ว่า ปัญหา กับปัญญาเนี้ย มันมักจะเกิดใกล้ๆ กันเสมอ
ถ้า ยกเอาปัญหา มาเป็น ปัญญาได้




ก็จบ ชิมิ

 

คืนสู่สมมุติ โดยไม่หลงสมมุติ

ลูกศิษย์ไปเรียนเซน

ก่อนเรียนเซน เห็นแม่น้ำเป็นแม่น้ำ เห็นภูเขาเป็นภูเขา

ขณะเรียนเซน เห็นแม่น้ำไม่เป็นแม่น้ำ เห็นภูเขาไม่เป็นภูเขา

หลังเรียนเซน เห็นแม่น้ำเป็นแม่น้ำ เห็นภูเขาเป็นภูเขา อีกครั้ง...




ถ้าศึกษาธรรมแล้วได้รู้ธรรม ก็ย่อม อภัย อโหสิกรรม ให้แก่ผู้ที่รู้ธรรมต่ำกว่าได้เสมอ จึงได้ชื่อว่าเป็นผู้มีคุณธรรมที่สูงกว่า และ เป็นผู้ศึกษาธรรมอย่างแท้จริง

พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนให้สัมพันธ์กับเพื่อนร่วมโลกโดย เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา ผู้ศึกษาธรรมจึงควรเพียรละความพยาบาทในจิตใจของตนอยู่เสมอ

 

นี่นะ...ผมรอคนเดียวเท่านั้นหละ...ที่ผมจะตอบ...ผมยังไม่ได้ตอบเลย....

เห็นอยากรู้แต่ก็ไม่เห็นท่านมายอมรับที่จะฟังเหตุผลกัน... งั้นก็คงต้องปล่อยตามสบาย....เพราะปกติไม่ค่อยจะชอบเสวนากับคนไม่มีเหตุผลเป็นทุนเดิม...เพราะไม่มีประโยชน์....คนประเภทนี้มีมากแล้วในเว็บพลังจิต ผมขอไม่เอาอย่าง....

 

ขอบคุณครับท่านขันธ์ ที่มาเป็นกำลังใจนะ....นี่ถ้าดู พศ. ที่ตอบนี่จะรู้ได้เลยว่าอยู่ในช่วงใหน....มันเป็นช่วงที่อยู่ของกลุ่มที่คณะลูกศิษย์สายพระป่า ที่ชี้แจงเรื่องกรรมฐานสายดูจิต ที่เขาเรียกว่ากลุ่มชงชา นั่นหละ....ช่วงนั้นเลย....

ช่วงนั้น ก็จะมีคุณ ขันธ์ และอีกไม่กี่ท่านเป็นกำลังใหญ่...(ตั้งแต่นั้นก็มีคนเริ่มที่จะรักผม เพราะผมไปขัดความคิดเขา ซึ่งมันเห็นผิดกัน บอกเขาแล้วเขาก็รักแต่จะเห็นผิด เขาก็เลยตามรักผม จดจำมาถึงตอนนี้ นี่คงจ้องจะตีมานานแต่หาโอกาศไม่ได้ ^-^)

กลุ่มชงชา ก็มี หลบภัย(ซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกับวิษณุหรือเปล่า) เอกวีร์ วิษณุ นี่หละจับเข้าพวกกัน....เรื่องนี้มีแต่คนที่อยู่เก่าๆ เขาจะรู้กันดี...คนใหม่ๆมานี่ไม่ค่อยรู้จัก ไม่ค่อยรู้เรื่อง เอาเป็นว่าผมไม่ถือ....จนตอนนี้วิษณุก็หนีไปซบแทบตักหลวงพ่อพุธท่านแล้ว ..จริงแล้วก็คงต้องการไปหาหลักฐานจากครูบาอาจารย์ใหญ่มาสนับสนุนอาจารย์ตนในตอนนั้นไม่รู้ พอรู้ความจริงจากหลวงพ่อพุธเข้าก็เลยเงียบหาย....แต่ก็ยังมีแอบแผงคติเดิมอยู่(มีสมาธินอกศาสนา สมาธิในศาสนาอะไรนั่นหละ)....แต่ยอมรับว่าดีขึ้นมากเลยนะ....ผมก็ไม่ว่า พร้อมโมทนา...อยากบอกว่าเขาทำดีนี่ผมโมทนาเขาตลอดนะ....

เอาเป็นว่าท่านขันธ์ ขอบคุณนะ.... เรื่องนี้ส่วนตัวผมก็ยังไม่ได้ให้คำตอบเลยว่าส่งจิตนี่มันหมายถึงอะไร คนอ่านเขาไม่รู้ก็หมายเอาแต่บริบทที่เขายกมาให้อ่าน เขาก็นึกคิดกันไปเป็นตุเป็นตะ เพราะฟังความข้างเดียว ...ผู้ไม่รู้ผมไม่ถือพร้อมให้อภัย... เรื่องอย่างนี้ผมเจอมาเยอะ..คนอย่างนี่เจอมาเยอะ..เดี๋ยวมันก็ผ่านไป....เหมือนเรื่องเก่าๆนั่นหละ......ก็คงต้องปล่อยเลย...ให้เขามีความสุขใจเสียบ้างเล็กน้อยก็ดีเพราะเตรียมมานานแล้ว เดี๋ยวเขาจะเสียกำลังใจ...เผื่อจะได้รักผมน้อยลงบ้าง..... ^-^

 

ทำให้นึกถึงสุภาษิตอยู่บทสองบท

"ยุแยง ตะแคงรั่ว" vs "ยุให้รำ ตำให้รั่ว" โดยนัยยะมีความหมายเดียวกัน

จะเกี่ยวกับอะไรหรือไม่เกี่ยวกับอะไรๆนั้น ก็สู้ๆ หน่อยล่ะกัน
สู้ในที่นี้หมายถึงสู้กับตัวเอง สู้กับสิ่งเลวร้ายที่ห่อหุ้มให้เป็นอนุสัย
เรื่องบางเรื่องไม่เป็นเรื่อง สู้มาปฏิวัติทางจิต เพื่อประหานกิเลส ไม่ดีกว่าหรือ ใครจะมาจูงผิดได้

จขกท.ลองพิจารณา