สงสารดวงวิญญาณที่ถุกขังอยู่ในหม้อ หนูจะไปปลดปล่อยเค้าดีไม๊คะ

Re:ปล่อยผีจากหม้อ

คำพูดของพระองค์นี้มีอยู่ 2 นัยยะ เท่าที่สรุปได้คือ

1. ถ้าน้องจะช่วยใคร ถ้าใจยังเป็นทุกข์เพราะคิดจะช่วยผีในหม้อพ้นทุกข์หรือใครที่ตกทุกข์ได้ยากไม่ว่าจะผีหรือคน ถ้าน้องคิดจะช่วยน้องจะเป็นทุกข์ไม่แพ้คนที่กำลังทุกข์ทรมาน ซึ่งก้ทุกข์ไม่ต่างอะไรกีผีตนนั้น (คือหากช่วยไม่ได้ จงเก็บความรู้สึกจะช่วยไว้ก่อน เมื่อเวลาพร้อม บุญพร้อม และจิตใจพร้อมค่อยคิดหาวิธีช่วยคือคิดตามหลักของผู้มีปัญญาและเมตตาอย่างแท้จริง(พ่วงอุเบกขาเข้าไปด้วย

2. ข้อนี้สำคัญในโลกธาตุนี้ สิ้งที่ยิ่งใหย่ที่สุดคืออำนาจกฏแห่งกรรม ทำให้มนุษย์เวียนว่ายตายใน32 ภพภูมิ และต้องชดใช้กรรมเวร ด้วยการไปทนทุกข์ทรมานในภพต่างๆ ผีในหม้อนี้ก้เช่นกัน อาจจะเวรกรรมของเขาที่ต้องมาถุกสะกดวิญญาณในหม้อนี้ เราก้ไม่รู้ได้ว่าสมัยมีชีวิตอย่เขาทำอะไรมาบ้าง ทำให้ต้องมาเปนผี แล้วแถมถุกขังในหม้อมานานแสนนาน หากเขาเวรกรรมหนักจริงจะช่วยคงลำบาก ช่วยยาก พี่ๆในนี้เขาถึงบอกว่าอย่าไปเปิดเลยดีที่สุด แต่หากน้องเคยร้จัก หรอืผูกพันกับเขาในอดีตแล้วอยากจะช่วย น้องก้ต้องทำบุญที่มีกุศลแรงเช่นกัน จิตต้องสะอาดผ่องใส กุศลแรงที่ว่า ทาน ศีล ภาวนาต้องครบ3อย่าง หรือไม่ก้ศีล สมาธิ ปัญญาต้องเสมอกัน แต่ถ้าว่ายังยากไป
ก้ขอให้เวลาไปทำบุญที่ไหนก้แล้วแต่ จงมี 3 อย่างนี้ คือ
1. เจตนาบริสุทธิ์ ทำบุญโดยไม่หวังผลตอบแทน ตั้งใจทำ มีศรัทธาที่จะทำบุญไม่ใช่ ทำแบบลมๆแล้ง หรือทำบุญเอาหน้า คือทำเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้ให้และผู้รับ เพื่อชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ เกิดความสุขจากการเปนผู้ให้
2. วัตถุสิ่งของ หรือ อาหารที่นำไปถวาย ต้องอย่สภาพน่าใช้ ถ้าเปนอาหารก้สะอาดน่ารับประทานเปนประโยชน์แก่ร่างกาย ของใช้ ก้เลือกของดี นำไปถวาย เพื่อจะได้ใช้แล้วเกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งไม่จำเป็นอาหารหรือสิ่งที่ไปทำบุญต้องแพงเสมอไป เลือกประมาณตามที่เราใช้เปนหลัก และทำประโยชน์ไม่ต้องแพงมากจน ตัวเองไม่มีเงินใช้หรือทำให้ที่บ้านเดือดร้อน เอาประหยัดๆพอ

3.บุคคลที่เราไปทำบุญด้วยต้อเป็นผู้ที่เราเลื่อมใสศรัทธา และเป็นผู้ที่มีศีลบริสุทธิ์ ซึ่งสามารถไปทำบุญกับท่านได้ไม่ไกลจนเกินไป เช่น พี่ศรัทธาหลวงพ่อจรัญ หลวงพ่อวิริยังค์ หลวงพ่อสิงโต หรือหลวงพ่อถาวรวัดปทุมวนาราม หลวงพ่อวัดเสาชิงช้า ฯลฯ พี่ก้ไปทำบุญกับหลวงพ่อที่ว่ามานี้ ให้ท่านให้ศีลให้พรเรา เมื่อทำเสร็จก้อุทิศให้พ่อแม่ เจ้ากรรมนายเวรเรา และให้ผีตนนี้ จะช่วยได้เยอะทีเดียว ในกทม. ก้มีหลวงพ่อหรือพระอาจารย์ที่เก่งๆหลายท่าน จะเป็นใครก้ทำบุญได้ทั้งนั้น ถ้าไม่สะดวกเลย ไม่ว่าง ก้เชิญทำบุญกับพระที่อย่แถวใกล้บ้านน้องจะดีกว่า แต่ถ้าขยันก้ทำอย่างที่พี่ว่าไว้

จะช่วยใครก้ต้องมี เจตนาผู้ให้ ของที่ถวาย และผู้รับ ซึ่งสามอย่างต้องบริสุทธิบุุญกุศลนั้นถึงจะแรงจริงๆ (แต่ถ้าน้องถือศีล5 อย่แล้ว + เปนคนมีจิตเมตตาไม่ผูกโกรธใครง่าย) กำลังบุญกุศลจะสูงขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว เพราะจิตใจ เจตนา และศีลของผู้ให้บริสุทธิมากนั่นเอง

การทำบุญที่หลายๆคนพูด(หากครบทั้ง3)ถึงจะมีผลานิสงส์อันยิ่งใหญ่ แผ่ไปได้ไกลๆ แม่แต่บรรพบุรุษ หรือญาติที่ห่างหายไปนานไม่เคยเจอกัน แต่นึกขึ้นมาอาจจะเสียไปแล้ว หรือยังอยู่ในโลกนี้ เขายังได้รับเลย ยิ่งถ้าเขาลำบาก แล้วนึกถึงปั๊บมันจะทำให้ช่วยเขาให้พ้นจากความทุกข์ทรมานได้บ้างไม่มากก้น้อย ถึงจะช่วยไม่ได้จิตเราตอนนั้นก้มีความสุขแล้ว
(นั่นหมายถึงว่าหากผีตัวนี้หมดกรรมเวรจากตรงนี้ อาจไปเกิดในภพที่ดีขึ้นได้ทันที ก้จะตรงกับคำพูดข้างบนหากอำนาจบุญแรงบุญถึง พระอินทร์หรือเทพอะไรก้ห้ามไม่อยู่):boo:
จีงจะเรียกได้ว่า ช่วยแบบผู้มีปัญญา จะช่วยใครต้องช่วยตัวเราเองให้ได้ก่อน จึงไปช่วยคนอื่นที่ทุกข์กว่าได่ ถ้ายังช่วยไม่ได้ ก้อย่าเพิ่งไปช่วยเรย และเราก้จะไม่ทุกข์ใจด้วย

ปล..นองควรจะมีหนังสือของใครก้ได้ มาเปนคู่มือข้างโต๊ะของน้องเอาไว้อาจเพื่อจรรโลงใจ และเหนทิศทางการทำบุญ หลักกฏแห่งกรรม และธรรมะประจำใจ เราจะได้รู้ในสิ่งที่ยังไม่รู้ให้มากกกว่าเดิม และเปนการฝึกสมาธิไปในตัวเพราะอ่านด้วยความสนใจ ทำให้เกิดสมาธิแบบสั้นๆได้ เช่นพี่ชอบหนังสือ
ไอสไตนพบ พระพุทธเจ้า เห็น ของนายแพทย์ สม สุจีรา พี่ก้หยิบมาอ่านเพื่อเพิ่มโลกทัศน์ในมุมมองของอัจฉริยะอย่างไอสไตน กับปัญญาญานของพระพุทธองค์ จะทำให้เกิดแง่คิดที่ตามมาอีกมายมาย และรู้อะไรต่างๆอีกเยอะ
ภาษาที่ใช้ก้เข้าง่าย เปนภาษาชาวบ้านๆ ทำให้เรารุ้ว่าโลกของเรามีอะไรทีเหนอีกเยอะ ไม่ใช่มีแค่ 3 มิต แต่มีอย่หลากหลายมิติ ที่วิทยาศาสตร์ยังไปไม่ถึง

 

ประเด็นที่ว่าเปิดหรือไม่เปิดดีจบไปแล้วใช่ไหม

 

ไม่จำเป็นก็อย่าไปแกะนะ.. มันห่อยาก..