ตะลึง! ธารน้ำแข็งขนาดยักษ์กำลังแตกจากขั้วโลกใต้

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย nickio, 2 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. nickio

    nickio สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +6
    นักวิทยาศาสตร์จับตามอง รอยแยกธารน้ำแข็งขนาดใหญ่กำลังปริแตกจากขั้วโลกใต้ขึ้นเรื่อย ๆ คาดเป็นปรากฏการณ์ธารน้ำแข็งแตกออกครั้งใหญ่สุดครั้งหนึ่งของโลก

    วันนี้ (2 กุมภาพันธ์) เว็บไซต์ข่าวของประเทศนิวซีแลนด์ รายงานว่า ภาพถ่ายจากดาวเทียมขององค์การนาซ่าล่าสุด ได้แสดงให้เห็นปรากฏการณ์อันน่าตกใจ เนื่องจากธารน้ำแข็งไพน์ไอซ์แลนด์ ในทวีปแอนตาร์คติกา ซึ่งเป็นธารน้ำแข็งขนาดใหญ่เท่ากับนิวยอร์ค กำลังจะแตกออกจากขั้วโลกใต้

    รายงานระบุว่า ภาพถ่ายดาวเทียมดังกล่าวนี้ ถ่ายไว้โดยยานอวกาศเทอร์รา ขององค์การบริหารการบินและอวกาศของสหรัฐ หรือ นาซ่า เมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2554 ปรากฏให้เห็นภาพของธารน้ำแข็งซึ่งมีรอยแตกยาวถึง 30 กิโลเมตร และมีแนวโน้มว่ารอยแยกนี้จะขยายมากขึ้นเรื่อย ๆ อีกด้วย โดยนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์กันว่า จะเป็นปรากฏการณ์การแตกออกของธารน้ำแข็งครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง และจะเกิดการเคลื่อนตัวออกมาอีกด้วย

    ทั้งนี้ บริเวณธารน้ำแข็งไพน์ไอซ์แลนด์ กำลังถูกจับตามองจากนักวิทยาศาสตร์มากที่สุด เนื่องจากเป็นเกาะน้ำแข็งที่มีขนาดใหญ่ และไม่เสถียร เกิดการเปลี่ยนแปลงบ่อยครั้งตามระดับน้ำทะเลที่ไม่คงที่ตามการเปลี่ยนแปลงของโลก

    ข่าวตั้งแต่ มีนา 54 ก็จริง แต่มันแตกร้าวยาวเรื่อยมาจนได้ 31 กิโลเมตร และมันแตกต่อเนื่องไหมตอนนี้ หรือมันหยุดแตกร้าวแล้ว
    ภาพใหญ่ http://www.nasa.gov/images/content/600808main_pig-break2-orig_full.jpg
    ข้อมูลอ้างอิง

     
  2. เสาวเรศ

    เสาวเรศ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +0
    ถ้าแตกเยอะกว่านี้คงเป็นเรื่อยแน่ๆค่ะ
     
  3. nickio

    nickio สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +6
    การหลุดแตกออกมาหมด น้ำหนักของน้ำแข็ง อาจทำให้โลกพลิก หงาย คว่ำ หรือไม่
     
  4. บุญน้อมนำ

    บุญน้อมนำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    105
    ค่าพลัง:
    +101
    น่ากลัวจังค่ะ..เราไม่สามารถรู้อนาคตได้เลยว่าจะเกิดอะไรร้ายแรงแค่ไหนหรือไม่..
     
  5. สติในธรรมะ

    สติในธรรมะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +35
    โลกกำลังเปลี่ยนไป อนาคตอันใกล้กำลังมา
     
  6. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    [​IMG]

    “อาจอง” ชี้ น้ำจะมากขึ้นทุกปี แนะ ย้ายเมืองหลวงไปภาคอีสาน



    <HR style="WIDTH: 100%">
    วันเสาร์ ที่ 04 ก.พ. 2555


    องค์การสหประชาชาติ ถ.ราชดำเนิน 4 ก.พ.- “อาจอง” อดีตนักวิทยาศาสตร์นาซา ระบุแนวโน้มน้ำมากขึ้นทุกปี รวมทั้งปีนี้ ชี้ปี ค.ศ.2012 ยังไม่สิ้นโลก แต่ครบรอบ 11 ปี ที่ดวงอาทิตย์จะมีปฏิกิริยากับโลก เผย กทม.จะรับระดับน้ำที่มากขึ้นๆ ทุกปีได้อีกเพียง 7-8 ปี จึงควรย้ายเมืองหลวงไปพื้นที่ภาคอีสาน 16 จังหวัดเหมาะสม

    นายอาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา อดีตนักวิทยาศาสตร์องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือองค์การนาซา กล่าวในงานสมัชชาแห่งชาติ เรื่อง ภัยพิบัติกับอนาคตประเทศไทย ว่า จากการทำนาย ปี ค.ศ.2012 จะถึงวันสิ้นโลกตามปฏิทินชาวมายา ตามหลักวิทยาศาสตร์ โลกเรามีอายุมาครึ่งหนึ่งหรือ 4,500 ล้านปี ยังเหลืออีกครึ่งหนึ่งหรือ 4,500 ล้านปีโลกถึงจะดับ จึงน่าจะเป็นที่ดวงอาทิตย์จะมีปฏิกิริยากับโลกมากกว่า เพราะดวงอาทิตย์มีส่วนประกอบของก๊าซไฮโดรเยน และฮีเลียม ที่สะสมมากขึ้นจนกลายเป็นความร้อนจัดในปัจจุบัน ซึ่งส่งผลกระทบกับโลกเราในทุก 11 ปี และปี ค.ศ.2012 เป็นการครบรอบ 11 ปี ซึ่งเมื่อ 11 ปีที่แล้ว เกิดไฟดับในเมืองใหญ่ทั่วโลก ซึ่งรอบนี้ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้

    สำหรับปรากฏการณ์พายุสุริยะ หรือออโรล่า ที่มีสีสันสวยงามในซีกโลกเหนือ ก็เป็นหนึ่งในผลกระทบจากดวงอาทิตย์กับโลก ปฏิกิริยาที่จะเกิดกับมนุษย์ คือระบบการสื่อสารในชั้นบรรยากาศอาจล่ม เช่น วิทยุการบิน และจะรุนแรงมากขึ้นในช่วงเดือนธันวาคมนี้ ต่อถึงต้นปี ค.ศ.2013 และจึงค่อยลดลง ขณะเดียวกันกับนักวิทยาศาสตร์นาซา คาดการณ์ว่าจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในช่วงสิ้นปีนี้ ซึ่งในประเทศไทย แนวรอยเลื่อนแผ่นดินไหวของไทย จะอยู่ที่ทิศเหนือ ทิศตะวันออก ใต้ และฝั่งอันดามัน ซึ่งโอกาสเกิดสึนามิอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงนี้เช่นกัน โดยเฉพาะแนวเดิมที่เคยเกิดสึนามิ

    นายอาจอง กล่าวถึงสถานการณ์น้ำในปีนี้ว่า ของไทยก็เช่นเดียวกับของโลก คือความชื้นของโลกจะเพิ่มขึ้นทุกปี น้ำก็จะมากขึ้นทุกปีเช่นกัน ข้อมูลสถิติเมื่อปี พ.ศ.2553 ปริมาณน้ำฝนและน้ำเขื่อน เกินมาตรฐานเป็น 126 เปอร์เซ็นต์ ปี พ.ศ. 2554 เพิ่มเป็น 137 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น แนวโน้มปี พ.ศ.2555 ก็จะเพิ่มขึ้นอีก ผู้บริหารประเทศจึงต้องเรียนรู้การบริหารน้ำให้ปริมาณน้ำที่เกินไหลลงสู่ทะเลโดยเร็วที่สุด ถ้าจำเป็นต้องเวียนคืนเพื่อใช้พื้นที่แก้ไขก็ต้องทำเพื่อส่วนรวม ขณะที่ภาวะแล้งจะเกิดขึ้นด้วย จึงต้องมีพื้นที่กักเก็บน้ำเช่นกัน ซึ่งมนุษย์พัฒนาไปมากเกิน ใช้พลังงานมาก ส่งผลร้ายต่อทรัพยากรธรรมชาติ ถ้าลดการใช้พลังงานลงให้พอเพียงจะกระทบน้อยลง เมื่อน้ำมากขึ้น กทม.ซึ่งเป็นที่ต่ำลงทุกปี ผู้บริหารประเทศควรมองการณ์ไกลถึงการย้ายเมืองหลวงไปอยู่ในพื้นที่สูง ซึ่งคิดว่า 16 จังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) เป็นพื้นที่ราบสูง มีความเหมาะสม ซึ่งการย้ายเมืองหลวงเป็นเรื่องใหญ่ ต้องใช้เวลาถึง 20 ปี และควรสร้างเป็นเมืองใหม่ ไม่ใช้เมืองเก่ามาปรับสร้าง ส่วนกรุงเทพฯ มีแนวโน้มจะต้านทานระดับน้ำที่มากขึ้นๆทุกปี ได้อีกเพียง 7-8 ปี.-สำนักข่าวไทย


    www.mcot.net/cfcustom/cache_page/326845.html<!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->
     
  7. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    [​IMG]

    กรั่บๆ เรื่องนี้ต้องชี้กันชัดๆ จัดกันเต็มๆ จับตาดูกันต่อไปกรั้บ


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

แชร์หน้านี้

Loading...