เจาะข่าวเด่น 25 มกราคม 2555 - หลวงพ่อเกษม พระอยากดัง หรืออยากดับ

หูบอด ตาบอด นี้ยังฉลาดได้ แต่ใจบอดนี้ยังไงก็ โง โง และ โง วันยังค่ำเช้า

สาธุด้วยครับหลวงพ่อ....................อยากบอกหลวงพ่อว่ามนุษย์มันโง่ครับ

 

แต่นะผมว่า สมัยนี้มันจำเป็น ค่านำ้ ค่าไฟ ค่ายา อีกมากมาย แต่รับแล้วเข้ากอลกลาง อต้องการอะไร ก็ไปเบิกเอาที่กองกลาง หรือ เปิดบัญชีให้คนสองคนเบิกเงินออกมาได้ เป็นพระ ห้ามสะสม ทุกอย่างทุกอย่างต้องเป็น ส่วนรวม สึกออกมาห้ามนำเงินออกมา ต้องให้วัดให้หมด ไม่ว่ากรณีใด ๆ สมาคมกล้าประกาศไหมละ

 

------------

เร็วๆ นี้ เกิดเรื่องกับศาสนาอิสลาม คือ มีโรงเรียนนึงเค้าห้ามผู้หญิงคลุมฮิญาบ
จึงเกิดเรื่อง คนที่มีความศรัทธาเค้าก็ไม่ยอม บ้างก็ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ควรห้าม
เพราะฯลฯ (เหตุผลของเค้า ก็ดูพอรับฟังได้)

เรื่องนี้เช่นกัน ชาวพุทธ ก็ย่อมมีศรัทธามากน้อย ไม่เท่ากัน
จึงเป็นอย่างที่เห็น คือ เฉยๆ ไม่น่าจะผิดอะไร ไม่เสียหายอะไร
บ้างก็ว่าตามกระแสกันไป จนถึงผู้มีศรัทธามาก เค้าจึงไม่ยอมให้มีเรื่องเสื่อมเสียนี้เกิดขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างแก่พระรุ่นต่อๆ ไป

 

ก็เข้าใจไม่งั้น คงไม่มีบัว 4 เหล่าหลอกประเด็น จะดูแลยังไงไม่ให้พระสะสมเป็นของตน มากกว่า และผมเชื่อนะว่าพระถือเงินอันตราย มากหาก ไปยินดี เงินตรา

 

-------------

จะตอบซ้ำทำไมครับ

 

ไม่อ่านก็ซ้ำครับ

 

----------------

คุณลองตอบหน่อยสิว่า
พระที่แสดงกิริยาดูถูกโดยการถ่มน้ำลาย ด่าหยาบคาย โครตพ่อ โครตแม่
พวกเหี้ย เย็ดแม่ หีหมา ควยหมา อีกทั้งยังไม่สำรวมเตะเก้าอี้

พระที่ดีควรจะระงับสติอารมณ์ให้อยู่ ไม่ควรปล่อยไปตามอารมณ์

นี่หนะหรือ คุณบอกว่าพวกที่เห็นต่างพระแบบนี้เป็นคนโง่
เช่นนั้นคุณก็คงโง่ยิ่งกว่าซะอีก ที่เห็นพฤติกรรมเช่นนี้แล้ว เป็นสิ่งที่ดีในสายตาคุณ

 

พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๕ มัชฌิมนิกาย มัชฌิมปัณณาสก์หน้าที่ ๓๔๙/๕๑๘
เปรียบบุคคลด้วยดอกบัว ๓ เหล่า
[๕๑๑] ดูกรราชกุมาร ครั้นอาตมภาพทราบว่าท้าวสหัมบดีพรหมอาราธนา และอาศัย
ความกรุณาในสัตว์ทั้งหลาย จึงตรวจดูโลกด้วยพุทธจักษุ. เมื่ออาตมภาพตรวจดูโลกด้วยพุทธจักษุ
ก็ได้เห็นหมู่สัตว์ซึ่งมีกิเลสดุจธุลีในจักษุน้อยก็มี มีกิเลสดุจธุลีในจักษุมากก็มี มีอินทรีย์แก่กล้าก็มี
มีอินทรีย์อ่อนก็มี มีอาการดีก็มี มีอาการเลวก็มี จะพึงสอนให้รู้ได้ง่ายก็มี จะพึงสอนให้รู้ได้ยาก
ก็มี บางพวกมีปกติเห็นโทษในปรโลกโดยเป็นภัยอยู่ก็มี เปรียบเหมือนในกอบัวขาบ ในกอบัว
หลวง หรือในกอบัวขาว ดอกบัวขาบ ดอกบัวหลวง หรือดอกบัวขาว ซึ่งเกิดในน้ำ เจริญในน้ำ
บางเหล่ายังไม่พ้นน้ำ จมอยู่ในน้ำ น้ำหล่อเลี้ยงไว้ บางเหล่าตั้งอยู่เสมอน้ำ บางเหล่าตั้งขึ้น
พ้นน้ำ น้ำไม่ติด ฉันใด ดูกรราชกุมาร เมื่ออาตมภาพตรวจดูโลกด้วยพุทธจักษุ ก็ฉันนั้น
ได้เห็นหมู่สัตว์ซึ่งมีกิเลสดุจธุลีในจักษุน้อยก็มี มีกิเลสดุจธุลีในจักษุมากก็มี มีอินทรีย์แก่กล้าก็มี
มีอินทรีย์อ่อนก็มี มีอาการดีก็มี มีอาการเลวก็มี จะพึงสอนให้รู้ได้ง่ายก็มี จะพึงสอนให้รู้ได้ยาก
ก็มี บางพวกมีปกติเห็นโทษในปรโลกโดยเป็นภัยอยู่ก็มี. ดูกรราชกุมาร ครั้งนั้นอาตมภาพ
ได้กล่าวรับท้าวสหัมบดีพรหมด้วยคาถาว่า
ดูกรพรหม เราเปิดประตูอมตนิพพานแล้ว เพื่อสัตว์ทั้งหลาย
ผู้มีโสต จงปล่อยศรัทธามาเถิด เราสำคัญว่าจะลำบาก จึงไม่
กล่าวธรรมอันคล่องแคล่ว ประณีต ในมนุษย์ทั้งหลาย.
ลำดับนั้น ท้าวสหัมบดีพรหมทราบว่า พระผู้มีพระภาคทรงเปิดโอกาส เพื่อจะแสดง
ธรรมแล้ว จึงอภิวาทอาตมภาพ ทำประทักษิณแล้ว หายไปในที่นั้นเอง.

 

มีกฏหมายก็ยังหาช่องเลี่ยงกฏหมาย คนทำผิดมักจะเป็นคนแก้กฏหมาย ทุกอย่างจะจบถ้าทุกคนกลับมายึด "พระธรรม"

 

คุณอุรุเวลา

ถ้ามีลูกหลาน อยากรู้ว่าพระพุทธเจ้ามีลักษณะใด
ผมว่าคุณคงไม่อ้างถึงพระพุทธรูปเป็นแน่ เพราะคุณรังเกลียดแม้แต่จะเก็บไว้

คุณก็คงจะพรรณา ไปต่างๆ ตามที่คุณได้อ่านในพระไตรฯ
ซึ่งนั้นก็ไม่เท่ากับได้เห็นเป็นรูปธรรม

แต่นั่นก็ไม่สำคัญเท่ากับที่เราได้บูชา และระลึกคุณ แม้สิ่งที่เห็นจะเป็นเพียงดินที่สำเร็จเป็นรูปพระพุทธเจ้าแล้ว

 

บัว 4 เหล่า บัว 3 เหล่า ยังเอามาคุยเถียงกันได้เลย พูดไปก้ไม่จบหลอก ผมอยู่กับตัวเองไม่ได้อยู่ที่คนอื่น จะ 56789 เหล่า ก็เอาไป ผมไม่ยินดีจะกี่เหล่า

 

ท่าน sutanon ท่านต้องแยกคำว่า "พระพุทธรูป" กับคำว่า "รูปหล่อ รูปปั้น" อีกสองคำ

"ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้นเห็นคถาคต"

 

ศาสนา เค้า กับ ศาสนาพุทธ เทียบกันไม่ได้หรอก แค่ ขโมย ก็โดนตัดมือ ละ ถือหมูเข้ามาก็เป็นเรื่องคอขาดบาดตาย ละ ของเราไม่เหมือนกับของเขาหรอก ไทยรับวัฒนธรรมต่างชาติง่ายๆ ไม่มีปฎิเสธ

 

ท่านยมยักษ์ก็เชื่อของท่านไปแต่ผมเชื่อพระพุทธเจ้า ดีแล้วครับ

 

ไม่มีอะไร ก็เกษม อีกแล้ว เดี๋ยวนี้เกษมคงต้องใช้คำพุดของคุณตัวเหี้ย หรือท่านแม้วแล้วสิครับ ว่า อะไร อะไรก็กู

 

-------------------------

แสดงว่าคุณไม่เข้าใจความหมายของการมีรูปลักษณ์ใดๆ
เช่นอนุสาวรีย์ มีไว้เพื่ออะไร สถูป เจดีย์ มีไว้เพื่ออะไร
รูปบรรพชน มีไว้เพื่ออะไร

สสารเหล่านั้นทำขึ้นเพื่อแทนตัวบุคคล อาจจะใช้สสารเหมือนกันสร้างหรือต่างกัน นั่นไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญคือเราทำขึ้นเพื่อระลึกถึงและบูชาผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว

 

----------------

ต้องขอโทษที่ทำให้คุณเข้าใจและแปลเจตนาผมผิดไป

ผมแค่จะบอกว่า แต่ละศาสนา ย่อมมีผู้ที่ศรัทธามากน้อยต่างกัน

จึงเป็นไปอย่างที่คุณเห็นและกล่าวมานั่นแหละครับ

 

เอาเถอะท่านเชื่อของท่านเถิด กราบไหว้ สถูป เจดีย์ พระพุทธรูป รูปหล่อ รูปปั้น ท่านไปทำเถิดมันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน แต่มันไม่ได้ทำให้ท่านพ้นทุกข์ได้ ถึงท่านจะเดินจับจีวรพระพุทธเจ้า เดินตามหลังพระพุทธเจ้า ท่านก็ยังอยู่ไกลพระพุทธเจ้านัก

 

อีกข้อนะท่าน sutanon เห็นท่านห่วงลูกหลาน กลัวลูกหลานไม่เห็นพระพุทธเจ้า แต่ผมเป็นห่วงท่าน sutanon นะ ท่านต้องห่วงตัวท่านเองก่อน เอาตัวท่านเองให้รอดก่อน ท่านกราบไหว้รูปหล่อรูปปั้นแล้วหลงว่ากราบไหว้พระพุทธรูป วิญญาญขันธ์ท่านยังไม่รู้จัก แสดงว่าท่านไม่เคยดูจิดท่านเลย กลับมาสนใจจิดท่านบ้าง อย่าปล่อยให้จิดหลงไปตามความคิด หลงอยู่กับรูป เวทนา สัญญา สังขาร อย่าลืมนะมนุษย์มีกรรมเป็นของตนเอง กรรมใครกรรมมัน เมื่อถึงเวลาใครก็ช่วยอะไรท่านไม่ได้

 

มั่ว ไปอ่านที่หลวงพ่อเกษมสอนก่อนจะรู้ว่านิพพานเป็นยังไง