หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

โพสมาให้ท่านสมบัติพิจารณาเลือกครับ.....

ที่แม่สอดพระอาทิตย์สวยมากครับ นี่ขนาดเพิ่งขุดหลุมลงฐานรากนะเนี่ย.....หากถึงวันทำบุญขึ้นบ้านใหม่จักขนาดไหนหนอ.....

 

ขอบคุณท่านทั้งสองครับ.....ได้รับความเมตตามาจากวัดน้อยแถวๆโคราชนี่เอง...หนักจริงครับเคยสะพายไหล่ปีนขึันเขาภูดานไหมาแล้วเข้าใจมากเลยล่ะครับ...ความหนักเบา การปล่อยวางและว่างจากสิ่งร้อยรัดทั้งปวง...(ตอนนี้ก็วางไว้ในที่ที่ปลอดภัยแล้วครับ)

 

ขอบคุณครับท่านอ๊อด.....ผู้ที่รับรู้และสามารถสัมผัสได้ด้วยตนเองจักเข้าใจเองเป็นปัจจัตตังครับ ผู้ไม่รู้ไม่เข้าใจก็มองข้ามและบิดเบือนความจริงความปราถนาดีของคณะผู้เสก ผู้สร้างและคณะผู้อธิฐานจิต.....

พลังท่านมาแรงและเร็วมากๆครับ หากใช้ร่วมกับการสวดมนต์ภาวนาปฎิบัติสมาธิจักดิ่งเร็วทำให้จิตรวมสงบเร็วครับ.....ท่านอ๊อดลองดูครับผมมักใช้ภาวนาบ่อยๆ (เป็นชุดเพื่อหลุดพ้นจริงๆหากต้องการ.....ทางโลกุตตระ)

อัญเชิญขึ้นกุฎิทอง หมายถึง ห่มจีวรทองหรือปล่าวครับ.....อันตรายไปและเกินฐานะครับผม หึหึ.....(ทองแพงมากๆ)

ปล.สำหรับชุดเบญจฯเป็นชุดร่วมสร้างวัดและสร้างมหาเจดีย์ในอนาคตครับ.....หน้าที่353 นี่มึนทั้งหน้าและทุกองค์เลยครับหากจ้องนานๆ.....

 

เป็นไปตามนั้น... ขอโมทนาสาธุกับชุดสร้างวัดฯด้วยเน้อ...
ดูๆไปก็สีทองอร่ามทั้งนั้น...ชุดเบญจทองท่าทางจะหนักและหน่วงเนอะ! หึหึ

 

สวัสดีค่ะทุกๆท่าน
"พระผู้พ้นแล้ว ยิ่งสูง ยิ่งโน้มลงมาสู่ดิน เพื่อให้สรรพสัตว์ได้ดื่มกินรสธรรมอันหอมหวาน ทั้งกลิ่น ทั้งรส ทั้งรูป ทั้งเสียง ล้วนเป็นไปเพื่อพระนิพพาน ข้าน้อยขอสืบสันดาน เพื่อพระนิพพานตามรอยเบื้องบาทองค์ เอย"
สาธุ สาธุ สาธุ
ทุกสิ่งสำเร็จได้ด้วยใจ

 

ในความเห็นผมใช้แทนกันได้อย่างภาคภูมิใจเลยหล่ะครับ.....ผมก็มีพิมพ์นี้เช่นกัน.....ลองดูนะครับท่าน ได้ประสบการณ์อะไรดีๆเล่าสู่กันฟังด้วยนะครับ

 

เบญจทอง.....ค่อนข้างพิเศษจริงๆท่านใดมีและเคยอารธนาจักทราบเองครับ ท่านดร.นนต์เคยนำข้อมูลรายละเอียดของพระชุดนี้ของท่านผู้อาวุโสท่านหนึ่งมาโพสให้ชมอยู่ช่วงหนึ่งไม่นานมานี้.....ส่วนชุดนี้หนักหน่วงอย่างไรท่านสมบัติก็ทราบด้วยผลออร่าแล้วนิครับ.....หึหึ(คอยรอ และรอคอยเวลานั้นมาถึงต้องร่วมแรงร่วมใจกันสุดๆหลายๆฝ่าย.....ก็เตรียมๆความพร้อมไว้ครับ)

 

ยินดีต้อนรับครับ.....ภาพสวยงามมากแฝงไว้ด้วยความนัยบางอย่าง...น่าใช้เป็นภาพแทนตัวครับ

 

ผมชอบข้อความนี้ของดร.นนต์ครับ คือ ผู้สร้างขึ้นมาด้วยมีเจตนาเพื่อสืบต่อพระพุทธศาสนา จริงอยู่วัตถุนั้นมีคุณต่อพระพุทธศาสนา แต่วัตถุเรานั้นก็มีความเป็นกลางๆอยู่อย่างนั้น เมื่อถูกสร้างขึ้นมาแล้วจะฝังอยู่ใต้ดิน อยู่บนดิน หรืออยู่กับผู้ใดก็ตาม สิ่งเหล่านั้นก็มีความเป็นกลางๆอยู่อย่างนั้น มิใช่สมบัติของผู้ใดทั้งสิ้น แม้จะถูกสร้างขึ้นมาเพื่อพระพุทธศาสนา แต่ในที่สุดสิ่งเหล่านั้นก็กลายเป็นสิ่งของของโลกทั้งสิ้น เมื่อถึงกาลเวลาหนึ่งวัตถุเหล่านั้นก็จะกลายสภาพเป็นธาตุทั้งสี่ คืนสู่ความเป็นสามัญของโลกตามเดิม ไม่มีสิ่งใดยั่งยืน และมิมีสิ่งใดเป็นของผู้ใดเลย
ดังนั้น ในการพิจารณาของผู้มีสติปัญญาน้อยอย่างผมนั้น ผู้ที่นำวัตถุที่มีคุณต่อพระพุทธศาสนาโดยคิดว่าเป็นของตนมาตลอด มาแลกเปลี่ยนเป็นเงินทองเพื่อบำรุงกิเลสของตน แบ่งทำบุญบ้างแต่ก็เป็นเปอร์เซ็นต์น้อยกว่าที่ตนเองได้รับทั้งหมด โดยลืมไปว่าท่านผู้สร้าง ผู้เสก มีจิตเจตนาเช่นไร ผู้ขายอาจจะคิดว่านี่คือวาสนาของเรา สมบัติผลัดกันชม หรือสารพัดคำพูดที่จะคิดขึ้นเพื่อ "เข้าข้างตนเอง" ในการที่จะขายวัตถุมงคลนั้นเป็นเงินทองกลับมา จะมีสักกี่คนที่จะนำวัตถุมงคลนั้นมาต่ออายุพระพุทธศาสนาโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนเลย... มีบ้างมั้ย...มีบ้างมั้ย....

 

(ที่มา...ขอบคุณจ๊าดนัก)


ครุฑ เมื่อแรกเกิด ร่างกายขยายตัวออกใหญ่โตจนจดฟ้า ดวงตราเมื่อกระพริบเหมือนฟ้าแลบ เวลาขยับปีกใด บรรดาขุนเขาก็ตกใจต้องปลาดหนีไปพร้อมกับพระพาย รัศมีพวยพุ่งออกมาจากกายสว่างไสวเป็นที่อัศจรรย์ มีลักษณะดั่งไฟไหม้ทั่วทั้งสี่ทิศ กระทําให้ทวยเทพต้องตกใจ สําคัญว่าเป็นพระอัคนี ต่างพากันมาบูชาครุฑ เพื่อขอความคุ้มครองจากครุฑ
ครุฑ เป็นสัตว์กึ่งเทพกายสิทธิ์ขนาดใหญ่ ได้รับพรให้เป็นอมตะ มีวิชาผาดโผนพิสดาร มีอานุภาพและพละกําลังมหาศาล แข็งแรง สามารถบินได้รวดเร็วประดุจสายฟ้าฟาด ทั้งยังมีสติปัญญาอันเฉียบแหลม เฉลียวฉลาด อ่อนน้อมถ่อมตน และมีสัมมาคารวะ น่าสรรเสริญ​

อีกตําราหนึ่งว่าครุฑนั้นมีรูปร่างและลักษณะดังนี้ เศียร จงอยปากและเล็บเป็นเหมือนดั่งพญานกอินทรี ท่อนกายตัวและแขนขาเป็นดั่งมนุษย์ หน้าเป็นสีขาว ปีกเป็นสีทอง กายเป็นสีทอง มีโอรสชื่อ สัมปาติ และ ชฎายุ มีชายาชื่อ อุนนติหรือวินายกา

อํานาจพญาครุฑ สิทธิอํานาจพญาครุฑสัตว์กายสิทธิ์ที่ไม่มีผู้ใดสามารถฆ่าให้ตายได้มีอายุยืนเสมือนว่าเป็นอมตะนั้น นับเป็นเรื่องลี้ลับที่ผู้รู้พยายามค้นคว้าและเสาะหาที่มาแห่งพลังอํานาจดังกล่าว จนเกิดการสร้างเครื่องรางต่างๆขึ้น อํานาจพญาครุฑสามารถจําแนกได้ 8 ประการ โดยนับเอาอํานาจหลักๆได้ดังนี้คือ
1.เป็นมหาอํานาจอันยิ่งใหญ่ เป็นสิทธิอํานาจอันเฉียบขาด
2.สามารถลบล้างอาถรรพ์และคุณไสยได้ทั้งปวง ภูติผีปีศาจกลัวไม่กล้าเข้าใกล้
3.เป็นสื่อนําความเจริญรุ่งเรือง ยศถาบรรดาศักดิ์มาสู่ชีวิตหน้าที่การงาน
4.ปกป้องคุ้มครอง ป้องกันภัยเป็นคงกระพัน
5.เป็นเมตตามหานิยม
6.นําความร่มเย็นเป็นสุขมาให้
7.ทํามาค้าขายดี เป็นสื่อนําโชคลาภนานาประการ
8.สัตว์ร้าย เขี้ยวงาสารพัด งูเงี้ยวเขี้ยวขอ อสรพิษ ไม่กล้ากลํากายเข้าใกล้ เพราะเกรงตบะบารมีขององค์พญาครุฑเป็นที่สุด​

*****************************
​

• พญานาค เป็นสัตว์มหัศจรรย์ ที่มีคุณสมบัติพิเศษ คือ สามารถแปลงกายได้ พญานาค มีอิทธิฤทธิ์ และมีชีวิตใกล้กับคน พญานาค สามารถแปลงเป็นคนได้ เช่นคราวที่แปลงเป็นคนมาขอบวชกับพระพุทธเจ้า ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง กล่าวถึงนาคที่ชื่อ ถลชะ ที่แปลว่า เกิดบนบก จะเนรมิตกายได้เฉพาะบนบก และนาคชื่อ ชลซะ แปลว่า เกิดจากน้ำ จะเนรมิตกายได้เฉพาะในน้ำเท่านั้น
• พญานาค ถึงแม้จะเนรมิตกายเป็นอะไร แต่ในสภาวะ 5 อย่างนี้ จะต้องปรากฎเป็นงูใหญ่เช่นเดิม คือ ขณะเกิด ขณะลอกคราบ ขณะสมสู่กันระหว่างนาคกับนาค ขณะนอนหลับ โดยไม่มีสติ และที่สำคัญ ตอนตาย ก็กลับเป็นงูใหญ่เหมือนเดิม ​
• พญานาค มีพิษร้าย สามารถทำอันตรายผู้อื่นได้ด้วยพิษ ถึง 64 ชนิด ซึ่งตามตำนานกล่าวว่า สัตว์จำพวกงู แมงป่อง ตะขาบ คางคก มด ฯลฯ มีพิษได้ ซึ่งก็ด้วยเหตุที่ นาคคายพิษทิ้งไว้ แล้วพวกงูไปเลีย พวกที่มาถึงก่อนก็เอาไปมาก พวกมาทีหลัง เช่น แมงป่อง กับ มด ได้พิษน้อย แค่เอาหาง เอากันไปป้ายเศษพิษ จำพวกนี้จึงมีพิษน้อย และพญานาคต้องคายพิษทุก 15 วัน ​
• พญานาค อาศัยอยู่ใต้ดิน หรือบาดาล คนโบราณเชื่อว่าเมื่อบนสวรรค์มีเทพเทวาอาศัยอยู่ลึกลงไปใต้พื้นโลก ก็น่าจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง กล่าวว่า ที่ที่นาคอยู่นั้นลึกลงไปใต้ดิน 1 โยชน์ หรือ 16 กิโลเมตร มีปราสาทราชวังที่วิจิตรพิสดารไม่แพ้สวรรค์ ที่มีอยู่ถึง 7 ชั้น เรียงซ้อน ๆ กัน ชั้นสูง ๆ ก็จะมีความสุขเหมือนสวรรค์ ​
• พญานาค สามารถผสมพันธุ์กับสัตว์ชนิดอื่นได้ แปลงกายแล้วผสมพันธุ์กับมนุษย์ได้ เมื่อนาคตั้งท้องจะออกลูกเป็นไข่เหมือนงู มีทั้งพันธุ์เศียรเดียว 3, 5 และ 7 เศียร สามารถขึ้นลง ตั้งแต่ใต้บาดาลพื้นโลก จนถึงสวรรค์ ในทุกตำนานมักจะกล่าวถึงนาคที่ขั้น-ลง ระหว่างเมืองบาดาล กับเมืองสวรรค์ ที่จะแปลงกายเป็นอะไรตามที่คิด ตามสภาวะเหตุการณ์นั้น ๆ ​
• จะเห็นว่า พญานาค หรือ งูใหญ่ นั้นมีความเป็นมาและถิ่นที่อยู่เป็นสัดส่วนในภพหนึ่งต่างหาก จะมีเป็นบางครั้งที่มนุษย์สามารถมองเห็นได้ พญานาค เป็นทั้งเอกลักษณ์ของความดี และความไม่ดี ​

ตํานาน ประวัติ องค์ท้าวพญามุจลินท์นาคราช​

ครั้นล่วง ๗ วันแล้ว เสด็จไปประทับนั่งขัดสมาธิยังร่มไม้จิก อันมีนามว่า "มุจลินท์" อันตั้งอยู่ในทิศบูรพาหรือทิศอาคเนย์ แห่งไม้มหาโพธิ์ เสวยวิมุติสุขอยู่ ณ ที่นั้นอีก ๗ วัน

ในกาลนั้นฝนตกพรำตลอด ๗ วัน พญานาคมีนามว่า "มุจลินท์นาคราช" มีอานุภาพมาก อยู่ที่สระโบกขรณี ใกล้ต้นมุจลินท์พฤกษ์นั้น มีความเลื่อมใสในพระศิริวิลาศ พร้อมด้วยพระรัศมีโอภาสอันงามล่วงล้ำเทพยดาทั้งหลาย จึงเข้าไปใกล้แล้วขดเข้าซึ่งขนดกาย แวดวงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ ๗ รอบ และแผ่พังพานอันใหญ่ ป้องปกเบื้องบนพระเศียร มิให้ลมและฝนถูกต้องพระกายพระผู้มีพระภาคเจ้า ​

ครั้งล่วง ๗ วัน ฝนหายขาดแล้ว พญานาคก็คลายขนดจำแลงกายเป็นมานพ เข้าไปถวายอัญชลีเฉพาะพระพักตร์ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเปล่งอุทานวาจาว่า "ความสงัดเป็นสุข สำหรับบุคคลผู้มีธรรมอันเห็นแล้ว ยินดีอยู่ในที่สงัด รู้เห็นตามความเป็นจริง ความไม่เบียดเบียน คือความสำรวมในสัตว์ทั้งหลาย และความปราศจากความกำหนัด คือความล่วงกามทั้งหลายเสียได้ด้วยประการทั้งปวง เป็นสุขในโลก ความนำอัสมิมานะ คือความถือตัวออกให้หมดไปเป็นสุขอย่างยิ่ง"
ครั้นล่วง ๗ วันแล้ว เสด็จออกจากร่มไม้มุจลินท์ ไปยังร่มไม้เกตุ อันมีนามว่า "ราชายตนะ" อันอยู่ในทิศทักษิณ แห่งต้นมหาโพธิ์ เสวยวิมุติสุข ณ ที่นั้น สิ้น ๗ วัน เป็นอวสาน ในกาลนั้น ท้าวสักกะอมรินทราธิราช ทรงดำริว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามิได้เสวยพระกระยาหารนับแต่กาลตรัสรู้มาได้ ๔๙ วันแล้ว จึงได้เสด็จลงมาจากเทวโลก น้อมผลสมออันเป็นทิพยโอสถเข้าไปถวาย พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับผลสมอเสวย แล้วทรงสรีระกิจลงพระบังคม ทรงสำราญพระกายแล้ว เสด็จเข้าประทับยังร่มไม้ราชายตนะพฤกษ์นั้น.​

 

ช่วงนี้ upload ภาพยังไม่ได้...
ขออนุญาตนำภาพเก่าขององค์พ่อฯเรามาเล่าใหม่โตย

 

วันนี้เวลาประมาณ 17.00 น. ผมได้รับโทรศัพท์จากญาติธรรมจากทางจังหวัดมุกดาหารคือคุณธานินทร์ สิงห์ด้วง พร้อมด้วยครอบครัว ได้โอนปัจจัย จำนวน 2,000 บาท ร่วมสร้างศาลาปฏิบัติธรรมภูดานไห ก็ขอให้คุณธานินทร์ พร้อมครอบครัวจงมีความสุข ความเจริญ ทั้งทางโลกและทางธรรม อยู่ไม่ไกลกันนักหากมีเวลาก็อยากชวนมาร่วมฟังธรรม และปฏิบัติธรรมร่วมกันนะครับ วันที่ 2- 5 กุมภาพันธ์ 2555 ที่จะถึงนี้ก็จะมีการร่วมแสดงมุทิตาจิตกับพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช หากว่าก็ขอเชิญนะครับ....
ขอให้เจริญในธรรม.....

 

สวัสดีครับ
ขอบคุณครูชาติจริงๆครับที่ได้ส่งภาพมาให้ดู
ขอให้ครูชาติและครอบครัวจงมีแต่ความสุขความสำเร็จในหน้าที่การงานนะครับ
ขอให้ครูชาติประสบความสำเร็จสูงสุดทั้งทางโลกและทางธรรมครับ
มานพ

 

ขอบคุณเช่นกัน ก็ขอให้พรนั้นจงมีแด่น้องเก๋และครอบครัวด้วยเช่นกัน...
ขอให้เจริญในธรรม

 

ขออนุโมทนากับญาติธรรมจากทางจังหวัดมุกดาหารคือคุณธานินทร์ สิงห์ด้วง พร้อมด้วยครอบครัว ที่ได้โอนปัจจัย จำนวน 2,000 บาท ร่วมสร้างศาลาปฏิบัติธรรมภูดานไห

บุญกุศลใดที่ผมได้สร้างสมไว้ในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ ไม่ว่าจะเป็นความปรารถนาพระโพธิญาณหรือพระนิพพาน ขอจงน้อมนำไปสู่ท่านและครอบครัว จงประสบแต่ความสุขร่มเย็น สว่างไสวทั้งทางโลกและทางธรรมตลอกไปจนกว่าจะเข้าพระนิพพานทุกท่านเทอญ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
24 มกราคม 2555

 

ผมขอให้กำลังใจครูชาติ และพี่น้องชาวภูดานไหทุกคน ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างศาลาหอฉันด้วยความอุตสาหะ วาระบุญวันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ผมจะรวบรวมเงินทำบุญผ่านทางผมไปมอบถวายแด่พ่อแม่ครูอาจารย์เพื่อร่วมสร้างศาลาหอฉันในครั้งนี้ด้วย แล้วพบกันนะครับ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
24 มกราคม 2555

 

ผมสมทบด้วย แล้วจะแจ้งให้อาจารย์ทราบนะครับ

 

ขอบคุณครูชาติในการนำภาพมาให้ดูความคืบหน้า....

เห็นองค์พ่อแม่ครูอาจารย์อยู่ไหวๆ ขอนอบน้อมจิต...กราบ กราบ กราบ ครับ
(เมื่อคืนก็ฝันถึงองค์ท่านถึงสองกาลสมัยทีเดียว หึหึ)

ศาลาหอฉันท่านจะสังเกตุได้ว่า...
1. ทำไมต้องทำหลังคาเตี้ยๆ
2. ทำไมต้องก่ออิฐเพิ่ม
3. ทำไมต้องติดกระจก
4. ทำไมต้องเสาเหล็ก
ทำไม...ฯลฯ
เนื่องด้วยสภาพจริงบนเขา...ลมแรง ฝนสาดแรง ฝุ่น...ใบไม้...มด...ปลวก!
การลงทุนลงแรงครั้งนี้ คงต้องการให้รวดเดียวจบ จักได้ไม่ต้องเสียเวลา/ปัจจัยหลายรอบ
แว่วๆว่า ท่านจักทำเป็นพิพิธพันธ์น้อยในกาลอนาคตด้วย

ดังนั้น...การใช้จ่ายทุกบาท การลงแรงหรือสติปัญญา จึงนับว่าคุ้มค่ามากๆ

ข้าฯขอโมทนาสาธุทุกๆแรงในการทำการนี้ให้สำเร็จโดยเร็ว...ก่อน 2-5 ก.พ.55
วันแสดงมุทิตาสักการะแด่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช เด๊อ...

 

สาธุ.......!!! ขออนุโมทนา ด้วยขอรับท่าน อ.ดร นนต์


พุทโธ พุทโธ พุทโธ

 

ขออนุโมทนาบุญทุกประการ กับผู้ร่วมทำบุญ ในการขุดเจาะน้ำบาดาล สร้างที่เก็บกักน้ำ สร้างหอฉัน สร้างศาลาปฏิบัติธรรม ขอให้ทุกท่านเป็นผู้มีสัมมาทิฐิ ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ตามคำสั่งสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ จนบรรลุถึงผลแห่งการปฏิบัติจริง และเป็นผู้มีดวงตาเห็นธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ

เนื่องด้วยภูดานไห มีลักษณะเป็นเนินเขา พื้นเป็นหินดาน จึงยากแก่การก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ นอกเหนือจากปัจจัยที่พวกเราร่วมทำบุญแล้ว ยังต้องอาศัยทั้งแรงกายแรงใจ อันเข้มแข็ง ในการที่จะทำให้บรรลุวัตถุประสงค์ เหล่านี้จึงตกเป็นภาระแก่ญาติธรรมของพวกเราที่อยู่ใกล้ ที่จะต้องออกแรงเป็นพิเศษ หลายคนคงเคยเห็นภาพ ผู้เฒ่าผู้แก่ คนหนุ่มคนสาว ที่ช่วยกันลงแรง รื้อถอน-ก่อสร้าง แบกขนวัสดุ หรือสร้างทางเพื่อให้รถยนต์วิ่ง บรรทุกวัสดุก่อสร้าง เครื่องมือเครื่องใช้ ในการก่อสร้างสิ่งต่างๆ หยาดเหงื่อแรงกายของท่านเหล่านั้น พวกเราไม่อาจมองข้ามผ่านเลย น้ำใจเหล่านี้ไปได้ ภาพที่เห็นมันสร้างความรู้สึกร่วม ของผู้ที่มีพ่อแม่ครูอาจารย์องค์เดียวกัน รู้สึกปลื้มใจ ตื้นตันใจ เกรงใจ สุขใจ คละเคล้ากันไป แต่โดยรวมแล้ว รู้สึกดีครับ

ขออนุโมทนาบุญทุกประการ กับญาติธรรมที่ปิดทองหลังองค์พระทุกท่านครับ อาทิ แม่ชีคอย แม่ชม ตาสี ตาเสริฐ ยายไข แม่เชิญ อุทิศ ติ๋ม อูน และอีกหลายท่านที่ต้องขอโทษที่มิได้เอ่ยนาม ขอให้ท่านทั้งหลายจงเจริญ ด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ คิดปรารถนาสิ่งใด ขอจงได้สมความปรารถนา และขอให้เจริญรุ่งเรืองในทุกสิ่งทุกประการ จนกว่าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ในอนาคตกาลด้วยเทอญ