หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

ในห้อง 'หลวงปู่แหวน' ตั้งกระทู้โดย psombat, 18 มีนาคม 2010.

  1. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    อัญเชิญพระทันตธาตุมาประดิษฐาน ที่เชียงใหม่

    <DD>ชาวเชียงใหม่ ร่วมสักการะพระทันตธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศภูฎานเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา

    <DD>ประชาชนชาวจังหวัดเชียงใหม่จำนวนมาก ได้ร่วมกันอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระทันตธาตุของพระพุทธเจ้าจากราอาณาจักรภูฎานมาประดิษฐานที่วัดพระสิงหวรมหาวิหาร จังหวัดเชียงใหม่ ระหว่างวันที่ 8-19 มกราคมนี้โดยมีนายสุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ร่วมประกอบพิธีอัญเชิญ ทั้งนี้พระทันตธาตุ สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์นัมเกล วังชุก แห่งราชอาณาจักภูฏาน ทรงพระราชทานให้อัญเชิญพระทันตธาตุของพระกัสสปะพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าองค์ที่ 3 ที่ประดิษฐานไว้ในพระราชวัง มาประดิษฐาน ที่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา และเพื่อให้ประชาชนชาวไทยเเละชาวเชียงใหม่ได้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล </DD>
    <DD>ทั้งนี้ตลอดปี 2555 จะมีการอัญเชิญพระทันตธาตุไปยังภูมิภาคต่างๆทั้งภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อให้ประชาชนในส่วนภูมิภาคได้มีโอกาสสักการะด้วย จากนั้นจะอัญเชิญไปประดิษฐานจังหวัดสงขลา และจังหวัดขอนแก่นเป็นเวลา 12 วัน ก่อนที่จะมีการอัญเชิญพระทันตธาตุกลับประเทศภูฏานในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2555</DD>
    -------------------------​
    พิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระทันตธาตุ) จากราชอาณาจักรภูฎานมาประดิษฐานที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร
    [​IMG] <DD>ศรัทธาสาธุชนชาวเชียงใหม่ร่วมพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ(พระทันตธาตุ) จากราชอาณาจักรภูฎาน มาประดิษฐาน ณ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

    <DD>นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ (พระทันตธาตุ) ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากราชอาณาจักรภูฎาน มาประดิษฐานที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจะประดิษฐานระหว่างวันที่ 8-20 มกราคม 2555 เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้สักการบูชา เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 84 พรรษา 5 ธันวาคม 2554 ในโอกาสที่รัฐบาลไทยได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุเป็นการชั่วคราวในราชอาณาจักรไทย โดยได้ประดิษฐานที่มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ตั้งแต่วันที่ 2 ธันวาคม 2554 เป็นต้นมา <DD>โดยได้มีพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ(พระทันตธาตุที่ ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ หลังจากนั้นอัญเชิญ ขึ้นประดิษฐานยังบุษบก บนรถบุปผชาติ ไปตามถนนผ่านบริเวณคูเมืองไปยังลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ พร้อมวงโยธวาทิต ขบวนแห่ชุดไทยและริ้วขบวนธงต่าง ๆ สิ้นสุดที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เพื่อทำพิธีสมโภชและอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนบุษบก ภายในอุโบสถ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้สักการบูชา ขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุ(พระทันตธาตุ) เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต ณ วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ซึ่งจะประดิษฐานชั่วคราวไปจนถึงวันที่ 20 มกราคม 2555 นี้
    </DD>
     
  2. สมาชิกธรรม

    สมาชิกธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2011
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +1,308
    "เปิดกล่อง"

    วันนี้ขึ้น 15 ค่ำ เดือน2 ได้โอกาสเปิดกล่องเพื่ออัญเชิญสร้อยประคำเหล็กไหลไพลดำอาบแสงจันทร์(เชือกเดิมขาด)
    - ขนาด 3หุนครึ่ง
    - จำนวน 110 องค์
    - ค่อนข้างหนักๆ มึนๆ...หึหึ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2012
  3. สมาชิกธรรม

    สมาชิกธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 เมษายน 2011
    โพสต์:
    751
    ค่าพลัง:
    +1,308
    เมื่อวานเป็นวันขึ้น14 ค่ำเดือน2 ได้อัญเชิญสร้อยปรคำเหล็กไหลไพลดำ เพชรนาคา พระแก้วมณีโชติฯลฯ อาบแสงจันทร์ปรากฎว่ามีท่านทั้งหลายมาร่วมโมทนาด้วยพอสมควร.....หึหึ(สำหรับวันนี้ 15ค่ำยังไม่ได้ถ่ายภาพ)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2012
  4. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ลงรักดำ


    ข้อความเดิมของท่านอ๊อด (คงภัค ตรีสารศรี) ที่ส่งสารถึงผมดังนี้


    เรียน ดร.นนต์ครับ
    ผมได้รับพระสมเด็จฯ จากท่านภูเบศวร์แล้วครับ กราบขอบพระคุณครับ พระสมเด็จฯ องค์นั้นที่ผมประสงค์ร่วมสร้างพระเจดีย์ที่วัดภูดานไห โดยจะเปิดให้ผู้มีบุญบูชาไปหลักล้านโดยผมจะไม่แตะเงินเหล่านั้นสักสลึงเดียว โดยถวายพ่อแม่ครูอาจารย์หมด พระสมเด็จฯ องค์นั้นผมได้ขอความเมตตาคุณปู่ประถมได้ตรวจทั้งรูปและนามแล้ว ซึ่งคุณปู่บอกว่า "แท้และสมเด็จฯโต อธิษฐานจิตครับ" จึงเรียนมาเพื่อทราบครับ

    คงภัค ตรีสารศรี



    [​IMG]

    [​IMG]



    จากข้อความดังกล่าว ผมได้ซาบซึ้งในน้ำใจและขออนุโมทนาในจิตอันเป็นกุศลของท่านอ๊อดเป็นอย่างยิ่ง ความเสียสละและจิตกุศลอันบริสุทธิ์จะเป็นสิ่งบันดาลให้ท่านและครอบครัวประสพแต่ความสุขความเจริญ สว่างไสวทั้งทางโลกและทางธรรมจนกว่าจะเข้าพระนิพพานอย่างแน่นอน ผมจึงขออนุโมทนาสาธุอีกครั้ง หากใครสนใจพระองค์นี้ให้ติดต่อไปยังท่านอ๊อด(คงภัค) ที่ tkongpak@gmail.com หรือ 0805506351 ราคาเพื่อการกุศลก็ลองเจรจากันเอาเองนะครับ

    หมายเหตุ พระองค์นี้ได้รับการรับรองจากอาจารย์ปู่ประถม อาจสาคร ท่านเป็นนักภานาระดับอริยบุคคลขั้นสูง และยังเป็นผู้เชี่ยวชาญพระเครื่อง โดยเฉพาะพระสมเด็จวัดระฆังและพระวังหน้ามากที่สุดผู้หนึ่งของเมืองไทย จึงการันตรีได้มากกว่าเซียนคนไหนๆ ลองพิจารณาดูนะครับ


    พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่องค์นี้ ผมได้พิจารณาและเห็นองค์จริงแล้ว นับว่าเป็นพระที่สวยงามมากอีกองค์หนึ่ง เนื่องจากเป็นพระที่ลงรักสีดำ จึงทำให้เนื้อพระข้างในยังคงสภาพสมบูรณ์จึงดูเหมือนเป็นพระใหม่ (รักดำพึ่งหลุดลอกไม่นาน) แต่เนื้อหามวลสารเป็นปูนแกร่งขาวสะอาด เห็นเม็ดมวลสารชัดเจน เนื้อละเอียดหนึกนุ่ม ข้อสังเกตของพระสมเด็จที่ลงรักมีหลายสภาพอาทิเช่น หากเป็นรักสีดำ อาจไม่ปิดทองคำเปลวก็ได้ แต่รักสีแดง(ชาด)นิยมติดแผ่นทองคำเปลวมากที่สุด เมื่อนานเข้าแผ่นรักดำหรือรักแดง(ชาด) จะหลุดออกเป็นแผ่นได้ง่ายกว่ารักน้ำเกลี้ยง เพราะรักน้ำเกลี้ยง(สีน้ำตาลแดง)จะมีคุณสมบัติดูดติดกับเนื้อพระได้ดี บางครั้งไม่สามารถล้างออกได้ทั้งหมดเพราะมันติดแนบเนื้อนั่นเอง ส่วนประเภทของรักนั้นมีหลายชนิด ก็ลองไปศึกษาเพิ่มเติมจากบทความที่ผมได้เขียนเอาไว้แล้วในเว็บบล็อก "พระดีของคนบุญ" พระดีของคนบุญ: [002] Phra Somdej Wat Rakang in Academic Perspective

    ขอเจริญในธรรม
    ดร.นนต์
    9 มกราคม 2555
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2012
  5. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]
    [​IMG]
    ขณะนี้ผ้ายันต์ได้หมดลงแล้ว...ต้องขอขอบพระคุณแทนญาติธรรม ที่คุณแม่ชมและบุตรีได้เสียสละผ้ายันต์ชุดนี้ด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1260640.jpg
      P1260640.jpg
      ขนาดไฟล์:
      128.5 KB
      เปิดดู:
      68
    • P1260641.jpg
      P1260641.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93 KB
      เปิดดู:
      60
    • P1260644.jpg
      P1260644.jpg
      ขนาดไฟล์:
      89.8 KB
      เปิดดู:
      4,429
    • P1260646.jpg
      P1260646.jpg
      ขนาดไฟล์:
      146.7 KB
      เปิดดู:
      4,438
    • P1260642.jpg
      P1260642.jpg
      ขนาดไฟล์:
      93.5 KB
      เปิดดู:
      66
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2013
  6. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]
    ท่านผู้นี้มาเยี่ยมบ่อยจังครับ :)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2013
  7. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ลงรักปิดทองคำเปลว

    พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ลงรักแดงปิดทองคำเปลว เป็นพระที่นิยมสร้างในช่วงปลายของเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ตามคติความนิยมของช่างหลวงหรือสายวังทั้งวังหน้าและวังหลวง การลงรักปิดทองเป็นการรักษาเนื้อพระและเป็นภูมิปัญญาของชาวเอเชียมานานนับพันปีแล้ว ส่วนการสร้างพระสมเด็จวัดระฆังหรือพระตระกูลวัง จึงมักเป็นพระที่สร้างเพื่อบุคคลชั้นสูงและเพื่อการบรรจุกรุหลวง จึงพบเห็นการลงรักปิดทองจำนวนมาก ขอให้สังเกตความเก่าของรักและทองด้วยนะครับ ลองชมภาพพระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ลงรักแดงปิดทองคำเปลวอีกองค์ครับ

    หมายเหตุ พระของผมบางองค์จะนำมาประมูลเพื่อหารายได้สร้างวัดภูดานไหกับพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช หากใครสนใจก็ติดต่อมานะครับ

    ขอเจริญในธรรม
    ดร.นนต์
    9 มกราคม 2555


    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2012
  8. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    เรียนทุกท่าน
    ผมได้รวบรวมและสรุปวาระบุญและสภาวะธรรมวันข้ามปี 2554-2555 ณ ภูดานไห ไว้ในเว็บบล็อกของผม หากต้องการอ่านทบทวนก็ลองเข้าไปอ่านตามลิงค์นี้ครับ "พ.สุรเตโช พระผู้มาโปรดโลก" http://surateacho.blogspot.com/ ส่วนใครต้องการศึกษาพระเครื่องเพิ่มเติมลองเข้าไปในบล็อก "พระดีของคนบุญ" http://nontayan.blogspot.com/2012/01/090.html

    ขอเจริญในธรรม
    ดร.นนต์
    9 มกราคม 2555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2012
  9. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]
    ยินดีด้วย..เป็นพระที่สวยงามมาก โมทนาสาธุในกุศลจิตนี้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2013
  10. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    ครูชาติกำลังแนะนำท่านนคร...
    ในการพิจารณาพระพุทธปฐวีธาตุ แห่งแม่น้ำโขง (สีใสเหมือนแก้ว)
    [​IMG]
    และพระธรณีธาตุ (พระธาตุแม่พระธรณี) แห่งภูดานไห
    (ก้อนปฐวีที่มีเม็ดพระธาตุใสเกาะติดโดยรอบ)
    [​IMG]

    ภาพเบื้องหน้า
    [​IMG]
    และอารมณ์ครับ หึหึ
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1260652.jpg
      P1260652.jpg
      ขนาดไฟล์:
      153.3 KB
      เปิดดู:
      3,555
    • P1260653.jpg
      P1260653.jpg
      ขนาดไฟล์:
      153.6 KB
      เปิดดู:
      3,508
    • P1260659.jpg
      P1260659.jpg
      ขนาดไฟล์:
      165.9 KB
      เปิดดู:
      3,951
    • P1260660.jpg
      P1260660.jpg
      ขนาดไฟล์:
      138 KB
      เปิดดู:
      4,888
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2013
  11. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    พระธรณีธาตุ (พระธาตุแม่พระธรณี) แห่งภูดานไห สมบัติท่านนคร
    [​IMG]
    [​IMG]

    [​IMG]
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1260658.jpg
      P1260658.jpg
      ขนาดไฟล์:
      179.6 KB
      เปิดดู:
      4,978
    • P1260656.jpg
      P1260656.jpg
      ขนาดไฟล์:
      234.3 KB
      เปิดดู:
      5,174
    • P1260654.jpg
      P1260654.jpg
      ขนาดไฟล์:
      137 KB
      เปิดดู:
      4,805
    • P1260655.jpg
      P1260655.jpg
      ขนาดไฟล์:
      105.7 KB
      เปิดดู:
      4,832
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2013
  12. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]
    กราบ กราบ กราบ
    กราบ กราบ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2013
  13. nakorn_nd

    nakorn_nd เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +174
    ผมขอโมทนาสาธุด้วยนะครับ กับกุศลจิตครั้งนี้

    นคร




    น้อมจิตกราบพ่อแม่ครูอาจารย์ที่มีความเมตตาให้กับศิษย์ทุกผู้ทุกนามครับ กราบ กราบ กราบ กราบ กราบ ด้วยจิตที่ผ่องใสครับ

    ขอบพระคุณครูชาติด้วยนะครับ ที่เป็นธุระนำมาให้ถึงกรุงเทพ แถมทั้งพี่สมบัติและครูชาติยังต้องสอนน้องคนนี้ส่องดูปฐวีธาตุด้วย (นครไม่เคยใช้กล้องส่องดูพระครับ ดูยังไงก็ไม่ชัดสักที หึหึ) กราบขอบพระคุณอีกครั้งครับ
     
  14. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    พระพุทธรูปเชียงแสน อายุกว่า 700 ปี


    พระพุทธรูปสมัยเชียงแสน อายุมากกว่า 700 ปีขึ้นไป กล่าวกันว่า เป็นวัตถุโบราณทางพระพุทธศาสนาที่สวยงามและทรงคุณค่ามากที่สุดอีกตระกูลหนึ่ง มีผู้แสวงหาพระพุทธรูปสมัยนี้กันมาก โดยเฉพาะพระพุทธรูปองค์ใหญ่หน้าตักห้านิ้วขึ้นไป แม้ราคาจะแพงมาก ว่ากันเป็นนิ้ว คือนิ้วละหนึ่งถึงสองแสนบาท หากหน้าตัก 10 นิ้ว ราคา 1-2 ล้านบาททีเดียว พระพุทธรูปสมัยเชียงแสน บางท่านก็เรียกเชียงรุ้ง เพราะเป็นพระทางเหนือที่มีศูนย์กลางความเจริญอยู่ที่เมืองเชียงแสน (อ.เชียงแสน) จ.เชียงราย พุทธลักษณะของพระพุทธรูปมีความสวยงามมากโดยแบ่งออกเป็นสามยุคสามลักษณะใหญ่ๆคือ สิงห์หนึ่ง (สังฆาฏิสั้น) สิงห์สอง (สังฆาฏิยาวถึงกลางอก) สิงห์สาม (สังฆาฏิยาวถึงเอว) และเป็นยุคเชื่อมต่อกับอาณาจักรล้านนา และสุโขทัย ดังนั้นจึงมีความสวยงามและลักษณะใกล้เคียงคือเป็นรองแค่พระพุทธรูปสุโขทัยเท่านั้น (ผู้คนยกให้พระพุทธรูปสุโขทัยสวยงามมากที่สุด)


    ส่วนพระพุทธรูปเชียงแสนขนาดเล็ก(จิ๋ว)มีหน้าตักประมาณเล็กกว่าหนึ่งนิ้วขึ้นไป พบมีจำนวนมากพอสมควร แต่พระหลายๆพิมพ์กลับไม่มีคนรู้จัก นอกจากนักโบราณคดี หรือผู้ศึกษามาทางด้านศิลปะ จึงจะเข้าใจในลักษณะทางกายภาพได้ว่าเป็นพระอะไร การที่พระพุทธรูปเชียงแสนขนาดเล็กไม่มีความสวยงามเท่ากับองค์ใหญ่ เนื่องจากต้องรีบเร่งในการสร้างอาจให้ได้จำนวน 84,000 องค์เท่ากับพระธรรมขันธ์ เพื่อนำไปบรรจุกรุเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนาตามประเพณีที่ยึดถือสืบต่อกันมา ดังนั้น ความพิถีพิถันและความสวยงามจึงลดลงไปตามขนาดและจำนวนมากนั่นเอง ส่วนพลังพุทธานุภาพต้องว่ากันด้วยผู้ทรงญาณหรือมีญาณสัมผัสได้เท่านั้น พระที่ผมมีบางองค์จะปรากฏมีพระฤาษีนั่งยิ้มอยู่ข้างใน แถมยังสามารถเปิดญาณบารมีได้ ซึ่งหลายๆท่านได้มาสัมผัสด้วยตัวเองแล้ว พลานุภาพเป็นแบบไร้ขีดจำกัดมาตั้งแต่ดั้งเดิม แรงแค่ไหนต้องถามคุณพิเชฐ คุณสันติ คุณจ็อกกี้ คุณโกศล คุณประจักร์ ผู้หมวดศุภชัย ดร.ณัฐชัย ท่านสุทน ท่านศรีทอง และอีกหลายๆคน โดยเฉพาะองค์ดำองค์แรกดังภาพครับ


    ปล. ผมเองได้รวบรวมไว้จำนวนหนึ่ง บางครั้งเหมือนเทวดาดลใจให้ไปอัญเชิญมา ดังนั้น ผมจะนำมาแบ่งให้ผู้ที่มีจิตศรัทธาที่จะร่วมทำบุญสร้างวัดภูดานไหกับพ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช กองบุญละ 10,000 บาท ผมจะมอบพระพุทธรูปเชียงแสน เนื้อเงินสัมฤทธิ์หน้าตักหนึ่งนิ้วให้ท่านหนึ่งองค์ (มีจำนวนจำกัดมาก)


    ขอเจริญในธรรม
    ดร.นนต์
    9 มกราคม 2555



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2012
  15. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    พระพุทธรูปสมัยเชียงแสน (ต่อ)
    ข้อความเดิมจากบล็อกพระดีของคนบุญ

    <?import namespace = g_vml_ urn = "urn:schemas-microsoft-com:vml" implementation = "#default#VML" declareNamespace /><g_vml_:shape style="POSITION: absolute; WIDTH: 818px; HEIGHT: 9497px; TOP: 0px; LEFT: 0px" coordsize = "8170,94980" filled = "t" fillcolor = "white" stroked = "f" path = " m0,50 l0,94890 at0,94890,100,94990,-500,94890,0,95390 l8110,94990 at8110,94890,8210,94990,8110,95390,8610,94890 l8210,50 at8110,0,8210,100,8610,0,8110,-500 l50,0 at0,0,100,100,0,-500,-499,25 e"><g_vml_:fill opacity = "1"></g_vml_:fill></g_vml_:shape><g_vml_:shape style="POSITION: absolute; WIDTH: 818px; HEIGHT: 9497px; TOP: 0px; LEFT: 0px" coordsize = "8170,94980" filled = "f" fillcolor = "black" stroked = "t" strokecolor = "#e2e2e2" strokeweight = ".75pt" path = " m0,45 l0,94945 at0,94890,100,94990,-500,94890,124,95374 e"><g_vml_:stroke opacity = "1" miterlimit = "10" joinstyle = "miter" endcap = "flat"></g_vml_:stroke></g_vml_:shape><g_vml_:shape style="POSITION: absolute; WIDTH: 818px; HEIGHT: 9497px; TOP: 0px; LEFT: 0px" coordsize = "8170,94980" filled = "f" fillcolor = "black" stroked = "t" strokecolor = "#e2e2e2" strokeweight = ".75pt" path = " m50,94990 l8165,94990 at8110,94890,8210,94990,8110,95390,8610,94890 e"><g_vml_:stroke opacity = "1" miterlimit = "10" joinstyle = "miter" endcap = "flat"></g_vml_:stroke></g_vml_:shape><g_vml_:shape style="POSITION: absolute; WIDTH: 818px; HEIGHT: 9497px; TOP: 0px; LEFT: 0px" coordsize = "8170,94980" filled = "f" fillcolor = "black" stroked = "t" strokecolor = "#e2e2e2" strokeweight = ".75pt" path = " m8210,94940 l8210,45 at8110,0,8210,100,8610,0,8110,-500 e"><g_vml_:stroke opacity = "1" miterlimit = "10" joinstyle = "miter" endcap = "flat"></g_vml_:stroke></g_vml_:shape><g_vml_:shape style="POSITION: absolute; WIDTH: 818px; HEIGHT: 9497px; TOP: 0px; LEFT: 0px" coordsize = "8170,94980" filled = "f" fillcolor = "black" stroked = "t" strokecolor = "#e2e2e2" strokeweight = ".75pt" path = " m8160,0 l50,0 at0,0,100,100,124,-484,-484,124 e"><g_vml_:stroke opacity = "1" miterlimit = "10" joinstyle = "miter" endcap = "flat"></g_vml_:stroke></g_vml_:shape>
    (075) พระพุทธรูปสัมฤทธิ์สมัยเชียงรุ้งหรือเชียงแสน


    [​IMG]


    ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ณัฐนนต์ สิปปภากุล
    21 ธันวาคม 2554

    ช่วงนี้ เป็นช่วงของการเรียนรู้เรื่องพระพุทธรูป ผมจึงขอนำเอาพระพุทธรูปขนาดเล็กหน้าตัก 1 นิ้ว ที่ผมสะสมรวบรวมไว้ได้หลายองค์ พระชุดนี้ เป็นพระพุทธรูปสมัยเชียงแสน หลวงพ่อเหรียญชัย มหาปัญโญ พระอริยเจ้าแห่งวัดถ้ำสุมณฑา อุดรธานี เรียกว่า "พระเชียงรุ้ง" เนื่องจากท่านได้ธุดงค์และได้นำมาจากถ้ำแห่งหนึ่ง ดังองค์แรกที่ผมได้รับจากท่าน ซึ่งเป็นเนื้อและพิมพ์เดียวกันกับที่ผมได้รับมาในภายหลังอีกหลายองค์ แต่จะมีหลายพิมพ์ คือ มียอดเปลวเกศาสั้นและยาว และเป็นแบบเชียงแสนสิงห์ 1, 2 หรื 3 และยังคล้ายกันกับพระสมัยสุโขทัยอีกด้วย อย่างไรก็ตาม พระชุดนี้มีพลานุภาพแบบไร้ขีดจำกัดแทบทุกองค์ แถมยังมีฤาษีรักษาหรือสถิตย์อยู่ในองค์พระ นอกจากนั้นพลังของท่านยังสามารถใช้เปิดญาณบารมีสำหรับบางคนได้อีกด้วย แม้แต่ท่าน ดร.ณัฐชัย ยังปรารถนาจะมีไว้เพื่อสักการะสักหนึ่งองค์ ก็ขอให้โชคดีนะครับ

    ปล. หลวงพ่อเหรียญชัย มหาปัญโญ ท่านเป็นพระกรรมฐาน เป็นที่ศรัทธาของผู้ใหญ่สายวัง ท่านเมตตาเรียกผมว่าลูก ผมเคยภาวนาและนอนอยู่หน้าห้องของท่านมาแล้ว และท่านได้รับข้อมือเหล็กไหลจากองค์จักรพรรดิญี่ปุ่นมาแล้ว (ประเทศไทยมีผู้ได้รับสองท่าน) แถมท่านยังเคยอยู่วัดระฆังอีกด้วย ผมเคยถวายพระชุดเบญจภาคีแก่ท่าน เพื่อร่วมสร้างโบสถ์อยู่บนหลังถ้ำสุมณฑาหลายชุด ก็ลองชมดูนะครับ



    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     
  16. D-Crew

    D-Crew เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2012
    โพสต์:
    141
    ค่าพลัง:
    +185
    งดงามทั้งนั้นเลยครับ
     
  17. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]
    [​IMG]
    ผลการตรวจสอบออร่าของพระพิมพ์ที่อธิษฐานจิตโดยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ขอขอบพระคุณท่านพิเชฐ (สมาชิกธรรม) ในการเอื้อเฟื้อข้อมูลขั้น TOP Secret!
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2013
  18. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]
    [​IMG]
    ผลการตรวจสอบออร่าของพระพิมพ์ที่อธิษฐานจิตโดยสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ขอขอบพระคุณท่านพิเชฐ (สมาชิกธรรม) ในการเอื้อเฟื้อข้อมูลขั้น TOP Secret!

    ปล:
    พลังพระพุทธานุภาพของพระพิมพ์ระดับ TOP อยู่ในขั้นละเอียดมาก ผลออร่าจึงเทียบเคียงของจริงได้เพียงบางส่วนเท่านั้น...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2013
  19. IT Man

    IT Man ชีวิตที่เหลือ เพื่อพุทธองค์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    4,243
    ค่าพลัง:
    +8,388
    [​IMG]
    สีในออร่าจากพระพิมพระดับ TOP
    สอดคล้องกันโดยบังเอิญกับภาพพระอาทิตย์ที่พ่อแม่ครูอาจารย์บันทึกไว้ ณ ภูดานไห
    [​IMG]
    และที่ผมบันทึกไว้ที่ กทม.
    [​IMG]
    ขอให้ท่านพิจารณาต่อเองเด๊อ
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 สิงหาคม 2013
  20. "นนต์"

    "นนต์" เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +1,157
    พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ใหญ่ ลงรักดำ มาตามจิตอธิษฐาน


    พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่นิยม เนื้อผงผสมปูน ลงรักดำ เนื้อในตรงส่วนที่กะเทาะมีผงสีขาวครีมมีเม็ดมวลสารปรากฏให้เห็น เนื้อมีความแห้งแต่หนึกนุ่ม และที่พิเศษก็คือ พระองค์นี้ปรากฏมีการใช้เชือกหุ้มองค์พระเพื่อใช้แขวนแบบโบราณดั้งเดิม วิธีการแบบนี้พบน้อยมาก พระองค์นี้ได้เสด็จมาอย่างกับในฝัน เพราะหลังจากผมได้ลงภาพพระสมเด็จวัดระฆังองค์ลงรักดำของท่านอ๊อดเมื่อตอนเช้า ในขณะที่ลงภาพ จิตของผมก็นึกอยากจะได้พระในลักษณะเดียวกันเพื่อนำมาศึกษา และก็ปรากฏภาพพระสมเด็จลงรักสีดำขึ้นมาในใจตลอดเวลา พอตอนบ่ายได้เดินไปดูที่แผงพระ ปรากฏมีขาจรมาจากกรุงเทพฯกำลังวางแผงอยู่ ดูไปดูมา เอ๋...พระสมเด็จลงรักดำวางอยู่ท่ามกลางพระนับพันๆองค์ พระท่านช่างมาโปรดเร็วดีแท้หนอ

    ผมตรวจสอบแล้ว ทราบว่า สร้างและอธิษฐานจิตในวาระปี 2411 ในโอกาสรัชกาลที่ 5 ขึ้นครองราชย์ นอกจากจะมีหลวงปู่โต พรหมรังสี เป็นผู้อธิษฐานจิตหลักแล้ว ยังมีองค์อภิญญาในยุคนั้น คณะหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร และพระเบื้องบนได้เสด็จลงมาร่วมในพิธีอธิษฐานจิตด้วย พลานุภาพดั้งเดิม 150 เท่าของพระทั่วไป แรงมากๆๆๆ ส่วนการผูกเชือกแบบโบราณเพื่อใช้แขวนนั้น ช่างเป็นภูมิปัญญาของคนในสมัยนั้นที่พยายามจะนำพระติดตัวไปให้ได้ เพราะในสมัยหลวงปู่โตหรือหลังจากนั้นเล็กน้อย ไม่มีกรอบพระเช่นในปัจจุบัน หากใครเจอเชือกร้อยและมีความเก่าเช่นนี้ ก็อย่าได้ลังเลหรือสงสัยใดๆ ให้รีบคว้ากลับบ้านทันทีเลยนะครับ

    ขอเจริญในธรรม
    ดร.นนต์
    9 มกราคม 255


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...