ผลที่คาดไม่ถึงของการทำนายภัยพิบัติ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Leeporter, 5 มกราคม 2012.

  1. TKKH

    TKKH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +554
    พระอชิตเถระ

    พระอชิตะเถระ

    พระอชิตะเถระ พระอรหันต์ในสมัยพุทธกาล ไม่ใช่ผู้ที่จะมาเกิดเป็น พระเมตไตรย์สัมพุทธเจ้า

    กรณีของ "พระอชิตะเถระ" พระอรหันต์ในสมัยพุทธกาล ที่มักถูกกล่าวอ้างว่าท่านคือผู้ที่จะมาเกิดเป็น พระเมตไตรย์สัมพุทธเจ้า ในอนาคต กรณีนี้เมื่อสืบค้นดูในพระไตรปิฎกแล้วพบว่า ในพระไตรปิฎก มีปรากฏชื่อของ “พระอชิตเถระ” ในพระไตรปิฎกเพียง ๒ แห่งเท่านั้น คือ

    ในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๖ ขุททกนิกาย วิมาน-เปตวัตถุ เถร-เถรีคาถา ข้อที่ ๑๕๗ อชิตเถรคาถา สุภาษิตเกี่ยวกับความตาย ความว่า

    “เราไม่มีความกลัวตาย ไม่มีความอาลัยในชีวิต จักเป็นผู้มีสติสัมปชัญญะ ละทิ้งกายนี้ไป”

    และในพระไตรปิฎก เล่มที่ ๓๒ ขุททกนิกาย อปทาน ข้อที่ ๔๐๒ อชิตเถราปทานที่ ๑๐ ว่าด้วยผลแห่งการถวายประทีป ประมวลความโดยสังเขปได้ว่า

    ในสมัยพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ พระอชิตเถระ ในชาตินั้นท่านเคยมีจิตเลื่อมใสโสมนัส ได้ตามประทีปถวายแด่พระพุทธเจ้าด้วยมือทั้งสองของตน ตลอด ๗ คืน ๗ วัน ต่อมาพระสมณะนามว่าเทวละ ผู้เป็นอัครสาวกของพระพุทธเจ้าพระนามว่าปทุมุตระ ได้พยากรณ์อนาคตของท่านไว้ว่า “...ในแสนกัลปแต่กัลปนี้ พระศาสดามีพระนามชื่อว่าโคดม ซึ่งมีสมภพในวงศ์พระเจ้าโอกกากราช จักเสด็จอุบัติในโลก ผู้นี้(พระอชิตเถร ในชาตินั้น)จักเป็นทายาทในธรรมของพระศาสดาพระองค์นั้น จักเป็นโอรสอันธรรมนิรมิต จักกำหนดรู้อาสวะทั้งปวงแล้ว

    เป็นผู้ไม่มีอาสวะ นิพพาน ยังพระสัมพุทธเจ้าพระนามว่าโคดมศากยบุตรให้ทรงโปรดปรานแล้ว จักได้เป็นสาวกของพระศาสดา มีนามชื่อว่าอชิตะ... และพระอชิตเถรได้กล่าวในตอนท้ายปทานนี้ว่า“...กรรมของเรานั้นสำเร็จประโยชน์ เรายังพระมหามุนีให้ยินดี วิชชา ๓ เราบรรลุแล้วโดยลำดับ พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ในกัลปที่แสนแต่กัลปนี้ เราได้ถวายประทีปใด ในกาลนั้นด้วยการถวายประทีปนั้น เราไม่รู้จักทุคติเลย นี้เป็นผลแห่งการถวายประทีป เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ถอนภพขึ้นได้ทั้งหมดแล้ว ตัดกิเลสเครื่องผูก ดังช้างตัดเชือกแล้ว เป็นผู้ไม่มีอาสวะอยู่ การที่เราได้มาในสำนักพระพุทธเจ้าของเรานี้ เป็นการมาดีแล้วหนอ วิชชา ๓ เราบรรลุแล้วโดยลำดับ พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว คุณวิเศษเหล่านี้ คือ ปฏิสัมภิทา ๔ วิโมกข์ ๘ และอภิญญา ๖ เราทำให้แจ้งชัดแล้ว พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว”

    จากความในพระไตรปิฎกทั้งสองแห่งดังกล่าว จะเห็นได้ว่าไม่ปรากฏว่ามีการกล่าวถึง “พระอชิตเถระ” ว่าจะมาเป็น “พระศรีอาริยเมตไตรย์ หรือ พระผู้มีพระภาคพระนามว่าเมตไตรย์” อยู่เลย พระอชิตะเถระ ที่มีปรากฏในพระไตรปิฎกนั้นเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า(ไม่ได้ตรัสรู้เอง) เป็นพระอรหันต์แล้ว ชาติหน้าและการเวียนว่ายตายเกิดไม่มีได้อีก ถ้าสำเร็จพระอรหันต์แล้วยังเวียนว่ายตายเกิดได้อีก คำสอนของพระพุทธเจ้า เรื่องความหลุดพ้น เรื่องการไม่เกิดอีก และเรื่องนิพพาน ก็จะกลายเป็นความเท็จไป และจะเข้ากันได้กับคติความเชื่อของพราหมณ์ ที่เชื่อเรื่องวิญญาณอมตะ และความเชื่อเรื่องโมกษะ คือ ความหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด โดยกลับไปรวมกับกายพรหม หรือปรมาตมัน ไปโดยปริยาย


     
  2. TKKH

    TKKH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +554
    พระเจ้าสังขะ

    พระเจ้าสังขะ

    พระเจ้าจักรพรรดิ์ทรงพระนามว่า พระเจ้าสังขะ แห่งเมืองเกตุมดีราชธานีไม่ใช่พระอชิตะเถระ และไม่ใช่ พระเมตไตรย์สัมพุทธเจ้า

    กรณีของพระเจ้าจักรพรรดิ์ที่ทรงพระนามว่า “พระเจ้าสังขะ” นั้น มักจะถูกนำมากล่าวอ้างว่าท่านคือผู้ที่จะมาเกิดเป็น พระเมตไตรย์สัมพุทธเจ้า ในอนาคต กรณีนี้เมื่อสืบค้นดูในพระไตรปิฎกแล้วพบว่า ในพระไตรปิฎก มีปรากฏชื่อของ “พระเจ้าสังขะ” ในพระไตรปิฎกเพียง ๑ แห่งเท่านั้น คือ

    ในพระไตรปิฎกเล่มที่ ๑๑ ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค จักกวัตติสูตรข้อที่ ๔๘ ในพระสูตรเดียวกันกับที่พระพุทธเจ้าท่านตรัสถึง พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่าเมตไตรย์ หรือพระเมตไตรย์สัมพุทธเจ้า ปรากฏความดังนี้

    [๔๘] “ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี จักมีพระเจ้าจักรพรรดิ์ทรงพระนามว่า พระเจ้าสังขะทรงอุบัติขึ้น ณ เกตุมดีราชธานี เป็นผู้ทรงธรรม เป็นพระราชาโดยธรรม เป็นใหญ่ในแผ่นดิน...พระองค์ทรงชำนะโดยธรรมมิต้องใช้อาชญา มิต้องใช้ศัสตรา ครอบครองแผ่นดินมีสาครเป็นขอบเขต ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในเมื่อมนุษย์มีอายุ ๘๐,๐๐๐ ปี พระผู้มีพระภาคทรงพระนามว่าเมตไตรย์ จักเสด็จอุบัติขึ้นในโลก พระองค์เป็นอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ...พระผู้มีพระภาคพระนามว่าเมตไตรย์พระองค์นั้น จักทรงบริหารภิกษุสงฆ์หลายพัน เหมือนตถาคตบริหารภิกษุสงฆ์หลายร้อย ในบัดนี้ฉะนั้น ฯ
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย ครั้งนั้น พระเจ้าสังขะจักทรงให้ยกขึ้นซึ่งปราสาทที่พระเจ้ามหาปนาทะทรงสร้างไว้ แล้วประทับอยู่ แล้วจักทรงสละ จักทรงบำเพ็ญทาน แก่สมณพราหมณ์ คนกำพร้า คนเดินทาง วณิพก และยาจกทั้งหลาย จักทรงปลงพระเกศาและพระมัสสุ ทรงครองผ้ากาสาวพัสตร์ เสด็จออกจากเรือน ทรงผนวชเป็นบรรพชิต ในสำนักของพระผู้มีพระภาคพระนามว่า เมตไตรย์อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ท้าวเธอทรงผนวชอย่างนี้แล้ว ทรงปลีกพระองค์อยู่แต่ผู้เดียวไม่ประมาท มีความเพียร มีตนส่งไปแล้ว ไม่ช้านักก็จักทรงทำให้แจ้งซึ่งประโยชน์อันยอดเยี่ยมที่กุลบุตรทั้งหลาย พากันออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตโดยชอบต้องการ อันเป็นที่สุดแห่งพรหมจรรย์ ด้วยพระปัญญาอันยิ่งด้วยพระองค์เอง ในทิฐธรรมเทียว เข้าถึงอยู่ ฯ”

    จากความที่ปรากฏดังกล่าวเป็นที่ชัดเจนว่า พระเจ้าจักรพรรดิ์ที่ทรงพระนามว่า “พระเจ้าสังขะ”ที่พระพุทธเจ้าท่านทรงพยากรณ์นั้น จะเกิดในสมัยเดียวกันกับ พระเมตไตรย์สัมพุทธเจ้า ในอนาคต และจะสละราชสมบัติ แล้วออกผนวชเป็นบรรพชิต ในสำนักของพระผู้มีพระภาคพระนามว่าเมตไตรย์อรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า และจะได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์

    ดังนั้นผู้ที่นำเอาเรื่องราวของ “พระอชิตะเถระ” พระอรหันต์ในสมัยพุทธกาล เรื่องราวของพระเจ้าจักรพรรดิ์ที่ทรงพระนามว่า “พระเจ้าสังขะ” มาปะติดปะต่อแต่งแต้มกันจนวิจิตรพิสดาร โดยบอกว่า พระอชิตะเถระ ในอดีต กับพระเจ้าสังขะ ในอนาคต จะได้เป็น พระเมตไตรย์สัมพุทธเจ้า หรือที่ตั้งชื่อท่านเสียใหม่ว่า “พระศรีอาริยเมตไตรย์” นั้น ล้วนแต่เป็นมุสาวาท ทั้งสิ้น จะด้วยหวังประโยชน์ประการใดก็ตาม

     
  3. TKKH

    TKKH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +554
    เด็กชายปลาบู่

    สำหรับเรื่องราวของเด็กชายปลาบู่ ที่ นายทองใบ คำสี ออกมาบอกเล่าให้ฟังจนผู้คนแตกตื่นกันทั้งบ้านทั้งเมืองนั้น ก็พิสูจน์ได้ชัดเจนแล้วว่า คำทำนายของเด็กชายปลาบู่ ที่ว่าเขื่อนภูมิพล จังหวัดตากจะแตก ตอนเวลายาม ๒ ของวันปีใหม่นั้น ไม่เป็นความจริง จึงไม่จำเป็นต้องไปสืบค้นหาว่า เด็กชายปลาบู่เคยมีชีวิตเคยมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่ ? เด็กชายปลาบู่ระลึกชาติได้จริงหรือไม่ ? คำทำนายของเด็กชายปลาบู่จะเป็นจริงหรือไม่ ? และ นายทองใบ คำสี พูดจริงหรือพูดเท็จ และที่ออกมาบอกว่า เด็กชายปลาบู่บอกแค่เพียงว่าเป็นเวลายามสองของวันปีใหม่ แต่ไม่รู้ว่าเป็นวันปีใหม่ของชาติใดนั้น ท่านจะรอดูต่อไปหรือจะอย่างไรก็แล้วแต่ดุลพินิจของแต่ละท่านแล้วละครับ

    และขอถือโอกาสนี้ย้ำเตือนเป็นอุทาหรณ์ สำหรับพุทธศาสนิกชนผู้ที่หลงเชื่อถืออะไรโดยที่ไม่รู้ว่า ให้ยึดหลักกาลามสูตร หรือหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่างงมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณา ซึ่งเป็นพระสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้านเกสปุตติยนิคม แคว้นโกศล มีอยู่ ๑๐ ประการ ได้แก่
    ๑. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ฟังๆ กันมา<O:p</O:p
    ๒. อย่าเพิ่งเชื่อตามที่ทำต่อๆ กันมา<O:p</O:p
    ๓. อย่าเพิ่งเชื่อตามคำเล่าลือ<O:p</O:p
    ๔. อย่าเพิ่งเชื่อโดยอ้างตำรา<O:p</O:p
    ๕. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกเดา<O:p</O:p
    ๖. อย่าเพิ่งเชื่อโดยคาดคะเนเอา<O:p</O:p
    ๗. อย่าเพิ่งเชื่อโดยนึกคิดตามแนวเหตุผล
    ๘. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะถูกกับทฤษฎีของตน<O:p</O:p
    ๙. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะมีรูปลักษณ์ที่ควรเชื่อได้<O:p</O:p
    ๑๐. อย่าเพิ่งเชื่อเพราะผู้พูด เป็นครูบาอาจารย์ของตน

    <O:p</O:p
    อย่าเพิ่งเชื่อ เพราะเห็นว่าเป็นคำสอนของพระพุทธเจ้า ของพระอรหันต์ หรือสุดยอดเกจิอาจารย์ที่ไหนก็ตาม ให้ศึกษา เรียนรู้ พิสูจน์ทดลองให้รู้ชัดถ้วนถี่เสียก่อน ค่อยเชื่อจะดีกว่า ความจริงย่อมคงทนต่อการพิสูจน์ ถ้าคำสอนของพระพุทธเจ้าท่านเป็นจริง ไม่ว่าใครจะพิสูจน์ในแง่มุมไหนก็จะพบว่าเป็นความจริง จึงไม่ใช่เรื่องผิดที่จะสอบสวนและพิสูจน์คำสอนของพระพุทธเจ้า ของพระอรหันต์ หรือสุดยอดเกจิอาจารย์ที่ไหน ก่อนที่จะปลงใจเชื่อ เพราะผู้ที่เชื่อสิ่งใดโดยที่ไม่รู้ย่อมได้ชื่อว่า “งมงาย” ส่วนผู้ที่ปฏิเสธสิ่งใดโดยที่ไม่รู้ ก็ย่อมได้ชื่อว่า “โง่เขลา” เช่นกัน


    ขอความเจริญในธรรม จงมีแด่ผู้ที่มี "โยนิโสมนสิการ" ครับ


    </O:p
     
  4. ดาวบุ๋น5

    ดาวบุ๋น5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +375
    ในโลกนี้ไม่มีอะไรน่าเชื่อให้ถึงที่สุด..นอกจากเชื่อว่าพระพุทธเจ้าท่านล่วงรู้ถึงการพ้นทุกข์ เข้่าสู่นิพพานไม่ต้องเวียนว่ายตายเกิดแล้ว

    ในความเชื่อตัวบุคคลอื่นยังไม่ใช่สิ่งเที่ยงแท้ ถูกบ้างผิดบ้าง... ทำให้คนหลงทางเยอะแยะเพราะไปยึดติดกับทางผ่านของการพ้นทุกข์ พวกอิทธิฤทธิ์ ปาฎิหารย์ต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยังทำให้มนุษย์ไม่หมดทุกข์

    เมื่อเป็นเช่นนี้แล้วคนที่ยังไม่สามารถล่วงพ้นจากทุกข์ได้ ย่อมยังทำให้คนที่เชื่อถือนั้นไม่พ้นจากทุกข์ด้วยเช่นกัน ฉันใดก็ฉันนั้น

    ส่วนคนที่พ้นจากทุกข์แล้ว ย่อมไม่ใส่ใจว่าใครจะต้องภัยพิบัติหรือไม่อย่างไรให้เป็นทุกข์ เพราะการเกิด แก่ เจ็บ ตายเป็นวัฏจักรของคนที่ยังไม่พ้นจากทุกข์ และไม่ใช่สิ่งที่ต้องเตือนเป็นพิเศษเพราะไม่ได้ช่วยให้คนเหล่านั้นพ้นทุกข์ตรงไหน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2012
  5. starcom1

    starcom1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +726
    คนที่ตัดห่วงได้หมด จะมีแต่เฉพาะพระอรหันต์เท่านั้น ผู้ที่ยังไม่ใช้พระอรหัตน์ ยังคงทำไม่ได้ที่จะไม่รู้สึกอะไรครับ ผมเองก็รู้สึกมาตลอด วันที่อายุจะสี่สิบจะมีบางอย่างเกิดขึ้น ผมและคนอื่น ก็มารอวันนี้ มาเพื่อบำรุงศาสนาต่อครับ หลังจากมีบางอย่างเปลี่ยนโลกนี้ ทุกคนที่เกิดตอนนี้จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แล้วพุทธศาสนาจะยังยืนต่อไปอีก 2500 ปี ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นศาสนาพุทธจะต้องหมดไปไม่นาน เพราะมนุษย์ยุคนี้ทำลายทุกอย่างจนหมดแล้ว ไม่อยากให้มีการบอก แต่ก็มีคนบอกออกมาเรื่อยๆ ที่ควรจะเกิดเลยไม่เกิด ให้รอดูนะครับ ไม่เกิน2 ปีนี้ เพื่อศาสนาจะได้เจริญต่อครับ
     
  6. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379

    ตามที่ท่านอ้างอิงมานั้น ชื่อเหมือนกันหรือชื่อซ้ำกัน แต่เป็นคนละท่านกัน

    อยากให้ท่านทำการบ้านและศึกษาข้อมูลให้ชัดเจนก่อนจะโพสต์แสดงความรู้
    เพราะการกระทำของท่านอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิด รับข้อมูลผิด ๆ ไปด้วย
    แล้วเช่นนี้จะเรียกว่าท่าน มุสาวาท หรือไม่

    นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนยังเข้าใจผิดเรื่ององค์ของศีล การพูดผิด ไม่ได้ถือว่าเป็นการมุสาวาท นะครับ
    หากยังไม่เข้าใจแม้แต่เรื่องศีล ยิ่งต้องศึกษาให้มาก ๆ

    การที่ผู้เขียนมาโพสต์ข้อความนี้เพราะมีความเป็นห่วงว่า
    หากใครมาอ่านแล้วไม่ได้ใช้หลักกาลามสูตรตามที่ท่านอ้างแล้วหลงเชื่อ ก็จะหลงผิดและปรามาส
    เรื่องเหล่านี้เป็นความกังวลที่ทำให้ผมยังไม่สามารถตัดใจวางมือได้

    ขอแนะนำให้ระวังมาก ๆ นะครับ ระวังจะปรามาส
    เพียงการอ่านจากตำรายังไม่ใช่คำตอบของทุกอย่าง ถ้ายังไม่แน่ใจจริง ๆ ไม่ควรวิจารณ์




    พระศรีอาริยเมตไตรยมีระบุไว้ชัดเจนในทักขิณาวิภังคสูตร พระสุตตันตปิฎกว่า พระนางปชาบดีโคตมีตั้งใจทอจีวรถวายพระพุทธเจ้า ท่านเริ่มตั้งแต่ปลูกเลย เตรียมดินที่จะปลูกฝ้าย ให้ช่างตะไบผงทองผสมไปด้วย แล้วก็เอาเมล็ดฝ้ายปลูก รดด้วยน้ำนมวัว คอยดูแลจนกระทั่งฝ้ายตกยวง แล้วก็เก็บมาปั่นเป็นเส้นด้าย ทอด้วยมือท่านเอง ด้วยความที่ท่านตั้งใจและอาจจะเป็นเพราะว่ามีแร่ธาตุทองคำเยอะ ท่านบอกว่าเนื้อผ้าออกมาสีเหมือนทองคำเลย ท่านทอได้สองผืน ก็เอาไปถวายพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้ารับแล้วก็ส่งให้พระสารีบุตร พระสารีบุตรก็ส่งให้พระโมคคัลลาน์ ไล่ไปเรื่อย.... จนถึงพระใหม่ชื่อพระอชิตะ นั่งอยู่ ไม่รู้จะส่งต่อให้ใครก็ต้องรับไว้

    พระนางปชาบดีโคตมีเสียใจ นั่งร้องไห้เลย พระพุทธเจ้าจึงได้ตรัสให้ฟังว่า ถ้าท่านรับไว้เองก็จะเป็นเพียงปาฏิบุคลิกทาน เป็นทานเฉพาะพระองค์ อานิสงส์จะน้อย แต่ว่าที่ส่งให้ท่ามกลางสงฆ์ ผู้ที่เหมาะสมจะได้รับไป คือถ้าใครรู้ตัวว่ามีจีวรเก่าก็รับไป นั่นถือว่าเป็นสังฆทาน แล้วท่านก็ตรัสบอกไว้ว่า ให้ทานที่ให้แก่สัตว์เดรัจฉาน ๑๐๐ ครั้งไม่เท่ากับให้มนุษย์ ๑ ครั้ง ให้แก่มนุษย์ ๑๐๐ ครั้ง ก็ไม่เท่ากับให้สมมติสงฆ์ ๑ ครั้ง ไล่ไปเรื่อย... จนกระทั่งถึง ถวายทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้า ๑๐๐ ครั้ง ไม่เท่ากับถวายทานแก่พระพุทธเจ้า ๑ ครั้ง ถวายทานแก่พระพุทธเจ้า ๑๐๐ ครั้งไม่เท่ากับถวายสังฆทาน ๑ ครั้ง

    ประกอบกับพระพุทธเจ้าอยากแสดงอานุภาพของพระอชิตะให้ทุกคนทราบ จึงอธิษฐานให้บาตรของพระองค์ท่านลอยหายเข้าไปในกลีบเมฆ แล้วตรัสให้พระสารีบุตรไปค้นหา พระสารีบุตรเหาะไปค้นหาก็ไม่เจอ พระโมคคัลลาน์ก็ไม่เจอ ไล่ไปตามลำดับ... จนกระทั่งถึงท้ายแถว พระอชิตะออกไปยืน ไม่ได้เหาะไป เพียงแต่ท่านอธิษฐานว่า ถ้าหากท่านจะบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณในอนาคตกาลจริง ขอให้บาตรพระพุทธเจ้าลอยเข้ามาอยู่ในมือ ปรากฏว่าบาตรลอยกลับมา แบมือรับเลย เพราะพระพุทธเจ้าอธิษฐานไว้แล้วว่าให้พระอชิตเถระเท่านั้นที่หาได้ เมื่อเป็นดังนั้นพระนางปชาบดีก็ร้องไห้อีกรอบ คราวนี้ร้องไห้ด้วยความดีใจ

    พระอชิตะพอท่านรับผ้ามา ท่านก็ไม่ได้ใช้เอง ท่านเอาไปทำเป็นผ้าขึงเพดานหนึ่งผืนสำหรับพระพุทธเจ้า และเป็นผ้าปูที่นอนหนึ่งผืน และก็อธิษฐานขอเข้าถึงพระโพธิญาณในอนาคตกาล ช่วงที่ท่านเอ่ยปากขอให้การปรารถนาพระโพธิญาณนั้นสำเร็จ ท่านบอกว่ามีฉัพพรรณรังสีเปล่งออกจากเขี้ยวแก้วของท่าน ปรากฏสว่างให้เห็นอยู่ทั่วไป แสดงว่าทั้ง ๆ ที่ท่านเป็นเพียงพระโพธิสัตว์ผู้บำเพ็ญบารมี แต่กำลังของท่านสูงมหาศาลเลย

    อ้างอิงจาก http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1449<!-- / message --><!-- sig -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 มกราคม 2012
  7. TKKH

    TKKH เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +554
    คุณ karan 20 ครับ

    คุณไปเอา ทักขิณาวิภังคสูตร จากพระไตรปิฎกฉบับไหนมาครับ ขอที่มาที่ชัดเจนหน่อยนะครับ

    ผมเข้าไปตรวจสอบดูแล้ว
    ใน พระไตรปิฎก เล่มที่ ๑๔ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๖ มัชฌิมนิกาย อุปริปัณณาสก์ ทักขิณาวิภังคสูตร (ลองคลิ๊กเข้าไปดู)

    ผมไม่เห็นจะมีข้อความที่คุณนำมาอ้างอิงอยู่เลย ไม่มีชื่อของ พระอชิตะ ท่านไหนๆ อยู่ในพระสูตรนี้เลยครับ หรือคุณจะอ้างว่า พระสูตรซ้ำกันอีก เหมือนที่คุณอ้างว่าเป็นพระอชิตะคนละท่านกัน กับที่ปรากฏในพระสูตรที่ผมอ้างอิงถึง

    ขอแหล่งอ้างอิงที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือกว่านี้หน่อยครับ ผมจะรอ
     
  8. poopo_n

    poopo_n สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +21
    อยากขอถามนะว่าถ้าคุณเป็นคนที่สามารถรับรู้เรื่องพวกนี้ได้
    จากความสามารถพิเศษหรือนั่งสมาธิก็ตามเห็นมันตลอด
    ถ้าเป็นคุณๆๆจะนำเรื่องราวมาเตือนเพื่อนมนะษย์ไหมหรือจะเก็บเอาไว้ในใน
    แล้วถ้าเก็บไว้ในใจมันดันเกิกขึ้นจริงคุณจะรู้สึกผิดไปชั่วชีวิตไหมถ้ามีคนตาย
    เป็นล้าน แต่ถ้าคุณนำมาเตือนจะช่วยคนได้หลายแสนคน
    ไหนขอคำตอบหน่อย และอยากถามอีกข้อว่าการทำนายในเว็ปนี้มีมานานหรือยัง
    แล้วมีใครแจ้งความจับในฐานทำให้คนเครียดฆ่าตัวตายไหม ผลดีกระทู้เตือนภัยมันก็มี
    บางอันให้คนหันมาถือศีลทำบุญจะได้รอด บางอันก็ให้ความรู้ด้านฟิสิกต์
    บางอันไร้สาระเกินทำให้เราได้รึู้่าเรื่องเหลวไหลมันก็มี ทำให้เกิดบทเรียน
    เรื่องแบบนี้เป็นจริงได้เสมอ ไม่งั้นตอนนี้จะมีโหร วาริ.....ที่นักการเมืองเกือบทุกคน นายทหาร แม้แต่อดีตนายกที่ตอนนี้กลับแผ่นดินไม่ได้ยังใช้บริการตลอด เพราะอะไรลองคิดดู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มกราคม 2012
  9. scoopynoi

    scoopynoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +727
    topicstock.pantip.com/../
    Y8852543.html

    ผมไม่รู้จะเปิดอ่านกันได้ไหม เรื่องนี้ทำนองนี้มันมีมาเป็น สิบ ๆ ปีแล้วครับเคยเป็นข่าวใหญ่โตมาก ลัทธิที่กำลังดังตอนนี้ในประเทศไทย ซึ๋งตามที่ท่าน ๆ ชี้แนะเกี่ยวกับ เนื้อหาในพระไตรปิฏก ผมไปอ่านย้อนปีไปลึก ๆ ทำไปทำมากลายเป็นว่าพระไตรปิฏกมี 2 เล่ม 2 เนื้อหาต่างกันลองไปค้น ๆ เรื่องเก่า ๆ ดูกันนะครับ ผมไม่อยากให้ศาสนาพุทธมัวหมองและเสื่อมเพราะคน ถ้าผมบอกว่าผู้ที่นับถือพระศรีอาร เป็นกลุมเป็นลัทธินึง เชื่อไหมว่าผมต้องโดนด่าจนจมดินหรือไม่ก็หนักกว่านั้น แต่ผมก็ยืนยันตามนั้น เป็นลัทธิครับ อย่าบิดเบือนกันเลยครับ
     
  10. scoopynoi

    scoopynoi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,116
    ค่าพลัง:
    +727
  11. poopo_n

    poopo_n สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +21
    จัดมาทีครับถ้าข้อมูลแน่นจริงผมจะช่วยอีกแรง
    พอได้รึู้รื่องที่คุณกล่าวมาผมอึ้งเลยมีงี้ด้วยลัทธิ...เกี่ยวกับพระไตรปิฎกอีก
    ถ้าจริงล่ะงานช้างเลย ช่วยคัดเนื้อหาบางส่วนที่สำคัญมาทีครับ นะได้แผ่รหลายให้คนได้อ่านกันเยอะๆ ฟ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 มกราคม 2012
  12. thaijin

    thaijin สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +16
    karan20 อาจเป็นหนึ่งในเจ้าลัทธิลวงโลกก็ได้ใครจะไปรู้

    ผมเห็นแต่แรกแล้วอย่างเรื่องของปลาบู่นี่ล่ะ ก็บอกไปแล้วว่ามันลวงโลก
    มีที่ไหนกันถ้าเคยเอ่ยมาก่อนหน้านี้จริง ๆเชื่อหรือสังคมออนไลน์ไม่นำมาพูดกัน
    และถ้าสังคมออนไลน์นำมาพูดกันก็จะหาข้อมูลในกูเกิ้ลได้แต่หาแล้วหาอีกพึ่งจะมีกล่าวกัน
    ในปี2011ที่ผ่านมานี่เอง ทั้ง ๆที่อินเตอร์เน็ตมีมาร่วมสิบกว่าปีแล้ว จะเรื่องจริงหรือไม่จริงยังไงก็ต้องมีการพูดคุยกัน
    ในสังคมออนไลน์แน่นอน แต่เรื่องปลาบู่กับหาไม่เจอ แสดงว่าเป็นเรื่องที่พึ่งกุขึ้นมาแล้วพึ่งจะเอามาเผยแพร่ จบ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2012
  13. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    รับทราบครับ.........
     
  14. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    จงเดินทางสายกลางนะคะ
    อย่าสุดขั้วไปข้างใดข้างหนึ่งเลย....

    คนที่มีญาณพิเศษรู้ล่วงหน้า
    เขาก็ย่อมอยากจะช่วยเหลือผู้อื่นบ้าง ด้วยกระแสเมตตาของเขา
    คงไม่เก็บเงียบไว้แน่นอน
    แต่ถ้าชักจูงให้เชื่อกันจนเกือบเป็นลัทธิอย่างที่ว่า
    ก็ต้องออกมาเตือนกันบ้าง

    ถ้ามันเริ่มจะงมงายกันละ
    คงต้องรบกวนท่านจขกท
    มากระทุ้งกันอีกทีนะคะ อิอิ
     
  15. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    อ้อ...ไม่รู้จักคุณ karan 20 เป็นการส่วนตัวนะคะ
    แต่เท่าที่ติดตามมา
    ท่านให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ดีค่ะ
    ไม่ได้ปลุกปั่นยุยงให้คนหลงเชื่อหรืองมงายแต่ประการใด
     
  16. toskilo12

    toskilo12 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2011
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +16
    ปล่อยข่าวลือ สร้างข่าวลวง ทำให้กลัวด้วยคำทำนาย ไม่ใช่จะได้แค่ความสนุก ความมันส์

    " แต่ยังได้บาปด้วยนะครับ ^^ "
     
  17. starcom1

    starcom1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +726
    ถ้าตามความเข้าใจแบบพื้นๆนะครับ ถ้าเป็นสาวกภูมิจะไม่มาพูด หรือพูดนิดหน่อย ไม่เชื่อก็เรื่องของท่านเพราะเราเอาตัวเรารอดพอ ตอบแบบตรงๆเพราะมันเรื่องจริง ไม่ห่วงคนอื่นเท่าไหร่ จะเรียกยังไงก็แล้วแต่ท่าน
    พวกที่ออกมาพูดมาก พูดเยาะยอมโดนด่า พวกนี้ก็เป็นนอกเหนือจากพวกแรก พุทธภูมิแท้ พวกลาพุทธภูมิแล้ว พวกปราถนาพุทธภูมิ ที่ยังอาลัยและห่วงคนรอบข้างแต่ ผมเป็นพวกแรกครับ ตัวไครตัวมัน บุญไครบุญมัน มนุษย์สมัยนี้ไครอยากยุ่งด้วย เพราะสุดยอดทุกอย่าง
     
  18. พนมกุเลน

    พนมกุเลน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,455
    ค่าพลัง:
    +7,618
    คำทำนาย ดช. ปลาบู่ สีสันแห่งยุค ทำให้เกิดการวิเคราะห์หาความจริง กันอย่างกว้างขวาง ถือว่าดี ที่เอามาเปิดประเด็นกัน



    www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9550000002709

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เครื่องอัดเทปของเด็กชายปลาบู่ / ต่อพงษ์</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=40><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4><TBODY><TR><TD class=body vAlign=middle align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=middle align=left>8 มกราคม 2555 </TD><TD vAlign=middle align=left>



    <TD></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=12 vAlign=bottom align=left>[​IMG]</TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE border=0 cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffffff vAlign=top align=center><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top width=160 align=center><TABLE border=0 cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=center>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=center>โซนี่ CF 480 S ตัวท็อปฮิต</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=center>JVC 550 รุ่นนี้ก็ฮิตครับ แต่มาทีหลังโซนี่อีกที</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=center>โตชิบา 2800 อีกยี่ห้อที่ทำออกมาขายด้วยสนนราคาที่ถูกกว่า และเสียงยังไม่แจ่มเท่า</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=middle align=center>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=center>ซันโย อีกยี่ห้อที่ราคาถูกดี แต่หน้าตาไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่</TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=1 vAlign=middle width=165 align=center>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD background=/images/linedot_vert3.gif width=4>[​IMG]</TD><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=7 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>คำทำนายของเด็กชายปลาบู่ ซึ่ง นายทองใบ คำสี ผู้เป็นบิดาได้เอามาบอกไว้และกลายเป็นคำทำนายที่แพร่หลายมากที่สุดในช่วงนี้ โดยเฉพาะช่วงวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

    เพราะ เขาเล่นไปพูดถึงเรื่องที่ว่าเขื่อนภูมิพลที่จังหวัดตากจะแตก แต่พอผ่านพ้นวันไปแล้วก็ยังไม่มีเหตุการณ์ใดๆให้พ้องกับคำทำนายนั้นเลย

    แต่คำทำนายนี้ยังใช้ได้ไปอีก 2 เทศกาล นายทองใบบอกว่าไม่รู้ว่าปีใหม่ไหนจะเป็นปีใหม่ฝรั่ง ปีใหม่จีน หรือ ปีใหม่ไทย

    ที่พูดถึงตรงนี้ขึ้นมา ไม่ใช่เพราะจะมาซ้ำเติมสิ่งที่นายทองใบเอามาบอกแล้วมันพลาดนะครับ เพราะผมเข้าใจว่าแกก้ไม่ได้จะเอาคำทำนายที่ว่ามาหากินอะไร

    นอกจากจะสร้างสำนักปฏิบัติธรรม อีกทั้งถ้ามองเรื่องของการก่อสร้างอะไรต่อมิอะไรโดยรัฐบาลไทยแล้วโอกาสที่เมกกะโปรเจคท์เหล่านั้มันจะพังก็มีเพราะคอรัปชั่นมันเยอะเหลือเกิน

    เพียงแต่เมื่อมานั่งดูอย่างละเอียดก็พบว่ามันมีความคลาดเคลื่อนบางอย่างในเรื่องมิติของเวลา อีกทั้ง Story ที่ขาดตรรกะบางอย่าง ซึ่งทุกอย่างได้อ้างอิงจากบันทึกของพ่อของเขาเอง

    อย่างเรื่องที่ขาดตรรกะนั้น ผมมาอ่านเอาตอนที่เขาพูดเรื่องที่คล้ายๆ จะบอกว่า ปลาบู่นั้นมีตาทิพย์เห็นเหตุการณ์ล่วงหน้า ไล่มาตั้งแต่

    แกเห็นว่ารถไฟลอยฟ้าในเมืองไทย หรือ รถไฟใต้ดินในเมืองไทย ซึ่งพ่อปลาบู่แกบอกไว้ว่าในปีนั้นยังไม่มีรถไฟฟ้าใต้ดินหรือรถไฟลอยฟ้าอย่างใดอย่างหนึ่ง

    อันนี้ไล่กลับมาดูจากคำนิยามที่ปลาบู่บอกพ่อเขาว่า เขาเป็นปู่ของปู่ทวดเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ มีตาทิพย์ มีหูทิพย์ หมดทั้งตัวเป็นไพฑูยร์ ตอนพระพุทธเจ้ามีชีวิตยังบอกว่า เขาจะได้เป็นพระศรีอาริยเมตไตร…

    พูดง่ายๆ เกิดอะไรขึ้นเขารู้หมด ทั้งเหตุการณ์ในอดีต และเหตุการณ์ในอนาคต รวมไปถึงเรื่องราวต่างๆในโลก เพราะ สิ่งที่เขาบอกออกมาแล้วพ่อจดบันทึกไว้นั้น มันไม่ได้กำหนดขอบเขตอยู่ที่ประเทศไทยเท่านั้น แต่อธิบายเป็นฉากๆ ได้เลย

    แต่ถ้ารู้ถึงขนาดนี้ ปลาบู่ตาทิพย์ผู้หยั่งรู้เหตุการณ์ทั่วโลกต้องทราบว่า รถไฟใต้ดิน และรถไฟลอยฟ้านั้นในต่างประเทศเขาทำกันมานานแล้วก่อนปี 2517 เสียอีก

    อย่างที่อังกฤษนั้นใช้มาตั้งแต่ปีพศ. 2406 โน่นแน่ะ ก่อนปลาบู่เกิดเกือบร้อยปีทีเดียว ไม่นับในยุโรปอื่นๆและอเมริกานะครับที่ก็เก่าแก่ไม่แพ้กัน

    เรื่องแบบนี้ปลาบู่น่าจะเล่าให้พ่อของเขาฟังเสียเลยว่าเมืองนอกมีมานานแล้ว และอีกหลายปีถัดมาเราก็จะมีเหมือนกัน คือ ไม่ต้องมาถามว่า

    “ รถไฟลอยฟ้ามันเหาะได้มั้ยพ่อ”

    “รถไฟใต้ดินมันมุดน้ำได้มั้ยพ่อ” อีกแล้ว

    แต่เรื่องที่ผมว่ามันคลาดเคลื่อนจั๋งๆเลยก็คือ เรื่องราวบรรยากาศในช่วงเวลาที่ปลาบู่จะตาย เพราะ เมื่อครั้งที่เด็กชายปลาบู่ซึ่งตายตอนอายุได้ 5 ขวบ 8 เดือน 15 วัน ซึ่งตรงกับปี พศ 2517 หรือปี คศ 1974

    อันเป็นปีที่เยอรมันตะวันตกได้แชมป์โลกฟุตบอลในบ้านของเขาเอง จากคำบอกเล่าของนายทองใบบอกว่าเด็กชายปลาบู่ให้พ่อไปซื้อเทปมาอัดเสียงของเขาไว้เพื่อบันทึกเป็นหลักฐาน

    แต่นายทองใบบอกว่าไม่เชื่อว่าลูกจะตายอย่างที่พุดก็เลยไม่ได้ไปซื้อเทปแต่อย่างไร แต่อาศัยแค่การจดที่ปลาบู่เล่าให้ฟัง…

    ความคลาดเคลื่อนจุดนี้เริ่มต้นตรงเรื่องของการไปซื้อเทปมาบันทึก เพราะ ช่วงที่เครื่องบันทึกเทปคาสเซตต์พอจะหาซื้อกันได้ในเมืองไทยด้วยราคาที่ไม่แพงนัก “ไม่ใช่” ช่วงเวลาของปี 2517 อย่างแน่นอนครับ!!

    เพราะปีที่เริ่มจะแพร่หลายก็คือ ปี 2519-2520 โดยที่วิทยุเทปคาสเซ็ตต์กระเป๋าหิ้วเสียงโมโนที่ในยุคนั้นจริงๆ ก็มีหลายยี่ห้อทั้ง ซันโย เจวีซี เนชั่นแนล (พานาโซนิก)

    แต่ที่ยอมรับว่าคุณภาพเจ๋ง และมีของหนีภาษีเอามาขายกันและแพร่หลายกันอยู่ในปี 2520 ก็ต้องยี่ห้อ โซนี่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่น CF 480 S ซึ่งตามประวัติศาสตร์ของการขึ้นไลน์ผลิต โซนี่ คอปเปอเรชั่น บอกเอาไว้ว่า มันเริ่มต้นเมื่อปี คศ 1976 หรือปี พศ 2519 ครับ

    แต่กว่าจะเข้ามาสู่เมืองไทย โดยทหารเรือหิ้วมาขายหรือโดยของหนีภาษีก็ในปี 2520 อย่างของที่บ้านผมที่ซื้อมาก็อยู่ในเดือนพฤศจิกายน 2520 เช่นกัน

    ของที่บ้านผมนั้นเมื่อซื้อมา เขาจะมีเทปเปล่าแถมมาให้ด้วย 1 ม้วนยี่ห้อ Basf ซึ่งก็คอยเอาไว้อัดรายการวิทยุโปรด แต่จำได้ว่าตอนนั้นที่ได้เครื่องมา จำนวนของเทปคาสเซ็ตที่เป็นงานเพลงก็ไม่ได้เยอะอะไร

    แผนกเครื่องเสียงและแผ่นเสียงของเซนทรัลเทรดดิ้งหรือเซนทรัล วังบูรพานั้นจำหน่ายหนักไปทางแผ่นเสียงลองเพลย์ครับ เพราะเสียงที่ออกจากแผ่นนั้นไพเราะกว่ามาจากเทปเยอะ

    แถมเครื่องเล่นแผ่นตอนนั้น ส่วนใหญ่ก็เป็นแบบ All In One คือมีเครื่องเล่นแผ่นอยู่ด้านบน ส่วนด้านหน้าเป็นเครื่องเล่นวิทยุ เรียกว่าอยากฟังแผ่นก็ฟังได้ อยากฟังวิทยุก็ฟังได้

    ขณะที่เทปคาสเซ็ตต์เริ่มเข้ามาเป็นที่แพร่หลายแทนที่เครื่องเล่นแผ่นเสียงในเมืองไทยกันจริงๆ ก็ราวๆ ปี พศ.2518 – 2519 ช่วงเวลาที่หนังดังของเปี๊ยก โปสเตอร์

    อย่างวัยอลวน รักอุตลุต นำพาบทเพลงของชัยรัตน์ และสุภาพร เทียบเทียมขึ้นมาฮิตด้วยเพลง น่ารัก ชู้วับชู้วับ ฯลฯ ตามมาด้วยปี 2520

    ซึ่งเทปคาสเซ็ตต์ก็แพร่หลายมากขึ้นจากงานโฟล์คซองคำเมืองของ จรัล มโนเพ็ชร และเทปคาสเซ็ตต์มาติดรถดังไปทั่วบ้านทั่วเมืองจริงๆ ก็มาจากอัลบั้มลูกทุ่งดิสโก้ของแกรนด์เอ๊กซ์ที่ออกมาในปี 2522

    ในช่วงเวลานี้เองที่เพลงใต้ดินของนักศึกษาที่เข้าป่าไปตั้งแต่ปี 2519 ก็เริ่มมีมาวางขายกันเงียบๆ เทปเพลงฝรั่งของพีค็อกกับโฟร์แทร็กก็เริ่มกันในช่วงเวลาใกล้ๆ เคียงกันนี้

    หลังจากนั้นไม่นานก็เป็นช่วงเวลาทองของเทปคาสเซ็ตต์ และแผ่นลองเพลย์ทั้งหลายก็หายไปจากตลาดกลายเป็นของคลาสสิกในเวลาต่อมา

    เพราะเหตุการณ์ของเรื่องเครื่องเล่นเทปในบ้านเรามันเป็นอย่างนี้แล้ว ผมก็เลยไม่ชัวร์ว่าที่ปลาบู่บอกให้พ่อไปซื้อเทปมาอัดนั้น แกจะซื้อเทปรีลมาอัดหรือย่างไร

    คือถ้าอย่างงั้นมันก็แพงสุดๆ ไปเลย ซึ่งดูจากฐานะแล้วไม่น่าเป็นไปได้ อีกอย่างที่เกิดขึ้นจริงในช่วงนั้นก็คือ ถามว่าแล้วตอนนั้นมีการอัดเทปเก็บไว้ได้จริงหรือ

    คำตอบก็คือมี แต่เป็นลักษณะของการไปจ้างบริษัทเขาอัดมากกว่า โดยเราไปเลือกเพลงที่อยากได้ เขาก็จะอัดต่อจากแผ่นเสียงมาอีกทีหนึ่ง

    ข้อสรุปของผมคือ ถ้าปลาบู่จะให้พ่อหิ้วเครื่องมาอัดคำทำนายของแกกันนั้น ปลาบู่ต้องตายช้ากว่าเวลาที่พ่อว่าไว้อีกซัก 4 ปีครับ !!

    ความคลาดเคลือนนี้ จึงนำไปสู่ความน่าสงสัยในเรื่องที่เขาบอกว่า ปลาบู่แกทายถูกหมดเรื่องเครื่องบินชนตึกเวิล์ดเทรดในปี 2544 เรื่องที่จะมีซึนามิเมืองไทย ในปี 2547 เรื่องที่จะมีแผ่นดินไหวใหญ่ในปี 2552 ฯลฯ

    คือถ้าปีและเหตุการณ์ใหญ่ๆ มันแม่นยำขนาดนั้น ทำไมช่วงเวลาที่อ้างอิงเรื่องเทปเหล่านี้ถึงได้คลาดเคลื่อนไปได้

    จริงๆ ผมก็อดจะคิดเหมือนกันไม่ได้ว่า เด็กชายปลาบู่แกมีตัวจริงในโลกหรือเปล่าหรือมันเป็นแค่จินตนาการที่คุณพ่อเขาสร้างขึ้นเพื่อรองรับบางอย่างที่อยู่ในใจของเขา

    ส่วนข้อมูลต่างๆ นั้นก็เกิดมาจากการรับรู้ข่าวสารในช่วงหลังๆ นี่เอง

    ก็เหมือนเรื่อง Beautiful Mind ที่รัสเซล โครว แสดงจนตัวหนังได้ออสการ์นั่นแหล่ะครับ

    ที่จอห์น แนช นักคณิตศาสตร์ผู้เสนอทฤษฏีการค้าใหม่ ให้แก่เศรษฐศาสตร์ของโลก ก็หลอนกับเรื่องตัวเลขและพูดคุยกับบุคคลในห้วงคิด ของเขาอยู่ตลอดเวลา

    แต่สุดท้ายแล้ว บุคคลที่ว่า ก็ไม่มีตัวตนแต่อย่างไร

    ความจริงเรื่องของเด็กชายปลาบู่นี้ จะน่าเชือถือกว่านี้มากถ้าคุณพ่อของเขาไม่เลือกวิธีที่จะทุบเปรี้ยงและฟังธงเป๊ะๆ ว่าจะเกิดเหตุการณ์เมื่อไหร่

    คือถ้าเขาใช้วิธีแบบนอสตราดามั่ว หรือนอสตราดามุส ที่ใช้การทายไปเรื่อยๆ แบบกำกวม

    เหมือนหมอดู ที่ให้ผู้ที่ตั้งใจจะเชื่ออยู่แล้ว เอาไปตีความเข้าข้างเอาเอง มันอาจจะให้ผลต่อสังคม มากกว่าที่เป็นอยู่

    อย่างเรื่องเขื่อนแตกนั้น ถ้าบอกเพียงแค่จะมีมวลน้ำมหาศาลออกมาจากเขื่อนอย่างที่ไม่คาดหมาย จนทำให้เกิดน้ำท่วมบริเวณที่ใต้เขื่อนอย่างมากมาย


    จากนั้นก็ไล่จังหวัดที่เกิดน้ำท่วมมา พร้อมบรรยายถึงสภาพความเสียหาย สภาพที่คนเมืองต้องอพยพหนีน้ำกันจ้าละหวั่น

    แค่นี้เอง เครดิตของปลาบู่ ก็จะพุ่งจู๊ดเป็นจรวดกันทีเดียว คงไม่ต้องมาโดนแจ้งความให้ดำเนินคดีแบบนี้เป็นแน่

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  19. ZE US

    ZE US สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    67
    ค่าพลัง:
    +1
  20. karan20

    karan20 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2010
    โพสต์:
    1,297
    ค่าพลัง:
    +2,379
    ผมเพิ่งจะเข้าใจเจตนาของท่านครับ แต่เมื่อคืนไม่สะดวกตอบเพราะดึกมากแล้ว
    ตอนแรกคิดว่าท่านไม่ได้ศึกษามาก่อน ท่านอาจไม่รู้หรือเข้าใจผิด จึงชี้แจงไปอย่างรวบลัด

    เพิ่งจะเข้าใจว่าท่านเป็นผู้ศึกษามามาก
    ที่ต้องการอธิบายว่ามันไม่มีอยู่ในพระไตรปิฎกต่างหาก

    ผมต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง เป็นความผิดของผมเอง
    เรื่องไม่มีปรากฎในพระไตรปิฎกนั้นผมขอวิเคราะห์ดังนี้

    ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้ครับ
    ความเข้าใจที่อาจคลาดเคลื่อน อันเนื่องมาจากกรณี 'พ่อปลาบู่"



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2012

แชร์หน้านี้

Loading...