รูปหลวงตา กับ มโนยิทธิ ไปกันไม่ได้

ในห้อง 'สมเด็จโต พรหมรังสี' ตั้งกระทู้โดย นราสภา, 11 ธันวาคม 2011.

  1. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ขอสอบถามหน่อยค่ะ

    น้องฝึกมโนยิทธิมาพักนึงเเล้ว

    ใช้การเพ่ง รูปของพระพุธชินราช เป็นกําลัง


    เเต่พอลองเปลี่ยนเป็นรูปของหลวงตาทีไร มักจะจับได้เเต่ ช่วงขา เเละฝาเท้าของท่านเท่านั้น สูงกว่านั้นไปไม่ได้

    เเต่กับรูปอื่น ไม่เกินสิบนาทีก็มาเต็มองค์ เห็นถึงพระพัก กัาลังของฐานจิตนิ่ง สงบ จับ ปรับ เปลี่ยนความชัดเจนใกล้ ไกล ได้ ง้ายกว่ารูปของหลวงตาเยอะ

    เเต่ถ้าเอารูปของหลวงตาเป็นกําลัง มักจะเบลอๆ นานเเค่ไหน นิ่งยังไงก็ไม่ชัด เคยชัดสุดๆ เเต่ก็ทรงได้เเค่เเปปเดี๋ยว ต่างกับรูปพระพุธชินราช เยอะมาก



    เป็นเพราะอะไรค่ะ
     
  2. Phanudet

    Phanudet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    8,434
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +15,646
    บอกแล้วจะเชื่อไม....ปกติไม่ค่อยรับความคิดเห็นใครเลยไม่ใช่เหรอ....
     
  3. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    น้านนนนนนนนนนนนนนน น้าโดดเอาเข้าเเล้ว

    น้องเนี้ยนะ ไม่รับความคิดของใคร
    ถ้าเห็นต่าง เเละโต้เเย้งกันด้วยเหตุเเละผล เนี้ย นะไม่เเน่มีบ่อยๆไป
    เเต่ถ้าน้าโดด บอกว่า ไม่รับความคิดใคร คง ไม่ใช้อย่างนั้นหลอกเจ้าค่ะ
    ลอง เปิด อ่านโพส เก่าๆดูก็ได้ อะไรทีมีคนเเจง เเทงได้ตลอด น้องก็รับทุก คําเสนอ หาใช้จะเเย้ง โดยไร้เหตุ ผล ไปกันซะทุกเรื่องเสียเมื่อไร ละค๊าาาาาาาาา

    คุณลุงพานุโดดดดดดดดดดดด ค๊าาาาาาาาาาาาาาาาา


    ปล เเต่ถ้าไปเเย้ง โดนตอใคร อันนี้ก็คงต้องเเล้วเเต่ บุญ เเต่กรรม ของน้องเองเเล้วล่ะ
    เพราะ เกิดไปงัดเอาตอ ใครเขาขึ้นมา ก็ อาจจะไปเพิ่มความหน้าหมั่นใส้ ให้ใครคนนั้น จนเขาตั้งเเง่ ไม่ตอบคําถาม ในสิ่งที่รู้ ไม่ช่วยเจือในสิ่งที่ขาด เเล้วก็เลยทําให้ ไม่ฉลาด เพราะ มานะตน ฮืมมมม ฮืมมมมม ข้อนี้เป็นไปได้

    เเต่น้าโดด คงไม่ใจร้ายใส้ ระกํา เเบบนั้นมั้งงง เพราะ น้องไม่เคยไปเเย้งอะไร ในเเบบที่มันไร้เหตุเเละผล กับน้าโดด เสียยยย เมื่อไรละเนอะ น้าาา โดด ที่ร๊ากกกกกกจ๋า

    (deejai)(deejai)(deejai)(deejai)(deejai)
     
  4. รากแห่งธรรม

    รากแห่งธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    667
    ค่าพลัง:
    +3,173
    ของอย่างนี้มันอยู่ที่ศรัทธา และกำลังใจ ตอนภาวนาตั้งใจที่จะตัดขาดจากร่างกายจริงหรือไม่ มโนยิทธิ ขึ้นกับกำลังใจ ถ้าตอนทำกรรมฐาน คิดไว้ว่า ชีวิตนี้ จะเป็นจะตายก็ขออยู่กับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ กายนี้สังขารนี้ ขอถวายบูชาในพระไตรรัตน อยู่ก็คิดจะทำความดี เพื่อประโยชน์สูงสุดของตนและสาธารณ ตายก็ขอทิ้งสังขารไม่อาลัย กำลังที่จะทำให้เห็นชัดมันอยู่ ตรงนี้ครับ แล้วอีกอย่าง เราอาจจะยังไม่ค่อยคล่อง เอาจิตไปรวมที่ ดวงตา เพราะเป็นการเปลี่ยน กองกรรมฐานใหม่ จากที่เดิมเป็นพุทธนุสติ เปลี่ยนมาเป็นสังฆนุสติ กำลังใจยังไม่แนบแน่นไปกับ กรรมฐานกองนี้ ต้องค่อยวางกำลังใจใหม่ หาจุดที่มันพอดีกับตัวเรา ทำแล้วไม่เครียด อย่าไปอยากเป็นอย่างนั้น อย่างนี้อย่าไปเพ็ง ปล่อยวางอารมณ์ให้มันสบายๆ อย่าเพ็งมากลงไป ลดอารมณืลงมานิดนึง ก็จะดีเอง ยิ่งอยากรู้ อยากเป็นอยากเห็น ก็จะยิ่งไม่เห็นนะครับ ของแบบนี้ สุดท้าย ก็อย่ายึดติดในนิมตใดๆเลย เพราะทุกสิ่งที่เห็นที่เป็นไป ก้เพื่อพระนิพพาน
     
  5. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ขอบคุณในคําตอบเจ้าค่ะ

    เเต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้ว่า ถ้าจะเอาประเด็นเรื่องความศรัทธา มาเป็นผล ในการเพ่ง

    ก็คงไม่ใช้ เพราะถ้าถามกันเเบบจริงๆเเล้ว ระหว่าง พระพุธชินราชที่เห็น กับ หลวงตานั้น น้องก็ยังยันเหมือนเดิมว่า ใกล้ชิด หนิดหนม กับหลวงตามากกว่าอยู่ดี สังเกตุใด้จาก การระลึกถึง เป้นระยะ ในระหว่างวัน ใหนจะคาถา ใหนจะคัาสอนต่างๆ ที่วิ่งไปอ่าน ไปจับมาปฎิบัติ

    ส่วนพระพุธชินราช องค์จริงก็เเถบจะไม่เคยเห้น เคยเจอเเต่ใในรูป ในทีวี
    บนผนังบ้านมีเเต่รูปของ หลวงตา รูปของพระพุธชินราชเก็บไว้ ในลิ้นชัก

    เเล้วทําไม เวลาเพ่งถึงจับได้เเต่ รูปของพระประทาน ท่าน
     
  6. หมี พลเสน

    หมี พลเสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    620
    ค่าพลัง:
    +358
    ผม รอดู ความคิดเห็นครับ แต่ผมจับภาพหลวงตาได้นะ ลองมะกี้ ตอนอ่าน กระทู้คุณครับ
     
  7. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    ผมไม่รู้นะแต่อาจารย์ที่ฝึกมโนยิทธิผม เวลาจะขอเห็นคนอื่น ขอเห็น เท้า กําไข้อเท้า เข็มขัด ที่ขาด และหน้าอักทับสวน และก็ชดา และใบหน้า ถ้าเห็นคนอื่นต้องน้อบนอมขอกราบขอยพระคุณ
     
  8. คนสามตา

    คนสามตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    109
    ค่าพลัง:
    +311
    ลุงตอบแบบไม่มีอะไรนะ...

    ทีจริงใจคุณนั้นมีท่านอยู่เต็มดวงจิตแล้ว
    เพียงแต่การที่จิตนั้นเต็ม จิตก็จะคลายออกจนไม่เหลือ
    เมื่อคุณต้องการให้มีมาปรากฏ ท่านไม่ใช่ไม่มา แต่จิตคุณนั้นมันตัดแบบอนัตตาเสียแล้ว
    เพราะอะไรนั้นหรือ ก็เพราะท่านสอนให้ไปนิพพาน เมื่อจิตตัดเข้าอย่างนี้ก็หาท่านไม่พบ
    ที่ไม่พบคือไม่พบในจิตคุณเอง ทีจริงอย่างนี้ก็ดี คุณก็ระลึกกสินที่ท่านสอนดูนะ
    ความว่าง อากาศ แสงสว่าง สีขาว หากไม่ปรากฏก็ไม่ได้หมายความว่า
    บารมีท่านไม่มาโปรดลูกหลานนะ เพียงแต่ลูกหลานไม่รู้วิธีวางกำลังใจเท่านั้นเอง

    หากเทียบกับพระพุทธชินราช นี้ธรรมดาเลยนะ เพราะสิ่งไม่เคยเห็นนี้จะชัดเจนก่อน
    สิ่งที่เห็นประจำนี้จะหาย เพราะมันจำจนไม่อยากจำแล้ว ไม่ใช่ไม่ดีนะ ดีที่สุดนั้นแหละ

    ลองสังเกตุนิสัยเรา(จริต) เป็นคนที่วางง่ายไหม
    เป็นคนที่โกรธง่ายไหม หรือเป็นคนอย่างไร
    แต่ลุงว่าเราเป็นคนที่สนิทจนลืมคนได้นะ
    ลืมคนนี้ คือ ไม่ยึดติดคนไง ไม่ใช่ลืมบุญคุณคนนะ
    จิตมันพยายามตัดวาง ปล่อยวาง ละอัตตานะ
    ลุงว่าทำดีแล้ว ก็ลองเปลี่ยนเป็นกสินอย่างที่ท่านพ่อสอนนะ
    ลุงก็พูดไปงั้นๆนะ ไม่รู้ว่าพอจะช่วยเตือนคุณได้ไหม
    ยังไงก็ขอให้ฝึกอย่างมีสติ อย่าให้ไหล ลึก ติดนานนะ


    ลุงสามตา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 ธันวาคม 2011
  9. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    ขอบคุณทุก ทุก ความคิดเห็นทีเข้ามาสอนสั่ง

    ขอให้อนิสงค์ของ การให้ธรรมเป็นทาน จงกลับไปเป็นกําลัง ของสติ เเละปัญญาเเด่ ทุก ๆท่านด้วยจ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาาา
     
  10. พี่บู

    พี่บู Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    44
    ค่าพลัง:
    +78
    นี่เลยตัวอย่างที่เรียกกันว่า "จิตอุปทาน"

    หมายความว่า จิตบันทึกว่ายังมี จึงเห็น และจิตบันทึกว่า ไม่มีแล้ว จึงไม่เห็น

    แสดงให้เห็นว่า ความเชื่อหรือความเห็น สร้างสิ่งต่างๆได้
     
  11. โพธิ์แก้ว

    โพธิ์แก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    362
    ค่าพลัง:
    +440
    สงสัยว่า.....ในเมื่อมีรูปนิมิตที่ดีอยู่แล้ว จะเปลี่ยนทำไมล่ะครับ

    อย่าลืมนะครับ นิมิต หรือ องค์ภาวนา หรือภาพกสิณ .......เป็นเพียงอุบายให้จิตสงบเท่านั้น

    เมื่อจิตสงบแล้วก็ควรจะไปต่อในขั้นต่อๆไปดีกว่าครับ
     
  12. jate2029

    jate2029 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    391
    ค่าพลัง:
    +729
    ผมผ่าน มาโดย สมถะ แล้วมา กสิน ปัจจุบัน ใช้ภาพสมเด็จองค์ปฐมต้นปางเปิดโลก เป็นภาพนิมิตรกสิน ที่จับไว้ในใจตลอดเวลา ไว้ว่าจะ นั่ง นอน ยืน พูดคุย ขับรถ ทุกอย่างครับ เหมือนหลวงพ่อบอกว่า วันไหนไม่ได้เห็นพระพุทธเจ้า วันนั้นขอตายดีกว่า แต่ทุกวันนี้ ไม่หิว มีใครเอามาให้ก็กิน ไม่มีก็ไม่สนใจหากิน เวลานอน กายหลับ แต่จิตตื่นมีความรู้สึกตลอดคืน คล้ายโรคนอนไม่หลับ แต่กลับไม่รู้สึก ง่วง หรือ เพลียในเวลาทำงานตอนกลางวัน ตั้งแต่ประสมเด็จองค์ปฐมกลายเป็นแก้วระยิบระยับ พาให้จิตสว่างใสว ไปด้วยตลอดเวลาเลยครับ
     
  13. ดาราจักร

    ดาราจักร ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    1,707
    ค่าพลัง:
    +10,092
    ยังมี วิจิกิจฉา เลยไม่เป็นสมาธิ จะไปได้ไงครับ
     
  14. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    น้องยังไม่ได้ไปไหน เลยนะจ๊ะ

    ยังไม่ได้ ขึ้นไปที่ไหนมาเลยสักที่ เเค่สอบถามดู เเล้วก็นําไป ปฎิบัติ ดูนะจ๊ะ

    ตรงใหนน๊าาา ที่ทําให้พี่ ดารา ว่าน้องไป ไหนมา


    ส่วนเรื่องของ วิจิ เนี้ยยยยยย
    ตรงใหน ที่ ทําให้พี่คิดว่าน้อง ไม่เชื่อหรือ

    ความสงสัยในธรรม ๘ ประการ
    ๑. สงสัยในพระพุทธเจ้า (ว่าพระพุทธเจ้ามีตัวตนจริงหรือ พระพุทธเจ้ามีพระพุทธคุณจริงหรือ)
    ๒. สงสัยในพระธรรม (ว่ามัคค ๔ ผล ๔ นิพพาน ๑ มีจริงหรือ พระธรรมนี้จะนำให้ออกจากทุกข์ได้จริงหรือ)
    ๓. สงสัยในพระอริยะสงฆ์ (ว่ามีจริงหรือ ผลแห่งทานที่ถวายแก่สงฆ์มีจริงหรือ)
    ๔. สงสัยในสิกขาบท คือ สีล สมาธิ ปัญญา ว่ามีจริงหรือ ผลานิสงส์แห่งการศึกษาปฏิบัติในสิกขา ๓ มีจริงหรือ
    ๕. สงสัยชาติที่แล้วมีจริงหรือ
    ๖. สงสัยว่าชาติหน้ามีจริงหรือ
    ๗. สงสัยว่าชาติที่แล้วและชาติหน้ามีจริงหรือ
    ๘. สงสัยในปฏิจจสมุปปาทธรรม คือธรรมที่เป็นเหตุเป็นผลอาศัยกันเกิดขึ้นต่อเนื่องกันไปโดยไม่ขาดสายเลยนั้นมีจริงหรือ
    ส่วนความสงสัยอื่น ที่ไม่ใช่ธรรม ๘ ประการดังกล่าวแล้ว ไม่ใช่กิเลส ไม่จัดเป็นวิจิกิจฉา

    ปฏิจจสมุปปาทธรรม ๑๒ องค์
    ๑. อวิชชา เป็นปัจจัยให้เกิด สังขาร
    ๒. สังขาร เป็นปัจจัยให้เกิด วิญญาณ
    ๓. วิญญาณ เป็นปัจจัยให้เกิด นามรูป
    ๔. นามรูป เป็นปัจจัยให้เกิด อายตนะ ๖
    ๕. อายตนะ ๖ เป็นปัจจัยให้เกิด ผัสสะ
    ๖. ผัสสะ เป็นปัจจัยให้เกิด เวทนา
    ๗. เวทนา เป็นปัจจัยให้เกิด ตัณหา
    ๘. ตัณหา เป็นปัจจัยให้เกิด อุปาทาน
    ๙. อุปาทาน เป็นปัจจัยให้เกิด ภพ
    ๑๐. ภพ เป็นปัจจัยให้เกิด ชาติ
    ๑๑. ชาติ เป็นปัจจัยให้เกิด ชรา มรณะ
    ๑๒. ชรา มรณะเกิดขึ้นแล้ว โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัสสะ อุปายาสะ ย่อมเกิดตามมาด้วย
    อกุสลกรรมบถ

    อกุสลกรรมบถ คือ ทางแห่งการทำบาปมี ๑๐ เรียก อกุสลกรรมบถ ๑๐ หรือ ทุจจริต ๑๐ ได้แก่
    ๑. ปาณาติบาต ฆ่าสัตว์
    ๒. อทินนาทาน ลักทรัพย์ เป็นกายกรรม ๓
    ๓. กาเมสุมิจฉาจาร ล่วงประเวณี หรือกายทุจจริต ๓
    ๔. มุสาวาท พูดปด
    ๕. ปิสุณาวาท พูดส่อเสียด เป็นวจีกรรม ๔
    ๖. ผรุสวาท พูดคำหยาบ หรือวจีทุจจริต ๔
    ๗. สัมผัปปลาป พูดเพ้อเจ้อไร้สาระ
    ๘. อภิชฌา ความเพ่งเล็งอยากได้
    ๙. พยาบาท คิดปองร้ายเขา เป็นมโนกรรม ๓
    ๑๐. มิจฉาทิฏฐิ มีความเห็นผิด หรือมโนทุจจริต ๓


    เเต่ถ้าเป็นคํา ของมนุษ ด้วยกันเเล้ว ก็ต้องขออภัย
    เพราะ น้องไม่ฟังคํา ของ มนุษด้วยกัน สักเท่าไร

    เเต่ถ้าเป็น หลักคําสอนที่ ตามข้างบน นั้น น้องเชื่อค่ะ


    ว่าเเต่อะไรน๊าาาา ที่ทําให้พี่ ดารา ว่าน้องยังไม่รู้ใน วิจิกิจฉา
    ไปฟังคําใคร เขามารึปล่าว ว่า นังนี่มัน ดื้ดรั้น ไม่ฟังใคร

    เเต่ถ้า ไม่ได้หูเบาไปฟังใครมา ก็ รบกวนคุณพี่ ดารา ช้วยหาข้อความบางส่วน ของน้องให้ ชม ทีซิ ว่าตรงใหนที่มัน เข้าข่ายของ วิจิกิจฉา บ้าง


    ลองหามาให้ ชม หน่อยจ๊าาาาา
    จะได้นําไปใช้เป็นข้อมูล ปรับปรุงตัวเอง


    เเต่ถ้า คิด ออกมาเองจาก ทิฐิ ส่วนตัว อันนั้นก็ เก็บไว้ ประเมินตนเองดีกว่า
    เพราะ นั้น มันเป็น ทิฐิ ส่วนตน ที่ มีสิ่งอื่นมันมาปรุงเพิ่ม จน เกิดเป็น อคติ ส่วนตน
    พลอยหลงไปกับเขาว่า มันเป็นเช่นนั้น มันเป็นเช่นนี้ หลงไปเพราะ ปัญญา ตน ที่ ยังไม่ถึงพร้อม ในการลงไปตัดสินใจ ยิ่งเป็นเรื่องของผู้ อื่นด้วยเเล้ว ยิ่งต้องระวังให้มากขึ้น น่ะเจ้าค๊าาาาาาาาาา

    เหมือนคําพระ ท่านว่า ว่าเขาเช่นไร เรานั้น ยิ่งกว่านั้นไปเยอะ


    เจริญในธรรม ที่ พึง เจริญ จ๊าาาาาาาาาาาาาาา
     
  15. นราสภา

    นราสภา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,961
    ค่าพลัง:
    +356
    เหตุ ที่น้องว่าไปกันไม่ได้นั้น


    เหตุที่น้องว่าไปกันไม่ได้นั้น

    ในความเห็นส่วนตัวเเล้ว น้องว่าน้องคงติด กับ ภาพเดิมมากกว่า
    ขนาดภาพเดิมยังไม่ไปใหน ได้เเต่กําลัง ฌาณ ให้พอเย็นใจ

    ส่วนภาพของ หลวงตานั้น น้องว่าเป็นเฉพาะ น้องคนเดียวก็อาจจะเป็นได้

    ลองนึกภาพ พระพุธรูป ดู
    มันต่างกับภาพ บุคคล เยอะอยู่
    เพราะภาพบุคคล มันเหมือนเราไปติดในรายละเอียด เเต่ทีเเรก
    พยายามเพ่งไปที่ ลายละเอียดส่วนประกอบ เหมือนมันต้องนึกให้ได้ถึง รอยย่น รอยหยัก ต่างๆบนหน้าของหลวงตาท่าน

    มันก็เลยดูยากกว่า

    น้องว่ามันต้องไปติดอยู่ ตรงนั้นเป้นเเน่เลย

    อย่างพระพุธรูปนั้น เรานึกเเค่องค์ประกอบ คราวๆ ตรงนั้น ตรงนี้ มันก็มีความต่างใน องค์ เเล้ว

    เเต่กลับภาพของหลวงตา กลัวจะไปนึกผิด เพ่งไป เพ่งมา เปลี่ยนเป็น หลวงพ่อ ฤาษี ไปซะงั้น

    ความกลัวตรงที่ว่า เดี๋ยวผิดองค์ นี่เเหล่ะ ที่มันมาหลอกใจตัวเอง



    อาจจะเป้นเเบบนี้ก็ได้

    :':)':)':)':)'(
     
  16. ekkapon.ch

    ekkapon.ch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +257
    การทำสมาธิหลักใหญ่สำคัญเพื่อความสงบทางใจ แต่ว่าตอนนี้ใจเราไม่สงบก็เลยตั้งทำให้ใจสงบ เบื้องต้น ก็ควรจะเป็นการรู้ลมหายใจเสียก่อน และกำหนดที่ตั้งของใจโดยใช้ลมเข้าและลมออก เพื่อหาที่ตั้งของใจ(ลมหาใจ) โดยการสูดลมเข้าจนสุดๆตรงไหนนั่นคือที่ตั้งของใจ แล้วกำหนดภาพขึ้นมาอย่างเช่น เราใช้ นะมะพะธะ เราก็กำหนดรูปอักษรขึ้นมา พร้อมกับเปล่งเสียงคำภาวนาใช้ความรู้สึกกำหนดเสียงออกมาจากใจไปทีละคำ เมื่อรูปอักษรทรงตัวแล้วเราค่อยเปลี่ยนรูปอักษรเป็นรูปพระแทน
     

แชร์หน้านี้

Loading...