{{หลวงพ่อคูณ257}}ศึกษาพระสมเด็จ/เบญจภาคีองค์ครู26ขุนแผนพรายกุมาร4ลพ.พรหม68พ่อท่านคลิ้ง105

ขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ทุกคนมากๆ ครับ
ผมรู้สึกมีความสุขมากที่ได้อยู่ในเวปนี้อย่่างอบอุ่น
มีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์
กับหลายท่านที่ช่วยให้การศึกษาพระเครื่องสนุกขึ้น
ได้มีโอกาสเห็น "ของรัก". ทั้งพระและเครื่องราง
สวยๆงามๆ มากมาย

ในโอกาสที่กระทู้ ซึ่งเพิ่งจะตั้งเมื่อตอนปีใหม่
ได้ฉลอง 200,000view ในเวลาอันสั้น

และในฐานะนักสะสมพระเครื่องผู้ชื่นชอบการสะสมพระเหมือนกัน
จึงอยากทราบว่าพระองค์ไหนคือพระในดวงใจของท่าน
หรือพระเครื่องที่สะสมองค์ใดถือเป็นความภูมิใจของท่าน
หรือพระองค์ใดที่ท่านใช้แล้วมีประสบการณ์
ขอความกรุณานำมาลงให้เพื่อนๆนักสะสมได้ชมเป็นขวัญตาหน่อยครับ
ถือเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้และแบ่งปันประสบการณ์ครับ

ในระหว่างนี้ ผมจะพยายามจัดทำสารบัญเนื้อหาในกระทู้
เพื่อความสะดวกในการค้นหาข้อมูลครับ

เปิดศักราชใหม่ ปี ๒๕๕๕
ขออนุญาตเปิดกระทู้ใหม่และขอเชิญเพื่อนนักสะสมทุกๆท่าน
ร่วมแสดงรูปพระและเครื่องรางทีท่านสะสม
ไม่ว่าเก่าหรือใหม่ พระกรุ หรือพระเกจิคณาจารย์ เสือ สิงห์ ลิง แพะ
ตะกรุด ลูกอม ฯลฯ
พร้อมแสดงประวัติ และวิธีการพิจารณาแท้-เก๊ (หากจะกรุณา)
เพื่อเป็นสร้างทางเลือกในการสะสมตามความชอบของแต่ละท่าน
และเป็นข้อมูลพื้นฐานในการพิจารณาพระประเภทนั้นๆ แก่เพื่อนนักสะสมทั้งหลายครับ
ปล. ข้อมูลทั้งหลาย รวมทั้งตำหนิ ที่มีการแบ่งปันข้อมูลกันนั้น
เป็นส่วนประกอบหนึ่งในการพิจารณาเท่านั้น งานเก๊ฝีมือดีก็อาจมีตำหนิแบบเดียวกัน ตามอาศัยการดูองค์ประกอบอื่นด้วยในการพิจารณา เช่น ความเก่า เนื้อพระและกรรมวิธีการสร้าง เป็นต้น


*ขอบคุณ คุณ Captainzire สำหรับข้อมูลสมเด็จเกศไชโยและพระนางพญา ประกอบภาพพระแท้องค์ครู ที่นำมาให้ศึกษาเปรียบเทียบจนครบทุกพิมพ์ครับ

* กระทู้นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ความรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์เท่านั้น ไม่มีวัตถุประสงค์ใดๆ ในเชิงพาณิชย์

* ขอขอบพระคุณ เจ้าของพระทุกองค์ และเจ้าของข้อมูลทั้งหลาย ที่ถือเป็นครูบาอาจารย์ของผมครับ

สารบัญชั่วคราวครับ
ขุนแผนพรายกุมาร ลป. ทิม หน้า 4
สมเด็จเกศไชโย หน้า 26
ลพ. พรหม วัดช่องแค ชุดทองระฆัง หน้า 68
พ่อท่านคลิ้ง หน้า 105
หลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน หน้า 179
เหรียญเจ้าสัว 2 หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว หน้า 218
หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค หน้า 219
หลวงพ่อทบ วัดพุทธบาทชนแดน หน้า 232
หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ หน้า 257

 

หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค จังหวัดนครสวรรค์



หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค จังหวัดนครสวรรค์<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
เกิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2427 อำเภอมหาราช จังหวัดอยุธยา มรณภาพเมื่อวันที่ 30 มกราคม 2518 สิริอายุ 90 ปี 71 พรรษา หลังจากมรณภาพแล้วศพไม่เน่าเปื่อย สิ่งที่ปรากฏเป็นอัศจรรย์ต่อพุทธศาสนิกชน คือ เส้นผม เล็บ หนวดเคราของหลวงพ่อ งอกยาวขึ้นหลังจากที่หลวงพ่อมรณภาพไปแล้วอีก<o></o>
หลวงพ่อพรหมเริ่มศึกษาวิชาไสยศาสตร์และคาถาอาคมกับอาจารย์ที่เป็นฆราวาส ชื่ออาจารย์พ่วง ต่อมาเมื่ออุปสมบทแล้วจึงได้ศึกษาอสุภกรรมฐาน สมถะกรรมฐาน วิปัสสนา จากหลวงพ่อดำ ต่อมา อาจารย์พ่วง ได้พาไปฝากอาจารย์ปู่วอน จากนั้นหลวงพ่อพรหม ก็ไม่ได้ไปศึกษากับอาจารย์ท่านใดโดยตรงมีแต่ศึกษาแลกเปลี่ยนวิชากับอาจารย์รุ่นพี่และรุ่นเดียวกันในระหว่างธุดงค์ เช่น หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ เป็นต้น <o></o>
หลวงพ่อพรหมเป็นพระที่ชอบเดินธุดงค์ โดยหลวงพ่อเคยเดินธุดงค์ไปประเทศพม่าถึงเมืองย่างกุ้ง และได้มีโอกาสที่มนัสการพระเจดีย์ชะเวดากอง และเดินธุดงค์ผ่านทางด่านเจดีย์สามองค์ ผ่านเทือกเขาน้อยใหญ่ และธุดงค์อยู่ในประเทศพม่าเป็นเวลานาน จึงเดินทางกลับประเทศไทยทางด่านแม่ละเมา จ.ตาก และเดินเรื่อยๆไปจนถึงเขาช่องแค ต.พรหมนิมิตร อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เกิดฝนตกหนัก หลวงพ่อได้หลบเข้าไปอยู่ในถ้ำซึ่งเป็นถ้ำเล็กๆ ซึ่งเป็นสถานที่ที่หลวงพ่อเห็นว่าเป็นที่วิเวกเหมาะแก่การบำเพ็ญธรรม ต่อมาชาวบ้านในแถวนั้นซึ่งมีความนับถือเลื่อมใสหลวงพ่อได้นิมนต์ให้หลวงพ่อลงมาจำพรรษาข้างล่าง คือวัดช่องแคในปัจจุบัน หลวงพ่อพรหมจึงเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดช่องแค หลวงพ่อพรหมได้เริ่มต้นสร้างวัดจากวัดที่รกร้างไม่มีเสนาสนะใดๆ มาเป็นวัดที่มีกุฏิ ศาลาการเปรียญ โรงครัว จากการขายสมบัติส่วนตัวและมรดกของหลวงพ่อเอง รวมทั้งชาวบ้านที่ศรัทธาบริจาคที่ดินเพิ่ม<o></o>
หลวงพ่อพรหม ชอบระฆัง การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อจึงมีรูประฆังและกลายเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของหลวงพ่อพรหม ทั้งนี้ เนื่องจากหลวงพ่อประทับใจในระฆังใบใหญ่ที่หมุนรอบตนเองได้ ซึ่งพบเมื่อครั้งธุดงค์ไปประเทศพม่า หลวงพ่อเคยคิดสร้างระฆังใบใหญ่ จึงได้รวบรวมโลหะหลายชนิดเช่น ถาดทองเหลือง เครื่องเงิน ทัพพี ขันลงหิน รวมทั้งทองคำก้อนโบราณที่ชาวบ้านขุดพบ (ทองเปอร์เซ็นต์ต่ำ สันนิษฐานว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระโบราณ) แต่เนื่องจากโลหะแต่ละชนิดมีจุดหลอมเหลวไม่เท่ากัน จึงไม่เป็นเนื้อเดียวกันนัก จึงไม่สามารถหล่อสำเร็จ จนต้องล้มเลิกและเก็บโลหะดังกล่าวไว้ในโรงโขน ต่อมา พ.ศ. ๒๕๑๖ คณะกรรมการวัดจึงขอนำไปทำวัตถุมงคล รุ่นเสาร์ห้า ปี ๒๕๑๖ อันเป็นที่มาของพระเนื้อทองระฆังอันลือลั่นและเป็นเอกลักษณ์ของท่าน <o></o>

 

หลวงพ่อพรหมไม่เคยย้ายไปอยู่วัดใดเลยตลอดระยะเวลา 58 ปี โดยที่หลวงพ่อได้ลาออกจากเจ้าอาวาสเมื่อปี 2514 รวมเวลาที่เป็นเจ้าอาวาสวัดช่องแค 54 ปี เพื่อให้พระปลัดแบงค์ ธมมวโร เป็นเจ้าอาวาสสืบแทน <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o> </o>

 

หลวงพ่อพรหมพิมพ์เข่ากว้าง หลังเตารีด เนื้อทองระฆัง พิธีเสาร์ห้า พ.ศ .๒๕๑๖



รูปเหมือนปั้มหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์ พิมพ์เข่ากว้าง หลังเตารีด เนื้อทองระฆัง พิธีเสาร์ห้า พ.ศ .๒๕๑๖(พระรุ่นนี้มีปริมาณการสร้างเพียง ๒,๐๐๐ องค์เท่านั้น)
การพิจารณาพระเนื้อทองระฆังนั้น ให้พิจารณาที่เนื้อพระก่อนเป็นสำคัญ โดยปกติ เนื่องจากพระมีส่วนผสมของโลหะหลายชนิด เมื่อส่องกล้องดูผิวจะไม่เรียบเนียน เนื่องจากโลหะไม่กินกันร้อยเปอร์เซ็นต์ทำให้ง่ายต่อการพิจารณา (หากเคยเห็นของแท้) จะแตกต่างจากพระเก๊ที่ทำจากทองเหลืองที่ผิวมันเรียบเนียนเหมือนแจกัน โดยปกติพระจะไม่เป็นสีเดียวกันทั้งองค์เพราะเป็นทองผสมโลหะต่างๆ จะมีเนื้อหลักสองประเภท คือ เนื้อแก่ระฆังเก่า (สีจะออกเหลืองเข้มอมน้ำตาล) และเนื้อแก่ทอง (สีจะออกเหลืองอ่อนกว่า มีน้ำทองกระจายบนผิวพระ) <O></O>
เนื้อพระรุ่นนี้ค่อนข้างแข็งมาก ในกรรมวิธีการปั้ม จึงทำให้เกิดรอยรานบนผิวพระ (ให้ดูธรรมชาติของการราน) และมีพระจำนวนไม่น้อยที่ปีก รอบองค์หลวงพ่อมีรอยแตก องค์ที่แตกมากๆ ก็จะถูกตัดออก เป็นพิมพ์เข่ากว้างหลังเรียบแทน (ตัดชิดองค์หลวงพ่อ) <O></O>
ตำหนิ – จะมีเนื้อเกินที่ตาข้างซ้าย, มีรอยพาดเล็กๆ กลางริมฝีปากบน, ยันต์บนสังฆาฏิ ปลายอักขระ “ตัวอุณาโลม” ตัวซ้ายมือสุดของหลวงพ่อ มีเส้นขนานคู่กันในแนวตั้ง และปลายหางอักขระ “ตัวภะ” ที่อยู่กลางตัวอุณาโลม มีเส้นเกินเป็นปากตะขาบ, คำว่า “หลวงพ่อพรหม” ในตัว “ว” จะมีขีดขวางในร่องเส้น และไม้เอกจะมีลักษณะกลม<O></O>
ข้อสังเกต พระหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค คือ ก่อน พ.ศ. ๒๕๑๖ หลังวัตถุมงคลของท่านจะใช้ยันต์นวะหรคุณ ๙ มาโดยตลอด (อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ) เน้นคงกระพัน มหาอุด เป็นหลัก แต่หลังปีดังกล่าว ท่านเปลี่ยนมาใช้ ยันต์พุทธคุณนาม ๑๐ เติม อะ ลงไปอีกหนึ่งตัว (อะ สัง วิ สุ โล อะ ปุ สะ พุ ภะ) ซึ่งหลวงพ่อพูดว่า “ข้าลงให้หมดทุกอย่าง มหาอุด ยิงไม่ออก คงกระพัน ฟันไม่เข้า เมตตามหานิยม ซื้อง่ายขายคล่อง ลงไม่ได้อยู่อย่างเดียวคือ ........ กันคนอิจฉาริษยาไม่ได้ เพราะไม่มีคาถาห้ามปากคน” <O></O>

 

(ขออนุญาตโชว์ขอเก๊นะครับ)
อิ้นงาแกะเครื่องรางทางเหนือที่ใช้ดีด้านเมตตาครับ
แต่ชิ้นนี้งานฝีมือ บิ้วผิวมาครับ ขนาดเล็กพอๆกับเหรียญบาท ผมได้แต่เก็บไว้เป็นครู ชิ้นงานเครื่องรางเก๊ครับ หากเจอเนื้อและลักษณะผิวแบบนี้หนีให้ไกลเลยครับ

 

ต้องขอบคุณ คุณ BlueBlur ที่เข้ามาแบ่งปันประสบการณ์
แม้เป็นของเก๊ ก็สามารถนำมาให้ความรู้แก่เพื่อนนักสะสมได้ครับ
อิ้นเป็นเครื่องรางของทางเหนือ เน้นเมตตามหานิยมเป็นหลัก
มีการสร้างจากวัสดุหลายชนิด อย่างไรก็ตาม
กรณีการพิจารณาวัตถุมงคลที่สร้างด้วยงานั้น หากเป็นงาเก่าจริงๆ
เนื้อจะฉ่ำและมักมีรอยแตกราน สีจะไม่เสมอเท่ากันทั้งอัน
ผิวก็จะไม่มันวาวเหมือนพลาสติก

 

เหรียญระฆัง สช. พ.ศ.๒๕๑๓ หลวงพ่อพรหม



เหรียญระฆัง สช. หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค นครสวรรค์ พ.ศ.๒๕๑๓<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
จำนวนสร้าง ประมาณ ๑๐,๐๐๐ เหรียญ มีเนื้ออัลปาก้าเพียงเนื้อเดียวเท่านั้น <o></o>
เหรียญรุ่นนี้มีลักษณะพิเศษ ต่างจากเหรียญรุ่นอื่น ๆ คือ ด้านหน้าเป็นรูปหลวงพ่อพรหมนั่งมารวิชัย ซึ่งเหรียญรุ่น อื่น ๆ เป็นรูปหลวงพ่อท่านนั่งสมาธิทั้งสิ้น ด้านหลังของเหรียญ ยังคงเป็นยันต์ ๙ (อยู่ในตารางเก้าช่อง) ส่วนพระรุ่นหลังๆ จะเป็นยันต์ ๑๐ มีสิบช่อง เพิ่ม “อะ” ในแถวกลางอีกหนึ่งช่อง (ด้านหน้ามีบล็อกเดียว แต่ด้านหลังมีสองบล็อก คือ บล็อก ส.ช. สั้น กับบล็อก ส.ช. ยาว (ปลายหาง ช จะติดกับยันต์ ซึ่งมีน้อยกว่าเป็นบล็อกนิยม) <o></o>
เหรียญรูประฆัง ส.ช. คำว่า “ ส.ช.” ที่อยู่ด้านหลังเหรียญ เป็นชื่อย่อของผู้จัดสร้างเหรียญรุ่นนี้ คือ พลโทสมุทร ชาตินันท์ สร้างแล้วนำมาให้หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค จ.นครสวรรค์ ปลุกเสกให้ประมาณ ๒ เดือน โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อนำไปแจกทหารที่อาสาสมัครไปในราชการสงครามเวียดนามใต้ แจกให้ฟรี ๆ ไม่มีการจัดจำหน่ายที่วัด ฉะนั้นเหรียญรุ่นนี้ส่วนใหญ่จึงแพร่หลายอยู่ในทหาร พุทธคุณใช้ดีทางแคล้วคลาด และด้านคงกระพันชาตรีสูง บางรายถูกยิงจนเสื้อขาดแต่ไม่เข้า (คงกระพัน)<o></o>
ตำหนิ – ของให้พิจารณาหลักการเบื้องต้นเหมือนเหรียญปั้มทั่วไป คือ ธรรมชาติของการปั้มก่อน มีรอยเสี้ยนสาดไปทั่วบริเวณผิวเหรียญ ตำหนิต่างๆ มีลักษณะของเส้นที่เรียวเล็กและคม เช่น เล้นเกินจากบล็อกเป็นเส้นสั้นๆ บริเวณข้างศรีษะหลวงพ่อพรหมด้านซ้าย, เส้นเฉียงจากข้างศรีษะส่วนบนด้านขวาไปสุดที่ขอบบังคับ, มีเส้นพิมพ์แตกบริเวณเหนือบ่าข้างซ้ายและใต้พระเพลาข้างขวา (หน้าแข้ง), คำว่า “หลวงพ่อพรหมวัดช่องแค” ปรากฏเส้นเฉียงว่งจากขอบผ่านหัวตัว “ ห ” ไปสุดที่กลีบบัว และมีเส้นเฉียงจากตัว “ ร ” ไปสุดที่กลีบบัวกลีบที่อยู่กึ่งกลางของเหรียญ
องค์นี้ภาพถ่ายอาจจะไม่ชัดนัก จึงแสดงรายละเอียดได้ไม่ครบถ้วน ต้องขออภัยด้วยครับ
<o> </o>


<o></o>

 

เหรียญระฆัง สช. (สั้น) พ.ศ.๒๕๑๓ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค

องค์ที่ลงเป็นพิมพ์ สช. สั้นครับ หางตัว ช ไม่ชนยันต์
นี่เป็นภาพด้านหลังครับ

 

หลวงพ่อพรหม ใกล้บ้านผมครับแต่หายากจริงๆ ตอนนี้เข้ามาชมก่อนครับ

 

ถึงจะเก๊แต่ก็ต้องขอขอบคุณครับ ที่แชร์กัน

 

ต้องขอบคุณ คุณโอ๋สะพาน ที่ให้เกียรติมาแวะเยี่ยมเยือนครับ
หวังว่าโอกาสหน้าจะนำวัตถุมงคลต่างๆ ที่สะสมไว้ มาแชร์ในกระทู้นี้บ้างนะครับ

 

เหรียญรูปไข่ ครั้งที่สอง ปี ๒๕๑๕ บล็อคตื้น (หน้าหนุ่ม)



เป็นพระอีกรุ่นหนึ่งของ ลพ.พรหม ที่ราคายังไม่สูงนัก
จัดสร้างจำนวน ๕,๐๐๐ เหรียญ มีเนื้อทองแดงเท่านั้น
มีสองบล็อค คือ บล็อคลึกกับบล็อคตื้น
เป็นเหรียญปั้มหูในตัว
ลักษณะพิเศษที่ควรพิจารณา คือ ผิวของเหรียญจะไม่เนียนเรียบรื่น
แต่จะมีลักษณะขรุขระเล็กน้อย คล้ายเปลือกส้ม โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นผิวด้านหลัง ต้องขออภัยที่ภาพไม่ชัดและมิได้ถ่ายด้านหลังเอาไว้ครับ

 

เป็นเกียรติครับ แล้วจะนำมาแชร์ครับ คุณ Amuletism

 

หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ จังหวัดสมุทรสงคราม



ท่านเกิดเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ.2405 ณ บ้านตำบลบางกุ้ง อำเภอบางคนที มรณภาพวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2505 สิริอายุได้ 100 ปี พรรษาที่ 78<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีลูกศิษย์มากมาย ท่านได้เคยสร้างพระไว้หลายอย่าง ทั้งเหรียญและพระหล่อ เช่น เหรียญงบน้ำอ้อย (หรือเหรียญอริยสัจ รุ่นแรก จะเป็นเหรียญกลม หูเชื่อม ด้านหน้า เป็นรูปกลีบบัวบาน มีอักขระขอมกำกับแต่ละกลีบ ตรงกลางเป็นหัวใจอริยสัจว่า "ทุ สะ นิ มะ" ด้านหลัง เป็นรูปธรรมจักร ตรงกลางมี "ยันต์เฑาะว์" ถัดมาเป็น "พระปิดตา" วงนอกสุดเป็นอักขระขอมโดยรอบ เหรียญมีลักษณะพิเศษคือไม่มีการจะระบุชื่อของท่าน วัด และปี พ.ศ.ที่สร้าง ดังนั้น ผู้ที่ไม่อยู่ในวงการ) พระปรกใบมะขามเนื้อเมฆพัด และพระหล่อโบราณปางประจำวัน <o></o>
นอกจากพระเครื่องแล้วท่านยังได้สร้างตะกรุดไว้หลายแบบ ที่โดดเด่นมากก็คือตะกรุดปราบทาษามหาระงับ และตะกรุดลูกอม ที่มีทั้งเนื้อทองคำ เนื้อเงิน และเนื้อนาค ซึ่งท่านได้รับการถ่ายทอดมาจากหลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี ตะกรุดลูกอมของหลวงปู่ใจ แต่ละดอกจะมีขนาดเท่ากัน ลักษณะการม้วนจะเหมือนกัน การขวั้นไหม 5 สี ร้อยตะกรุดลูกอม ก็ต้องใช้ไหมที่มีขนาดเท่ากันทุกเส้นเวลาขวั้นต้องจัดเกลียวให้เป็นระเบียบ และท่านจะปลุกเสกของๆ ท่านเพียงองค์เดียวเท่านั้น ตะกรุดลูกอมของหลวงปู่ใจจะมีอยู่ 3 เนื้อคือ เนื้อทองคำ เนื้อนาค และเนื้อเงิน <o></o>
ท่านโด่งดังมากอีกครั้ง เมื่อคราวพิธีสร้างพระ ๒๕ พุทธศตวรรษ จากการที่มีผู้กล่าวกันว่าตะกรุดของท่านนำลงไปหลอมในเตาหลอมแล้วไม่ละลาย<o></o>

 

พระหล่อปางประจำวัน หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ สมุทรสงคราม

เล่ามาตั้งนาน หลายท่านอาจจะคิดว่าผมมีเหรียญอริยสัจ พระปรกใบมะขาม หรือตะกรุดอันเลื่องชื่อ
จริงๆ แล้ว ที่กล่าวมาข้างต้น ยังไม่มีสักรายการ
เพราะหายากและราคาสูง (เพื่อนคนไหนมี ช่วยแชร์ให้ชมหน่อย จักขอบคุณยิ่งครับ)

อย่างไรก็ตาม สิ่งผมที่มีต่อท่านก็คือความศรัทธา และก็ได้พระหล่อประจำวัน ที่ท่านสร้างไว้มาองค์เดียวแหละครับ เป็นหล่อโบราณประจำวันเกิด (วันอังคาร) ไว้ใจได้ประกวดติดรางวัลงานใหญ่มาแล้ว จึงนำมาแบ่งให้ชมกันครับ



วันนั้นประกวดรายการรวม จึงต้องแข่งกัน 7 ปาง
พระเยอะมากทีเดียว ติดรางวัลมาก็ดีใจแล้วครับ

 

"ประคำนิ้วหลวงปู่ศุข เกสโร วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท ครับ"

 

ขอบคุณ คุณธรรมพลที่เข้ามาร่วมแจมครับ

 

"ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ"