ประวัติ เกจิอาจารย์วิเศษชัยชาญ สมเด็จเกษไชโย...และพระเครื่องเมืองอ่างทอง

ยินดีครับผม ...............

 

วัตรดีครับพี่เบ็น ผมวีระนะครับ คือว่าของที่ได้เช่าพี่ไว้ยังไม่ได้โอนตั่งให้พี่นะครับ พอดีน้ำท่วมบ้านผมอยู่บางใหญ่นะครับพี่ เลยเอาไว้น้ำลดให้ไปรษณีย์บางบัวทองเปิดทำการแล้วบ้านผมเข้าไปอยู่ไ้ด้นะครับพี่ พอดีผมได้เห็นพระจากพระท่านเป็นสหธรรมิกนะครับพี่ เผิ่นเลยถ่ายรูปมาให้ผมแล้วก็ให้มาพี่ดูครับ พระท่านว่าเป็นบางขุนพรหมครับพี่ ขอบคุณครับพี่

 

ไม่เป็นไรครับผม ไม่มีปัญหาครับ เข้าใจครับเพราะผมก้โดน อิอิ.... สมเด็จบางขุนพรหม ผมแทบไม่มีความรู้เลยครับ....

 

ขอบคุณครับพี่

 

มาต่อเรื่องภาพถ่ายเก่าๆ พระคณาจารยืเมืองอ่างทองครับ
​

ภาพถ่ายขนาดบูชาประมาณปี 248กว่าหลวงพ่อภู วัดดอนรัก ยอดหายากครับเหรียญท่านสวยๆไกล้ๆแสน ภาพแบบนี้เป็นภาพถ่ายห้องภาพและเป็นหน้าต้นแบบเหรียญรุ่นแรกนะครับ ภาพนี้เมื่อก่อนให้บูชาพร้อมๆกับ ตระกรุดชุดและตระกรุดโทนของท่านด้วยครับ หลวงพ่อทรงท่านก็มีภาพนี้ไว้บูชานะครับ แต่ของท่านเป็นแบบอัดไหม่ขนาดขยายใหญ่ขนาด 4x6 นิ้ว
​

 

ท่านเบน ช่วยดูหน่อยเป็นของวัดอะไรครับ พระอาจารย์ให้มาครับ (ท่านเป็นพระวิปัสนาสายพระป่า เป็นเจ้าคุณชั้นราช ครับ ) ท่านบอกเป็นของดี เก็บไว้นะลูก ช่วยวิจารด้วย ผมไม่มีความรู้เรื่องสมเด็จเลย ภาพไม่ค่อยชัดนักครับ กล้องถูก อิอิ

 

สวัสดีครับผม เป็นพระพิมพ์วัดเกษไชโยเจ็ดชั้นนิยมครับผม....แต่ว่าทั้งเนื้อหาและพิมพ์ทรงถ้าเป็นแบบสากลนิยม แบบนี้ยังไม่ใช่ครับพี่..ด้วยความเคารพและความรู้อันน้อยนิดของผมครับ...... พิมพ์นี้มีทั่วไปตามสนามพระครับ... นี่เป็นความเห็นของผมเพียงฝ่ายเดียวครับ...ยังไงลองดูหลายๆตาครับ

 

หลวงพ่อกิ่ม วัดกลาง....ยืมข้อความของคุณเบ็นกับของนอกเว็บมาโม้หน่อย
หลวงพ่อกิ่มวัดกลางบ้านนา นี้ท่านเป็นพระเกจิคณาจารย์ที่มีวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือนะครับ และท่านดุซะด้วยตามแบบฉบับพระโบราณจารย์ หลวงพ่อกิ่มท่านเป็นศิษย์หลวงพ่อแป้น วัดเสาธง จังหวัดอยุธยา และสืบสายวิชาหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ ท่านเป็นพระที่ดุครับของท่านจึงเด่นมากด้านคุ้มครองป้องกันเด่นชัดเป็นอย่างยิ่ง เมื่อสมัยก่อนเมืองอ่างทองนี้เป็นแหล่งรวมของอันทพาลเมืองหนึ่งคนจริงมีมากไม่แพ้ที่ใด หลวงพ่อกิ่มท่านก้แสดงให้เห้นถึง สรรพเวทวิชาที่เสกเป่าในวัตถุมงคล ช่วยเหล่าศิษย์ท่าน เรียกได้ว่าแมลงวันไม่ได้รับประทานเลือดครับ พระสมัยก่อนนั้นท่านเน้นคุ้มครองป้องกันตัวครับ เมตตานี่น้อยครับ
ซึ่งหลวงพ่อกิ่มท่านนี้ท่านเป็นพระที่เก่งกาจในพระเวทย์วิทยาคมชนิดหาตัวจับ ยากท่านหนึ่งทีเดียว ที่กล่าวเช่นนี้เพราะเมื่อคราวที่ท่านลงตะกรุดให้ข้าราชการผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ในสมัยนั้น ท่านได้จุดเทียนระเบิดน้ำลงไปจารตะกรุดที่ท่าน้ำหน้าวัดกลาง อ่างทอง และเดินขึ้นมาโดยที่เทียนไม่ดับ เป็นที่ฮือฮาตกใจกันอย่างมากในยุคนั้น ที่เป็นเช่นนั้น เพราะท่านเป็นพระเกจิที่สืบทอดพระเวทย์วิทยาคมต่อจากหลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติการาม อยุธยา และหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่า แต่นักเล่นส่วนกลางไม่ค่อยรู้จักท่านเท่าที่ควรครับ ดังเฉพาะท้องถิ่นเท่านั้น และเหรียญรุ่นแรกของท่านสร้างเมื่อปี 2475 เป็นเหรียญที่หาได้ยากยิ่งของเมืองอ่างทองอีกเหรียญหนึ่งทีเดียวครับ สรรพคุณของเหรียญไม่รู้จะบรรยายยังไงหมด เพราะครบเครื่องทุกอย่างที่หลวงพ่อลงกำกับไว้ในเหรียญของท่านครับ โดยเฉพาะเรื่องเหนียวกับมหาอุตม์เชื่อขนมกินได้ มีประสบการณ์ชนิดเส้นยาแดงผ่าแปดชวนให้ขนหัวลุกมาแล้วครับ และหาเหรียญของท่านไม่ได้ง่ายด้วยครับ เข้าใจว่าคงจะสร้างเอาไว้น้อยกว่า 3000 เหรียญครับ.
หลวงปู่กิ่มเป็นพระโบราณเป็นพระอภิญญาสูงมากเสกใบไม้เป็นต่อเป็นแตนจุดเทียนระเบิดน้ำลงไปจารตะกรุดใต้น้ำ เรียกปลาเดินบนน้ำฝนตกไม่เปียกเป็นที่ร่ำลือไปทั่วคุ้งกลาง
ใครยากได้ของเจ่งๆของท่านสอบถามคุณเบ็นเลยคับ...55555

 

ภาพท่านหายากเสียด้วยครับ คนรู้ประวัติท่านน้อยมากครับ ผมเองก้พอทราบว่าท่านเก่งมาก แต่ข้อมูลนั้นไม่ลึกซึ้งเท่าที่ควร ถ้ามีข้อมูลมาแชร์กันได้ครับ คนบ้านเดียวกัน อิอิ ช่วยกันเผยแพร่ครับ ผมเองคนเดียวรอบรู้ไม่ทั่วแน่ครับ เหอๆๆๆ

 

ขออนุญาตฝากท่านเจ้าของกระทู้อีกสักองค์นะครับ ไม่ต้องเกรงใจเหมือนเดิมครับผม

​

 

พิมพ์เจ้ดชั้นวัดเกษครับ.........แต่ยังไม่นิยม(ไม่แท้)ครับผม ด้วยความเคารพครับ...........

 

ครับ..ว่าตามนั้น ขอบคุณครับผม

 

โชว์ครับ​

ภาพถ่ายแสตมป์ หลวงพ่อคำ วัดโพธิ์ปล้ำ ยอดพระคณาจารย์องค์สำคัญของแขวงเมืองวิเศษ และเจ้าตำหรับเบี้ยแก้อันโด่งดัง ภาพรุ่นนี้ถือได้ว่าเป็นภาพถ่ายที่หายากที่สุดและเป็นภาพถ่ายห้อยคอ พระอาจารย์แรกสุดในบรรดาภาพถ่ายที่เล่นหากันในวิเศษชัยชาญครับ ผมเล่นพระมาเป็น 10 ปี เจอแค่สองสามภาพเท่านั้นครับที่สำคัญเจ้าของไม่ขาย ถามเช่ายังเคืองอีก....อิอิ ประวัติท่านผมลงในกระทู้ไปแล้วครับลองหาอ่านกันดูครับ<!-- google_ad_section_end -->

 

เกจิผู้เรืองเวทย์ในดินแดนอำเภอสามโก้ หลวงพ่อพัก จนฺทสุวณฺโณ (จริงๆแล้วชื่อที่ถุกต้องของท่าน ต้องเขียนว่า พัก แบบนี้น่ะครับ ในใบสูจิบัตรพระของหลวงพ่อกร่าย วัดโพธิ์ศรี หลวงพ่อพัก ท่านลงชื่อรับรองในนามพระอุปัชฌาย์ไว้แบบนี้ครับ) วัดโบสถ์ ตำบลโพธิ์ม่วงพัน อำเภอสามโก้ จังหวัดอ่างทอง

หลวงพ่อพัก จนฺทสุวณฺโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดโบสถ์(วัดโพธิ์) หรือบางท่านเรียกวัดโบสถ์หัวกะบัง ท่านเป็นเจ้าคณะหมวดโพธิ์ม่วงพัน (เจ้าคณะตำบล) ท่านเป็นพระคณาจารย์ดัง เป็นที่รู้จักกัน แพร่หลายทั้งในอดีตและปัจจุบัน เปรียบเสมือนเพชรน้ำเอกอีกเม็ดหนึ่ง ของชาวจังหวัดอ่างทอง วัตถุมงคลของท่านไม่ว่าจะเป็นเขี้ยวเสือแกะ สิงห์งาแกะ ตะโพนงาแกะ ตะกรุดโทนเบี้ยแก้ผ้ายันต์แดงเหรียญรูปเหมือนพิมพ์เสมาหลังยันต์ ล้วนเป็นที่เสาะแสวงหาของบรรดาลูกศิษย์และบุคคลเลื่อมใสศรัทธาโดยทั่วไป

หลวงพ่อพัก จนฺทสุวณฺโณ ท่านมีนามเดิมว่า พัก บุญรอด เกิดตรงกับวันอังคาร เดือน11 ปีมะเมีย ปีพ.ศ.2425 ณ หมู่บ้านท่ามะขาม ตำบลดอนปรูุ อำเภอวิเศษชัยชาญ(ปัจจุบันเป็นอำเภอศรีประจันต์) บิดาชื่อ ถมยา เป็นชาวบ้านอบทม มารดาชื่อพุก ท้องถิ่นแถบปทุมธานี(เป็นชาวรามัญ) มีพี่น้องทั้งหมด 8 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 3 เมื่อย่างเข้าวัยหนุ่ม่บิดามารดาได้นำไปฝากไว้กับ หลวงปู่เถื่อนเจ้าอาวาส วัดหลวง อ่างทอง เพื่อเรียนหนังสือกระทั่งปีพ.ศ.2445อายุครบ 20 ปี จึงได้อุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดอ้อย โดยมีหลวงปู่เถื่อนวัดหลวงเป็นอุปัชฌาย์ เมื่ออุปสมบทแล้วได้ติดตามพระพี่ชายคือท่านเจ้าคุณรัตนมุนี ไปจำพรรษาที่วัดหงษ์รัตนารามซึ่งเป้นสำนักวิปัสนาธุระและตักศิลาฝ่ายคันธุระที่สำคัญมากของฝ่ายธรรมยุติ ฝั่งธนบุรีซึ่งเป็นวัดที่สมเด็จพระเจ้าตากสินทรงทำนุบำรุง หลวงพ่อพักท่านศึกษาทางคันธุระและวิปัสสนาธุระ อยู่ในสำนักพระอาจาร์อูฐ เพียง 9 พรรษาท่านก็มีความชำนาญและเจนจัดเป็นอย่างยิ่งดียิ่ง กระทั่งถึงปีพ.ศ.2454 หลวงปู่เนตร เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ได้มรณภาพ่ลงชาวบ้านจึงมานิมนต์ให้ท่านกลับไปจำพรรษา ณ วัดโบสถ์ปี พ.ศ.2455 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดโบสถ์อย่างเป็นทางการ
การศึกษาพระเวทย์วิทยาคมนั้น เริ่มแรกท่านได้ศึกษาาจากอาจารย์วาตหรือครูวาต ซึ่งเป็นคฤหัสถ์และเป็นลูกผู้พี่ของท่านเอง โดยพื้นเพของครูวาตเป็นชาวบ้านท่ามะขามอดีตเคยเป็นมหาโจรอยู่แถวชานเมืองอ่างทองและสุพรรณบุรีเมื่ออายุย่างเข้าสู่วัยชรา จึงได้เลิกลาจากการเป็นโจรสรรพวิชาต่างๆ ที่ได้เรียนมาท่านถ่ายทอดให้หลวงพ่อภักตร์ทั้งหมดเช่น วิชาการทำเบี้ยแก้ ทำตะกรุดโทน ทำผ้ายันต์แดง เป็นต้น อาจารย์คนต่อมาคือครูบุญ วิชาที่ได้รับการถ่ายทอดมา ได้แก่วิชาการปลุกเสกเขี้ยวเสือแกะ งาช้างแกะ เป็นวัตถุมงคลชนิดต่างๆ
หลวงพ่อพักตร์ได้รับแต่งตั้งเป็นพระอุปัชฌาย์เมื่อปี พ.ศ.2461เป็นเจ้าคณะตำบล พ.ศ.2462 และได้ถึงแก่มรณภาพเมื่อปี พ.ศ.2485 ตรงกับปีจอ
รวมสิริอายุได้ 60 ปี40 พรรษา กล่าวกันว่ากรรมวิธีการทำเบี้ยแก้ของหลวงพ่อภักตร์นั้น ท่านจะนำเบี้ย ใส่พานทองเหลือง แล้วนำปรอทใส่ขวดเล็กๆตั้งอยู่อีกพานหนึ่งวางคู่กันใช้หญ้าคาแห้งทำเป็นสะพานต่อจากขวดปรอทถึงตัวเบี้ยท่านจะนั่งบริกรรมคาถาจนปรอทที่อยู่ในขวดวิ่งออกจากขวด ไปตามสะพานหญ้าคาลงสู่ตัวเบี้ยจนเต็ม เมื่อปรอทลงสู่ตัวเบี้ยจนเต็มแล้ว ท่านจะนำตะกรุดดอกเล็กๆ(เนื้อตะกั่ว)ที่ทำเตรียมเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วทุบแบนๆแปะที่ท้องเบี้ภายหลังที่อุดทับด้วยชันโรงลงไปชั้นหนึ่งแล้ว เมื่อรวบรวมเบี้ยแก้ได้จำนวนหนึ่งแล้วท่านจะให้ลุงประเสริฐ มาลัยนาค เป็นผู้ถักเชือกหุ้มเบี้ยแก้(ในกรณีที่มีการถักเชือกหุ้ม) ซึ่งในขณะถักเชือกหุ้มนั้นจะต้องมีการบริกรรมคาถากำกับลงไปอีกด้วย หลังจากถักเชือกเสร็จท่านจะทำการปลุกเสกซ้ำอีกครั้งหนึ่งก่อนนำออกแจกจ่ายให้แก่ลูกศิษย์ลูกหาลักษณะเบี้ยแก้ของหลวงพ่อพัก วัดโบสถ์เบี้ยที่นำมาทำเบี้ยแก้ของท่านนั้นจะเป็นเบี้ยจั่น ตัวผู้จุดสังเกตก็คือด้านหลังเบี้ย จะปรากฏลายเป็นจุดๆมีสีเหลืองฉ่ำแต่ไม่ถึงกับสดตามธรรมชาติความเก่าของเบี้ยตามปกติแล้วค่อนข้างจะมีีความหนา น้ำหนักของปรอทที่บรรจุภายในเบี้ย น้ำปรอทจะรวมตัวกันเป็นก้อนเวลาเขย่าจะวิ่งไปมามีน้ำหนักถ่วงมือแต่บางครั้งเบี้ยบางตัวบรรจุปรอทเต็มเวลาเขย่าก็จะไม่เกิดเสียงดังเบี้ยแก้ของท่านนั้นปกติจะพบทั้งประเภทเบี้ยเปลีอยเบี้ยที่มีการถักเชือกส่วนเบี้ย ที่มีการเลี่ยมหุ้มด้วยเงินหรือโลหะชนิดอื่นๆก็พบบ้างแต่ก็มีจำนวนน้อยนอกเสียจากผู้ที่ได้รับ
แล้วนำไปเลี่ยมไว้ใช้เอง การถักเชือกการถักเชือกจะถักเปิดหลังให้เห็นลายของเบี้ยลายถักที่พบมากที่สุดจะเป็นลาย กระสอบถักวนเป็นเส้นแนวรูปไข่ตามเบี้ยเมื่อถึงส่วนของท้องเบี้ยจะถักขึ้นเป็นห่วงสองห่วงลายห่วงจะกลม(แตกต่างจากของหลวงปู่รอด วัดนายโรงที่การถักห่วงจะถักฐานกว้างไม่กลม) มีทั้งหมดสองห่วงหากว่าถ้าเป็นห่วงเดี่ยวจะถักอยู่ด้านบนก็มีส่วนแบบพิเศษที่ทำตะกรุด
เป็นแกนร้อยเชือกคาดเอวก็มีส่วนการลงรักนั้นส่วนใหญ่แล้วที่มีการถักเชือกจะมีการลงรักมีเป็นส่วนน้อยที่ไม่มีการลงรัก เรื่องของขนาดทั่วไปแล้วมีขนาดเดียวกันกับหลวงปู่รอด วัดนายโรง,หลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้วนานครั้งจะพบเห็นเบี้ยขนาดเล็กเพราะหากตัวเล็กส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเบี้ยของหลวงปู่คำ วัดโพธิ์ปล้ำและหลวงพ่อนุ่ม วัดนางใน พุทธคุณในเบี้ยแก้หลวงพ่อภักตร์วัดโบสถ์มีครบทุกด้านโดยเฉพาะการป้องกันคุณไสย์ ยาสั่ง คงกระพัน มหาอุตม์ แก้เหตุร้ายๆให้กลายเป็นดีเป็นต้น

 

​

พระสมเด็จ เกษไชโย หลวงพ่อโตองค์ใหญ่ วีระไทใจกล้า ตุ๊กตาชาววัง โด่งดังจักรสาน ถิ่นฐานทำกลอง เมืองสองพระนอน


คำขวัญประจำหวัดอ่างทองบ้านผ๊ม อิอิ....


มีพระสมเด็จมาให้ชมครับ พิมพ์นี้เป็นพิมพ์หกชั้นไหล่ตรงอกตันที่หาแท้ๆสักองค์ยากมากครับ พิมพ์นี้เนื้ออกโซนเดียวกันหกชั้นนิยม สวยๆก็หลายอยู่ครับ



มีซ่อม แต่ดูง่าย และหายากมากจริงๆ

คนส่วนใหญ่ไม่กล้าเล่นสมเด็จอาจจะเป็นเพราะหลายเหตุผล เช่น ไม่เคยเห็นของแท้เลยฟังแต่นิทานจากคนขาย พอโดนเข้าคนขายไม่รับผิดชอบ เลยทำให้มีอคติเห็นสมเด็จเก๊ไปหมด แฮ่ๆ แต่อย่าลืมว่าของแท้จริงๆมีครับไม่ใช่ไม่มี และแท้จริงคือสามารถขายได้(ให้เช่าต่อได้) พระเก๊จะให้เช่ามาเป็นล้านอาจเหลือหลักร้อย ให้ฟรียังเคือง พระแท้ตามสากลคือพระที่เก็บแล้วเงินไม่สูญเปล่าเพราะยามเดือดร้อนแลกเปลี่ยนเป็นเงินได้ จะขาดทุนหรือกำไรอีกเรื่องแต่ยังไงก็ขายได้เพราะแท้ ต่อมาพระแท้คนเดียว หรือคิดว่าแท้ ถึงเช่ามาเป้นล้าน พอตัวเองตายจะเหลือหลักสิบ หลักร้อย แถมลูกหลานด่าตามมาอีก แฮ่ๆ....สมบัติเก่าพ่อเราตาเราเก๊เป็นปี๊บแฮ่ๆ

<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>

</FIELDSET>

 

เนื้อหาสวยมาก
ตลับแบบโบราณนี่ งานปารณีตมาก

 

อาจารย์เบนครับฝากดูในนี้ที่


ลิ้งนี้ครับ:'''(

 

ตลับงานนี้ถ้าทำไหม่ ค่าแรง บาน..ครับ