วิธีการเก็บศิษย์ของ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ เท่าที่ทราบมีอยู่ ๗ วิธีคือ

ของดิฉันเป็นเเบบ 1 ,2 เเละ 3 ค่ะ

 

ผมเป็นข้อ 3 ครับ
ตอนหลวงพ่อหนีเข้านิพพาน ผมอายุ16 (ยังไม่รู้จักหลวงพ่อ)ต่อมาอายุประมาณ18 ผมฝันเห็นพระแก่ๆรูปหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกผมนั่งมองท่านอยู่ด้านซ้ายของท่าน(ผมก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร) อีก2-3วันต่อมาฝันว่าได้ไปร่วมพิธีอะไรก็ไม่รู้ในโบสถ์ มีสายสิญจน์ขึงอยู่ด้านบน และด้านหน้ามีหลวงตาแก่ๆผอมๆถือกระดานชนวน คอยเป่ายันต์ใส่ผู้คนที่ต่อแถวหลายสิบคน รวมทั้งผมด้วย
สิ่งที่เห็นก็คือ เวลาหลวงตาเป่ายันต์ที่อยู่ในกระดานลอยออกมาลงที่หัวของผู้ก้มกราบอยู่หน้าหลวงตา (ปัจจุบันนี้ผมก็ยังไม่รู้จักหลวงตารูปนั้น)และได้นำความฝันนี้ไปถามคนอื่นๆ ก็ได้ความว่าเป็นการเป่ายันต์เกาะเพชร
และอยู่มาวันหนึ่งได้บังเอิญไปอ่านหนังสืออะไรจำไม่ได้ แต่ในนั้นมีรูปพระแก่ๆที่ได้ฝันถึงใต้รูปเขียนไว้ว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดํา นี่ไงพระรูปนี้ที่เห็นในฝันอัศจรรย์ใจยิ่งนัก! จากที่ไม่เคยรู้จักไม่เคยเจอมาก่อนแต่ฝันถึงได้ จากนั้นมาผมก็เริ่มได้รู้จักท่ามมากขึ้นเลื่อยๆ จากกองหนังสือเก่าๆที่วางขายในตลาด และเป็นอย่างที่หลายท่านเป็นคือ อ่านแล้วเข้าใจง่าย นึกสงสัยตรงไหนก็จะไปเจอในเล่มต่อไปทันที

จนได้อ่านถึงวิธีรับศิษย์ จึงสิ้นสงสัยเดินตามหลวงพ่ออย่างเดียว<!-- google_ad_section_end -->

 

เสื้อนี่เมื่อวานนี้เห็นใส่กันอยู่ที่วัด 5-6 ท่านมาจากที่นี่เอง

 

คิดว่าไม่โดนซักข้อ แต่ยังเคารพรักหลวงพ่อเสมอ สาธุ ลูกขอกราบอนุโมทนาสาธุค่ะ

 

ของข้าพเจ้าข้อ 1 อ่านหนังสือเล่มเล็กๆ ที่พี่ชายถือเอามา ร้องให้เลย แล้วก็เดินทางไปวัดท่าซุง ทันที พอไปถึง เหมือนบารมีหลวงพ่อท่านจัดสรร บางอย่างให้อย่างลงตัว

 

ผมรู้จักพระเดชพระคุณหลวงพ่อจากเพื่อนที่ได้แนะนำให้อ่านหนังสือประวัติหลวงพ่อปานครับ
หลังจากอ่านแล้วก็รู้สึกศรัทธาทั้งหลวงปู่ปานและหลวงพ่อฤๅษีลิงดำมาก
เริ่มอ่านหนังสือของท่านมากขึ้น เริ่มปฏิบัติตามคำสอนของท่านมากขึ้น
จนฝันเห็นทั้งหลวงปู่ปานและหลวงพ่อ ทุกครั้งที่ฝันถึงเมื่อตื่นขึ้นมาจะเกิดปิติมาก
ทำให้มีกำลังใจอยากทำความดีต่อไป
จนครั้งล่าสุดฝันว่าได้ยินเสียงหลวงพ่อท่านพูดกับผมว่า "ทำดีแล้วนะ จงตั้งใจปฏิบัติต่อไป" ทุกครั้งทีนึกถึงก็จะทำให้มีกำลังใจในการปฏิบัติมากขึ้นครับ

 

เราก็เป็นคนหนึ่งที่ศรัทธาในตัวหลวงปู่ เริ่มจากมีพี่ชายแนะนำ จากนั้นได้ไปวัดท่าซุง และซอยสายลม ได้ฟังธรรมจากเทปและได้อ่านหนังสือของท่านแล้วเข้าใจได้ง่าย จนในที่สุดก็ได้ฝันถึงท่าน ตอนที่ฝันถึงหลวงปู่นั้นรู้สึกปลาบปลื้มมาก ฝันว่าท่านมาหา เราวิ่งเข้าไปกอดแล้วก็บอกทุกๆคนรอบๆตัว ที่อยู่ในฝันว่า หลวงปู่มาแล้ว หลวงปู่มาแล้ว ท่านก็เฉยๆ ส่วนอีกองค์ที่เคยฝันถึง ก็คือหลวงปู่กาหลงเขี้ยวแก้ว ในฝันว่าท่านนั่งอยู่ แล้วเราก็เข้าไปกราบท่าน ท่านเฉยๆ ไม่พูดอะไร ส่งแบงค์ยี่สิบให้ แล้วหันหลังให้ทันที เราก็งงๆ อุตส่าห์เอาเลขไปซื้อหวยก็ไม่ถูก โง่จริงๆ เลยเรา ใบ้ให้ขนาดนี้ก็ยังไม่รู้อีก เฮ้อออออ คนหนอคน

 

สาธุขอร่วมโมทนาในมหากุศลทั้งหมดทั้งสิ้นครับ**ขออนุญาตประชาสัมพันธ์ครับ**ท่านใดมีความประสงค์อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุเพื่อสักการะบูชาสามารถติดต่อขอรับพระบรมสารีริกธาตุ(ไม่มีค่าใช้จ่าย)ได้ที่ 08-2685-5608 อั๋นครับ
(ขอสงวนสิทธิ์ไม่ส่งพระบรมสารีริกธาตุทางไปรษณีย์โดยเด็ดขาดครับ เพื่อความเหมาะสมเป็นการแสดงความเคารพและไม่เป็นการปรามาสต่อพระพุทธองค์ครับ
ชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในกระทู้ด้านล่างนี้ครับ
http://palungjit.org/threads/มอบพระบรมสารีริกธาตุกว่า15-สัณฐานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้นมีมอบให้เรื่อยๆ.244017/

<!-- google_ad_section_end -->
http://palungjit.org/threads/เมื่อกระผมและคณะได้น้อมถวายพระบรมสารีริกธาตุสมเด็จองค์ปฐมต้นพุทธวงศ์ที่วัดท่าซุง.290965/

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด​

 

ปฏิบัติธรรมอีกครั้ง ด้วยเมตตา และบารมีของหลวงพ่อฯ

เดิมเป็นคนชอบเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์เป็นทุนเดิม ประมาณปี 42 อยู่ว่างๆ เบื่อๆ เลยหยิบหนังสือพระเครื่องหลวงปู่ปาน(ปกสีม่วงๆ) ของพ่อมาอ่าน ในนั้นก็มีประวัติหลวงปู่ปานลงไว้ อ่านแล้วก็ประทับใจ แต่ก็ไม่ได้สนใจศึกษาอะไรเพิ่มเติม จนกระทั่งปลายปี 53 หลังจากได้บวชเสร็จ ก็มีความสนใจในพุทธศาสนามากขึ้น
ได้ศึกษาเพิ่มเติม จนมาเจอ web ของ ลุง ศ. ก็เริ่มรู้จักชื่อของหลวงพ่อฤาษีลิงดำมากขึ้น อ่านแล้วถูกจริต เข้าใจง่าย จนได้สั่งซื้อหนังสือของหลวงพ่อมาอ่านเพิ่ม ..อ่านไปศรัทธาก็มากขึ้น จนทำให้อยากนั่งสมาธิอีกครั้ง (อยากตามรอยหลวงพ่อที่ได้สอนลูกๆ ไว้) เพราะตั้งแต่สึกออกมา ได้นั่งสมาธิแค่ 2 ครั้งเท่านั้น ตอนนี้กลับมานั่งสมาธิ, สวดมนต์ และน้อมรำลึกถึงคุณพระรัตนตรัย และพระคุณของครูบาอาจารย์ทั้งหลายสืบๆ กันมา อยู่เสมอๆ
ด้วยความเมตตา และบารมีของหลวงพ่อฯ ที่ดลจิต ดลใจ ให้ปฏิบัติธรรม จากเคยสงสัยในธรรมะส่วนไหน หรือมีอะไรขัดข้องเวลาปฏิบัติ .. ในเวลาไม่นานก็จะเจอคำตอบที่ตามหา (search จาก google ซึ่งมีคำตอบออกมา เป็น พันๆ web แต่ก็คลิกเข้าไปเจอ web ลูกหลานของหลวงพ่อที่นำคำสอนของหลวงพ่อมาเผยแพร่ทุกครั้ง)
จากที่เคยตามหาวัตถุมงคลต่างๆ ตามหาพระที่มีชื่อเสียงมานาน แต่ตอนนี้หยุดแล้วครับ เจอแล้วครับ จากนี้จนถึงลมหายใจสุดท้าย หรือ จนกว่าจะหลุดพ้นจากวัฏฏสงสารนี้ จะขอมอบกายถวายชีวิต แด่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ตลอดไป ด้วยอาศัยคำสอนของ “พ่อ” ... “พ่อ” ที่รักลูก มากกว่าชีวิตของตัวพ่อเอง ... สาธุ

 

ประสบการณ์ตัวเองเท่าที่จำได้ รู้จักหลวงพ่ออยู่บ้างเพราะท่านเป็นพระเกจิอันดับต้นของเมืองไทย แต่ก็เฉยไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษนัก แต่วันหนึ่งไปเจอหนังสือธรรมวิโมกในร้านหนังสือมือสองซึ่งมีรูปหลวงพ่อหน้าปกก็ซื้อมาอ่าน ก็รู้สึกศรัทธามาก ก็เลยไหว้ท่านที่หน้าปกหนังสือและอฐานของฝากตัวเป็นศิษ แล้วท่านก็มาแนะนำในฝันเรื่องปัญหาชีวิตบ้าง เรื่องอื่นๆบ้าง และมีเหตุการณ์อีกอย่างก็คือท่านมาบอกให้ไปงานครบมรณะภาพของท่านล่วงหน้าประมาณ 3 เดือน ซึ่งรู้สึกว่าท่านบอกไม่ตรงกับกำหนดงานของวัดท่าซุ่ง แต่พอถึงเวลาจริงๆ กำหนดการกลับเปลี่ยนมาตรงกับที่ท่านบอก...อย่างไม่น่าเชื่อ
ไม่คิดเลยว่าคนที่เกิดมาไม่ทันท่านความรู้ทางธรรมก็เท่าหางอึ่ง จะมีโอกาสได้พบได้พูดให้ถามปัญหากับท่านได้ ดีใจมากๆ ที่ท่านเมตตาลูกศิษปลายแถวขนาดนี้

 

ดิฉันอ่านหนังสือพระมาเยอะแต่ไม่มีเล่มไหนที่ให้ความรู้สึกว่ารัก เคารพ ผูกพันกับพระที่เขียนประวัติหลวงปู่ปานเลย หลังจากนั้นหยุดทุกอย่างที่ท่านและปฏิบัติทำแนวทางท่านทุกอย่างโดยไม่ไขว่คว้าหาอาจารย์ดีที่ไหนอีก ถึงจะเป็นศิษย์รุ่นหลังไม่เคยเจอองค์จริงแต่มั่นใจว่าเป็นศิษย์ที่ติดตามท่านมาหลายชาติแล้ว อีกอย่างท่านมาสงเคราะห์ในฝันสองสามครั้ง ตื้นตันใจถึงกับร้องไห้เมื่อตื่นมา สาธุ สาธุ สาธุ

 

สำหรับเรา เคยได้ยินหลวงพ่อฤาษีลิงดำก็สนใจชื่อแปลกจัง หลังจากนั้นก็เหมือนลืมไป ต่อมาก็เข้ามหา'ลัย มีเพื่อนคนหนึ่งอยู่อุทัยธานี พอตอนเรียนซัมเมอปี 1 ก็ได้ไปบ้านเพื่อน บอกเพื่อนว่าอยากไปวัดท่าซุง ก็ได้ไปทำบุญ ได้บาตรพระที่เป็นกระปุ๊กออมสินและได้รูปของพระศรีอาริยเมตไตรยกลับมา ตอนนี้อยู่ปี 3 ตอนเปิดเทอมก็จัดห้อง จนได้กลับมาเจอรูปใบเดิมจากนั้นมาก็ตั้งใจหยอดกระปุ๊กที่ว่างไว้หัวเตียงแต่ไม่สนใจ พอเล่นเวปนี้ก็เจอมโนมยิทธิ อยากฝึกมากๆ อยากกลับไปวัดท่าซุง แต่ด้วยการเรียนเป็นอุปสรรค เลยตั้งใจจะไปฝึกที่บ้านสายลม แต่ต้องรอต้นเดือน ไม่ไหวจะรออยากฝึกแล้วเลยไปฝึกที่ศูนย์พุทธศรัทธา พอตัดสินใจได้ก็โทรไปตามเบอร์ที่ศูนย์พุทธฯให้ไว้ ตอนแรกเป็นเสียงอาจารย์ผู้หญิงรับก็ถามข้อมูล สักพักวางไปอาจารย์ผู้ชายก็โทรกลับมา (ต่อมาเพิ่งทราบว่าคือ อ.ชนะ) ที่จริงวันอาทิตย์มีนัดก็ขอเลื่อนนัด แล้วก็ได้ไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นั่งรถตู้ไปคนเดียวไม่กล้าบอกพ่อกับแม่ด้วย (เลยบอกเพื่อนไว้แทน) ไม่เคยใช้ชีวิตลุยอย่างงี้ ไม่รู้ตอนนั้นทำไมถึงกล้า แต่รู้ว่าอยากฝึก ตื่นเต้นด้วย กลัวด้วย พอไปถึงรถตู้ไม่ไปส่งที่ศูนย์ เค้าให้ลงตรงสี่แยกอะไรไม่รู้ ใจงี้อยู่ที่ตาตุ่มเลย เลยโทรหาอ.ชนะ อ.ก็ออกมารับ ตอนประมาณเที่ยงพ่อโทรมาหาก็ไม่กล้ารับ ตอนนั้นสติแตกเลยกลัวพ่อเป็นห่วงที่ไม่รับโทรศัพท์ แล้วก็ได้ฝึกครั้งแรกเห็นภาพไม่ชัด แต่รู้สึกดีมาก พอรู้ว่าตัวเองมีวิหารที่พระนิพพาน ก็ตั้งใจเลยว่าขอมุ่งตรงต่อนิพพาน พอขากลับอ.ก็ฝากกลับมากับพี่คนที่ฝึกด้วยกัน ตอนกลางคืนคุยกับพ่อ พ่อเค้าใจว่าไปเที่ยวกับเพื่อน แต่พอไม่บอก พ่อซักใหญ่เลย เค้าเป็นห่วงเรามาก ไปกลับใคร ทำไมเดินทางคนเดียว ฝึกที่ไหน คนเยอะมั๊ย อันตรายมั๊ย บลาๆๆ ใจเค้าจะสลาย เค้าพูดประโยคนี้มา เรารู้สึกผิดเลย แต่เค้าไม่ได้ห้าม พอตอนเช้าแม่โทรมาแบบตกใจถามว่าไปไหนมา ก็เล่าให้แม่ฟังทั้งหมด รวมทั้งที่ฝึกด้วย แม่ก็เข้าใจไม่ห้าม แต่ห้ามทิ้งการเรียน วันต่อมาอีก(วันนี้)คุยกับแม่ตอนเช้า แม่ก็บอกว่า วันนี้ไปส่งตาไปวัดมา ก็เลยเล่าเรื่องที่เราไปฝึกมาให้ตาฟัง แล้วแม่ถามตาว่า เป็นไปได้หรอที่เราจะได้กราบพระพุทธเจ้า ทั้งๆที่พระพุทธเจ้านิพพานไปแล้วกี่พันปี ตาตอบแม่ว่า เป็นไปได้ แม่ก็มาเล่าให้ฟังบอกว่า เป็นห่วงเรา เป็นห่วงความปลอดภัย แล้วก็กลัวเราหลุดโลก งมงาย ==" นี่เป็นประสบการณ์ของเราสดๆร้อนๆเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

 

อนุโมทนาสาธุ
ผมเองก็พอมีประสบการณ์อยู่บ้างครับ คือครั้งแรกที่ได้ไปกราบหลวงพ่อที่วัดท่าซุง ที่วิหารแก้วเมื่อปี่ก่อน ไปถึงวัดประมาณ สี่โมงครึ่ง พระท่านกำลังจะทำวัตรเย็น ผมจึงขออนุญาตทำวัตรด้วยกับแฟน ผมจึงนั่งทำวัตร แต่ผมเองท่องไม่ได้จึงนั่งสมาธิแทน จากนั้นในนิมิตร ผมได้เจอหลวงพ่อในนิมิตร และ ได้คุยกันกับท่านครับ เหมือนท่านอยู่ต่อหน้าเลย ผมถามท่านหลายข้อมาก เช่น ผมทำไมผมมาที่นี่ได้ ท่าตอบว่า ผมเคยเป็นลูกศิษย์ท่านในชาติหนึ่ง แล้วผมถามต่อว่าผมเคยเป็นพญานาคจึงไหม เพราะ เคยดูหมอดูมา ท่านตอบว่า เคย ผมก็ถามว่า แล้วทำไมเป็นได้ ท่านบอกว่าในสมัยที่เป็นลูกศิษย์ท่าน ผมเคยได้ฝึกวิชา 6 แต่ผิดศีล ตายไปจึงลงเป็นพญานาค เป็นต้น ท่านก็ตอบมาหมด จนผมสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น แต่ตอนหลังผมเริ่มศึกษามากขึ้น ซึ่งตอนนี้ผมมั่นใจเกินร้อยแล้วครับ และปัจจุบัน และ อนาคต จะเป็นหนึ่งคนที่จะบำรุง พุทธศานา ให้คงอยู่ต่อไปจนกว่าชีวิตจะหาไม่ และ ท่านยังบอกอีกว่า ปี 2560 สิ่งที่ผมเคยได้จะกลับมาเอง ให้เพียงภาวนาพุทธโธ ตลอด และจะเป็นหนึ่งที่จะช่วยวัดต่อไป ตอนนี้ผมก็งงงง แต่จะเชื่อท่านครับ อีก 6 ปี อนุโมนาครับ

 

ของผม ข้อ 1 กับ 6

รู้จักท่านโดยบังเอิญจริงๆ

บังเอิญได้ยินเทศนาของท่าน เรื่อง ประวัติศาสตร์ของไทย (ท่านเล่าตั้งแต่โคตรเหง้า)

ตอนนั้นนึกติดใจว่า พระองค์นี้แน่วุ้ย จำได้ขนาดนี้เลย ทั้งๆที่น่าจะชราภาพมากแล้ว แต่ความจำ

เป็นเลิศ ขนาดเราคนหนุ่มไม่ได้เสี้ยวเลย

พอเห็นภาพท่าน ที่นั่งโซฟา ก็คิดเลยว่า องค์นี้ชัว (นึกพนันกับตนเองในใจว่าใช่แน่ๆ)

แล้วมาจบที่อ่านเรื่องหนีนรก เลยกระจ่างเลย ว่าใช่สิ่งที่ตามหาแน่

เพราะท่านสอนได้เข้าใจง่าย จำง่าย ทำได้ง่าย กับถูกใจคำว่า นิมิต ติดใจ

พอมารู้ทีหลังว่าท่านมรณภาพแล้วในปี 38 (ตอนนั้นอยู่บ้านที่ภาคกลาง) แอบเสียใจนิดๆที่

ไม่ได้พบท่านขณะที่ท่านยังมีชีวิต แต่ก็ดีใจที่ท่านยังคงทิ้งสมบัติไว้ให้ลูกหลาน

ด้วยเทปธรรมะทั้งหลาย

สาธุ สาธุ น้อมกราบหลวงพ่อ ที่เมตตาครับ

 

เมื่อก่อนก็เคยได้ยินชื่อของหลวงพ่อฤาษีบ่อยๆ
แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมาก และไม่เคยเห็นรูปของท่านเลย
จนมาวันนึงก็มาเริ่มเข้าเวปนี้
แล้วก็เจอเรื่องฝึกมโนของหลวงพ่อ แต่ก็ไม่ได้ดูรูปท่านเลย
แล้วจากนั้นก็ลองฝึกเอง แล้วก็ฝันค่ะ ฝันประมาณสองวัน
จำได้ลางๆว่าฝันถึงพระองค์นึงแต่ไม่รู้ว่าท่านชื่ออะไร
จำได้แค่ว่าท่านใส่แว่น
ก็ลองมากเปิดหาดูในเวปนี้
แล้วก็อยากลองดูว่าหวงพ่อฤาษีท่านหน้าตาเป็นเช่นไร
พอเปิดมาเท่านั้นหล่ะค่ะ ใช่เลย ท่านนี้หล่ะ
หลังจากนั้นก็เลยอ่านคำสอนของท่าน ฟังเสียงธรรม
จนมีคนเอาหนังสือ ประวัติของหลวงปู่ปาน มาให้อ่าน
รู้สึกยิ่งเลื่อมใสหลวงพ่อมากค่ะ ชอบคำสอนของท่านมาก
อ่านแล้วอยากฟังท่านเทศน์จริงๆสักครั้งเลย แต่คงได้แค่ฟังเสียงธรรมไปก่อน
ทุกวันนี้ก็ยังไม่ได้มโนนะคะ คิดว่าจะลองไปฝึกแบบมีครูก่อนค่ะ

 

กราบ กราบ กราบ ในองค์หลวงพ่อ ลูกขอเกาะชายจีวรหลวงพ่อตามท่านไปแดนพระนิพพาน

 

ของเราก็เป็นวันธรรมดาวันหนึ่ง ไม่มีอะไร ก็นั่งเล่นเน็ตไปเรื่อย อ่านนู่นอ่านนี่ ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าที่อ่านอยู่เป็นเรื่องเล่าของหลวงพ่อ อ่านๆไป เอ๊ะ สนุกดีแฮะ ของใครหว่า?....
หลวงพ่อฤาษี หืมม์ ตกลง พระ หรือฤาษีหล่ะเนี่ย?...ตามอ่านไปเรื่อยๆ อย่างเมามัน กว่าจะรู้ตัวอีกที นี่เราอ่านหมดทุกหน้าแล้วหรือนี่! เคยอ่านเรื่องราวของพระที่ปฏิบัติดี
ปฏิบัติชอบมาตั้งหลายองค์ ก็รู้สึกเเค่ว่า อืมม์ ดีจัง โมทนา สาธุ ด้วยแค่นั้น จบ
แต่ไม่ได้รู้สึกศรัทธา หัวปักหัวปำเหมือนกับหลวงพ่อของเราเลย พอรู้ว่าท่านอยู่วัดไหน ใจมันร่ำๆ อยู่ไม่เป็นสุข รู้จักเรื่องราวของท่านประมาณกลางปีที่แล้ว นึก เอะใจเอาไปคุยกะแฟน "พี่หนูศรัทธามากเลย หลวงพ่อฤาษีลิงดำเนี่ย" ก็อยู่อุทัยหนิ แฟนตอบมาเนิบๆ(มารู้ตอนหลังว่าคนอุทัยเขาไม่ค่อยสนใจหลวงพ่อเราเท่าไหร่) หา! เออใช่! แกคนอุทัยนี่หว่า กร๊ากกกก โอยดีใจ ดีใจที่สุดเลย เราจะได้มีโอกาศไปไหว้ท่านเเล้ว แต่....คนใจร้อนอย่างเรา รอต่อไปด้วยความทรมานไม่ไหวแล้ว ขอไปอยู่
(บ้านแฟน)ล่วงหน้าแล้วกันนะเธอจ๋า แจ้งลาออกเรียบร้อยแล้วสิ้นเดือนนี้แหล่ะ ฮี่ๆ
มันไม่รู้สึกอยากได้อะไรอีกแล้ว อยากแต่จะมาอยู่ใกล้ๆท่าน เนี่ยก็คิดว่าจะมาปลูกผัก ปลูกหญ้ากินไปวันๆก็พอ แฟนบอกว่าเราโชคดีที่เค้าเป็นคนอุทัย แต่เราบอกว่า แกสิโชคดี นี่ถ้าเเกไม่ใช่คนอุทัย ชั้นก็จะทิ้งแกไปหาแฟนใหม่ที่นู่น ชั้นจะไปอยู่กะหลวงพ่อย่ะ เค้าบอก เออ แกไปหัดว่ายน้ำด้วยน่ะ เพราะแถวนั้นท่วมทุกปี

 

๑+๓+๕ ครับ หลวงพ่อเมตตามาก ตอนนี้อ่านหนังสือและพยายามปฏิบัติตามคำสั่งสอนของท่าน
เผื่อมีโอกาสท่านจะมาสงเคราะห์กระผมอีก.

 

เห็นแต่ละท่าน น่ายินดีจริงๆ

ผมก็ ๕ กับ ๑ เหมือนกัน

เพียงแต่ว่าเพิ่งศรัทธาท่านมาไม่ถึงปี ก็โมทนาทุกท่านด้วยละกัน

 

ของเก้าจะเป็นข้อ 1 กับ ข้อ 4 ค่ะ (ข้อ 2 ไม่แน่ใจว่าใช่ไหม)

ของเก้าจะเป็นข้อ 1 กับ ข้อ 4 ค่ะ (ข้อ 2 ไม่แน่ใจว่าใช่ไหม)
๑. การออกหมายเกณฑ์ คือการตั้งสัตยาธิษฐานว่า ถ้าผู้ไดเป็นเชื้อสายของท่าน เมื่อได้อ่านหนังสือเล่มใดเล่มหนึ่งของท่าน หรือได้ฟังเทป หรือฟังวิทยุที่ท่านเทศน์ หรือได้อ่านได้ยินได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับตัวท่าน แล้วขอให้เกิดศรัทธาปสาทะจนต้องมาหาท่าน

๒. ฝากพระ พรหม หรือเทพยดา ให้ไปเข้าฝันตามตัวให้หรือให้ไปบอกในสมาธิ
ขอเล่าค่ะ อ่านแล้วช่วยวิเคราะห์ว่าเข้าเคสไหม ให้ด้วยนะคะ ที่ท่านเมตตามาโปรด คือ ตอนเด็กๆ เนี่ยจะบ่อย
- ท่านแรกเป็นฤาษีเหาะมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือตรงหัวนอนมาลงตรงต้นทับทิมหน้าบ้าน(ในฝันก้มกราบท่าน แต่ท่านมาในชุดฤาษีไม่ใช่พระค่ะ)
- ท่านที่สองเจ้าแม่กวนอิม ท่านเหาะลอยอยู่ข้างเตียง(ในฝันเงยหน้ามองแต่ยังไม่รู้จักท่านว่าเป็นใคร(ยังเด็กอยู่ค่ะ) แต่รู้สึกในตอนนั้นว่านี่แหละเจ้าแม่อวนอิมค่ะ )
- ท่านที่สามกับสี่คือหลวงปู่ทวดกับสมเด็จโตค่ะ ท่านลอยเหาะมาในท่านั่งสมาธิ มาพร้อมกันหน้าประตูห้องนอน เห็นมีรัศมีเป็นประกายวาบๆ รอบองค์เลยค่ะ เล่าให้คนที่มาบ้านฟังเขาตีเป็นหวย 278 ซะงั้น แต่ก็อึ้งค่ะ เพราะงวดนั้นหวยออก 278 ตรงๆ (คนที่บ้านเขาไม่งงค่ะ เพราะเก้าเคยฝันเห็นเลขลอยเรียงมาเป็นแถวๆ ละ 3 ตัว พอตื่นมาก็จดใส่กระดาษไว้ พอหวยออกเขาออกมาตามเลขที่ลอยค่ะ แปลกจังตรงได้ไงหว่า บางทีมีเสียงมาบอกที่หูค่ะเสียงมาตอนใกล้จะตื่น แล้วพอตอนบ่ายสี่โมงหวยก็ตรงกับเลขที่เขามาบอกอีก เออ งง สงสัยว่า เสียงใครอ่ะ อยากรู้ว่าเจ้าของเสียงเป็นใคร แล้วทำไมถึงมาบอกเรา แต่แค่เล่าเฉยๆ นะ ไม่ต้องถามเลขนะ มีเรื่องแปลกๆ เยอะ งง แต่ ดี )
- ท่านที่ห้า ท่านมาสอบค่ะ รูปร่างสูงสง่างามหล่อมากๆๆ ท่านยืนเหาะมาลอยอยู่เบื้องหน้า ท่านถามโดยไม่ขยับปากค่ะแต่ได้ยินชัดเจนว่า "รู้ไหมว่าคาถาชินบัญชรขึ้นต้นได้สองแบบ แบบแรกขึ้นว่าอย่างไรและแปลว่าอะไร" ในฝันนั้นตอบท่านกลับไปโดยไม่ได้ขยับปากเช่นกัน แถมตอบได้ทั้งสองแบบและถูกด้วย (แต่ตอนนั้นในชีวิตจริงยังไม่รู้จักบทสวดชินบัญชรเลยค่ะแถมไม่เคยสวดด้วย) ที่แปลกคือหลังจากนั้นไม่นาน ได้รับหนังสือเก่าจนเหลืองกรอบตามมุมขอบเล่มนึงโดยบังเอิญพอเปิดดูเป็นหนังสือที่มีบทสวดชินบัญชรทั้งสองแบบพร้อมความหมายขึ้นต้นทั้งสองแบบค่ะ ที่อึ้งก็คือเปิดไปเจอรูปพระที่มาสอบเก้าในฝัน ท่านสง่างาม หล่อมากๆๆ เหมือนในฝันเด๊ะเลยค่ะ ท่านคือ องค์ชินปัญชร(อ่านว่า ชิน-นะ-ปัญ-ชะ-ระ) ตำแหน่งหัวหน้ารูปพรหมชั้น16 ค่ะ
และตอนนี้เก้าท่องชินบัญชรได้แล้วค่ะ อิอิ ดีใจจัง

๓. ท่านไปเข้าฝันเอง ทำให้ต้องตามมาหาท่าน (มีเรื่องเล่ากันหลายเรื่องแล้ว) หรือไปสงเคราะห์ด้วยอภิญญา

๔. ตามเพื่อน ญาติ พี่ น้อง หรือคนรักมาวัดหรือซอยสายลม หรือที่อื่นๆ เพื่อมากราบท่าน แล้วก็มาติดใจหลวงพ่อ
- ตอนเด็กๆ เคยตามเพื่อนไปที่ซอยสายลมค่ะ ได้ทำบุญ และรับรูปท่านท้าวมหาราชทั้งสี่กลับมาบ้านด้วย(เออก็งงเนาะ ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าท่านเป็นใครอีกนั่นแหละ เชื่อยังว่าเด็กจริง จริ๊ง 55)และ ซื้อหนังสือหลวงพ่อฤาษีมาอ่านค่ะ อ่านแล้วชอบ แต่ตอนนั้นไม่รู้ว่ามีการสอนมโนมยิทธิค่ะ เสียดายจัง บัดนั้นจนบัดนี้ยังไม่ได้ฝึกมโนมยิทธิเลยค่ะ ตอนนี้อยากฝึกแล้วค่ะครูบาอาจารย์ท่านใดเมตตาช่วยสอนให้เก้าด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

๕. แสวงหาพระดีไปทั่วประเทศ พอมาเจอหลวงพ่อวัดท่าซุงก็เลิกแสวงหา

๖. พอเห็นท่านครั้งแรกโดยบังเอิญก็ติดใจ ทำบุญด้วยทันทีโดยไม่รู้เลยว่าท่านเป็นใคร
คราวหนึ่ง ท่านขึ้นไปดอยตุงแล้วลงมาฉันก๋วยเตี๋ยวเพลอยู่ที่ร้านข้างถนนที่อำเภอแม่สาย มีผู้หญิงราวอายุ ๓๐ เศษ คนหนึ่งเดินผ่านมาพบเข้า ก็ไปซื้อลูกประคำมาถวายท่าน ท่านก็เอาประคำคล้องคอท่านทันที (ตามปกติท่านจะไม่คล้องลูกประคำ นอกจากเพื่อเจริญศรัทธาหมู่คณะเฉพาะงาน) พวกเราก็ล้อท่าน ท่านหัวเราะแล้วบอกว่า "ท่านแม่มาบอกว่า น้องรักเขาถวาย คล้องให้กำลังใจเขาหน่อย"

๗. ท่านตามไปเก็บเอง

เมื่อเป็นลูกศิษย์ท่านแล้ว ทุกคนจะทราบซึ้งในมหากรุธาอันมหาศาลของท่านเอง โดยมิต้องบรรยายในที่นี้ เพราะท่านทำทุกอย่างเพื่อสงเคราะห์ลูกหลานของท่านในทุกโอกาส"