เรื่องพิเศษ รวมก๋วยเตี๋ยว ที่ไม่ธรรมดา

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>คีบตะเกียบ เลียบริมคลอง "ก๋วยเตี๋ยวแม่" ร้านคลาสสิกใน ม.มหิดล</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>8 มกราคม 2550 12:28 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=bottom align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=bottom align=left width=1 height=1></TD></TR><TR><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD><TD><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=center align=middle width=1 background=/images/linedot_vert.gif></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=right width=1 height=1></TD><TD vAlign=top align=middle background=/images/linedot_hori.gif height=1></TD><TD vAlign=top align=left width=1 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>ก๋วยเตี๋ยวต้มยำเมนูเด็ก ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวแม่"</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>เชื่อว่าหลายคนคงนิยมตอบโจทย์มื้อหิว ด้วย “ก๋วยเตี๋ยว” เมนูสุดคลาสสิกที่นิยมกินกันทุกเพศทุกวัย ยิ่งหากร้านใดมีสูตรเด็ดที่น้ำซุป หรือ มือหนักใส่เครื่องก๋วยเตี๋ยวเยอะ ร้านนั้นก็จะมีขาประจำที่ชื่นชอบก๋วยเตี๋ยวจากทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลมากินกันจนแน่นขนัด

“ก๋วยเตี๋ยวแม่” ร้านก๋วยเตี๋ยว ขายดี ที่อดีตเคยขายกันอยู่ที่ ถ.พระอาทิตย์ (เมื่อ 6 ปีที่แล้ว) จัดว่าเป็นร้านหนึ่งที่มีสูตรเด็ดไม่เหมือนใคร อร่อยจนต้องบอกต่อแบบปากต่อปาก แค่นี้คนก็รู้จักกันจนทั่วไปหมด

ล่าสุดเราไปเจอ “ก๋วยเตี๋ยวแม่” เจ้าของคนเดิม ที่หนีกรุงไปอยู่ในสวนย่อมเล็กๆภายใน มหาวิทยาลัยมหิดล วิทยาเขตศาลายา และของอร่อย ไม่ว่าไปจะไปอยู่ที่ไหน???

มันก็....อร่อย!!!


ร้านก๋วยเตี๋ยวที่ชื่อว่า “แม่” (เพราะเป็นสูตรที่เจ้าของร้านเขาเอามาจากแม่) นาทีนี้กลายเป็น ร้านก๋วยเตี๋ยวยอดฮิตของชาวมหิดล ศาลายาไปเรียบร้อยแล้ว เห็นได้จากช่วงมื้อพักเติมพลังอย่าง มื้อกลางวัน ทุกโต๊ะ ทุกพื้นที่ในร้านจะเต็มแน่นไปด้วยลูกค้าขาประจำที่เป็นทั้งนักศึกษา เจ้าหน้าที่ อาจารย์ มาฝากท้อง สั่งเมนูโปรด

นอกจาก “ก๋วยเตี๋ยวแม่” จะมีรสชาติเป็นทุนเดิมกันอยู่แล้ว สิ่งที่เพิ่มความน่าอภิรมย์ของทางร้าน ก็อยู่ตรงการตกแต่งร้านในสไตล์ย้อนยุค ด้วยเก้าอี้ไม้ง่ายๆ เคล้าคลอไปกับบรรยากาศความเป็นธรรมชาติ ส่งผลให้เมนูเด็ดรสจัดจ้าน ของ ครัวเรือนไม้หลังนี้ ดูเหมาะและเข้ากันได้ดีกับบรรยากาศริมน้ำที่สามารถรับความร่มรื่นจากใต้ร่มเงาไม้ได้ตลอดเวลา

เรียกว่า หากลูกค้าเยอะ ก็สามารถชมธรรมชาติเรียกน้ำย่อย ก่อนที่จะเริ่มบรรเลงอาหารคาว – หวาน แบบไทยๆ สูตรลับแลพื้นเมืองอุตรดิตถ์ ไม่เหมือนใครได้เพลิน ๆ

ส่วนเมนูเด็ดยอดนิยมก็มี ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ที่ประเดิมด้วย วุ้นเส้นต้มยำ (ธรรมดา 20 บาท,พิเศษ 25 บาท) หน้าตาน่ากินเพราะมีทั้งแผ่นเกี๊ยวกรอบ ตับหมูหั่นชั้นบางลวกสุก เติมสารพัดลูกชิ้นทั้ง ลูกชิ้นหมู ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง

ที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับ ก๋วยเตี๋ยว ต้มยำชามนี้ก็คือหมูสับละเอียดลวกสุก ใส่กุ้งแห้งตัวโตเพิ่มรสชาติและสีสันโรยหน้าด้วยถั่วงอก ถั่วป่น ผักชีต้นหอม ราดน้ำซุปกระดูกก็พร้อมเสิร์ฟได้ที่สำคัญเครื่องปรุงทั้งหมดทางร้านทำเองและไม่ใช้ชูรสในการปรุง นอกจากนี้ยังมีเมนูที่ได้รับความนิยม อย่าง หมี่พัน ,ข้าวไข่เจียวโหระพา ผัดไทยห่อไข่ ฯลฯ

ฟังแต่ชื่อ ดูแต่รูป คงนึกไม่ออกว่ารสชาติจะอร่อย เด็ด แค่ไหน สมกับที่แนะนำหรือเปล่านั้น อันนี้ต้องลองไปที่ม.มหิดล ศาลายา ตรงไปที่ตึกศูนย์ภาษาและวัฒนธรรม และลองถามคนแถวๆ นั้นดูว่าก๋วยเตี๋ยวแม่อยู่ตรงไหน ร้านเขาเปิดวันจันทร์ – เสาร์ เวลา 08.00 – 16.00 ลองแวะเวียนไปชิมกันดูได้..
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>“หลักจั๊บ”ราดหน้ากวางตุ้งโบราณ ร้านสุดท้าย/แม่ช้อยนางรำ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>8 มกราคม 2550 17:22 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> โดย : แม่ช้อยนางรำ

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>หลักจั๊บ” ราดหน้ากวางตุ้งพิสดาร</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> “จีนกวางตุ้งได้ชื่อทำราดหน้าอร่อย

แต่สุดยอดอร่อยคือ “ราดหน้าหลักจั๊บ”

รับรองว่า “เจ้านาย” ไม่เคยเปิบ!!”

ที่ว่า...เจ้านายชอบกินราดหน้าน่ะ!!

อีชั้นอยากจะถามเจ้านายว่า

“แล้วเจ้านายรู้จักราดหน้าหลักจั๊บอะปล่าวล่ะ”

ถ้าเจ้านายบอกว่ารู้จัก อีชั้นจะปูผ้ากราบ

ก็ถ้าไม่รู้จัก เจ้านายก็ต้องสนใจหน่อย เพราะราดหน้ากวางตุ้งแบบนี้อร่อยที่สุด แล้วดูเหมือนจะหายไปจากวงการราดหน้า อีชั้นเพิ่งจะมาเจ๊อะ!! ร้านนี้

แล้วก็ใช่ว่าเป็นร้านใหม่ซะเมื่อไหร่ เป็นร้านเก่าเล่ายี่ห้อที่อีชั้นเคยกินมาเมื่อห้าสิบปี กินตั้งแต่สมัยเตี่ยขายอยู่ที่ตลาดบางรัก แล้วพอเขารื้อตลาดไปสร้างเป็นศูนย์การค้า ร้านราดหน้าหลักจั๊บเจ้านี้ก็หายวับไปกับตา

ก็เพิ่งจะมาเจอเขามาเปิดร้านอยู่ที่แถวถนนจันทน์ สะพาน 3 ตัวเตี่ยนะซี้ม่องเต๊ก...ไปหลายปี

ก็จะไม่ให้ตายได้อย่างไร สมัยเมื่อสี่...ห้าสิบปีที่อีชั้นไปกินเป็นประจำ เตี่ยน่ะอายุสัก 60-70 ปีเข้าไปแล้ว

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>“จับมุยฟ่าน” ข้าวราดหน้ากวางตุ้งพิสดารเช่นกัน</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ถ้าอีอยู่ตอนนี้มิปาเข้าไปเป็นร้อยหรือไง ถึงจะมีชีวิตอยู่ก็คงยกตะหลิวไม่ไหว

เจ้านายควรจะได้รู้ก่อนว่า แถว “ตลาดบางรัก” เมื่อร้อยกว่าปีก่อน เป็นย่านของคนกวางตุ้ง

เดี๋ยวนี้ก็ยังเหลือร่องรอยที่ค่อย...ค่อยหายไปทุกปี คือเหลือร้านขายเป็ดย่าง หมูแดง ไม่มีชื่อขายตอนเช้า พอสายก็หมด

กับร้านภัตตาคารกวางตุ้งชื่ออะไรก็ไม่รู้ เพราะไม่ได้อยู่ในเครือ “เปิบพิสดาร” อาหารพอกินได้ แต่ไปตบแต่งร้านเสียทันสมัย เสียกลิ่นอายของความเป็นจีนกวางตุ้ง ยิ่งทำให้กินกันไม่อร่อยเข้าไปอีก

มีพอกินได้อยู่ร้านหนึ่งริมคลองสาทร ตอนนี้ย้ายเข้าไปในซอยหลังโรงพักบางรัก อร่อยอยู่แต่แพงระยับ ไม่จำเป็นก็ไม่ไปกินกัน...ให้พวกเศรษฐีหน้าใหม่เขาตื่นเต้นไปเถอะ!!

ร้านราดหน้ากวางตุ้งเจ้าที่ว่านี้ ทำอาหารกวางตุ้งอร่อยทุกอย่าง แต่ที่โด่งดังมากก็คือราดหน้า

แล้วราดหน้าที่ว่า ก็เป็นราดหน้าไม่เหมือนใคร เรียกกันว่า “หลักจั๊บ” เป็นราดหน้าแบบกวางตุ้งโบราณ คือจะใส่เครื่องเคราพิสดารมากมาย

จานหนึ่งจะมีเครื่องใส่มากเป็นพิเศษ ตั้งแต่หมูหรือเนื้อหมัก แล้วก็ยังมีหมูแดง ปลาหมึกดอง ปลากหมึกสด กุ้ง เห็ดหอม ใครชอบปลาทะเลก็ใส่ให้ ตีนเป็ดก็ยังมี

นี่ยังไม่รวมผักไก้หล่าน หรือผักคะน้ากวางตุ้งกับเส้นใหญ่ เส้นหมี่

รวมความว่า “หลักจั๊บ” เป็นก๋วยเตี๋ยวราดหน้าอร่อยพิสดาร เพราะเครื่องเครามากมาย

นอกจาก “หลักจั๊บ” แล้วร้านนี้ยังมีข้าวผัดราดหน้า เป็นของกวางตุ้งโบราณเช่นกัน สมัยนี้อีชั้นอยากจะไปกินทีต้องไปฮ่องกง คงจะเหลืออยู่ที่นี่ร้านนี้เท่านั้นที่ทำเป็นกัน

ข้าวผัดราดหน้าที่ว่ามีชื่อกวางตุ้ง “จับวุยฝาน”

ความจริงก็ไม่ได้พิสดารอะไร คนกวางตุ้งที่เมืองจีนเขาทำกินกันมานานแล้ว คือข้าวผัดปู ราดหน้าหลักจั๊บที่ว่า ทำให้เกิดความอร่อยที่แตกต่าง คือเป็นทั้งข้าวผัดเป็นทั้งราดหน้า เจ้านายไปลองเถอะ แล้วจะรู้ว่าคนจีนกวางตุ้งเขามีความแตกฉานเรื่องทำอาหารราดหน้าแก่กล้ากว่าจีนไหนๆทั้งนั้น

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>“นายราเชนทร์” ผู้สืบสานราดหน้ากวางตุ้งโบราณ เป็นรุ่นที่สอง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นอกจาก “จับวุยฝาน” กับ “หลักจั๊บ” แล้ว ร้านนี้ก็มีอาหารกวางตุ้งแบบง่ายๆที่เรียกว่าอาหารจานเดียวอีกหลายรายการ ก็อร่อยทั้งนั้น

อย่างเช่นบะหมี่ราดหน้า ก๋วยเตี๋ยวผัดเส้นเซี่ยงไฮ้ แม้กระทั่งสุกี้แบบจีนปนญี่ปุ่น

ร้านนี้หาง่ายอยู่ริมถนนจันทน์ ก่อนถึงสี่แยกที่เรียกว่า “ตรอกจันทน์สะพาน3” ตรงกันข้ามกับธนาคารกรุงเทพสาขาถนนจันทน์

ที่ลำบากก็คือที่จอดรถเท่านั้น บางวันก็ให้จอดฝั่งหน้าร้าน บางวันก็ต้องจอดฝั่งตรงข้าม

ไง...ไงเจ้านายก็สอบถามเจ้าของร้านเขา

ไม่ถามก็ได้ราดหน้าหลักจั๊บจานละ 40 บาท ถูกอร่อยก็จริง แต่ค่าปรับตำรวจเขียนใบสั่ง ราดหน้าจานละ 40 บาทก็พุ่งพรวดพราดเป้น 240 บาททันที

...แล้วจะหาว่าอีชั้นไม่เตือนไม่ได้นะเจ้าค่ะเจ้านาย...

ร้านเชนชวนชิม 1253/1 ถนนจันทน์ สะพาน 3 กทม.10120 โทร.08-1826-2876 , 0-2212-4422
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post465618 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> วันนี้, 07:18 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Catt Bewer<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_465618", true); </SCRIPT>
สมาชิก
สมาชิกยอดฮิต



เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 12:54 PM
วันที่สมัคร: Jul 2006
สถานที่: DreAmWoRLd
ข้อความ: 1,230 <!-- Start Post Thank You Hack -->
ได้ให้อนุโมทนา 1,471 ครั้ง
ได้รับอนุโมทนา 2,069 ครั้ง ใน 478 โพส <!-- End Post Thank You Hack -->
พลังการให้คะแนน: 336


</TD><TD class=alt1 id=td_post_465618 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น-หมูตุ๋น เปื่อยนุ่ม-ร้านคุณครูท่าดินแดง
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ย่านท่าดินแดงเป็นแหล่งชุมชนที่มีชาวไทยเชื้อสายจีนอาศัยอยู่จำนวนมาก จึงมีร้านอาหารจีนเปิดกิจการอยู่มากมายหลายอย่าง

ในจำนวนนี้มีร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ร้านหนึ่ง ใครผ่านไปผ่านมาบริเวณนี้ จะได้กลิ่นของน้ำก๋วยเตี๋ยวหอมเตะจมูกน่ารับประทาน

ร้านมีชื่อว่า "ร้านคุณครู" ขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวและหมูตุ๋น

เมนูแรกที่ทางร้านขอแนะนำ อีกทั้งยังเป็นเมนูยอดนิยมคือ "ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น" ซึ่งส่วนประกอบที่ใช้ประกอบด้วยเนื้อหมูที่ผ่านขั้นตอนการหมักเป็นอย่างดี โดยใช้เวลาการหมักประมาณ 2 ชั่วโมง ซี่โครงแก้วหรือซี่โครงอ่อนที่จะต้องมีมันหมูติดไม่มากจนเกินไป เพื่อไม่ให้รสชาติของซี่โครงหมูเสียไป

นอกจากนี้ ยังมีตับหมู ลูกชิ้นหมู ส่วนผักที่ใช้จะเป็นผักบุ้ง ถั่วงอก ซึ่งทางร้านจะเน้นในเรื่องผักเป็นพิเศษ ซึ่งผักที่ใช้จะต้องมีความสดใหม่ โดยทางร้านจะไม่ใช้ผักเหลือค้างคืน สำหรับกระเทียมเจียวก็ต้องไม่เหม็นหืนและใหม่เช่นกัน

สำหรับการตุ๋นเนื้อหมูจะใช้เวลาในการตุ๋นประมาณ 1 ชั่วโมง หลังจากนั้นจะนำเนื้อหมูที่ได้มาหั่นให้ได้ชิ้นพอดีคำและจะนำไปตุ๋นอีกครั้งประมาณ 1 ชั่วโมง การหั่นเนื้อหมูมาหันก่อนจะทำให้เนื้อหมูที่ได้มีความนุ่มและเปื่อย ส่วนน้ำซุปของก๋วยเตี๋ยวจะไม่ใส่ผงชูรส หากใส่เครื่องยาจีนและเคี่ยวด้วยกระดูกแทน เพื่อให้รสชาติของน้ำซุปที่ออกมาจะมีความเข้มข้นและยังเป็นยาบำรุงร่างกายอีกด้วย โดยจะใช้เวลาในการเคี่ยวน้ำก๋วยเตี๋ยวประมาณ 2 ชั่วโมง <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

อีกเมนูหนึ่งเป็น ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวตุ๋น ส่วนประกอบที่ใช้จะมีเนื้อวัว ที่ผ่านขั้นตอนการหมักเหมือนกับการหมักเนื้อหมู ผ้าขี้ริ้ว ลูกชิ้นเนื้อ ตับ โดยทางร้านจะใช้เนื้อหมูและวัววันละประมาณ 20 กิโลกรัม

เนื้อวัวและหมูที่ใช้รับประกันความสะอาด ส่วนน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวจะแตกต่างต่างกับน้ำก๋วยเตี๋ยวหมู ตรงที่เนื้อวัวจะใช้กระดูกของวัวแทนกระดูกหมู สำหรับส่วนประกอบอื่นๆ จะเหมือนกัน

ทางร้านแยกหม้อน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวและหมูออกจากกัน เพื่อจะได้ไม่เป็นการสร้างความลำบากใจสำหรับลูกค้า อีกทั้งชามก๋วยเตี๋ยวก็แยกระหว่างก๋วยเตี๋ยวหมูและเนื้อเช่นกัน

สำหรับเมนูพิเศษที่ทางร้านจัดทำเสริมให้กับลูกค้าคือ "ก๋วยเตี๋ยวไก่ อุ่นไอรัก" มีเฉพาะวันพุธของทุกสัปดาห์เท่านั้น โดยทางร้านจะใช้เนื้อไก่ ปีกไก่และน่องไก่ที่ผ่านมาตุ๋นเป็นเวลากว่า 2 ชั่วโมง ทำให้เนื้อที่ได้เปื่อย นุ่มน่ารับประทาน อีกทั้งจะมีการโรยเครื่องยาจีนบริเวณด้านหน้าด้วย ส่วนน้ำซุปก๋วยเตี่ยวไก่จะใช้กระดูกซี่โครงไก่เคี่ยวกับเครื่องยาจีนใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง สำหรับก๋วยเตี่ยวแห้งทางร้านจะใช้ซีอิ๊วของหมูหัน เพื่อให้รสชาติที่ได้ออกมากลมกล่อมน่ารับประทาน

สำหรับผู้ที่ต้องการเนื้อวัวและหมูเพียงอย่างเดียว ทางร้านมีเมนู "เกาเหลาบก" โดยเมนูดังกล่าวจะมีเนื้อวัวและหมู ตับ เครื่องใน ที่ผ่านการลวกเป็นอย่างดี โรยด้วยกระเทียมเจียวและนำมาจิ้มกับเครื่องปรุงที่สามารถเลือกปรุงเพื่อให้ได้รสชาติตามใจชอบ

สูตรเด็ดเพิ่มความอร่อยให้กับก๋วยเตี๋ยว อีกทั้งยังถือเป็นหัวใจหลักของก๋วยเตี๋ยวของร้านนี้ คือ "น้ำส้ม" ที่ใช้สำหรับปรุงก๋วยเตี๋ยว โดยทางร้านจะใช้พริกกะเหรี่ยงแทนพริกสด ทำให้รสชาติของก๋วยเตี๋ยวร้านนี้มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวร้านอื่น

ด้านเครื่องดื่มมีหลายอย่างให้เลือก ประกอบด้วย โอเลี้ยง ชาดำเย็น กระเจี๊ยบ เก๊กฮวย มะพร้าวและน้ำสำรอง ซึ่งเครื่องดื่มทุกอย่างทางร้านได้ทำเอง เพื่อให้รสชาติที่ได้มีความเข้มข้นไม่เหมือนที่อื่น

นายธนกฤต ชีวะถาวร หนุ่มใหญ่เจ้าของร้าน เล่าที่มาของร้านว่า ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวและหมูตุ๋น ขั้นตอนและสูตรการทำมาจากพ่อ ซึ่งเมื่อก่อนพ่อจะเป็นคนที่ชอบลองชิมอาหารที่มีคนร่ำลือว่ามีรสชาติอร่อยไปทุกที่ เมื่อได้ลองชิมพ่อก็จะกลับมาลองปรุงอาหารเองที่บ้าน ส่วนก๋วยเตี๋ยวเนื้อและหมูตุ๋นพ่อได้ไปลองชิมก๋วยเตี๋ยวเนื้อจากย่านวัดดงมูลเหล็ก แขวงบ้านช่างหล่อ เขตบางกอกน้อย ทำให้พ่อกลับมาลองปรุงน้ำก๋วยเตี๋ยวเหมือนทุกครั้ง สำหรับก๋วยเตี๋ยวเนื้อหมูตุ๋นมีการประยุกต์และปรับปรุงจนได้รสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนร้านไหน

นายธนกฤต กล่าวถึงที่มาของชื่อของร้านคุณครูด้วยว่า เมื่อก่อนตนและพี่น้องรวม 5 คน เป็นครู ต่อมามีการย้ายที่ตั้งโรงเรียน ทั้ง 5 คนได้ตัดสินใจออกจากราชการและได้หันเหมาประกอบอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวและหมูตุ๋น ลูกค้าส่วนมากจะเป็นหมอ พยาบาลของโรงพยาบาลตากสินและโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา

ราคาก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัวและหมู อยู่ที่ 25 บาท พิเศษ 30 บาท เกาเหลา 30 บาท พิเศษ 40 บาท เกาเหลาบกชุดละ 40 บาท ส่วนเครื่องดื่มทุกอย่างแก้วละ 10 บาท เฉพาะน้ำมะพร้าวแก้วละ 12 บาท

ท่านใดต้องการแวะเข้ามาชิม ร้านเปิดทุกวันจันทร์-เสาร์ ในเวลา 09.00-17.00 น. หยุดทุกวันอาทิตย์ โทร.สอบถามรายละเอียดได้ที่ 08-6669-5323, 08-9496-2776

http://www.matichon.co.th/khaosod/kh...sectionid=0328
<!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยรสเด็ด ที่ "ครัวอรรถรส" </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 มกราคม 2550 13:23 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้านครัวอรรถรส</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>"ก๋วยเตี๋ยว" จัดว่าเป็นเมนูอาหารจานด่วนที่นักกินถวิลหามาใส่ท้องอย่างไม่เบื่อหน่าย เพราะว่าก๋วยเตี๋ยวมีการปรับเปลี่ยนหน้าตาและรสชาติ รวมไปถึงเครื่องเคราให้มีความหลายหลากกันไป

และหนึ่งในก๋วยเตี๋ยวที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่าง"ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย"ก็นับว่าเป็นก๋วยเตี๋ยวที่ชวนลิ้มรสไม่น้อยเลย ซึ่งในมื้อนี้ "ผ่านมาแวะกิน" ก็จะชวนมิตรรักนักกินไปลองลิ้มก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยรสเด็ด กันที่ร้าน “ครัวอรรถรส” ตรงซอยเสือใหญ่อุทิศ ที่เปิดขายมานานกว่า 10 ปี แล้ว

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยแห้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยของที่นี่มีด้วยกันทั้งหมด 3 แบบ มีแบบน้ำ (20 บาท) แห้ง (20 บาท) และก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยผัด (30 บาท) ซึ่งเป็นสูตรพื้นบ้านดั้งเดิมที่มีหน้าตาและรสชาติคล้ายคลึงกับผัดไท)

แต่ว่าในมื้อนี้เราของเลือกสั่งมาเป็น ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยแบบแห้ง (20 บาท) ก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กที่ใส่มาครบเครื่องมีหมูแดง หมูสับ และแคบหมูที่ทางร้านทำเอง และที่ขาดไม่ได้ถั่วฝักยาวหั่นแฉลบบางๆ หัวไชโป๊สับ และปรุงรสชาติด้วยน้ำปรุงน้ำปรุงสูตรพิเศษที่ผัดกับน้ำตาลปี๊บ ใส่น้ำมะขามเปียก แล้วก็ปรุงรสแบบต้มยำมาพร้อมสรรพ ใส่น้ำตาล น้ำปลา พริกป่น ใส่ถั่วลิสงคั่วเองสดใหม่ โรยด้วยผักชีฝรั่ง เวลากินก็คลุกเส้นให้เข้ากับเครื่องทุกอย่างไม่ต้องปรุงรสเพิ่มเลย อ้อ!! แต่จะมีมะนาวผ่าซีกมาให้บีบเพิ่มความเปรี้ยวและหอมมะนาว เส้นเล็กนุ่มๆ กลมกล่อมด้วยรสชาติที่เข้มข้นของน้ำปรุง ถั่วฝักยาวเคี้ยวกรุบกินเพลินปาก

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=260 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=260> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ขนมจีนน้ำเงี้ยวและปอเปี๊ยะทอด</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>และหลังจากกินก๋วยเตี๋ยวหมดไปหนึ่งชาม เราก็เมียงมองดูเมนูอื่นๆ ที่ทางร้านมีให้เลือกสั่งมากินอีกมากมายอย่าง ปอเปี้ยะทอด (30บาท) ชิ้นพอดีคำ ที่ใส่ข้างในห่อด้วยหมูสับ วุ้นเส้น เห็ดหูหนู ข้าวโพดอ่อน และปรุงรสด้วยเครื่องหมัก มาพร้อมกับน้ำจิ้มที่ทางร้านทำเอง มีส่วนผสมของหัวไชเท้าปั่นละเอียด เพิ่มความเผ็ดด้วยพริกเหลือง ใส่น้ำบ๊วยและลูกบ๊วย กับน้ำส้มสายชู ปอเปี๊ยะทอดร้อนๆ เคี้ยวกรอบกรุบ จิ้มกับน้ำจิ้มออกรสเปรี้ยว หวาน แกล้มด้วยแตงกวา กับใบสะระแหน่ช่างเข้ากันดี

ขนมจีนน้ำเงี้ยว (25บาท) เป็นอีกหนึ่งเมนูชวนกิน น้ำเงี้ยวก็จะมีครบครันปรุงรสแบบเหนือแท้ใสทั้ง มะนาว หมู เลือด มะเขือเทศ ดอกงิ้ว เครื่องเคียงอย่างครบถั่วงอก ผักกาดดอง มะนาวซีก พริกทอด โรยหน้ากระเทียมเจียว

นอกจากนี้ยังมีขนมจีนน้ำพริก น้ำยากะทิ น้ำเงี้ยว แกงเขียวหวานไก่ยอดมะพร้าว น้ำยาป่า แกงไตปลา (25 บาท) ก๋วยเตี๋ยวหลอด (30 บาท) ลาบหมู (45 บาท) ส้มตำผลไม้รวม (35 บาท) บัวลอย (15 บาท) และอีกสารพัดเมนูชวนกินทั้งคาว-หวาน ที่ร้าน "ครัวอรรถรส" นำมากำนัลปากต่อมิตรรักนักกิน

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

คลิก!! อ่านรายละเอียดและการเดินทางไปยังร้าน "ครัวอรรถรส"
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและการเดินทางไปยังร้าน "ครัวอรรถรส"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 มกราคม 2550 13:19 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=500 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=500> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : ครัวอรรถรส

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยวและอาหารอื่นๆ

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย, ปอเปี๊ยะทอด, ขนมจีนน้ำเงี้ยว

บรรยากาศร้าน : เป็นบ้านจัดเป็นโต๊ะนั่งสบายๆ

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 15/126 ซ.รัชดาภิเษก 36 (เสือใหญ่อุทิศ) แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กทม. การเดินทางถ้ามาจากแยกรัชโยธิน ให้ขับตรงมาทางถ.รัชดาภิเษก และขับเข้าซ.รัชดาภิเษก 36 (เสือใหญ่อุทิศ) ตรงเข้ามาจนเจอร้านกาแฟชาลอตโต้ ให้เลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กๆ ตรงไปอีกนิดจะเห็นร้าน ครัวอรรถรสอยู่ทางซ้ายมือ

สถานที่จอดรถ : มีที่จอดรถอยู่ที่ร้านเฟอร์นิเจอร์ก่อนถึงร้าน

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-18.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : รับจัดงานนอกสถานที่ด้วย โทร. 0-2541-6577, 0-2541-7043

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ก๋วยเตี๋ยวกวางตุ้งถึงราดหน้า

คอลัมน์ หิวหรืออิ่มก็ยิ้มพอกัน

โดย พัชรพน



ถ้าคุณผู้อ่านอายุ 40 ขึ้นไป คงได้ยินชื่อ "ก๋วยเตี๋ยวกวางตุ้ง" มาบ้าง

แต่ถ้าอายุต่ำกว่านั้นคงเหลือน้อยคนที่จะรู้จัก "ก๋วยเตี๋ยวกวางตุ้ง" เพราะ "ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า" กลายเป็นที่ที่มาทดแทนเสียแล้ว

คนที่อายุเลย 40 ปีไปมากสักหน่อย คงได้ลิ้มชิมรสก๋วยเตี๋ยวกวางตุ้งกันอยู่บ้าง โดยเฉพาะหากเป็นคนที่อาศัยอยู่ในเมือง

เหมือนกันครับ "ก๋วยเตี๋ยวกวางตุ้ง" ในอดีต กับ "ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า" ในปัจจุบัน เพียงแต่ต่างกันที่ผัก คือ "ก๋วยเตี๋ยวกวางตุ้ง" ใช้ "ผักกวางตุ้ง" แต่ "ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า"ใช้ "ผักคะน้า"

อะไรอร่อยกว่านั้นตอบยาก เพียงแต่สมัยเด็กๆ วันไหนได้กินก๋วยเตี๋ยวกวางตุ้ง วันนั้นจะเป็นวันพิเศษมาก อย่างเช่นมีญาติไปทำงานไกลๆ แล้วซื้อกลับมาฝาก หรือมีงานเทศกาลประจำปี

ไม่ค่อยมีขายทั่วไปเหมือน "ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า" ในปัจจุบัน

ส่วน "ก๋วยเตี๋ยวกวางตุ้ง" เปลี่ยนมาเป็น "ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า" ตั้งแต่เมื่อไร ด้วยเหตุผลอะไร เชื่อกันว่าคงลืมๆ กันไปแล้ว

รู้แต่ว่าเปลี่ยนไปเมื่อเปลี่ยนจากใช้ "ผักกวางตุ้ง" มาเป็น "ผักคะน้า"

อาจจะเป็นเพราะผักคะน้ากับผักกวางตุ้งคล้ายๆ กัน แต่ผักคะน้าเก็บได้นานกว่า ผักกวางตุ้งเมื่อผัดแล้วต้องกินเลย ผัดใส่กะละมังไว้ เมื่อคนสั่งตักราดได้ทันทีเหมือนผักคะน้าไม่ได้ หรือไม่เหมาะ พ่อค้าแม่ค้าก็เลยเปลี่ยนจาก "ก๋วยเตี๋ยวกวางตุ้ง" มาเรียกเป็น "ก๋วยเตี๋ยวราดหน้า" และในที่สุด "ก๋วยเตี๋ยวกวางตุ้ง" เลยเลือนหายไปจากความทรงจำของคนทั่วไป

ก็ว่ากันไปครับ เรื่องนั้น ที่จะนำเสนอวันนี้เป็น "สูตรการทำก๋วยเตี๋ยวราดหน้า" ให้อร่อย

เมื่อครั้งยังเป็น "ก๋วยเตี๋ยวกวางตุ้ง" อาหารชุดนี้เป็นระดับเหลา ขายในร้านใหญ่ๆ โดยเฉพาะของคนจีน เป็นอาหารจีน

เคล็ดลับอยู่การผัดเส้น

เส้นก๋วยเตี๋ยว จะต้องมีกลิ่นหอมไหม้ๆ นิดๆ สังเกตดูร้านไหนอร่อย เส้นจะมีรอยไหม้เกรียม และพอง

มีวิธีครับการผัดเส้นให้เป็นแบบนั้น ก่อนอื่นต้องตั้งกระทะให้ร้อนจัดจริงๆ ควรจะเป็นกระทะเหล็กเนื้อหนาที่อุ้มความร้อนไว้ได้มากๆ ตั้งกระทะให้ร้อนจัดแล้วค่อนใส่น้ำมันลงไป เอียงกระทะ หรือใช้ตะหลิวเกลี่ยน้ำมันให้ทั่วกระทะ

ถ้าจะให้ดี ใส่น้ำมันลงไปให้มากในช่วงแรก เพื่อกระทะดูชุ่มน้ำมัน แต่พอร้อนแล้วให้เทน้ำมันออกมาเก็บ เหลือติดก้นกระทะไว้แค่นิดหน่อย

จากนั้นเอาก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ซึ้งขยี้จนไม่ติดกันแล้วใส่ลงไป เร่งไฟให้แรง ผัดให้เร็วๆ จะทำให้เส้นพอง และไหม้เกรียมหอมกรุ่น ใส่ซีอิ๊วดำลงไป ผัดให้ทั่ว เท่านี้ใช้ได้

ส่วนการผัดน้ำราด ผัดธรรมดาๆ ครับ ใส่น้ำมัน เจียวกระเทียมให้หอม ใส่เนื้อที่ต้องการใช้ หมู หรือ ทะเล เนื้อ ลงไปผัดให้หอม เทน้ำสะอาดลงไป แล้วใส่แป้งมันนิดหน่อย เคี่ยวให้เดือด แล้วใส่ผักคะน้าลงไป ต้มให้พอสุก

เคล็ดลับอยู่ที่หากจะให้อร่อยตำรับอาหารจีนต้องใส่เต้าเจี้ยวอย่างดีลงไปด้วย

สุกแล้ว ตักราดเส้นก๋วยเตี๋ยวหอมที่ใส่เป็นจานๆ ไว้

เท่านี้ก็ดีเด็ดแล้ว ทำกินที่บ้านก็ไม่ยาก ทำขายต้องนึกไว้เสมอว่า เสิร์ฟร้อนๆ ดีที่สุด แล้วผัดใส่กะละมังไว้มากเกินไป จนเย็นชืด

ลองดูเถอะครับ สร้างชื่อได้ไม่ยาก

 

วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2550
http://www.komchadluek.net/
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=585 align=center border=0><TBODY><TR><TD height=8></TD><TD></TD><TD></TD></TR><TR><TD width=8></TD><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top></TD></TR><TR><TD vAlign=top height=8></TD></TR><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>รวมแหล่งอาหารเส้นของอร่อยของคนไทย</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- เข้าไปชมเว็บบล็อกที่ http://www.oknation.net/blog/manoot/2007/02/02/entry-2 มีหัวข้อนี้เห็นว่าน่าสนใจ และเหมาะสมสำหรับช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์จะพาครอบครัว คนที่เรารักไปรับประทานอาหารตามคำแนะนำในบล็อกนี้

-->เข้าไปชมเว็บบล็อกที่ http://www.oknation.net/blog/manoot/2007/02/02/entry-2 มีหัวข้อนี้เห็นว่าน่าสนใจ และเหมาะสมสำหรับช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์จะพาครอบครัว คนที่เรารักไปรับประทานอาหารตามคำแนะนำในบล็อกนี้


</TD></TR></TBODY></TABLE>
*-----------------------------------------------------------------------*


</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
ลองติดตามนะครับ
http://www.oknation.net/blog/manoot/2007/02/02/entry-2

วันศุกร์ ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2550
รวมแหล่งอาหารเส้นของอร่อยของคนไทย

Posted by : 22:30:20 น.


<TABLE><TBODY><TR><TD>
เพื่อนของผมเป็นนักกินก๋วยเตี๋ยว เขารวบรวมให้ผมมาเผยแพร่แก่ชาว Nation Blog

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

ชื่อร้าน : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนายโส่ย

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อย, ก๋วยเตี๋ยวเครื่องในเปื่อย

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 100/2-3 ถ.พระอาทิตย์ แขวงชนะสงคราม .ร้าน อยู่ใกล้ๆกับบ้านพระอาทิตย์(นสพ.ผู้จัดการ) ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามป้อมพระสุเมรุเยื้องไปทางท่าพระอาทิตย์ และมีอีกหนึ่งสาขาอยู่ศรีย่าน ตรงปากซอยร่วมจิตร

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น.

ชื่อร้าน : วัฒนาพาณิชย์

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น ข้าวหน้าไก่ เนื้อผัดน้ำมันหอย แพะตุ๋น แล้วตบท้ายด้วยไอศกรีมกะทิ

ที่ตั้ง และการเดินทาง : อยู่ซอยเอมัย (สุขุมวิท 63) ขับมาจากถนนเพชรบุรี ร้านเป็นตึกแถว 2 ห้องอยู่ด้านซ้ายมือ นอกจากนี้ก็ยังมีสาขานนทบุรี ที่อยู่เยื้องโรงพยาบาลศรีธัญญา

ชื่อร้าน : กอเต็กเชียง

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น

ที่ตั้ง และการเดินทาง : อยู่ถนนประชาชื่น ถ้าขับมาจากสะพานสูงบางซื่อ (ตรงเตาปูน) ข้ามทางรถไฟมาประมาณ 2 กิโลเมตร ร้านจะเป็นตึกแถวทางซ้ายมือก่อนถึงแยกประชานุกูล อีกสาขาจะอยู่ที่เมืองทองธานี ตรงเลยมหาวิทยาลัยสุโขทัยไปประมาณ 1 กิโลเมตร ร้านอยู่ซ้ายมือ

ชื่อร้าน : มิตรโภชนา (ท่าพระจันทร์)

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

ที่ตั้ง และการเดินทาง : เป็นตึกแถวห้องเดียว อยู่ข้างธรรมศาสตร์ บริเวณท่าน้ำมีร้านค้าเยอะๆ

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวันตั้งแต่ 06.30-17.30 น.

ชื่อร้าน : ต.จันทร์เพ็ญ (เจ้าเก่าตลาดพลู)

ที่ตั้ง และการเดินทาง : จากวงเวียนใหญ่ ให้เลี้ยวมาทางบางแค/ท่าพระ ตรงมาเรื่อยๆ เลี้ยวซ้ายที่ไฟแดงแรก จะเจอป้ายถนนเทิดไท (ไปตลาดพลู) ให้ขับตรงมาเรื่อยๆ ร้านเป็นตึกแถวห้องเดี่ยว อยู่ก่อนถึงสามแยก (ถ้าเลี้ยวซ้ายจะเจอทางรถไฟ)

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-18.00 น.

ชื่อร้าน : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อวัว สว่างอรุณ

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

ที่ตั้ง และการเดินทาง : อยู่สุขุมวิท 71 (คลองตัน) เข้าจากทางเพชรบุรี ร้านจะอยู่กลางๆ ซอย ด้านขวามือแถวๆ ปากซอยปรีดี พนมยงค์ 35 นอกจากนี้ก็มีสาขาที่ Central พระราม 3

ชื่อร้าน : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อบิ๊กสุ

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ

ที่ตั้ง และการเดินทาง : อยู่ตรงถนนนครชัยศรี ถ้ามาจากตลาดราชวัตร ข้ามสะพานราชวัตร ไปทางศรีย่านซัก 200 เมตร จะเจอร้านที่เป็นตึกแถว 2 คูหาทางซ้ายมือเยื้องๆกับศูนย์ซ่อมรถมิตซูบิชิ ขอแนะนำว่าให้จอดรถในปั๊มน้ำมันทางซ้ายมือ

ชื่อร้าน : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ เอ็นตุ๋น เจ้าเก่านายก๊ง

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น

ที่ตั้ง และการเดินทาง : อยู่แถวย่านคลังสินค้าพหลโยธิน ถ้าขับมาจากทาง อตก.(สวนจตุจักร) ให้ขับเลยทางขึ้นทางด่วน แล้วเลี้ยวซ้ายที่ซ้ายแรก เข้าถนนพระราม 6 ร้านจะอยู่ทางซ้ายมือ ทางร้านมีที่จอดรถหลังร้านไว้บริการ

ชื่อร้าน : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อกรอบ

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อกรอบ, ข้าวหน้าไก่

ที่ตั้ง และการเดินทาง : 168 ซ.วิภาวดี 22 ถ.วิภาวดีรังสิต เข้าซ.วิภาวดี 22 ผ่านตลาดลุงเพิ่ม สุดถนนเลี้ยวซ้าย จะผ่านร้านหัวปลีก่อน ตรงไปอีกประมาณ 100 ม. ให้สังเกตว่าร้านจะเป็นบ้านอยู่ซ้ายมือ

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน ยกเว้นวันพุธสุดท้ายของเดือน เวลา 09.00-15.00 น.

ชื่อร้าน : รสเด็ด

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อวัว

ที่ตั้ง และการเดินทาง : 1159 ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท จากปากซอยราชครูตรงขึ้นไปอีก 20 ม. ร้านอยู่ทางซ้ายมือติดถนนใหญ่

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.30-16.00 น.

ชื่อร้าน : ดีเด็ด

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อสด, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อย

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ถ.พหลโยธิน แขวงสามเสนใน เขตพญาไท ร้านอยู่ตรงข้ามกับธนาคารออมสิน สงญ สะพานควาย

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-15.00 น.

ชื่อร้าน : อนามัย

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อวัว, ลูกชิ้นปิ้ง

ที่ตั้ง และการเดินทาง : เลขที่ 3 ซอยศูนย์วิจัย 7 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เขตห้วยขวาง กทม. 10320 อยู่ใกล้โรงพยาบาลกรุงเทพฯ พอถึงแยกถ้าเลี้ยวขวาจะเข้าโรงพยาบาล ให้เลี้ยวซ้ายมาสุดซอยจะเจอร้านอนามัย

เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน ยกเว้นวันตรุษจีนและสงกรานต์ เวลา 09.30-18.00 น.

ชื่อร้าน : ลิ้มเชิญชิม

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อวัว ข้าวมันไก่

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ถนนเทอดไท ซอยโรงเรียนศิริกิจ แขวงตลาดพลู จากถนนเทอดไทตรงมาถึงสี่แยกตลาดพลู เลี้ยวซ้ายมาในซอยโรงเรียนศิริกิจ ซึ่งตรงกันข้ามกับท่าน้ำตลาดพลู เดินเข้ามาอีก 10 เมตร จะเห็นร้านอยู่ริมทางรถไฟ

เวลาเปิด -ปิด : ทุกวัน เวลา 08.00-20.00 น.

ชื่อร้าน : รสเด็ด

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ, หมู-เนื้อสะเต๊ะด็ด, ไอศกรีมกะทิสด

ที่ตั้ง และการเดินทาง : เลขที่ 106/9 ถนนบางกอกน้อย-ตลิ่งชัน อยู่ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพฯ สาขาบางขุนนนท์

เวลาเปิด -ปิด : ทุกวัน เวลา 09.00-115.00 น.

ชื่อร้าน : เพ็ญจันทร์โภชนา

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเนื้อวัว, ก๋วยเตี๋ยวเนื้อกรอบ, กระเพาะวัวกรอบ

ที่ตั้ง และการเดินทาง : อยู่ด้านหลัง สน.ตลิ่งชัน เลขที่ 8/77-78 ถนนฉิมพลี แขวงฉิมพลี เขตตลิ่งชัน

เวลาเปิด -ปิด : ทุกวัน ยกเว้นวันสงกรานต์ เวลา 08.00-17.00 น.

ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ

ชื่อร้าน : เย็นตาโฟนิเวศน์ 2

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ, เกาเหลาเย็นตาโฟแห้งเ, ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ, บะหมี่แห้ง

ที่ตั้ง และการเดินทาง : 70 / 759 ถ. สามัคคี อ.เมือง จ.นนทบุรี อยู่ติดกับธนาคารทหารไทย

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา09.00 น.

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อิ่มท้องคุ้มราคา กับ"บะหมี่เกี๊ยว 10 บาท"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 กุมภาพันธ์ 2550 17:35 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศโต๊ะนั่งร้าน “บะหมี่เกี๊ยว 10 บาท”</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ในปัจจุบันนี้เศรษฐกิจของประเทศไทยเรา เกิดสภาวะขาดสภาพคล่องทางด้านการเงิน เห็นทีว่าคนไทยคงจะต้องจัดระเบียบเรื่องค่าใช้จ่ายกันให้มากขึ้น จะมาฟุ่มเฟือยใช้จ่ายมือเติบ แบบไม่ออมเงินไว้บ้างก็คงจะไม่ได้แล้ว

อย่างเรื่องของอาหารการกินก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ ซึ่งในมื้อนี้"ผ่านมาแวะกิน" มีร้านอาหารราคาถูกมานำเสนอแก่มิตรรักนักกิน ด้วยการพาไปกินก๋วยเตี๋ยวราคาประหยัดกันที่ร้าน"บะหมี่เกี๊ยว 10 บาท" ซึ่งตั้งขายอยู่ในซอยเล็กๆ ตรงบางลำพูนี่เอง

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เกี๊ยวแห้งและเส้นหมี่ขาวแห้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ร้านบะหมี่เกี๊ยว 10 บาท ร้านนี้ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเปิดขายมานานกว่า 10 ปี แล้วก็ขายราคา 10 บาทมาตั้งแรกจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่เพิ่มราคา เรียกว่าคุณวัฒนา ฮะสูน เจ้าของร้านและเป็นผู้ลงมือทำก๋วยเตี๋ยวด้วยตัวเอง เขาขายแบบไม่เอากำไรมาก ขายแบบพอเพียง เพื่อช่วยผู้บริโภค

ซึ่งเมนูก๋วยเตี๋ยวจานเด่นของที่นี่ก็หนีไม่พ้นบะหมี่ และ เกี๊ยว ที่ขายราคาชามละ 10 บาท ใส่ถุง 10 บาท และก็มีเส้นอย่างอื่นให้เลือกอีกอย่าง เส้นเล็ก และเส้นหมี่ขาว แต่ถ้าสั่งแบบใส่ 2 อย่าง คือเส้นอะไรก็ได้บวกกับใส่เกี๊ยวด้วย ราคาชามละ 15 บาท ใส่ถุง 15 บาท

อย่างในมื้อนี้"ผ่านมาแวะกิน" สั่ง เกี๊ยวแห้ง มาประเดิมกินเป็นชามแรก เกี๊ยวไส้หมูลูกเหลืองๆ ใส่ผักกวางตุ้ง และใส่หมูแดงที่ทางร้านทำเอง โดยใช้เนื้อหมูส่วนสะโพกนำมาหมักกับเครื่องหมักสูตรเด็ดของทางร้าน และก็นำไปอบจนหมูสุก ซึ่งหมูแดงของที่นี่ไม่ได้ใส่สีผสมอาหาร และหมูแดงออกแห้งนิดๆ กินเกี๊ยวเนื้อนุ่มบวกกับเคี้ยวหมูแดงนิ่มๆ โดนใจดี

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บะหมี่เกี๊ยวน้ำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>และทันทีที่กินเกี๊ยวหมดไปเราก็สั่ง เส้นหมี่ขาวแห้ง มากินต่อทันที เส้นหมี่ชามนี้ใส่เครื่องเหมือนกับเกี๊ยวและเปลี่ยนจากผักกวางตุ้งเป็นถั่งงอกแทน และมีกากหมูใส่มาให้ด้วย และทีเด็ดอีกอย่างของการกินก๋วยเตี๋ยวแห้งของที่นี่คือ จะมีน้ำหมูแดงข้นๆ (ตักได้เองตามความชอบใจ) ซึ่งเป็นน้ำที่ได้มาจากการอบหมูแดงนั่นแหละ เอามาราดกินกับก๋วยเตี๋ยวแห้ง เรียกว่าช่วยส่งมาให้รสชาติก๋วยเตี๋ยวกลมกล่อมหอมหวานน้ำหมูแดง โดยไม่ต้องปรุงรสชาติเพิ่มเติมเลย

ปิดท้ายด้วย บะหมี่เกี๊ยวน้ำ มีทั้งบะหมี่เหลืองเส้นนุ่มและเกี๊ยวลูกนิ่ม พร้อมกับมีน้ำซุปร้อนๆ ให้ซดด้วย เรียกว่าสั่งชามนี้มากินเล่นเอาอิ่มแน่นท้องกลับบ้านไปเลย ซึ่งหากมิตรรักนักกินท่านใดอยากจะลองลิ้มบะหมี่เกี๊ยวราคาถูกก็พากันมาได้ที่ร้าน “บะหมี่เกี๊ยว 10 บาท” ตรงบางลำพูแห่งนี้ แล้วจะได้รู้ว่า ทั้งอิ่ม ทั้งถูกนั้นมีจริง

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดและการเดินทางไปยังร้าน "บะหมี่เกี๊ยว 10 บาท"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>9 กุมภาพันธ์ 2550 18:05 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ชื่อร้าน : บะหมี่เกี๊ยว 10 บาท

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยว

เมนูจานเด่น : เกี๊ยวแห้ง, เส้นหมี่ขาวแห้ง, บะหมี่เกี๊ยวน้ำ

บรรยากาศร้าน : ร้านริมทาง มีโต๊ะนั่งสบาย

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่บางลำพู การเดินทางถ้ามาจากวัดชนะสงคราม ให้ข้ามถนนมาแล้วเดินมาตรงถนนรามบุตรี ซึ่งเป็นซอยที่ด้านหน้าซอยมีห้างทอง ช.ยงศิลป์ ให้เดินมาทางฝั่งตรงข้ามกับห้างทอง เดินมาตามทางเดินฟุตปาธแล้วจะเห็นป้ายร้านเล็กๆ ที่เขียนไว้ว่า พีซี เดนตัลคลินิค และจะเห็นซอยทางซ้ายมือเล็กๆ ให้เดินเลี้ยวเข้าไปในซอยนั้น แล้วจะเห็นร้านบะหมี่เกี๊ยวตั้งอยู่

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-14.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : ---
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวเป็ดย่างบางลำพู กลมกล่อมหอมกรุ่น </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>11 มีนาคม 2550 13:27 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศโต๊ะนั่งที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดย่างบางลำพู</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> "บางลำพู" ถือเป็นย่านเก่าของเมืองกรุง ที่ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งจับจ่ายใช้สอยซื้อสินค้าจำพวกเสื้อผ้า รวมไปถึงที่นี่ยังเป็นแหล่งกินอีกหนึ่งแหล่งที่น่าสนใจ เพราะมีของกินให้เลือกชิมมากมาย ตั้งแต่ขนมนมเนย ไร่เรื่อยไปจนถึงของกินแบบเน้นอิ่มท้อง อย่างพวกร้านข้าว หรือร้านก๋วยเตี๋ยว

ซึ่งโดยส่วนตัวของ "ผ่านมาแวะกิน" เองเวลามาเดินชอปปิ้งที่บางลำพู แล้วเกิดอาการหิวขึ้นมา เราก็มีร้านดับความหิวเจ้าประจำ ที่มาทุกครั้งก็ต้องแวะไปกินนั่นก็คือ "ก๋วยเตี๋ยวเป็ดย่าง" บางลำพู ซึ่งเปิดขายอยู่ที่บางลำพูมานมนานร่วม 30 กว่าปีเห็นจะได้

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวเป็ดย่างน้ำและแห้ง</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> สำหรับก๋วยเตี๋ยวเป็ดที่นี่มีความโดดเด่นไม่เหมือนกับก๋วยเตี๋ยวเป็ดที่อื่นๆ คือ ที่นี่ไม่ใช่เป็ดต้ม แต่เป็นเป็ดย่าง ซึ่งทางร้านจะใช้เป็ดเชอร์รี่ (สั่งมาเป็นพิเศษปลอดภัยจากไข้หวัดนกแน่นอน) และก็มีเครื่องเทศสูตรพิเศษเฉพาะของทางร้านนำมาหมักใส่เข้าไปในตัวเป็ด โดยจะหมักไว้นานประมาณ 45 นาที แล้วจึงค่อยนำเป็ดไปย่างในเตาจนเป็ดสุกได้ที่ แล้วก็นำมาหั่นเป็นชิ้นๆ ใส่ในก๋วยเตี๋ยว ส่วนน้ำซุปของที่นี่เป็นน้ำซุปพะโล้ที่ส่งกลิ่นหอม เพราะทางร้านต้มด้วยกระดูกเป็ดล้วนๆ และก็ใส่เครื่องเครื่องพะโล้ กับเครื่องเทศลงไปต้มด้วยกัน

"ผ่านมาแวะกิน" มากินก๋วยเตี๋ยวเป็ดที่นี่ทีไรเป็นต้องสั่งมาหลายชาม เริ่มจากกินก๋วยเตี๋ยวใส่เส้นสั่งมาทั้งแบบน้ำและแบบแห้ง (25-30 บาท) ซึ่งที่นี่มีเส้นก๋วยเตี๋ยวให้เลือกมากมาย มีทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ขาว และบะหมี่เหลืองที่มีให้เลือกแบบเส้นกลม และแบบเส้นแบน

ก๋วยเตี๋ยวเป็ดหนึ่งชามสั่งให้ใส่ทุกอย่าง ในชามจะมีเนื้อเป็ดย่าง เลือดเป็ด และเครื่องในอย่างกึ๋น ไส้ และตับเป็ด (แต่ถ้าจะสั่งแบบเนื้อล้วน หรือไม่ใส่เครื่องในก็ได้ แล้วแต่ละสั่ง) ชิมรสชาติเนื้อเป็ดย่างที่ทั้งเนื้อและหนังนุ่มนิ่มได้รสชาติ เครื่องในก็เคี้ยวกรุบ เลือดเป็ดเคี้ยวนุ่มลิ้น ยิ่งได้ซดน้ำซุปร้อนๆ ที่หอมหวานรสกลมกล่อม

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ปาก ปีก ขา พะโล้</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> และนอกจากก๋วยเตี๋ยวใส่เส้นแล้วก็ยังมี ปีก ขา ปากพะโล้ (40-50 บาท) ให้เลือกสั่งกินด้วย เป็นพวกปีกเป็ด ขาเป็ดและปากเป็ดที่นำไปต้มกับเครื่องพะโล้ เสิร์ฟมาโรยหน้าด้วยต้นหอมและกระเทียมเจียว สั่งมากินเปล่าๆ ออกเค็มๆ เครื่องพะโล้กินมันปากดี และก็มี เกาเหลา (30-40 บาท) สั่งมากินกับ ข้าวสวย (5 บาท) ซึ่งหากนักกินท่านใดแวะเวียนมาเดินชอปปิ้งแถวบางลำพู ก็ลองแวะมานั่งพักเหนื่อย พร้อมกับเติมความอิ่มกับ "ก๋วยเตี๋ยวเป็ดย่าง" บางลำพู เหมือนอย่าง "ผ่านมาแวะกิน" บ้างก็ไม่สงวนลิขสิทธิ์แต่อย่างใด

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

คลิก!! อ่านรายละเอียดและการเดินทางไปยังร้าน ""ก๋วยเตี๋ยวเป็ดย่าง" บางลำพู"
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ถึงน้ำถึงเนื้อ"ก๋วยเตี๋ยวเรือป้าสมจิตร"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>18 มีนาคม 2550 18:21 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศร้านก๋วยเตี๋ยวเรือป้าสมจิตร</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ไม่รู้ว่าแฟนานุแฟนนักกิน เคยรู้สึกสงสัยเหมือน "ผ่านมาแวะกิน" บ้างไหม?? ว่าเวลาไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือไม่ว่าร้านไหน เป็นต้องมีเรือมาตั้งให้เห็น ไม่รู้ว่าทำไม หรือกลัวว่าลูกค้าจะไม่เชื่อว่าร้านนี้ขายก๋วยเตี๋ยวเรือจริงๆ

ซึ่งอันที่จริงแล้วเรื่องมีเรือไม่มีเรือนี้ เราก็ไม่ได้ใส่ใจเป็นพิเศษหรอก เพราะว่าเวลาเลือกไปกินก๋วยเตี๋ยวเรือไหนสักร้าน เราสนใจในเรื่องรสชาติของก๋วยเตี๋ยวมากกว่าว่ารสชาติเป็นอย่างไร กินแล้วโดนใจปากมากแค่ไหน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวน้ำตกเนื้อ และกากหมู</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> เหมือนอย่างที่ในมื้อนี้ "ผ่านมาแวะกิน" ได้ไปลองลิ้ม "ก๋วยเตี๋ยวเรือป้าสมจิตร" ที่ตั้งขายอยู่ตรงข้ามกับโรงเรียนเซนต์คาเบรียลมา ซึ่งเหตุที่เลือกมากินก๋วยเตี๋ยวเรือที่นี่ไม่ใช่เพราะที่ร้านนี้มีเรือ แต่เป็นเพราะว่าที่นี่ขายก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกแบบสูตรต้นตำรับก๋วยเตี๋ยวเรืออยุธยา และก็มีทั้งเนื้อและหมู ซึ่งแยกหม้อไม่ปนกัน แถมราคาก็ถูกใจกระเป๋า เพราะขายเพียงชามละ 13 บาทเท่านั้นเอง ถ้าใส่ถุง 20 บาท

ว่าแล้วก็อย่ามามัวเสียเวลาอยู่เลย เอาเป็นว่าตามมาชิมกันดีกว่าว่ามีก๋วยเตี๋ยวเรืออะไรเด็ดๆ น่ากินบ้าง เริ่มจากชามแรกประเดิมท้องด้วย ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อน้ำตก แบบน้ำและเลือกสั่งมาเป็นเส้นหมี่ขาว จากบรรดาเส้นทั้งหลายที่มีทั้งเส้นเล็ก เส้นใหญ่ วุ้นเส้น บะหมี่ และเส้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ก๋วยเตี๋ยวต้มยำแห้ง และก๋วยเตี๋ยวน้ำตกหมู</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ก๋วยเตี๋ยวเสิร์ฟมาเป็นชามเล็กๆ ในชามมีเนื้อสด และลูกชิ้นเนื้อ (แต่ที่จริงที่นี่มีเนื้อเปื่อย และตับด้วย) เราชิมน้ำซุปก่อนที่จะปรุง ลิ้มรสน้ำซุปเข้มข้นหอมเครื่องเทศ ส่วนเนื้อสดเคี้ยวแล้วนุ่มลิ้นดีไม่เหนียว อ้อ!! และเพื่อเป็นการเพิ่มรสชาติให้กับก๋วยเตี๋ยวเราสั่ง กากหมู (ถ้วยละ 5 บาท) มาใส่กินแกล้มกับก๋วยเตี๋ยวด้วย ซึ่งกากหมูของที่นี่เขาทำเอง โดยนำกากหมูทอดมาปรุงรสชาติและเจียวใหม่ให้กรอบ เคี้ยวแล้วมันกรุบกรับเพลินปากดี

แต่หากใครไม่กินเนื้อก็สั่งมาเป็น ก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกหมู ที่ใส่เครื่องมาด้วยหมูสด ตับ ลูกชิ้นหมู รสชาตินั้นไม่แตกต่างจากเนื้อสักเท่าไหร่ รสชาติดีเข้มข้นถูกปากเหมือนกัน

และนอกจากก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตกแล้ว ที่นี่ยังมี ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ (ชามละ 13 บาท ใส่ถุง 20 บาท) ให้ได้ลองสั่งมาลิ้มรสกันอีก เป็นก๋วยเตี๋ยวที่ปรุงรสชาติแบบต้มยำใส่พริก ใส่น้ำตาล ใส่ถั่วป่นมาให้เสร็จสรรพ พร้อมกับใส่เครื่องอย่างหมูสด ตับหมู ลูกชิ้นปลาแผ่น และลูกชิ้นหมู กินก๋วยเตี๋ยวต้มยำชามนี้รียกว่าไม่ต้องปรุงรสชาติเลย เพราะรสกลมกล่อมถูกปากกำลังดี เรียกว่าหากใครกำลังมองหาก๋วยเตี๋ยวเรือรสเด็ดกินสักร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรือป้าสมจิตร" นับว่าเป็นอีกหนึ่งร้านที่น่าสนใจ


* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
คลิก!! อ่านรายละเอียดและการเดินทางไปยังร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเรือป้าสมจิตร"

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อร่อยง่ายๆ สไตล์เวียดนามกับ

 

"บะหมี่หมูย่าง"ยามดึก ร้านบุญเลิศ ตลาดนางเลิ้ง

คอลัมน์ อิ่มอร่อย



ตลาดนางเลิ้ง เป็นตลาดเก่าแก่ที่มีของกินอยู่ภายในมากมายไม่ว่าจะเป็นของคาวหรือจะเป็นของหวาน

ถ้าจะอร่อยตอนค่ำ ที่ทางเข้าตลาดนางเลิ้ง ตรงซอยนครสวรรค์ 8 มีร้านบุญเลิศ ขาย "บะหมี่หมูย่างซีอิ๊ว" เป็นเมนูขวัญใจคนนอนดึก

ร้านเล็กๆ คูหาเดียว ที่ตั้งอยู่หน้าปากซอยแห่งนี้ เปิดขายเฉพาะช่วง 6 โมงเย็นถึงเที่ยงคืนเท่านั้น และในช่วงเวลาดังกล่าว มีลูกค้าเข้าไปลิ้มรสแน่นไม่ขาดสาย

เจ้าของร้าน นายเลิศและนางสิรินันท์ โชติเกียรติ สองสามีภรรยา คู่ทุกข์คู่ยากช่วยกันทำ สาวเส้นบะหมี่จากหม้อต้ม โดยมีลูก 3 คนเป็นลูกมือจัดใส่ชามให้กับลูกค้าอยู่ภายในร้าน

สิริรัตน์ โชติเกียรติ ลูกสาวคนหนึ่งเล่าประวัติความเป็นมาของร้านบะหมี่บุญเลิศว่า เปิดอยู่ตรงนี้นานกว่า 30 ปี แล้ว โดยก่อนหน้านี้คุณพ่อ มีบ้านอยู่ย่านราชวัตร ตรงข้ามโรงเรียนเศรษฐเสถียร ตอนเย็นๆ จะปั่นรถซาเล้ง บรรทุกบะหมี่หมูย่างซีอิ๊วมากับคุณแม่ เพื่อขายที่หน้าตลาดนางเลิ้ง

ทำมาหลายปี จนกระทั่งเก็บหอมรอมริบซื้อตึกแถวด้านในตลาดเป็นที่พักและด้านนอกเพื่อทำร้านขายบะหมี่ จนกระทั่งเป็นอย่างที่เห็น <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

ร้านบุญเลิศของขายบะหมี่เกี๊ยวปู หมูย่างซีอิ๊ว ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ข้าวหมูอบ ข้าวหน้าไก่ ส่วนที่ขึ้นชื่อของร้านจากการที่ลูกค้านิยมสั่ง ได้แก่ "บะหมี่เกี๊ยวหมูย่างซีอิ๊ว"

เส้นบะหมี่ที่ใช้จะเป็นเส้นกลมเหนียว เส้นจะใหญ่กว่าที่อื่นและเป็นบะหมี่ไข่ที่สั่งมาจากญาติๆ ที่ทำโรงงานบะหมี่ให้ทางร้านตั้งแต่สมัยแรกๆ

ส่วนเกี๊ยว ก็จะใช้แป้งบาง นุ่ม ห่อกุ้ง หรือหมู ให้พอดีคำ ถ้าเป็นกุ้งจะใช้กุ้งเป็นตัวหั่นพอดี ห่อด้วยแป้งเกี๊ยว

จานเด็ดอย่างบะหมี่หมูย่างซีอิ๊ว จะเริ่มต้นด้วยการนำบะหมี่ที่จะใช้นำมายี ก่อนจะนั้นนำไปลวกในน้ำเดือด และยีเส้นเพื่อให้แป้งออกให้ได้มากที่สุด จากนั้นนำมาใส่ชามใส่หมูย่าง ผักโรยกากหมู เติมน้ำซุปเข้าไป

ถ้าเป็นบะหมี่แห้งก็จะลวกเส้นอีกครั้งหนึ่งให้ได้เส้นที่นิ่ม หรือเกี๊ยวแห้งก็จะคลุกเคล้ากับกระเทียมเจียว ซีอิ๊วขาว และโรยกากหมูใส่ชามเพื่อรสชาติที่อาหารและกากหมูจะทำใหม่ทุกวันเพื่อที่จะได้ไม่เหม็นหืน แล้วโปะหน้าด้วยหมูย่างซีอิ๊วเข้าไป หรือจะรับประทานแบบใส่ปูโรยหน้าด้วยก็ได้ตามใจที่จะสั่งกับทางร้าน <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

อีกจานเด็ดของร้านก็คือ ข้าวหมูย่างซีอิ๊ว

ข้าวที่ใช้ข้าวเป็นข้าวเก่า เพื่อให้เป็นเม็ด ไม่แข็งมาก เวลาหุงจะใช้นึ่งใส่กะละมัง ทำให้ข้าวเป็นเม็ดไม่แฉะ

สำหรับหมูย่าง ทางร้านจะใช้เลือกหมูสันนอก และเนื้อสะโพกมาแล่ และหมัก โดยใช้ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย พริกไทย กระเทียม หมักประมาณ 2 ชั่วโมง จากนั้นจะนำไปย่างโดยใช้เตาถ่านเพื่อให้หอม และจะต้องใช้ไฟแรง และหมั่นกลับหมูบ่อยๆ เพื่อให้สุขให้ทั่วกัน

ส่วนน้ำราดก็จะใช้ส่วนผสมของรากผักชี เต้าหู้ยี้ เต้าเจี้ยว ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทรายเล็กน้อย ใส่แป้งน้ำมาเคี่ยวบนเตาถ่าน ทำมาราดกับหมูย่างซีอิ๊ว

ด้านกุ้งและปู ทางร้านจะไปซื้อเองทุกวันที่ตลาดเยาวราชที่ขึ้นชื่อเรื่องของสดและของดี

ส่วนน้ำซุป ร้านบุญเลิศจะใช้กระดูกหมูต้ม รากผักชี ซีอิ๊วขาวเคี่ยวให้ได้ที่จะกระทั่งเป็นน้ำซุปที่หวานกลมกล่อม

มาถึงเครื่องดื่ม ทายาทเจ้าของร้านแนะนำว่าต้องลองชิม "น้ำวุ้นใบเตย" เพราะว่า ใช้ใบเตยสดๆ มาต้มไม่ใส่สี ใส่วุ้นผสมเข้าไปเติมน้ำตาลหน่อยได้รสชาติที่กลมกล่อม เติมน้ำแข็งเข้าไป ดื่มแก้กระหายได้เลยสำหรับหน้าร้อนแบบนี้

ราคาอาหารของร้านบุญเลิศเท่าๆ กับร้านค้าทั่วไป ถ้าเป็นบะหมี่-เกี๊ยวแห้ง-น้ำธรรมดา ราคา 25 บาท หรือถ้าจะเป็นบะหมี่-เกี๊ยวแห้งน้ำเพิ่ม ปูโรยหน้าด้วยเพิ่มเป็น 35 บาท

ทางมาร้านบุญเลิศ ไม่ยากเลย ร้านอยู่หน้าปากซอยนครสวรรค์ 8 ต้นทางมาจากถนนราชดำเนิน จากนั้นวิ่งมาเรื่อยๆ ทางไปสนามม้านางเลิ้ง เมื่อผ่านทางเข้าเขต ป้อมปราบฯ ทางด้านขวาที่ขับตรงไปเล็กน้อยให้ชิดซ้ายเพื่อที่จะหาที่จอดรถ (ควรไปค่ำหน่อยจะได้มีที่จอด) และเดินข้ามไปฝั่งตรงข้ามก็จะเห็นซอยนครสวรรค์ 8 ทางเข้าตลาดนางเลิ้งจะพบว่าหน้าร้านจะเปิดไฟสว่างไสว พร้อมกับผู้คนที่ยืนอออยู่หน้าร้านที่คึกคัก

ร้านจะเปิดให้บริการทุกวันไม่เว้นวันหยุด จะเริ่มขายตั้งแต่ 18.00 น. ถึง 24.00 น. และยังรับบริการนอกสถานที่อีกด้วย ถ้าไปไม่ถูกก็ติดต่อได้ที่ 02-2812594, 081-8451156, 081-8333163

นี่คือแหล่งอิ่มอร่อยอีกร้านในยามค่ำคืน

 

<TABLE id=Table8 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD align=left width=155 height=42><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TR><TD class=message-copyright vAlign=top align=middle height=10>คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR><TR><TD style="HEIGHT: 2px" vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle bgColor=#fbe5f2 height=20>กวยจั๊บน้ำข้น</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle bgColor=#fbe5f2 height=20>ก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำข้น</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle bgColor=#fbe5f2 height=20>สุกี้</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle bgColor=#fbe5f2 height=20>กระเพาะปลา</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle bgColor=#fbe5f2 height=20>ลูกชิ้นปิ้ง</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle bgColor=#fbe5f2 height=20>ข้าวหน้าเป็ดย่างอบน้ำผึ้ง</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle bgColor=#fbe5f2 height=20>ขนมจีนน้ำยา</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR><TR><TD class=message-normal vAlign=top align=middle height=10><SCRIPT>// URLs of slidesvar slideurl = new Array('http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/food/3/28/121794_47665.jpg','http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/food/3/28/121794_47666.jpg','http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/food/3/28/121794_47667.jpg','http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/food/3/28/121794_47668.jpg','http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/food/3/28/121794_47669.jpg','http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/food/3/28/121794_47670.jpg','http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/food/3/28/121794_47671.jpg') ;// Comments displayed below the slidesvar slidecomment = new Array('กวยจั๊บน้ำข้น','ก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำข้น','สุกี้','กระเพาะปลา','ลูกชิ้นปิ้ง','ข้าวหน้าเป็ดย่างอบน้ำผึ้ง','ขนมจีนน้ำยา');var picNo = new Array('0','1','2','3','4','5','6');var i;var j;var picturecontent=''function poppic(ncId,NewsType,picNum){window.open('/dailynews/pages/front_th/popup_news/popup_news_popuppic.aspx?ncId=' + ncId + '&NewsType=' + NewsType + '&picNum='+picNo[picNum],'','menubar=no,toolbar=no,location=no,directories=no,status=no,scrollbars=yes,resizable=yes,dependent,,');}function createtable(){picturecontent ='<table width=100% cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0>' ;for (i=0;i<=(slideurl.length-1);i++) {picturecontent +='<tr>' ;picturecontent +='<td vAlign=top align=center>' ;picturecontent += '';picturecontent += '' ;picturecontent += '</td>' ;picturecontent +='</tr>' ;picturecontent +='<tr>' ;picturecontent += '<td bgcolor=#fbe5f2 class=messageblack vAlign=middle align=center height=20>' ;picturecontent+=slidecomment ;picturecontent +='</td>' ;picturecontent +='</tr>' ;}picturecontent+='</table>' ;hlblTable.innerHTML=''+picturecontent+'';}</SCRIPT></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top align=left width=11 background=/dailynews/images/front_th/bkk_local/bg_dot_up.gif height=42></TD><TD class=messageblack width="100%" height=42><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD class=headline-normal> ก๋วยเตี๋ยว-อาหารจานเดียว

 

<TABLE id=Table8 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD align=left width=155 height=42><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TR><TD class=message-copyright vAlign=top align=middle height=10>คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR><TR><TD style="HEIGHT: 2px" vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle bgColor=#fbe5f2 height=20>กวยจั๊บน้ำข้น</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle bgColor=#fbe5f2 height=20>ก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำข้น</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle bgColor=#fbe5f2 height=20>สุกี้</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle bgColor=#fbe5f2 height=20>กระเพาะปลา</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle bgColor=#fbe5f2 height=20>ลูกชิ้นปิ้ง</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle bgColor=#fbe5f2 height=20>ข้าวหน้าเป็ดย่างอบน้ำผึ้ง</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle></TD></TR><TR><TD class=messageblack vAlign=center align=middle bgColor=#fbe5f2 height=20>ขนมจีนน้ำยา</TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR><TR><TD class=message-normal vAlign=top align=middle height=10><SCRIPT>// URLs of slidesvar slideurl = new Array('http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/food/3/28/121794_47665.jpg','http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/food/3/28/121794_47666.jpg','http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/food/3/28/121794_47667.jpg','http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/food/3/28/121794_47668.jpg','http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/food/3/28/121794_47669.jpg','http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/food/3/28/121794_47670.jpg','http://ads.dailynews.co.th/news/images/2007/food/3/28/121794_47671.jpg') ;// Comments displayed below the slidesvar slidecomment = new Array('กวยจั๊บน้ำข้น','ก๋วยเตี๋ยวเนื้อน้ำข้น','สุกี้','กระเพาะปลา','ลูกชิ้นปิ้ง','ข้าวหน้าเป็ดย่างอบน้ำผึ้ง','ขนมจีนน้ำยา');var picNo = new Array('0','1','2','3','4','5','6');var i;var j;var picturecontent=''function poppic(ncId,NewsType,picNum){window.open('/dailynews/pages/front_th/popup_news/popup_news_popuppic.aspx?ncId=' + ncId + '&NewsType=' + NewsType + '&picNum='+picNo[picNum],'','menubar=no,toolbar=no,location=no,directories=no,status=no,scrollbars=yes,resizable=yes,dependent,,');}function createtable(){picturecontent ='<table width=100% cellSpacing=5 cellPadding=0 border=0>' ;for (i=0;i<=(slideurl.length-1);i++) {picturecontent +='<tr>' ;picturecontent +='<td vAlign=top align=center>' ;picturecontent += '';picturecontent += '' ;picturecontent += '</td>' ;picturecontent +='</tr>' ;picturecontent +='<tr>' ;picturecontent += '<td bgcolor=#fbe5f2 class=messageblack vAlign=middle align=center height=20>' ;picturecontent+=slidecomment ;picturecontent +='</td>' ;picturecontent +='</tr>' ;}picturecontent+='</table>' ;hlblTable.innerHTML=''+picturecontent+'';}</SCRIPT></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD vAlign=top align=left width=11 background=/dailynews/images/front_th/bkk_local/bg_dot_up.gif height=42></TD><TD class=messageblack width="100%" height=42><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD class=headline-normal> ก๋วยเตี๋ยว-อาหารจานเดียว ‘โกชาติ’</TD></TR><TR vAlign=top align=left><TD class=messageblack> ยามใดถวิลมื้อง่าย ๆ กับอาหารจานเดียว โดยไม่ยี่หระต่อสภาพอากาศแท้จริง ผ่านไปย่านศรีสมาน ดอนเมือง ลองแวะกินก๋วยเตี๋ยวและอาหารจานเดียวที่ “โกชาติรถตู้” ซึ่งใช้ชื่อนี้เนื่องจากแต่ก่อนเปิดท้ายรถตู้ขายริมถนน กระทั่งได้รับความนิยมมากขึ้น จึงตัดสินใจลงหลักปักร้านเป็นเรื่องเป็นราว ทว่ายังใช้ชื่อเดิม เพื่อการจดจำของลูกค้า

ชามชูโรง ก๋วยเตี๋ยวน้ำข้น รสจัดถึงใจด้วยน้ำซุปที่เคี่ยวกระเทียม, ซีอิ๊วขาว, เหล้าจีน, ผักชี ฯลฯ แม้ไม่ใช้กระดูกเลย แต่มีอาวุธสำคัญคือเครื่องยาจีนสูตรเฉพาะ จึงได้ทั้งความกลมกล่อม และความหอมติดปลายลิ้น ไม่ยิ่งหย่อนกว่าน้ำซุปต้มกระดูกเลย

ก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำข้น เคี้ยวมันกับหมูสไลด์ส่วนตะโพก ที่มีความกรุบกริบในตัว ลูกชิ้นหมูเด้งในปาก ส่วน ก๋วย เตี๋ยวเนื้อน้ำข้น นุ่มหนับกับเนื้อส่วนอกที่เรียก “เนื้อปลาช่อน” โดยต้มเนื้อกับน้ำซุปก่อน เพื่อให้ดูดความเข้มข้น ซึ่งน้ำซุปก๋วย เตี๋ยวเนื้อก็แยกหม้อกับหมู เพราะใช้เครื่องยาจีนต่างสูตร ก่อนเคี่ยวเนื้ออีกครั้ง คราวนี้ล่ะเนียนละไม

กินลูกชิ้นแล้วติดใจ สั่ง ลูกชิ้นปิ้ง มากินเพียว ๆ ทั้งหมูและเนื้อดึ๋งดั๋ง ได้กลิ่นหอมชวนขย้ำเพราะปิ้งบนเตาถ่าน ส่งรสล้ำด้วยน้ำจิ้มที่ข้นกลมกล่อม จากน้ำตาลโตนดเน้นเฉพาะจาก จ.นครปฐม เคี่ยวกับน้ำกระเทียมดอง, น้ำมะขามเปียก, มะเขือเทศ, ผงพะโล้ และพริกป่น

ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ นอกจากความหวานกลมกล่อมของน้ำซุป (อีกตัว) ความหอมของน้ำมะนาว, ถั่วลิสงคั่วและพริกป่น ช่วยเสริมส่งรสชาติอีกโข ความที่ร้านนี้ทำหลายอย่าง ใช้เครื่องปรุงและส่วนผสมจำนวนมาก จึงต้องทำของสดของใหม่ทุกวัน เป็นข้อได้เปรียบ

มีเด็กไปด้วย ควรสั่ง หมูกรอบอบน้ำผึ้ง หวานหอมตลอดชิ้น เพราะเลือกหมูสามชั้นส่วนหน้าอก ต้มในน้ำซุป แล้ววางบนลังถึง ด้านล่างเป็นน้ำผึ้งผสมเครื่องยาจีน เช่น โปยกั๊ก, อบเชย, พริกหอม ฯลฯ อบประมาณ 45 นาที ให้กลิ่นและ รสซึมเข้าเนื้อใน ก่อนนำขึ้นทาน้ำมะนาว ผึ่งครึ่งชั่วโมง เพื่อให้หนังกรอบ จากนั้นทอดด้วยน้ำมันท่วม เมื่อเสิร์ฟจึงราดด้วยน้ำผึ้งที่ใช้อบ ซึ่ง เป็ดย่างอบน้ำผึ้ง พิถีพิถันทำด้วยวิธีการเดียวกันนี้ เลือกกินได้ทั้งก๋วยเตี๋ยว หรือข้าว

ใช้ทีเด็ดเครื่องยาจีนเช่นกัน ไม่ใช่สีเข้มแต่เค็มเพราะหนักซีอิ๊วดำ กวยจั๊บน้ำข้น จึงหอมชื่นใจ เครื่องในไร้กลิ่นจากต้มล้างน้ำเกลือ 2 ครั้ง แล้วล้างน้ำเย็น ส่วน กระเพาะปลา ใช้ดอกใหญ่ ให้เคี้ยวเต็มคำ ซึ่งกว่าจะใช้ได้ต้องแช่น้ำธรรมดา 3 ชั่วโมง ก่อนต้มน้ำร้อนอีกครั้ง เพื่อให้คลายความมัน เลือดหมูส่วนเด่นของกระเพาะปลาและกวยจั๊บลื่นลิ้น

ขนมจีนน้ำยา ทั้งข้นและมันเพราะเน้นหัวกะทิ หอมพริกแกงและมันปลาช่อนนา หรือชอบรสแตกต่าง น้ำพริก, น้ำยาป่า และ แกงเขียวหวาน มีให้เลือก รวมทั้ง สุกี้ ที่กินแล้วก็แทบนึกว่านั่งอยู่ในร้านสุกี้

ไปร้าน “โกชาติ” โดยถนนติวานนท์ขาออก ผ่านห้าแยกปากเกร็ด ไปจนถึงสี่แยกสะพานนวลฉวี เลี้ยวขวาเข้าถนนศรีสมาน ผ่าน สภ.อ.ปากเกร็ด ประมาณ 500 เมตร ถึงร้านฝั่งซ้ายมือ เข้าจากถนนใหญ่เพียงนิดเดียว แต่หากใช้ทางด่วนขาออก เลยแจ้งวัฒนะไปลงที่ด่านศรีสมาน ตรงไปเรื่อยเพื่อกลับรถก่อนถึง รร.หอวัง นนทบุรีนิดเดียว ถามทางให้แน่ ๆ โทร. 08-9817-1923

08.00–18.00 น. เป็นเวลาบริการ จะกินช่วงเช้า สาย บ่าย หรือเย็น ก็ตามแต่ถนัด.

น้ำจิ้มลูกชิ้นปิ้ง
ดูเหมือน “น้ำจิ้มลูกชิ้นปิ้ง” ทำง่าย แต่แท้จริงมีส่วนผสมมากกว่าที่ตาเห็น

- น้ำตาลโตนด, พริกป่น

- น้ำกระเทียมดอง

- มะขามเปียก, ผักชี

- มะเขือเทศ ผงพะโล้

เคี่ยวน้ำตาลโตนด เข้ากับน้ำกระเทียมดอง, น้ำมะขามเปียก, มะเขือเทศ,พริกป่น และผงพะโล้ นิดหน่อยเพื่อให้ได้ความหอม เคี่ยวไปจนเดือดเป็นฟอง ปุด ๆ จึงปิดไฟ ทิ้งไว้ให้เย็น แล้วจึงใส่ผักชีซอยลงไป เป็นอันเสร็จสรรพ จิ้มได้ทั้งลูกชิ้นหมูและลูกชิ้นเนื้อปิ้ง.

ราคาอาหารโกชาติ
กวยจั๊บน้ำข้น 30 บาท
ขนมจีนน้ำยา 30 บาท
ก๋วยเตี๋ยวหมู-เนื้อ น้ำข้น 50 บาท
กระเพาะปลา 50 บาท
ลูกชิ้นหมู-เนื้อ/เอ็น (ร้อยละ) 200/250 บาท

“อัญชัน”​

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ที่มา http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03fod02130450&day=2007/04/13&sectionid=0328

วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 5979​

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นยาจีน ร้านนายหมีสูตรเข้มข้น

คอลัมน์ อิ่มอร่อย



สำหรับผู้ชื่นชอบในรสชาติของก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น ถ้ามีโอกาสผ่านมาทางย่านสมุทรปราการ ถนนไปรษณีย์เก่า หลังวัดหนามแดง คนในพื้นที่จะแนะนำให้ไปชิมร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นยาจีนสูตรไหหลำ ร้านนายหมี

นอกจากทำเลที่ตั้งอยู่ติดถนน ที่จอดรถสะดวกสบายแล้ว กลิ่นเนื้อตุ๋นที่เคี่ยวไว้ในกระทะทองเหลืองขนาดใหญ่หอมโชยออกไปยั่วยวนใจให้ผู้ที่ผ่านไปมาในย่านดังกล่าวแวะเข้าไปชิมไม่ขาดสาย

ภาพที่ชินตาสำหรับผู้ที่ผ่านไปมาในย่านดังกล่าวในช่วงเช้า ก็คือนายหมี หรือนายอำนาจ พิทยาธร เจ้าของร้านวัย 33 ปี สาละวนอยู่กับการปรุงน้ำซุปและตรวจสอบคุณภาพของอาหารและความเรียบร้อยก่อนที่จะเปิดบริการให้กับลูกค้า เพื่อที่จะได้รสชาติที่อร่อยของน้ำซุปและเนื้อที่ตุ๋นยาจีนที่นุ่มหนึบรสชาติเข้มทั้งในแบบก๋วยเตี๋ยวเส้นต่างๆ เกาเหลา เนื้อกรอบ เอ็นกรอบ ซึ่งหากินได้ยาก เครื่องในผ้าขี้ริ้ว เนื้อน่องลาย ที่คัดสรรอย่างดีเพื่อลูกค้าโดยเฉพาะ <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=1><TBODY><TR bgColor=#ffe9ff><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

นอกจากนี้ ทางร้านยังมีเมนูพิเศษเพื่อไว้เรียกน้ำย่อย เช่น "เนื้อย่าง" ซึ่งน้ำจิ้มรสชาติเด็ดมาก ตามด้วย "ลูกชิ้นเนื้อย่าง" ซึ่งลูกชิ้นที่นี่จะเป็นเนื้อวัวไม่มีส่วนผสมของแป้งจึงมีความอร่อย นอกจากนี้ ยังมี "ข้าวหมกไก่" "ข้าวหมกเนื้อ" ในรูปแบบและรสชาติที่แตกต่างกันไป ความเข้มข้นของเครื่องเทศผสมให้เหมาะสมกับลิ้นของนักชิมบ้านเราอย่างกลมกลืน

นายหมี เล่าว่า ย้อนหลังไปเมื่อประมาณ 5 ปี ก่อนที่จะมาเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวนั้น เคยทำการค้าด้านอาหารกับครอบครัวอยู่ที่ย่านทองหล่อ จึงได้เรียนรู้และสะสมประสบการณ์ในการทำอาหารมามากพอ และด้วยความที่เป็นคนที่ชอบกินก๋วยเตี๋ยวเป็นชีวิตจิตใจจึงมีความคิดว่าน่าจะลองเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวดู เริ่มแรกลงมือลองปรุงน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นดู ลองผิดลองถูกมาเป็นเวลานานจนกระทั่งลงตัวในรสชาติ <TABLE style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px dotted; BORDER-TOP: #ffffff 1px dotted; BORDER-LEFT: #ffffff 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px dotted" cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=2><TBODY><TR bgColor=#ffffe8><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>

เจ้าของสูตรก๋วยเตี๋ยวรสเด็ดเล่าต่อว่า หลังจากที่มาลงทุนเปิดร้านที่แห่งนี้ ในช่วงแรกลูกค้ายังไม่ค่อยรู้จัก ทำให้แต่ละวันลูกค้าน้อยมาก จนกระทั่งในระยะหลังลูกค้าที่มานั่งกินได้เอ่ยปากชมว่าก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นที่ร้านมีรสชาติละเมียด อร่อย กินแล้วอยากกลับมากินอีก อีกทั้งราคาก็ไม่แพงซึ่งส่วนใหญ่ราคาจะไม่เกิน 30 บาท และอยู่ที่ลูกค้าต้องการด้วย

"ปัจจุบันนี้ลูกค้าจะมานั่งกินกันมาก บางวันหลังบ่ายโมงของจะหมดแล้ว เพราะที่ร้านจะเน้นว่าจะไม่นำของที่ขายไม่หมดมาขายต่ออีกวัน ด้วยหัวใจของการทำก๋วยเตี๋ยวเนื้อคือ ลูกค้าจะต้องได้รับในสิ่งที่ดีที่สุดเสมอ ขณะที่ความผิดหวังของลูกค้าคือศัตรูตัวฉกาจของเรา ทำให้ทางร้านต้องคัดสรรสิ่งที่ดี ความพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบ ความเอาใจใส่ต่อลูกค้าในด้านการบริการซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญมาก" นายหมีกล่าว

ปัจจุบันก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋นยาจีนสูตรไหหลำนายหมีขยายกิจการเนื่องจากมีลูกค้าที่ติดใจในรสชาติ เอาใจผู้ที่อยู่ไกลมาไม่สะดวก จึงได้เปิดเป็นรูปแบบของแฟรนไชส์ โดยในระยะเวลาที่เปิดมา 5 เดือน มีร้านเพิ่มมา 5 สาขาแล้ว ส่วนใหญ่จะอยู่ในย่านสำโรง เทพารักษ์ และที่ซอยมัยลาภ ทุกร้านจะอยู่ในพื้นฐานของคุณภาพเดียวกัน นายหมีคิดราคาค่าแฟรนไชส์อยู่ที่ 55,000 บาท โดยจะมีอุปกรณ์ให้ครบทุกอย่าง เปิดขายได้เลย

หากท่านใดมีโอกาสผ่านไปด้านถนนสายไปรษณีย์เก่าหลังวัดหนามแดงขอเชิญแวะชิมก๋วยเตี๋ยวเนื้อรสเด็ดนายหมีได้ แต่หากบ่ายคล้อยมากแล้ว อาจจะต้องผิดหวังเพราะของทุกอย่างจะหมดลงอย่างรวดเร็ว ดังนั้น จะโทร.ไปสอบถามก่อนก็ได้

หรือหากใครไปไม่ถูก โทร.สอบถามเส้นทางได้ที่ 0-2386-5116

 

ที่มา http://www.matichon.co.th/khaosod/k...g=03fod04130450&day=2007/04/13&sectionid=0328

วันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2550 ปีที่ 17 ฉบับที่ 5979​

ก๋วยเตี๋ยวสมุนไพร สูตรเจ๊ทัย-สุพรรณบุรี

คอลัมน์ จานเด็ด 76 จังหวัด



สุพรรณบุรีเป็นเมืองเกษตรกรรม ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว มีพืชผักมากมายหลากหลาย วันนี้ เสถียร ท้วมจันทร์ ข่าวสดสุพรรณบุรี นำอาหารที่มีพืชผักเป็นส่วนผสมสำคัญมานำเสนอ

อย่าคิดว่ามีส่วนประกอบจากผักแล้วจะจืดชืดไร้รสชาติ เพราะจานเด็ดที่นำมานี้แซบด้วยน้ำจิ้ม เมนูที่ว่า คือก๋วยเตี๋ยวสมุนไพร สูตรของคุณอรทัย ริตกันโต วัย 39 ปี ที่ชาวบ้านเรียกขานกันติดปากว่า เจ๊ทัย

ก๋วยเตี๋ยวสมุนไพรสูตรเจ๊ทัย เน้นผักเป็นพิเศษ เริ่มต้นที่ไส้ ใช้ผักประกอบด้วย ผักกาดหอม โหระพา ผักชีฝรั่ง เห็ดหอม แครอต ที่เหลือก็มีเต้าหู้ ตบท้ายด้วยหมูสับละเอียด ส่วนที่ใช้ห่อก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่พิเศษขนาดประมาณ 4 คูณ 4 นิ้ว

เครื่องเคราครบแล้ว ตั้งกระทะพอร้อน ใส่หมูลงไปรวนพอสุก ตามด้วยเห็ดหอม เต้าหู้ แครอต เติมเครื่องปรุงน้ำปลา น้ำตาล ซอสปรุงรสเล็กน้อย พอไม่ให้จืด ตักขึ้นใส่บนเส้นก๋วยเตี๋ยวที่เตรียมไว้ ห่อให้เรียบร้อยสวยงาม โดยหน้าด้วยแครอตชิ้นเล็กๆ รวมเป็น 1 คำ ตักใส่จานรองด้วยผักกาดหอม โหระพา แบบไม่อั้น

ขั้นต่อไปเป็นน้ำจิ้มสูตรเด็ด ลักษณะคล้ายน้ำจิ้มซีฟู้ดทั่วไป แต่รสเปรี้ยวสูตรเจ๊ทัยใช้น้ำมะนาว ไม่ใช้น้ำส้มสายชู เพราะอยากให้เป็นรสธรรมชาติ ที่เหลือก็น้ำปลา น้ำตาล กระเทียมสด และพริกขี้หนู นำมาบดผสมกัน แต่ที่แปลกคือแทนที่น้ำจิ้มจะใส่ถ้วย แต่ร้านเจ๊ทัยใส่พริกหวานลูกโตๆ ดูสวยงาม เคล็ดลับของรสชาติเจ๊ทัยบอกว่าไม่มีอะไรมาก นอกจากผักที่ใช้ต้องเป็นผักสดเท่านั้น

ใครมาสุพรรณบุรี ร้านเจ๊ทัยอยู่ริมถนนเณรแก้ว เขตเทศบาลเมือง ใกล้กับร้านกาแฟสดหรือท่ารถประจำทางสายสุพรรณ-พระนครศรีอยุธยา เห็นเด่นชัด แต่ที่สำคัญต้องไปช่วงเช้าเท่านั้น เพราะร้านเขาขายดี หากไปช่วงบ่ายอดแน่นอน

 

ก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้ชัยวัฒน์
<HR style="COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->
http://www.banmuang.co.th/tourist.asp?id=110170

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="85%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc colSpan=3>หมวดข่าว / ข่าวออนไลน์</TD></TR><TR><TD colSpan=3></TD></TR><TR><TD colSpan=3 height=20><TABLE height=20 width="100%"><TBODY><TR><TD align=left>โดย บ้านเมืองออนไลน์</TD><TD align=right>เมื่อเวลา 10:06:00 วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ.2550</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TR><TD colSpan=3 height=51>คอลัมน์ : แม่ลิ้นจี่พาชิม : แวะชิมก๋วยเตี๋ยวเป็ดพะโล้ชัยวัฒน์เจ้าอร่อยย่านบางกรวย ริมคลองบางกอกน้อย
สวัสดีค่ะท่านผู้อ่าน พบกับ แม่ลิ้นจี่ กันอีกเช่นเคย ในสัปดาห์นี้อากาศดีหน่อยเพราะมีฝนโปรยปรายลงมา ช่วยลดอุณหภูมิอันร้อนแรงไปได้มาก แต่ก็ต้องระวังสุขภาพด้วยนะคะเดี๋ยวป่วยไข้ไปพลาดอาหารที่ แม่ลิ้นจี่ จะพาไปแวะชิมกันในสัปดาห์นี้ ร้านที่ว่านี้ก็อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล...สำหรับชาวกรุงเทพฯ และจังหวัดนนทบุรี...!

จากการที่ แม่ลิ้นจี่ ไปสำรวจเส้นทางถนนบรมราชชนนี เมื่อสัปดาห์ก่อนก็ได้พบว่ามีถนนสายใหม่เกิดขึ้นหลายสาย คนที่อยู่ฝั่งธนฯ สามารถเดินทางมาเมืองนนท์ได้ง่าย...แต่ด้วยความที่กลัวจะหลง แม่ลิ้นจี่ จึงเลือกใช้เส้นทางสายเก่าแก่ คือถนนบางกรวย-ไทรน้อยจะดีกว่า ก็เลยได้มีโอกาสแวะชิม เป็ดพะโล้ เจ้าอร่อยซึ่งสถานที่ตั้งของร้านจะอยู่ริมคลองบางกอกน้อย นอกจากจะได้ชมทัศนียภาพเก่าแก่ของชาวบ้านสองริมฝั่งคลองกันแล้ว ก็ยังได้อิ่มเอมกับอาหารนานาชนิดที่เขามีขายอยู่ในร้าน ก็เลยอดไม่ได้ที่จะนำมาเล่าสู่กันฟัง

จากที่ได้พูดคุยกับ คุณสุดธิดา ศิริวงศ์มงคล เจ้าของร้านสาวมั่น อดีตพนักงานออฟฟิศบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่ผันตัวเองมาเปิดร้านกาแฟในสนามบินดอนเมือง และต้องปิดกิจการไปเพราะย้ายตามไปสุวรรณภูมิไม่ไหว เลยมาหาทำเลที่เปิดร้านใกล้บ้านย่านอำเภอบางกรวย ซึ่งคุณสุดธิดาบอกว่าเธอโชคดีที่มีเพื่อนพี่ชาย คือ คุณชัยยงค์ หนูรอด เจ้าของร้าน เป็ดพะโล้ชัยวัฒน์ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนพระราม 5 ที่เปิดขายกันมานาน 4-5 ปีแล้ว จนมีลูกค้าแน่นขนัดทุกวันที่ต้องการจะมีสาขาอยู่พอดี ได้มาช่วยดูแลและเปิดเป็นสาขาบางกรวยริมน้ำแห่งนี้ และจากที่เพิ่งเปิดบริการได้ไม่นาน ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นจำนวนมาก เพราะมีดีกรีความอร่อยของเป็ดพะโล้สูตรเดียวกันกับสาขาแรก ไม่ว่าจะมาทานที่บางกรวย หรือที่พระราม 5 ก็รสชาติเหมือนกัน

และในฉบับนี้ที่ แม่ลิ้นจี่ เลือกแนะนำที่สาขาบางกรวยนั้น เพราะว่าทางร้านมีพื้นที่กว้างขวาง สามารถรองรับลูกค้าได้จำนวนมาก จอดรถได้สะดวกสบาย สามารถเลือกนั่งมุมสบายริมคลองบางกอกน้อย ที่ยังมีผู้คน 2 ฟากฝั่งใช้ชีวิตกันแบบเดิมๆ บริเวณหน้าร้านก็จะมีสวนหย่อมที่ให้ความรู้สึกร่มรื่น ในช่วงเที่ยงๆ อากาศอบอ้าวเขาจะเปิดน้ำบนหลังคาช่วยคลายความร้อน และได้บรรยากาศสบายๆ มีปลาธรรมชาติที่อาศัยอยู่ในคลอง มาแหวกว่ายรอรับอาหารจากทางร้าน ท่านผู้อ่านคงจะพอนึกภาพบรรยากาศกันออกแล้ว คราวนี้ก็มาถึงเวลาที่เราจะมาชิมอาหารกันบ้าง เริ่มจากที่...

เป็ดพะโล้...เขาจะเลือกใช้เป็ดเชอรี่สดจากฟาร์มที่ผ่านการรับรองคุณภาพว่าปลอดเชื้อ นำมาทำความสะอาด ใส่ลงในหม้อตุ๋นขนาดใหญ่ ที่จุได้ 80-100 ตัว พร้อมด้วยเครื่องเทศและเครื่องพะโล้ ซีอิ๊ว ใช้เวลาตุ๋นนานกว่า 2 ชั่วโมง ก็จะได้เป็ดพะโล้เนื้อนุ่มซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของที่นี่ ไม่มีกลิ่นสาบ มีแต่กลิ่นพะโล้ และหอมเครื่องเทศ มีรสเค็มนิดๆ และหวานหน่อยๆ เพิ่มความลงตัวด้วยพริกน้ำส้ม ก็จะได้เป็ดพะโล้ที่อร่อยกำลังดี ในราคาจานละ 160 บาท หรือถ้าจะซื้อเป็นตัว ก็ราคาตัวละ 280 บาท

บะหมี่เป็ดพะโล้...เขาเลือกใช้เส้นบะหมี่ที่สั่งจากโรงงานแบบพิเศษ ตามสูตรดั้งเดิมของชาวจีน ที่จะต้องเป็นบะหมี่ไข่ เมื่อลวกแล้วจะได้เส้นที่นุ่มเหนียว ทานกับเป็ดพะโล้ ที่เลือกส่วนของอกที่มีเนื้อชิ้นใหญ่ หั่นเป็นชิ้นๆ เติมน้ำซุปที่ได้จากน้ำตุ๋นเป็ด ก็จะได้บะหมี่เป็ดพะโล้ที่รสชาติกลมกล่อมกำลังดี นอกจากเส้นบะหมี่แล้ว ก็สามารถเลือกสั่งเป็นเส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นหมี่ หรือเกาเหลาก็ได้ ในราคา ชามละ 25 บาท พิเศษ 50 บาท

ข้าวหน้าเป็ดพะโล้...สำหรับท่านที่ชอบทานข้าว หรืออยากจะเปลี่ยนรสชาติจากก๋วยเตี๋ยวบ้าง ที่นี่เขามีเมนูข้าวให้ลองชิมกัน เขาจะเลือกเนื้อเป็ดพะโล้ในส่วนของอก มาหั่นเป็นชิ้นๆ วางโปะบนข้าวสวยร้อนๆ ราดด้วยน้ำราดที่ปรุงจากน้ำเป็ดพะโล้เคี่ยวจนเหนียวข้น จนได้น้ำราดที่มีความหอม เค็ม หวาน ยิ่งได้ทานกับพริกน้ำส้ม ก็จะได้รสเปรี้ยว เผ็ด ครบรส อร่อยกำลังดี ในราคาที่ละ 25 บาท พิเศษ 50 บาท

ปีก-ขา-คอ-เลือด ตุ๋น...สำหรับท่านที่ชื่นชอบความเปื่อยนุ่มของอะไหล่เป็ด ไม่ว่าจะเป็น ปีก-ขา-คอ ที่เหลือจากการนำส่วนของเนื้ออก เนื้อน่อง สะโพก ที่หั่นใส่ลงในก๋วยเตี๋ยวและข้าวหน้าเป็ด ที่ส่วนมากร้านทั่วไปเขาจะไม่ค่อยทำขายกัน เพราะชิ้นส่วนเป็ดเหล่านี้จะมีความเหนียว และแข็ง ต้องใช้เวลาตุ๋นนานกว่าการตุ๋นทั้งตัวมาก เขาจะนำชิ้นส่วนที่ได้มาตุ๋นเพิ่ม จนได้ ปีก-ขา-คอ ที่เปื่อยนุ่ม จากนั้นก็นำไปนึ่งเพื่ออุ่นให้ร้อน การนึ่งนี่เองจะทำให้ไขมันของเป็ดน้อยลง นำมาสับเป็นชิ้น เสิร์ฟมาพร้อมกับเลือดเป็ด แล้วทานกับพริกน้ำส้ม ก็จะได้รสชาติที่อร่อยลงตัวกำลังดี ในราคาที่ละ 50 บาท

ไก่ทอด-ส้มตำ...เมื่อทานอาหารหลักอิ่มท้องกันไปแล้ว หากยังคงจะดื่มด่ำกับบรรยากาศกันต่อ เขาก็มีเมนูยอดฮิต ติดปากคนไทยให้ลองชิมอย่างเช่นไก่ทอด-ส้มตำกันบ้าง เขาเลือกใช้ปีกกลาง และปีกบน นำมาหมักกับเครื่องปรุง ซอส พริกไทย นำไปทอดจนกรอบเหลือง โดยไม่มีส่วนผสมของแป้ง ทานกับน้ำจิ้มไก่ จะได้รสชาติที่เค็มนำ และหวานน้ำจิ้ม รับประทานกับส้มตำ ที่เป็นสูตรสำเร็จของทางร้าน ที่ใครทำก็ได้รสชาติเดียวกันทั้งร้าน มีให้เลือกทั้งส้มตำไทย ส้มตำปูม้า ในราคา ไก่ทอดที่ละ 50 บาท ส้มตำที่ละ 30-50 บาท

ร้านเป็ดพะโล้ชัยวัฒน์ บางกรวยริมน้ำ ตั้งอยู่ริมถนนบางกรวย-ท่าขนอม ใกล้กับที่ว่าการอำเภอบางกรวย ซึ่งการเดินทางสามารถมาได้หลายทางทั้งจากสะพานพระราม 7 เข้าทางการไฟฟ้าฯ หรือจากถนนสิรินทร หรือมาจากถนนพระราม 5 แยกเข้าถนนบางกรวย-ไทรน้อย ก็สะดวกทุกเส้นทาง ให้สังเกตป้ายที่บอกว่าไปอำเภอบางกรวย ซึ่งจะเป็นถนนบางกรวย-ท่าขนอม ก่อนถึงที่ว่าการอำเภอจะมีสะพานข้ามคลอง ร้านอยู่ซ้ายมือเชิงสะพานทางขึ้นพอดิบพอดี หรือมองหาป้ายชื่อ คุ้นนทีอพาร์ทเม้นท์ จอดรถที่อพาร์ทเม้นท์ได้เลย

หรือถ้ากลัวไปไม่ถูก ก็โทร.ไปสอบถามได้ที่ 08-1734-3453 เขาเปิดบริการ ตั้งแต่เวลา 10.00-20.00 น. ที่ร้านนี้เขาจะหยุดทุกวันที่ 25 ของเดือน หรือถ้าท่านใดจะไปทานที่ถนนพระราม 5 ก็โทร.หา คุณชัยยงค์ ได้เลยที่ 08-1820-8639 อย่าลืมนะคะ สะดวกกันวันไหนก็ขอเชิญแวะเวียนไปชิมได้ สำหรับวันนี้คงต้องขอแนะนำแต่เพียงเท่านี้ แล้วพบ แม่ลิ้นจี่พาชิม ได้ใหม่สัปดาห์หน้านะคะ...

</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>อิ่มอร่อยอารมณ์เนื้อที่ร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเนื้อกรอบ"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>6 พฤษภาคม 2550 14:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>บรรยากาศบ้านสบายๆที่ร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อกรอบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ช่วงนี้ประเทศไทยอากาศแปรปรวนอีกแล้ว เมื่อวันก่อนร้อนตับแลบ อุณหภูมิปาไป 40 องศาเซลเซียสในหลายจังหวัด แต่อีกไม่กี่วันเท่านั้นพายุฝนก็ซัดกระหน่ำไปทั่วทุกภาค อากาศแบบนี้พาลจะเจ็บป่วยได้ง่ายๆ ยังไงก็รักษาสุขภาพกันบ้าง จะได้อยู่เป็นมิตรรักนักกินกันไปอีกนานแสนนาน

เข้าเรื่องกินของเรากันบ้างดีกว่า วันนี้"ผ่านมาแวะกิน"มีโอกาสแวะเวียนมาที่ร้าน"ก๋วยเตี๋ยวเนื้อกรอบ"ในซอยวิภาวดี 22 ร้านนี้เขาขายก๋วยเตี๋ยวในบ้านกันมานานกว่า 15 ปี โดดเด่นด้วยการใช้เนื้อวัวส่วนที่เรียกว่า "เนื้อกรอบ" เมื่อกินเข้าไปจะมีความหนึบเคี้ยวง่ายไม่เหนียว ที่ร้านมีด้วยกันหลากหลายเมนู

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=250 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=250> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เส้นใหญ่แห้งเนื้อกรอบและเส้นใหญ่น้ำเนื้อกรอบ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ว่าแล้ว "ผ่านมาแวะกิน" ก็ขอประเดิมเดิมเมนูแรกด้วย ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่แห้งเนื้อกรอบ (ราคา 50 บาท,80 บาท) เป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ปรุงรส ด้วยซอสปรุงรส ซีอิ๊วดำ น้ำตาล น้ำส้มสายชู และพริกขี้หนูสวนปั่นเอง ลวกเนื้อวัวฝรั่งเศสและเนื้อกรอบใส่ลงไป ตามด้วย ถั่วงอกกับกากหมูละเอียด รสชาติที่ได้มีความนุ่มหนึบของเนื้อ แทบไม่ต้องปรุงรส มีรสเผ็ดเล็กน้อย

ตามด้วยอีกหนึ่งชามอย่าง ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่น้ำเนื้อกรอบ (ราคา 50 บาท,80 บาท)ความโดดเด่นของก๋วยเตี๋ยวชามนี้ นอกจากจะเป็นเนื้อกรอบล้วนๆแล้ว ยังมีรสชาติของน้ำซุปรสเด็ด ที่ผ่านการเคี่ยวด้วยน้ำต้มกระดูกกว่า 2 ชั่วโมง ปรุงรสอย่างดี จึงมีรสชาติหวานหอมกลมกล่อม

นอกจากก๋วยเตี๋ยวแล้ว ข้าวหน้าไก่ (ราคา 40 บาท,สั่งกลับบ้าน 50 บาท) ของทางร้านก็ขึ้นชื่อไม่แพ้กัน เป็นการนำเนื้อไก่ส่วนน่องติดสะโพก นำมาหมักด้วยน้ำมันหอย น้ำตาล ซีอิ้วขาว แล้วต้มน้ำซุปโรยแป้งมันสำปะหลัง ผัดเรื่อยๆจนเข้าน้ำเข้าเนื้อกัน เสิร์ฟพร้อมกับกุนเชียง พริกหนุ่ม และโรยหน้าเพิ่มความสวยงามด้วยผักชี รสชาติกลมกล่อมไม่แพ้กัน

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ข้าวหน้าไก่</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> นอกจากนี้ทางร้านยังมีอีกหลากหลายเมนูให้เลือกลิ้มรสทั้ง ก๋วยเตี๋ยวเนื้อเปื่อย(ราคา 50 บาท) น้ำฝรั่งสด(ราคา10บาท) เฉาก๊วยน้ำเชื่อม(ราคา10บาท) ผลไม้ลอยแก้วตามฤดูกาล (ราคา30บาท)ใครที่ผ่านมาผ่านไปแถวซอยวิภาวดี 22 ร้าน"ก๋วยเตี๋ยวเนื้อกรอบ"เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนชอบกินเนื้อที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>รายละเอียดการเดินทางไปยังร้าน "ก๋วยเตี๋ยวเนื้อกรอบ"</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>6 พฤษภาคม 2550 14:29 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=456 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=456> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ชื่อร้าน : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อกรอบ

ประเภทอาหาร : ก๋วยเตี๋ยว

เมนูจานเด่น : ก๋วยเตี๋ยวเนื้อกรอบ ข้าวหน้าไก่

บรรยากาศร้าน : บริเวณบ้าน โล่ง โปร่ง

ที่ตั้ง และการเดินทาง : 168 ซ.วิภาวดี 22 ถ.วิภาวดีรังสิต แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. การเดินทางให้ขับรถเลี้ยวเข้า ซ.วิภาวดี 22 ผ่านตลาดลุงเพิ่มสุดถนนเลี้ยวซ้ายจะผ่านร้านหัวปลีก่อน ตรงไปอีกประมาณ 100 ม. ให้สังเกตว่าร้านจะเป็นบ้านอยู่ซ้ายมือ

เวลาเปิด-ปิด : เปิดบริการทุกวัน 09.30-15.30 น. ยกเว้นวันพุธสุดท้ายของเดือน

เบอร์โทรศัพท์ : 0-2513-5534,08-9447-5676
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ที่มา http://www.matichon.co.th/rich/rich.php?srctag=07060010550&srcday=2007/05/01&search=no

<TABLE><TBODY><TR><TD style="BORDER-LEFT-COLOR: #8b008b; BORDER-BOTTOM-COLOR: #8b008b; BORDER-TOP-STYLE: outset; BORDER-TOP-COLOR: #8b008b; BORDER-RIGHT-STYLE: outset; BORDER-LEFT-STYLE: outset; BORDER-RIGHT-COLOR: #8b008b; BORDER-BOTTOM-STYLE: outset" bgColor=#8b008b>[FONT=Tahoma,]วันที่ 01 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 [/FONT][FONT=Tahoma,]ปีที่ 13 [/FONT][FONT=Tahoma,]ฉบับที่ 180[/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>
[FONT=Tahoma,]ตู้จดหมายพลศรี

ยศพิชา คชาชีวะ

ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เอาแบบไม่ใส่ข่า

คุณน้าเลิศ ถามมาในเว็บบอร์ด www.mwthaicook.com ขอก๋วยเตี๋ยวประเภทต้มยำใส่ถั่วนะ ไม่ใช่ต้มยำแบบใส่ข่าครับ รบกวนช่วยบอกด้วยครับ

ต้มยำใส่ข่าก็แบบต้มยำกุ้ง ต้มยำใส่ถั่วก็ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ น้าเลิศย้ำมา เลยเล่นเอาผมงง ต้องทวนอีกที

ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ โดยหลักๆ ไม่มีอะไรมากมายครับ ความอร่อยของก๋วยเตี๋ยวต้มยำอยู่ที่ต้อง "ถึงเครื่อง" ทั้งพริกป่น น้ำตาล น้ำปลา น้ำมะนาว เอากันเต็มๆ อย่างละช้อน ยิ่งอร่อยจัด แต่คุณน้าเลิศครับ อย่าหาว่าผมจู้จี้ หรือขี้บ่น คืออยากจะเตือนผู้ที่ชอบกินอาหารรสจัดมากๆ โดยเฉพาะรสหวาน รสเค็ม กินก๋วยเตี๋ยวใส่น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลาอีกหลายกระฉอก หรือดื่มกาแฟก็ใส่น้ำตาลแทบจะหมดขวด วันๆ ขาดของหวานไม่ได้ กินข้าวต้องกับปลาเค็ม ทำนองนี้ ระวังเป็นโรคเบาหวาน และโรคไต เบาะๆ ก็โรคอ้วน ไตทำงานหนัก คนที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน ต้องระวังให้จงหนัก น้ำตาลส่วนเกินสะสมกลายเป็นไขมันได้ แล้วอีกหลายโรคจะตามมา รวมไปถึงโรคข้อ โรคหัวใจ เฮ้อ!...

"อร่อยตามปาก จะลำบากทีหลัง" ครับ เอาเป็นว่า คุณน้าเลิศ กับท่านที่ชื่นชอบอาหารรสจัด อาทิตย์หนึ่งกินสักหนสองหนพอหายอยาก มื้ออื่นกินผัก กินรสธรรมดาๆ มั่ง น้ำปลาพริกใส่นิดใส่หน่อยพออนุโลม จะว่าไปคนไทยกับน้ำปลาพริกนี่ขาดกันไม่ได้ กินข้าวไม่อร่อยเลย บางคนกับข้าวยังไม่มา ขอแค่น้ำปลาพริกราดข้าวร้อนๆ ก็อร่อยหลายแล้ว ถ้าใครมีเพื่อนเป็นโรคไต ต้องไปคอยเปลี่ยนถ่ายของเสียในไตออก จะรู้ว่าโรคนี้ทรมานแค่ไหน ผมมีเพื่อนคนนึง ยังสาวยังแส้ชอบกินเค็มตั้งแต่เด็กๆ ตอนนี้ไตวายไปแล้ว ต้องเข้าโรงพยาบาลทุกอาทิตย์ ล่าสุด เห็นว่าได้ไตของผู้ใจบุญบริจาคให้ แต่ก็ต้องลุ้นกันอยู่ว่า ร่างกายจะรับไตใหม่มั้ย

ที่จริงต้องเตือนเรื่อง พริกป่น ด้วยที่ขายกันทั่วไป มีเชื้อราที่ทำให้เกิดสารพิษอะฟลาท็อกซิน อยู่ถึง 90% พวกถั่วลิสงบดเช่นเดียวกัน สารพิษนี้ทำให้เป็นโรคตับ ทางที่ดีควรคั่วพริก คั่วถั่วกินเอง ทำใหม่ๆ แต่อย่าเก็บไว้นานนะครับ น้ำมะนาวแบบที่เขาขายเป็นขวดๆ เลือกซื้อที่มีเครื่องหมาย อย. คั้นเองได้ดีที่สุด น้ำส้มสายชูยิ่งแล้วใหญ่ ไม่เห็นขวดอย่ากิน

ผมเตือนแบบนี้กับญาติพี่น้อง เพื่อนฝูงหลายคน ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า "แล้วจะให้กินอะไร" ห้ามไปเสียหมดอย่างนี้

เดินสายกลางครับ เดินสายกลาง กินรสจัดมั่ง ไม่กินมั่ง พอจะทุเลาได้อยู่หรอก

คุณน้าเลิศถามเรื่องก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ผมอดไถลไปไกลไม่ได้ เพราะรักท่านผู้อ่านทุกท่าน ถึงห่วงใย

มาถึงสูตรก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เอาตั้งแต่ต้มน้ำซุปเลยเป็นไงครับ เขาว่า "น้ำซุปดี มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว" (ใครว่าไว้ก็ไม่รู้)

น้ำซุปก๋วยเตี๋ยว

กระดูกหมู 1 กิโลกรัม

น้ำเปล่า 15 ถ้วย

รากผักชี 6 ราก

พริกไทยเม็ด 2 ช้อนโต๊ะ

เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ

กระดูกหมู หลายคนชอบใช้ส่วนหลัง บอกคนขายว่าจะเอามาต้มน้ำซุป เดี๋ยวเขาจัดให้ หรือจะใช้กระดูกซี่โครงก็ได้ แต่คนนิยมว่าส่วนหลัง น้ำซุปหวานกว่า ล้างกระดูกหมูให้สะอาด ต้มกับน้ำ พร้อมรากผักชี พริกไทยเม็ด เกลือ พอเดือดหรี่ไฟลง หมั่นช้อนฟองออก เคี่ยวประมาณ 2 ชั่วโมง อย่าใจร้อน เร่งไฟแรงตลอด น้ำซุปจะขุ่นไม่น่ากิน

ผมชอบไปยืนดูคนขายก๋วยเตี๋ยว เห็นในน้ำซุปเขามีส่วนผสมกันหลายแบบ เจ้าหนึ่งใส่หัวไชเท้าหั่นชิ้นใหญ่ใส่ลงไปด้วย หัวไชเท้าต้มน้ำทำให้หวานแน่นอน อีกเจ้าใส่อ้อยควั่น อันนี้หวานอ้อย (คนชื่ออ้อยก็หวานครับ)

เอาแค่ต้มตามที่บอกน้ำซุปก็อร่อยแล้ว น้ำซุปนี้ไปทำก๋วยเตี๋ยวได้นานาชนิด หรือทำน้ำแกงก็หม้อนี้แหละ

ตำรับก๋วยเตี๋ยวต้มยำมีกันหลายท้องที่ ใครเคยไปกำแพงเพชร สุโขทัย ต้องเคยกินก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย เอกลักษณ์คือ ถั่วฝักยาวสดๆ หั่นแฉลบ แล้วไปลวกน้ำพอเขียวสด ส่วนเครื่องเป็นหมูสับแผ่นๆ บ้าง หมูสับละเอียดบ้าง หรือหมูแดง ลูกชิ้น ตามถนัด เครื่องปรุงใช้น้ำปลา น้ำมะนาว พริกป่น น้ำตาลทราย บางทีก็น้ำตาลปี๊บ เพิ่มความพิเศษด้วยกุ้งแห้งตัวเล็กๆ เอาแบบไม่แดงใส่ลงไปด้วย

สัดส่วนเครื่องปรุงนี้ อย่างที่ผมเกริ่นขู่ไว้ตอนต้น เขาใส่กันแบบไม่เสียดายของ และห่วงสุขภาพลูกค้าเลย ใส่ไปอย่างละช้อน ยกเว้นพริกป่น สักครึ่งช้อนพอ เดี๋ยวไม่แซ่บถึงใจพระเดชพระคุณ กรรมวิธี เขาจะตักเครื่องปรุงใส่ชาม ใส่น้ำซุปร้อนๆ ลงไป เอาตะบวยคนๆ ให้น้ำตาลละลาย ถึงเอาเส้นที่ลวกไว้กับถั่วฝักยาวเทใส่ โรยด้วยกุ้งแห้ง กับหัวไชโป๊สับ หมูสับ ลูกชิ้นลวกน้ำเดือดใส่ลงไป ไม่กลัวสารพิษอะฟลาท็อกซินในถั่วลิสงบด ก็ใส่ลงไปอีก 1 ช้อน

อย่างนี้เป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำสุโขทัย ไม่รู้ว่ามีกำเนิดมายังไง ที่แน่ๆ คงไม่ได้มาจากสมัยพ่อขุนราม ชัวร์ไม่มั่วนิ่ม

เปลี่ยนเป็นก๋วยเตี๋ยวต้มยำใส่หมูแดง ทำแบบเดียวกัน แต่นิยมใช้น้ำตาลทรายแทนน้ำตาลปี๊บ เปลี่ยนถั่วฝักยาวเป็นถั่วงอก ไม่ใส่กุ้งแห้ง ต้มยำมักจะไม่ใส่น้ำเยอะมาก เอาแค่เกินขลุกขลิกนิดหน่อย

เจ้าก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่ขายดีๆ เขาจะใส่เครื่องปรุงรอไว้ในชาม เรียงเป็นตับ พอใครสั่งก็ลวกเส้นลวกผัก ใส่น้ำซุปลงไปละลายเครื่องปรุง ใส่เส้น ใส่เครื่อง แป๊บเดียวชามหนึ่งใช้เวลาไม่ถึง 2 นาที ทันใจดี

มีก๋วยเตี๋ยวต้มยำอีกแบบหนึ่ง ใส่ซอสพริก เคยเห็นขายอยู่หลายเจ้า แต่พักหลังหายๆ ไป แสดงว่าคนไม่นิยม สูตรเพิ่มเติมซอสพริกเข้าไป 1 ช้อน นอกเหนือเครื่องต้มยำ น้ำซุปจะออกสีแดงๆ แบบนี้มักจะใส่กุ้งแห้งลงไปด้วย

ผมเคยไปกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำที่หนานหนิง เมืองจีน นั่งกินกันบนเก้าอี้เตี้ยๆ ริมแม่น้ำ ซดเบียร์เมืองจีน จากถ้วยแบบตราไก่ เป็นความสุนทรีแบบพิลึกๆ พอควร ก๋วยเตี๋ยวต้มยำของเขาใส่หน่อไม้ดองหั่นเป็นเส้น ใส่ถั่วลิสงคั่วด้วย รสออกเปรี้ยวๆ หน่อไม้ ได้หน่อไม้เหม็นๆ หน่อย ยิ่งถึงรสถึงชาติ

บอกน้ำซุป บอกวิธีการปรุงต้มยำแบบไม่ใส่ข่า อย่างที่คุณน้าเลิศต้องการไปแล้ว ไม่บอกให้หมด เห็นจะผิดวิสัยคอลัมน์นี้ เอาวิธีทำหมูสับไปด้วย

หมูสับ ใช้เนื้อหมูปนมันนิดหน่อย ไม่ปนเลยหมูจะกระด้าง แข็ง ผสมรากผักชี กระเทียม พริกไทย เล็กน้อย โขลกละเอียด ไม่ใส่ก็ได้ เอาแค่พริกไทยกับเกลือ นวดกับหมูคลุกเคล้าให้ดี ใส่ชามแช่เย็นไว้ เวลาทำตักหมูใส่กระบวยแล้วเอาลงไปลวกในหม้อต้มก๋วยเตี๋ยว ใช้ตะเกียบคนๆ พอหมูสุก เทใส่ชาม ทำแบบหมูแผ่น ปั้นให้เป็นก้อนกลม แล้วกดให้แบนนำไปลวกจนสุก ใส่โปะหน้าก๋วยเตี๋ยวตอนเสร็จ

บะหมี่เจ้าเก่งที่นางเลิ้ง เส้นเล็กเหนียวนุ่มมาก จะใส่หมูสับโปะหน้าบะหมี่มาด้วยกับหมูแดง น่ากินมาก แต่เสียดายที่พอเขาขยายสาขาไปตามห้าง ในฟู้ดเซ็นเตอร์ ตัดทิ้งหมูสับแผ่นๆ ออกไป เหลือแต่หมูแดง เลยขาดเอกลักษณ์ไป ดีที่เขามีเส้นบะหมี่เหนียวนุ่มเป็นทุนเดิมอยู่

เอ่ยถึงหมูแดงหลายหน ไม่บอกกล่าวหมูแดงไว้เดี๋ยวจะหาว่าใจจืดใจดำ จำไม่ได้ว่าเคยเอาหมูแดงมาลงในคอลัมน์นี้แล้วหรือยัง หมูแดงใส่บะหมี่ ทำแบบเดียวกับหมูแดง ข้าวหมูแดงครับ

ส่วนผสมหมูแดง

หมูสันนอก

หั่นเป็นเส้นยาว 1/2 กิโลกรัม

ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ

เกลือ 1 ช้อนชา

น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ

ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ

ผงพะโล้ 1/2 ช้อนชา

น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

สีผสมอาหารสีแดง (ของจีนแท้ๆ จะใช้สีอั้งคั่ก เป็นสีที่เกิดจากเชื้อราชนิดหนึ่ง)

วิธีทำ จับทุกอย่างผสมรวมกัน อยากให้หอมๆ เพิ่มเหล้าจีนเล็กน้อย คลุกๆ ดีแล้ว หมักไว้ 5 ชั่วโมง แล้วนำไปอบ หรือย่างจนสุก ค่อยมาแขวนโชว์ในตู้ได้

ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ นอกจากจะใส่หมูแดง ใส่พวกลูกชิ้น เดี๋ยวนี้มีปูอัดมาให้ใส่เพิ่ม ของโรยหน้าอีกอย่างขาดไม่ได้ คือพวกของทอดกรอบๆ มันเข้ากันดีกับก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ง่ายสุดคือแป้งเกี๊ยวทอดกรอบ ไม่ต้องใส่ไส้ ทอดใส่ถุงใส่ชามไว้ให้ลูกค้าหยิบได้ตามใจ ลูกค้าชอบเอาไปเคี้ยวเล่นก่อนกินก๋วยเตี๋ยว แต่ผมชอบทำให้มันแตกหน่อย แล้วใส่แช่ไปกับก๋วยเตี๋ยวเลย ให้มันกรอบนิด นุ่มหน่อย แต่ต้องรีบกิน นิ่มไปไม่อร่อย

กระเถิบขึ้นมาอีกระดับ เป็นพวกหนังปลา ปัจจุบันหนังปลาแซลมอนฮิตมาก เอามาทอดกรอบ ผมยังไม่เจอใครพอจะถามได้ว่า ทำไมหนังปลาแซลมอนทอดกรอบถึงระบาดมาอยู่เมืองไทยได้ ทั้งๆ ที่มันเป็นสัตว์น้ำเขตอบอุ่น ถึงหนาว เมืองไทยไม่มีปลาแซลมอน ต้องสั่งเข้า ชิ้นหนึ่งแพงเป็นร้อย แสดงว่าเมืองไทยต้องสั่งปลาแซลมอนเข้ามามากพอดู ถึงมีหนังปลาเหลือขนาดนี้ หรืออีกทีหนังปลาอาจจะเป็นผลิตภัณฑ์ส่วนเกินของฝรั่ง ไม่กินกัน พี่ไทยเลยสั่งมาถูกๆ มาทำหนังปลาทอดกรอบซะเลย

พวกลูกชิ้นทอดกรอบ ลูกชิ้นกุ้ง ก็เข้ากันกับก๋วยเตี๋ยวต้มยำ เจ้าประจำของผมเจ้าหนึ่ง เอาผักมาชุบแป้งทอด จะเป็นอะไรก็ได้ เช่น ถั่วฝักยาว ใบพริก ใบตำลึง ใบผักบุ้ง หรือใครมีใบเล็บครุฑ ยิ่งดีใหญ่ สมัยนี้เด็กจะไม่รู้จักเอา ไม่รู้ด้วยว่ากินได้ ใบเล็บครุฑมีทั้งแบบใบกลมๆ และแบบใบฝอยๆ ชุบแป้งทอดกินกับน้ำพริกกะปิ หรือใส่ขนมจีนน้ำพริก เด็ดที่สุด

แป้งที่ชุบทอดจะซื้อสำเร็จรูปก็ได้ ถ้าอยากประหยัดผสมเอง

ส่วนผสมแป้งมี

แป้งสาลี 1/2 ถ้วย

แป้งข้าวเจ้า 1/3 ถ้วย

แป้งมัน 1/4 ถ้วย

เกลือ 1/2 ช้อนชา

น้ำ 3/4-1 ถ้วย

ผสมทั้งหมดเข้าด้วยกัน ยกเว้นน้ำค่อยๆ เติม ให้เหลวพอข้นๆ เอาผักจุ่มแล้วต้องติดผัก ไม่ไหลออกหมด อยากให้กรอบมากๆ เพิ่มส่วนแป้งข้าวเจ้า ลดแป้งอื่นลง

ผักชุบแป้งทอดแบบนี้ โรยหน้าก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ยิ่งอร่อยไปกันใหญ่ จนเจ้าประจำของผมต้องเลิกทอดผัก ผมไปถามว่า ทำไมเลิกซะล่ะ แม่ค้าบอกว่า "ทอดไม่ไหวแล้วค่ะคุณ ทอดมาเท่าไหร่ก็ไม่พอ เด็กๆ มาหยิบไปกินเปล่าๆ ทีละชาม กำไรหดหมดค่า..."

เฮ้อ!...ผมเลยอดกินก๋วยเตี๋ยวต้มยำชนิดครบเครื่องไปอีกหนึ่งเจ้าเลย
[/FONT]