ธรรมพระบูรพาจารย์(หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต)

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย คุรุวาโร, 14 ตุลาคม 2011.

  1. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    อริยมรรคสมังคี

    อริยมรรคสมังคี เป็นคำพูดเรียกชื่อภูมิจิตที่นักปฏิบัติได้นั่งสมาธิรวมจิตลงถึงความเป็นหนึ่งแล้ว
    มรรค เป็นชื่อ แห่งหนทางทั่วไปในมนุษย์โลก เทวโลก พรหมโลก ตลอดจนเป็นชื่อแห่งหนทางพระนวโลกุตระ คือ ทางพระนิพพาน
    อริยมรรค เป็นชื่อแห่งหนทางพระนิพพานอย่างเดียว ไม่รวมทางทั่วไปหนทางอื่นๆ
    ผล เป็นชื่อแห่งความสำเร็จ ความบรรลุ ทางโลกีย์ หมายเอา ความสำเร็จผลที่ตนต้องการ ทางโลกุตระ หมายดวงปัญญา
    อริยผล เป็นชื่อแห่งมรรค ผล ธรรมวิเศษในทางโลกุตระอย่างเดียว ไม่เกี่ยวข้องในทางโลกีย์
    มรรค ก็ดี อริยมรรค ก็ดี ตกแต่งเอาได้
    ผล ก็ดี อริยผล ก็ดี ตกแต่งเอาเองไม่ได้ เป็นของเป็นเอง หรือสำเร็จเองมาจากมรรค และอริยมรรคที่ตกแต่งถูกต้องแล้ว
    มรรคกับผล มีรูปเปรียบเหมือนบุคคลปลูกต้นไม้ลงในที่ไร่ ที่สวน แต่ต้นลำยังอ่อนอยู่ก็ดี ย่อมไม่แลเห็นผล อาศัยความเชื่อแน่ในใจว่า ถ้าลำต้นแก่เต็มที่ และถึงฤดู ก็จะต้องเป็นผลแน่ และเป็นผลจริงๆด้วย ฉันใดก็ดี มรรค กับผล ก็มีรูปร่างเปรียบเหมือนกัน ฉันนั้น
    อริยมรรค กับอริยผล มีรูปเปรียบเหมือนบุคคลก่อไฟ ในเวลากำลังก่อไฟ ไฟยังไม่ติด ก็ยังไม่สว่างฉันใด อริยมรรค ก็เหมือนกันฉันนั้น ต่อมาเวลาก่อไฟติดย่อมบังเกิดแสงสว่างขึ้นพร้อมกัน ฉันใดก็ดี อริยผล ก็มีรูปเปรียบเหมือนกันฉันนั้น ดั่งพุทธภาษิตว่า นัตถิ ปัญญา สมา อาภา แปลว่า
    แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี ดังนี้ ข้อนี้แสดงให้เห็นว่า อริยผล คือ ดวงปัญญาซึ่งบังเกิดความสว่างไสวขึ้นในเวลาที่จิตประชุมอริยมรรคแล้ว
     
  2. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    วิธีตกแต่งอริยมรรค

    1.พึงตกแต่ง สติให้เป็นมหาสติ คือเบื้องต้น มีสติเฉพาะหน้า กำหนดรู้ตัวผู้รู้เฉพาะหน้า รวมจิต ประชุมอริยมรรคได้แล้ว ตรวจค้นร่างกาย พิจารณาเวทนา จิต ธรรม จนเป็นที่ตั้งของสติได้จริงๆ ตลอดจนทำสัปชัญญะให้รู้ตัวและรู้จิตพร้อมทุกขณะตลอดไป
    2.พึงตกแต่งสมาธิ พร้อมทั้งดวงจิต ความคิด ความเห็น ตลอดความตั้งใจไว้ในที่ชอบให้ถูกต้อง
    3.พึงตกแต่ง กาย วาจา ใจให้บริสุทธิ์ ปราศจากโทษ5 โทษ8 โทษ10 โทษ227
    เมื่อมีสติกำหนดจิตให้จิตตกลงสู่ภวังค์เองแล้ว ตั้งมั่นในสมาธิอยู่ได้ ไม่ไป ไม่มา ไม่ออก ไม่เข้า ไม่ขึ้น ไม่ลง เป็นหนึ่งจริงๆ ตลอดจนวิหารธรรม อริยมรรคทั้ง 8 ประการได้ประชุมพร้อมแล้วในจิตดวงเดียวเมื่อใด เมื่อนั้น นักปฏิบัติย่อมรู้เป็นปัจจัตตังจำเพาะกับจิต ว่าจิตของเราได้ประชุมอริยมรรคสมังคี ครั้งหนึ่งแล้ว หรือสองครั้งแล้ว สามครั้ง ตลอดจนประชุมถึงสี่ครั้ง ก็ย่อมรู้ตลอดไป ดังพระพุทธบทที่ว่า ยะทิทัง จัตตาริปุริสยุคคานิ อัฏฐปุริสปุคลา แปลว่า นี่อย่างไรคู่ของบุรุษ 4 คู่ นับเรียงตามลำดับตัวบุคคลเป็น8 บุคคล ดังนี้ เรียกว่า อริยมรรคถึงสี่ครั้ง สำเร็จมรรคสี่ ผล สี่ จะบังเกิด
    1.วิหารธรรมเป็นเครื่องอยู่ พร้อมทั้งมรธรรมจักษุดวงตาเห็นธรรมแจ้งประจักษ์
    2.จักขุกรณี ญานกรณี คือเห็นทางปฏิบัติอันเป็นกลาง ดำเนินตามหนทางอันเกษมจากโยคะทั้งปวงได้โดยสะดวก
    3.อุปสมาย อภิญญา คือเข้าถึงความเป็นผู้สงบระงับ และบังเกิดอภิญญาน ความรู้จริง เห็นจริง มีคุณธรรมวิเศษบางประการ
    4.อริยผล คือ มีปัญญาจักษุ ดวงตาปัญญาปรีชาญาน หยั่งรู้ หยั่งเห็นในสารพัดไญยธรรมทั้งปวง

    ขอให้เจริญในธรรม
     
  3. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    อดีตมาจากแม่ค้า แถวบางกอกครับ อดีตเคยบวชชีระยะหนึ่ง ชาตินี้ญาน3 ก็ยังไม่ได้ ใจสับสนวุ่นวายเหลือเกินครับ ก็ทำบุญไว้เยอะแยะนะครับ แนะนำลมหายใจก็ดีครับ
     
  4. อวตาร888

    อวตาร888 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    259
    ค่าพลัง:
    +1,070
    ขอบคุณครับ.
     
  5. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    คงต้องตามใจท่านสมาชิกนะครับ ของดใช้สัมผัสพิเศษนะครับ เดี๋ยวจะกลายเป็นกระทู้ดูดวงไปนะครับ เอาไว้สักระยะค่อยว่ากันใหม่ครับ

    ขอให้เจริญในธรรมครับ
     
  6. clearwanted

    clearwanted เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +260
    เคารพในการตัดสินใจของคุณคุรุวาโรนะคะ แต่แหม เสียดายจังที่เข้ามาช้าไปหน่อย หวังเอาไว้เผื่อจะได้คำแนะนำดีๆ ช่วยในการปฏิบัติน่ะค่ะ ถ้ายังไง เมื่อคุณคุรุวาโรพร้อมที่จะดูให้ท่านทั้งหลายเป็นธรรมทานอีกครั้ง ก็อย่าลืมหนูนะคะ จะรอวันนั้นค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  7. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    วิธีเดินจงกรมภาวนา

    วิธีเดินจงกรมภาวนา เป็นวิธี เปลี่ยนอิริยาบท คือเปลี่ยนจากการนั่งสมาธิภาวนา มาทำความเพียรภาวนาในอิริยาบทเดิน เรียก ยืนกำหนดจิต เมื่อจะเดินจงกรม ให้ดูระยะว่าจะกำหนดสั้น หรือยาวแล้วแต่ต้องการครับ
    วิธีเดินจงกรม ให้ไปยืนที่ต้นทางแห่งจงกรมนั้นแล้ว พึงยกมือทั้งสองขึ้น ประนมมือทั้งสอง ไว้เหนือหว่างคิ้ว ระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า คุณพระธรรม และคุณพระอริยสงฆ์สาวกว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทั้งสาม เป็นสรณะที่พึ่ง ที่ระลึก ที่เคารพนับถือของข้าพเจ้า แล้วตั้งเป็นสัจอธิษฐานไว้ในใจว่า บัดนี้ข้าพเจ้าจะตั้งใจปฏิบัติพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นเครื่องปฏิบัติบูชา พระพุทธเจ้า พร้อมทั้งพระธรรม และพระอริยสงฆ์ สาวก ด้วยอำนาจแห่งพระคุณพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์สาวก ขอจงบันดลบันดาล ให้น้ำใจของข้าพเจ้า จงสงบระงับและตั่งมั่นเป็นสมาธิแล้ว จงบังเกิดมีปัญญา ปรีชาญาณ รู้แจ้งแทงตลอดในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทุกประการ เทอญ
    เมื่อตั้งสัจจะ และอธิษฐานไว้ดีแล้วเอามือทั้งสอง วางจากการประนมมือ หย่อนมือทั้งสองลงมาแล้วเอามือข้างขวาจับมือข้างซ้าย หย่อนมือลงไว้ตรงข้างหน้า ตามแบบพระพุทธรำพึง เจริญพรหมวิหารทั้งสี่ จบแล้ว ทอดสายตาเบื้องต่ำ ตั้งสติกำหนดจิต ตามแบบวิธีนั่งสมาธิที่กล่าวแล้ว นึกคำบริกรรมภาวนา บทเดียวกันกับนั่งสมาธิภาวนา เสร็จแล้วออกเดินจงกรมตั้งแต่หัวสุดจงกรมข้างนี้ ไปถึงหัวสุดจงกรมข้างโน้น ไม่ต้องนับเที่ยว ให้นับสติ นับดวงจิต ว่าสติของเราดีหรือไม่ ดวงจิตของเราสงบหรือยัง ถ้ายังไม่สงบ ก็ให้เพียรพยายามเดินอยู่อย่างนั้นจนกว่าจิตของเราสงบลงได้ เมื่อจิตสงบครั้งแรก ยังตั้งสติไม่ได้ ก็อย่าเพิ่งเดินต่อไป ให้หยุดยืนกำหนดจิตอยู่ก่อน จนกว่าจิตรวมสงบดีแล้ว เราตั้งสติได้แล้ว จึงเดินต่อไป ด้วยความเป็นผู้เพียรเพ่งอยู่ พยายามทำความเพียรให้เป็นไปทางใจ จนกว่าจะชำนาญคล่องแคล่วในสมาธิภาวนา
    จุดประสงค์ ต้องการให้จิตตั้งมั่นเป็นสมาธิเหมือนกัน ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท สนใจและเอาใจใส่ กระทำพากเพียร ทั้งยืน ทั้งเดิน ทั้งนั่ง ทั้งนอน ให้ชำนาญคล่องแคล่วจริงๆ จนกว่าจะแตกฉานในห้องพระไตรปิฏก
     
  8. บัวมรกต

    บัวมรกต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    812
    ค่าพลัง:
    +1,071
    ปัญหาการทำอานาปานสติ

    ได้ถามพี่คุรุวาโร เกี่ยวกับอาการตัวเบา หมุนๆ เหมือนจะลอยได้ เกิดจากการไม่คล่องในวสีทั้ง 5 ไม่ควรเร่งคำภาวนา ให้สังเกตจิต ใจ และร่างกาย แล้วอธิษฐานอะไรก็ได้สักอย่างหนึ่ง จะน้อมนำไปปฏิบัติค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
     
  9. พะพาย

    พะพาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +26
    ขอขอบคุณในการแนะนำ ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป ทุกท่าน ทุกคนด้วยค่ะ
     
  10. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    นิมิตสมาธิ

    พระสมถะกรรมฐานภาวนา นิมิต มี สาม ประการ คือ
    1.บริกรรมนิมิต
    2.อุคหะนิมิต
    3.ปฏิภาคนิมิต
    ผู้มุ่งโลกุตรธรรมเป็นเครื่องอยู่อันแท้จริงแล้วย่อมไม่ติดข้องอยู่ในนิมิต ทั้งหลายเหล่านี้ คือ เมื่อเห็นแล้ว ก็แก้ไขให้หลุดผ่านไป ก้าวหน้าสู่โลกุตรธรรมอย่างเดียว เรื่องนิมิตที่ปรากฏเห็น
    1.จิตในเวลานอนหลับ ก็บังเกิดนิมิตได้ เรียกว่า ฝัน
    2.จิตในเวลานั่งสมาธิ ก็บังเกิดนิมิต เรียกว่า นิมิตสมาธิ จะอธิบายเฉพาะนิมิตสมาธิเท่านั้น เพื่อไม่ให้หลงไปตามนิมิต จะได้มีปัญญารู้เท่าทันนิมิต และแก้นิมิตต่อไป
     
  11. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    เรื่องนิมิตสมาธิ ในเวลานั่งสมาธิภาวนา จิตตกลงสู่ภวังค์แล้วเผลอสติบังเกิดนิมิตเป็นเรื่องราวใหญ่โตขึ้นก็มี หรือไม่เผลอสติจิตเป็นขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ อัปนาสมาธิ ย่อมมีนิมิตต่างๆบังเกิดขึ้น ปรากฏเห็นชัดในจักขุทวาร มโนทวารฯ นักปฏิบัติบางจำพวก กระทำปุพพภาคแห่งการปฏิบัติเบื้องต้นไม่ถูกต้อง จะกระทำโลกุตระให้แจ้งก็ทำไม่ได้ เมื่อนั่งสมาธิภาวนา ได้แต่เพียงนิมิตภาวนา คือได้เห็นนิมิตต่างๆ มาปรากฏในจักขุทวาร มโนทวารเท่านั้นก็ดีใจ บังเกิดถือทิฐิมานะว่าตนได้รู้ ได้เห็น และได้สำเร็จมรรคผลธรรมวิเศษชั้นนั้นๆ ไม่รู้เลยว่าตนเป็นผู้หลงติดข้องอยู่ในชั้นโลกีย์ ไม่ใช่ชั้นโลกุตระฯ นักปฏิบัติผู้ที่มีปุพพภาคแห่งการปฏิบัติเบื้องต้นได้กระทำถูกต้องแล้ว เมื่อนั่งสมาธิภาวนาจิตตกลงสู่ภวังค์ บังเกิดมีนิมิตขึ้นมาก็ดี หรือจิตเป็นขณิกสมาธิ อุปจารสมาธิ อัปนาสมาธิ อันใดอันหนึ่ง บังเกิดมีนิมิตปรากฏเห็นชัดในจักขุทวาร มโนทวาร ย่อมไม่ดีใจ เสียใจ คือ ไม่ยินดี ยินร้าย ในนิมิตนั้นๆ ย่อมเป็นผู้มีสติทำจิตให้เป็นสมาธิตลอดไปฯ
     
  12. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    นิมิตบางประการ เมื่อบังเกิดขึ้นแล้วเป็นอุบายให้ได้สติ มีปัญญา พาให้จิตสงบตั้งมั่นเป็นสมาธิเรียบร้อยดีก็มีฯ แต่นิมิตบางประการ เป็นนิมิตที่น่ากลัวกระทำให้จิตหวาดเสียวตกใจกลัวก็มี ผู้ไม่มีสติอาจฟุ้งซ่าน เสียสติอารมณ์ก็เป็นได้ จึงขอเตือนสติไว้ในที่นี้ว่า ท่านผู้ปฏิบัติใหม่ทั้งหลาย พึงเป็นผู้มีสติ กำหนดจิตไว้ให้ดี อย่าตกใจกลัว และอย่าประหม่า เก้อเขิน คือ อย่าเป็นผู้กล้าหรือผู้กลัวจนเกินไป ถ้ากล้าเกินไป ก็ทำให้ใจฟุ้งซ่านได้ หรือกลัวเกินไป ก็ทำให้เสียสติอารมณ์ท้อถอยจากความเพียร ไม่อาจนั่งสมาธิภาวนาอีกได้ เพราะหลงนิมิตเหล่านั้นฯ
    นิมิตบางประเภทแสดงเรื่องมนุษย์ บางประการแสดงเรื่องสวรรค์ บางประการแสดงเรื่องพระนิพพาน นักปฏิบัติบางจำพวก ชอบเล่นนิมิตเกินไปก็หลงเพลินไปเที่ยวในมนุษย์โลก และเที่ยวเล่นในสวรรค์ ตลอดเข้าสู่พระนิพพานตามอาการของนิมิตที่ปรากฏ จนสามารถพูดอวดได้ว่าตนได้สำเร็จสวรรค์ สำเร็จพระนิพพานไปแล้ว ครั้นออกจากสมาธิแล้ว ก็เปล่าๆ หาได้สำเร็จอะไรไม่ นี่แสดงว่านิมิตหลอกให้หลง ก็หลงตามจริงๆด้วย ความเข้าใจผิด เห็นผิดจากความจริงทุกประการตลอดไปฯ
     
  13. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    นักปฏิบัติในพระธรรมวินัยที่มุ่งโลกุตรธรรมจริงๆ ย่อมเป็นผู้ไม่หลงไปตามอาการของนิมิต เมื่อนิมิตบังเกิดขึ้น ย่อมมีสติพิจารณาให้รู้แจ้งว่า นิมิตนี้บังเกิดขึ้นจากเหตุแห่งคำบริกรรม เรียกว่า บริกรรมนิมิต และ นิมิตนี้บังเกิดขึ้นเป็นอุบายให้มีสติ มีสมาธิยิ่งๆขึ้นไป เรียก อุคหนิมิต ทั้งอีกนิมิตนี้ บังเกิดขึ้นจากปฏิภาคการในร่างกายตัวเรา หรือภายในร่างกายของคนอื่น เรียกว่า ปฏิภาคนิมิต ย่อมรู้รอบคอบตลอดทุกประการ นิมิตที่ปรากฏเห็นดวงเดือน ดวงดาว ดวงอาทิตย์ หรือเห็นแสงสว่างภายในดวงใจของเรา นับเข้าในพวกอุคหนิมิต ไม่เป็นของที่น่ากลัว
    นิมิตที่ปรากฏเห็นโครงกระดูกในร่างกายเรา หรือเห็นตัวของเราตาย เป็นซากศพ นอนกลิ้งอยู่ต่อหน้า ตลอดเห็นซากศพมนุษย์ ทั้งหลายตายเต็มโลก นับเข้าเป็น ปฏิภาคนิมิต ผู้ไม่มีสติย่อมตกใจกลัว แต่ผู้มีสติ ย่อมไม่กลัว ยิ่งได้สติดีขึ้น คือได้ใช้เป็นอุบายพิจารณาอสุภกรรมฐานแยกส่วน แบ่งซากศพนั้นออกดูให้ตลอดก่อน แล้วน้อมเข้ามาพิจารณาในร่างกายตน จนเห็นจริงแจ้งประจักษ์ แล้วพิจารณาร่างกายของบุคคลอื่น ก็แลเห็นแจ้งแทงตลอดทุกประการ บังเกิดมีนิพพิทาญาณ เหนื่อยหน่ายสังเวชสลดใจ น้ำใจสงบตั้งมั่นเป็นสมาธิแน่วแน่ดี สติก็มีกำลังดียิ่งขึ้น เรียกว่า ปฏิภาคนิมิต
     
  14. คุรุวาโร

    คุรุวาโร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    3,465
    ค่าพลัง:
    +13,431
    วิธีแก้นิมิตสมาธิ

    เหตุจำเป็นที่จะต้องแก้นิมิตสมาธิ เพราะเหตุว่าเรื่องของนิมิตสมาธิทั้งหมด เป็นเรื่องของโลกีย์ ไม่ใช่โลกุตระ จัดว่าเป็นเบญจมาร 5 ประการ คือ
    กิเลสมาร เทวบุตรมาร ขันธมาร อภิสังขารมาร และมัจจุมาร
    บันดลบันดาลให้บังเกิดมีนิมิตขึ้น หลอกล้อให้หลงติดข้องอยู่ในวัฏสงสารตลอดไป คือ ให้เวียนว่ายตายเกิดอยู่ในภพทั้งสามประการ คือ กามภพ รูปภพ และอรูปภพ นักปฏิบัติผู้ต้องการพ้นทุกข์ คือต้องการโลกุตระ ไม่ต้องการข้องอยู่ในวัฏสงสาร จึงจำเป็นต้องแก้ นิมิต ทั้ง 3 ประการให้หลุดพ้นไป
    พุทธองค์ทรงสอนไว้ สาม ประการคือ
    1.เจริญญาตปริญญาวิธี แปลว่า ทำความกำหนดรู้ทั้งจิต ทั้งนิมิตอยู่เฉยๆ หรือมีสติกำหนดจิตนิ่งเฉยต่อนิมิต

    2.เจริญติรณะปริญญาวิธี แปลว่า พิจารณาตรวจค้นเหตุผลของนิมิตให้รอบคอบ

    3.เจริญปหานปริญญาวิธี คือสละลงซึ่งนิมิตนั้นให้ขาด หรือถอนตัณหาเสียทั้งโคน
     
  15. บัวมรกต

    บัวมรกต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    812
    ค่าพลัง:
    +1,071
    เรียนถามพี่คุรุวาโร ในอดีตชาติ หนูเคยปฏิบัติมาทางด้านนี้(อานาปานสติ)มาก่อนหรือเปล่าคะ และจะรู้ได้อย่างไรว่าขณะทำสมาธิ เราไปถึงขั้นไหนแล้ว เพราะตอนนี้เริ่มสังเกตว่าจะนั่งสมาธิได้ไม่นาน ไม่เกิน 15 นาที และจะมีอาการแปลกๆใหม่ๆเข้ามาในช่วง 10 นาทีแรก ปัจจุบันใช้วิธี หายใจเข้าภาวนาพุท หายใจออกภาวนาโธ นับ 1 และจะนับไปเรื่อยๆแบบนี้ / ขอบพระคุณค่ะ
     
  16. boy_kmutt

    boy_kmutt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    303
    ค่าพลัง:
    +227
    ช่วยดูให้ผมบ้างครับ ของผมจะนั่งแบบเพ่งอสุภะหรือพิจารณากายคตาสติดีมากเข้าสมาธิเร็ว ขอบคุณครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ตุลาคม 2011
  17. mamypogo

    mamypogo Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2011
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +60

    เข้าใจมากขึ้นแล้วครับ เห็นก็สักแต่ว่าเห็น รู้ก็สักแต่ว่ารู้ เพราะนิมิตเป็นแต่เพียงทางผ่าน มิใช่จุดมุ่งหมาย ถ้าให้เปรียบก็เหมือนหลุมบ่อ ที่เมื่อเดินทางไกล ก็ต้องพบเจอ หากพอใจที่จะหยุดพักอาศัยในหลุมบ่อเหล่านั้น ไม่ขวนขวายเดินทางข้ามไป เพื่อให้ถึงจุดหมาย ก็มีแต่จะถดถอย ไกลออกจากจุดหมายไปทุกที ความรู้นี้ จะขอนำไปปรับปรับปรุงกับปัญหากรรมฐานของผม ขอบคุณคุณ คุรุวาโร่ มากๆครับ
     
  18. fullner

    fullner เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    287
    ค่าพลัง:
    +239
    คุณ คุรุวาโร..มีที่เป็นหนังสือไหมคะ
    อ่านที่กระทู้ไม่ค่อยถนัด..สายตาไม่ค่อยจะดี
    และขอรบกวนดูให้ด้วยนะคะ...ว่าตัวเองเป็นมาอย่างไร
    และมีโอกาสเจริญทางธรรมมากน้อยแค่ไหน..
    ทางโลกด้วยนะคะ...
    สาธุ สาธุ สาธุ
    (kiss)
     
  19. Sunthorn2493

    Sunthorn2493 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    118
    ค่าพลัง:
    +180
    รบกวนท่านคุรุวาโรด้วยครับ ( พอดีท่าน AVATAAR แก้ให้เปลาะนึงแล้วครับ )..
    ขอบคุณครับ..
     
  20. spiderboy1

    spiderboy1 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +7
    ผมต้องทำยังไงครับ คุณ คุรุวาโร ถึงดูให้ผมได้อะครับ รอบสองเเล้วอะครับ น้อยใจเหมือนกัน คนอื่นรอบเดียวได้ดูเเต่ผมนี่สองรอบเเหละ ขอบคุณมากครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...