เพื่อการกุศล :::(เปิดจอง)ล็อกเกตพระแก้วมรกต"ภูริทัตตเถรานุสรณ์-สมเด็จองค์ปฐมอมฤตศุภมงคลญาณสังวร":::

ในห้อง 'ตลาด พระเครื่องเพื่อการกุศล' ตั้งกระทู้โดย dekdelta2, 13 พฤศจิกายน 2009.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ก ฯลฯ ฮ

    ก ฯลฯ ฮ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    856
    ค่าพลัง:
    +1,172
    เอ่อ คุณหมอว่า ทริปต่อไป "นครสวรรค์ ชัยนาท อุทัยธานี"
    สงสัยว่าต้องใช้เรือมั๊งครับ .. 555
     
  2. ตุลวรรธนะ

    ตุลวรรธนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    406
    ค่าพลัง:
    +3,460
    [​IMG]
     
  3. THANARATH 2010

    THANARATH 2010 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    625
    ค่าพลัง:
    +1,721
    ผมขอยืนยันว่าที่พี่ dekdelta2 กล่าวมาเป็นความจริงคับ

    มีอะไรให้ผมรับใช้บอกได้เลยน่ะครับ สวัสดีครับหมอ
     
  4. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ชนแดน(มีสององค์)ไม่ไปนะครับ ไกลเกิน
     
  5. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    หลวงพ่อล้าน เขมจิตโต พระเกจิแห่งลุ่มนาตาปี

    คอลัมน์ มงคลข่าวสด



    <TABLE style="WIDTH: 20%" border=0 cellSpacing=5 cellPadding=1 align=left><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>"หลวง พ่อ ล้าน เขมจิตโต" หรือ พระ ครูเกษมจิตตาภิรักษ์ เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งวัดขนาย ต.บางงอน อ.พุน พิน จ.สุราษฎร์ธานี

    มี ความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ จนได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้าแห่งปักษ์ใต้

    หลวง พ่อล้าน บำเพ็ญเพียรตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติดีเปี่ยมด้วยเมตตาธรรม เป็นที่พึ่งพิงทางใจของพุทธศาสนิกชนทั่วไป

    วัตถุมงคลและเครื่องราง ที่ท่านอธิษฐานจิตปลุกเสกโด่งดังไปไกลทั่วประเทศ โดยเฉพาะตะกรุดผานไถและผ้ายันต์กันโจร

    ปัจจุบัน หลวงพ่อล้าน สิริอายุ 77 พรรษา 50 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดขนาย จ.สุราษฎร์ ธานี และเจ้าคณะตำบลบางงอน

    อัตโนประวัติ มีนามเดิมว่า ล้าน สงนรินทร์ เกิดเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2476 ณ บ้านคลองเคี่ยม ต.บางงอน อ.พุนพิน จ. สุราษฎร์ธานี

    โยมบิดา-มารดา ชื่อ นายสุขปั้น และ นางพร้อย สงนรินทร์ ครอบครัวมีพี่น้อง 7 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 2 ครอบครัวประกอบอาชีพเกษตรกรรม

    ชีวิตในวัยเด็กค่อนข้างลำบาก ต้องช่วยเหลือครอบครัวทำงาน แต่ยังมีเวลาที่จะศึกษาเล่าเรียน เมื่ออายุ 7 ขวบ ได้เข้าศึกษาที่โรง เรียนวัดขนาย จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังจากนั้นได้ช่วยครอบครัวประกอบอาชีพทำนา และปลูกผักขาย

    ใช้ชีวิต ในวัยหนุ่มด้วยการหาเลี้ยงครอบ ครัว แต่แล้วในวัย 27 ปี ท่านเกิดมีความคิดที่จะบวชเรียนตามประเพณี จึงได้กราบลาบุพ การี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อปี พ.ศ.2503 ณ วัดขนาย มีพระครูสถิตสันตคุณ (หลวงพ่อพัว) เจ้าคณะอำเภอคีรีรัฐนิคม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูพิทักษ์ธรรมสาร (หลวงพ่อพริ้ม) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูรัษฎารามคณิศร์ เจ้าคณะตำบลบางงอน เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    ได้ รับฉายานามว่า เขมจิตโต

    หลังอุปสมบท ได้ศึกษาในพระปริยัติธรรมอย่างมุ่งมั่น สามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท-เอก ก่อนหันไปศึกษาวิชาอักขระขอม ลงเลขยันต์ จากหลวงพ่อพริ้ม

    สำหรับ หลวงพ่อพริ้มนั้น ได้รับการถ่าย ทอดมาจาก พระสมุห์รวย หตาโส อดีตเจ้าอาวาสรูปก่อนอีกทีหนึ่ง

    นอกจากวิทยาคมอักขระขอม ท่านยังได้เรียนวิชาต่อกระดูกตำรับวัดขนายโดยตรงจากหลวงพ่อพริ้ม ซึ่งสืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ผู้เป็นเจ้าของตำรา คือ ตาปะขาวผู้สร้างวัดขนาย

    ทั้งนี้ วัดขนาย แต่เดิมมีชื่อว่า "วัดโคกพร้าว" ตามตำนานกล่าวกันว่ามีตาปะขาวหรือตาผ้าขาว (ผู้มีวิชาอาคม ถือศีล นุ่งขาวห่มขาว) เป็นผู้สร้างวัดขึ้น แต่ไม่ทราบหลักฐานที่แน่นอนว่าสร้างขึ้นเมื่อใด

    ต่อมาเมื่อมีชาว บ้านชาวช่องเข้ามาตั้งหลักปักฐานทำมาหากินกันมากขึ้น จนกลายเป็นชุมชนขนาดใหญ่โตขึ้นเป็นหมู่บ้าน มีชื่อเรียกกันทั่วไปว่า "หมู่บ้านขอ-นาย"

    ภายหลังเพี้ยนไปเป็น ขนาย ในที่สุด ส่วน วัดโคกพร้าว ก็ได้เปลี่ยนมาเป็น วัดขนาย ตามชื่อหมู่บ้านไปด้วยในสมัยของ พระสมุห์รวย หตาโส อดีตเจ้าอาวาสรูปที่ 8 ของวัดขนาย ท่านได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระสมุห์เกษม โดยที่ท่านเป็นพระนักพัฒนาที่ได้พัฒนาวัดขนายให้มีความเจริญก้าวหน้า และยังเป็นพระเถระที่พุทธศาสนิกชนให้ความเคารพนับถือกันอย่างกว้างขวาง

    กระทั่ง พระปรีชาอุดม เจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานีในสมัยนั้น เห็นคุณความดีงามของท่าน และเพื่อเป็นเกียรติแก่พระสมุห์เกษมหรือหลวงพ่อสำรวย จึงได้มีการเปลี่ยนชื่อวัด จากวัดขนาย มาเป็น วัดเกษมบำรุง จนถึงปัจจุบันนี้ แต่ชาวบ้านในละแวกนั้นก็ยังคงติดปากเรียกกันว่าวัดขนายอยู่เช่นเดิม

    ท่าน ได้ศึกษาวิชาต่อกระดูกจนมีความเชี่ยวชาญ ได้นำมาใช้รักษาให้ชาวบ้านที่ประสบเหตุจนกระดูกหัก ให้หายเป็นปกติ

    ลำดับ งานปกครองคณะสงฆ์ พ.ศ.2532 ได้รับแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดขนาย จ.สุราษฎร์ ธานี พ.ศ.2547 ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลบางงอน

    ลำดับ สมณศักดิ์ พ.ศ.2518 เป็น พระสมุห์ล้าน เขมจิตโต พ.ศ.2540 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็น พระครูสัญญาบัตรชั้นตรี ในราชทินนามที่ พระครูเกษมจิตตาภิรักษ์

    กล่าวกันว่า หลวงพ่อล้าน มีความชำนาญพระคาถาอิติปิโส 8 ทิศ, มงกุฎพระพุทธเจ้า, พระเจ้า 16 พระองค์ และฆะเฏสิ ทรงอิทธิคุณในทางขับไล่สิ่งอัปมงคลชั่วร้าย เสริมดวงชะตา นำพาโชคลาภวาสนาบารมี

    สำหรับวัตถุมงคลที่หลวงพ่อล้าน ได้จัดสร้างจนโด่งดัง คือ เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก หลังยันต์น้ำเต้า

    แต่ ที่ได้รับการเล่าขานถึงอย่างกว้างขวาง คือ ตะกรุดผานไถพลิกแผ่นดิน ที่จัดสร้างจากผานไถจริงที่ใช้ไถนา เอามาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ทำตะกรุด นำมาหลอมรวมกันตามสูตรที่เรียนมาจากครูบาอาจารย์ จนได้รับการยอมรับจากบรรดานักนิยมสะสมพระเครื่องวัตถุมงคลว่ามีคุณเด่นด้าน เมตตามหานิยมและค้าขายเจริญรุ่งเรือง

    หลวงพ่อล้าน กล่าวว่า "ตะกรุดผานไถพลิกแผ่นดิน ที่ช่วยให้สามารถพลิกชะตาจากร้ายให้กลายเป็นดี ดุจเดียวกับผานไถนาที่ช่วยพลิกแผ่นดินที่เสียให้กลับกลายเป็นดินดี สามารถปลูกข้าวให้งอกงามได้ เป็นที่เชื่อถือกันมาแต่โบราณ แต่กระนั้น จะอาศัยเพียงวัตถุมงคลอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องใช้ความพยายามลงมือทำ สร้างเนื้อสร้างตัว อย่าไปเบียดเบียนผู้อื่น และที่สำคัญ ต้องมีศรัทธาประกอบด้วย จะทำให้เราประสบผลสำเร็จได้"

    แต่ถึงแม้วัตถุ มงคลของหลวงพ่อล้าน จะได้รับความนิยมจากบรรดาสานุศิษย์ แต่ท่านไม่เคยอวดโอ่

    มี แต่พร่ำสอนให้ญาติโยม อย่าดำรงชีวิตด้วยความประมาท อย่ายึดมั่นถือมั่นเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครหนีพ้น ขณะยังมีชีวิตขอให้ทุกคนหมั่นประกอบแต่กรรมดี ละเว้นทำชั่ว เพราะอายุคนนั้นสั้นนัก ถึงไม่แก่ไม่เฒ่าก็ตายได้เช่นกัน จงอย่าประมาท

    หลวงพ่อล้าน มักนำปัจจัยที่สานุศิษย์นำมาถวายหรือได้รับกิจนิมนต์เข้าร่วมพิธีพุทธา ภิเษกสำคัญทุกครั้ง เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้รับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธา จะนำไปพัฒนาวัดและส่งเสริมด้านการศึกษาทั้งสิ้น ทำให้วัดขนายแห่งนี้เจริญรุ่งเรืองอย่างรวดเร็ว รวมทั้งพัฒนาบรรยากาศภายในบริเวณวัดมีแต่ความสงบวิเวกเหมาะสมสำหรับการ ปฏิบัติธรรม

    ด้วยล่วงเข้าสู่วัยชราอายุกว่า 77 ปีแล้ว ทำให้สุขภาพร่างกายย่อมเสื่อมถอยไปตามวัย

    แต่ถึงกระนั้น ท่านก็คงยังเมตตาให้คณะศิษย์ได้เข้าพบเพื่อกราบนมัสการสนทนาธรรมจากท่านอยู่ มิได้ขาด

    สมกับที่ได้รับการยกย่องให้ท่านเป็นพระเกจิดังแห่งลุ่ม น้ำตาปี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1181.JPG
      IMG_1181.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1,002.3 KB
      เปิดดู:
      78
    • IMG_1182.JPG
      IMG_1182.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.5 MB
      เปิดดู:
      90
    • IMG_1184.JPG
      IMG_1184.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.5 MB
      เปิดดู:
      62
  6. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ไปกราบตาหลวงล้านที่วัดสองครั้งไม่เจอท่านไม่อยู่
    ก็เลยกลับมากราบท่านอีกทีเป็นองค์สุดท้าย

    เห็นท่านกำลังใช้สมุนไพรประคบขาอยู่ ท่านว่าไม่มีแรง
    ผมสวมวิญญาณ differential diagnosis ในใจคือ
    - hypokalemia
    - Gallian Barre syndrome
    - ALS
    - spinal cord stenosis
    เลยบอกท่านว่า ไปตรวจหมอบอกว่า โปแตสเซียมต่ำใช่หรือไม่
    อุปฐากท่านบอกว่าใช่ แล้วเอายาทั้งหมดมาให้ดู ผมบอกว่า ถ้าอยากหายเร็วๆคงต้องกินยา แต่ถ้ากินแล้วมีแรงอย่ากินต่อ เพราะทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะแล้วตายได้(torsade de pointes) ตาหลวงเลยบอกว่างั้นไม่เอาแล้ว

    ได้โอกาสเลยบอกท่านว่า มาครั้งนี้ขอท่านจัดเต็ม เอาทุกสรรพวิชาที่ร่ำเรียนมา

    ปรากฏว่าท่านให้ไปจุดธูปเทียน แล้วจัดเต็มจริงๆ จนผมเกือบไม่ทันขึ้นเครื่อง

    ท่านคงจะเชิญพระพุทธเจ้ามาเสก เพราะหลังจากเสกท่านกราบสามครั้ง แล้วให้เอาวัตถุมงคลทั้งหมดมาเจิม รวมทั้งวัตถุมงคลทั้งหลายของท่านเองด้วย ก็ถือโอกาสเอามาเสกอีกรอบพร้อมกัน

    ขากลับพี่ทหารคนเดิม ถามผมอีกว่า เมื่อกี้หลวงพ่อล้านเสกพระ มีเสียงออกจากกล่อง ได้ยินมั๊ย ?

    คำตอบของผม เดาได้ง่ายๆว่า

    "ไม่ได้ยิน"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2011
  7. waritj

    waritj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,098
    ค่าพลัง:
    +3,454
    สุดยอดมากครับ แต่อีกนานไหมครับเนี่ยกว่าผมจะได้พระ 555
     
  8. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ไปปรึกษาหลวงพอ่เรื่องเลื่อนงานพุทธาภิเษก เลยใฃ้โอกาสนี้ขอท่านเชิญบารมีคุณพระมาช่วยปลุกเสกให้

    หลวงพ่อวีระอธิษฐานเสร็จ ท่านว่าเต็มแล้ว

    ผมถามว่า เต็มแล้วคืออะไร
    ท่านว่าใช้ได้แล้ว
    แล้วเสกอีกมันเข้ามั๊ย
    ถ้าอธิษฐานอีก อณูพลังก็จะละเอียดขึ้น รัศมีกว้างขึ้น
    แล้วพระพุทธเจ้ามามั๊ยหลวงพ่อ

    ท่านว่ามา เหมือนสมเด็จพระสังฆราชสุกก็มา
    แล้วใครๆก็เชิญพระพุทธเจ้ามา ท่านไม่เบื่อเหรอ ?
    หลวงพ่อวีระตอบว่า พระพุทธเจ้าไม่เบื่อหรอก ท่านแผ่รัศมีพุทธคุณมา แค่นี้ก็เหลือเฟือแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1186.JPG
      IMG_1186.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.2 MB
      เปิดดู:
      63
    • IMG_1188.JPG
      IMG_1188.JPG
      ขนาดไฟล์:
      922.5 KB
      เปิดดู:
      61
  9. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948

    นานครับ และหนังสือที่ท่านแสดงความคิดเห็นผมเห็นด้วย แต่คงไม่แจกนะครับ คงต้องช่วยกันจ่าย อาจจะเล่มละ 2-300 บาทสำหรับสี่สี เป็นอนุสรณ์แต่ใครมีประกอบเอาว้อ่านก็จะรู้ว่าสุดยอดมาก......
     
  10. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ตอนนี้ผมหนีน้ำมาอยู่นครทางเหนือ ก่อนมาได้แวะไปขอผงจินดามณี หลวงปู่ทิมมา

    แม้จะเป็นรอบที่สี่ แต่คุณเพียรวิทย์ก็ให้ และให้ลูกอมเทียนมัทรี ให้ผมอีกลูก โดยไม่ได้ร้องขอ เป็นเรื่องบังเอิญอีกอย่างที่ผมตั้งใจจะมอบลูกอมเทียนลูกแรก ให้คุณธนรัตน์ ลูกที่สองก็มาหาพอดี

    "ครั้งหน้าหมอมาจะหาหนุมานหลวงปู่ทิมให้นะ"
     
  11. krit_eng99

    krit_eng99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    791
    ค่าพลัง:
    +2,228
    แค่เอาที่น้องตี๋พิมพ์รายละเอียดของพระที่อธิฐานจิตในเวปไปทำหนังสือก็สุดยอดแล้ว
    ไม่ได้ยอนะ ผมว่าเนื้อหาระดับวิทยานิพนธิ์เลยนะ อิอิ:cool:
     
  12. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    มีคนที่ผมรู้จักคนหนึ่งได้โทรศัพท์ไปหาคุณเพียรวิทย์ ท่านพยายามตัดบทไม่คุยด้วย แต่พออ้างชื่อผมเท่านั้น ว่ารู้จักกับหมอ ต่อมายังไปขออัญเชิญ อัฐิและเกศาหลวงปู่ทิมมาบูชาได้

    ใครๆก็ถามว่า ทำไมถึงเป็นแบบนี้ พลิกหน้ามือเป็นหลังมือเลย ?

    ผมบอกว่า "ก็กูมันน่ารักไง"
    แต่ปรัชญาจริงๆก็คือ มีน้ำใจ ใจกว้าง ไม่หวังสิ่งตอบแทน สิ่งดีๆก็จะหลั่งใหลมาหาคุณเอง

    บางคนไปไหน เอาทำอะไรโกยผลประโยชน์จากความสัมพันธ์ แต่สุดท้ายเบื้องหลังก็โดนก่นด่าตามมามากมาย ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นกับผมเลย

    รูปที่โชว์เป็นฤาษีหลวงปู่ทิม ที่มีพระธาตุหลากสีผุดขึ้นจากองค์ฤษีครับ
    ฤษีองค์นี้มักถูกสวดด้วยคาถามงกุฎพระพุทธเจ้าเสมอๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1189.JPG
      IMG_1189.JPG
      ขนาดไฟล์:
      630.8 KB
      เปิดดู:
      66
    • IMG_1191.JPG
      IMG_1191.JPG
      ขนาดไฟล์:
      325 KB
      เปิดดู:
      58
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2011
  13. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    คุณเพียรวิทย์ถามผมว่า รู้จักครูบาอินสมที่เชียงใหม่มั๊ย ผมบอกว่าท่านละขันธ์ไปหมดแล้วนี่ ครูบาอินสม พร้าวน่ะ หรือว่าเป็นครูบาอินสม วัดพระธาตุจอมทอง ที่แม่ฮ่องสอน

    คุณเพียรวิทย์ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

    แล้วก็โชว์พระที่ห้อยคอ พระที่ห้อยนั้น ราคาให้บูชานับว่าถูกกว่ากระดาษยันต์หลวงปู่ทิมเสียอีก

    นั่นคือ ล็อกเกตพระแก้วมรกตภูริทัตตเถรานุสรณ์ (ฉากขาวได้ไปตอนเสก 230 กว่ารูป)

    ผมยอมให้ก่อนครอยู่คนเดียว เล่าให้ฟังว่า ห้อยไปวัดละหารไร่ มีคนถามใหญ่เลยว่า ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม ห้อยพระอะไร ไม่เคยเห็น ????

    คุณเพียรวิทย์ได้มอบเกศาหลวงปู่ทิม มาให้อีก
    ผมจะนำมาบรรจุสมเด็จองค์ปฐมให้เห็นๆ ทุกองค์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_1194.JPG
      IMG_1194.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1,003.9 KB
      เปิดดู:
      83
    • IMG_1192.JPG
      IMG_1192.JPG
      ขนาดไฟล์:
      662.1 KB
      เปิดดู:
      99
    • IMG_1193.JPG
      IMG_1193.JPG
      ขนาดไฟล์:
      869.9 KB
      เปิดดู:
      74
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2011
  14. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    พระที่ผมสร้าง รับรองว่ายิงออกแน่นอน สาเหตุคือ ไม่ได้ขอให้ลงวิชาทางนั้นเป็นการเฉพาะ แต่บางองค์ท่านก็ลงมหาอุดให้ อีกอย่างบางวิชาลงมหาอุดมากๆจะค้าขายไม่ขึ้น

    แต่ถ้าอยากได้มหาอุดผมจะขอองค์หลังๆ เช่น หลวงปู่แขก วัดสุนทรประดิษฐ์
    หลวงพ่อแถม ยางตัน
    หลวงพ่อสุพจน์ วัดห้วงพัฒนา
    หลวงพ่อเกิด วัดเขาดิน
    หลวงพ่อเกิด วัดโพธิ์แทน
    หลวงพ่อมาลัย วัดบางหญ้าแพรก

    จะบอกท่านว่า ขออธิษฐานให้ปืนแตกเลย
    แล้วใครได้ไปลองเอาไปยิงดู แล้วนำมาแจ้งด้วยนะคร้าบ
     
  15. dekdelta2

    dekdelta2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    5,702
    ค่าพลัง:
    +6,948
    ช่วงนี้ไม่ได้ไปเสกพระนะครับ ไปวัด 1 วัดเสียตังค์มากกว่าไปผับเสียอีก
     
  16. สายครูบา

    สายครูบา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    4,224
    ค่าพลัง:
    +22,130
    พี่ตี๋มาเชียงใหม่อีกป่ะ วัดปางกึ๊ดขึ้นไปยัง
     
  17. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    55 ถ้าล็อกเก็ตพระแก้วยิงออก วัตถุมงคลในประเทศไทย ณ ปัจจุบัน ก็คงยิงออกหมดครับ เพราะเราเสกมาหมดทั่วประเทศแล้ว
     
  18. TSKing

    TSKing Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2010
    โพสต์:
    146
    ค่าพลัง:
    +39
    Update เบี้ยแก้

    หลวงปู่โชติ อาภัคโค วัดภูเขาแก้ว เมตตาอธิษฐานจิตให้ครับ

    ขอเขียนประวัติท่านเท่าที่ทราบนะครับ

    หลวงปู่โชติ อาภัคโค วัดภูเขาแก้ว อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี ท่านมีฝาแฝด แฝดของท่านเป็นฆราวาสครับ

    ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ดี ฉันโน พระป่ากรรมฐานสายหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น เป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น หลวงตาสรวง วัดป่าศรีฐานใน จ.ยโสธร ฯลฯ

    สมัยท่านเป็นสามเณร ท่านธุดงค์อยู่ในป่าได้พบกับหลวงปู่เทพโลกอุดรด้วยครับ ท่านได้ศึกษาวิชชากับหลวงปู่เทพโลกอุดร หลวงปู่เทพโลกอุดรได้มอบคาถาให้ท่านมาด้วยครับ ใครอยากทราบคาถาให้ไปถามหลวงปู่โชติครับ ท่านเมตตาบอกกับลูกศิษย์อยู่นะครับ

    ท่านดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดภูเขาแก้ว เป็นพระครูพิบูลธรรมภาณ แต่เดิมวัดภูเขาแก้วเป็นวัดที่หลวงปู่เสาร์ได้มาพำนักและสร้างเป็นวัดโดย หลวงปู่ดี ฉันโน วัดภูเขาแก้ว สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2480 ได้ พระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อปี 2492 ซึ่งขณะนั้นหลวงปู่โชติได้มาอุปัฏฐากหลวงปู่ดีอยู่ในช่วงนั้น ปี พ.ศ. 2502-2505 วัดภูเขาแก้ว ได้เกิดพิพาทโต้แย้งกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ตั้งวัดขึ้น โดนเอกชนใจบาปจะผนวกเอาที่ดินวัดบางส่วนนั้นไปขาย เพราะถือว่าวัดไม่ได้แจ้งกรรมสิทธิ์ ครอบครอง คือไม่มีใบ สค.1 และ นส.3 ปี พ.ศ.2506 พระเพชร์ สุภโร เจ้าอาวาสได้ถึงมรณภาพ พระครูพิบูลสมณกิจ เจ้าคณะอำเภอธรรมยุตได้รักษาการแทน และได้ดำเนินการขอโฉนดที่ดินวัด ปี พ.ศ.2508 นี้เอง พระครูพิบูลธรรมกาณ (โชติ อาภคฺโต) ได้รับบัญชาจากสมเด็จพระมหาวีวงศ์ (ธมฺมธโร พิมพ์) เจ้าอาวาสวัดพระ-ศรีมหาธาตุ บางเขน กทม.เจ้าคณะภาค ได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดภูเขาแก้ว

    นอกจากหลวงปู่โชติจะเป็นเจ้าอาวาสวัดภูเขาแก้วแล้ว ในปี พ.ศ.2509 วัดดอนธาตุไม่มีพระภิกษุอยู่จำพรรษา วัดดอนธาตุจึงอยู่ในความดูแลเอาใจใส่ดูแลรักษาแบบตระเวนเช้ามา-เย็นกลับของ ท่านพระครูพิบูลธรรมภาณ (หลวงพ่อโชติ อาภคฺโค) เจ้าอาวาสวัดภูเขาแก้ว และเจ้าคณะอำเภอพิบูลมังสาหาร ฝ่ายธรรมยุต ตลอดช่วงปี พ.ศ. 2509-2518 แม้จะขาดพระภิกษุอยู่จำพรรษาแต่ก็มีแม่ชี ๒ ท่าน คือ แม่ชีพัน และ แม่ชีปลา อยู่ดูแลรักษาวัดดอนธาตุ ในปี พ.ศ. 2518 พระนวกะ วัดภูเขาแก้ว ที่อุปสมบทจำพรรษาในปีนั้น ได้ทำการปฏิสังขรณ์วัดในสายวิปัสสนากรรมฐาน ฝ่ายธรรมยุต โดยการบัญชาการของพระครูพิบูลธรรมภาณ(หลวงปู่โชติ) เจ้าคณะอำเภอพิบูลมังสาหาร ฝ่ายธรรมยุตและโดยการนำของ พระบุญเย็น โรจโน ได้นำคณะสงฆ์เข้าปฏิสังขรณ์วัดดอนธาตุ และเข้าจำพรรษาที่วัดแห่งนี้

    วัดภูเขาแก้วในปีพ.ศ.2514 สำนักงานที่ดินจังหวัดได้ออกโฉนดให้เป็นที่เรียบร้อย วัน ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ.2516 เวลา 22.15 น. ศาลาการเปรียญที่พระอาจารย์ดี ฉันโน ได้ก่อสร้างด้วยไม้ตะเคียน 2 ชั้น "ได้ถูกวางเพลิงมอดไหม้" เป็นเหตุให้มีการสร้างอุโบสถศาลาการเปรียญหลังใหม่ขึ้นแทน สำหรับให้พระสงฆ์ปฏิบัติกัมมัฏฐาน อุโบสถหลังนี้พระครูพิบูลธรรมภาณ (โชติ อาภคโค) ได้ออกแบบให้เป็นอุโบสถ 2 ชั้น ชั้นล่างเป็นศาลาการเปรียญใช้ในการนั่งกัมมัฏฐานชั้นบนเป็นอุโบสถ ตั้งอยู่ในเรือท้ายกริ่งเรียกว่า " พุทธนาวา " ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบลวดลายดินเผาทั้งหลัง หลังจากการสร้างศาลาการเปรียญหลังนี้แล้วเสร็จตามธรรมเนียมอีสาน จะสร้างให้แล้วเสร็จทั้งหมดเลยทันทีไม่ได้(ส่วนใหญ่ให้คงเหลือประตูไว้) เพราะจะทำให้เจ้าอาวาสผู้สร้างเสียชีวิต ประจวบกับทางลูกศิษย์ของหลวงปู่โชติได้เชิญหลวงปู่ไปช่วยสร้างวัดที่ภาค ใต้(สงขลา)ท่านจึงได้ย้ายไปจำพรรษาที่ภาคใต้เป็นเวลา 4 ปี (ไม่แน่ใจเรื่องเวลาที่แน่ชัดนะครับ) หลังจากนั้นท่านได้ธุดงค์ต่อไปจำพรรษาที่จ.เพชรบูรณ์ แล้วสหธรรมิกของท่านที่อ.กันทราลักษณ์ จ.ศรีสะเกษได้ชวนท่านมาจำพรรษาถือธุดงควัตรบนป่าเขาที่อ.กันทราลักษณ์ดัง กล่าวเป็นเวลา 2 ปี หลังจากนั้นจึงได้กลับมายังวัดภูเขาแก้วอีกครั้งและได้ดำริสร้างพระบรม มหาธาตุเจดีย์ ประจวบกับท่านอาพาธด้วยอาการหลอดเลือดในสมองตีบทำให้ท่านเป็นอัมพาตครึ่งซีก ขวา ทำให้การสร้างเจดีย์ต้องล่าช้าไป หลังจากที่ท่านป่วยเป็นอัมพาตท่านก็ไม่ได้รับกิจนิมนต์ใดๆอีก เป็นผลทำให้ประชาชนเข้าใจผิดคิดว่าท่านมรณภาพแล้ว หลังจากเป็นอัมพาตได้ประมาณ 4-5 ปี อาการก็ดีขึ้นแต่ด้วยเหตุการณ์โดนรถชนซ้ำทำให้ท่านทรุดหนักลงอีกครั้ง และอาการอัมพฤกษ์ขอท่านก็ยังเป็นอยู่จนถึงปัจจุบัน ซึ่งขณะนี้ก็อาการดีขึ้นอย่างมากแล้ว ท่านสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ พูดคุยได้ได้แต่ไม่ค่อยชัดครับ โดยการดูแลอย่างใกล้ชิดของครอบครัวของป้าจ่อย หลานของท่านที่เป็นผู้ช่วยพยาบาลที่ลาออกจากงานมาดูแลหลวงปู่คอยแทงสายน้ำ เกลือ หุงหาอาหาร และอุปัฏฐากหลวงปู่เท่าที่ทำได้ครับ

    ปาฎิหาริย์หลวงปู่โชติ มีมากมายครับทำใหท่านดังตั้งแต่ยังอายุน้อย สังเกตว่าในพิธีพุทธาภิเษกต่างๆในสมัยก่อนของจ.อุบลจะมีท่านร่วมด้วยเสมอ ครับ แต่ที่ลูกศิษย์ลูกหาประสบกันก็คือ ท่านรู้วาระจิต อ่านใจได้ หายตัวได้ และเคยมีฆราวาสนั่งเครื่องบินแล้วเห็นท่านลอยอยู่บนฟ้าด้วยครับ(สมัยที่ท่าน ยังสุขภาพแข็งแรง) สมัยท่านธุดงค์เคยเจอโจรยิงปืนใส่ท่านปรากฏว่าปืนไม่ออกครับ และมีพระธาตุเสด็จมาหาท่านจำนวนมาก ท่านเคยเล่าว่าถามเทพที่รักษาพระธาตุว่าเสด็จมาจากไหน เทพบอกว่ามาจากพระธาตุพนมครับ และปาฎิหาริย์อีกเรื่องคือ มีโจรเข้ามาขโมยพระพุทธรูปโบราณที่วัดท่านในขณะที่ท่านอยู่วัดแล้วรถของโจร ก็เกิดยางแตกด้านหน้าของวัดถึง 2 ครั้ง จึงนำพระไปไม่ได้ แต่โจรก็ใจบาปอย่างมาก รอวันที่หลวงปู่มีกิจนิมนต์ที่เชียงใหม่แล้วค่อยมาขโมยพระจึงเอาไปได้ครับ

    นอกจากนี้ปาฏิหาริย์วัตถุมงคลของท่านมีมากมายครับ ไม่ว่าจะเป็นคงกระพันยิงไม่เข้า(พระสมเด็จอาภัคโค ทหารมาเอาไปเยอะมากเพราะมีประสบการณ์ที่ทหารตชด.ศรีสะเกษโดนยิงหลายนัดแต่ ไม่เ้ข้าครับ) มีพระผงรุ่นหนึ่งที่หลวงปู่โชติเสกก่อนนำไปอบในเตาอบแล้วผลที่ได้คือเตาอบ ระเบิดครับโดยพระผงไม่เป็นอะไรเลยด้วย ด้านเมตตามหานิยม สีผึ้งท่านเด่นมากครับปัจจุบันหมดแล้วเนื่องจากท่านทำตั้งแต่ 30 ปีก่อน แต่ที่โด่งดังที่สุดก็คือ กุมารทองเกล้านางนีเมาลีพระโพธิสัตว์ของท่าน เมตตาดีมากๆและประสบการณ์สูงอีกทั้งยังเป็นสายเทพครับ เหตุการณ์ที่ประสบด้วยตัวเองหลายครั้งก็มีครับ แต่ที่พอจะเล่าได้คือตอนทหารมากราบขอบคุณหลวงปู่ที่พระหลวงปู่ช่วยให้รอดตาบ เห็นรอยจุดแดงๆของกระสุนปืนด้วย เคยเอาวัตถุมงคลของหลวงปู่โชติไปให้หลวงปู่คำบุพิจารณา หลวงปู่คำบุบอกว่า "ดีมากๆ เมตตาดีมากๆ" อีกทั้งตอนสนทนาธรรมกับหลวงปู่โชติแล้วพระธาตุเสด็จตกมาที่มือของผมพร้อม เสียงดัง ปัง วันนั้นมีผู้อยู่ในเหตุการณ์หลายคนครับ

    เกสา หนวดเครา และโลหิตของท่าน บางท่านนำไปบูชาแล้วปรากฏว่าพระธาตุขึ้น เกสา หนวดเคราก็รวมจับกันเป็นก้อนกลมครับ ท่านเป็นพระที่มีเมตตาสูงครับหากใครแวะผ่านไปทางพิบูลมังสาหารก็แวะเข้าไป กราบท่านนะครับ

    ps. ประวัตินี้เนื่องจากไม่เคยมีการจัดทำมาก่อน ผมรวบรวมมาจากการบอกเล่าของหลวงปู่โชติ ป้าจ่อยหลานหลวงปู่ และญาติธรรมหลายๆคน จำได้บางจำไม่ได้บ้าง ตกหล่นหรือผิดพลาดอย่างไรก็ขออภัย และกราบขออโหสิกรรมกับหลวงปู่ด้วยนะครับหากข้าพเจ้าพิมพ์ประวัติท่านผิดครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0792.jpg
      IMG_0792.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2 MB
      เปิดดู:
      86
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 26 ตุลาคม 2011
  19. vorakrit

    vorakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    37
    ค่าพลัง:
    +165
    ถ้าไปทางนครสวรรค์
    ผมขอแนะนำ หลวงพ่อสมบูรณ์ วัดโคกสลุด ตาคลี 056-303143 ครับ

    คุณน้าผมพาไปกราบ ผมคุณแม่ผมกราบหลวงพ่อเท่านั้น แม่ผมของขึ้น รำ+พูดภาษากูโบ๊ทเลย
     
  20. waritj

    waritj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,098
    ค่าพลัง:
    +3,454
    ผมยินดีช่วยจ่ายครับ ทำเสร็จแล้วบอกด้วยนะครับ
    สมาชิกท่านอื่นถ้าสนใจ ก็เข้ามาโพสต์กันไว้นะครับ จะได้รู้ว่า มีใครสนใจกันมากเพียงใดครับ

    อ้างอิง:
    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-RIGHT: 1px inset" class=alt2>ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ waritj [​IMG]
    สุดยอดมากครับ แต่อีกนานไหมครับเนี่ยกว่าผมจะได้พระ 555
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    นานครับ และหนังสือที่ท่านแสดงความคิดเห็นผมเห็นด้วย แต่คงไม่แจกนะครับ คงต้องช่วยกันจ่าย อาจจะเล่มละ 2-300 บาทสำหรับสี่สี เป็นอนุสรณ์แต่ใครมีประกอบเอาว้อ่านก็จะรู้ว่าสุดยอดมาก......<!-- google_ad_section_end -->
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...