คือผม ก่อนนอนจะทำสมาธิ ท่านอนนะครับ เกิดอาการนิดหน่อย

คือว่า ตอน กำหนดลมหายใจเข้าออก
วันนึง ขณะกำหนดลมหายใจ ขาชาไม่รุ้สึกแต่ไม่หลับ แสงผ่านหน้ามาวูปนึง
อีกวันหนึ่ง ขณะกำหนดลมหายใจ ขาเย็นเหมือนเปิดพดลมเป่าขา
คือผมไม่ชอบเปิดพัดลมเวลานอน แต่มันเย็นนะ แสงผ่านเข้าเหมือนใครเอาเลเซอร์ส่องทางซ้าย บ้าง ทางขวาบ้าง
คือเอามาเปรียบเทียบกับ นังสมาธิแล้วผงง ครับ
ผู้รู้ช่วยตอบที
ขอบคุณครับ

 

ผมไม่เคยมีอาการแบบนี้นะ เลยไม่รู้ รอคนอื่นมาตอบนะ

 

ปกติครับแสงแวบไปแวบมาบางทีเป็นดวงแก้วของเก่า

 

จากการอ่าที่คุณกล่าวมาบอกได้ว่าคุณสนใจกับอาการภายนอกมากเกินไปนะครับ....

กล่าวคือสนใจอาการอื่นนอกจากกรรมฐานที่ทรงอยู่....เรียกง่ายๆ ว่าหลุดครับ....

เมื่อคุณเจออาการเหล่านี้....ไม่ต้องไปสนใจครับ....นิมิตแสงสีที่ผ่านเข้ามาเป็นเรื่องปกติเมื่อจิตเข้าสู่อุปจารสมาธิ....เมื่อคุณไปสนใจมันมาก สมาธิก็จะไม่ก้าวหน้าครับ....

เอาสติกลับมาอยู่ที่ลมหายใจอย่างเดิมครับ...

 

ภาวนาพุทโธ ตอนนอน แล้วหลับไปเมื่อไหร่ไม่รู้ สะดุ้งตื่นขึ้นมาร่างกายสั่นสะเทือนเหมือนแผ่นดินไหว อันนี้ ดี มั้ยครับ

 

ร่างกายกระตุกตอนก่อนนอนหรือเปล่าครับ....พวกเอ็นกระตุก....เรื่องธรรมดาเมื่อจิตจะเข้าสู่ภวังค์...ร่างกายผ่อนคลาย....เรื่องธรรมดาครับ...

 

ร่างกายกระตุกตอนก่อนนอนอันนี้ไม่ใช่แน่นอนครับ ผมสวดมนต์ไหว้พระตามปกติ แล้วก็ภาวนาก่อนนอน เป็นมา 2 ครั้งแล้วครับ สะดุ้งตื่นขึ้นมาแล้วก็สั่นแบบหวิวๆ ทั้งตัว ก็เลยสงสัยว่ามัน ดี หรือ ไม่ดี โดยส่วนตัวแล้วไม่มีโรคประจำตัวใดๆ ช่วยชี้แนะด้วยครับ

 

ขอบคุณครับ ขอบอกว่ามือใหม่จริงๆครับ
จะนำคำชี้แนะไปปฎิบัติครับ ขอบคุณทุกๆท่านครับ

 

เมื่อเกิดอาการดั่งที่กล่าวมา ให้กำหนดลงไปในคำภาวนาทันที

อย่าให้ตกหล่นแม้แต่เล็กน้อย อาการดั่งกล่าวจะน้อยลงเอง หรือ หายไปเองครับ

 

แสงวูบวาบ เป็นอุปจารสมาธิ สมาธิยังไม่ทรงถึงขั้นฌาน
รวมได้เล็กๆ วูบๆ

การเจริญสติจนมีกำลังสมาธิระดับนึง
จะเห็นรูปตัวเองได้ชัด คือมีสตินำสมาธิตาม เช่น รู้สึกถึงน้ำเลือดในตัวที่เคลื่อนไหว กระดูกที่มีการลั่นตลอดเวลา(อาจเห็นเล็กน้อยนอกจากสติสมาธิจะดีมากจนรู้สึกถึงกระดูกที่ลั่นอย่างรวดเร็วตลอดเวลา รูปดับเร็วมากๆ) หรือเห็นร่างกายสะเทือนตามลมอย่างชัดเจน(เป็นลมหายใจและธาตุลมในร่างกาย)
หรือหากมีสมาธินำแต่สติตามคืออ่อนกว่า อาจรู้สึกตัวเองสะเทือนรุนแรง คือสติอ่อนกว่า อาจรู้สึกตกใจ บางทีอาจได้ยินเสียงจิ้งจกราวฟ้าผ่า .. (สมาธิมันนำสติต้องตามให้ทันค่ะ)

สมาธิยิ่งสูงยิ่งเห็นรูปนามตามจริงได้มาก อาจเห็นกายทิพย์ของตนของคนอื่น หรือแสงออร่าที่เป็นไปตามจิตที่เปลี่ยนแปลงไปตามอารมณ์ตลอดเวลา หรือเข้าไปเห็นตับไตไส้พุงตนเอง สติต้องตามให้ทัน

 

ประสบการณ์สมาธิในท่านอน

ใช้ท่านี้ทำสมาธิเช่นกันนะ...
ไม่ได้ตั้งใจให้ถึง....อะไรที่เข้าอยากมีกันนะ....
เพียงแต่เป็นช่วงที่เหนื่อยกับงานมาก..ๆ ปวดหัวก็บ่อย กินอะไรไม่ได้เป็นวันๆ ก็เคย ชนิดที่ลืมตาตื่นก็อาเจียนเลยละ โนนกินได้อีที่สีโมงเย็น(แต่ไม่เพลีย) -ตอนนั้นนั่งไม่ได้ปวดหลัง กลับจากทำงาน ก็จะเอนหลังและให้คนในบ้านช่วยนวดเท้าให้ตลอด
ที่นอนจึงเป็นสวรรค์สำหรับวัน แต่ก่อนหลับจะรวมแสง(เวลาหลับตาจะเห็น)และเล่นจนหลับ(เป็นความสุขชั่วครู่) จนครั้งสุดท้ายมาเป็นลูกบอลสีทองพุ่งชนหน้า .....จากนั้ก็นทำแบบเดิมไม่ได้อีกเลย ....(นึกอยากทำเมื่อไหร่ )แค่หลับตาเป็นสั่นทุกที่ไป...... oK ใจตอนนั้นนึกแล้ว ว่าต้องมีอะไรสักอย่าง.....แต่คิดว่าเมื่อทำไม่ได้(ไม่ให้ทำ)ก็ไม่ทำ.....
ก่อนนอนกราบพระนอนเลย หรือนอนเลย ไม่สนใจทำเป็นปีสองปี(จำไม่ได้)....ไม่กล้าถามใครด้วย (เป็นนิสัย)
....เหตุเกิดตอนดู TV (ไม่มีที่นั่งดู มีแต่ที่นอนดู 555) ดูจนละครจบตอน สะดุ้งว่าตัวเองลืมหายใจเข้า-ออกแบบปกติ (รู้สึกว่าละคร1 ตอนหายใจเข้า-ออกสักครั้ง)....ไม่ได้ตื่นเต้นไปกับละครหลอกนะ
....ครั้งล้าสุด นั่งสมาธิ (หายปวดหลังแล้ว...จากการทำสมาธิ) สวดมนต์เสร็จ หลับตาลง(แค่หลับตาลงนะ)ยังไม่ทันจับอะไรเลย.....แสงสีขาวจ้า ลักษณะเหมือนพลุแตก สว่างจ้าที่หางตา ......
ใช้..ก็ลืมตาดูทันที่ว่ามีการจุดพลุที่ไหน (ห้องนอนมีหน้าต่าง) ปรากฏว่า ไม่มี รุ่งขึ้นก็หาถามคนว่ามรการจุดพลุที่ใด มีบ้านไหนจัดงาน หรือเปล่า..คำตอบ ไม่......ก็ผ่านไป..
....สำหรับเรา...แสงที่ขาว สีทอง พระ ดอกบัว คืนความดี สิ่งดีๆ ที่ควรระลึก แต่ไม่ยึดติด
....บทสวดมนต์ เป็นของดี (รู้ความหมาย/คำแปล) ต้องเชื่อในพุทธคุณของบทสวดว่าดีจึง ..มีองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าเป็นองค์บรมครูสูงสุด เป็นที่ระลึกได้เสมอ ก็ไม่จำเป็นต้องกลัว ....
กายกัมมัง วาจากัมมัง มโนกัมมัง

 

สมาธิ

สมาธิยิ่งสูง เราว่ายิ่งไม่เห็นอะไรนะ....555 อรูปภูมิ อยู่เหนือรูปภูมิ มีใช่หรือ แต่สัมผัสได้.....
สิ่งที่มี.....คืนสิ่งที่ไม่มี(ไม่ยึดติด)
หลายคนมุงหวังว่าทำสมาธิเพื่อถอดกายทิพย์เป็นสุดยอด....555
...5555

 

อย่าทิ้งสติ (ลักขิณูปณิชฌาน) รูปนามจะปรากฏตามจริง
เช่นธาตุสี่ ตามสภาวธรรม ฯลฯ
แต่ถ้าออกจากรูปนามไปไหน ..อันนี้ก็ไม่ทราบ แล้วแต่นะ

 

อนุโมทนาครับ ความละเอียดของจิตนี่มันทำได้ทุกอย่างจริงๆ

 

กำหนดเห็นหนอ เห็นหนอ

ไม่ต้องสนใจมัน ถ้ายึดติดจะพัฒนาต่อไม่ได้

(บางครั้งเป็นแสงจากไฟรถสะท้อนเข้ามาในห้องนะ)

เออเราก็นอนสมาธิเหมือนกัน จุดประสงค์ มันหลับง่ายดี กำหนด พอง ยุบ จนผล็อยหลับนั้นแหละ เวลาตื่นมาก็ยังรู้ตัวดีอยู่ไม่ค่อยมึน เว้นบางวันจะฟุ้งคิดนั้นคิดนี้(หนี้ กยศ อะดี อิอิ)