มิติที่ทับซ้อนและผู้ที่คอยช่วยโลกของเราตลอดมา

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย MaDeawKung, 8 สิงหาคม 2011.

  1. MaDeawKung

    MaDeawKung สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +7
    กระทู้ของผมนี้เป็นเป็นข้อมูลและความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ ถ้ามีสิ่งใดที่ไม่ถูกต้อง หรือไม่ชัดเจน บอกผมได้ครับ ผมรับฟังทุกความคิดเห็นครับ.....

    จากที่ผมอ่านมาหลาย ๆ กระทู้ในหมวดของ วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ ผมเกิดความสงสัยในเรื่องของมิติต่าง ๆ ที่มีการระบุว่ามีคนพยายามช่วยเหลือโลกของเราอยู่ซึ่งมาจากมิติอื่น ๆ ซึ่งเจริญกว่าเรามาก ตัวผมเองไม่ได้อ่านจนครบหมดทุกกระทู้เพราะเยอะมากจริง ๆ
    แต่สิ่งที่ผมคิดคือ มิติที่เราพูดถึงกัน จะสามารถรวมถึงสิ่งที่เราเรียกว่า สวรรค์ โลกมนุษย์ และนรกได้มั้ยครับ ประมาณว่าถ้าเปรียบมิติที่เราอยู่ทุกวันนี้ก็คือโลกมนุษย์ .....มิติของผู้ที่เจริญทางความคิด ทางปัญญาและไม่มีความขัดแย้ง ซึ่งก็คือแดนสวรรค์ ที่เค้าพยายามช่วยเหลือมนุษย์จากโลกของเราเพื่อให้ก้าวข้ามไปเป็นแดนสวรรค์แบบพวกเค้าได้ ซึ่งก็อาจจะเป็นเรา ๆ ที่ก้ามข้ามมาจากอนาคตเพื่อมาช่วยหรือมาเตือนในยุคปัจจุบัน
    ....กับมิติที่มีแต่คนที่เต็มไปด้วยความแก่งแย้ง ทุกข์เข็ญ ยากลำบาก ซึ่งก็คือแดนนรก ได้เคยอ่านเกี่ยวกับผู้ที่เดินทางด้วยจิตไปยังสวรรค์ นรก หรือมิติอื่น ๆ แล้่ว ถ้าหลักทางวิทยาศาตร์ ผู้ที่ยกตัวอย่างทฤษฎีเรื่องมิติเช่น หากเราต้องเลิอกระหว่างทางเลือก 2 ทาง ตัวเราจณะนั้นเลือกไปทางนึงและก็ดำเนินมาเป็นเราจนถึงทุกวันนี้ แต่ถ้าเราเลือกไปอีกทางล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น
    ที่ผมจะบอกก็คือ สิ่งที่ผู้ถอดจิตไปพบเห็นอาจจะเป็นอนาคตหรืออดีตของผู้ที่เลือกสิ่งที่ควร กับสิ่งที่ผิดพลาดไปก็ได้ ผู้ที่เลือกสิ่งที่ควรก็อาจได้พบแต่สิ่งที่ดี ชีวิตเปี่ยมไปด้วยความสุข แต่เมื่อผู้นั้นเลือกทางที่พลาด ทางที่ผิด ชีวิตของเค้าก็จะเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาณจนยากจะแก้ไข
    สิ่งที่พวกเค้าพบเห็นอาจไม่ใช่สวรรค์หรือนรกอย่างที่เราเข้าใจ แต่เป็นจิตของเราทุกคนที่เมื่อเลือกทางใดไปแล้วเราจะต้องพบเจอกับสิ่งนั้น นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ผมเข้าใจว่าทำไมเราถึงยังอยู่ในจุด ๆ นี้ได้ทุก ๆ วัน นั่นอาจจะเป็นเพราะเราไม่ได้เลือกเดินทางผิดทุกวัน หรือเลือกทางที่ถูกที่ควรทุกวัน เพราะเราก็ยังเป็นมนุษย์ ต้องมีถูกบ้างผิดบ้างเป็นบทเรียน.......
     
  2. Dont"

    Dont" สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    434
    ค่าพลัง:
    +17
    อารมณ์ประมาณ กับโลกคู่ขนานเลยครับ

    ไม่แน่ เอกภพ ของเราก็อาจมีหลายมิติด้วยก็เป็นได้
     
  3. mew22

    mew22 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +3
    เรื่องมิติที่ทับซ้อนน่ะมีเป็นล้านๆ จริงนะครับ บางทีเตียงนอนที่คุณนอนอยู่ตอนนี้อาจเป็นกลางทะเลของอีกมิติก็ได้ หรือไม่ก็เป็นป่าดงดิบในเมืองลับแล ผู้ที่อยู่ในที่ๆสูงกว่าเขาจะมีอำนาจในการมองเห็นเรา แต่มนุษย์น่ะมองไม่เห็นเขาหรอก ด้วยตาเปล่าอ่ะนะ ถ้าอยากเห็นก็ต้องนั่งสมาธิใช้จิตดูเอา
    โลกเรามันเล็กนัก แม้แต่จักรวาลก็ยังแคบ เทียบกับอะไรอีกหลายล้านอย่างที่ทับซ้อนกันอยู่ไม่มีวันจบสิ้น เราไม่มีทางจะรู้จะเห็นได้ทุกมิติอยู่แล้ว นอกจากรู้ว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ ฤทธิ์น่ะทำได้ทุกอย่าง แม้แต่เอามือเปล่าลูบพระจันทร์ก็ยังเป็นของเด็กเล่น สำหรับคนที่ทำได้น่ะ ผมสนทนากับพระรูปหนึ่งมาท่านเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ๊ฤษีลิงดำ ท่านทำให้เข้าใจทุกอย่างขึ้นเยอะเลย ว่ามันไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้....
    ในโลกสมัยใหม่นี้ผู้คนหันหน้าพึ่งวิทยาศาสตร์ แต่หารู้ไม่ว่าวิทยาศาสตร์น่ะกำลังวิ่งไล่ตามธรรมชาติ..ต้นกำเนิดของวิทยาศาสตร์ก็คือธรรมชาติ โลกนี้มีมนุษย์ อีกโลกนึงอาจมีคนมีปีก มันก็แค่หนึ่งในล้านๆๆสิ่ง โลกก็เป็นแค่หนึ่งในล้านๆๆดาว มิติของมนุษย์ก็แค่หนึ่งในล้านๆๆมิติ ที่มีต่อไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด การสลับมิติเกิดขึ้นได้เวลาคุณตาย วิญญาณคุณจะไปเอง แต่สำหรับผู้ที่มีความสามรถสูงจะสามารถสลับมิติได้ในยามเขามีชีวิต เพราะเขาไม่มีวันตาย เขาไม่มีซั่งสังขาร เป็นเพียงดวงวิญญาณเปล่าๆนั่นแล
     
  4. pee-

    pee- สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +19
    วันที่พระพุทธองค์เสด็จลงจากดาวดึงส์นั้น พระองค์ได้แสดงปาฏิหาริย์อีกครั้งหนึ่ง คือขณะ
    ที่พระองค์ประทับยืนอยู่ที่บันไดแก้ว ทรงทอดพระเนตรไปทางทิศเบื้องบน เทวโลกและพรหมโลกก็เปิด
    มองเห็นโล่ง เมื่อทรงทอดพระเนตรไปในทิศเบื้องต่ำ นิรยโลกทั้งหลายก็เปิดโล่ง ในครั้งนั้น สวรรค์ มนุษย์
    และสัตว์นรก ต่างก็เห็นซึ่งกันและกันทั่วจักรวาล

    ภาพนี้อยู่ในเหตุการณ์ตอนเดียวกับวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เรียกเหตุ
    การณ์ตอนนี้ว่าพระพุทธเจ้าทรงเปิดโลก โลกที่ทรงเปิดในเหตุการณ์คราวนี้มี ๓ โลก คือ เทวโลก มนุษย
    โลก และยมโลก

    เทวโลก หมายถึง ตั้งแต่พรหมโลกลงมาจนถึงสวรรค์ทุกชั้น มนุษย์โลกก็คือโลกมนุษย์ และ
    ยมโลกซึ่งอยู่ทางเบื้องต่ำ คือ นรกทุกขุมจนกระทั่งถึงอเวจีมหานรก

    พระพุทธเจ้าขณะเสด็จลงจากสวรรค์ ทอดพระเนตรดูเบื้องบนโลกทั้งมวลตั้งแต่มนุษย์ก็สว่าง
    โล่งขึ้นไปถึงเทวโลก เมื่อทรงเหลียวไปรอบทิศรอบด้านสากลจักรวาลก็โล่งถึงกันหมด และเมื่อทอดพระเนตร
    ลงเบื้องล่าง ความสว่างก็เปิดโล่งลงไปถึงนรกทุกขุม

    ผู้อาศัยอยู่ในสามโลกต่างมองเห็นกัน มนุษย์เห็นเทวดา เทวดาเห็นมนุษย์ มนุษย์และเทวดา
    เห็นสัตว์นรก สัตว์นรกเห็นเทวดาและมนุษย์ แล้วต่างเหลียวมองดูพระพุทธเจ้าผู้เสด็จลงจากสวรรค์ด้วยพระ
    เกียรติยศอันยิ่งใหญ่

    คัมภีร์ธรรมบทที่พระพุทธโฆษาจารย์เป็นผู้แต่งบอกว่า "วันนี้คนทั้งสามโลกได้เห็นแล้ว ที่ไม่
    อยากเป็นพระพุทธเจ้านั้นไม่มีเลยสักคน" ปฐมสมโพธิพรรณนาไว้ยิ่งกว่านี้เสียอีก คือว่า

    "ครั้งนั้นเทพยดามนุษย์แลสัตว์เดรัจฉาน กำหนดที่สุดมดดำมดแดง ซึ่งได้เห็นองค์พระชินสีห์
    แลสัตว์คนใดคนหนึ่งซึ่งจะมิได้ปรารถนาพุทธภูมินั้นมิได้มีเป็นอันขาด"

    พุทธภูมิ คือ ความเป็นพระพุทธเจ้า
     
  5. MaDeawKung

    MaDeawKung สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2011
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +7
    ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะและความเห็นของทุกท่านครับ
     
  6. yavoiii

    yavoiii Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +65
    ไม่เคยได้ฟังมาก่อนเลย ขอบคุณมากครับ



    :VO
     

แชร์หน้านี้

Loading...