ปัญญาบารมีช่วยให้พ้นจากบ่วงมาร : หลวงปู่หลอด ปโมทิโต

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 11 พฤษภาคม 2011.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    [​IMG]




    หลังจากที่หลวงปู่และคณะได้กลับไปบำเพ็ญสมณะธรรมที่พระบาทบัวบกไม่นาน ท่านก็ได้รับนิมนต์ให้ไปร่วมงานผูกพัทธสีมา ณ วัดป่าบ้านกุดสิม อำเภอโนนสัง อุดรธานี โดยพระอาจารย์ชมเป็นผู้นิมนต์ ครั้นเสร็จงานแล้วหลวงปู่ก็ธุดงค์กลับไปอุดรธานีอีกครั้ง ครั้งนี้ท่านได้แยกธุดงค์กันกับหลวงปู่อ่อนศรีที่นั่น


    หลวงปู่ท่านได้กลับไปพักอยู่ที่วัดโนนนิเวศน์ และได้พบกับพระอาจารย์คำภา จุนฺโท ครั้งนี้หลวงปู่ได้เขียนเล่าไว้ในอัตโนประวัติว่า

    อาตมาก็ได้มีโอกาสรู้จักและคุ้นเคยกับพระอาจารย์คำภา จุนโท เมื่อเราได้รู้จักสนิทสนมกันแล้วและรู้สึกว่าคุยถูกคอ ท่านก็ได้ชวนอาตมาออกวิเวกไปด้วยกัน ซึ่งท่านชวนให้เดินทางไปแถบตำบลหนองหาร ซึ่งเป็นถิ่นกำเนิดของท่าน อาตมาก็รับคำ

    พอได้ฤกษ์งามยามดี คณะของพวกเราก็ออกวิเวก ไปทางหนองหาร ผ่านไปจนถึงบ้านเชียง เห็นว่าจวนเข้าพรรษาแล้วเลยตกลงกันอยู่จำพรรษาที่ป่าช้าบ้านเชียง (พรรษาที่ 7 ) เวลาล่วงเลยไปเกือบพรรษาก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้อาตมาเกือบเสียคน



    คืออาตมาได้เจอมารทางจิตอย่างสาหัส มันโถมเข้าย่ำยีอาตมาจนแทบตั้งตัวไม่ติด มารที่ว่านั้น คือ กามคุณ 5 (รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส)
    ได้เกิดขึ้นก่อกวนอย่างหนัก สาเหตุจากการที่ได้มาอยู่จำพรรษาที่ป่าช้าบ้านเชียงนี่เอง เพราะในท้องถิ่นนี้มีประเพณีอยู่อย่างหนึ่งคือ จะคัดเลือกสาวๆรุ่นๆ เสียงดีมาทำการหัดสวดมนต์สรภัญญะ ซึ่งเป็นการสวดมนต์ที่คล้ายๆกับร้องเพลง มีท่วงทำนองไพเราะเพราะพริ้งมาก มีบทร้องบรรยายเรื่องราวต่างๆ เท่าที่อาตมาทราบดูเหมือนจะแต่งโดย หลวงปู่สิงห์ ขนฺตยาคโม และหลวงปู่มหาปิ่น ปญฺญาพโล เป็นทำนองคลองจ้องกันไป เป็นประเพณีของท้องถิ่นที่สืบกันมานาน ใช้ขับร้องในงานต้อนรับแขกต่างถิ่น หรือพระแปลกหน้า โดยมากขับร้องเฉพาะวันพระ


    อาตมาก็เช่นกัน เมื่อเป็นแขกต่างถิ่นเข้ามาพักอยู่ในถิ่นนั้นพวกชาวบ้านก็จัดการเกณฑ์สาวๆรุ่นๆ มาสวดสรภัญญะแทบทุกคืน น้ำเสียงที่ได้ยินได้ฟังประกอบกับรูปร่างหน้าตาของสาวรุ่นได้ก่อให้เกิดไฟในใจคือกามคุณ 5 ขึ้นมารุมเร้าจนเกือบแก้ไขตนเองไม่ได้ มีทั้งรูป เสียง ปรากฏทางนิมิตเสมอ จิตใจของอาตมาทุรนทุราย ร้อนรุ่ม อึดอัด และหนักอึ้งไปหมด เป็นอาการที่แสนจะทรมาน จนเกือบจะรักษาเพศบรรพชิตไปไม่รอด


    แต่แล้วด้วยสติปัญญา (ปัญญาบารมี) ที่ได้รับการอบรมมาจากครูบาอาจารย์ก็ผุดขึ้นมาช่วยแก้ปัญหา ประมาณเดือนหนึ่งที่อาตมาแสนจะทรมาน แต่แล้วก็ปลุกใจตนเองว่าปัญหาคือสิ่งที่ต้องแก้ อุปสรรคคือสิ่งที่ต้องต่อสู้ เราจะหาวิธีแก้มัน สู้กับมันให้สมกับการเป็นลูกผู้ชายและเป็นลูกของพระตถาคตด้วยแล้ว เป็นไงเป็นกันจะไม่ยอมสยบต่อมาร


    อาตมาได้ใช้ความพยายามอยู่หลายวันกว่าจะหาอุบายธรรมมาแก้ไขจิตให้หายจากความผูกติดกับรูปและเสียงที่เกิดขึ้นอยู่ขณะนั้นตามแต่จะคิดได้ ในใจของอาตมาระลึกอยู่ตลอดว่า เป็นไงเป็นกัน มันจะไม่ยอมสยบต่อมาร ว่าแล้วก็กำหนดหาวิธี หาทางแก้โดยอัตโนมัติ

    ครั้งแรกกำหนดหลักการว่าจะฉันให้น้อยแค่พออยู่ได้ แต่จะเดินจงกรมทั้งวัน เพื่อเป็นการทรมานตนให้เมื่อยเพลีย จิตใจจะได้ไม่มีโอกาสที่จะคิดถึงรูปเสียง ขั้นตอนในการปฏิบัติคือ หลังจากประกอบภัตตกิจเสร็จแล้ว ล้างบาตร เช็ดเก็บเรียบร้อยแล้วก็เข้าห้องไหว้พระให้ใจสบาย พร้อมกับตั้งจิตอธิษบานว่าขอให้บารมีพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณได้ช่วยดลบันดาลให้จิตใจของข้าพเจ้าพบกับความเบา ว่าง กระจ่าง สงบ จนมีกำลังคลายจากกามคุณทั้งหลายด้วยเทอญ


    จากนั้นก็ไปเดินจงกรม ตั้งแต่ 3 โมงเช้า ก็เดินเรื่อยไปเดินไปเดินมาอยู่อย่างนี้จนถึง 5 โมงเย็นจึงหยุด แล้วไปทำกิจวัตรประจำวัน ตั้งใจว่าจะทำอยู่อย่างนี้ ถ้าครบ 15 วันแล้วยังไม่ได้ผลก็จะเปลี่ยนวิธีใหม่ ทำความเพียรเพื่อทรมานตนโดยไม่ยอมสยบ แม้ว่าฝนจะตก แดดจะออก อาตมาก็ได้พยายามทำความเพียรเพื่อทรมานตนด้วยอย่างนั้น โดยไม่ท้อถอยจนกระทั่งครบ 15 วัน แล้วก็ยังไม่ได้ผล กามคุณมิได้ลดน้อยถอยลงเลย แต่มันกลับยิ่งกำเริบมากขึ้นเสียอีก


    หลังจากที่หลวงปู่ท่านทำเพียรทรมานตนจะครบ 15 วัน แต่ก็ไม่ได้ผล ท่านว่า "นั่นเพราะมิใช่หนทางอันประเสริฐ มิใช่หนทางที่จะทำให้พ้นทุกข์ได้เลย ทุกรกิริยานี้มิใช่ทางที่ประเสริฐเลย เมื่อไม่ใช่ทางที่จะพ้นทุกข์แล้ว จะเอาอะไรกับทางนี้ที่จะมาสู้รบกับกิเลสเล่า กิเลสมารจึงไม่ได้ลดละเลย"


    หลวงปู่ท่านเล่าต่อไปอีกว่า


    "จากนี้เราควรจะใช้หลักมหาสติปัฏฐานมาแก้ไขปัญหาดู นั่นคือการพิจารณาดูกาย เวทนา จิต ธรรม แต่ในครั้งนี้เห็นทีจะต้องตามพิจารณาดูจิตทุกขณะ

    จิตจะคิดไปไหนก็จะตามกำหนดรู้ จิตอยู่อย่างไรก็รู้อาการทางจิต มีอารมณ์ใดเกิดขึ้นในจิตก็ตามรู้ ถ้ามันร้อน มันร้อนยังไง เพราะอะไร ถ้าจิตรู้สึกสบาย ก็กำหนดดูว่าสบายอย่างไร


    ทำอย่างไรจึงจะทรงอารมณ์นั้นให้นานๆ จำเป็นต้องให้สติสัมปชัญญะคอยควบคุมอยู่กับจิตตลอดเวลาโดยไม่ลดละ


    พอพยายามตามดูอยู่อย่างนั้นทุกขณะเป็นเวลาประมาณ 30 นาที จิตก็เริ่มเบา เย็นและสงบลง อาตมาพบว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ถูกต้อง ใช่แล้ว วิธีนี้แน่แล้ว...ถูกแล้ว


    จากนั้นก็เกิดอาการภูมิใจ อิ่มใจ ปลื้มใจจนขนลุกชันและก็ยิ่งมีกำลังใจ จึงตามดูจิตอย่างหนักยิ่งขึ้นกว่าเดิม ผลก็ยิ่งคืบหน้า คือจิตยิ่งสบายๆ จนในที่สุดก็ปกติเหมือนเมื่อครั้งก่อนๆมา


    สำหรับอาตมาเอง เมื่อมีปัญหาทางจิต ก็ใช้แนวทางของสติปัฏฐานในการแก้ปัญหาและก็ได้ผลดีเสมอมา นี่คือประสบการณ์ที่เกิดขึ้นโดยตรงกับตนเอง แต่นักปฏิบัติทั้งหลายไม่ควรปลงใจเชื่อข้าพเจ้าทันที เพราะอุปนิสัยและบารมีของแต่ละบุคคลนั้นไม่เหมือนกัน วิธีการแก้ปัญหาที่ได้ผลจึงอาจจะแตกต่างกันไป ถึงอย่างไรด้วยความหวังดีต่อกัน อาตมาขอโอกาสให้ข้อเสนอแนะต่อผู้ปฏิบัติทั้งหลายว่า เมื่อท่านเจอมารทางกายหรือมารทางใจก็ตาม ท่านจงตั้งสติให้ดี อย่าให้หวั่นไหว อย่าให้สติรวน จงควบคุมความคิดของตนเองให้มั่นคง อย่าให้หวั่นไหว อย่าให้คลอนแคลน แล้วค่อยๆคิดหาวิธีแก้ปัญหานั้นด้วยความใจเย็นและให้สุขุมรอบคอบที่สุด โดยเฉพาะต้องใช้ขันติและความฉลาดให้มากเป็นพิเศษ


    เมื่อกำหนดหลักเกณฑ์ในการแก้ปัญหาได้แล้ว ก็ให้ดำเนินการแก้ปัญหาตามหลักการที่กำหนดไว้นั้นด้วยความมีสัจจะที่แน่นอนและมั่นคงว่า จะทดลองแก้ปัญหานั้นตามหลักการนั้นๆสักกี่วัน ก็พยายามทำให้ได้ตามที่ตั้งใจ ถ้าไม่ได้ผลโดยวิธีปฏิบัติเช่นนี้ ท่านก็จะพบวิธีใดวิธีหนึ่งในใจของท่านเองจนได้ เพราะจิตที่ศึกษาสภาพย่อมเกิดการรู้ผลไปโดยอัตโนมัติ ที่ว่าพระพุทธเจ้าตรัสรู้ชอบด้วยพระองค์เอง ก็โดยอาศัยหลักค่อยๆทำ ค่อยๆปฏิบัติ ค่อยๆติดตามดูจิตนั่นเอง เอาจิตศึกษาจิตแล้วก็เกิดความรู้สึกที่เป็นสภาวะธรรมโดยผู้นั้นจะรู้ด้วยตนเองดีว่า สภาพจิตนั้นมันเป็นอย่างไร เพราะมันเป็นปัจจัตตัง เรื่องที่รู้เฉพาะด้าน ใครทำ ใครก็ได้ ใครกินใครก็อิ่ม"



    จาก ปโมทิตเถรบูชา ประวัติหลวงปู่หลอด ปโมทิโต

     
  2. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260

    *
    [​IMG]

    เชิญแวะอ่านธรรมะของหลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ที่ เฟสบุ๊ค ศูนย์พุทธศรัทธา
    และร่วมกันแบ่งปันธรรมะของหลวงพ่อฯ ไปยังกระดานของท่าน

    <IFRAME style="BORDER-BOTTOM: medium none; BORDER-LEFT: medium none; WIDTH: 600px; HEIGHT: 300px; OVERFLOW: hidden; BORDER-TOP: medium none; BORDER-RIGHT: medium none" src="http://www.facebook.com/plugins/likebox.php?href=http%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fpages%2FBuddhaSattha%2F158726110822792&width=600&connections=20&stream=true&header=false&height=300" frameBorder=0 allowTransparency scrolling=no></IFRAME>
    *<!-- google_ad_section_end -->
    เว็บทางนิพพาน เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา

    [​IMG]</O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2011
  3. no-ne

    no-ne เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    1,198
    ค่าพลัง:
    +3,380
    กราบนมัสการหลวงปู่ ขออนุโมทนาบุญกับ จขกท ด้วยนะคะ ขออนุญาตแบ่งปันค่ะ สาธุ
     
  4. ต้นไม้..

    ต้นไม้.. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    161
    ค่าพลัง:
    +911
  5. Kitaro!!

    Kitaro!! สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +8
    [​IMG]



    ดวงตาแห่งปัญญา สาธุ สาธุ สาธุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 พฤษภาคม 2011
  6. นกยูงเงิน

    นกยูงเงิน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +25
    สาธู ๆๆๆ กราบเท้าหลวงปู่ครับ
     
  7. pandablahblah

    pandablahblah Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    316
    ค่าพลัง:
    +71
    อ้า แบบนี้นี่เอง สุดยอดไปเลยค่ะ บารมีของหลวงปู่ท่านแกร่งกล้ามากๆเลย แต่ก็ได้แง่คิดอีกนะคะ เรื่องที่สาวๆขับร้องทำนองไพเราะได้สร้าง กามคุณ 5 ให้ใครต่อใครให้เป็นทุกข์ได้ น่ากลัวจังค่ะ แฮปปี้เก็บไว้ร้องคนเดียวดีกว่า เคยคิดอยากขออาสาไปร้องให้ชมรมพุทธที่มหาวิทยาลัยตอนวันงานสำคัญๆ พอมาอ่านบทความนี้แฮปปี้ไม่เอาแล้วค่ะ กลัว กลัวมากๆเลย กลัวจะไปสร้างทุกข์ให้คนอื่นมากเลยค่ะ >.<!!
     
  8. อ_เอกวัฒน์

    อ_เอกวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    279
    ค่าพลัง:
    +270
    ขอกราบอนุโมทนาในธรรมที่หลวงปู่รู้แจ้งแก้ไขได้ในบ่วงมารโดยใช้ปัญญา ธรรมใดที่หลวงปู่รู้แจ้ง ขอให้จิตกระผมรู้แจ้งตามครูอาจารย์ด้วยเทอญ
     
  9. chayjaja

    chayjaja สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +2
  10. Namushakamunibutsu

    Namushakamunibutsu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,347
    ค่าพลัง:
    +2,618
    สาธุ สาธุ... สตินั้น เป็นประธานธรรมที่ ละ เลิกอกุศล และ สร้าง หล่อเลี้ยงกุศลโดยแท้
     

แชร์หน้านี้

Loading...