กลุ่มชนคนดูดวง

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย คนดูดวง, 17 มีนาคม 2011.

  1. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    ท่านใดที่เข้ามาอ่านเรื่องดาววันเกิดแล้ว หากมีอะไรที่พยากรณ์แล้วถูกผิดอย่างไรแล้ว ก็แนะนำกันบ้างนะครับ
     
  2. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93
    ค่ะ พูดถูกค่ะว่ามีแฟนเกิดวันพุธน่ารักจริง ๆ ถ้าเค้ากลับใจเป็นคนดีได้ก็จะน่ารักกว่านี้ค่ะ
     
  3. pijika

    pijika สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2011
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +1
    ส่ง pm ไปแล้วรบกวนด้วยค่ะ

    รบกวนด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ
     
  4. 339

    339 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +12
    รบกวนอีกครั้งนะค่ะ

    รบกวนอีกครั้งนะค่ะ
    ขอบคุณค่ะ
     
  5. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    ข้อคิดจากธรรมนิทาน (เรื่องเศรษฐีหนูตาย ๑)

    ในอดีตกาล.....มีบ้านเศรษฐีคนหนึ่งซึ่งมีทรัพย์และบริวารมากมายมหาศาล เศรษฐีคนนี้มีความเฉลียวฉลาดมาก เศรษฐีคนนี้ได้พบว่าคนรับใช้คนหนึ่งในบ้านของเขา ซึ่งอยู่ทำงานกับเขามานานแล้ว คนรับใช้คนนี้รู้และเข้าใจในตัวของเศรษฐีเป็นอย่างดี เขาเป็นคนที่มีความสามารถที่จะเป็นผู้ที่จะประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิตและสามารถสร้างฐานะได้ในอนาคต วันหนึ่งเศรษฐีได้พาบริวารและคนรับใช้คนนี้ไปตรวจดูสวนมะม่วงของตน ในระหว่างทางเดินมีหนูตัวหนึ่งนอนตายอยู่ข้างทางที่เศรษฐีเดินไป เศรษฐีหยุดและชี้ให้บริวารทั้งหลายได้ดูและพูดขึ้นว่า “ บุคคลใดอาศัยปัญญาแล้วย่อมทำประโยชน์จากหนูนี้ให้ถึงที่สุดได้ ” แล้วก็เดินจากไป บรรดาคนรับใช้ของเศรษฐีต่างวิภาควิจารณ์ว่าเศรษฐีท่าจะบ้าไปแล้ว หนูตัวนี้ใครๆก็ไม่ปรารถนา จะเอาไปทำอะไรก็ไม่มีประโยชน์ ไม่มีราคาค่างวดใดๆเลย แต่หนึ่งในคนรับใช้คนนั้น เขาได้พิจารณาว่าท่านเศรษฐีคนนี้เป็นคนฉลาด ถ้าหากสิ่งนั้นไม่สามารถเป็นไปได้ท่านคงไม่พูดออกมา เขาได้หยิบเอาหนูตัวนั้นติดมือมาด้วยทั้งๆที่ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไร แล้วรีบเดินตามเศรษฐีกลับเรือน หลังจากที่กลับมาแล้วเขามานั่งจ้องมองซากหนูตัวนั้น พิจารณาไปๆมาๆ ก็เห็นว่าหนูนี้มันเป็นอาหารของแมวนี่นา เราควรแล่หนังเอาเนื้อหนูไปขายที่ตลาด คงจะพอขายได้ และแล้วเขาก็เอาเนื้อหนูห่อใบตองไปขายที่ตลาด ในระหว่างทางที่ไปตลาดนั้นเขาได้ยินเสียงคนคุยกันว่าคืนนี้จะมีพ่อค้าขบวนใหญ่มาจากต่างแดน เอาสินค้ามาจำหน่ายมากมาย เมื่อเขาขายหนูได้แล้วก็มานั่งคิดว่า ถ้าหากคืนนี้บรรดาพ่อค้าทั้งหลายมาถึง ช้าง ม้า วัว ควาย ของเขาคงต้องการหญ้าแน่นอนเพราะหญ้าที่นำมาด้วยคงหมด ว่าแล้วหนุ่มคนนั้นจึงซื้อเอาน้ำอ้อยแล้วมุ่งหน้าสู่ชายป่า เพื่อตัดเอาหญ้ามาขาย เมื่อเขาได้หญ้าตามที่ต้องการแล้วก็มานั่งพักเพื่อกินน้ำ พักให้พอหายเหนื่อยแล้วก็จะกลับบ้าน มีคนตัดหญ้าหลายคนเดินมาเห็นเขากินน้ำ จึงอ้อนวอนขอน้ำกินบ้างด้วยความกระหายน้ำเป็นกำลัง ชายหนุ่มแบ่งน้ำของตนให้เขากินด้วยความเต็มใจ เมื่อพวกตัดหญ้ากินน้ำแล้ว เขาตอบแทนน้ำใจของหนุ่มใจดีคนนั้นด้วยหญ้าคนละหนึ่งกำมือ หนุ่มเจ้าของน้ำขอบคุณพวกเขาและขอร้องว่า หากหญ้าของเขายังขายไม่หมดขอท่านทั้งหลายอย่าพึ่งขายหญ้าของตนที่มีอยู่ คนตัดหญ้าเหล่านั้นรับคำมั่นสัญญาเขาแล้วต่างพากันกลับยังบ้านเรือนของตน ปรากฏว่าหญ้าของหนุ่มคนรับใช้ได้มากกว่าใครๆที่มาตัดหญ้า และแล้วค่ำคืนนั้นเองขบวนพ่อค้าวานิชก็มาถึง ต่างดูแลยานพาหนะและอาบน้ำแก่สัตว์เลี้ยงแล้วบำรุงด้วยน้ำและหญ้า แต่หญ้ามิได้เพียงพอ บรรดาคนเลี้ยงดูจึงเดินออกหาซื้อตามบ้าน ไปบ้านไหนๆก็ไม่มีใครๆยอมขายหญ้าให้เลย ถึงแม้ยอมสู้ราคาสูงเท่าใด
     
  6. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    เรื่องเศรษฐีหนูตาย ๒

    และแล้วคนเลี้ยงสัตว์ก็ได้มาถึงบ้านหนุ่มคนรับใช้เห็นหญ้าทั้งสดและใหม่ จึงขอซื้อหญ้าทั้งหมดแก่เขา เขาทำทีท่าปฏิเสธ คนเลี้ยงสัตว์เพิ่มอัฐให้มากเป็นหลายเท่า เขาได้เงินมาเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นไม่กี่วันเขามีโอกาสได้ออกนอกบ้านอีก เขาเดินเข้าเมืองไปและได้ผ่านร้านค้ามากมาย เห็นวิถีชีวิตของคน พ่อค้า ช่าง และ กรรมกรต่างๆ ฯลฯ เขาเดินผ่านมาถึงรั้วมหาราชวัง เขาสังเกตเห็นว่าต้นไม้ในอุทยานของพระราชาล้มเสียหายมากมาย และในที่ใกล้ๆนั้นเองคนดูแลสวนกำลังเคร่งเครียดกับความเสียหายเหล่านั้น หากพระราชามาพบเข้าคงถูกลงโทษเป็นแน่แท้... หนุ่มคนรับใช้เห็นแล้วจึงใช้ปัญญาพิจารณาสถานการณ์.. จึงได้ขันอาสาขนเอาไม้ต่างๆให้ คนดูแลสวนรีบยกไม้ทั้งหมดให้ และบอกว่าท่านต้องขนไม้ทั้งหมดนี้ออกจากสวนภายในเย็นวันนี้ หนุ่มคนรับใช้เห็นไม้เป็นเนื้อแก่นอย่างดี จึงคิดว่าไม้พวกนี้จะขายได้ราคาดีที่ร้านคนปั้นหม้อเพราะให้ไฟแรง แต่เขาจะทำอย่างไรหนอจึงจะจัดการกับต้นไม้ต้นใหญ่ๆจำนวนมากเหล่านี้ได้ในกำหนดเวลา เขาเดินออกมาจากรั้ววังเห็นเด็กจำนวนมากกำลังแข็งขัน เล่นอยู่ใกล้ๆที่นั้น เขาได้ไปติดต่อกับบรรดาเด็กๆเหล่านั้น โดยมีขนมเป็นรางวัล หากช่วยเขาในการขนย้ายต้นไม้ออกจากวัง เมื่อเขาได้เด็กๆมาช่วยงานจำนวนมากแล้ว บางคนก็ช่วยกันหักกิ่ง บางคนก็ช่วยเลื่อยไม้ บางคนก็ช่วยขน ภายในเวลาพริบตาต้นไม้ที่ล้มเกะกะเกลื่อนกลาดก็หายไปดุจปาฏิหาริย์ และเขาก็นำต้นไม้ไปขายเป็นฟืน ได้เงินมาอีกมากมาย หลังจากนั้นมาเขาเริ่มจับกิจการต่างๆจนมีเงินและมีเกียรติเป็นที่ไว้ใจของพ่อค้าด้วยกันในหมู่บ้าน วันหนึ่งเขาได้ข่าวว่า อีกหนึ่งเดือนจะมีเรือสินค้าขนาดใหญ่มาขายสินค้าที่เมืองแห่งนี้
     
  7. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    เรื่องเศรษฐีหนูตาย ๓

    เขารวบรวมเงินทั้งหมดที่มีแล้วตรวจสอบข่าวที่ได้จากเรือประมงอยู่เสมอๆ...ว่าจะมีเรือสินค้าเข้ามาจริงหรือไม่... และเขาเองก็ได้ใช้เงินที่มีอยู่ทยอยไปติดต่อร้านค้าที่อยู่ในเมือง.. ติดต่อซื้อสินค้าต่างๆที่เห็นว่าจะขายได้.. โดยวางมัดจำไว้ส่วนหนึ่งแก่เจ้าของร้านค้า.. ด้วยความเป็นที่ไว้เนื้อเชื่อใจ เขาติดต่อร้านค้าต่างๆทั่วมหานคร.. และเมื่อเรือสินค้าลำดังกล่าวได้มาจอดเทียบท่า ตามที่เขาได้ตั้งหน้าตั้งตารอคอย และแล้ววันนั้นก็มาถึง.. เขาเป็นบุคคลแรกที่รีบขึ้นเรือไปเจรจาติดต่อแลกซื้อขายสินค้าที่มากับเรือทั้งหมด ปรากฏว่าหลังจากนั้นสินค้าในมหานครที่เขาวางมัดจำไว้..ได้จัดจำหน่ายไปกับเรือสินค้า และสินค้าที่มากับเรือสินค้าที่เขาซื้อไว้ขายให้แก่บรรดาพ่อค้าในเมืองนี้..ได้จำหน่ายหมดแล้วเช่นกัน เขามีเงินนับแต่ขายหนูตายตัวนั้นได้เขามีทรัพย์สินรวม ๘๐โกฏิ เขาสำนึกในบุญคุณของท่านเศรษฐีที่ได้ชี้ช่องทางให้..ตนมีโอกาสได้มีการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตนเอง ..อดีตหนุ่มคนรับใช้ได้กลับไปยังเรือนแห่งท่านเศรษฐี..หลังที่จากท่านมาได้๔เดือนเศษ พร้อมกับเงินและเครื่องบรรณาการมีค่า๔๐โกฏิไปสนองแก่คุณท่าน ท่านเศรษฐีได้สอบถามความเป็นมาต่างๆ แล้วได้บอกแก่พ่อหนุ่มคนรับใช้ว่า ตัวของตนเองเท่านั้นที่เป็นผู้เห็นว่าสิ่งอันใครๆคิดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ ไม่น่าจะทำได้ บุคคลทั่วไปส่วนมากมีทัศนคติในเชิงลบ ความกลัวว่าตัวเองจะทำไม่ได้ และไม่ได้ใช้ปัญญาใคร่ครวญพิจารณา ไม่จำเป็นที่การจะทำธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่งต้องใช้เงินลงทุนที่สูง เศรษฐีเห็นในคุณธรรมความดีที่มีในตัวเขา กล่าวยกย่องเขาในที่ประชุมและ ยกบุตรสาวของตนให้พร้อมด้วยสมบัติทั้งหมดให้ปกครองดูแล..เขาได้ใช้ชีวิตกับครอบครัวและบริหารทรัพย์ให้เพิ่มพูนตลอดอายุขัยย์อย่างมีความสุข.........จบครับ
     
  8. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    ข้อคิดจากธรรมนิทาน

    ข้อคิดจากธรรมนิทาน
    เรื่องเศรษฐีหนูตาย สอนให้รู้ว่าคนเราเลือกที่จะเกิดไม่ได้แต่เลือกที่จะเป็นไปตามแต่ตัวของเราจะลิขิตให้ตัวเราเป็นไป ในเรื่องคนที่เป็นเศรษฐีไม่ได้เกิดมามีเงินมา มีทองมากองแต่อย่างใด คนที่จะประสบความสำเร็จได้ต้องมีคุณธรรม มีความกตัญญู รู้จักการรับฟังข่าวสาร มีความเอื้อเฟื้ออารี มีความใคร่ครวญด้วยปัญญาพิจารณาวางแผน มองเห็นอนาคต มีเป้าหมายที่ชัดเจนมั่นคงไม่โลเล กล้าที่จะคิดไม่เหมือนคนอื่น มีทัศนคติที่ดี ไม่ดูถูกความสามารถของตนเองและผู้อื่น มีความมานะอดทน ขยันขันแข็ง เสียสละเวลาความสุขความสบายในช่วงแรกๆในการสร้างฐานะ เมื่อคุณประสบความสำเร็จแล้วสิ่งที่คุณปรารถนา จะได้ตามใจทุกอย่าง ดูตัวอย่างผู้ที่ประสบความสำเร็จแล้วทำตาม อย่างที่หนุ่มคนรับใช้ได้รู้ ได้เห็น การทำงานของเศรษฐี หลายสิ่งหลายอย่างไม่จำเป็นต้องเริ่มต้นจากประสบการณ์ของตนเอง และไม่จำเป็นที่ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ คนเก่งเรียนรู้และประสบความสำเร็จด้วยตนเองแต่คนฉลาดเรียนรู้และประสบความสำเร็จจากประสบการณ์ชีวิตของผู้อื่น ผู้มีปัญญาสามารถทำให้เกิดทรัพย์ได้ด้วยสิ่งที่มีค่าประมาณน้อย รักษาภาพพจน์และชื่อเสียงที่ดี ด้วยคุณธรรมอันควร ........จบแล้วครับ<O:p</O:p
     
  9. pani789

    pani789 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +7
    บางส่วนก็ถูกอยุ่นะค่ะของคนวันอาทิตย์แต่บางส่วนก็ไม่ช่ายอ่ะคิดว่าส่วนใหญ่จะว่าข้อเสียทั้งนั้นเลยไม่มีไรดีเลยหรือค่ะ (เพราะทุกวันนี้มีคนในสังคมมากมายเห็นแก่ตัวกันมากขึ้นเข้าไปทุกวัน ถ้าเราไม่ทำเราให้แข็งแกร่งแล้วละก็วันนั้นวันที่เราล้มคงไม่มีใครสนใจเราแถมยังซ้ำเติมอีกด้วยแต่ก็น้อยคนที่จะเคียงข้างเรา ท่านเคยไหมค่ะ?)แล้วท่านละเกิดวันไรมิทราบถึงได้มีเมตตากับทุกคนเลยใจดีกับทุกคนเลยค่ะ อันนี้ชมจากใจจิงนะเพราะเห็นข้อความแล้วหลายอันรู้สึกแบบนั้น ขอให้ท่านเสขบุคคลปฏิบัติตัวแบบนี้ต่อไปนะจะได้มีคนรักเยอะๆๆๆๆๆๆๆๆค่ะ
     
  10. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    ไม้สีไฟ

    จากข้อธรรมคำสอนของพระวิปัสสนาทางอีสานท่านหนึ่ง ท่านสอนว่า การที่เราจะนั่งสมาธิให้เกิดมรรค-ผลโดยสักแต่ว่านั่งไปๆ ไม่รู้ว่าเขามีวิธีทำกันอย่างไร ปฏิบัติกันอย่างไร นั่งไปแล้วเดี๋ยวก็รู้เอง เห็นเอง สำเร็จไปเอง มีเพียงไม่กี่คนที่ทำแล้วได้ผลสำเร็จ นอกนั้นเกิดความเบื่อแล้วเลิกทำ เลิกปฏิบัติไปในที่สุด เพราะไม่เห็นผลใดๆเลย ส่วนคนที่รู้ในขั้นตอนและวิธีประพฤติปฏิบัติแล้ว ทำบ้างหยุดบ้าง ทำไปเล่นๆบ้าง รีบร้อนปฏิบัติจนเกินไปบ้าง ไม่มีความพอดี นี่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จอีกประการหนึ่ง ให้ดูไม้สีไฟเป็นตัวอย่าง การที่เราจะจุดไฟให้ติด เราต้องปั่นไม้ให้ต่อเนื่องให้ติดต่อกัน ทำบ่อยๆจนมีอารมณ์ชินในการปฏิบัติ ทำๆหยุดๆไฟก็ไฟไม่ติด รีบจนเกินไปเกิดเมื่อยมือก็หยุดอีก ไม่ว่านักปฏิบัติท่านใดจะนำไปใช้เป็นหลักในการเจริญสมาธิภาวนาหรือจะเป็นหลักในการดำเนินชีวิตก็ดี ต้องดูตัวอย่างวิธีในการใช้สีไฟนี้เป็นข้อคิด ........

    <O:p</O:p
    ข้อคิด การจะทำสิ่งใดๆแม้สักแต่ว่าทำ มันก็ประสบความสำเร็จได้ แต่นั่นก็เป็นส่วนน้อยเหลือเกิน การศึกษาขั้นตอนและวิธีการ จะทำให้สิ่งที่เราตั้งใจจะทำนั้น มีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จได้เร็วกว่าและง่ายกว่า หากทำอย่างติดต่อและต่อเนื่อง ไม่เกียจคร้าน ไม่ทำเป็นเรื่องเล่นๆ ไม่เร่งรีบจนเสียการ ทุกอย่างต้องอาศัยความพอดี ทำไปศึกษาไปและพิจารณาไปกับในสิ่งที่ทำ ผลย่อมเป็นที่น่าชื่นใจแก่ผู้ปฏิบัติครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำมาหากิน หรือเรื่องของการปฏิบัติเพื่อมรรคผลนิพพานครับ....
    สาธุ..ขอกราบอนุโมทนากับหลวงพ่อท่านด้วยครับ...<O:p</O:p
     
  11. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    แม้กุศลธรรมเองก็ยังถือเป็นเครื่องข้องอยู่

    แม้ว่าสิ่งทั้งหลายที่เราทำไปแล้วจัดอยู่ในทางบุญก็ตามแต่ ทำแล้วเป็นเหตุให้เกิดความสุขในชีวิต เพื่อเกิดในภพภูมิที่ดีกว่า เพื่อเสริมดวง เพื่อความเจริญในทางการดำเนินชีวิต พูดง่ายๆนะครับ หากเป็นไปเพื่อความสุขในสังสารวัฏ เป็นไปเพื่อให้เกิดแล้วเกิดอีก ก็ยังจัดเป็นของต่ำอยู่ หลายๆท่านคงสงสัย ว่าทำไม...ทำดีมันไม่ดีหรือ?... ดีนั้นดีอยู่ครับ แต่พระท่านว่า...หากเป็นไปเพื่อความเกิดอีก ก็เท่ากับเรายังยินดีในความทุกข์อยู่อย่างไม่จบสิ้น ความเกิดเป็นทุกข์ บุญที่เราทำอาจนำเราให้ไปเกิดเป็นคนมีอำนาจ ราชศักดิ์ มีเงิน มีหลายสิ่งหลายๆอย่างที่เราจะทำอะไรตามใจตัวเราเองได้ง่ายๆ คนมีอำนาจ มีเงิน ทำสิ่งที่ผิดๆได้ง่ายไหม ?..... คนที่มีอำนาจมากๆ เช่นในสมัยก่อนๆๆ พระราชาสั่งประหารคนเป็นเรื่องไม่ยากเลย นั่นเป็นเหตุทำให้เราผิดศีล บุญที่เราทำมาทำให้เราไปเกิดอีกเพื่อทำความชั่วอีก ดังนั้นหากเราทำบุญ สร้างกุศล เพื่อให้เป็นไปที่ยาวนานไม่จบสิ้นของวัฏฏะสงสารแล้ว ก็ยังถือว่าเป็นของไม่ควรครับ ควรตั้งจิตเพื่อความสิ้นจากวัฏฏะ เพื่อมรรคและผล โดยค่อยๆสั่งสมปัญญาไปทีละเล็กทีละน้อย สิ่งที่สำคัญคือการสร้างตัวปัญญา
    อ่านแล้วอย่าพึ่งเบื่อนะครับไม่ได้มาเทศน์นะครับ แต่อยากให้ทุกคนมีความสุขที่เป็นสุขอย่างยิ่ง คือความเป็นที่สิ้นทุกข์แบบถาวรครับ
     
  12. พรมลิขิตมา

    พรมลิขิตมา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +8
    ผมก็อีกคนที่เกิดวันพุธครับตรงนะครับแต่จะบอกว่าสิ่งที่ตัวเราทำทุกอย่างเรามีสติว่าไรถูกไรผิดในโลกนี้และทุกอย่างย่อมมีการแปรเปลี่ยนเช่นกันอย่ายึดติดกับสิ่งเดิมๆๆๆๆที่น่าเบื่อ การพบปะผู้คนเยอะขึ้นทำไรรุ้ว่าแนวทางแต่ละคนไม่เหมือนกันทำให้มีทางเลือกเดินมากขึ้น เพียงแต่เราจะปฎิบัติกับคนรอบข้างอย่างไงให้เป็นมิตรที่ดีกับเรามากที่สุด
    ทุกอย่างในโลกย่อมเปลี่ยนอย่ายึดติดกับความคิดภายในใจเรายอมรับความจิงเท่านี้ละคือความสุขที่แท้จิงครับ
     
  13. ณัฏฐกรานต์

    ณัฏฐกรานต์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +24
    ขอบคุณนะครับ
    โดนใจเลย เกิดวัน.....ไม่บอกครับแต่ตรงดีจัง
    เขียนอีกนะครับ จะมาอ่านบ่อยๆครับ
    สาธุเด้อ....
     
  14. สาธินี

    สาธินี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    171
    ค่าพลัง:
    +923
    กลับมาพบกันอีกนะคะ...ไปได้ยินได้ฟังอะไรดีๆมาก็อยากนำมาแบ่งปันกัน เผื่อจะทำให้บางท่านที่เคยคิดว่าวิชาโหราศาสตร์เป็นเรื่องงมงาย ก็จะได้มีมุมมองที่แตกต่างไปจากเดิมบ้าง..
    ที่จริงแล้ววัน เดือน ปี และเวลาที่คนเราเกิดมานี้ ถ้าจะว่าไปแล้วก็เปรียบเสมือนแผนที่ชีวิตหรือทางเดินของเรานั่นเอง จะดีไหม..ถ้าเราจะได้รู้จุดอ่อนจุดแข็งของตัวเราเอง จะได้รู้ว่าอะไรที่ควรทำ อะไรที่ควรเลี่ยงเช่น..การทำงานบางคนไปทำอาชีพที่แสดงผลในดวงของเราไปในทางเสียหาย แต่ด้วยความที่ไม่รู้ก็ทำไปและก็มีแต่แย่ลงๆผลที่สุดก็ต้องประสพกับความล้มเหลว นี่เป็นเพราะเราไม่ได้ศึกษาแผนที่ชีวิตของเราให้ดีเสียก่อนนั่นเอง เพียงแต่ว่าเราต้องศึกษาแบบมีสติอย่างมงายต้องใช้ปัญญาเข้ามาพิจารณาประกอบด้วยจึงจะเกิดผลสำเร็จ
    ที่เกริ่นมาเสียยืดยาวก็เพียงอยากจะบอกว่าโหราศาตร์ไม่ใช่เรื่องเหลวไหล จะเห็นได้จากปัจจุบันทำไมผู้ที่ยิ่งเรียนสูง ยิ่งรู้มากกลับหันมาเชื่อเรื่องดวงกันมากขึ้น...
    ข้อความที่จะปรากฏนี้เก็บมาเล่าสู่กันฟังจากงานประชุมโหราศาสตร์นานาชาติ ที่ร.ร.ฮอลิเดย์ อินน์ บรรยายโดยท่านอ.จ.ภาณุวัฒน์ พันธุ์วิชาติกุล ท่านได้กล่าวถึงว่าคนเรามีความเชื่อที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา..ลองมาดูกันนะคะ...
    เมื่อตอนที่เราเป็นเด็ก.......เราเชื่อ....พ่อแม่
    พอเริ่มโตขึ้นมาเป็นวัยรุ่น...เราเชื่อ....เพื่อน (พ่อแม่พูดไม่ฟัง เพื่อนบอกอะไรเชื่อหมด)
    พอเริ่มเป็นหนุ่มสาว(เริ่มมีความรัก)...เราเชื่อแฟน(ทีนี้เพื่อนก็ไม่สน ฟังแฟนคนเดียว)
    พอจบป.ตรี...มีความเชื่อมั่นในตัวเอง..
    พอจบป.โท...เชื่อมั่นในทฤษฏี(ความเชื่อมั่นในตัวเองเรื่มลดลง)
    สุดท้าย..พอจบ
    ดร....ไปๆมาๆกลับมาเชื่อเรื่องดวง..เชื่อเรื่องพระเจ้า..ก็เพราะว่าทำไมทำทุกอย่างแล้วถึงยังไม่ได้สื่งที่ต้องการเสียที...
    นั่นเป็นเพราะว่าทุกอย่างที่เราทำมามันอาจไม่ตรงกับความเป็นตัวตนของเราก็ได้ ผลที่สุดก็เลยต้องกับมาศึกษาทางเดินของชีวิตกันใหม่...แล้วเจอกันใหม่นะคะ..
     
  15. รัตนชาติ

    รัตนชาติ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    402
    ค่าพลัง:
    +93
    ถ้าคนเราที่เกิดมาแล้ว ทำใจยอมรับกับความทุกข์หรือปัญหาที่เกิดขึ้นกับตนเองได้ คนเราก็จะไม่มีทุกข์ แต่น้อยคนที่จะทำได้ ผู้ถูกกระทำ กับผู้กระทำ ความรู้สึกต่างกัน เหตุปัจจัยที่มากระทบจิตต่างกัน ผู้ถูกกระทำย่อมทุกข์ ถ้ายอมรับไม่ได้ ส่วนผู้กระทำย่อมสุขกับการกระทำของตน เพราะถ้าไม่สุขคงไม่กระทำ แต่ถ้ามีสติ คิดได้สักนิดว่า สิ่งที่ตนกระทำ ตนเองทุกข์มั้ย ผู้อื่นทุกข์มั้ย สังคมเดือดร้อนมั้ย ผลที่เกิดมาจากเหตุที่กระทำนั้น จะเป็นอย่างไร มีส่วนกระทบกับใคร อย่างไร กรรมมันละเอียดมาก แต่เพราะคนเราส่วนใหญ่ใช้อารมณ์ ไม่มีสติ ในขณะที่กระทำลงไป ไม่ว่าจะเป็น มโนกรรม วจีกรรม กายกรรม ถึงแม้ผู้ถูกกระทำจะไม่ถือโทษ โกรธเคือง แต่กรรมทำหน้าที่เอง ไม่มีผู้ใดแก้กรรมได้ นอกจากอโหสิกรรม หรือสร้างกุศลให้มากหนีกรรม จนกรรมตามไม่ทันเป็นอโหสิกรรมแทน
    คนที่เข้ามาสนใจเรื่องธรรม การปฏิบัติ ส่วนใหญ่จะต้องพบกับปัญหาชีวิต มีความทุกข์ จึงเข้าหาธรรม เพราะถ้ามีสุข ส่วนใหญ่จะติดสุข
     
  16. พรมลิขิตมา

    พรมลิขิตมา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +8
    เกิดมามีกรรมก็ใช้กรรมไป และไม่จำเป็นที่ทุกข์เท่านั้นถึงจะเข้าหาธรรมนะครับ คนที่มีความสุขๆๆๆในทุกกกด้านก็เข้าหาธรรมเช่นกันอย่าเอาความคิดของเราเป้นที่ตั้งสิครับ คนบวชหรือคนทั่วๆๆไปเข้าหาธรรมกันเยอะๆๆไป จิงๆๆแล้วถ้าใจเป้นทุกข์แล้วจึงเข้าหาธรรมนั้นจิตใจลึกๆๆคงไม่พ้นทุกข์หลอกครับ
    ทุกอย่างในโลกย่อมเปลี่ยนอย่ายึดติดกับความคิดภายในใจเรายอมรับความจิงเท่านี้ละคือความสุขที่แท้จิงครับ
     
  17. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    อานิสงส์การอนุโมทนาบุญ

    ในสมัยแห่งพุทธกาล มีพระภิกษุองค์หนึ่ง (ชื่ออะไรจำไม่ได้.....) เวลาท่านเทศน์สอนประชาชน จะเกิดกลิ่นหอมไปทั่งราชนคร วันหนึ่งพระราชาสงสัยว่าทำไมวันนี้จึงมีกลิ่นหอมทั่วพระนคร(วันใดที่พระองค์นี้แสดงธรรม) กลิ่นนี้มาจากไหน พวกอำมาตย์ก็เลยกราบทูลให้พระองค์ทราบว่า วันนี้เป็นวันที่พระ...องค์นี้ท่านแสดงธรรม ถ้าท่านอ้าปากเมื่อใดก็จะเกิดกลิ่นหอมไปทั่ว เป็นเพราะเหตุใดหรือ ....ย้อนกลับไปหลายๆชาติ ท่านเกิดในฐานะยากจน ท่านไม่มีเงินที่จะทำบุญเหมือนคนอื่นๆ ท่านได้แต่ยกมือขึ้นพนม แล้วกล่าวอนุโมทนาว่า ...สาธุ สาธุ สาธุ ๓ ครั้ง ท่านมีใจยินดีเมื่อท่านเห็นคนทำความดี ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ผลการอนุโมทนาบุญกับผู้อื่น จึงทำให้ท่านได้เกิดในสุคติภูมิเป็นอันมาก และในชาติที่เกิดเป็นพระสงฆ์ในพระพุทธศาสนานี้ ท่านจึงมีกลิ่นปากหอมครับ....
    ท่านใดเห็นใครทำบุญใส่บาตร ทำความดีอะไรๆก็ตาม เห็นเขาจูงคนแก่ข้ามถนน.. ก็ทำความยินดีด้วยใจจริง ในใจก็ได้นะครับ อนุโมทนากับความดีที่เขาทำความดีนะครับ แค่นี้เราก็ได้บุญแล้วครับ
    แล้ว อนุโมทนาบาป ละครับมีไหม?? ...ถ้าหากเราเห็นคนที่เขาถูกทำร้าย เห็นเขาได้รับเคราะห์กรรม "ดีแล้วถูกทำอย่างนี้ได้ละก็ดี" (ดีใจที่คนๆนั้นเกิดความพินาศเสื่อมเสีย) เห็นเขาทำบาปต่างๆเช่นเห็นเขาตกปลาได้ปลาตัวใหญ่ๆเราไปยินดีในการได้ปลาตัวใหญ่ๆ ดีใจกับเขาด้วย นั่นละครับคือการอนุโมทนาบาป รู้แล้วอดปาก อดใจไว้นะครับ อย่าไปยินดีกับการกระทำของเขานะครับ ได้อานิสงส์บาปไปโดยไม่รู้ตัวนะครับ
     
  18. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    คาถาพญายม

    นะโม๓จบ
    ปะโตเมตัง ปะระชีวินัง สุขะโตจุติ จิตะเมตะ นิพพานัง สุขะโตจุติ
    เป็นคาถาที่ผมใช้ภาวนาอยู่เสมอๆ หากท่านใดจะเดินทางไปไหนมาไหนก็ดี ป้องกันเหตุเภทภัยก็ดี ผีอำ มีเรื่องขัดข้องต่างๆก็ดี รู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆมันตามตัวก็ดี ฝันร้าย ......(ทุกเรื่อง.....ก็แล้วกันครับ) นึกถึงท่านพญายมท่านขอบารมีท่านคุ้มครอง หากไปพบว่าวิญญาณภูตผีปีสาจที่เป็นวิญญาณร้ายให้บอกท่านได้ (หลวงพ่อพระราชพรหมญาณเคยสอนไว้)
    เวลาไปทำบุญแล้วก็อย่าลืมท่านนะ อุทิศบุญให้ท่านด้วย ผมใช้มาเสมอเห็นเป็นสัมฤทธิ์ผลครับ


    (คุณมังกรหยกสวดนะครับ)
     
  19. MeMoKung

    MeMoKung สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2006
    โพสต์:
    5
    ค่าพลัง:
    +2
    pm ไปให้แล้วนะคะ ช่วยดูให้ด้วยคะ

    ขอบคุณคะ
     
  20. เสขบุคคล

    เสขบุคคล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    1,280
    ค่าพลัง:
    +5,423
    เอาบุญมาฝากครับ

    วันนี้ผมไป วัดเชิงเลน ต.ท่าอิฐ ปากเกร็ด นนทบุรี มาครับ พอดีไปถึงที่นั่นเพลพอดี เห็นสามเณรสองร้อยกว่าองค์ องค์เล็กๆ...น่ารักมากๆๆๆ..ครับ กำลังสวดมนต์ให้พรหลังฉันอาหารเสร็จ เสียงสวดดังชัดเจนมาก พระท่านสอนเณรให้เป็นเด็กดี ให้เณรท่องกลอนสอนตัวเณรเอง เช่น ถ้าฉันเสร็จให้ทำอะไรๆ...ท่องเป็นกลอนนะครับ เป็นคนดีของพ่อแม่.. เป็นคนดีของครู.. อยู่บ้านต้องช่วยพ่อแม่ทำงาน.. ฯลฯ เวลาท่องมีทำมือทำไม้ โอ๊ยดูน่ารักจริงๆครับ

    มีสอนกรรมฐานเณรแบบ๑๔ท่า (น่าจะเป็นแนวหลวงพ่อเทียน) เห็นเณรสวดมนต์กันแล้วเกิดปีติขึ้นมา เสขบุคคลเลยทำบุญถวายปัจจัยค่าอาหาร น้ำปานะ แก่ภิกษุและสามเณรไป ๕๐๐ บาท

    ก็ขอให้ทุกๆได้บุญไปกับผมด้วยนะครับ ผมอธิษฐานไปว่า ขึ้นชื่อว่าความทุกข์ ความเศร้าโศก ความเดือดร้อน ความเศร้าหมอง ความว่าไม่รู้ ความว่าไม่มี ความขัดข้องใดๆ ความขัดเคืองใดๆ จงอย่าได้ปรากฏมีแก่ข้าพเจ้าตราบเข้าสู่มรรคผลธรรมพระนิพพานเทอญ ก็ขอให้ทุกๆท่านได้บุญและได้ตามคำอธิษฐานนั้นไปด้วยนะครับ สาธุๆๆ ครับ


    ไม่ต้องตอบกระทู้มา อนุโมทนาใดๆก็ได้นะครับ จะได้ไม่ดันกระทู้ ขอให้ท่านอนุโมทนาด้วยใจรับทราบเท่านั้นท่านก็ได้บุญแล้วนะครับ ขอให้ทกๆท่านมีความสุขนะครับ ส่วนผมเองก็ได้บุญอีกต่อ คือเอาบุญที่ทำมาบอกให้ท่านได้อนุโมทนาครับ


    ปล. ลืมบอกไป เณรสึกอาทิตย์ที่ ๒๔ เมษายน นะครับ ใครอยากทำบุญร่วมกับทางวัด สามารถส่งเงินเข้าบัญชีวัดได้นะครับ ผมขอเบอร์บัญชีพระท่านมาเผื่อท่านใดศรัทธาจะได้ทำบุญนะครับ

    ชื่อบัญชี วัดเชิงเลน ธ. ทหารไทย (ออมทรัพย์) สาขารัตนาธิเบศร์
    120-2-09311-6
    หรือติดต่อพระท่าน ๐๘๑-๙๓๑-๘๓๖๔ นะครับ ใครทำบุญก็มาบอกด้วยนะครับ จะได้ยินดีร่วมอนุโมทนาครับ

    ถ้าท่านใดอยากจะไปวัดนะครับ อยู่ถนนรัตนาธิเบศร์ ช่วงตลาดท่าอิฐครับ แต่ผมไปรถเมล์มาครับ นั่งสาย ๑๘ , ๖๙ , ๒๐๓ ครับ สาย๑๘สุดสายแล้วต่อรถสองแถวสาย ๑๑๓๕ ไปสุดสายหรือนั่งรถจักรยานยนต์รับจ้างไปก็ได้ บรรยากาศแบบสวนๆเลยครับ มีทุเรียน มังคุด กระท้อน ส้มโอ กำลังออกดอกออกผล วัดนี้ติดชายน้ำเจ้าพระยา สวย สงบ เย็นมากๆเลย แทบไม่ยากกลับบ้านเลยครับ ใครอยากไปทำบุญจะได้ไปได้ครับ วันนี้ลืมเอากล้องไป ไม่งั้นจะเอาบรรยากาศมาฝากครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2011

แชร์หน้านี้

Loading...