สถานที่ปลอดภัย ในยามเกิดภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย ลุงคนเชียงใหม่, 20 ธันวาคม 2006.

  1. พรหมประกาศิต

    พรหมประกาศิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,684
    ค่าพลัง:
    +13,541
    ในความคิดเห็นของผมตู้คอนเทนเนอร์สามารถนำมาดัดแปลงประยุกต์ได้หลายแบบ โตยการเชื่อม pin ลงบนผิวเหล็กเพื่อเป็นตัวยึดเกาะ แล้วก็ใช้ปูนซีเมนต์พอกลงไปสำหรับป้องกันความร้อนและเสียงจากภายนอกหรือถ้าจะให้กันรังสีด้วยก็เพิ่มแผ่นตะกั่วเข้าไปจะเอากี่ชั้นก็สามารถทำได้ครับ หรือถ้าต้องการให้ทนความร้อนได้ด้วยก็ใช้ปูนทนไฟเพิ่มเข้าไปอีกชั้น ปูนประเภทนี้ใช้ในเตาเผาที่มีความร้อนสูงถึง 1,000 องศาเซลเซียส รับรองลาวาไม่ได้แอ้มหรอกครับ.
     
  2. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    อย่าเอาตัวรอดคนเดียวหรือกลุ่มเดียว ช่วยชาวนาให้รอดด้วย เขาจะปลูกข้าวเลี้ยงเรา
    .........................................................................................

    แบบจำลองสถานการณ์ช่วงวิกฤติ​

    ชุมชนเมืองจะอยู่อาศัยไม่ได้ ไม่ปลอดภัย คนจนในเมืองกลายเป็นอาชญากรรม คนรวยมีเงินมากมายแต่ไร้ค่า ไม่มีใครยอมขายอาหารให้ ต้องหลบซ่อนตัวในที่พัก ปกป้องทรัพย์สินของตน ชุมชนชนบท ไม่มีข้าวกินเพราะขายข้าวไปหมดแล้ว ได้เงินมาก็ใช้หมดแล้ว ลงทุนเพาะปลูกไปแล้ว ยังไม่ได้ดอกผล อาหารจะรวมกันที่โรงสี และศูนย์อาหารในเมือง การกระจายอาหารที่ไม่ดี ทำให้คนจนก่ออาชญากรรม คนรวยถูกฆ่าง่ายๆ คนดีไม่มีข้าวกิน แม้นแต่น้ำก็ขาดแคลน

    กลยุทธ์การกัน​
    , แก้ และก้าว (ก่อนเกิดกันได้, หากเกิดเหตุแก้ได้, ไม่เกิดก็ก้าวหน้าได้)

    ประกาศโครงการ "ชุมชนพอเพียงเพื่ออนาคต" โดยรณรงค์ว่า จะให้ชนบทเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำรายได้เข้าชุมชนโดยตรง ตามโครงการพัฒนาชุมชน เป็นการปิดข่าวสงคราม คนไม่แตกตื่น และการทำแบบนี้คือการเตรียมตัวรับสถานการณ์อย่างแนบเนียน ชุมชนชนบทจะมีเต้นสำรอง, น้ำสำรอง, อาหารสำรอง, ที่พักเครื่องกันหนาวสำรอง โดยบอกว่าเตรียมไว้เพื่อรับนักท่องเที่ยวในอนาคต ซึ่งจะทำเงินให้ประเทศ แต่แท้จริงแล้ว เตรียมไว้ช่วยคนเมือง ที่จะหนีภัยสงคราม และซึนามิที่ท่วมเกือบครึ่งประเทศมา เมื่อคนจากเมืองไร้บ้านมาสามารถเปิดบ้านต้อนรับได้ทันที

    เตรียมสังคมเมตตาธรรม โดยการรณรงค์การต้อนรับประทับใจ โดยการให้ไปฝึกควาเมตตา, พรหมวิหารสี่ โดยมีศูนย์กลางการฝึกที่วัด มีบุคลากรอาสาสมัครไปสอนงาน เช่น การเตรียมตัวป้องกันและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ได้รับภัย สร้างมาตรฐานความปลอดภัย เป็นต้น ฝึกซ้อมแบบนี้สามารถช่วยคนที่ตกยากมาได้ทันที แต่บอกว่าเป็นการฝึกการบริการที่ดี เพื่อเตรียมเป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม เราจะปิดไม่ให้เขารู้ตัวว่าเป็นการเตรียมตัวช่วยเหลือคนไทยด้วยกันเมื่อยามสงครามและน้ำภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ ฟื้นฟูวัฒนธรรมควาเมตตาอารีที่ถูกขายไปนาน ให้กลับมาสู่แดนดินไทย

    เตรียมศูนย์กลางชุมชน ได้แก่ ศูนย์กลางเสบียง ซึ่งมียุ้งฉางกลาง เก็บเมล็ดพันธุ์พืช ต่างๆ ทั้งที่กินได้ทันที เช่น พวกถั่ว พวกที่ต้องนำไปเพาะแต่โตเร็ว เช่น ผัก และเมล็ดพันธุ์ข้าว ให้สามารถช่วยเหลือคนทั้งหมู่บ้านได้ นอกจากนี้ยังมีศูนย์กลางปฐมพยาบาล และศูนย์เก็บสมุนไพรประจำตำบล ที่สามารถรองรับการรักษาโรคได้อย่างทันท่วงทีและทั่วถึง ทั้งยังเตรียมบุคคลากรไว้ให้พร้อมด้วย ส่วนศูนย์กลางการสื่อสารนั้นก็จำเป็นเช่นกัน เพื่อประกาศข่าวต่างๆ ให้ความรู้ได้ทันที เมื่อเกิดเหตุการณ์ร้าย ประชาชนจะรู้ได้ว่าควรทำอย่างไร อย่างไรก็ตาม ศูนย์กลางข่าวสารนี้ ควรคำนึงถึงเวลาขาดไฟฟ้าด้วย

    เตรียมแหล่งน้ำจำนวนมาก ควรพิจารณาแหล่งน้ำสำรองจากใต้ดิน บ่อน้ำบาดาลควรมีจำนวนมาก เพราะจะปลอดภัยจากฝุ่นกำมันตรังสีและอาวุธเชื้อโรคที่อาจแพร่มาทางแม่น้ำโขง ดังนี้ จึงควรรณรงค์ให้แต่ละหย่อมมีบ่อน้ำบาดาลใช้ร่วมกัน กระจายอย่างทั่วถึง น้ำเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยเฉพาะเขตอีสาน หากน้ำทะเลท่วมหนุน น้ำใต้ดินมีเกลือมาก จะขุดกินน้ำบาดาลไม่ได้ แม่น้ำโขงก็มีอาวุธเชื้อโรคแพร่ระบาด แต่เราต้องไม่บอกประชาชนตรงๆ บอกว่าฟื้นฟูวัฒนธรรม บอกว่ารสนิยมฝรั่งเขาชอบมาดูแบบนี้ เป็นเอกลักษณ์ที่ประเทศอื่นไม่มี เราจะทำให้เป็นจุดขาย และใช้กินได้ทันทีอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นหน้าแล้งหรือหน้าในก็ตาม โดยเราจะสอนการกรองน้ำ, ต้มน้ำ และช่วยกันทำเครื่องกรองแจกให้ทั่ว

    การลงทุนสร้างที่พักอาศัยใหม่จะใช้เวลานาน และไม่ทันการณ์ ต้องใช้ชุมชนเดิมเป็นรากฐาน โดยต้องอาศัยอาสาสมัครทำงานนี้ ให้ครอบคลุมทั่วไทย กระจายทั้งด้านยุทโธปกรณ์, บุคลากร ฯลฯ ซึ่งต้องลาออกจากงานมาทำงานรับใช้ชาติเต็มตัว งานนี้จึงจะสำเร็จได้ หาไม่แล้ว ก็ไม่มีผู้ใดลงมือช่วยเหลือ สังคมไทยถูกทอดทิ้ง คนไม่รู้อีโหน่อีเหน่ตายไม่รู้ตัว คนที่รู้มากเห็นแก่ตัวก็ถูกอาชญากรปล้นฆ่าตาย บ้านเมืองไหน ไม่เตรียมสังคมพุทธไว้ บ้านเมืองนั้นเป็นอันต้องล่มสลายสิ้นชาติ

    กลยุทธนี้เดินหมากเกมเดียว ใช้ได้ทั้ง กัน, แก้ และก้าว รับศึกได้ทุกแบบ ทุกทิศ ทุกสถานการณ์ มีสมดุลในตัว เติบโตได้ ยืดหยุ่นได้ พลิกแพลงต่อได้ และเหมาะสมสอดคล้องกับรากฐานความเป็นไทย ทุกประการ ซึ่งหากไม่เกิดอะไรขึ้น ชุมชนไทยจะเข้มแข็งเป็นชุมชนพึ่งพาตนเองได้ทันที พร้อมเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมได้ในอนาคตอย่างพอเพียงอีกด้วย วัฒนธรรมก็ถูกฟื้นฟู ความสามัคคีของคนในชาติก็กลับคืนมา แต่ถ้าเกิดเหตุขึ้นมา จะเป็นแหล่งพึ่งพาอาศัยและอยู่ร่วมกันได้ยามวิกฤติ

    ภัยใดไม่เท่าภัยจากมนุษย์ด้วยกัน
    ขาดน้ำและอาหารอยู่ได้หลายวัน
    ขาดอากาศหายใจอยู่ได้ไม่เกินสี่นาที
    แต่มนุษย์ด้วยกันนี้ฆ่ากันได้ในพริบตาเดียว​
    ขอให้คนดีช่วยเหลือกัน เราเสียสละส่วนตน สองสามปี สร้างชาติใหม่ ไทยพุทธจะครองโลก
    สามัคคี​
    , เมตตาธรรม, ขันติ, อุเบกขา และปัญญา จะทำให้รอดพ้นภัยพิบัติสู่ยุค "ศรีวิไล" แฮ...

     
  3. ลุงคนเชียงใหม่

    ลุงคนเชียงใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +2,521
    อีก 97 ราตรีที่เหลือ...กับภัยพิบัติที่เกิดขึ้น

    --------------------------------------------------------------------------------

    *********************************************
    ที่ผ่านมาลุงไม่เคยชัดเจน กับตัวเองที่จะบอกถึงนิมิตรของลุงเอง
    เพราะบาปกรรมที่เกิดจากการไปเกี่ยวข้องกับกรรมของคนอื่นๆจำนวนมากมายนั้น
    คงจะทำให้ลุงไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าหรือยกระดับจิตตนเองให้สูงกว่านี้ได้
    *********************************************
    แต่อย่างไรก็ตามลุงเชื่อว่าคนที่เข้ามาในเวบพลังจิตเป็นคนที่ทำบุญทำกรรมร่วมกันมา
    ลุงอาจจะมีระดับจิตต่ำกว่าหลายคน
    แต่ลุงเองมุ่งที่จะฝึกเน้นในเรื่องการมองอนาคตเป็นส่วนใหญ่
    ไม่ต้องเชื่อลุงนะ เพราะส่วนใหญ่ลุงจะเห็นในพื้นที่บ้านลุงที่เชียงใหม่
    เป็นส่วนใหญ่ อาจเป็นเพราะจิตของลุงเองผูกพันธ์อยู่ในพื้นที่นี้เป็นส่วนใหญ่
    และเป็นมาแล้วหลายภพหลายชาติมาแล้ว
    *****************************************
    แต่อย่างไรก็ตามเหลือเวลาอีกเพียง ไม่ถึงร้อยราตรี
    ลุงหวังว่าจะเป็นราตรี แบบที่คิดเป็น 7 วันนับเป็นหนึ่งราตรีนะ
    หรือไม่ก็ 1 วันเท่ากับ 50 ปี เท่าในชั้นจาตุมหาราชิกา
    เพราะสิ่งที่จะเกิดมันรุนแรงจนลุงเองก็ไม่คาดคิด
    คนใกล้ตัวลุงเองแทบจะหมดสิ้น
    จนลุงต้องเตรียมตัว ไม่ได้เพื่อตัวลุงเองนะ
    แต่ต้องทำหน้าที่ของ พ่อ ของสามีให้ดีที่สุด
    ในบทบาทของบุถุชน
    แต่ในทางจิตแล้ว ลุงเองพร้อมเสมอกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
    และเฉยๆกับความตาย เพราะลุงไปมาจนชินแล้วครับ
    *****************************************
    อย่าประมาทกับสิ่งที่จะเกิดขึ้น
    อย่าตื่นกลัวกับเหตุการณ์เกิดขึ้น
    อย่าเผชิญกับสิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้าอย่างไร้สติ
    มีข้อมูลมากมายที่ สามารถศึกษาและนำไปใช้ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2007
  4. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,791
    ถ้าคิดแบบ 7 วันมนุษย์ก็ประมาณ กลางเมษา
     
  5. หลับตา

    หลับตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    716
    ค่าพลัง:
    +3,151
    ส่วนใหญ่มนุษย์จะทำบาปตอนเผลอ กรรมส่วนใหญ่จะมาแสดงก็ตอนเผลอนั้นแหละ นอกจากพวกจงใจทำบาป กรรมคงเกิดได้ทุกเมื่อ
     
  6. NuJanBaBor

    NuJanBaBor เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    440
    ค่าพลัง:
    +1,861
    @^_^@
     
  7. chakrit

    chakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    126
    ค่าพลัง:
    +966
    บุญก็ส่วนบุญบาปก็ส่วนบาป แม้รู้จะเกิดอะไรขึ้นก็ยังอาจพลาดพลั้งได้หรืออาจเปลี่ยนร้ายเป็นดีได้สิ่งที่เห็นอาจเป็นภาพลวงตาที่จิตคิดเป็นนั่นเป็นนี่ แต่ก็ดีเป็นการเตรียมตัวก่อนตายจริง การมีชีวิตอยู่หลังเหตุการณ์บางทีอาจทุกข์กว่าเก่า ทุกวันนี้ไม่เห็นประโยชน์มากนักกับการมีการเป็น
    ขอทุกท่านอย่าประมาทอย่ามัวแต่เตรียมตัวเพื่อมีชีวิตรอดจนลืมคิดถึงบ้านที่เราจากมาจนหลงทางมานานแล้วพ่อๆของเรารออยู่
    ด้วยกัลญาณมิตร
     
  8. ลุงคนเชียงใหม่

    ลุงคนเชียงใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +2,521
    ภาพอันที่เกิดจากจิตลวงนั้น
    ต่างจากภาพที่กิดจากการที่เข้าไปสัมผัสกับสิ่งนั้น
    ในรูปแบบอีกกายหนึ่ง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มกราคม 2007
  9. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ในวงการระหว่างประเทศ มีการปล่อยข่าวว่าอิสราเอลจะใช้ระเบิดนิวเคลียร์กับอิหร่าน ติดตามข่าวได้จากลิงค์ข้างล่างนี้ครับ

    http://www.palungjit.org/board//showthread.php?t=66324

    และคอยช่วยกันติดตามสถานะการณ์โลกดีๆ นะครับ หากใครทราบความเคลื่อนไหวอย่างไรก็ขอให้มาโพสต์ให้เพื่อนๆ ทราบกันด้วย หากเกิดการสู้รบหรือใช้อาวุธนิวเคลียร์กันจริง พวกเราจะได้เตรียมตัวกันทันครับ

    .
    .
     
  10. ลุงคนเชียงใหม่

    ลุงคนเชียงใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +2,521
    ******************************************
    สำหรับคนที่ติดตามอย่างจริงจังและประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
    จะเห็นความผิดปกติทั้ง ที่เกิดจากธรรมชาติเอง
    และความสุกงอมของกระแสกรรมที่เกิดจากมนุษย์
    การเคลื่อนของเรื่องราวที่จะเกิดขึ้น
    ลองย้อนกลับไปดูพยากรณ์ที่ครูบาอาจารย์ท่านเคยเอ่ยอ้างไว้
    แม้จะมีคลาดเคลื่อนเรื่องเวลาบ้าง แต่เรื่องราวไม่เปลี่ยนเลย
    หลายวันก่อนพระอาจารย์ที่กระผมเคารพนับถือ ข้ามไปฝั่งลาว
    ได้บอกคุณลุงไว้หลายเรื่อง
    สิ่งที่เกิดขึ้น ที่แม้ผมเองก็ไม่กล้าที่จะคิดตาม
    เพราะผมเองก็ไม่อาจคิดว่าจะผู้ที่รอด
    เพราะกรรมเก่าที่เคยติดตัวมา จากปาณาติปาตร
    แต่ก็ไม่วิตกเพราะ ธรรมดากับความตาย
    คงเหมือนกับ ทานข้าวอีกมื้อหนึ่งเพื่อไปทำงานนั่นเอง

    วันนี้คุณลุงเข้าไปในพื้นที่เพื่อเตรียมตัวแล้ว
    วันใดที่เชียงใหม่ เสียหายอย่างรุนแรง
    ขอให้ ตื่นตัวและอพยพกันอย่างจริงจัง
    ( ลุงบอกไว้
    **วันที่พระจันทร์หงาย วันที่แผ่นดินทลายลง
    หลานคงเหลือเวลาจนถึงเดือนดับ
    เพื่อเตรียมรับผลกรรมที่เคยทำไว้****)

    ต้องขออภัยที่ผมติดต่อลุงไม่ได้ ทั้งทางโลกและทางจิตในช่วงนี้
    หลานลุง
    ******************************************
     
  11. พันธุมเทวี

    พันธุมเทวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2006
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +105
    ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆนะคะ จะติดตามต่อไปเรื่อยๆ เพื่อเตรียมตัวรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นค่ะ อนุโมทนากับผู้ที่อาสาสมัครทำงานเพื่อส่วนรวมทุกๆคนด้วยนะคะ
     
  12. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,150
    ค่าพลัง:
    +18,072
    สวัสดีปีใหม่ค่ะคุณลุง อากาศที่เชียงใหม่เป็นอย่างไรบ้าง ได้ข่าวว่ามีแผ่นดินไหวทางเหนืออีกแล้ว ก็เป็นห่วงอยู่

    สำหรับเรื่องอาหาร ขอแนะนำสาหร่าย มีสาหร่ายอยู่ชนิดหนึ่งที่ขึ้นได้บนพื้นดิน เป็นของทางภาคอีสาน พออากาศร้อนก็จะดูแห้งเป็นแผ่น แต่พอได้น้ำก็จะฟูเป็นเมือกๆ สีเขียวๆ (เหมือนตะไคร่เลย) จากที่อ่านเค้าบอกว่าเลี้ยงง่าย และใช้เป็นอาหารได้ จำพวกยำสาหร่าง หรือแกงจืด แต่ชื่อสาหร่ายอะไรจำชื่อไม่ได้แล้วค่ะ เดี๋ยวไว้แว๊บกลับไปดูหนังสือที่บ้านก่อน แล้วจะเอาข้อมูลมาลงไว้ให้อีกที

    เรื่องสถานที่หลบภัยที่คุณลุงกำลังทำอยู่ ก็สนใจเหมือนกัน แต่อยู่ภาคกลางไม่รู้ว่าจะเดินทางไปถึงหรือเปล่า (อาจจะตายก่อนก็ได้) แต่ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็บอกได้เลยนะคะ มีสองมือกับแรงน้อยนิด แต่ก็ยินดีรับใช้เสมอค่ะ
     
  13. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,150
    ค่าพลัง:
    +18,072
    หาเจอแล้วจ้า หาเจอแล้ว ^0^

    สาหร่ายเห็ดลาบ สาหร่ายไทย มากคุณค่าโอชารส

    “ เห็ดลาบ ” ในความจริงก็คือ สาหร่ายสีน้ำเงินแกมเขียว ( blue-green alge , cyanobacterium ) ที่มีความสามารถในการตรึงไนโตรเจน ( N2 - fixation ) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Nostoc commune Vaucher เนื่องจากสาหร่ายนี้มีลักษณะเป็นแผ่นวุ้นแบนบางคล้ายเห็ดหูหนูสีเขียวที่ขึ้นบนดิน และชาวบ้านนิยมเก็บไปทำลาบจึงได้ชื่อประจำท้องถิ่นว่า “ เห็ดลาบ ” ภูมิปัญญาท้องถิ่นมีความเชื่อว่าสาหร่าบเห็ดลาบเป็นยาเย็น ช่วยรักษาระบบกระเพาะอาหารและลำไส้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ถูกต้องจึงขอใช้ชื่อ “ สาหร่ายเห็ดลาบ ” แทน “ เห็ดลาบ ” เพื่อเป็นการให้เกียรติแก่ภูมิปัญญาท้องถิ่นในการนำสาหร่ายมาใช้ประโยชน์และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อไป
    สาหร่ายน้ำจืดในสกุล Nostoc เป็นอาหารท้องถิ่นที่นิยมรับประทานในหลายประเทศทั่วโลก ในส่วนของประเทศไทยเคยมีรายงานถึงสาหร่ายที่รับประทานได้ในสกุลนี้ในชื่อ “ ไข่หิน ” หรือ “ ดอกหิน ” ในปัจจุบันได้สูญหายไปจากท้องถิ่นจนไม่เป็นที่รู้จัก ซึ่งต่างจากสาหร่ายเทา หรือเตาน้ำ ( Sprirogyra spp. ) และสาหร่ายไก ( Cladophora spp. ) ที่ยังเป็นที่นิยมบริโภคในหลายพื้นที่ในแถบจังหวัดภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ
    ในส่วนของสาหร่ายเห็ดลาบที่สำรวจโดยมหาวิทยาลัยสารคาม (มมส.) ร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พบว่า มีเจริญเติบโตแพร่กระจายบนดินเค็มในพื้นที่คุ้มครองทรัพยากรธรรมชาติป่าดูนลำพัน ในเขตอำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม และพื้นที่ใกล้เคียง โดยพบเห็นปริมาณมากในฤดูฝน เมื่อฝนตกทำให้สาหร่ายที่ในหน้าร้อนจะหดตัวเป็นแผ่นบางกรอบคล้ายกระดาษ (ซึ่งเป็นระยะพัก, resting stage ) จะดูดซับน้ำฝนขยายตัวเป็นแผ่นวุ้นบาง ไม่มีรสชาติมีเนื้อนิ่มหยุ่นแต่กรอบ คล้ายสาหร่ายทะเล วากาเหมะ (wakame, Undaria pinnatifida) ที่นิยมบริโภคในญี่ปุ่น
    อย่างไรก็ตามสาหร่ายเห็ดลาบมีคุณสมบัติที่ดีกว่า คือ ไม่มีกลิ่นคาว ทำให้ชาวบ้านนิยมเก็บไปบริโภคเป็นประจำทุกปีในฤดูฝนเพื่อก่อให้เกิดการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากสาหร่ายเห็ดลาบอย่างยั่งยืน ศูนย์จุลินทรีย์ (ศจล) วว. จึงร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ มมส. ทำการวิจัยและพัฒนาต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่น โดยได้รับทุนสนับสนุนจากโครงการพัฒนาองค์ความรู้และศึกษานโยบายการจัดการทรัพยากรชีวภาพในประเทศไทย ( BRT ) (สกว. – ศช.) ในการศึกษาข้อมูลพื้นฐานสูตรอาหารที่เหมาะสมในการเพาะเลี้ยงสาหร่ายเห็ดลาบ และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์อาหาร
    ผลการวิเคราะห์คุณค่าทางอาหารของสาหร่ายเห็ดลาบจากแหล่งธรรมชาติ พบว่า มีโปรตีน 20 % โดยมีกรดอะมิโนจำเป็นอยู่ครบถ้วน มีไขมันต่ำเพียง 0.02 % และมีใยอาหารสูงถึง 43 % ส่วนสาหร่ายเห็ดลาบที่ได้จากการเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการด้วยสูตรอาหารที่เหมาะสม พบว่า มีวิตามินเอเพิ่มเป็น 9 เท่า มีกรดอะมิโนจำเป็น เมไทโอนีน เพิ่มเป็นประมาณ 5 และ 3 เท่า ตามลำดับ ในขณะที่มีใยอาหารเพียง 1 ใน 16 ส่วน ของตัวอย่างจากแหล่งธรรมชาติ เนื่องจากใยอาหารที่เป็นพอลิแซ็คคาไรด์จะถูกผลิตในรูปของเหลวที่หลั่งออกนอกเซลล์ ( extracellular polysaccharide ) มากกว่าการผลิตในรูปของเมือกห่อหุ้มเซลล์ ( capsule jel ) ซึ่งพอลิแซ็กคาไรด์ที่หลั่งออกนอกเซลล์นี้มีศักยภาพการใช้ประโยชน์ทางการเกษตร โดยเป็นสารปรับโครงสร้างดิน หรือใช้ในอุตสาหกรรมอาหารโดยเป็นสารเพิ่มความข้นเหนียว ( thickening agent )
    ในการวิเคราะห์ด้านจุลินทรีย์ พบว่า ไม่มีการปนเปื้อนจากจุลินทรีย์ก่อโรคในสาหร่ายเห็ดลาบแต่อย่างใด ส่วนผลการวิเคราะห์สารปนเปื้อนอนินทรีย์จากโลหะหนัก ปรอท ตะกั่ว และสารหนู พบว่า ไม่เกินค่าตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 98 (พ.ศ.2529) เช่นกัน อีกทั้งการทดสอบความเป็นพิษเฉียบพลันทางปากของสาหร่ายเห็ดลาบในหนูทดลองตามวิธีมาตรฐานของ OECD Guidelines for Testing of Chemical 1993 ก็ไม่ปรากฎความเป็นพิษ โดยหนูทุกตัวแสดงอาการปกติ และตรวจไม่พบความผิดปกติของอวัยะวภายในจากการชัยสูตรซากหนูทุกตัวเมื่อสิ้นสุดการทดสอบ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสาหร่ายเห็ดลาบมีความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
    ด้วยคุณสมบัติที่ดีต่างๆ ของสาหร่ายเห็ดลาบดังกล่าวข้างต้นศูนย์จุลินทรีย์ วว. จึงได้ร่วมกับฝ่ายเทคโนโลยีอาหาร วว. และ มมส. ทำการต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นโดยพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารจากสาหร่ายเห็ดลาบทั้งอาหารคาว หวาน ขบเคี้ยว และเครื่องดื่ม อาหารคาว ได้แก่ ผงโรยข้าว ( Thai daning , furikake ), ลาบ, ซุปใส, ซุปเต้าหู้ และสาหร่ายแผ่นดองเปรี้ยว-เค็ม อาหารหวาน ได้แก่ วุ่นสาหร่าย (รสชาเขียว รสกะทิ) และเจลลี่สาหร่ายผลไม้ อาหารขบเคี้ยว ได้แก่ ทองแผ่นสาหร่าย (รสหวาน รสเค็ม) คุ้กกี้ ข้าวเกรียบ บิสกิต และสาหร่ายแผ่นปรุงรส เครื่องดื่ม ได้แก่ น้ำข้าวผสมสาหร่ายรสผลไม้ (สับปะรด กระเจี๊ยบ มะนาว) และน้ำมะนาวสูตรเห็ดลาบ
    นอกจากนี้ศูนย์จุลินทรีย์วว.ได้ประสบความสำเร็จในการอนุรักษ์สาหร่ายเห็ดลาบ
    ในระยะยาวโดยการแช่แข็งที่อุณหภูมิ -85 องศาเซลเซียส โดยใช้ไดเมทิลฟอกไซด์ 3 % เป็นสารป้องกันเซลล์ ซึ่งจะทำให้สาหร่ายเห็ดลาบไม่สูญพันธุ์ในอนาคต และขณะนี้ วว. ร่วมกับ มมส. อยู่ในระหว่างการวิจัยพัฒนาเทคนิคเพื่อผลิตสาหร่ายเห็ดลาบเชิงการค้าต่อไป




    คัดลอกจาก : http://www.tistr-foodprocess.net/research_tistr/research3.htm#3





     
  14. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    เยี่ยมครับ คุณกิ๊ก ผมยิ่งชอบกินลาบ น้ำตกอยู่แล้วด้วย

    ถ้ามี คงไม่อดจนเกินไป เพราะสาหร่ายมันเจริญเติบโตเร็วกว่าพืชทั่วไปค่อนข้างเยอะครับ
     
  15. กัลคี

    กัลคี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2007
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +568
    ทำน้ำพริกแจ่วได้ไหมครับ
     
  16. กัลคี

    กัลคี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มกราคม 2007
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +568
    ขอเชิญร่วมทำบุญและเที่ยวงานนมัสการพระธาตุพนม 26 ม.ค. - 2 ก.พ. 2550 ณ วัดพระธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม
     
  17. Khunkik

    Khunkik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2006
    โพสต์:
    2,150
    ค่าพลัง:
    +18,072
    โอ๊ย! หมู่เอ๊ย! ทำเป็นลาบเพิ้นก็เว้าว่าแซ่บหลายแล้วเด้อ มาได้แจ่วอีก
    บ๊ะ...อีนางน้อยเอาข้าวเหนียวมาซัก 2 ติ๊บดิ มั่กหลาย...(b-inlove)
     
  18. ลุงคนเชียงใหม่

    ลุงคนเชียงใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +2,521
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2007
  19. Bajang

    Bajang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    148
    ค่าพลัง:
    +1,268
    คุณลุงครับ ภัยพิบัติ จะกินเวลายาวนานแค่ไหน กว่าจะกลับสู่สภาวะปกติครับ
     
  20. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ดังนั้นท่านที่มีความสามารถต่างๆ ดังต่อไปนี้กรุณาช่วยแจ้งไปยังคุณชยุตด้วยครับ เพื่อที่จะได้ลงข้อมูล ส่วนท่านที่อยากช่วยเผยแพร่ความรู้ต่างๆเป็นธรรมทานด้วยการช่วยสอนช่วยฝึกอบรมให้ ทุกคนทำได้ อย่างชำนาญ ทำได้ และพอทำได้ จะดีมากครับ แต่เราควรแบ่งหน้าที่เพราะไม่มีใครที่เก่งไปทุกๆอย่างครับ แต่ละคนมีความเชี่ยวชาญชำนาญ ต่างๆกันไป ทุกคนสำคัญหมด ดังนั้นความสามัคคีจึงเป็นสิ่งสำคัญครับ<!-- / message --><!-- sig -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...