เงินเฟ้อที่เพิ่มความรุนแรงขึ้นแล้ว??? รู้ทันโลก (โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน)

ยูเอ็นเตะโด่ง "ลิเบีย" จากสภาสิทธิมนุษย์ เพิ่มแรงบีบ "กัดดาฟี" ลงจากอำนาจ
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>2 มีนาคม 2554 09:24 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>



ป้ายรูปผู้นำลิเบีย มูอัมมาร์ กัดดาฟี ที่ถูกทำลาย

เอเอฟพี - สหประชาชาติระงับสมาชิกภาพของลิเบียในองค์การด้านสิทธิมนุษยชนหลักชั่วคราว เนื่องจากเหตุรุนแรงในการปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงโดยคำสั่งของผู้นำเผด็จการ มูอัมมาร์ กัดดาฟี ท่ามกลางคำเตือนจากคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นที่อาจจะวางมาตรการลงโทษเพิ่มเติม

ขณะที่ชาติตะวันตกเรียกร้องให้กำหนดเขตห้ามบินเหนือลิเบียมากขึ้นเรื่อยๆ ทูตอังกฤษประจำยูเอ็นได้เสนอว่า สภาสิทธิมนุษยชนควรจะต้องดำเนินมาตรการลงโทษใดๆ ก็ตามที่พิจารณาเห็นควรว่าจำเป็นในการตอบโต้

ที่ประชุมสภาสิทธิมนุษยชน 192 ชาติสมาชิกผ่านมติระงับสมาชิกภาพของลิเบียอย่างเป็นเอกฉันท์ โดยไม่มีการลงคะแนนเสียง ซึ่งโดยปกติจำเป็นต้องได้เสียงข้างมาก 2 ใน 3 หลังจากบันคีมุน เลขาธิการยูเอ็นกระตุ้นให้ที่ประชุมดำเนินการอย่างเด็ดขาดกับกัดดาฟี

ในระหว่างการอภิปรายเป็นเวลาสั้นๆ ไม่มีผู้ใดที่ลุกขึ้นมาพูดสนับสนุนรัฐบาลลิเบียแม้แต่คนเดียว แม้ทางเวเนซุเอลาจะกล่าวหาสหรัฐฯ ว่ากำลังวางแผนบุกรุกลิเบีย ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับสหรัฐฯ ก็ตาม

ทั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกที่สภาสิทธิมนุษยชนระงับสมาชิกภาพของประเทศสมาชิก ซึ่งซูซาน ไรซ์ ทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็นชี้ว่า การกระทำครั้งนี้เป็นข้อความเตือนอย่างโจ่งแจ้งที่ส่งถึงกัดดาฟี และผู้ที่เข้าข้างเขา ให้หยุดการสังหารประชาชน และตอกย้ำข้อเรียกร้องให้เขาลงจากอำนาจได้แล้ว

การดำเนินการครั้งนี้มีขึ้น 3 วันหลังจากคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็นประกาศใช้มาตรการลงโทษลิเบีย ซึ่งรวมถึงการห้ามการเดินทาง การยึดทรัพย์ของกัดดาฟี ครอบครัวของเขา และเจ้าหน้าที่ระดับผู้นำ ห้ามการขนส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ ตลอดจนเรียกร้องให้มีการสอบสวนความผิดฐานก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

Around the World - Manager Online -

 

“แมดอฟฟ์” พ้อแชร์ลูกโซ่ฉาวทำเหยื่อรวยตั้งมาก แต่ตัวเองติดคุกแค่คนเดียว
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>1 มีนาคม 2554 15:02 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>


เบอร์นาร์ด แมดอฟฟ์ อดีตประธานตลาดหลักทรัพย์แนสแดคและโบรกเกอร์ชื่อดังของนิวยอร์ก

เอเอฟพี - เบอร์นาร์ด แมดอฟฟ์ อดีตประธานตลาดหลักทรัพย์แนสแดก ซึ่งกำลังรับโทษอยู่ในเรือนจำด้วยความผิดฐานตั้งแชร์ลูกโซ่จำนวนมหาศาลที่สุดในประวัติของวอลล์สตรีท ให้สัมภาษณ์นิตยสารนิวยอร์ก ตัดพ้อว่าเขาทำให้ผู้คนร่ำรวยมามากมาย แต่เขากลับต้องทนทุกข์อยู่ในคุกแต่เพียงผู้เดียว

แมดอฟฟ์ วัย 72 ปี ซึ่งถูกชาวอเมริกันทั่วประเทศเรียกว่าเป็นปิศาจให้สัมภาษณ์นิตยสารฉบับดังกล่าวผ่านทางโทรศัพท์จากในคุก โดยว่าเขาถูกเข้าใจผิด และเหยื่อรายใหญ่บางคนเสียอีกที่ควรต้องตำหนิตัวเอง

“เพื่อนของผมทุกคน ลูกค้าส่วนใหญ่ของผม ลูกค้ารายบุคคล ไม่ใช่ผู้ที่สูญเสีย ผมทำเงินจำนวนมากให้กับพวกเขา ผมทำเงินคืนให้พวกเขาได้ถึง 20% แต่ผู้ที่เข้ามาในเกมนี้ช้ามากๆ ต่างหากที่เจ็บตัว แล้วยังไง ผมทำเงินจำนวนมากให้ผู้คนใช่ไหม ใช่ ผมทำเงินเป็นจำนวนมากให้ผู้คน”

ตามคำบอกเล่าของแมดอฟฟ์ ซึ่งถูกตัดสินให้รับโทษจำคุก 150 ปี ในข้อหาหลอกลวงเอาเงินของนักลงทุนไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ ระบุว่า หากแผนการตั้งแชร์ลูกโซ่วงเงินมโหฬารของเขาเสร็จสิ้น จะมีคนที่สูญเสียเงินทุนของพวกเขาเพียงน้อยนิดเท่านั้น

ในบทสัมภาษณ์ดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วยคำพูดของแมดอฟฟ์เกือบทั้งหมด แฉว่า ลูกค้าผู้ร่ำรวยของอดีตโบรกเกอร์ชื่อดังแห่งวอลล์สตรีทรายนี้รู้ดีว่าผลตอบแทนที่พวกเขาจะได้รับกลับไปนั้นมีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่พวกเขาละโมบเกินกว่าที่จะถามถึงจำนวน

“ผมไม่ได้บอกความจริงใดๆ กับพวกเขา เช่นผมตั้งปริมาณเงินไว้เท่าไร ผมไม่ตั้งใจจะให้พวกเขาเกิดความคิด และใช้ความระมัดระวัง ซึ่งพวกเขาต้องการ ผมปฏิเสธอย่างไม่มีเงื่อนไข ผมแค่บอกว่า 'ถ้าคุณไม่อยากก็เอาเงินของคุณคืนไป' ซึ่งแน่นอนพวกเขาไม่เคยทำเช่นนั้น” เขาเสริม

ยิ่งไปกว่านั้น แมดอฟฟ์ ยังไม่ได้แสดงท่าทีเสียใจต่อผู้คนนับหมื่น ที่ถูกเขาโกงเงินไปหลายหมื่นล้านดอลลาร์จากแชร์ลูกโซ่ ที่เขาใช้เงินของนักลงทุนหน้าใหม่ไปจ่ายคืนให้กับลูกค้ารายเดิมของเขา

เขากล่าวว่า ความเจ็บปวดอยู่ที่เขาคนเดียวทั้งหมด เนื่องจากเขาเก็บความลับของแผนฉ้อโกงนี้ไว้คนเดียว ไม่บอกแม้กระทั่งภรรยาของเขา โดยว่าภรรยาของเขาเสียใจกับชะตากรรมของเขา เพราะรู้ดีว่าเขาไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร

ขณะที่ลูกชาย 2 คน แอนดริว และมาร์กถึงขั้นตัดขาดความเป็นพ่อลูก และมาร์กก็ฆ่าตัวตายในนิวยอร์กเมื่อปีที่ผ่านมาด้วย

เขายอมรับว่า ในปี 2002 เขาขุดหลุมทางการเงินไว้ซึ่งไม่สามารถหลบเลี่ยงได้ เขาจึงต้องเดินหน้าแผนแชร์ลูกโซ่นี้ต่อไปเป็นเพียงทางเลือกเดียว แต่เขาก็พยายามแนะนำนักลงทุนรายย่อยแล้วให้ถอนเงินไปในขณะที่พวกเขายังมีโอกาส แต่ไม่เคยบอกเหตุผล

ทั้งนี้ นักต้มตุ๋นผู้อื้อฉาวเป็นผู้โทรศัพท์หานิตยสารนิวยอร์ก ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นความพยายามเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของเขา แม้ว่าไม่น่าจะทำให้ใครเชื่อได้ก็ตาม

นิตยสารดังกล่าวรายงานด้วยว่า แมดอฟฟ์เข้าพบจิตแพทย์ในเรือนจำ และได้รับคำวินิจฉัยว่าเขาไม่ใช่พวกต่อต้านสังคมอย่างที่หลายคนกล่าวหา

Around the World - Manager Online -

 

ผู้นำเวเนฯ ฟันธงมะกัน “เตรียมบุก” ลิเบีย-เป้าหมายคือน้ำมัน
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>1 มีนาคม 2554 13:27 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>


ฮูโก ชาเบซ ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา ประกาศเตือนสหรัฐฯ จ้องยึดน้ำมันในลิเบีย

เอเอฟพี - ฮูโก ชาเบซ ประธานาธิบดีเวเนซุเอลา พันธมิตรสุดชิดใกล้ในภูมิภาคละตินอเมริกาของ พ.อ.มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย ประกาศวานนี้ (28 ก.พ.) ว่า เขาจะไม่ประณามเพื่อนคนนี้ ซึ่งเขาไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าเป็นฆาตกรหรือไม่

ประธานาธิบดี ชาเบซ ยังตอกย้ำถึงคำเตือนของเขาว่า สหรัฐฯ ต้องการรุกรานลิเบีย เพื่อยึดครองน้ำมัน

“ตั้งแต่ทุกคนพูดกันว่า กัดดาฟี เป็นฆาตกร แล้วผมจะตอบว่าอะไรนะหรือ” ผู้นำเวเนซุเอลากล่าวปราศรัยให้บรรดานักเรียนในกรุงคาราซัสฟัง “อันที่จริง ผมไม่รู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว และจากที่นี่ (เวเนซุเอลา) ผมจะไม่ประณามเขา นั่นจะทำให้ผมเป็นคนขี้ขลาดตาขาว กัดดาฟีกับผมเป็นเพื่อนกันมานานเหลือเกิน”

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงวานนี้เช่นกัน ว่า กำลังเคลื่อนพลทั้งทางน้ำและทางอากาศ เข้าประชิดลิเบีย พื้นที่เป้าหมาย ขณะที่ชาติตะวันตกกำลังประเมินถึงความเป็นไปได้ในการส่งกำลังทหารเข้าไปยังลิเบีย และเจ้าหน้าที่ได้ถกกันถึงประเด็นการกำหนด “เขตห้ามบิน” เพื่อปกป้องชีวิตประชาชนชาวลิเบีย

“สหรัฐฯ ยอมรับออกมาแล้วว่า พร้อมบุกลิเบีย” ฮูโก ชาเบซ กล่าว “แทบทุกประเทศในยุโรปก็ร่วมประณามลิเบีย อะไรล่ะที่พวกเขาต้องการ? ก็น้ำมันในลิเบียนั่นเอง”

เมื่อวันพฤหัสบดี (24 ก.พ.) ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี ชาเบซ เพิ่งเอ่ยปากชมลิเบียถึง “ความเป็นไท” พร้อมทั้งระบุว่า มูอัมมาร์ กัดดาฟี กำลังเผชิญกับสงครามกลางเมือง

ฮูโก ชาเบซ เป็นพันธมิตรสำคัญในละตินอเมริกาของกัดดาฟี ผู้นำทั้งสองรายนี้มักประณาม “ลัทธิจักรวรรดินิยม” ของสหรัฐฯ อยู่เรื่อยมา ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นมาก ถึงขนาดมีข่าวลือว่า กัดดาฟี ได้ลี้ภัยไปยังกรุงคาราซัส เมืองหลวงของเวเนซุเอลา อย่างไรก็ตาม มีการปฏิเสธข่าวดังกล่าวในเวลาต่อมา



นักรบของกลุ่มต่อต้านรัฐบาลลิเบียควบคุมทางเข้าสนามบินเบนกาซี



กลุ่มชายฉกรรจ์ผู้ต่อต้าน มูอัมมาร์ กัดดาฟี รวมตัวกันที่ค่ายทหารในเมืองเบนกาซีวานนี้ (28 ก.พ.) เพื่อลงทะเบียนเข้าเป็นกองกำลังป้องกันพลเรือน และฝึกอาวุธต่อสู้อากาศยาน

Around the World - Manager Online -

 

กลุ่มสิทธิยิวเดือด! จวกบอยแบนด์ยุ่น “คิชิดัน” แต่งชุด “นาซี” ออกทีวี

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>1 มีนาคม 2554 11:33 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>



กลุ่มศิลปินวง "คิชิดัน" (Kishidan) ของญี่ปุ่น (ภาพ: www.gold-typhoon.com.tw)

เอเอฟพี - ศูนย์ปกป้องสิทธิชาวยิว ไซมอน วีเซ็นทัล เซ็นเตอร์ ในสหรัฐฯ เรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์ เอ็มทีวี ของญี่ปุ่นออกแถลงการณ์ขอโทษ หลังแพร่ภาพการสัมภาษณ์วงร็อกวัยรุ่นซึ่งสวมเครื่องแบบนาซี

สมาชิกทั้ง 6 คนของวง คิชิดัน (Kishidan) สวมชุดที่คล้ายกับเครื่องแบบทหารนาซีไปออกรายการ “เมกะเวคเตอร์” เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กลุ่มสิทธิชาวยิวซึ่งมีสำนักงานในลอสแองเจลิส ระบุ พร้อมแสดงอาการ “ตกใจและผิดหวัง”

“ไม่มีข้ออ้างใดๆเลยสำหรับการกระทำที่เลวร้ายนี้” แรบบี อบราฮัม คูเปอร์ ผู้ช่วยคณบดีของ ไซมอน วีเซ็นทัล เซ็นเตอร์ กล่าวระหว่างยื่นคำประท้วงถึง เอ็มทีวี-เจ, โซนี่ มิวสิค อาร์ทิสต์ส และ บริษัทจัดการ เอเว็กซ์ กรุ๊ป

“ในฐานะคนที่ไปเยือนญี่ปุ่นไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง ผมทราบดีว่า วัยรุ่นญี่ปุ่นจำนวนมากยังขาดความรู้อย่างน่าเวทนาเกี่ยวกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่จักรวรรดิญี่ปุ่นได้สร้างไว้กับเอเชียเมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 อย่าว่าแต่แผนแก้ปัญหาชาวยิวครั้งสุดท้าย (Final Solution) ที่นาซีทำกับชาวยิวในยุโรปเลย”

“แต่องค์กรระดับโลกอย่าง เอ็มทีวี และ โซนี่มิวสิค ควรจะทราบเรื่องดังกล่าวดีกว่าเด็กพวกนั้น”

คิชิดัน เป็นวงศิลปินร็อครุ่นใหม่ที่มักสวมชุดคล้ายเครื่องแบบนักศึกษาญี่ปุ่น แต่ขณะที่ไปร่วมรายการเมกะเวคเตอร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สมาชิกทุกคนสวมชุดทหารสีเข้ม ประดับสัญลักษณ์ที่เกี่ยวพันกับนาซี เช่น กางเขนเหล็ก, กะโหลกไขว้ (Tontenkopf), และ นกอินทรี แต่ไม่ปรากฎเครื่องหมายสวัสดิกะ

คูเปอร์ ย้ำว่า “เครื่องแต่งกายที่วง คิชิดัน สวมในวันนั้น จะไม่เป็นที่ยอมรับในนานาอารยประเทศแห่งใดนอกญี่ปุ่นเลย”

“แม้ประเทศประชาธิปไตยจะพยายามต่อสู้กับความดื้อรั้น, การเหยียดเชื้อชาติ และอาชญากรรมความเกลียดชังสักเท่าใดก็ตาม ก็จะยังมีเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งที่ยึดติดกับค่านิยมเหยียดเชื้อชาติและสัญลักษณ์ของนาซี ดังเช่นเครื่องแบบที่วง คิชิดัน สวมใส่”

“ชาวญี่ปุ่นหรือใครก็ตามที่คิดว่าการโฆษณาแบบนี้เป็นเพียงวิธีแสดงความเป็นกบฎของวัยรุ่น ก็คิดผิดอย่างมาก” คูเปอร์ กล่าว

กลุ่มปกป้องสิทธิชาวยิวเรียกร้องให้วง คิชิดัน และผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดออกมาขอโทษ ทั้งยังขู่ว่าจะนำผู้รอดชีวิตจากเหตุสังหารหมู่มายังญี่ปุ่น “เพื่อให้ เอ็มทีวี ได้ลองสัมภาษณ์ผู้ที่เคยใช้ชีวิตวัยรุ่นอย่างอดอยาก, ขาดแคลน, ถูกทรมาน และต้องเห็นครอบครัวถูกสังหาร เพียงเพราะ “ผิด” ที่เกิดมาเป็นคนยิว”

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000026508

 

กัดดาฟีหลงคิด ปชช.ทั้งประเทศยังรัก เมินทั่วโลกกดดันลงจากอำนาจ
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>1 มีนาคม 2554 10:52 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>


มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำเผด็จการของลิเบีย

เอเอฟพี - มูอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำเผด็จการของลิเบียให้สัมภาษณ์สื่อนอก ระบุ “ประชาชนทั้งประเทศยังรักผม” โดยเมินแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากทั่วโลกให้เขาลงจากตำแหน่ง และอาจต้องลี้ภัยไปต่างแดน หลังครองอำนาจมานานกว่า 40 ปี

“พวกเขารักผม ประชาชนทั้งประเทศกับผม พวกเขารักผมทั้งหมด พวกเขาจะตายเพื่อปกป้องผม” ผู้นำลิเบียกล่าวเป็นภาษาอังกฤษกระท่อนกระแท่น ในระหว่างให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์เอบีซีของสหรัฐฯ สำนักข่าวบีบีซีของอังกฤษ และเดอะไทมส์ของลอนดอน

กัดดาฟี ซึ่งนั่งให้สัมภาษณ์ในกรุงตริโปลียังกล่าวอ้างว่า ไม่มีผู้ชุมนุมประท้วงบนท้องถนนต่อต้านรัฐบาลของเขาแล้ว พร้อมตอบข้อซักถามเกี่ยวกับความคิดที่จะงัดอาวุธชีวภาพออกมาใช้เพื่อยึดครองอำนาจต่อไปว่า เขากำจัดอาวุธเหล่านั้นทิ้งไปหมดแล้ว

นอกจากนี้ กัดดาฟี ยังกล่าวโจมตีตอบโต้ข้อเรียกร้องของสหรัฐฯ ที่ต้องการให้เขาลาออก อันเนื่องมาจากความไม่พอใจในการปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงอย่างนองเลือด

“นี่เป็นการทรยศ พวกเขาไม่มีศีลธรรมเลย ผมประหลาดใจที่เรามีพันธมิตรชาติตะวันตกเพื่อต่อสู้กับกลุ่มอัลกออิดะห์ และตอนนี้เรากำลังสู้กับผู้ก่อการร้าย แต่พวกเขากลับทอดทิ้งเรา” เขากล่าว โดยว่า “บางทีพวกเขาคงต้องการยึดครองลิเบีย”

เอบีซี รายงานเสริมว่า กัดดาฟี ยังยืนกรานที่จะไม่ลงจากอำนาจ เนื่องจากเขาไม่ได้เป็นทั้งประธานาธิบดี หรือกษัตริย์ ทั้งยังท้าทายผู้ที่บอกว่าเขาซุกซ่อนเงินไว้ในต่างประเทศ ให้หาหลักฐานมาพิสูจน์

ผู้นำลิเบียยังได้เชิญสหประชาชาติ และองค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ ให้เข้าไปติดตามค้นหาความจริงในประเทศของเขาด้วย

ด้าน เจเรมี โบเวน นักข่าวจากบีบีซีเผยว่า การสัมภาษณ์ผู้นำลิเบียมีขึ้นที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงตริโปลี โดยกัดดาฟีมีท่าทีผ่อนคลายตั้งแต่เริ่มต้นจนจบการสัมภาษณ์

กัดดาฟีหัวเราะกับคำถามที่ว่าเขาจะยอมทำตามข้อเรียกร้องให้ลงจากตำแหน่งหรือไม่ โดยว่าทำไมเขาจะต้องออกจากประเทศของตัวเอง และกล่าวหาว่ากลุ่มผู้ประท้วงที่ก่อความไม่สงบนั้นเป็นเพียงผู้อยู่ใต้อิทธิพลของยาเสพติด ที่ได้รับมาจากบุคคลภายนอก ซึ่งก็คือ กลุ่มอัลกออิดะห์

เขาเสริมว่า ผู้คนจับอาวุธขึ้นต่อต้านรัฐบาล แต่ผู้สนับสนุนเขาได้รับคำสั่งไม่ให้ยิงตอบโต้กลุ่มผู้ประท้วงเหล่านี้ แม้จะมีพยาน ที่อยู่ในเหตุการณ์ยืนยันว่ากองกำลังของกัดดาฟีนั้นโจมตีผู้ชุมนุมด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิดในเมืองอับจาบิยา ทางใต้ของกรุงตริโปลีก็ตาม

Around the World - Manager Online -

 

วันที่ 2 มีนาคม 2554 09:56
ทองรูปพรรณแตะ21,000สูงเป็นประวัติการณ์

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



ทองพุ่ง 150 บาท รูปพรรณวันนี้ขายออกบาทละ 21,000 บาท ทองแท่งขายออก 20,600 บาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์

สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทอง 96.5% ประจำวันที่ 2 มีนาคม 2554 ทองคำแท่งรับซื้อคืนบาทละ 20,500 บา ขายออก 20,600 บาท ทองรูปพรรณรับซื้อคืนบาทละ 20,208.28 บาท ขายออก 21,000 บาท เพิ่มขึ้น 150 บาท เทียบปิดตลาดวานนี้ (1 มี.ค.)

 

วันที่ 2 มีนาคม 2554 07:45

ฮืออา!ซุกงบช่วยแรงงานไทยในลิเบียออกทีวี5ล้าน-ค่าสงเคราะห์300ล้าน

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

เปิดงบช่วยแรงงานไทยในลิเบีย 746 ล้าน ฮือฮา!กระทรวงแรงงาน ซุกค่าออกทีวีแจงผลงาน 5 ล้าน ค่าสงเคราะห์แรงงาน 300 ล้าน
<SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.1 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&lmt=1299035709&num_ads=3&channel=8724309246&ad_type=text&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.0.45.2&url=http%3A%2F%2Fwww.bangkokbiznews.com%2Fhome%2Fdetail%2Fpolitics%2Fpolitics%2F20110302%2F379756%2F%E0%B8%AE%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%B2!%E0%B8%8B%E0%B8%B8%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%9A%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B55%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B9%8C300%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99.html&dt=1299035709109&shv=r20101117&jsv=r20110208&saldr=1&correlator=1299035709125&frm=0&adk=2393667399&ga_vid=2038098380.1238053350&ga_sid=1299035593&ga_hid=1687064925&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=14&u_java=1&u_h=768&u_w=1024&u_ah=738&u_aw=1024&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1007&bih=603&ref=http%3A%2F%2Fwww.bangkokbiznews.com%2Fhome%2F&fu=0&ifi=1&dtd=16"></SCRIPT> ทำนียบรัฐบาล- รายงานข่าวแจ้งว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ กระทรวงแรงงานได้รายงานความคืบหน้าในการช่วยเหลือคนงานในลิเบีย ว่าแรงงานในไทยในลิเบียมีประมาณ 25,000 คน โดย 20,000 คนอยู่ในทริโปลี เบงกาซี บางส่วนกระจายอยู่รอบๆ ขณะนี้ทางกระทรวงเตรียมการเคลื่อนย้ายแรงงานไทยโดยทางเรือ ซึ่งเช่าเหมาลำจากกรุงโรม ประเทศอิตาลี เดินทางไปรับแรงงานไทยที่กรุงทริโปลี และเดินทางต่อไปยังประเทศกรีซ หรือตุรกี จากนั้นจะเดินทางโดยเครื่องบินโดยสารกลับไทย นอกจากนี้ยังมีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือแรงงานไทยชั่วคราว ที่ประเทศอิตาลี กรีซ ตุรกี อิยิปต์ก่อนจะส่งกลับไทย พร้อมกันนี้ได้ขอรับการจัดสรรงบประมาณจากงบกลางประจำปี 2554 จำนวน 343,489,000 บาท เพื่อใช้ในการช่วยเหลือแรงงานไทย
รายข่าวแจ้งว่า รายละเอียดค่าใช้จ่ายที่กระทรวงแรงงานเสนอ ส่วนใหญ่เป็นค่าใช้จ่ายสงเคราะห์แรงงานไทยที่กลับจากลิเบีย คนละ 15,000 คน จำนวน 20,000 คน เป็นเงิน 300 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายอาหารสำหรับแรงงานที่กลับจากลิเบีย จำนวน 1 มื้อ และค่าพาหนะเพื่อกลับภูมิลำเนา ประเภทเหมาจ่าย คนละ 1,500 บาท จำนวน 20,000 คน เป็นเงิน 30 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมี ค่าจ้างเหมารถบัสขนาด 40 ที่นั่ง จำนวน 5 คันๆละ 20,000 บาท ระยะเวลา 30 วัน เป็นเงิน 3 ล้านบาท ค่าออกข่าวเผยแพร่ความคืบหน้าในการช่วยเหลือแรงงานไทยในลิเบียทางวิทยุ โทรทัศน์ จำนวน 10 ครั้งๆละ 5 แสนบาท รวมเป็นเงิน 5 ล้าน ค่าโทรศัพท์ระหว่างประเทศเพื่อติดต่อประสานงานแรงงานไทยในลิเบีย จำนวน 1,296,000 บาท
ส่วนงบประมาณที่กระทรวงการต่างประเทศ ขออนุมัติจำนวน 403 ล้านบาทนั้น ส่วนใหญ่เป็นค่าเช่าเรือ และค่าเช่าเครื่องบินเอกชนขนส่งคนไทย นอกจากนั้นเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งศูนย์พักพิงคนไทยเป็นการชั่วคราว ค่าใช้จ่ายสำหรับที่พักอาหาร เป็นต้น รวมงบประมาณสองกระทรวงเป็นจำนวน 746,489,000 บาท โดย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี สั่งให้ทั้งสองกระทรวงไปหารือกับสำนักงบประมาณอีกครั้ง

 

วันที่ 2 มีนาคม 2554 06:39

ยูเอ็นถอดลิเบียจากคณะมนตรีความมั่นคง

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



สมัชชาใหญ่ยูเอ็น มีมติระงับสมาชิกภาพคณะมนตรีความมั่นคงของลิเบีย หลังกัดดาฟียังเดินหน้าใช้กำลังกวาดล้างกลุ่มผู้ประท้วง
<SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.1 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&lmt=1299035853&num_ads=3&channel=8724309246&ad_type=text&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.0.45.2&url=http%3A%2F%2Fwww.bangkokbiznews.com%2Fhome%2Fdetail%2Fpolitics%2Fworld%2F20110302%2F379785%2F%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%96%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%93%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%87.html&dt=1299035853091&shv=r20101117&jsv=r20110208&saldr=1&correlator=1299035853106&frm=0&adk=2393667399&ga_vid=2038098380.1238053350&ga_sid=1299035593&ga_hid=1766990741&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=14&u_java=1&u_h=768&u_w=1024&u_ah=738&u_aw=1024&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1007&bih=603&ref=http%3A%2F%2Fwww.bangkokbiznews.com%2Fhome%2F&fu=0&ifi=1&dtd=31"></SCRIPT>ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) มีมติเมื่อวานนี้ (1 มี.ค.) ระงับสมาชิกภาพคณะมนตรีความมั่นคงของลิเบีย หลังนายบัน คี มูน เลขาธิการยูเอ็น เรียกร้องให้ที่ประชุมดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย
นอกจากนี้ คณะมนตรีความมั่นคง ของยูเอ็น ก็ออกมาเรียกร้องในเรื่องดังกล่าวเช่นกัน
ระหว่างการหารือในช่วงเวลาสั้น ไม่มีผู้แทนจากชาติสมาชิกทั้ง 192 ประเทศ ลุกขึ้นมาโต้แย้งให้กับลิเบียแต่อย่างใด มีแต่เวเนซุเอลา ที่เรียกร้องให้นานาชาติ ยุติแผนการใช้กำลังทหารต่อลิเบีย โดยกล่าวหาสหรัฐว่า เป็นแกนนำในความพยายามดังกล่าว
ขณะที่นางซูซาน ไรซ์ ทูตสหรัฐประจำยูเอ็นตอบโต้ท่าทีของเวเนซุเอลา ว่า จงใจบิดเบือนความจริงอย่างน่าเกลียด

 

วันที่ 2 มีนาคม 2554 05:57
วาทะเบอร์นันเก้ฉุดหุ้นสหรัฐดิ่ง

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


หุ้นสหรัฐดิ่งลงอย่างหนัก หลังเบน เบอร์นันเก้ เตือนราคาน้ำมันสูงอาจทำให้เกิดเงินเฟ้อ กระทบการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายวานนี้ (1 มี.ค.)ดิ่งลง 170.67 จุด (1.40%) มาอยู่ที่ 12,055.67 จุด ขณะดัชนีเอส แอนด์ พี 500 ร่วงลง 20.82 จุด (1.57%) ที่ 1,306.40 จุด และดัชนีแนสแด็กลดลง 46.39 จุด (1.67%)มาอยู่ที่ 2,735.88 จุด
ตลาดตกอยู่ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับสถานะทางเศรษฐกิจของสหรัฐ หลังนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ขึ้นให้ข้อมูลต่อคณะกรรมมาธิการภาคธนาคาร วุฒิสภาสหรัฐว่า ราคาน้ำมัน และสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ที่ทะยานอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลคุกคามต่อทั้งการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และเสถียรภาพด้านราคาโดยรวม
อย่างไรก็ดี นายเบอร์นันเก้ ประเมินว่า เงินเฟ้อจะทะยานขึ้นชั่วคราวเท่านั้น ทั้งยังเชื่อว่า เศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวขึ้น แต่ไม่มากพอที่จะลดตัวเลขว่างงาน ที่ปัจจุบันอยู่ในระดับ 9% ลงมาได้

 

วันที่ 2 มีนาคม 2554 01:00
<DD class=columnist-name>กาแฟดำ </DD>ไทยต้องปรับให้ทันกับ คลื่นยักษ์การเมืองในโลกอาหรับ

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

ความวุ่นวายทางการเมืองในตะวันออกกลาง และแอฟริกาเหนือ จะไม่จบลงง่ายๆ และทำท่าว่าจะลามออกไปกว้างไกลกว่าที่เห็นอยู่วันนี้...

จึงเป็นประเด็นที่จะต้องทำให้ประเทศไทย วางแผนเตรียมรับมือกับความไม่แน่นอนที่ยืดเยื้อพอสมควร
การลุกฮือของมวลชนในอาหรับครั้งนี้ มีทั้งบทเรียนด้านการเมืองที่ลุ่มลึก และผลพวงทางด้านเศรษฐกิจที่กว้างไกลที่เราจะมองข้ามไม่ได้เลย เพราะสิ่งที่จะตามมาหมายถึงความเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างพื้นฐานทางการเมืองที่กว้างไกล และสามารถสร้างความสั่นสะเทือนให้กับโลกได้ไม่น้อย
ราคาน้ำมันที่ทำท่าจะพุ่งพรวดพราด เพราะหลายประเทศที่กำลังเผชิญกับการท้าทายของประชาชน ที่ต้องการเห็นความเปลี่ยนแปลงในกลุ่มผู้มีอำนาจที่ผูกขาดอำนาจมาช้านานนั้น เป็นเพียงส่วนหนึ่งของปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น
ลุ่มลึกและน่าวิเคราะห์กว่านั้น คือ การเปลี่ยนแปลงของดุลแห่งอำนาจทางการเมืองระหว่างตะวันตก ตะวันออกกลาง และโลกอาหรับ ซึ่งย่อมแปลว่าผลที่ตามมาจะกระทบต่อทุกประเทศในโลก ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม
โลกอาหรับที่กำลังเผชิญกับการเรียกร้องของประชาชนที่ไม่อาจจะยอมรับผู้มีอำนาจยุคเก่าได้นั้นมีทั้งที่มีน้ำมันและที่ไม่มีน้ำมัน ซึ่งทำให้เกิดความแตกต่างในพื้นฐานทางเศรษฐกิจ มีทั้งที่รุ่มรวยแต่ปกครองอย่างเผด็จการ และที่ยากจนแต่ประชาชนไร้สิทธิเสียงในการกำหนดชะตากรรมของตนเอง
ที่เป็นปัญหาละม้ายคล้ายกันหมด คือ ปัญหาคอร์รัปชันอันเกิดจากการที่ประชาชน ไม่มีกลไกของการตรวจสอบคนที่มีอำนาจปกครองประเทศ และยิ่งเมื่อผสมกับปัญหาที่หนุ่มสาวไม่มีงานทำ และปากท้องที่หิวโหย นั่นย่อมเป็นการจุดประกายให้เกิดการเรียกร้องให้มีการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ประชาชนมีเสรีภาพทางการเมือง เพื่อกำหนดอนาคตของตนเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ไม่ว่าจะเป็นตูนิเซีย อียิปต์ เยเมน บาห์เรน แอลจีเรีย จอร์แดน โมร็อกโก อิรัก หรือลิเบีย ปมปัญหาที่ทำให้มวลชนลุกฮือขึ้นมาต่อสู้อย่างไม่กลัวอำนาจทางการเมืองอย่างที่เป็นมาหลายสิบปีนั้นมีสาเหตุไม่ต่างกัน...นั่นคือ ไม่ว่าตนจะมีน้ำมันหรือไม่ ไม่ว่าเศรษฐกิจจะดีหรือเลว แต่ความอดทนต่ออำนาจเบ็ดเสร็จของผู้นำทั้งหลายนั้นได้ขาดสะบั้นลง และไม่มีทางจะเป็นอย่างอื่นไปได้ นอกจากจะต้องมีความเปลี่ยนแปลงอย่างถอนรากถอนโคน
ความแตกต่างระหว่างฮอสนี มูบารัก ของอียิปต์กับโมอัมมาร์ กัดดาฟี อาจจะอยู่ตรงที่ว่าทหารของสองประเทศนี้ปฏิบัติต่อประชาชนของตนแตกต่างกัน (ทหารอียิปต์ไม่ยิงใส่ผู้ประท้วงขณะที่ทหารลิเบียยิงกราดใส่ประชาชนจากเครื่องบินรบ) แต่อารมณ์ความรู้สึกของประชาชนที่ต้องการเห็น "รุ่งอรุณใหม่" ของสังคมตนเองไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
ดังนั้น จากมุมมองของไทยเรา นี่คือ จุดผันแปรที่สำคัญยิ่ง และผลที่ตามมาจะกระทบต่อเราทั้งทางตรงและทางอ้อม ทั้งด้านเศรษฐกิจในรูปของราคาน้ำมัน (ในระยะสั้น) และจุดยืนของเราทางการเมือง (ซึ่งจะมีผลพวงในระยะยาว)
จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลไทยจะต้องวางกลไกของการประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์ของโลกอาหรับอย่างใกล้ชิด รอบด้านและลุ่มลึกในทุก ๆ มิติ มิใช่เพียงแค่ประเด็นเรื่องราคาน้ำมันหรือความเป็นตลาดแรงงานของไทยเท่านั้น
แต่ไทยยังจะต้องมองให้กว้างไกล ไปถึงความสัมพันธ์ของเราต่อคนรุ่นใหม่ และแนวคิดการเมืองก้าวหน้าของคนกลุ่มต่างๆ ในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ เพื่อจะได้สามารถดำเนินนโยบายต่างประเทศให้สอดคล้องกับผลประโยชน์ของประเทศอย่างพลาดไม่ได้แม้แต่จังหวะเดียว
ไทยจะต้องประกาศจุดยืนอยู่ข้างการเรียกร้องประชาธิปไตย และการเปิดโอกาสให้ประชาชนที่ถูกปิดกั้นในแง่เสรีภาพทางการเมืองมาหลายสิบปี แทนที่จะเกาะติดอยู่กับกลุ่มอำนาจเก่า ที่กอบโกยผลประโยชน์จากการมีอำนาจรวมศูนย์มาตลอดหลายทศวรรษ

 

ราคายางเป็นขาลงแล้วครับ


<TABLE width="98%" align=center><TBODY><TR><TD height=23 width="80%">

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]ความเคลื่อนไหวราคายางชนิดต่างๆ (Thailand rubber price)[/FONT]​

</TD><TD height=23 width="50%">

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]เดือน มีนาคม 2554 [/FONT]​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%"><TBODY><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22 rowSpan=2 width=182>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]วัน/เดือน/ปี[/FONT]​

</TD><TD bgColor=#ffcc66 height=22 colSpan=2>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]ท้องถิ่น[/FONT]​

</TD><TD bgColor=#ffcc66 height=22 colSpan=3>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]ราคาประมูล ณ ตลาดกลางยางพารา อ.หาดใหญ่[/FONT]​

</TD><TD bgColor=#ffcc66 height=22 rowSpan=2 width=133>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]FOB.
(Bangkok) [/FONT]​

</TD></TR><TR><TD bgColor=#ffcc66 height=22 width=103>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]ยางแผ่นดิบ[/FONT]​

</TD><TD bgColor=#ffcc66 height=22 width=98>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]น้ำยางสด[/FONT]​

</TD><TD bgColor=#ffcc66 height=22 width=104>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]ยางแผ่นดิบ[/FONT]​

</TD><TD bgColor=#ffcc66 height=22 width=116>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]ยางแผ่นรมควัน ชั้น3[/FONT]​

</TD><TD bgColor=#ffcc66 height=22 width=106>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]น้ำยางสด[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]1 มีนาคม 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]160.70[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]140.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]166.40[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]165.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]142.50[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]186.25[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]28 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]159.20[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]145.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]162.52[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]168.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]147.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]189.25[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]25 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]170.10[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]158.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]171.62[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]176.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]159.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]192.05[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]24 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]172.10[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]160.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]173.30[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]177.59[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]165.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]195.05[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]23 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]176.25[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]166.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]177.30[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]178.75[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]168.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]196.05[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]22 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]179.40[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]168.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]180.09[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]185.88[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]170.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]197.80[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]21 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]181.90[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]166.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]183.64[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]189.74[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]169.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]198.55[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]17 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]180.50[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]159.50[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]183.28[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]189.01[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]162.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]196.55[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]16 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]179.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]158.50[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]180.79[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]185.79[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]161.50[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]196.05[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]15 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]179.70[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]158.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]181.51[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]186.79[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]161.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]196.05[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]14 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]179.10[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]155.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]180.79[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]187.28[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]158.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]194.55[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]11 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]177.40[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]151.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]179.40[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]186.14[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]153.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]193.55[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]10 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]175.50[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]150.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]178.57[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]184.95[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]152.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]190.05[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]9 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]173.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]148.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]174.72[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]181.70[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]151.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]188.05[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]8 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]171.50[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]147.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]172.70[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]179.69[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]150.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]186.05[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]7 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]170.50[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]147.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]171.69[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]179.16[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]150.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]184.30[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]4 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]166.60[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]141.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]168.31[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]177.64[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]144.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]184.30[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]3 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]164.20[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]138.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]166.23[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]174.92[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]141.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]180.80[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]2 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]162.75[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]138.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]165.24[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]171.68[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]140.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]178.80[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffcc><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]1 กุมภาพันธ์ 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]161.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]139.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]162.70[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]162.70[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]141.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]178.05[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]31 มกราคม 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]160.50[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]138.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]163.08[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]169.06[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]140.50[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]178.05[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]28 มกราคม 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]158.25[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]132.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]160.66[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]167.09[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]134.50[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]176.80[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]27 มกราคม 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]158.75[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]131.50[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]161.19[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]167.89[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]134.00[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]178.30[/FONT]​

</TD></TR><TR bgColor=#ffffff><TD height=20>

[FONT=MS Sans Serif, AngsanaUPC]26 มกราคม 2554[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]157.70[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]130.50[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]158.93[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]164.05[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]131.50[/FONT]​

</TD><TD height=20>

[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]178.30[/FONT]​

</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="98%" align=center height=40><TBODY><TR><TD height=40>[FONT=Tahoma, MS Sans Serif, AngsanaUPC]หน่วย : บาท
แหล่งข้อมูล : สำนักตลาดกลางยางพารา อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
FOB (Bangkok) ส่งมอบล่วงหน้า 1 เดือน[/FONT]</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

วันที่ 1 มีนาคม 2554 09:51

อังกฤษหนุนแผนเขตห้ามบินเหนือลิเบีย

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



อังกฤษหนุนแผนการกำหนดเขตห้ามบินทางทหารเหนือน่านฟ้าลิเบีย พร้อมถอนเอกสิทธิ์การทูตครอบครัวกัดดาฟี
<SCRIPT type=text/javascript> google_ad_channel = '8724309246'; //slot number google_ad_type = 'text'; //media image, text, html, flash google_max_num_ads = '3'; //amount Ads //google_image_size = '338X280'; //google_skip = '3'; var ads_ID = 'Google-adsense-indetail'; // set ID for main Element div var displayBorderTop = false; // default = false; //var displayLandScape = true; // false=Default, true=landscape *** if set Landscape not arrow ad type image var position_ad_detail ='in'; // ''=Default, in=Intext, under=TextUnderDetail </SCRIPT><SCRIPT src="http://www.bangkokbiznews.com/home/main/js/adsense/AdsenseJS.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/show_ads.js" type=text/javascript></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/js/r20101117/r20110208/show_ads_impl.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><SCRIPT language=JavaScript1.1 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?client=ca-pub-1044823792492543&output=js&lmt=1299036383&num_ads=3&channel=8724309246&ad_type=text&adtest=off&ea=0&feedback_link=on&flash=10.0.45.2&url=http%3A%2F%2Fwww.bangkokbiznews.com%2Fhome%2Fdetail%2Fpolitics%2Fworld%2F20110301%2F379593%2F%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%A4%E0%B8%A9%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%9C%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%95%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2.html&dt=1299036383815&shv=r20101117&jsv=r20110208&saldr=1&correlator=1299036383831&frm=0&adk=2393667399&ga_vid=2038098380.1238053350&ga_sid=1299035593&ga_hid=2003502388&ga_fc=1&u_tz=420&u_his=15&u_java=1&u_h=768&u_w=1024&u_ah=738&u_aw=1024&u_cd=32&u_nplug=0&u_nmime=0&biw=1007&bih=603&eid=36815003&ref=http%3A%2F%2Fwww.bangkokbiznews.com%2Fhome%2Fnews%2Fpolitics%2Fworld%2Fnews-list-1.php&fu=0&ifi=1&dtd=31"></SCRIPT> เว็บไซท์หนังสือพิมพ์ เดอะ การ์เดียน ของอังกฤษ รายงานว่า อังกฤษกำลังอยู่ระหว่างการทำงานตามแผนการกำหนดเขตห้ามบินทางทหารเหนือน่านฟ้าลิเบีย และกำลังพิจารณาว่า จะติดอาวุธให้กับกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลทางตะวันออกของประเทศหรือไม่
ทั้งนี้ นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีแถลงต่อสภาผู้แทนราษฎรว่า สหราชอาณาจักรกำลังใช้มาตรการโดดเดี่ยวระบอบกัดดาฟี่ ที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งแอฟริกาเหนือ และตะวันออกกลาง เป็นศูนย์กลางของวิกฤติการณ์ ที่กำลังลุกลามไปทั่วภูมิภาค ที่ความหวังและความปรารถนาที่ถูกกดเอาไว้มานานหลายทศวรรษ ได้ถูกปลุกเร้าขึ้นมา
ผู้นำอังกฤษ กล่าวด้วยว่า ได้ขอให้กระทรวงกลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก ทำงานร่วมกับบรรดาพันธมิตรทางทหารของสหราชอาณาจักร เกี่ยวกับแผนการกำหนดเขตห้ามบินทางทหารในลิเบีย และรัฐบาลอังกฤษอาจพิจารณาติดอาวุธให้กับฝ่ายต่อต้านรัฐบาล หลังมีการใช้ความรุนแรงเข้ากวาดล้างผู้ประท้วง
ด้านนางแคทเธอรีน แอชตัน หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป(อียู) แถลงว่า กำลังมีหารือเรื่องกำหนดเขตห้ามบิน ขณะที่นายฟรังโก ฟรัตตินี่ รัฐมนตรีต่างประเทศของอิตาลี ระบุว่า คณะรัฐมนตรีของยุโรป ได้ยกประเด็นเรื่องกำหนดเขตห้ามบินขึ้นมาหารือกับนางฮิลลารี่ คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐหลายคน กำลังวิตกว่า การลงมติว่าด้วยการกำหนดเขตห้ามบินเหนือน่านฟ้าลิเบีย ในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ อาจจะไม่ได้ผ่านไปได้ง่าย ๆเพราะอาจถูกขวางจากจีนและรัสเซีย
นายคาเมรอน ยืนยันว่า อังกฤษสนับสนุนการใช้มาตรการคว่ำบาตรที่ได้รับความเห็นชอบจากชาติสมาชิกอียู ที่รวมถึงการคว่ำบาตรการค้าอาวุธ อายัดทรัพย์และยกเลิกวีซ่าครอบครัวกัดดาฟี่ และคนใกล้ชิด ทั้งยังประกาศว่าจะใช้ทุกวิถีทาง ในการเพิ่มแรงกดดันให้กับระบอบกัดดาฟี่ เพราะไม่อาจอดทนต่อการใช้กำลังทหารเข้าปราบปรามประชาชนได้อีกต่อไป
นอกจากนี้ ยังมีการเพิกถอนเอกสิทธิ์คุ้มครองทางการทูตของผู้นำลิเบียและสมาชิกในครอบครัวที่เคยเดินทางเข้าสหราชอาณาจักรได้อย่างเสรี และยังระงับวีซ่าสำหรับบรรดาคนใกล้ชิดกับรัฐบาลลิเบียอีกด้วย
ผู้นำอังกฤษ ยอมรับด้วยว่า ได้รับบทเรียนเกี่บวกับการใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำ และทรัพย์สินทางทหารในอนาคต เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหลายประเทศโลกอาหรับ ทำให้มองเห็นโอกาสที่จะต้องทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับภูมิภาคแห่งนี้ และได้ยกย่องกองทัพ ที่ช่วยเหลือชาวอังกฤษราว 600 คน ที่ติดอยู่ในลิเบีย และเหลือไม่ถึง 150 คน แต่ส่วนใหญ่ยังไม่ต้องการเดินทางออกจากลิเบีย ทั้งยังบอกด้วยว่า เครื่องบินลำเลียง ซี - 130 เฮอร์คิวลิส ของกองทัพอากาศที่เข้าไปช่วยอพยพคนงานที่ฐานขุดน้ำมันในทะเลทรายของลิเบีย ได้รับความเสียหายเล็กน้อย หลังจากถูกโจมตีด้วยอาวุธขนาดเล็ก

 

วันที่ 2 มีนาคม 2554 06:00
เชิงอรรถ 'มะลิปฏิวัติ' ดอกเก่าร่วงไป ดอกใหม่ผลิบาน

โดย : สุดา มั่งมีดี



ชาวอียิปต์หลายพันคนชุมนุมที่จตุรัสตาหะรี

ปฏิวัติดอกมะลิจากมือหนุ่มสาวโลกอาหรับ เพราะต้องการล้มอำนาจเก่า แล้ว"อำนาจเก่า"ทำอะไรพวกเขา จึงต้องใช้เครื่องมือใหม่ในโลกออนไลน์ประกาศสงคราม

โมฮัมเหม็ด บูอาซีซี วัย 26 ปี จุดไฟเผาตัวเองในเมืองซิดบูซิดของตูนิเซียเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว เพื่อประท้วงอัตราว่างงานที่สูง เขาเป็นหนึ่งในบัณฑิตที่จบการศึกษามาหลายปีแล้วแต่ยังหางานทำไม่ได้ จนกระทั่งต้องมาตั้งแผงขายผักแต่ตำรวจก็มาจับเขาฐานตั้งแผงโดยไม่ได้รับอนุญาต

ภาพอันน่าสยดสยองของบูอาซีซีในเปลวเพลิงบริเวณจตุรัสประจำเมือง จุดชนวนการจลาจลในตูนีเซียจนประธานาธิบดีซีเน เอล-อัลบิดีน เบน อาลี ต้องหนีออกนอกประเทศเมื่อกลางเดือนมกราคม หลังจากอยู่ในอำนาจมานานถึง 23 ปี
การเสียชีวิตของบูอาซีซีและ "การปฏิวัติจัสมิน" (The Jusmin Revolution) ในตูนิเซีย ก่อให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ไปทั่วโลกอาหรับ ด้วยการที่คนอย่างน้อย 7 รายในหลายประเทศจุดไฟเผาตัวเอง รายหนึ่งในแอลจีเรียหลังจากไม่ประสบความสำเร็จในการขอเข้าพบผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่อร้องเรียนเรื่องงานและที่อยู่ รายหนึ่งเป็นชายชาวอียิปต์ที่ขัดสนทางการเงินและจุดไฟเผาตัวเองหน้าสภา

บาฮีย์ เอลดิน ฮัสซัน ผู้อำนวยการสถาบันศึกษาสิทธิมนุษยชนในกรุงไคโร แสดงความเห็นว่าเมื่อไม่มีช่องทางในการยื่นคำร้องเรียน คนก็เลยต้องจุดไฟเผาตัวเอง กว่าจะมาถึงจุดนี้พวกเขาผ่านความอยุติธรรมมามากมาย นี่อาจเป็นครั้งแรกที่โลกอาหรับได้เห็นการเผาตัวเองเลียนแบบกัน แต่ความขมขื่นใจนั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นครั้งแรกเพราะความเจ็บช้ำน้ำใจเหล่านี้เป็นปมค้างคามาหลายปีแล้ว

"ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมามีการฆ่าตัวตาย โดยมีสาเหตุจากความยากจน มีผู้ชายคนหนึ่งผูกคอตายที่สะพานคาส เอล-นิลเมื่อปีที่แล้ว" ฮัสซันอธิบาย

สาเหตุที่อยู่เบื้องหลังการแสดงออกซึ่งเริ่มจากการเผาตัวเอง ไปเป็นการจัดชุมนุมประท้วงในโลกอาหรับ น่าจะคล้ายคลึงกัน นั่นคือการเรียกร้องขอสิทธิในการเลือกผู้นำ และสิทธิในการเปลี่ยนตัวผู้นำ หากผู้นำคนนั้นไม่สามารถบริหารประเทศได้อย่างที่ประชาชนต้องการ สาเหตุอีกประการหนึ่งคือต้องการผู้มีอำนาจมาช่วยยุติพฤติกรรมคอร์รัปชัน และขอให้รัฐบาลสร้างโอกาสในการหางานทำแก่ประชาชน
ยัสเซอร์ อับดีห์ และอันจาลี การ์จ นักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารโลก เขียนไว้เมื่อเร็วๆ นี้ว่า น่าประหลาดใจที่อัตราว่างงานในตะวันออกกลางและภูมิภาคแอฟริกาเหนือ ดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นพร้อมกับการศึกษาที่มีมากขึ้น อย่างในอียิปต์ ผู้สำเร็จการศึกษาระดับมหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในช่วง 2-3 ทศวรรษที่ผ่านมา แต่การตรวจสอบระบบการศึกษาพบว่ามีบัณฑิตล้นเกินโดยเฉพาะด้านมนุษศาสตร์และสังคมศาสตร์ ขณะที่ภาคธุรกิจบ่นว่าหาคนงานที่มีทักษะอย่างที่ต้องการไม่ได้

รายงานของธนาคารโลกยังระบุว่าบัณฑิต 1 ใน 7 คนในอียิปต์ จอร์แดน และตูนิเซีย ตกงาน และหลายคนมีคุณสมบัติสูงเกินสำหรับตำแหน่งงานที่ทำอยู่ ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศประมาณว่าเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ ขยายตัวไม่เร็วพอดูดซับแรงงานใหม่ๆ อย่างอียิปต์ซึ่งมีประชากร 80 ล้านคนนั้น จะต้องมีงาน 9.4 ล้านตำแหน่งเพื่อให้คนที่ตกงานได้มีงานทำและรองรับบัณฑิตจบใหม่
นอกจากนั้น อัตราว่างงานในหมู่หนุ่มสาวยังอยู่ในระดับค่อนข้างสูง อย่างในอียิปต์ที่อัตราว่างงานโดยรวมอยู่ที่ 8.9 เปอร์เซ็นต์ แต่อัตราว่างงานในหมู่คนอายุต่ำกว่า 25 ปี อยู่ที่ 25.4 เปอร์เซ็นต์ ส่วนอัตราว่างงานโดยรวมของตูนิเซียอยู่ที่ 14.2 เปอร์เซ็นต์ และอัตราว่างงานในหมู่คนหนุ่มสาวอยู่ที่ 30.3 เปอร์เซ็นต์

หลายทศวรรษก่อนหน้านี้ คนที่ต้องการหางานไม่ว่าจะเป็นชาวจอร์แดน อียิปต์ เยเมน ปาเลสไตน์ หรืออื่นๆ จะมุ่งหน้าไปยังประเทศผู้ผลิตน้ำมันที่มั่งคั่งในตะวันออกกลางหรือยุโรปหรือสหรัฐ แต่ในช่วงทศวรรษ 1990 และ 2000 บางประเทศในตะวันออกกลางเริ่มวิตกว่ากำลังนำเข้าแรงงานที่อาจก่อเหตุวุ่นวายได้ จึงหันไปจ้างคนงานจากเอเชียแทน


พลังคนรุ่นใหม่ผสานสังคมออนไลน์
ผู้ที่ลุกขึ้นมาประท้วงเพราะทนไม่ไหวกับปัญหาต่างๆ ในหลายประเทศของอาหรับ ล้วนเป็นคนหนุ่มสาว ซึ่งหลายคนเป็น "มือใหม่" ในกิจกรรมทางการเมือง และทุกคนก็ใช้เครื่องมือสมัยใหม่ อย่างเครือข่ายสังคมออนไลน์ อินเทอร์เน็ต และการส่งข้อความทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อจัดการชุมนุมและขยายผลการชุมนุม

สภาพการณ์ดังกล่าวนับว่าแตกต่างจากเมื่อไม่นานมานี้ ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านตะวันออกกลางพูดถึงหนุ่มสาวในโลกอาหรับว่ามีความคับข้องใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะแม้คนเหล่านี้ไม่ชอบผู้ปกครองประเทศที่รวบอำนาจเบ็ดเสร็จไว้ในมือ ทั้งยังรู้สึกว่าโอกาสทางเศรษฐกิจหรือการหางานของพวกเขามีขีดจำกัด แต่พวกเขาก็ไร้พลังทางการเมืองจนไม่สามารถผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ ได้ ทั้งยังถูกคุกคามจากสายลับและตำรวจลับ
"ถ้าเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว คุณมาบอกว่านักศึกษาของผมจะเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงประชาธิปไตยมาสู่อียิปต์ ผมคงขำ" ศาสตราจารย์ฮัสซัน นาฟา แห่งภาควิชารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยไคโร สารภาพ
ในทุกประเทศอาหรับ กว่าครึ่งหนึ่งของประชากรมีวัยไม่ถึง 30 ปี และมีความต้องการเหมือนคนหนุ่มสาวทั่วไป นั่นคือเสรีภาพที่มาพร้อมประชาธิปไตย เมื่อปีที่แล้วบริษัทแอสดา เบอร์สัน-มาส์เทลลา ได้เผยผลการสำรวจความเห็นหนุ่มสาวใน 9 ประเทศอาหรับ ปรากฎว่าพวกเขาระบุว่าประชาธิปไตยเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ แซงหน้าสาธารูปโภค การศึกษา และค่าแรง

"ผมไม่สนหรอกว่าใครจะขึ้นมาบริหารประเทศ ตราบใดที่ผมสามารถเปลี่ยนรัฐบาลที่ผมไม่ชอบหน้าได้" คาเลด คาเมล นักศึกษาอียิปต์ ระบุ
ดังที่ระบุข้างต้นว่ากระแสความคับข้องใจในโลกอาหรับนั้นคุกรุ่นมานานแล้ว เปรียบเสมือนไม้ขีดไฟหัวเล็กๆ ที่เมื่อมารวมตัวกันก็จุดไฟกองใหญ่ได้ อย่างรายของคาเมลที่เล่าให้ฟังว่าเคยตกรถไฟและตำรวจคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขา แต่ไม่ได้มาช่วยเขา ซ้ำร้ายกลับตีเขาอีกเพราะเขานอนอยู่บนชานชาลา

การที่เจ้าหน้าที่ไม่ช่วยเหลือแถมทำให้ประชาชนขายหน้า เป็นเรื่องปกติในอียิปต์สมัยที่ฮอสนี มูบารัก ปกครองประเทศ และในรายของคาเมล วัย 20 ปีนั้น เขาระบายความคับข้องใจลงในบล็อกส่วนตัว จากนั้นชุมชนออนไลน์ก็มีเรื่องเมนต์กันกระหึ่มอีก เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นความโหดร้ายของตำรวจที่เมืองอเลกซานเดรีย ซึ่งนักธุรกิจหนุ่มชื่อคาเลด ซาอิด ถูกตำรวจตีจนตาย จนมีการจัดทำหน้า "เราทั้งหลายเป็นคาเลด ซาอิด" ขึ้นบนเฟซบุ๊ค
คาเมลเข้าร่วมกลุ่มดังกล่าวบนเฟซบุ๊คและกลายเป็นหนึ่งในตัวตั้งตัวตี จนกระทั่งรู้จักคนที่ดูแลหน้าดังกล่าว และเริ่มคุยกันทางอีเมล จนกระทั่งวันที่ 7 กุมภาพันธ์ คาเมลก็ทราบว่าคนที่เขาคุยด้วยทางอีเมลคือวาเอล โกนิม ผู้บริหารกูเกิลที่กลายเป็นหน้าตาของการปฏิวัติอียิปต์ หลังจากถูกจับเข้าคุกกว่า 10 วัน เพราะโกนิมคือผู้จัดทำหน้า "เราทั้งหลายเป็นคาเลด ซาอิด" และเรียกร้องให้ผู้คนไปชุมนุมประท้วงที่จตุรัสตาหะรีเมื่อวันที่ 25 มกราคม

ด้านคาเมลนั้น เน้นการขยายการประท้วงไปทั่วประเทศ ด้วยการไปร่วมเดินขบวนที่เมืองอเลกซานเดรียและเมืองดามันฮูร์ ผ่านซากอาคารรัฐบาลที่ถูกเผาและปล้นสะดมภ์ นอกจากนั้น เขายังเดินผ่านห้องขังซึ่งหน่วยรักษาความมั่นคงเคยทารุณนักโทษด้วยสุนัขและไฟฟ้า ซึ่งระหว่างการเดินขบวนนี่เองที่เขาเกิดความรู้สึกว่าคนรุ่นเขาสามารถยุติการทารุณเหล่านี้ลงได้

"เรามีกำลังแล้ว และเรากำลังเริ่มสร้างอียิปต์ในแบบที่เราต้องการ" คาเมลเล่า
ในส่วนของโกนิมนั้น หลังจากถูกปล่อยตัวจากคุก ก็แสดงบทบาทมากขึ้นด้วยการให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม ดรีมทีวีของอียิปต์ โดยเขาพูดทั้งน้ำตาว่าอยากบอกกับพ่อแม่ทุกคนที่สูญเสียลูกไปในการประท้วงครั้งนี้ว่าเขาเสียใจแต่ไม่ใช่ความผิดของพวกเขา เป็นความผิดของทุกคนที่ยังหวงเก้าอี้
วันรุ่งขึ้น คนจำนวนมากที่จตุรัสตาหะรีบอกว่าได้แรงบันดาลใจจากการให้สัมภาษณ์เมื่อคืน และโห่ร้องต้อนรับโกนิมที่ไปปรากฏตัวที่จตุรัสอย่างกึกก้อง รวมถึงฟัตมา เกเบอร์ สาวน้อยวัย 16 ที่ขอร้องพ่อแม่ให้อนุญาตให้เธอไปร่วมประท้วง
"เมื่อฉันเห็นโกนิมทางทีวี ฉันสะเทือนใจกับคำพูดของเขาและเข้าใจว่าคนจำนวนมากต้องลำบากกับการปฏิวัติครั้งนี้ ฉันจึงอยากมีส่วนร่วมเพราะไม่อยากให้คนที่เสียชีวิตหรือคนที่ไปประท้วงทุกวัน ต้องลำบากหรือสูญเสียบางอย่างไปเพื่อให้คนทั้งประเทศได้ประโยชน์" เกเบอร์เล่า
นอกจากเกเบอร์แล้ว ยังมีผู้หญิงอียิปต์อีกมากที่กระตือรือล้นอยากมีส่วนร่วมในการเรียกร้องความเปลี่ยนแปลง รวมถึงมาร์วา อิบราฮิม บัณฑิตสาววัย 25 ปี ที่บอกว่าไม่ต้องการมูบารักและต้องการให้เปลี่ยนแปลงรัฐบาล พร้อมเสริมว่าชาวอียิปต์เรียกร้องมาตลอดให้ยุติกฎหมายฉุกเฉินที่ห้ามการชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต และอนุญาตให้คุมตัวโดยไม่ต้องนำตัวขึ้นพิจารณาคดี
ขณะที่โกนิมเองนั้น แม้ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากผู้ชุมนุม แต่เขาก็ขอร้องว่าอย่าชูว่าเขาเป็นวีรบุรุษของการเคลื่อนไหวครั้งนี้ เขาเป็นเพียงคนธรรมดา และวีรบุรุษคือผู้ประท้วงที่ออกมาชุมนุมกันตามท้องถนนนั่นเอง


ลิเบียกับรสชาติเสรีภาพ

แม้การปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับเจ้าหน้าที่ในลิเบียยังไม่สิ้นสุด แต่ชาวลิเบียทางภาคตะวันออกของประเทศก็พบว่าพวกเขาอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันมาก่อน นั่นคือเป็นอิสระจากการปกครองของโมอัมมาร์ กัดดาฟี เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 40 ปี และชาวเมืองเบนกาซีก็ต้องหาหนทางบริหารกิจการของตัวเอง ในฐานะที่เป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของลิเบียและเป็นจุดกำเนิดการประท้วงต่อต้านรัฐบาล ที่เริ่มต้นจากการประท้วงเล็กๆ เพราะไม่พอใจการคุมขังทนายความด้านสิทธิมนุษยชน

"เราไม่ได้วางแผนก่อการปฏิวัติ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก ประชาชนไม่คาดฝันมาก่อนว่าจะเร็วขนาดนี้" ฟาธี เทอร์เบล ทนายความที่ถูกจำคุก เล่า

หลังจากประชุมกัน ชาวเมืองเบนกาซีก็ตกลงตั้งคณะกรรมการเพื่อรับรองความปลอดภัยของประชาชน และเริ่มพูดคุยกับนักวิชาการ ทนายความ และผู้เชี่ยวชาญ เกี่ยวกับวิธีบริหารเมือง ซึ่งจนบัดนี้ก็ยังมีการชุมนุมกันประปรายเพื่อฉลองสิทธิในการชุมนุมตามจตุรัส อันเป็นสิทธิที่พวกเขาไม่ได้รับก่อนหน้านี้ เพราะกฎหมายปี 2516 ห้ามการชุมนุมเกินกว่า 4 คน เนื่องจากกัดดาฟีเกรงว่าจะมีการสมคบคิดกัน ทั้งยังปราบปรามองค์กรด้านพลเรือนด้วย
ส่วนในเมืองโทบรัก ที่มีประชากร 100,000 คนและเป็นอีกเมืองทางภาคตะวันออกที่อยู่ใต้การควบคุมของผู้ประท้วงนั้น ก็ผ่านการต่อสู้อย่างหนัก โดยหนึ่งในผู้ร่วมชุมนุมประท้วงคืออับดุลฮามิด อาบู บักร์ วัย 53 ซึ่งเล่าว่ามีเรื่องต้องชำระกับกัดดาฟี พร้อมอ้างว่าสมัยหนุ่มๆ เคยถูกจำคุกปีครึ่ง ในฐานะนักโทษการเมืองและถูกทรมานด้วย บักร์กล่าวว่าชาวอาหรับควรมีโอกาสตัดสินเรื่องต่างๆ ด้วยตัวเอง
ปัจจุบันผู้ประท้วงที่หันมาดูแลความปลอดภัยของชาวเมือง ได้พานักข่าวเข้าไปดูอาคารที่เคยเป็นที่ทำการของตำรวจลับ และปัจจุบันอาคารดังกล่าวถูกเผาเรียบแล้ว
อิสรภาพครั้งแรกในรอบกว่า 40 ปีทำให้ชาวเมืองเริ่มฝัน รวมถึงซาเลห์ ฟูอัด วิศวกรที่ทำงานกับบริษัทน้ำมันลิเบีย ซึ่งตั้งความหวังว่าภาคตะวันออกจะลืมตาอ้าปากได้มากขึ้น จากปัจจุบันที่สาธารณูปโภคแย่กว่าในกรุงตริโปลี (เมืองหลวงของลิเบีย)อยู่มาก
"เราผลิตน้ำมันได้วันละ 300,000 บาร์เรลในโทบรัก แล้วเงินหายไปหมดล่ะ ไปเข้ากระเป๋าของกัดดาฟีและครอบครัวหมดน่ะสิ" ฟูอัดระบายความอัดอั้น
ขณะที่ผู้ว่างงานจำนวนหนึ่งก็พากันออกมาแสดงตนว่ามีความรู้ความสามารถด้านกฎหมาย วิศวกรรม และแพทย์ศาสตร์ พร้อมกล่าวหารัฐบาลกัดดาฟีว่าสนใจแต่ฐานอำนาจทางภาคตะวันตกและละเลยภาคตะวันออก
"ผมมีปริญญาวิศวกรรม และสำเร็จการศึกษาจากอังกฤษแต่หางานทำในลิเบียไม่ได้" อาเหม็ด โมฮัมหมัด เล่า
ด้านอับดุลเลาะห์ ลิฮัจ วัย 29 ปี บอกว่าเป็นเวลา 42 ปีที่ชาวลิเบียไม่มีเสรีภาพใดๆ แต่ขณะนี้เขาอยากบอกกับกัดดาฟีว่านี่เป็นประเทศของพวกเขาและพวกเขาต้องการให้กัดดาฟีออกไป

.................................................................................
ครั้งหนึ่ง บ็อบ ดีแลน นักร้องชาวอเมริกันเคยกล่าวไว้ว่า ประชาธิปไตยไม่ได้ปกครองโลก ความรุนแรงต่างหากที่ปกครองโลก

"โลกคงน่าอยู่กว่าถ้าไม่มีคนคิดแบบผม" เขาทิ้งท้ายด้วยประโยคนี้
...แต่หลายคนบนโลกกำลังคิดแบบเดียวกับ บ็อบ ดีแลน


http://www.bangkokbiznews.com/home/...ถ-มะลิปฏิวัติดอกเก่าร่วงไป-ดอกใหม่ผลิบาน.html<!-- Begin Media Content --><SCRIPT type=text/javascript>$(function() {$('#media-content').tabs();});</SCRIPT>

 

วันที่ 1 มีนาคม 2554 06:00

ออสการ์แด่ 'พระเจ้าจอร์จ'

โดย : ทีมข่าวจุดประกาย



การคว้ามา4รางวัลใหญ่ บทภาพยนตร์ดั้งเดิม,ผู้กำกับ,นักแสดงนำชายและภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของ The King's Speech ถือเป็นการผงาดของอังกฤษบนเวทีอเมริกั

ออสการ์ว่างเว้นจากการสร้างประวัติศาสตร์ มอบรางวัลใหญ่ให้กับหนังที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องราวใน ประวัติศาสตร์ หลังจากปีที่ผ่านมา ได้มอบรางวัล "ผู้กำกับยอดเยี่ยม" ให้กับผู้กำกับหญิงเป็นครั้งแรกในรอบแปดสิบสองปีแก่ แคทธรีน บิเก โลว์ (Hurt Locker)

แต่ปีนี้ออสการ์มอบรางวัลใหญ่ให้กับหนังที่เกี่ยวเนื่องกับเรื่องราวใน ประวัติศาสตร์ เมื่อ The King's Speech กวาดรางวัลไป 4 สาขาและเป็นสาขาสำคัญ ได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ผู้กำกับยอด เยี่ยม เขียนบทดั้งเดิมยอดเยี่ยม และนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ในงานประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 83 ณ โกดัก เธียเตอร์ ลอสแองเจลีส สหรัฐอเมริกา จัดโดย สถาบันศิลปะและวิทยาศาสตร์การภาพยนตร์ หรือ The Academy ดิ อะคาเดมี ในเช้าวันจันทร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ความน่าสนใจในออสการ์คราวนี้ อยูที่ หนังที่เกี่ยวกับราชวงศ์อังกฤษ ไม่เคยชนะรางวัลหนังยอดเยี่ยมในออสการ์มาก่อน แต่เมื่อหนังเล่าเรื่องการก้าวข้ามปมด้อยและการก้าวสู่ราชบัลลังก์ของพระเจ้าจอร์จที่ 6 ...The King's Speech จึงสามารถทำได้เป็นเรื่องแรก


ราชวงศ์อังกฤษ กับออสการ์
เมื่อหนัง The King's Speech เดินสายกวาดรางวัล มีการตรวจสอบเสียงสะท้อนจากพระราชวังบัคกิ้งแฮม และรายงานระบุว่า ควีนเอลิซาเบธที่สอง ทรงโปรดผลงานการสร้างที่ใช้เรื่องราวพระราชบิดาของพระองค์มาเล่าบนจอเงิน (แซนดรา บูลล็อค แซวโคลิน เฟิร์ธ ก่อน ประกาศผลรางวัลในประเด็นนี้ด้วย)


ในหนังเรื่องนี้ พระเจ้าจอร์จที่ 5 ได้อบรมพระโอรส ที่เป็นรัชทายาทอันดับสองของราชบัลลังก์อังกฤษช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 2 กำลัง ก่อตัวขึ้น ไว้ว่า การเป็นกษัตริย์ก็เหมือนนักแสดง ที่จะต้องแสดงบทบาทให้ได้ตามคาดหวังของประชาชน ไม่เช่นนั้นอาจจะตกงานได้ทุกเมื่อ และ โคลิน เฟิร์ธ ผู้รับบท รัชทายาทองค์นั้น ต่อมาได้ขึ้นดำรงตำแหน่งพระเจ้าจอร์จที่ 6 ก็สามารถ "แสดง" ได้ ตรงใจมหาชน โดยโคลิน เฟิร์ธได้รับคำชมถึงการถ่ายทอดบทบาทของรัชทายาทผู้มีปมด้อยติดอ่างและเจียมตัว แต่ยังคงรักษา "ความสง่าผ่าเผย" ตามแบบแผนของผู้ปกครอง

การคว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมของเฟิร์ธ กับบทพระเจ้าจอร์จที่ 6 ซึ่งเป็นพระราชบิดาของควีนเอลิซาเบธที่สอง ตอกย้ำ "เสน่ห์" ของตัวละครในราชวงศ์นี้ ที่ออกมาโลดแล่นบนจอเงิน หลังจากที่ปี 2006 เฮเลน เมอร์เรน ก็คว้าออสการ์นัก แสดงนำหญิงจาก The Queen ในบทควีนเอลิซาเบธที่สอง ที่ "แสดง"ได้เหมือน "คนต้นเรื่อง" ตั้งแต่หัวจรดเท้า ขณะที่เฮเลนา บอน แฮม คาร์เตอร์ ได้เข้าชิงนักแสดงสมทบหญิงในบทของควีนเอลิซาเบธ (ควีนมัม) ในปีนี้ และ เคท บลานเซตต์ เคยเข้าชิงสอง ครั้งในกับบท ควีนเอลิซาเบธที่หนึ่ง (จาก Elizabeth และ Elizabeth : The Golden Age) และ จูดี้ เดนช์ คว้ารางวัลสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากบทควีนเอลิซาเบธที่หนึ่ง(ตอนสูงวัย)ใน Shakespears in Love

ในหนังอย่าง The Queen และ The King's Speech ได้สะท้อนบทบาท "ราชวงศ์" ที่แม้หนังจะเจาะจุดบกพร่องภายในรั้วพระราชวัง แต่บทสรุปยังคง "แสดง" ให้เห็นถึง "จุดแข็ง" ของผู้ที่จะยืนบนราชบัลลังก์ ที่แม้จะไม่มีสิทธิตัดสินใจในกิจการบ้านเมือง แต่ต้องทำตามสิทธิหน้าที่ สามประการ ได้แก่ให้คำปรึกษา ให้คำปลุกปลอบขวัญและกำลังใจ และสุดท้ายให้คำตักเตือน แก่ประชาชนได้อย่างสง่าผ่าเผยเช่นกัน

ก่อนการคว้ารางวัลออสการ์ หนังเดินสายกวาดรางวัลเกือบทุกเวที รวมถึงรางวัลจากสมาคมผู้อำนวยการสร้างแห่งอเมริกา รางวัลจากสมาคมผู้กำกับอเมริกา และรางวัลบาฟต้า (หรือตุ๊กตาทองฝั่งอังกฤษ) กวาดมาแล้วทั้งสิ้น ทว่าในแง่กระแสการวิพากษ์ The King's Speech ไม่มีข้อถกเถียงที่เข้มข้นมากนัก ยกเว้นประเด็นทางประวัติศาสตร์ที่ว่าด้วยสายสัมพันธ์ระหว่างฮิตเลอร์กับราชวงศ์ที่มีคนตั้งข้อสังเกตว่า หนังตัดตอนและหันแต่ด้านดีของราชวงศ์มาให้ดู


หนังคุณภาพกับกระแส
อย่างไรก็ตาม แม้ว่า ก่อนวันประกาศผล กระแส The Social Network จะมาแรงสุดๆ มาพร้อมกับการผงาดของเครือข่ายสังคมออนไลน์ เฟซบุ๊ค และ คนต้นเรื่องของหนัง อย่าง "มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก" ได้รับยกย่องให้เป็นบุคคลแห่งปี 2010 จาก นิตยสารไทม์ กับคุณภาพของหนังที่ชนะใจผู้ชม (โดยไม่เกี่ยงว่าหนังบิดพลิ้วตัวตนจริงของมาร์คไปหรือไม่) ทำให้เซียนหลายสำนักฟันธงว่า หนังเล่าการก่อเกิดเฟซบุ๊ค น่าจะครองรางวัลหนังยอดเยี่ยม และน่าจะกลายเป็นการขานรับกระแสของโลกยุคไร้สายและสัมพันธภาพข้ามพรมแดน แต่หนังพลาดรางวัลสำคัญไป


ได้แค่บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (จากงานเขียนของ The Accidental Billionaires” ของ Ben Mezrich) และรางวัลดนตรีประกอบยอดเยี่ยม สำหรับงานดนตรีแบบมินิมัลลิสม์ จากคนที่ก้าวมาจากวงการเพลงร็อก ซึ่งถือเป็นการเปิดมิติใหม่ๆ ให้กับเวทีรางวัลออสการ์ด้วย


ทว่าชัยชนะ The King's Speech ก็ได้ขานรับ กระแสของราชวงศ์อังกฤษยุคใหม่ นำ(แสดง)โดย เจ้าชาย วิลเลียม รัชทายาทอันดับสองของราชบัลลังก์ปัจจุบัน กับ เคท มิดเดิลตัน ที่จะเข้าพิธีอภิเสกสมรสในปลายเดือนเมษายนศกนี้ ที่เคยถูกวิจารณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เรื่องราวการสืบทอดราชบัลลังก์ของพระเจ้าจอร์จที่ 6 ต่อจากพระเชษฐา พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ที่ยอมสละราชย์เพื่อแต่งงานกับหญิงหม้าย ซึ่งขัดต่อธรรมเนียมของราชวงศ์นั้น คล้ายคลึงกับเรื่องปัจจุบัน ที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ รัชทายาทอันดับหนึ่ง มีพฤติกรรมไม่เป็นที่รักของประชาชนในเรื่องความรักกับ คามิลลา ปาร์คเกอร์ โบล์ว และมีกระแสยกให้รัชทายาทอันดับสองต่อคิวจากควีนเอลิซาเบธ


นอกจากเรื่องราวของราชวงศ์แล้ว สารสำคัญจากออสการ์ปีนี้ เริ่มขึ้นในช่วงท้ายของงานมอบรางวัล เมื่อ สตีเวน สปีลเบิร์ก คนทำหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคนหนึ่งใน ฮอลลีวู้ด ออกมาแนะนำ ผู้เข้าชิงรางวัล สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ซึ่งเริ่มด้วย ภาพการร้อยเรียงฟุตเตจจากหนังเข้าชิงทั้ง 10 เรื่อง ประกอบกับคลิปเสียงของ โคลิน เฟิร์ธ ในบทพระเจ้าจอร์จที่ 6 ที่ทำหน้าที่พระประมุขของสหราชอาณาจักรอังกฤษ เป็นครั้งแรก ประกาศจะยืนหยัดสู้ "เผด็จการฮิตเลอร์" เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 ระเบิดขึ้นในยุโรป


ซึ่งนอกจากจะเป็นคลิปเสียงที่ตัด ตอนมาจากช่วงไคลแม็กซ์ของหนัง The King's Speech เมื่อตัวละครเอกสามารถเอาชนะปมด้อย(ติดอ่าง)ของตัวเอง ได้แล้ว เมื่อออสการ์ใช้มันประกอบภาพบนเวทีโดยมีสปีลเบิร์ก ลูกหลานชาวยิว ยืนรอประกาศผลรางวัล เนื้อหาของมันยังดูลึกซึ้งและมี "นัยยะ" ของการสร้างโลกให้สวยงาม


และแน่นอนเป็นบทโหมโรงสู่การมอบรางวัลสูงสุดค่ำคืนนั้นให้แก่ The King's Speech อย่างไร้ข้อกังขา

(หมายเหตุ : สถาบันศิลปะและวิทยาศาสตร์การภาพยนตร์ เป็นสถาบันศูนย์กลางของวงการภาพยนตร์ของอเมริกามากว่าแปดทศวรรษ พร้อมด้วยสมาชิกกว่า 6000 คนใน ปัจจุบัน ซึ่ง นอกจากจะมีอาชีพการงานในสายใดสายหนึ่งของทั้งหมด 15 สายที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ (รวมถึง สายที่ทำงาน เป็นนักประชาสัมพันธ์) แล้วยังต้องเป็นผู้มีคุณวุฒิมีผลงานระดับมาตรฐาน จึงจะได้ร่วมเป็นสมาชิกและมีสิทธิลงคะแนนตัดสิน ผลงานยอดเยี่ยม ในงานออสการ์)

 

สหรัฐฯ ใช้การทหารต่อต้านกัดดาฟี: ปิดน่านน้ำ น่านฟ้าลิเบีย

March 2, 2011

มหาอำนาจชาติตะวันตกกำลังมุ่งเป้าไปที่การต่อต้านรัฐบาลกัดดาฟี โดยใช้การแทรกแซงทางทหาร นำโดยสหรัฐฯ เร่งเครื่องเพิ่มแรงกดดันกัดดาฟี ด้วยการปิดน่านน้ำลิเบีย ตลอดจนปิดน่านฟ้าการบิน หรือกำหนดเขตห้ามบิน
(“no-fly zone”) คลอบคลุมอาณาบริเวณประเทศในอาฟริกาเหนือ
เจย์ คาร์นีย์ โฆษกประจำทำเนียบขาวกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า ทางสหรัฐฯ ได้เคลื่อนเรือเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากเราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว

สหรัฐฯ นำเรือโจมตีสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบก (amphibious assault ships) 2 ลำเข้าสู่คลองสุเอซ ซึ่งสามารถบรรทุก
นาวิกโยธินได้ 2,000 นาย โดย USS Ponce จะแล่นผ่านคลองสุเอซในอียิปต์ช่วงเช้าของวันพุธ ในเวลาประมาณ 03.30 น. (ตามเวลาสากล)
เดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวว่า “ผมคิดว่า..ประชาคมโลกไม่สามารถปล่อยให้กัดดาฟี ฆ่า ประชาชนของพวกเขา จึงนำไปสู่การกำหนดเขตห้ามบินหรือให้ปิดน่านฟ้าเสีย”
“มันเป็นเรื่องที่ไม่สามารถยอมรับได้เลยที่ พันเอก (พิเศษ) กัดดาฟีจะสามารถเข่นฆ่าประชาชนของเขา โดยใช้เครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์กราดยิงประชาชน และเราต้องวางแผนในตอนนี้เพื่อที่จะแน่ใจว่า ถ้ามันเกิดขึ้นจริง เราก็สามารถที่จะหยุดมันได้”
ดังนั้น “ถ้าเขา (กัดดาฟี/ รัฐบาลลิเบีย) เริ่มการกระทำที่มีลักษณะเช่นนั้น เราจำเป็นต้องกำหนดเขตห้ามบินในบริเวณดังกล่าวอย่างรวดเร็ว” คาเมรอนกล่าวหลังจากได้พบปะกับนางแคทเธอรีน แอชตัน ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป และนายแอนเดอร์ส ฟอกห์ ราสมุสเซน เลขาธิการใหญ่ NATO ณ กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม คาเมรอนกล่าวว่า เขาได้สอบถามรัฐมนตรีกลาโหมถึงการวางแผนร่วมกับพันธมิตรในกรณีปิดน่านฟ้า
อย่างไรก็ตาม พลเอก James Mattis แห่งสหรัฐฯ กล่าวเตือนถึงการกำหนดเขตห้ามบิน หรือการปิดน่านฟ้าในลิเบียอาจนำมาซึ่ง “ความท้าทาย” ในการปฏิบัติการทางทหาร (อาจทวีความรุนแรงด้วยการใช้การทหารเข้าตอบโต้หรือปะทะกัน)
<IFRAME title="YouTube video player" src="http://www.youtube.com/embed/S1j8Up89Va0" frameBorder=0 width=520 height=390 allowfullscreen></IFRAME>
รัสเซียต่อต้านการปิดน่านฟ้า รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ กล่าวถึงแนวคิดดังกล่าวว่าเป็นการกำหนดขีดจำกัดทางน่านฟ้าของลิเบียที่เกินกว่าเหตุ โดยเห็นว่า มหาอำนาจโลกต้องมุ่งเป้าไปที่การคว่ำบาตรโดยผ่านคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ลงมติไปเมื่อไม่นานนี้ และระงับสถานะสมาชิกองค์การสหประชาชาติของลิเบีย
เอกอัครราชทูตแห่ง NATO นายดมิทรี โรโจซิน กล่าวกับสำนักข่าว Interfax ในบรัสเซลส์ว่า ให้ระวังการทหารที่นำมาใช้ต่อต้านกัดดาฟีโดยปราศจากมติขององค์การสหประชาชาติ “ถ้ามีบางคนในวอชิงตันแสวงหาการโจมตีทางทหารทันทีเพื่อเอาชนะอย่างรวดเร็ว (blitzkrieg) ในลิเบีย จะถือเป็นความผิดพลาดที่ใหญ่ยิ่ง เพราะการใช้กำลังทหารใดๆ นอกเหนือเขตความรับผิดชอบ NATO จะต้องได้รับการพิจารณาโทษโดยกฎหมายระหว่างประเทศ”
“การต่อต้านโดยการปิดน่านฟ้า หรือการกำหนดเขตบินเหนือดินแดนของประเทศนั้นๆ ยังคงถือว่านี่ เป็นการกระทำที่แทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่น”
ขณะที่มิคาอิล มาร์คเกลอฟ กล่าวว่า “การกระทำทางทหารของสหรัฐฯ ในลิเบีย จะนำไปสู่การ “kill the shoots of democracy in the region” (หมายความว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ไม่ควรกระทำการใดๆ ทางทหาร แม้จะมีประชาชนเสียชีวิตจำนวนมากเพื่อให้ได้มาซึ่งการปฏิรูปทางการเมือง หรือเพื่อให้ได้ประชาธิปไตย ลิเบียต้อง เปลี่ยน ด้วยตัวเอง มากกว่าจะถูกแทรกแซงทางการทหารจากสหรัฐฯ)
รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส Alain Juppe กล่าวว่า “ณ ขณะนี้ ยังไม่มีการวางแผนเพื่อแทรกแซงทางทหาร ซึ่งการแทรกแซงทางทหารในลิเบียสามารถทำได้หากมีมติจากสหประชาชาติเป็นที่ชัดเจน”
บัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ กล่าวถึงประเด็นลิเบียเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า “จำเป็นต้องใช้มาตรการคว่ำบาตรลิเบีย” “เนื่องจาก ระบอบลิเบียขาดซึ่งความชอบธรรม และมีการกระทำซึ่งถือเป็นการประกาศสงครามกับประชาชนของเขาเอง”
“เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับพวกเรา ประชาคมโลกต้องยืนหยัดที่จะต่อต้านกับการก่ออาชญากรรม”
Al Jazeera

สหรัฐฯ ใช้การทหารต่อต้านกัดดาฟี: ปิดน่านน้ำ น่านฟ้าลิเบีย | Siam Intelligence Unit

 

รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ชี้เหตุประท้วงในอาหรับช่วยบั่นทอนกำลัง “อัลกออิดะห์-อิหร่าน”
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>2 มีนาคม 2554 12:09 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>


โรเบิร์ต เกตส์ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ(ซ้าย) และพลเรือเอก ไมค์ มุลเลน ร่วมหารือสถานการณ์ในลิเบียที่กระทรวงกลาโหม กรุงวอชิงตัน วานนี้(1)

เอเอฟพี - โรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าววานนี้ (1) ว่า การประท้วงที่ลุกลามไปทั่วโลกอาหรับจะช่วยยับยั้งกิจกรรมของกลุ่มอัลกออิดะห์และอิหร่าน เพราะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตย

“มันทำให้คนได้รู้ว่า คำกล่าวอ้างของอัลกออิดะห์ที่ว่ารัฐบาลเผด็จการจะต้องถูกโค่นล้มด้วยความรุนแรงสุดโต่ง ไม่เป็นความจริง” เกตส์ ให้สัมภาษณ์

การเคลื่อนไหวของประชาชนรากหญ้านอกจากจะล้มระบอบการปกครองในตูนิเซียและอียิปต์ และก่อให้เกิดการปฏิรูปในอีกหลายประเทศแล้ว ยังเป็นอุปสรรคขัดขวางกลุ่มอัลกออิดะห์ได้เป็นอย่างดี เกตส์ กล่าว

เกตส์ ซึ่งเป็นอดีตนักวิเคราะห์ข่าวกรองและอดีตผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับกลาง (ซีไอเอ) ระบุว่า ตัวอย่างการชุมนุมประท้วงอย่างสันติในอาหรับ ยังสร้างความสุ่มเสี่ยงให้แก่รัฐบาลอิหร่านในระยะยาว

“ทั้งนี้ก็เพราะว่า พฤติกรรมของทหารอียิปต์, ตูนิเซีย และบาห์เรน ซึ่งแม้จะเคยใช้ความรุนแรงบ้าง แต่ก็แตกต่างจากอิหร่าน ที่พร้อมจะใช้วิธีป่าเถื่อนปราบปรามใครก็ตามที่กล้าลุกขึ้นประท้วงรัฐบาล” เกตส์อธิบาย

รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า ตนมองความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ในแง่ดี และแม้อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีกว่าจะเห็นผลที่เป็นรูปธรรม แต่กระบวนการเปลี่ยนแปลงก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว หลังจากที่การเมืองในโลกอาหรับถูกแช่แข็งมานานหลายทศวรรษ

หากความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในภูมิภาคนี้สามารถเกิดขึ้นโดยปราศจากความรุนแรง และทำให้ประชาธิปไตยเบ่งบานได้ “ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกฝ่าย” เกตส์กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า โอกาสที่กระแสการประท้วงจะลุกลามไปถึงชาติพันธมิตรของสหรัฐฯอย่าง ซาอุดีอาระเบีย และจอร์แดน มีมากน้อยเพียงใด เกตส์ให้คำตอบว่า ผลประโยชน์ของสหรัฐฯจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

“แน่นอนว่า เรามีความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นและยาวนานกับทั้ง 2 ประเทศ” เกตส์ระบุ

“กษัตริย์ทั้ง 2 พระองค์ทรงปฏิรูปประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไปมานานแล้ว ซึ่งกระบวนการนี้จะต้องดำเนินต่อไป และเราก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่”

ด้าน พล.ร.อ.ไมค์ มุลเลน ประธานเสนาธิการทหารสหรัฐฯ ซึ่งร่วมแถลงข่าวพร้อมกับ เกตส์ ระบุว่า “นี่เป็นสัญญาณที่จะบั่นทอนยุทธศาสตร์ของอัลกออิดะห์อย่างสิ้นเชิง”

พล.อ.เจมส์ แม็ตทิส หัวหน้าศูนย์บัญชาการกลางสหรัฐฯ ก็เคยให้ความเห็นเช่นกันว่า อัลกออิดะห์กำลังถูกโจมตีอย่างหนักด้วยกระแสโฆษณาชวนเชื่อ

“ความเปลี่ยนแปลงที่ถูกกระตุ้นโดยแนวคิดประชานิยมซึ่งกำลังเกิดขึ้นทั่วภูมิภาคอาหรับ ส่งผลให้สารของอัลกออิดะห์และกลุ่มหัวรุนแรงอื่นๆ ถูกล้มไป และทำให้คนมองเห็นว่า ปรัชญาอันล่มจมของกลุ่มก่อการร้ายไม่ได้ให้อะไรเลย นอกจากทำลายผู้บริสุทธิ์” แม็ตทิสกล่าว

“คนหนุ่มสาวสมัยนี้ได้ความเปลี่ยนแปลงภายใน 10 สัปดาห์ มากกว่าที่ได้จากการเข่นฆ่าตามคำสอนของอัลกออิดะห์ในเวลา 10 ปีเสียอีก”

Around the World - Manager Online -

 

รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ชี้เหตุประท้วงในอาหรับช่วยบั่นทอนกำลัง “อัลกออิดะห์-อิหร่าน”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 มีนาคม 2554 12:09 น.



โรเบิร์ต เกตส์ รมว.กลาโหมสหรัฐฯ(ซ้าย) และพลเรือเอก ไมค์ มุลเลน ร่วมหารือสถานการณ์ในลิเบียที่กระทรวงกลาโหม กรุงวอชิงตัน วานนี้(1)

เอเอฟพี - โรเบิร์ต เกตส์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าววานนี้ (1) ว่า การประท้วงที่ลุกลามไปทั่วโลกอาหรับจะช่วยยับยั้งกิจกรรมของกลุ่มอัลกออิดะห์และอิหร่าน เพราะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตย

“มันทำให้คนได้รู้ว่า คำกล่าวอ้างของอัลกออิดะห์ที่ว่ารัฐบาลเผด็จการจะต้องถูกโค่นล้มด้วยความรุนแรงสุดโต่ง ไม่เป็นความจริง” เกตส์ ให้สัมภาษณ์

การเคลื่อนไหวของประชาชนรากหญ้านอกจากจะล้มระบอบการปกครองในตูนิเซียและอียิปต์ และก่อให้เกิดการปฏิรูปในอีกหลายประเทศแล้ว ยังเป็นอุปสรรคขัดขวางกลุ่มอัลกออิดะห์ได้เป็นอย่างดี เกตส์ กล่าว

เกตส์ ซึ่งเป็นอดีตนักวิเคราะห์ข่าวกรองและอดีตผู้อำนวยการหน่วยสืบราชการลับกลาง (ซีไอเอ) ระบุว่า ตัวอย่างการชุมนุมประท้วงอย่างสันติในอาหรับ ยังสร้างความสุ่มเสี่ยงให้แก่รัฐบาลอิหร่านในระยะยาว

“ทั้งนี้ก็เพราะว่า พฤติกรรมของทหารอียิปต์, ตูนิเซีย และบาห์เรน ซึ่งแม้จะเคยใช้ความรุนแรงบ้าง แต่ก็แตกต่างจากอิหร่าน ที่พร้อมจะใช้วิธีป่าเถื่อนปราบปรามใครก็ตามที่กล้าลุกขึ้นประท้วงรัฐบาล” เกตส์อธิบาย

รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ระบุว่า ตนมองความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ในแง่ดี และแม้อาจต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีกว่าจะเห็นผลที่เป็นรูปธรรม แต่กระบวนการเปลี่ยนแปลงก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว หลังจากที่การเมืองในโลกอาหรับถูกแช่แข็งมานานหลายทศวรรษ

หากความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในภูมิภาคนี้สามารถเกิดขึ้นโดยปราศจากความรุนแรง และทำให้ประชาธิปไตยเบ่งบานได้ “ก็จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกฝ่าย” เกตส์กล่าว

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า โอกาสที่กระแสการประท้วงจะลุกลามไปถึงชาติพันธมิตรของสหรัฐฯอย่าง ซาอุดีอาระเบีย และจอร์แดน มีมากน้อยเพียงใด เกตส์ให้คำตอบว่า ผลประโยชน์ของสหรัฐฯจะไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

“แน่นอนว่า เรามีความสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นและยาวนานกับทั้ง 2 ประเทศ” เกตส์ระบุ

“กษัตริย์ทั้ง 2 พระองค์ทรงปฏิรูปประเทศอย่างค่อยเป็นค่อยไปมานานแล้ว ซึ่งกระบวนการนี้จะต้องดำเนินต่อไป และเราก็พร้อมสนับสนุนเต็มที่”

ด้าน พล.ร.อ.ไมค์ มุลเลน ประธานเสนาธิการทหารสหรัฐฯ ซึ่งร่วมแถลงข่าวพร้อมกับ เกตส์ ระบุว่า “นี่เป็นสัญญาณที่จะบั่นทอนยุทธศาสตร์ของอัลกออิดะห์อย่างสิ้นเชิง”

พล.อ.เจมส์ แม็ตทิส หัวหน้าศูนย์บัญชาการกลางสหรัฐฯ ก็เคยให้ความเห็นเช่นกันว่า อัลกออิดะห์กำลังถูกโจมตีอย่างหนักด้วยกระแสโฆษณาชวนเชื่อ

“ความเปลี่ยนแปลงที่ถูกกระตุ้นโดยแนวคิดประชานิยมซึ่งกำลังเกิดขึ้นทั่วภูมิภาคอาหรับ ส่งผลให้สารของอัลกออิดะห์และกลุ่มหัวรุนแรงอื่นๆ ถูกล้มไป และทำให้คนมองเห็นว่า ปรัชญาอันล่มจมของกลุ่มก่อการร้ายไม่ได้ให้อะไรเลย นอกจากทำลายผู้บริสุทธิ์” แม็ตทิสกล่าว

“คนหนุ่มสาวสมัยนี้ได้ความเปลี่ยนแปลงภายใน 10 สัปดาห์ มากกว่าที่ได้จากการเข่นฆ่าตามคำสอนของอัลกออิดะห์ในเวลา 10 ปีเสียอีก”

Around the World - Manager Online -

 

อังกฤษระงับให้เงินช่วยเหลือ 16 ประเทศพร้อมองค์กรยูเอ็น 4 แห่ง
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=center align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=center align=left>2 มีนาคม 2554 11:12 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>


อังกฤษระงับให้เงินช่วยเหลือแก่ 16 ประเทศ ซึ่งหลายประเทศเป็นประเทศยากจน

เอเอฟพี - อังกฤษประกาศหยุดให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ 16 ประเทศ ซึ่งในจำนวนนั้นคือรัสเซีย และจีน พร้อมกับระบุว่าจะไม่ให้เงินทุนสนับสนุนองค์กรด้านความช่วยเหลือของสหประชาชาติที่ไม่ตรงตามจุดประสงค์จำนวน 4 แห่งอีกต่อไป

แอนดริว มิตเชล รัฐมนตรีการพัฒนาระหว่างประเทศเผยว่า รัฐบาลอังกฤษหยุดบริจาคเงินให้แก่องค์กรด้านความช่วยเหลือของยูเอ็น 4 แห่ง ได้แก่ องค์กรพัฒนาอุตสาหกรรม ยูเอ็นแฮบิแทต องค์กรแรงงานสากล และองค์กรยุทธศาสตร์สากลเพื่อลดภัยพิบัติ เนื่องจากองค์กรเหล่านี้ไม่มีประสิทธิภาพ หรือไม่สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงความเกี่ยวข้องกันได้

สำหรับการตัดความช่วยเหลือทางการเงินแก่องค์กรของยูเอ็นดังกล่าวคาดว่าจะทำให้อังกฤษประหยัดงบประมาณได้มากกว่า 50 ล้านปอนด์ หรือราว 2,500 ล้านบาททีเดียว

ภายใต้นโยบายการให้ความช่วยเหลือฉบับใหม่ อังกฤษจะทุ่มเงินในประเทศ ที่ประสบกับภาวะสงคราม อย่างอัฟกานิสถาน และโซมาเลียเพิ่มขึ้น เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงให้กับแหล่งผลประโยชน์ของประเทศ

“ความช่วยเหลือสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้ แต่นั่นต้องถูกนำไปใช้อย่างดี และถูกต้องตามวัตถุประสงค์” เขากล่าวต่อรัฐสภา ขณะที่ถูกหน่วยงานด้านความช่วยเหลือโจมตีว่ารัฐบาลอังกฤษให้ความสำคัญกับประเด็นด้านความมั่นคงมากกว่าการให้ความช่วยเหลือ

ด้าน จูเลียน ออแรม หัวหน้าฝ่ายนโยบายขององค์กรความเคลื่อนไหวเพื่อการพัฒนาโลกชี้ว่า “สิ่งที่พวกเรากังวล คือ การให้ความสำคัญกับบางประเทศ ซึ่งตามจริงแล้ว เป็นการนำเงินออกจากบางประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก อย่าง ไนเจอร์ แองโกลา และกัมพูชาไปให้แก่ประเทศที่มีความเสี่ยงต่อความมั่นคงของอังกฤษสูง”

“การสร้างหลักประกันด้านความช่วยเหลือเป็นสิ่งที่น่ากังวลที่แท้จริงจากผลของการทบทวนในครั้งนี้” เขากล่าว

ยิ่งไปกว่านั้น มิตเชลยืนยันว่า โครงการทวิภาคีต่างๆ ของอังกฤษในประเทศแองโกลา บอสเนียและเฮอเซโกวินา บุรุนดี แคเมอรูน กัมพูชา จีน แกมเบีย อินโดนีเซีย

อิรัก โคโซโว เลโซโธ มอลโดวา ไนเจอร์ รัสเซีย เซอร์เบีย และเวียดนามก็จะยุติลงเช่นเดียวกัน

http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9540000027084

 

วันที่ 2 มีนาคม 2554 14:46
ยูเอ็นวอนทั่วโลกร่วมอพยพคนหนีภัยลิเบียครั้งใหญ่

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์



ยูเอ็นวอนทั่วโลกร่วมจัดการอพยพทางมนุษยธรรมครั้งใหญ่เพื่อช่วยคนที่ติดอยู่ในลิเบีย

นายบัน คี มุน เลขาธิการสหประชาชาติ(ยูเอ็น)เผยว่า ชีวิตประชาชนหลายพันคน ตามแนวพรมแดนของลิเบียกับตูนิเซียกำลังตกอยู่ในความเสี่ยง และสิ่งจำเป็นเร่งด่วนขณะนี้คืออาหาร น้ำ สุขอนามัยและที่พัก รวมถึงความพยายามในการนำผู้อพยพเหล่านี้กลับประเทศ และจนถึงขณะนี้มีคนเสียชีวิตจากเหตุรุนแรงในลิเบียแล้วราว 1พันคน
ทั้งนี้ ข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอชซีอาร์)และองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่น(ไอโอเอ็ม)เรียกร้องให้รัฐบาลชาติต่างๆ ร่วมมือในการอพยพทางมนุษยธรรมครั้งใหญ่อย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยเหลือประชาชนหลายแสนคนทั้งชาวอียิปต์ และจากประเทศอื่นๆ เช่นเวียดนาม อินเดีย ตุรกี ตูนิเซีย จีนและไทยเนื่องจากสถานการณ์ตามพรมแดนเลวร้ายลงทุกชั่วโมง
หน่วยงานของสหประชาชาติทั้งสองแห่งนี้ ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนด้านการเงินและโลจิสติกส์ รวมถึงเครื่องบิน เรือและผู้เชี่ยวชาญ

นับตั้งแต่ความรุนแรงปะทุขึ้นเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ มีประชาชนอพยพจากลิเบียกว่า 1.4 แสนคนแล้ว ในจำนวนนี้ อพยพจากลิเบียข้ามพรมแดนตูนิเซียกว่า 7.5 หมื่นคนและอีกกว่า 7 หมื่นคนอพยพข้ามพรมแดนอียิปต์
ด้านนายนรชิต สิงหเสนี เอกอัครราชทูตไทยประจำสหประชาชาติ แจ้งต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติว่า มีแรงงานและนักเรียนไทยในลิเบียราว 2.5 หมื่นคน ในจำนวนนี้ 2 พันคนอพยพทางเรือเช่าเหมาลำออกจากลิเบียเมื่อวันจันทร์ พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมโลกและหน่วยงานยูเอ็น ไม่เพียงแต่ให้ความใส่ใจกับสถานการณ์ในลิเบีย แต่ควรให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือแรงงานต่างชาติด้วย
สถานการณ์ในลิเบีย ยังมีการปะทะกันของกลุ่มต่อต้านและสนับสนุนพันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย โดยกลุ่มผู้ประท้วงสามารถควบคุมพื้นที่ทางตะวันออกของประเทศไว้ได้ ขณะที่กลุ่มรัฐบาลพยายามจะรักษาฐานที่มั่นทางตะวันตก และยึดพื้นที่บางส่วนทางตะวันตกของประเทศคืนจากกลุ่มผู้ประท้วง

 

สวัสดีคุณ k.kwan

สวัสดีคุณ k.kwan ผมเป็นหนึ่งในคนเขียนบทความที่คุณ copy โพสต์เอง โหคุณขยันกว่าผมอีกนะครับ ผมเคยนั่งโพสต์ที่เว็บนึงตอนวิกฤตการเงินกำลังเดือดช่วงหลัง Lehman ล้ม ผมอย่างเก่งแค่เกือบ 200 ความเห็นเอง เหนื่อยลิ้นห้อยเลย

นี่ตามที่ผมเขียน SIU แล้วก็ใน Muslim Today ประจำหรือเปล่าครับ แต่ดูแล้วท่าทางจะตามพอสมควรนะครับ จริงๆไหนๆจะ copy มาแล้วน่าจะ copy มาทั้งเว็บเลยจะได้อ่านกันตาแฉะ 555555+

อ้อตอนนี้ผมเพิ่งลงอันเกือบล่าสุดไป มีเรื่องวิกฤตอาหารด้วย ชื่อเรื่อง "ทุนการเงินกับวิกฤตอาหารโลก" พลาดได้ไงเนี่ย 555+

ผมจบตรีด้าน Finance บัญชีจุฬาฯครับ ตอนนี้เรียนโทเศรษฐศาสตร์การเมืองที่คณะเศรษฐศาสตร์จุฬาฯ ที่ห้องทำงานผมมีเครื่องมือแบบพวกกองทุนใหญ่ๆหรือแบงก์ชาติเขาใช้เหมือนกันเป๊ะเลย เป็นพวกข้อมูล Real Time แบบห้องค้าเงินทั่วโลกอะครับ ค่า License ปีนึงก็จ่ายหลายล้านบาทอะครับ ผมก็ใช้ข้อมูลจากโปรแกรมพวกนี้มานั่งเขียนบทความด้วยอย่างที่คุณเห็น

เดี๋ยวสุดสัปดาห์นี้ว่าจะเขียนเรื่องผลกระทบของวิกฤตการเมืองในโลกอาหรับต่อระบบเปโตรดอลลาร์และระบบการเงินโลกดูใน Muslim Today เผอิญได้ไอเดียมาจากนักคิดนักเคลื่อนไหวชาวฝรั่งเศส ผมว่าจะซื้อหนังสือของเขามาอ่านสักหน่อย ที่ Amazon ยังไม่มีขายเลยคิดดูแล้วกัน ยังไงก็ลองตามมาอ่านดูแล้วเชิญ copy ตามสบายเลยนะครับ ยินดีๆ

ยังไงก็พักบ้างก้ได้นะครับ เดี๋ยวจะเหนื่อย ^__^