มีอะไรบางอย่างในรูปถ่ายของหลวงปู่โต !!

ผมพึ่งสังเกตุเห็นบางอย่างในภาพถ่ายนี้​

ไม่ทราบว่าทุกคนเคยสังเกตุกันไหมครับ​

เป็นตุ๊กตาฝรั่ง3ตัว ที่ตั้งอยู่ที่ด้านหน้าหลวงปู่ครับ​

ลองสังเกตุกันดูครับ ​

แล้วทำมัยถีงมีตุ๊กตาฝรั่ง มีที่ไปทีมาหรือไม่ หรือมีความสำคัญอย่างไร หรือป่าว​

หรือแค่ตุ๊กตาธรรมดาแค่นั้น ไม่มีความหมายอะไร​

ท่านผู้รู้ช่วยอธิบายที่ครับ รู้สึกสงสัย​

​

 

4 ครับ ไม่ใช่ 3 ตัวขวาโผล่มาแต่หัว

 

พึ่งสังเกตุ เห็นเหมือนกันครับ ว่าแต่เค้าเอามาตั้งทำไมแล้ว ท่านซ้ายมือของจอคอม ยืนซ้อนกันกี่คนครับ เหมือนมี 2 คน ซ้อนกัน

วง4วงล่างเป็นตุ๊กตาครับ วงบนตรงลูกศร เหมือนมีคนยืนซ้อนกัน 2คนครับ

 

อืม 4 ตัวครับผม

 

รูปนี้คือหลวงพ่อโต องค์จริงๆๆๆ หรือครับ หรือองค์รูปสมมุติ อยากรู้ครับ

 

แล้วภาพนี้เป็นภาพเกี่ยวกับอะไรครับ มีประวัติอะไรไหมครับ เค้ากำลังทำอะไรที่ไหนครับ ผมเห็นภาพนี้มานานแล้วครับแต่ไม่ทราบว่าเค้าทำอะไรอันเหรอครับ ท่านใดรู้ช่วยตอบด้วยนะครับ สงสัยมานานแล้ว

 

ไม่ทราบเหมือนกันครับ ท่านใดรู้ช่วยบอกหน่อย
ผมว่ามีหลายคนอยากรู้เหมือนกัน

 

แล้วหลังพระเศียรหลวงปู่ข้างพระกรรณข้างขวา คืออะไรคับคล้ายกำปั้นกลมๆ

 

ผมก็เคยเห็นรูปนี้มาหลายครั้งแล้วเช่นกัน
และก็อยากทราบคำตอบ ในทุกคำถามข้างต้นเหมือนกันครับ
ใครทราบช่วยมาตอบหน่อยนะ
อยากรู้จริงๆ

 

เห็นลักยิ้มของท่านค่ะ
ส่วนตุ๊กตาน่ะ คุ้นมากเลย ที่บ้านก็มีคล้ายๆกันค่ะ

 

นี้เป็นความรู้ใหม่นะครับ แต่ไหนแต่ไรมายังไม่เคยสังเกตุสักครั้ง อยากทราบเช่นกันครับท่านใดมีข้อมูลลองเอามาแบ่งกันกันดูครับ

 

สรุปว่าสมเด็จท่านอยู่ในช่วงรัชสมัยใดครับอยากรู้

 

สมเด็จโตท่านมรณะภาพปี พ.ศ.2415 ตอนนั้น พระพุทธเจ้าหลวงมีพระชนมายุแค่ น่าจะประมาณ ไม่เกิน 20 พรรษา ยังไม่ได้เสด็จประพาสไปยุโรปเลยครับ ลองตรวจสอบอีกทีครับ

 

อันนี้แหละถูก สมัยนั้น ตุ๊กตาแบบนี้ หายาก ถือว่าเป็นงานศิลปะชั้นยอด

ถ้าเป็นสมัยนี้ มีกันเกลื่อนไปหมด ก็เป็นแค่ตุ๊กตา ที่นำไปตั้งไปประดับไว้

ก็เท่านั้นเอง ไม่ได้มีอะไรพิเศษหรอกครับ

 

ของจาก(อี-โรป"ยุโรป")เมื่องฝรั่ง ของแพงของหายาก เอามาตั้งโชว์เพื่อความสวยงามในการถ่ายภาพ เจ้าค่ะ

 

ในสมัยก่อน ของจากอี-โรปเป็นของหายาก อย่างเช่นอาเปิ้น-อางุ่นเครื่องแก้วต่างๆ คนสมัยก่อนถ้าได้ของแบบนี้มาจะนำมาอวดกัน ในพระบรมมหาราชวังสมัยก่อน ถ้านางข้าหลวงได้ของจากเมืองนอกมา หรือเสด็จทรงประทานให้ ก็จะเอามาอวดกัน เป็นที่โจดจั่นกันทั้งตำหนักได้หน้าได้ตากันไป (การถ่ายภาพสมเด็จโตในครั้งนี้จงใจ(จัดฉาก)ให้สวยงาม ทั้งสามเณรและอุบาสกและเครื่องต่างๆ ถูกจงใจจัดให้สวยงามตามความคิดของช่างภาพในสมัยนั้น การที่นำตุ๊กตาฝรั่งออกมาตั้งโชว์ก็ไม่ใช่ของแปลกอะไรค่ะ เพื่อความสวยงามเท่านั้นเองค่ะ)

 

สงสัยเป็นกุมารทอง...ยุคแรกแรกมั้ง 5555555555555555+

 

อย่าคิดมากค่ะ เห็นด้วยกับคุณแมวน้ำ9 อธิบายได้ถูกต้อง และอย่าลืมนะค่ะว่าสยามเราเริ่มติดต่อกับต่างชาติมาตั้งแต่สมัยอยุธยาแล้ว เพราะฉะนั้นการที่่พ่อค้าวานิชทั้งหลายจะนำของประเภทนี้มาถวายหรือกำนัลให้กับผู้หลักผู้ใหญ่ก็ไม่แปลก และถือว่าเป็นของดีมีราคา หายาก ส่วนเด็กที่ยืนถือพัดยศด้านหลังและเห็นเป็นภาพคนซ้อนกันนั้น ถ้ามองให้ดีๆ นั่นคือแนวของเส้นผมค่ะ ไม่มีอะไรน่าแปลก ทุกอย่างมีคำตอบอยู่ในตัวหมดแล้ว สู้เราปฎิบัติตามคำสอนของหลวงปู่โตท่านมิดีกว่าหรือค่ะ โดยเฉพาะแนวทางการปฎิบัติ

 

เท่าที่จำได้รูปนี้เป็นรูปที่สมเด็จโตท่านถ่ายที่บ้าน(งานทำบุญ)ของท่านเจ้าพระยาคนนึง แต่จำรายละเอียดไม่ค่อยได้เด๋วหาเจอในหนังสือจะมาลงให้ครับผมเคยอ่านผ่านๆอยู่

 

สมเด็จโตท่านมณะภาพเมื่อปี 2415 รัชกาลที่ 5 เสด็จขึ้นครองราชย์เมื่อ 2416 พระชนมต์ 15 พรรษา เสด็จประพาสยุโรปครั้งแรกเมื่อปี 2440 ครับ

เท่าที่จำได้และมีบันทึกไว้ รัชกาลที่ 5 ท่านทรงได้พระคาถาเสกหญ้าให้ม้าจากพระภาวนาโกศลเถระ หรือหลวงปู่เอี่ยม วัดหนัง เท่านั้นนะฮะ ที่ติดพระองค์ไปเพื่อปราบม้าพยศตามคำพยากรณ์ของหลวงปู่ พระสมเด็จที่ว่าเอาไปถวายพระเจ้าไกเซอร์อะไรนั่น ผมมองว่าเปนนิยายแต่งขึ้นเพ้อเจอในสมัยหลังมากกว่า เหลือที่จะรับได้ ผิดเพี้ยนทั้งเวลาและข้อเท็จจริง แต่ก็ยังเชื่อและลงประวัติส่วนนี้ผิดๆ เผยแพร่กันไปเรื่อย

คนโบราณท่านไม่พกพระเครื่องครับ ท่านพกแต่เครื่องราง พระเครื่องอย่างพระสมเด็จ ท่านสร้างไว้เพื่อบรรจุพระเจดีย์ตามความเชื่อแต่โบราณเท่านั้น ความนิยมพระเครื่องในสยามมีหลังรัชกาลพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 มากนัก ส่วนหนึ่งเพราะเจ้านายเริ่มนิยมสะสมของโบราณและพระพุทธรูปโบราณตามอย่างฝรั่งมากขึ้น

ส่วนเรื่องรูปและตุ๊กตาน่าจะเปนดังท่านอื่นว่ามาว่าคงของแปลกของมีค่าที่นำมาประดับสวยงาม ภาพนี้น่าจะถ่ายเมื่อราว 2407 หรือประมาณนั้นฮะ เพราะคงถ่ายเมื่อคราวได้รับสถาปนาเป็นที่ สมเด็จพระพุฒาจารย์

ผมเชื่ออย่างหนึ่งว่า ที่เจ้าพระคุณสมเด็จท่านเป็นที่เคารพนับถืออย่างมากจากกคนรุ่นก่อน เหตุมิใช่เพราะพระสมเด็จของท่านหรอก เพราะมาทีหลัง แต่น่าจะมาจากคุณวิเศษและสติปัญญาในองค์ท่าน ที่กล้าสอน กล้าชี้นำ แนวทางที่ถูกต้องต่อพระมหากษัตริย์และเจ้านาย ผู้ใหญ่ ขุนนาง และการวางตัวได้เสมอต้นเสมอปลาย ไม่เลือกชั้นวรรณะของท่านมากกว่านะฮะ

อยากให้มองและศึกษาจากหลายๆ มุม มากกว่าอิทธิปฏิหารย์